คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : chapter5:Time to say good bye [100%]
“พี่ฮะ”
เสียงจากร่างโปร่งที่ครอบครองพื้นที่เตียงทั้งหมดในขณะนี้เรียกให้ร่างสูงที่นั่งลองแผ่นเสียงอยู่หันไปมอง
ริมฝีปากสีสดแย้มออกน้อยๆเมื่อเห็นเจ้ากระต่ายน้อยกอดหมอนใบกลมหันมามองตาแป๋ว
“ว่าไง?”
“น้องผมจะกลับพรุ่งนี้แล้ว..” แค่ประโยคสั้นๆเกือบทำให้มือใหญ่ปล่อยแผ่นเสียงให้ร่วงหลุดมือ
หันไปสบกับนัยน์ตาของร่างบางที่ไม่มีแววล้อเล่น มือใหญ่เย็นขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ...
ทว่าปรับอารมณ์ให้คงเส้นตามปกติได้ในเสี้ยวนาที
“อืม” ร่างสูงตอบเสียงเรียบ..แม้ทุกอย่างจะรวดเร็วกว่าที่เขาคิดก็เถอะ
ตาคมปราดมองถุงเสื้อผ้าใหม่เอี่ยมที่กองเป็นชั้นด้วยสายตาที่เรียบเฉยพอกัน
“..”
“พรุ่งนี้จะให้คนพานายไปรับน้องที่สนามบินแล้วกัน” พูดพลางเก็บแผ่นเสียงลงตลับทีละแผ่นอย่างบรรจง
“..” วงแขนขาวกระชับหมอนใบกลมให้แน่นขึ้นแล้วกดพวงแก้มขาวลงไป
...ไม่มีคำพูดใดๆหลังจากนั้น...
กระทั่งยามราตรีเคลื่อนตัวให้เจ้าของห้องและผู้อาศัยเข้านอน
เสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสงบของร่างสูงที่หลับไปแล้วกลับทำให้ร่างบางเป็นฝ่ายข่มตาไม่ลง
ดวงตาสีอ่อนยังเปล่งประกายอยู่ในความมืด ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างชั่งใจ ก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจขยับตัวเข้าใกล้คนข้างๆ
ดวงหน้าหวานที่เคลื่อนชิดติดแผ่นหลังกว้างรู้สึกถึงไออุ่นชวนให้เคลิ้มหลับก่อนจมลงสู่นิทรา
ดวงตาสีดำรัตติกาลที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความมืดเปิดขึ้นมาอีกครั้งหลังปิดสนิท
เพียงเพื่อซ่อนสายตาตัวเองจากใครบางคน
สัมผัสอุ่นที่แผ่นหลังชวนให้นึกถึงบทสนทนาก่อนเข้านอน เสียงเจื้อยแจ้ว ดวงตากลมโต ริมฝีปากบาง แก้มสีเรื่อเหมือนตุ๊กตา กระต่ายน้อยซุ่มซ่ามที่เกือบถูกรถของเขาชนที่สนามบิน
กำลังจะกลับบ้านแล้วสินะ...........
รู้สึกเหมือนทุกอย่างเร็วเกินไป
เร็ว........
จนอยากหยุดเวลาไว้เสียตรงนี้....
.............
...นายเป็นอะไรกันนะคิมฮยอนจุง!!????
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“อ๋อ..พาเพื่อนมารับน้องน่ะครับ”
“ขอบคุณนะครับที่เป็นธุระเช็คเที่ยวบินให้...สวยแล้วยังน้ำใจงามอีกนะครับเนี่ย”
“หน้าเด็กจังเลย...ตอนแรกผมก็นึกว่านักศึกษาฝึกงาน”
บทสนทนาหยอดคำหวานจากหนุ่มเจ้าคารมส่งให้พนักงานสาวพร้อมรอยยิ้มการค้าเที่ยวแจกจ่ายไปทั่ว
ฮยองจุนที่อาศัยเขามาก็ได้แต่มองตาปริบๆ
ปาร์คจองมิน..
หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งคนนี้ก็ขึ้นชื่อลือชามาแต่สมัยเรียนแล้ว
ไม่คิดว่าเจออีกทีก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม
“ฮยองจุน...นายรอตรงนี้คนเดียวได้ใช่มั้ย?”
“อ่า..”
“ขอบใจฉันรู้ว่านายไม่เรื่องมาก...ขอตัวไปซื้อขนมตรงโน้นหน่อยนะ” ร่าสูงสรุปเอาดื้อๆทิ้งคนที่พี่ชายฝากให้ดูแลไปหน้าตาเฉยก่อนที่เจ้ากระต่ายน้อยจะได้อ้าปากพูดเสียอีก
“ขอโทษนะครับ มาคนเดียวหรอครับ” ทว่าจู่ๆก็มีคนมาทักเขาเสียอย่างนั้น
นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเองเป็นเชิงว่าหมายถึงเขาหรือ? ซึ่งชายแปลกหน้าเหยียดยิ้มอย่างไม่ค่อยหน้าไว้ใจเป็นคำตอบ
“ผมมากับเพื่อน....” สัญชาติญาณบางอย่างบอกให้ร่างโปร่งเปลี่ยนตำแหน่งยืนให้ห่างจากชายคนนี้
“เพื่อนหรอ?...ไหนละครับเพื่อนคุณ” มือสากคว้าแขนเรียวไว้ได้ทันควันไวพอๆกับที่สองเท้าจะก้าวหนี
“ถ้ามาคนเดียวให้ผมอยู่เป็นเพื่อน...”
“จะทำอะไร!?” ท่ามกลางความตระหนกน้ำเสียงคุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างตัว
ส่งผลให้มือที่คว้าแขนบางอยู่ปล่อยออกแทบจะในทันที
“พี่ฮยอนจุง?” นัยน์ตาสีชาหันไปมองคนที่ไม่หน้าจะอยู่ที่สนามบินในเวลานี้ด้วยความสงสัย
...ไหนว่าจะเข้าไปดูบริษัทไง?...
แต่ความสงสัยที่สองก็บังเกิดเมื่อร่างสูงยกแขนขึ้นโอบไหล่บาง
นัยน์ตากลมโตลอบมองดวงตาสีรัตติกาลใต้กรอบแว่นสีเทาแฝงความเคืองอยู่หน่อยๆด้วยความรู้สึกประหลาดที่ก่อขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“เอ่อเห็นเพื่อนคุณอยู่คนเดียวผมเลย...”
“ไม่ใช่ว่ามีเจตนาโสโครกหรอกนะ?”
คำพูดตรงไปตรงมาของคุณชายใหญ่แห่งตระกูลคิมเจือด้วยกระแสเสียงชวนขนลุกไปถึงกระดูกสันหลัง
เท่านั้นคนแหยมผิดที่ผิดเวลาจึงโค้งเข้าให้วงโต รีบไสหัวตัวเองไปโดยอีกฝ่ายไม่ต้องออกปากไล่
เพราะขายาวๆของฮยอนจุงดูจะกระตือรือร้นตั้งท่าจะได้เตะก้านคอคนเหลือเกิน
..จะเล่นงานให้ยับ!..
ความคิดเดียวที่ล่องลอยอยู่ในหัวของคนมีแผน
ในเมื่อหมอนั่นยังแขวนป้ายของบริษัทอยู่ทนโท่ทั้งตำแหน่งและชื่อจริงอยู่ในหัวของฮยอนจุงทั้งหมด
ช่างซวยแท้ๆที่ตระกูลคิมเป็นหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทที่มันทำงานอยู่ แทนที่จะไล่ออกให้รกสังคม
สู้ปั่นหัวเรื่องหน้าที่การงานให้ตำแหน่งไม่เลื่อนเงินเดือนลดคงเป็นวิธีที่สร้างสรรค์กว่าเยอะ
“น่ากลัว...”
“หือ?”หลังจมกับความคิดตัวเองอยู่นาน จึงหันไปสนใจร่างบางที่รำพึงออกมา
“หมอนั่นน่ะหรอ...เอาน่าพี่ก็ไล่มันไปแล้วไง”
“เปล่า ....พี่ต่างหากล่ะที่น่ากลัว”
“พี่อ่ะนะ?” เจ้าของใบหน้ารูปสลักเอียงคอด้วยความงุนงง
“ผมเห็นรังสีอมหิตออกมาจากแววตาของพี่- -++”
กรรมเวร! ฮยอนจุงกลอกตาอย่างอนาถใจ
นี่เขาอุตส่าห์บึ่งรถจากบริษัทมาสนามบินทั้งๆที่เข้าไปไม่ถึง5นาทีเพื่อมาฟังกระต่ายน้อยบอกว่าเขาน่ากลัวหรือนี่?
เอาเถอะอย่างน้อยเจ้าเปี๊ยกนี่ก็ไม่โดนใครหิ้วไปซะก่อน
อย่างที่คิดจริงๆว่าน้องบ้ามันต้องพึ่งไม่ได้!
“แล้วนี่มาทำไมฮะ?”
ฉึก...คำถามที่คนถามโพล่งออกไปทั้งไม่คิด
ส่วนคนที่ต้องตอบได้แต่เกาหัวแก้เก้อ
“ก็...อ่า...ใช่แล้วล่ะ!พายไก่ที่สนามบินนี้อร่อยมาก...พี่แวะมากินประจำแหละ”
“อ้อ” ฮยองจุนพยักหน้ารับรู้
อดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจเบาๆ เชื่อสนิทใจในคำโกหกคำโตของรุ่นพี่สุดหล่อ
นัยน์ตาคมลอบมองอาการของร่างบางด้วยความกังวลในเหตุผลสิ้นคิดของตัวเอง
บุญคุ้มกะลาหัวแท้ๆที่ฮยองจุนเชื่อสนิท
...ใครจะไปกล้าบอกล่ะว่าไม่รู้เหมือนกัน
..ก็แค่อยากมา..
ดูโง่ตายชัก!
“พี่ฮะ..คือ..แขน”
“ทำไมหรอ?”
“หนักอ่า” พูดพลางนิ้วเรี้ยวสะกิดเบาๆที่ท่อนแขนบนบ่าของตัวเอง คนรู้ตัวรีบทิ้งมือลงข้างลำตัวทันที
“อ่ะลืม...โทษที”
“ไม่เป็นไรฮะ” พูดทั้งที่ไม่หันไปสบตาอย่างเคย แขนของฮยอนจุงจริงๆแล้วไม่ได้หนักอย่างที่เขาอ้างหรอก
รู้แต่ถ้าลำแขนที่โอบอยู่ละไป เสียงในใจเขาน่าจะสงบลงได้บ้าง อย่างน้อยก็เบาพอที่คนข้างตัวเขาจะไม่ได้ยิน
การกระทำนั้นทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบแม้ทั้งสองร่างยังคงยืนในตำแหน่งไม่ห่างกัน
หนึ่ง..อุ่นใจเพราะคนข้างๆ
กับอีกหนึ่ง..ที่คนข้างๆทำให้อุ่นใจ
ความรู้สึกบางอย่างกำลังรบกวนทั้งสองหัวใจด้วยตัวแปรเดียวกัน....
“ปาร์คจองมิน!” เสียงแหวลั่นสนามบิน เรียกสายตานับร้อยให้หันไปมอง
ฮยอนจุงส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าไม่ติดที่ร่างโปร่งสนอกสนใจบริเวณเกาหลีมุงนั้นนักหนา
เขาคงไม่เดินตามไปดูซะให้ยาก...
ไม่รถไฟชนกันก็เผลอไปคุยง๊องแง๊งกับคนมีเจ้าของแล้วแหงมๆ
ไม่ได้คิดว่าน้องตัวเองจะมีเรื่องเพราะความสร้างสรรค์สักเท่าไร
“โห..คิดถึงกันขนาดบินกลับมาเลยหรอ?”
ยิงคำถามยียวนใส่ก่อนโยกหลบกำปั้นขาวอย่างฉิวเฉียด
ร่างนั้นเซถลามาโดนร่างสูงที่ตามกระต่ายน้อยมาติดๆพอดิบพอดี
“มินคยู?” ร่างสูงพึมพำเบาๆ มือใหญ่ที่รับสองแขนนั้นไว้ ชะงักเล็กน้อยก่อนจงใจช่วยคู่กัดของน้องชายให้ตั้งหลักขึ้นมาใหม่ เจ้าของนัยน์ตาหงส์ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณ ในหัวมีแต่ความคิดจะอัดชายผิวสีน้ำผึ้งที่ยืนยิ้มเผล่อย่างหน้าหมั่นไส้ให้จมดิน
“รู้จักกันหรอฮะ”
“ซี๊จองมินมันน่ะ..เราไปทางอื่นกันดีกว่า..น้องนายมาจะได้ไม่คลาดกัน”
“แต่...”
“พี่จุน!” น้ำเสียงคล้ายคลึงทว่าอ่อนวัยกว่าเล็กน้อยดังขึ้นเบื้องหลัง
นัยน์ตากลมโต ผิวขาวแบบชาวยุโรปและเค้าโครงหน้าที่เต็มไปด้วยความละม้ายคล้ายคลึงกัน
จนร่างสูงสรุปได้ตั้งแต่แวบแรก
“มารับผมแต่พี่ไม่ได้เปิดโทรศัพท์หรือไง” ริมฝีปากสีแดงสดราวผลเชอร์รรี่สุกพ่นคำเอ็ดพี่ชายที่เพิ่งเจอหน้ากันอย่างหงุดหงิด และดูเหมือนเจ้ากระต่ายจะเป็นไปตามที่น้องชายสันนิษฐานเป๊ะ
มีเพียงรอยยิ้มแห้งๆส่งให้เจ้าของนัยน์ตาคาดโทษ
“ไม่ไหวเลยจริงๆ”
คนเป็นน้องส่ายหน้าอย่างระอาก่อนหันไปทางร่างสูงที่ยืนไม่ห่างกัน
ค้อมหลังลงอย่างสุภาพชวนให้เจ้าของนัยน์ตารัตติกาลอดชื่นชมในมารยาทของเด็กคนนี้ไม่ได้
“ขอบคุณรุ่นพี่ฮยอนจุงมากนะฮะที่ช่วยดูแลพี่ชายผม” ร่างสูงค้อมศีรษะเล็กน้อยให้ไม่เป็นพิธีการจนเกินไป
‘คงจะเป็นอดีตรุ่นน้องร่วมสถาบันอีกคนกระมัง?’
แต่กริยาท่าทางเนี๊ยบแบบคยูจง ถ้าหน้าตาไม่คล้ายกันขนาดนี้...
คงไม่เชื่อแน่ๆว่าหนุ่มน้อยคนนี้จะเป็นน้อยชายของเจ้ากระต่ายเอ๋อนี่เด็ดขาด
“ไม่เป็นไรหรอก...แล้วเวลาเรียกน่ะไม่ต้องใช้คำว่ารุ่นพี่ก็ได้” ฮยอนจุงตอบสบายๆแล้วสำรวจข้าวของในรถเข็น
“อืม..ยังไงเดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วกัน”
“เอ่อ..แต่ผมมากับเพื่อนนายแบบคนนึง..”
“ก็ให้เพื่อนนายไปด้วยเลยก็ได้..วันนี้ฉันไม่ติดงานอะไรหรอก”
ฮยองจุนชำเลืองมองคนข้างๆอย่างอดสงสัยไม่ได้ ...ก็ไหนว่ามาซื้อของกินยังไงล่ะ...
“คือ..”
“เอาน่าคิบอมพี่ฮยอนจุงเค้าออกจะใจดี..โอ๊ย!” เมื่อเห็นว่าร่างสูงออกปากว่าไม่มีธุระก็คงเป็นการดีที่จะไปส่งเขาและน้อง
แต่มือขาวของคนมารยาทมากกลับหยิกไหล่คนเป็นพี่เข้าให้
...ไม่รู้ว่าตอนที่เขาไม่อยู่จะไปรบกวนอะไรรุ่นพี่สุดหล่อคนนี้บ้าง?..
เป็นสิ่งที่คิบอมจะต้องซักไซร้ไล่เลียงให้ได้หลังกลับถึงบ้าน
ร่างสูงขยับยิ้มเมื่อเห็นพี่น้องดูโอ้ตุ๊กตาขยับปากไร้เสียงหาเรื่องกันแบบเด็กๆ
“แล้วเพื่อนนายล่ะอยู่ไหน?”
“อ่า...ตะกี๊ผมไปรอกระเป๋า..ไม่รู้เหมือนกันฮะว่าคุณมินคยูหายไปไหน..”
“ก็กำลังเด่นอยู่กลางวงนั่นน่ะ..ถ้านายหมายถึงโยมินคยูที่พี่รู้จัก”
พูดพลางยกนิ้วโป้งไปด้านหลังอย่างสังหรณ์ไม่ดี
“นั่นล่ะฮะใช่เลย!”
*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+
“นี่คนสวยรู้หรอกนะว่าจ้องฉันอยู่นะ- -++”
“ผมไม่ได้จ้องคุณ” กระแสเสียงเรียบพอๆกับดวงหน้าหวานที่เฉยเมินจนเกือบเย็นชา
ถ้าไม่ติดว่าคนที่นั่งด้านหน้าเป็นน้องชายไม่แท้ของพี่ฮยอนจุงเขาคงเอื้อมมือไปบีบคอหยุดลมหายใจ
เจ้าของเสียงกวนอารมณ์ให้กลับบ้านเก่าไปแล้ว
“แล้วรู้ได้ไงว่าฉันหมายถึงนาย” ใบหน้าเปื้อนยิ้มหันมองเบาะหลังผ่านกระจกรถด้านหน้าพลางหลิ่วตาอย่างเจ้าเล่ห์
“จองมิน..- -“ คุณชายใหญ่ของบ้านตระกูลคิมพูดเรียบๆ
“เรียกชื่อนี่ขอให้มีสาระนะพี่ชาย- -++” กลายเป็นโดนกัดเสียเอง
หนุ่มผิวแทนลูบมุมปากที่บวมช้ำของตัวเองแล้วเสมองไปทางอื่น
ยังไงซะคนที่ทำร้ายร่างกายน้องอย่างปราศจากความปรานีมันก็หน้าหาเรื่องนัก!
อากัปกริยาแบบเด็กๆทำให้หนุ่มหน้าสวยที่เบาะหลังเพิ่มความหมั่นไส้เป็นเท่าทวี
...ไม่บอกก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกว่าคนพรรค์นี้จะเป็นน้องชายของพี่ฮยอนจุง...-- --
ที่เขาว่าน้องคนเล็กมักมีปัญหามาก(ยกเว้นครอบครัวเขา)สินะ
“มินคยู”
“ครับพี่” ชายหนุ่มเจ้าของที่นั่งหลังคนขับลดมือลงจากขอบตาขวาช้าๆ อันเกิดจากฝีมือของฮยอนจุงอีกเช่นกัน
“เรื่องคราวนี้ขอให้จบๆกันไปได้ไหม”
“...” ร่างโปร่งนิ่งเงียบ จำไม่ได้ว่าความโกรธมันบันดาลให้เขาหาเรื่องจองมินกลางที่สาธารณะอย่างไรบ้าง
รู้สึกตัวอีกทีคนห้ามทัพก็หวดหมัดเข้าเต็มเบ้าตาของเขาและปากจองมิน
แม้ภายหลังเจ้าตัวก็มานั่งขอโทษขอโพยบอกว่าออมแรงแล้วก็ตามเถอะ
“หรือนายไม่พอใจที่โดนชก?”
จึ้ก! เหมือนย้ำรอยตำหนิบนใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลาอีกครั้ง
“ไม่ครับ...แต่ผม...ทำตามที่พี่ขอไม่ได้จริงๆ” มินคยูผู้หยิ่งผยองพูดเสียงอ่อย
ทั่วทั้งเกาหลี..หนึ่งในคนที่เขายอมสิโรราบคาบแก้วก็มีพี่ฮยอนจุงคนนี้นี่แหละ
ใครเล่าจะรู้ว่าคนๆนี้เคยเป็นรุ่นพี่ที่เขาชื่นชมในความเด็ดเดี่ยว ยอมหักไม่ยอมงอมาแต่สมัยเรียน
ก่อนที่โยมินคยูคนนี้จะลุกขึ้นมาเข้มแข็งถอดคราบเด็กหนุ่มที่สดใสเป็นเพลย์บอยตัวฉกาจจนติดแบล็กลิสทั่วราชอาณาจักร
...รวมทั้งตั้งป้อมเป็นปรปักษ์กับอดีตเพื่อนสนิทของตัวเอง
เล็บที่ไว้ยาวแต่พองามจิกลงบนฝ่ามือของตัวเอง การกลับมาเกาหลีครั้งนี้...จริงอยู่มีจุดประสงค์ที่เจ้าของใบหน้างามราวนางฟ้า
ไม่วายลายเจ้าชู้ก็เกือบออกเมื่อมาพบคนพี่ที่ดูสดใสน่ารัก
เพียงฮยองจุนไม่มากับรุ่นพี่ที่เคารพ เขาคงไม่ทนนั่งนิ่งข้างๆคนน่ารักโดยไม่ฉวยโอกาสแม้แต่น้อยแบบนี้
มินคยูพึงสำนึกไว้เสมอ..ว่าการยุ่งกับคนของคิมฮยอนจุง...สุ่มสี่สุ่มห้าไปรังแต่จะถึงชีวิต!
ไม่นานนักบีเอ็มคันงามก็จอดเทียบท่าส่งให้มินคยูเป็นผู้โดยสารรายแรกตีตั๋วกลับบ้าน
เรียกง่ายๆคงเป็นบริษัทในเครือครอบครัวเขาเสียมากกว่า
“ขอบคุณครับที่มาส่ง”
“โชคดีนะ” ฮยอนจุงตอบสั้นๆ อาจเป็นเพราะความสนใจทั้งหมดอยู่กับกระต่ายน้อยที่เบาะหลัง
แพขนตายาวเริ่มผสานสนิทลงไปบนเปลือกตาล่าง
คนที่ปกติจ้อเป็นวรรคเป็นเวรตั้งท่าตีตั๋วนอนเมื่อเบาะหลังมีที่กว้างขึ้น
อืม....เขาคงต้องปรับพนักเก้าอี้ขึ้นอีกหน่อย
“เดี๋ยวครับ...” มินคยูพูดก่อนกระจกรถจะเลื่อนขึ้นจนสุด
“ไว้ผมจะติดต่อไปนะครับคิบอม”
“ครับแล้วพบกัน” คิบอมยิ้มสวยอำลาเพื่อนร่วมเดินทางหลังทำหน้าปั้นปึ่งมานานสองนาน
“เฮอะ!” หนุ่มร่างสูงที่เบาะข้างคนขับจงใจพ่นเสียงขัดบทสนทนาแม้รู้ว่าเสียมารยาทสุดๆ
ครั้นคุณพี่ชายจะยกแข้งยกขาถีบน้องโทษฐานมารยาททรามข้ามเกียร์ออโต้ของรถบีเอ็มคันนี้มันคงกระไรอยู่
มินคยูและคิบอมจึงเพียงแค่โบกมือลา ทิ้งท้ายด้วยการส่งซิกแนลทำมือเป็นโทรศัพท์ตั้งท่าจะโทรหากันแทน
“ทำอะไรไม่เกรงใจเลยนะคนสวย” คนปากไวพ่นวาจาไม่รื่นหูเมื่อล้อรถเริ่มหมุนอีกครั้ง
“เลิกเรียกผมอย่างนั้น...แล้วก็กรุณามีมารยาทด้วย”
คิบอมตัดสินใจพูดออกไปหลังอดกลั้นด้วยความเกรงใจฮยอนจุงอยู่นาน
“ได้เลยคิมบอม...คนสวย” พูดพลางส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ จนร่างบางแลบลิ้นใส่อย่างเหลือจะทน
คนที่เฝ้ามองเหตุการณ์สับกับคุมพวงมาลัยเลยได้แต่ขำลึกคนเดียว
ปกติจองมินไม่เคยจีบใครด้วยอาการกวนส้นเท้าขนาดนี้ตั้งแต่มีป๊อบปี้เลิฟ
หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือ...
จองมินไม่เคยจีบใครตั้งแต่มีป๊อบปี้เลิฟเลยต่างหาก
แม้ดูเหมือนจะควงสาวไปทั่ว...
แต่คนเป็นพี่รู้ดีว่าเธอเหล่านั้นเป็นฝ่ายเข้าหาน้องชายของเขาเอง
ส่วนเรื่องที่เขาชอบเหน็บแนมมันบ่อยๆ..มันก็ตามประสาพี่แหย่น้องล่ะนะ
...ท่าทางรายนี้คงโดน!?
“ไว้ผมจะติดต่อไปนะครับคิบอม” น้ำเสียงใส่จริตคัดลอกมินคยูแบบไม่ตกหล่น
“แล้วที่เรียกว่ามีรสนิยมเป็นแบบคุณรึไง!”
“งั้นสิ...เพราะงั้นคิบอมมาสนใจปาร์คจองมินคนนี้ดีกว่านะ”
“คุณมัน!..” ริมฝีปากบางสั่นระริก เรียกได้ว่าโมโหจนแทบจะตัวสั่นก็ว่าได้ เกิดมาเจอคนก็มากหน้าหลายตา
แต่ตาคนนี้ให้ความรู้สึกอยากเป็นฆาตกรได้มากรองลงมาจากนายแบบหื่นกามที่เกือบลักหลับเขาที่บอสตัน
“พอได้แล้วน่าจองมิน...ขอโทษแทนน้องหัวงูของพี่ด้วยนะ”
“เหอะทำดีกันเข้าไป..ไม่จริงใจกับการใช้ชีวิตกันเลย”
“ไม่เป็นไรฮะ”
ร่างบางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดระงับสติอารมณ์ คิดซะว่าคนด้านหน้าเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หนึ่ง
ที่เกิดมาเพื่อความสมดุลของโลก เมื่อมีดีย่อมต้องมีคนประเภทนี้เป็นตัวเปรียบเทียบ
แต่ว่าคนพรรค์นี้
..คิบอมเกลียดที่สุดเลย!
ll!iO~T~H~A~N~K~S~O!ill-- -- --2- - B...continue<33
ตอนนี้ลงครบ100%แล้วนะคะ พรุ่งนี้จะพยายามมาลงตอนต่อไปถ้ามีเวลาทานคำผิดค่ะ..เพราะบางทีทานแล้วทานอีกก็ผิดอยู่ดี
คุณkamที่ถามมา..ตอบในนี้เลยละกันนะคะ..
เราชื่อฟาร์มค่ะ..เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราใช้นามปากกาmeadowที่แปลว่าทุ่งหญ้าสีเขียว^^
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ
ความคิดเห็น