คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter3: Little memory
แสงอาทิตย์อ่อนๆยามเช้าส่องลอดม่านสีเทา สะกิดริ้วที่เปลือกตาบางของร่างในห้อง
ราวกับการกล่าวอรุณสวัสดิ์ในเช้าวันใหม่ แพขนตายาวกระพริบถี่...รู้สึกตัวแล้วทว่าความเย็นจากแอร์ในห้องกับความนิ่มของหมอนใบโตกลับเป็นอุปสรรคยิ่งใหญ่ที่ขัดขวางการตื่นนอนครั้งนี้
มือขาวควานหาผ้าห่มที่ถูกเตะจนไปกองอยู่ที่บั้นเอวกระชับเข้ากับลำตัว
“อื้อ..=*=” แสงอาทิตย์เริ่มสาดแรงไปตามกาลเวลา
ร่างบางพลิกตัวไปอีกด้านสู่ความเย็นสบายหากแต่อุ่นอยู่ในที แขนเรียวที่วางทาบหมอนข้าง?
กระชับแน่นขึ้นจนทิ้งหมอนใบโตก่อนศีรษะจะซุกลงไปบนเจ้าหมอนข้างที่ให้ความรู้สึกอุ่นสบาย
แถมยังมีกลิ่นสบู่อีกต่างหาก
“หือ?” นัยน์ตาสีอ่อนค่อยๆลืมอย่างยากเย็น
เมื่ออดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมแขนของตนจึงขยับขึ้นลงตามแรงเคลื่อนตัวของหมอนข้างมหัศจรรย์
ดวงตาสุกใสเบิกกว้างหลังภาพที่แท้จริงของ ‘หมอนข้าง’ ฉายเข้าเต็มจอรับภาพ
ใบหน้าคมดั่งรูปสลักห่างแค่คืบ ตาสินิลดำสนิทถูกซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกตาบาง
จมูกโด่งเป็นสันคมรับใบหน้า ริมฝีปากที่แม้ยามหลับยังคงสีสดตลอดเวลา
ผิวหน้าที่ไร้รอยตำหนิไม่เหลือมาดคุณชายคิม...เป็นแค่นายฮยอนจุงธรรมดาตามประสาชายหนุ่มทั่วไป
กลับเรียกความร้อนบนใบหน้าขาวให้แล่นพล่าน มือที่ถือวิสาสะวางบนตัวร่างสูงชักกลับแทบจะในทันที
คนไม่อยากตื่นเลยได้ตื่นแบบธรรมชาติลงโทษ ที่อุตริไปคว้าคุณชายใหญ่ของบ้านมาเป็นหมอนข้าง
เคราะห์ดีแท้ๆที่นิสัยหลับลึกแบบสุดเหวของฮยอนจุงยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น
มานอนเตียงเขา แล้วยังทั้งกอดทั้งซบเขาอีก...
..........แย่
....แย่มากๆเลยนะฮยองจุน!0(>////<)0
ใจเจ้ากรรมก็ดันเต้นโครมๆขัดใจกระต่ายน้อยเป็นที่สุด
“คิดบ้าอะไรของเราน่ะ...เลิกคิดๆๆ” ปากก็พร่ำบอกไปเถอะ
แต่ความทรงจำเก่าสมัยไฮสคูลก็ดันเข้ามาโลดแล่นในหัวเขาอีกจนได้
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ย้อนไปสมัยฮยองจุนเป็นเด็กดีเด่นของแผนกคอรัสนะจ๊ะ
“ฮยองจุน..นี่ๆไปดูกันมั้ย?” เด็กหนุ่มร่างเล็กหนึ่งในเพื่อนร่วมแผนก
เรียกร่างบางที่มัววางแปลนลำดับเวลาขึ้นแสดงตามที่อาจารย์ไหว้วานมากกว่า 2 วันแล้ว
“ดูอะไรล่ะ..เรายังไม่พอใจกับตารางที่เราจัดเลยนะ” ใบหน้าคล้ายตุ๊กตายังคงจดจ่อยู่กับตารางงานที่พาให้ปวดหัว
ปัญหามันอยู่ที่ว่าจะเอาใจคนดูหรือคนให้คะแนน
การแสดงผลงานเป็นเหมือนการสอบปลายภาคของโรงเรียนสายการแสดงแห่งนี้
ฉะนั้นรุ่นพี่เนื้อหอมย่อมเรื่องความสนใจคนดูไม่ให้ไปเฝ้าพระอินทร์ก่อนงานเลิก
แต่ถ้าเกิดจัดส่งเดชเอาคนฝีมือแย่มาโชว์อาจารย์คงได้กุมขมับ
“ไหนๆๆ” เพื่อนอีกคนคว้าตารางงานที่ร่างบางบอกปาวๆว่ายังไม่เสร็จมาไว้ในมือ
“เดี๋ยว!เอาคืนมาก่อนฉันยังต่อแก้..”
“ว้าว!มีรุ่นพี่รุ่นพี่ป๊อบๆทั้งนั้นเลย” พูดพลางชี้ชวนให้เพื่อนคนอื่นๆดู
“ก็พวกรายชื่อที่รีเควสกันเข้ามาน่ะล่ะ-3- “ คิ้วสวยขมวดยุ่ง
“ฉันก็ไม่ค่อยรู้จักสะด้วยสิ”
“เพราะงี้เราถึงมาชวนนายไงคุณเด็กดีเด่น- -++”
“?”
“ไม่ต้องทำหน้าเอ๋อตามมาก็พอ” ว่าแล้วขบวนการฉุดเด็กดีเด่นให้เลิกบ้างานก็ถูลู่ถูกังล็อคตัวฮยองจุนตามไปยังห้องโสต
สถานที่ใช้ซ้อมการแสดงขนาดย่อมแทนห้องประชุมของโรงเรียน
“เข้าไปนั่งสิ..อย่าโวยวายเชียว” เพื่อนคนเดิมขู่เมื่อผู้ดูแลโปรเจคใหญ่ทำท่าจะแหกปาก
“เราไม่ได้เต็มใจจะมานี่” ได้แต่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว สักพักจึงปล่อยเลยตามเลย
ร่างบางอดสงสัยไม่ได้ว่ากะอีแค่การซ้อมทำไมคนถึงแน่นห้องโสตกันได้ขนาดนี้
ทันทีที่ห้องถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ไฟสีนวลจึงปรากฏเพียงเพื่อตำแหน่งผู้ซ้อมบนเวทีเท่านั้น
นักเรียนทุกคนล้วนเงียบกริบอย่างรู้กฎเมื่อมีผู้ให้สันญาณเชิญรุ่นพี่ปี3เจ้าของที่นั่งแถวหน้าลุกขึ้นซ้อมทีละคน
ดวงตาสีอ่อนเพ่งมองรายชื่อในความมืด...ถือซะว่ามาตรวจความเรียบร้อยก็แล้วกัน
“เอ่อ...มีการเปลี่ยนแปลง...ขอเชิญรุ่นพี่ฮยอนจุงปี3ห้องaก่อนเลยครับ...”
ร่างบางเลิกคิ้วเมื่อสิ้นคำประกาศของโฆษกจำเป็น
....คิมฮยอนจุง..ลืมไปเสียสนิทว่าคนชื่อคล้ายเขาอยู่ในโผนี้ด้วยตารางงานบอกว่าขึ้นแสดงเป็นคิวที่5นี่นา
..แต่ช่างเถอะนี่ก็แค่การซ้อม
ร่างสูงโปร่งค่อยขยับลุกจากพนักเข้าอี้แถวหน้า เดินขึ้นเวทีไปด้วยท่าทางสบายๆปราศจากซึ่งความประหม่า
ใบหน้าอ่อนวัยที่มีเค้าโครงความคมกับดวงตาสีรัตติกาลเรียกความสนใจจากผู้ชมทุกคน
...บุคลิกกินขาด...ฮยองจุนไม่แปลกใจที่รุ่นพี่คนนี้จะได้รับการโหวตเสียท่วมท้น ส่วนฝีมือคงได้รู้กัน
ร่าสูงจัดท่าทางของตนให้เข้าที่ มือซ้ายตั้งท่าอยู่ที่คอกีตาร์คลาสสิก
ก่อนบทเพลงไพเราะจะถูกบรรเลงผ่านการกรีดนิ้วอย่างชำนาญ
..เพียงเท่านั้นหนึ่งคนที่จมไปกับเวทมนต์ตรงหน้าหนีไม่พ้นเจ้าของดวงหน้าหวาน
날 사랑해줘서 곁에 있어서 행복의 눈물이 나 고마운 사람
ขอให้รักฉัน อยู่ข้างๆกัน
น้ำตาแห่งความสุขให้คนที่ฉันรู้สึกขอบคุณ
내 팔에 기대어 꿈을 꾸는 그대 사랑으로 떨리는 내맘 느껴지내요
ที่อ้อมแขนของฉันคือเธอที่ฉันใฝ่ฝัน ความรู้สึกที่เป็นอยู่ก็คือใจสั่นเพราะความรัก
#someday coming my heart 그대 행복을 찾아줄게요
지난 사랑이 아프더라도 다 지울 수 있게
someday coming my heart เธอทำให้ฉันพบกับความสุข
แม้ว่ารักที่ผ่านมานั้นจะเจ็บปวด...ก็จะลืมมันได้ทั้งหมด
웃는 그 미소로 나를 부르며 멀리서 또 느껴요 그대 음성을
เวลาที่เธอเรียกฉันด้วยรอยยิ้มนั้น ฉันสัมผัสได้ถึงเสียงของเธอไกลๆ
그대 그 향기에 나 황홀해 져요 버리지 못한 내 슬픔도 묻혀져가요
เธอทำให้ฉันหลงในกลิ่นอายนั้น ความเศร้าที่ไม่สามารถลืมได้ของฉันกำลังถูกฝังไป
#
그대에게 내민 두 손을 잡아 줄래요 놓치 말아요 my love
ช่วยจับมือทั้งสองของฉันไว้
I wish love forever 사랑할게요 지켜줄게요
I wish love forever จะรัก...และจะรักษารักไว้
나의 사랑을 전해줄게요 그대 가슴안에
ส่งรักของฉันไปที่ใจของเธอ
#
‘sweet love’
เพลงบรรเลงจบไปแล้ว ร่างสูงได้รับเสียงปรบมืออย่างท่วมท้น รอบยิ้มมีชีวิตชีวาถูกแจกจ่ายสั้นๆบนเวที
มือกีตาร์คนเก่งเดินลงเวทีเบี่ยงตัวออกทางด้านข้างมุ่งหน้าสู่ประตูที่เหล่าเด็กแผนกคอรัสจับจองกันอยู่เป็นกลุ่มก้อน
“sweet love เพราะมากเลย...” ร่างบางพูดขึ้นลอยๆทว่าร่างสูงที่เดินตัดผ่านหูดีพอจึงหยุดยืนขยับยิ้ม
“ขอบใจนะ” คราวนี้คนเนื้อหอมยิงฟันขาวให้บรรดาสาวกได้เลื้อยลงไปกองกับพื้น ก่อนเดินจากไปทั้งรอยยิ้ม
“!!!”
“ฮยองจุนพี่เค้าพูดกับนายอ่ะ*0*”
เพื่อนตัวดีที่ลากเขามาเขย่าร่างบางทียังเอ๋ออึ้งกับรอยยิ้มและคำขอบคุณแบบไม่คาดคิด
...คิมฮยอนจุงรอยยิ้มของพี่ฆ่าผมทั้งทางตรงและทางอ้อมเลยนะ...
หลังการซ้อมครั้งนั้นจนกระทั่งวันงานร่างสูงเป็นต้องเห็นดวงหน้าหวานราวตุ๊กตา
แอบมุดอยู่หลังเพื่อนยามมาฟังเขาซ้อมเป็นประจำ
“มาดูซ้อมหรอ?..”
ประโยคคำถามถูกยิงเข้าจนได้ในวันที่นัดกับเพื่อนว่าจะไปดูรุ่นพี่คนเก่งซ้อมด้วยกัน
แต่เหมือนเขาจะมาเร็วเกินไป นัยน์ตากลมโตกวาดไปมาแต่ก็ไม่เห็นเพื่อนเลยสักคน
“0///0” ฮยองจุนทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้รับการสนทนาจากรุ่นพี่สุดป๊อบเป็นครั้งที่สอง
“ฉันไม่กัดหัวนายหรอกน่า”
“อ่า..”
“เอาเถอะ..อย่าลืมมาดูวันจริงแล้วกัน^-^” ริมฝีปากสีสดกระตุกยิ้มกับท่าทางงุ่นง่านนั้น
“(0///0) (_ _) (0///0)”
ไม่ว่านั่นคือคำชวญหรือสัญญา..เขาอาจทึกทักไปเองก็ได้...กับความรู้สึกพิเศษเล็กๆที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา
ท่ามกลางเสียงดนตรี..จากผู้เล่นสู่ผู้ฟัง...
ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นงานก็กองสุมหัวเขาจนแทบไม่มีเวลากระดิกตัวไปไหน
วันแสดงเขาก็ต้องแสตนบายลากนักแสดงที่มัวอู้มาให้ได้ตามคิว
มีเวลาปลีกตัวมาดูกับเขาซะที่ไหน พอรู้อีกทีงานก็เลิกเสียแล้ว
น้ำตามันพาลจะไหลอย่างไม่รู้สาเหตุ.......หรือเสียดายที่จะไม่ได้ฟังบทเพลงไพเราะฝีมือคนๆนั้น?
ในเมื่อวันพรุ่งนี้เหล่าปีสามก็จะลาโรงเรียนไปสู่โลกภายนอกเสียที
........ขอให้โชคดีนะฮะพี่ฮยอนจุง
ไม่เคยคิด....
ไม่เคยแม้แต่จะนึกว่าจะเจอคนๆนี้อีกครั้ง....................
“คุณ..เป็นอะไรรึป่าวครับ” ร่างสูงที่ย่อตัวลงถามคนซุ่มซ่ามที่สนามบินมันเหมือนฝันกลางวัน
รู้ว่าเป็นคิมฮยอนจุงตั้งแต่วินาทีแรก แต่ขอให้แน่ใจสักหน่อยเถอะ...
ไม่อยากเป็นเด็กเอ๋อที่เอาแต่พยักหน้าเหมือนสมัยก่อน...
แม้คิมฮยองจุนจะไม่อยู่ในความทรงจำของชายคนนี้เลยก็ตามที...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
กระต่ายน้อยส่ายหัวไปมาสะบัดเรื่องเก่าๆทิ้งไม่ได้มารบกวนจิตใจอีก
ดวงหน้าที่ขึ้นสีชมพูอ่อนๆลอบชำเลืองมองคนหลับแล้วย่องลงจากเตียงไม่ให้เป็นการรบกวน
ค้นเสื้อที่คิดว่าถูกใจแล้วจัดแจงอาบน้ำอาบท่า
..อยู่บ้านเค้าก็ควรตื่นเป็นเวลา ไม่ลำบากเจ้าบ้านต้องมาเรียก.....
“นอนหลับสบายมั้ย^^” ชายหนุ่มท่าทางใจดีเจ้าของนัยน์ตาสีเทาเอ่ยแถม
เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกลับมาหลังออกกำลังกาย
“สบายมากเลยครับคุณคยูจง”
“เรียกคยูจงเฉยๆก็ได้แล้วครับอะไรนั่นก็ไม่ต้องใช้หรอก”
ผู้บริหารคนเก่งว่าแล้วเชิญแขกกิติมาศักดิ์นั่งเหยียดสบายบนโซฟา
“นี่จะ11โมงแล้วถ้ายังไงรอกินข้าวเที่ยงไหวมั้ย?” ฮยองจุนกลืนน้ำลายเอื้อก..
เวรกรรม!อยู่บ้านเขายังตื่นสายโด่งตามสบายหน้าขายหน้าเป็นที่สุด
“อ่ารอได้แหะๆ^^””
“เมื่อเช้ากะไปปลุกแล้ว...เห็นนายกับฮยอนจุงหลับสนิทเลยไม่กล้าปลุกน่ะ”
กรรมสองชั้นแล้วไง!...ไม่อยากจินตนาการเลยว่าเขาอยู่ในสภาพไหน ร่างบางนั้นซื่อเสียจนแสดงอาการวิตกออกมาทั้งหมด
คยูจงที่ลอบมองอยู่คลี่ยิ้มน้อยๆชักไม่แปลกใจที่ฮยอนจุงหิ้วเด็กคนนี้กลับมาด้วยแทนที่จะทิ้งไว้ข้างทาง
...เห็นว่าไปอยู่เมืองนอกมาเหมือนกันแต่ท่าทางซื่อเสียจนอาจโดนหลอกเอาง่ายๆ
“อ่า..วันนี้คยูจงหยุดงานสินะ”
“ใช่..วันอาทิตย์นี่นา”
ฉึก! เหมือนลูกศรสลักคำว่าโง่จะปักลงบนหัวเขาอีกรอบ
..ทางที่ดีเขาควรจะเงียบก่อนที่จะปล่อยไก่ตัวใหญ่กว่านี้ออกไปสินะ
“แต่ดีเหมือนกัน..นายมาอยู่นี่ฉันก็เหมือนมีเพื่อนคุย ระยะนี้จะได้ไม่ต้องไปขลุกอยู่กับพวกกองเอกสาร”
พูดพลางชี้ไปยังโต๊ะทำงานขนาดพอเหมาะที่ห้องข้างๆ
“นึกว่าคยูจงชอบทำงานซะอีก..”
“ฉันน่ะหรอ?...ไม่เลย- -“ ร่างสูงทำหน้าเบ้เมื่อจินตนาการว่าต้องไปผจญกับอะไรที่ออฟฟิสวันพรุ่งนี้
“ถามจริงๆเถอะฉันดูเหมือนคนบ้างานหรอ”
“ถ้าเอาในความคิดฉันละก็ใช่” นิ้วเรียวเคาะแก้มใสอย่างใช้ความคิดแล้วว่าต่อ
“ก็มาดนายเหมือนพวกที่ชอบอยู่กับแฟ้มงาน กระดกปากกาเซ็นเช็คนี่นา...ถ้าใส่แว่นด้วยนี่ไม่ต้องพูดถึงล่ะ”
“ทำไมหรอ?^^ll” ก็ปกติคุณคยูจงแกใส่แว่นเข้าสำนักงานตลอดน่ะสิ แต่พักนี้ตัดอันใหม่ยังขี้เกียจไปรับ
“ก็ลองไปถามเด็กอนุบาลว่านักธุรกิจในจินตนาการหนูเป็นยังไง..เด็กร้อยคนวาดรูปมาร้อยใบยังไงก็เหมือนนาย”
“=[]=”
“ฮะๆแต่ไม่นับหน้านายตอนนี้นะ”
“เหอๆ...งั้นก็ค่อยยังชั่วเนอะ” คยูจงพลอยขำไปกับกระต่ายน้อยอารมณ์ดี
ทำให้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าท่าเจ้าบ้านกับแขกประจำได้มาถึงแล้ว
“คุยอะไรกันสนุกเชียวฮยองจุน..คยูจง” ประธานคิมพร้อมร่างบางที่ประคองชายชราอยู่อย่างคล่องแคล่วนั่งลงร่วมวงสนทนา ฮยองจุนที่รู้สึกเป็นคนอื่นไกลจึงยืนขึ้นโค้งน้อยๆตั้งท่าจะออกจากการปฏิสัมพันธ์ของคนทั้งสาม
“จะไปไหนล่ะฮยองจุน..อยู่คุยกันก่อนสิ..” ร่างโปร่งยิ้มเป็นมารยาทไม่อยากขัดศรัทธาคนแก่
จึงทำเพียงแค่เขยิบทางให้กับคนที่เขาเพิ่งจะพบเมื่อสักครู่
“นี่ยองแซง...เพื่อนเล่นพวกฮยอนจุงแต่เด็กน่ะ..ฉันเล่าเรื่องเธอให้เค้าฟังระหว่างเราไปนั่งรถเล่นกันมา”
ฮยองจุนยิ้มแฉ่งอย่างเป็นมิตรให้กับคนข้างๆ
“ฮยองจุน ยินดีที่ได้รู้จักฮะ-^o^-”
“เช่นกัน^^”
คนที่ท่านเจ้าบ้านเรียกว่ายองแซงนั้นในสายตาฮยอนจุง...เขาคนนี้ดูทันทีก็ทราบว่าเป็นลูกผู้ดีมีสกุล
ด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม และผิวที่ขาวแบบเอเชียติดจะซีด ริมฝีปากอิ่มแย้มเป็นพิธี
“ดีทีเดียว...ปู่จะได้เหมือนมีหลาน2คน..”
“แล้วพวกผมละครับปู่!” สองพี่น้องที่นอนกินบ้านกินเมืองเดินงัวเงียลงมาทั้งชุดนอน
ตามด้วยชายในชุดสูทและแว่นดำแบบเดียวกันตามลงมาอีกโขลงหนึ่ง
“พวกแกนอนกินบ้านกินเมืองกันขนาดนี้...ถ้าฉันไม่โทรให้เจ้าพวกนี้ยกโขยงไปปลุก
พวกแกคงไมคิดจะลงมาเจอหน้าฉันเลยน่ะสิ...ได้หลานน่ารักอย่างยองแซงกับฮยองจุนยังดีกว่า”
“ผมก็ยังดีกว่าไอ้มินนะครับ ลูกน้องปู่โดนทึ้งตอนไปปลุกมันซะเละเทะเลย”
“ไอ้เฮียขี้เซานี่ใช้คนปลุกลากจากเตียงตั้งครึ่งโหล ผมสนับสนุนให้ตาสั่งกระทืบ..”
“พอเลยทั้งสองคน” ประธานคิมยกมือสองข้างขึ้นปรามหลานอย่างยอมแพ้
อะไรมันจะกัดกันได้ตั้งแต่หัดพูดยันโตเป็นหนุ่มขนาดนี้ ดีที่แขกคนสำคัญกับคยูจงรู้สึกขบขันไปกับทั้งคู่
“เห็นพวกแกแล้วปวดหัวชะมัด...วันนี้วางแผนจะไปเตร่ที่ไหนอีก?” ผู้อาวุโสสูงสุดดักคออย่างรู้ทัน
“สมเป็นคุณตา..ผมว่าจะไปล่องเรือชมแม่น้ำฮันอาจกลับดึกนะครับ” หนุ่มผิวน้ำผึ้งฉีกยิ้มหวาน
เมื่อนึกถึงแปลนเที่ยวของวันนี้
“เหอะ..แม่น้ำฮันในฝันแกน่ะสิ...กลับเกาหลีหนึ่งวันก็นัดกิ๊กไปนั่งอ้อนกันซะมากกว่า-*-“
คุณชายใหญ่ไม่วายแขวะน้องให้ถลึงตาตั้งท่าจะกัดหัวญาติผู้พี่
“จะทำอะไรก็ทำแต่อย่าให้เป็นข่าวแล้วกัน- - แล้วคิดจะช่วยงานฉันเมื่อไหร่..หรืองานแกมันจะมีอีกแล้ว?”
“อืม...ระยะนี้คงไม่ล่ะครับเพิ่งทัวร์ยุโรปมา...คิวงานเปิดตัวที่เกาหลีเขาก็ยังไม่แจ้งมา”
พูดพลางขยี้หัวเรียกสติตัวเองให้เต็มตื่น
“งั้นก็ดี..อยู่กินข้าวกลางวันก่อนนะเจ้ามิน...แล้วจะไปไหนก็ไป” พูดจบชายราก็กวักมือเรียกลูกน้องให้พาเดินไปเดินชมสวนที่ท่านเจ้าบ้านภูมิใจนักหนา เหลืออีก5ชีวิตที่ตั้งท่าจะแยกย้ายไปทำกิจส่วนตัว
“ฮยอนจุง...” ยองแซงยิ้มหวานเรียกคนหาวหวอดๆอย่างไม่มีจริต “นายยังไม่..”
“ไว้ก่อนนะยองแซง” พูดเร็วราวกับท่องจนขึ้นใจส่งผลให้ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่น
...เวลาสำหรับฉันไม่เคยมีเลยสินะ
แล้วความรู้สึกชาก็แล่นไปทั้งตัวเมื่อร่างสูงเดินไปคุยกับคนที่ยังนั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับที่
“ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกพี่ฮึ?” คำถามเหมือนคาดโทษแต่กลับใช้น้ำเสียงสบายๆ
“ก็พี่หลับสบายอยู่นี่ฮะ-///-“ คนตอบกลับหลบตาไม่เหมือนทุกครั้ง
คนถามเลยดึงแก้มยุ้ยๆสองข้างไปมาเป็นการลงโทษ
“เวลาตอบก็ต้องมองหน้าคนถามด้วย- -++”
เมื่อเห็นว่าแก้มขาวชักแดงเหมือนลูกมะเขือเทศอย่างสาสม จึงทิ้งคำเตือนไว้อย่างเผด็จการ
“ง่า...เจ็บอ่า(๑T_T๑)” มือขาวสัมผัสแก้มตัวเองอย่างระมัดระวัง..
ไม่ได้รู้เลยว่าคนมองยิ้มพอใจผลงานขนาดไหน ทิ้งท้ายด้วยการขยี้เส้นผมสีน้ำตาลด้วยความหมั่นเขี้ยว
“โอ๋ๆไว้กินข้าวเสร็จแล้วออกไปนั่งรถเล่นกันกระต่ายน้อย^-^” พูดจบก็หันไปหาญาติผู้น้อง
“ไอ้มิน...รายนี้ถ้าไม่ถูกใจหัดมั่วเบอร์ซะบ้าง..ไม่ใช่แจกเบอร์ฉันไปแทนอีกนะเฟ้ย”
“รู้แล้วน่า-3-..ก็แค่หวังดีเผื่อเข้าเสปคพี่..ทำเป็นบ่นใช่มั้ยยองแซง?”
“ห๊ะ?...อื้อ” ยองแซงที่ยังจมอยู่กับความคิดตัวเองหันไปเออออตามเพลย์บอยเจ้ารอยยิ้มกระชากใจสาว
รอยยิ้มบนใบหน้าที่ซีดลงกว่าเก่าเล็กน้อย มีเพียงคยูจงที่สังเกตเห็น
ตอนหน้าตัวละครจะออกโรงเพิ่มแล้วนะจ๊ะ
อ่านแล้วเม้นถือเป็นความกรุณาอย่างมากค่ะ
ความคิดเห็น