ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SS501] At what point shall we begin (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : chapter6:hold the rabbit

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 51


    พี่!ทำอะไรอ่ะ...เหม็นไหม้ไปถึงข้างนอกเลย!” 

     

    คนได้ชื่อว่าเป็นน้องยอมเสียเวลาแต่งสวนสวยเข้ามาเอ็ดผู้เป็นพี่

    หรือต้นตอที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นไหม้โชยไปไกล จนคุณป้าข้างบ้างตาลีตาลานมาตะโกนถาม

     

    อย่างน้อยคิบอมเองก็รู้สึกดีเพราะสิ่งที่เห็นเป็นเพียงขนมปังปิ้งไหม้เกรียม2แถว...ดีตรงที่ซื้อมา3!

    ใครจะไปคิดว่าผ่านมา2ชม.พี่ชายของเขาจะมีความสามารถทำขนมปังนิโกรออกมาได้ดำเมี่ยมทุกแผ่น

     

    พี่ก็ทำตามในคู่มือนะ..แต่มันไม่สำเร็จนี่T^T”  คนถูกตำหนิตอบเสียงอ่อย

    ใช้นิ้วเขี่ยผลงานตัวเองอย่างเสียดายทรัพยากรขนมปัง

     

    นัยน์ตาคมหวานมองสภาพพี่ชายในชุดกันเปื้อนสีชมพูคละขี้เถ้ากับผลงานชิ้นเอกแล้วทอดถอนใจ

    คราวหน้าคราวหลังเขาจะไม่ให้พี่แตะงานครัวอีกเลย...คิบอมคนนี้ขอสาบาน!

     

    พี่ไปนั่งเฉยๆเหอะเดี๋ยวผมจัดการเอง..ให้ตายสิ!” 
    พูดพลางคว้าไม้กวาดและที่ตักผงจัดการกับเศษขนมปังที่เลอะตามพื้นห้องทุกซอกมุม  
    เมื่อเห็นว่าฮยองจุนยังแก้ๆกังอยู่หน้าประตู มือขาวจึงผลักกึ่งไล่พี่ชายพร้อมคว้าถุงขนมบนตู้กับข้าวยัดใส่มือไปด้วย

     

    ไปกินรองท้องก่อนแล้วกัน..ระหว่างนี้ไม่ต้องเข้ามาป้วนเปี้ยนนะ

    อาญาน้องชายที่เคารพสกัดดาวรุ่งเสียทุกอย่าง จนคนเป็นพี่คอตกรับถุงขนมไว้ในมือแล้วทำตามอย่างว่าง่าย

     

     

    ร่างบางพาตัวเองไปยังโซฟามุมโปรด  เปิดเคเบิ้ลทีวีในช่องเดิมๆ 

    ชินเสียแล้วกับการแต่ฟังเสียงแล้วปล่อยใจตัวเองให้ล่องลอยออกไป

     

     

    ..เขาก็แค่อยากช่วย...

    แต่ดูเหมือนการทำครัวจะเป็นหนึ่งในหลายๆเรื่องที่ไม่ถูกโรคกับคิมฮยองจุนเอาเสียเลย

     

    บางทีเขาควรจะหางานทำ?

    แต่สาขาอาชีพที่จบออกมามันจะทำอะไรได้นี่สิ

     

     

    กินข้าวได้แล้วพี่  เสียงเจื้อยแจ้วอารมณ์ดีของคนเป็นน้องหลังปั้นแต่งแซนด์วิชทูน่ากับซุปมันฝรั่ง 

    โผล่หน้าออกมาเรียกคนกำลังใช้ความคิดให้ออกจากภวังค์

     


    ฮยองจุนเข้าโต๊ะรับประทานอาหารที่คิบอมเตรียมทุกอย่างไว้พรั่งพร้อมแม้กระทั่งนมและน้ำผลไม้

     


    ทั้งๆที่เขาเป็นลูกคนโต

     

    ...กลับต้องอาศัยน้องอย่างนั้นหรือ?

     

     

    คิบอม...

     

    หือ?”

     

    พี่ว่าจะไปหางานทำเราคิดว่าไงอ่ะ

     

    พรวดดดดดดด น้ำเปล่าที่กำลังกระดกแก้ฝืดคอถูกพ่นออกมาอย่างเสียจริต

    นัยน์ตาสีเข้มกว่าผู้เป็นพี่ถลนมองราวกับความคิดนั่นคือหายนะ

     

    ทำไมต้องตกใจด้วยอ่ะ- 3-“

     

    ก็...แค่กๆมือเรียวระดมทุบอกตัวเองก่อนจะสำลักไอตาย 

    คิดยังไงถึงจะทำล่ะ..ปกติอยู่เฉยๆก็ดีอยู่แล้ว  พ่อกับแม่ก็ให้ตังค์ใช้อยู่นี่

     

     

    ก็พี่ไม่อยากเป็นภาระนี่นา พี่20แล้วนะคิบอม

     

     

    ใช่พี่อายุ20แล้ว  แต่ยังใช้เครื่องปิ้งขนมปังไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ...

    วางใจเหอะน่าต่อให้พี่แก่ไปคิบอมคนนี้จะหาเลี้ยงเอง

     

    หันไปทำสายตาจริงๆจัง ทว่าแอบกังวลอยู่ลึกๆ...ก็พี่ชายของเขาน่ะเหมือนคนปกติซะที่ไหน

     

    ...คิดจะหางานทำ...

    กรรมของคนจ้างแท้ๆ...

     

    เชอะ!แค่ปิ้งขนมปังไม่เป็น  ไม่ได้แปลว่าพี่ทำอะไรไม่เป็นนะ

     

    งั้นพี่บอกผมได้มั้ยล่ะว่าพี่จะไปสมัครงานที่ไหนกับใคร

     

    ม..ม..มะ..ไม่รู้..”

     

    อืมงั้นเราจะคุยกันเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อพี่ตอบคำถามผมได้แล้ว...ตอนนี้พี่ก็กินเข้าไปซะ 
    ก่อนผมจะโทรไปยุพ่อกับแม่ให้ส่งพี่กลับไปเรียนเอาใบประกาศที่อเมริกาอีกสัก3-4ปี

     

    ใจร้ายT0T

     

    ไม่ร้ายผมก็ได้อดตายเพราะพี่น่ะสิ..วันนี้มีถ่ายโฆษณาผมต้องรีบนะ!”

     

     

    คำว่ารีบหมายถึง...ก่อนนายแบบเนื้อหอมหน้าสวยคนนี้จะออกไปทำงาน

    จะต้องตรวจเช็คดูแลความเรียบร้อยของบ้าน  พี่ชายของเขาควรจะรีบกินให้อิ่มๆเขาจะได้เก็บล้างสักที 

    แม้การล้างจานจะไม่ใช่สิ่งที่เขาพิสมัยอย่างน้อยก็เห็นแก่จานชามไปสวยของพ่อที่อิมพอร์ตมาจากซีกโลกตะวันตกเกือบทั้งตู้

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

     

     

    โห..คนเยอะจังเลยอ่ะ  เจ้าของเสียงกลอกนัยน์ตากลมโตไปมรอบๆราวกับเด็กน้อยได้เข้าไปผจญภัยในสวนสนุก  
    แต่คนฟังกลับมีสีหน้าเรียเฉยพยายามเก็บอารมณ์มาตลอดระยะเวลาการถูกแต่งหน้าและเซทหัว

     

    ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือผิดที่พาตัวปัญหามาด้วย

     แต่ทำไงได้แค่เขาเผลอไปอาบน้ำไม่นานพี่ชายคนเก่งก็หาเรื่องทำลายสวนสวยที่เขาเพิ่งจัดใหม่เมื่อเช้า
    จนกลายเป็นป่าดงดิบขนาดย่อมอย่างไร้ศิลปะเป็นที่สุด

     

     

    สู้เอามาด้วยอีกคน...

     

    อย่างน้อยก็ตัดปัญหาบ้านรก ขโมยขึ้นบ้าน ไฟฟ้าลัดวงจร อัคคีภัยและอื่นๆได้มากโข

    ถึงกระนั้นพี่ชายเจ้าปัญหาก็เดินไปเดินมาให้เขาหัวหมุนแถมยังคอยกวนใจด้วยประโยคคำถามต่างๆนาๆเช่น

     

    ว้าวววว ...คิบอมๆ  ที่ชุดของนายหมดเลยหรอ???

     

    คิบอม..ห้องขาวๆแบบนี้..พอในโฆษณาเค้าจะตัดฉากมาใส่ใช่มั้ย?

     

    หรือประโยคบอกเล่า

     

    ทำไงดีอ่ะคิบอม..พี่ทำแจกันในฉากแตก

     

    คิบอม..พี่เผลอเหยีบดสายไฟมันเลยติดๆดับๆ........แต่กระพริบไปหนึ่งดวงก็เก๋ดีเนอะ

     

    อ่า...บัตรผ่านเข้ามาในเขต..พี่ลืมไปแล้วง่ะ..ว่าวางไว้ที่ไหน

     

     

    คิบอม

     

    หยุดนะ!”

    ร่างบางตวาดแหวพยามข่มตาลงสะกดความหงุดหงิด ...ไม่ว่าจะวีรกรรมอะไร

    เขาก็จะไม่ทนฟังอีกแล้ว!!

     

    พี่ไม่ต้องไปไหนแล้วมานั่งข้างผมเดี๋ยวนี้เลย!”

     

    ขอบคุณสำหรับคำเชิญนะ... ว่าแต่เสียงพี่เขาไม่ได้ทุ้มต่ำอย่างนี้นี่?

     

    น่ารักอย่างนี้ต้องได้รางวัล..จุ๊บ!”  ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสอุ่นจรดที่ข้างแก้ม...

     

     

    จะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว...

     

    เปลือกตาบางที่ปิดสนิทเมื่อครู่ลืมขึ้นมาไม่ทันเห็นคนที่เขาคิดว่าเป็นพี่ชาย 

    ร้ายยิ่งกว่าคือเจ้าของริมฝีปากได้รูปผู้ขโมยหอมแก้มไปหมาดๆ

    คือคนที่เขาไม่ขอเห็นหน้าเป็นครั้งที่สองในชีวิต...

     

    ปาร์ค-จอง-มิน! 

     

    XxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxX

     

     

    ฮยองจุนมาเดินเล่นในตัวศูนย์การค้าแล้วกันนะจ๊ะ..อยู่รอคิบอมคงจะเบื่อสินะ^^””

     สต๊าฟสาวประเภทสองพูดด้วยรอยยิ้มทั้งถอนใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าหงึกหงักอย่างรับรู้ 

    พามาไว้ที่นี่คงดีกว่าให้ทำลายทรัพย์สินกองถ่ายเยอะ

     

     

    ที่นี่มันห้างSS Mallนี่..แสดงว่ากองถ่ายตะกี๊ตั้งอยู่ในห้างหรอฮะ

     

    อ่า..ก็เป็นส่วนออฟฟิสของในห้างนี่แหละจ้ะ..

    ก่อนที่จะได้แนะนำอะไรต่อทางต้นสายก็วอเรียกตัวมาเสียก่อนดูท่าจะเป็นเรื่องไม่มงคลเสียด้วยสิ

     

    เอ่อ..เดินๆไปนะพอคิบอมถ่ายโฆษณาเสร็จแล้วจะส่งคนมารับ

     

    เดี๋ยวฮะ!..” แต่สต๊าฟคนนั้นก็วิ่งหายไปกับสายลมซะแล้ว 

    แล้วจะมารับผมที่ไหนล่ะ... คำพูดที่เจ้าของดวงหน้าตุ๊กตาอ้อมแอ้มอยู่คนเดียว

     

    ...นี่เขาถูกทิ้งชัดๆ!!

     

    นัยน์ตากลมโตเหลียวซ้ายแลขวา ทัศนียภาพการตกแต่งแบบนี้ถึงเคยมากับเขาคนนั้นครั้งหนึ่ง

    ก็ใช่ว่าเขาจะจำทางได้นี่นา ห้างก็ใหญ่ขนาดนี้ พลันความคิดก็จบลงด้วยการกดลิฟท์แก้วลงไปยังลานอเนกประสงค์ด้านล่าง...

     

    ระหว่างที่ลิฟต์ใสกำลังเคลื่อนลงช้าๆนัยน์ตาสวยพลันสบเข้ากับกองทัพชายในชุดสูทที่คุ้นตา

    ดวงตากวาดเลื่อนไปมาอย่างระทึกจนกระทั่งพบร่างสูงในเสื้อฮูทไร้แขนสีดำกับกางเกงยีนสีเข้ม

    แต่ความคิดที่จะเข้าไปทักทายกลับต้องหยุดลงด้วยสาวน้อยที่เดินควงแขนกันมา

     

     

    พี่คะ..ฉันชักเมื่อยแล้วสิ..ไปหาอะไรทานกันก่อนดีมั้ยคะ?  แขนเพรียวที่คล้องอยู่กับแขนแกร่งพูดขึ้น

    เมื่อเห็นว่าคนข้างกายไม่มีที่ท่าวะจะหยุดเดินนับแต่เข้าห้างมาเมื่อชั่วโมงก่อน 

    ด้วยไม่ใช่วิสัยของเจ้าหล่อนสักเท่าไรที่จะใช้เรียวขาคู่นี้เดินไปมาเกินหนึ่งชั่วโมง

     

    ผมว่าจะตรวจโซนของเล่นเด็กทางนู้นอีกหน่อย..

    แต่ถ้าคุณเมื่อยผมจะทิ้งคนไว้จำนวนหนึ่งแล้วเราค่อยมาเจอกันอีกที..

     

    ไม่เป็นไรค่ะ..ถ้าพี่ฮยอนจุงจะตรวจงาน..ฉันว่าของเล่นเกี่ยวกับเด็กๆก็...น่าสนใจดี

    หล่อนฝืนยิ้มแห้งเอาใจคุณชายคิมเข้าไว้ก่อน  

     

    ชินฮเยสนใจของพวกนี้ด้วยหรอครับ?

    ชายหนุ่มยิ้มรับบางๆ...ดูจะพอใจไม่น้อยกับคำตอบนี้

     

     

    ค่ะ..ฉันชอบเด็กๆน่ะค่ะ..ดูสดใสน่ารักดีและทางที่จะทำคะแนนให้ดีที่สุดคงไม่พ้น

    ภาพพจน์ของสาวน้อยใสซื่อ จิตใจโอบอ้อมอารี 

     

     

    แต่เห็นพี่แต่งตัวอย่างนี้ตอนแรกนึกว่ามาเดินเที่ยวซะอีกค่ะ

     

     

    ผมมาทำงานครับ...แค่ไม่เป็นทางการก็เท่านั้นน้ำเสียงทุ้มแหบเสน่ห์ตอบเรียบๆ

    ไม่แสดงอารมณ์ใดๆเช่นเคย เป็นผลให้เจ้าหล่อนเลิกล้มความคิดจะชวนคุยต่อ 

     

     

     

     

    การพาสาวสวยนามลีชินฮเยมาทำงานด้วยในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาร้องขอ  
    ทว่าทางบ้านของอีกฝ่ายแทบใส่พานมาส่งถึงบ้านหากทิ้งไว้ซะที่นั่นก็จะทำให้เกิดข้อบาดหมางระหว่าง2เครือบริษัทใหญ่ได้  
    รู้อยู่ว่าท่านประธานลีหวังจะดองตระกูลคิมด้วยลูกสาวคนเล็ก  แต่หนทางปฏิเสธแบบละมุนละม่อมจำต้องค่อยเป็นค่อยไป

     

     

    ราวกับเวลาเดินไปตามวงล้อของมัน

    สองหนุ่มสาวเดินตัดผ่านมายังลิฟต์แก้วตัวกลางเพื่อส่งผู้โดยสารคนสุดท้ายลงมาพอดี

     

     

    คนในลิฟต์จึงพยายามเบี่ยงตัวให้เร็วที่สุด  แต่ไม่พ้นถูกผู้โดยสารขาขึ้นเบียดกระเด็นออกมายังทิศทางตรงกันข้าม

    แรงส่งทำให้ร่างบางเซปะทะร่างสูงเข้าให้

     

     

    ขอโทษครับ เสียงใสพูดอ้อมแอ้มก้มหน้าก้มตาจะเดินจากไป.....ฮยองจุนรู้ตัวดีว่าเมื่อครู่เค้าพุ่งชนใคร

     

    เดี๋ยว..  ทว่ามือหน้ากลับยึดข้อมือนั้นไว้ 

    เจอกันทั้งทีแต่ไม่คิดจะทัก...ไม่ใจดำไปหน่อยหรือไง?

     

    ขอโทษฮะ
    ฮยอนจุงไม่แปลกใจเลยสักนิดเมื่อคำตอบที่ได้มาคือประโยคเก่งของร่างบาง

     

    พี่ไม่ได้โกรธเราสักหน่อยเลิกขอโทษได้แล้ว

    ..มันคงจะดีกว่านี้มากถ้าเปลี่ยนจากขอโทษเป็นสวัสดี...

     

     

    ใครหรอคะพี่ฮยอนจุงเสียงหวานอย่างมีจริตจะก้านพูดพลางเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่

    เหตุการณ์ฝูงชนบุกจะขึ้นลิฟต์พลอยทำให้เจ้าหล่อนกระเด็นกระดอนไปอีกทาง

    นึกแปลกใจว่าทำไมเจ้าชายของหล่อนถึงไม่มาช่วยพยุงอย่างที่ควรจะเป็น  
    พอเดินมาอีกทีก็พบชายที่หมายปองกำลังจับมือถือแขนกับคนอื่น 

     

    และถึงแม้จะเป็นผู้ชาย...แต่ก็มีดวงหน้าหวานราวกับตุ๊กตา

     

     

    นี่ฮยองจุน...รุ่นน้องของผมน่ะ ชายหนุ่มหันไปตอบ  ไม่มีทีท่าจะปล่อยข้อมือบางนั้นไปง่ายๆ

    ยังพูดกันไม่รู้เรื่องแต่แรงสลัดน้อยๆนั้นก็พอเดาออกว่าฮยองจุนอาจเผ่นแนบไปตอนไหนก็ได้

     

    ดูสนิทสนมกันจัง..แต่ไม่เห็นพี่พูดถึงเลยนี่คะ

    ชินฮเยจงใจปรายตามองอีกฝ่ายอย่างไมค่อยจะถูกมารยาทนนัก

    คำพูดจงใจเสียดแทงคนฟังที่กำลังหาทางแกะมือใหญ่ออก

     

    ...ไม่พูดถึง....
    ..แล้วยังไงล่ะฮยองจุน..เขาจะพูดถึงนายทำไม?..

     

    ผมก็ไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ชินฮเยฟังอยู่แล้วนี่ครับ

     


    ฉึก
    !

    กลายเป็นเจ้าหล่อนเองที่ถูกฉีกหน้า  แม้คนตอบจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม

     

     

    คุณจางฝากดูแลคุณหนูชินฮเยด้วย..ผมมีเรื่องต้องทำนิดหน่อย  เหมือนการตบหน้าซ้ำรอยเดิม

    เมื่อคุณหนูแห่งตระกูลลีผู้มีแนวโน้มว่าจะได้เข้าพิธีหมั้นกับคุณชายคนโตของบ้านตระกูลคิมถูกทิ้งไว้กลับกลุ่มบอดี้การ์ดชุดดำ

     

     

     

     

    แล้วก็ไม่ต้องส่งใครตามมาด้วย  น้ำเสียงทุ้มเหมือนขู่กลายๆเมื่อบอดี้การ์ด3-4คนทำถ้าจะตามมา 

    ร่างสูงคว้าข้อแขนคนที่เงียบผิดปกติหายไปกับฝูงชน ทิ้งให้คุณหนูลียืนหน้าชาสะกดอารมณ์อย่างสุดกลั้น


    ไม่ว่าหนุ่มน้อยเมื่อครู่จะเป็นใคร...

    ต่อแต่นี้จะถือเป็นศัตรูของลีชินฮเย...

    โทษฐานแย่งความสนใจทั้งหมดของคิมฮยอนจุงไปจากเธอ!

     

     

     

     

    เจ็บข้อมือรึปล่าว?ฮยอนจุงถามเสียงนุ่มเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเอาแต่ก้มมองรอยแดงที่ข้อมมือตัวเองเงียบๆ

    ...เขารู้ว่าตัวเองแรงเยอะ..และพยายามควบคุมเสมอมา..

     

    ฮยองจุนส่ายหน้าวืด..แต่ไม่ยอมปริปาก

     

    ไม่เจ็บแล้วทำไมไม่พูดล่ะ...โกรธหรอ?

     

    นั่นสินะ...เขาโกรธงั้นหรอ?...แล้วพี่ฮยอนจุงทำอะไรให้เขากันล่ะ?

     

    ไม่เหมือนนายเลยนะ

     

    ....

     

    ไม่ยอมพูดจริงๆน่ะหรอ ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างมีแผน



    ไม่เจอกันตั้ง2วันแสดงว่าไม่ยากเห็นหน้ากันล่ะสิถึงไม่ทัก..งั้นก็ไม่กวนแล้ว

    ฮยอนจุงพูดจาตัดพ้อไม่สมกับตัวแล้วกระเถิบตัวห่างไปหนึ่งช่วงแขน

     

    การกระทำอันอยู่เหนือความคาดหมายทำเอาคนไม่ยอมพูดหน้าซีด ตาละห้อยอย่างสำนึกผิด  

    ทั้งๆที่พี่ฮยอนจุงเป็นฝ่ายทักก่อนแท้ๆ..เขาเองไม่ใช่หรอที่เสียมารยาทด้วยการเดินหนี?

     

    ...ใครว่าเขาไม่อยากเห็นหน้ากันล่ะ>///<... 

     

     

    แต่เมื่อครู่เขารู้สึกเป็นส่วนเกินต่างหาก!

     

     

    พี่ฮยอนจุง..   ฮยองจุนยอมเปิดปากเรียกเสียงอ่อย 

    คนได้ทีเลยกอดอกแกล้งมองไปอีกทาง

     

    คนถูกแกล้งโดยไม่รู้ตัวก็ช่างซื่อกระเถิบตัวตามไป มือขาวดึงชายเสื้ออีกฝ่ายยิกๆ

    ผมยอมพูดแล้ว..พี่ฮะ..

     

     

    พี่ไม่ได้บังคับให้พูดนะ- - คุณชายคิมตีหน้าตายแม้อยากจะระเบิดหัวเราะให้ลั่นห้างก็ตาม

     

    อื้อ...ผมพูดเอง..ไม่มีใครบังคับรับประกันคำพูดของตัวเองอย่างขึงขัง

     

    งั้นถามอะไรก็ต้องตอบนะจอมเจ้าเล่ห์จึงแสยะยิ้มชนิดที่ว่าได้คืบแล้วเอาศอก

    ส่วนอีกฝ่ายก็กระโจนลงไปในหลุมพรางด้วยคำพูดที่ผ่านการกลั่นกรองอย่างลวกๆ

     

    ฮะ...ทุกอย่างเลย

     

    งั้น....คิดถึงพี่ป่าว^0^” คำถามที่ว่าจึงถูกยิงมาอย่างเอากำไร

     

    “0////0”

     

    ว่าไง?  คนถามจงใจผสานดวงตาคมสีรัตติกาลเข้ากับนัยน์ตาสีอ่อนที่วูบไหวไปตามแรงกดดันของอีกฝ่าย

     

     

     

    ..เอาไงดีล่ะ?... เสียงร้องตะโกนในใจไม่ใช่เพื่อหาคำตอบ

     

     

    แต่กำลังตัดสินใจว่าจะตอบยังไง..

     

     

    “(0///0) (_  _) (>///<)”

     

    ลงเอยด้วยการผงกหัวหงึกๆทั้งทีใบหน้าแดงซ่าน  การกระทำที่สมองไม่อาจบงการให้ปฏิเสธ

    หัวใจเจ้ากรรมกำลังเต้นแรงไม่เป็นระส่ำ
     
    ...กลัวเหลือเกินว่าเจ้าของดวงหน้ารูปสลักจะได้ยินเสียงที่น่าอายนี้ 

     

    ต่างจากอีกคนที่ฉีกยิ้มกว้างอย่างพอใจในคำตอบ



    ก็แค่เนี้ย^.^” 

     

     

    ..ไม่มีคำว่าละอายใจเวลาแกล้งชาวบ้านสะกดอยู่ในหัว

     

    ...เพียงคราวนี้ที่พิเศษกว่าครั้งไหน 

     

    ถ้านี่เรียกว่าการแกล้ง..

    ...ก็ถือว่าเป็นการแกล้งจากคำสั่งของสิ่งสำคัญที่หน้าอกซ้ายก็แล้วกัน

     

     

    พูดจบก็ต้องรีบลุกตามร่างบางก่อนจะหนีหายไปไหน  นิ้วยาวทั้งห้าแทรกตัวลงตามง่ามนิ้วเรียวของอีกฝ่าย

    กอบกุมไว้แน่นจนฮยองจุนรู้สึกถึงความอุ่นจากอีกฝ่ามือสู่ฝ่ามือของตน

    ดวงตาใสแจ๋วหันไปมองฮยอนจุงอย่างไม่เต็มตา อันเป็นผลกระทบจากคำถามเมื่อครู่

     

    พี่ก็คิดถึงกระต่ายน้อย จะจับเอาไว้อย่างนี้ไม่ให้หนีไปไหนหรอก

    คนตัวโตเฉลยข้อกังขาประกาศอยู่โต้งๆถึงเหตุผลของการกระทำ


    ...แล้วอย่างนี้กระต่ายน้อยจะหนีไปไหนพ้น...

    ~~~~~~up 4  reader~~~~~~ thanks for read & comment~~~~~~~~~

    เราอัพถี่ไปรึป่าวเนี่ย?...จะยังไงก็อยากอัพน่ะค่ะเพราะตอนนี้ว่างอยู่
    เหมือนเดิมนะคะ..อ่านแล้วเม้นด้วยจะถือเป็นกำลังใจที่ดีมากเลยค่ะ
    สาธุ!คนที่ซุ่มอยู่แสดงตนเองมาด้วยเถ๊อะ...มีข้อเสนอคำแนะนำอะไรจะได้คุยกันเน้..ถ้ามีโอกาสพรุ่งนี้จะเอาตอนที่7มาส่งค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×