คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter2: Meet again
ดวงหน้ารูปสลักเจ้าของนัยน์ตาคมสีนิลทอดมองไฟแดงกับแสงสลัวของไฟข้างทางยามหัวค่ำเพื่อฆ่าเวลา
มือใหญ่เคาะเป็นจังหวะบนพวงมาลัยบีเอ็มสีเงินคันหรูด้วยความเคยชิน
ริมฝีปากได้รูปยังคงเหยียดนิ่งอย่างที่ควรจะเป็นเพียงเพื่อไม่เริ่มบทสนทนากับคนที่เบาะขวา
แต่ความเงียบมันไม่ได้หน้าพิสมัยเสมอไป .
“ฮยอง..จุ..”
ตั้งใจจะชวนคุยทว่าอีกฝ่ายกลับหลับปุ๋ยชนิดปลุกไม่ลง
แพขนตายาวสวยกว่าผู้หญิงบางคนปิดสนิด ผนวกกับริมฝีปากสีเรื่อที่เหยียดยิ้มไม่ต่างจากเวลาเจ้าตัวตื่นสักเท่าไหร่
ยิ่งมองก็ยิ่งชวนให้เอ็นดูในกริยาละม้ายคล้ายเด็กก็เท่านั้น
“แบตหมดล่ะสิเนี่ยกระต่ายน้อย”
พูดพลางลูบเรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติเบาๆ
เสียดายแต่คนหลับจะอดเห็นรอยยิ้มชวนให้เคลิ้มของคิมฮยอนจุง
บีเอ็มสีเงินเคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่ลดลงกว่าช่วงที่ฟ้ายังสว่าง หนทางสู่คฤหาสน์ตระกูลคิมโดยสารถีมีดีกรีเป็นถึงคุณชายใหญ่ของบ้านซึ่งยังอมยิ้มอยู่ตลอดทางเมื่อนึกทบทวนถึงเหตุการณ์เมื่อเย็น
-- -- เมื่อ3ชั่วโมงที่แล้ว-- --
“ไม่ได้ลุยทางแถวนี้นาน...ไปไหนก่อนดี?” รำพึงกับตัวเองเบาๆหลังซิ่งบีเอ็มคันใหม่ออกมากินลมเล่น
ป้ายบอกทางแยกซึ่งว่าด้วยเซนส์เจ้าตัวก็มักเลี้ยวขวาเสมอ ครั้งนี้ก็ย่อมเป็นไปตามนั้น
แต่เหมือนถนนใหญ่จะตัดไปสู่หมู่บ้านจัดสรรเสียมากกว่า
...คงต้องวนรถกลับ.. ความคิดนี้ผุดขึ้น
ตาคมทำหน้าที่มองหาป้ายทางออกกลับสบเข้ากับร่างบางที่ต่อให้ความจำปลาทองแค่ไหน
เขาย่อมจำคนที่เพิ่งเจอกันเมื่อ2ชั่วโมงก่อนได้แน่นอน
คิมฮยองจุน!
เมื่อกวาดสายตาไปรอบบริเวณเขาก็พอจะจำได้ว่านี่คือบ้านที่ฮยองจุนบอกว่าให้มาส่งเมื่อบ่าย
“ฮยองจุน...คิมฮยองจุน..ตื่นๆ” ฮยอนจุงตัดสินใจสะกิดปลุกคนที่นั่งกร่อยจนงีบหลับคาประตูบ้านตัวเอง
หลังจอดรถไว้ข้างทางอย่างไม่กลัวขโมย
“พี่ฮยอนจุงหรอ..เจอกันอีกแล้วนะฮะ” มือขาวขยี้ตาแล้วหันมาทักเขาทั้งยังไม่ตื่นดี
“เจอกันอีกอะไรล่ะ..ทำไมนายถึงไม่เข้าบ้าน= =”
“ก็พอพี่ส่งผมปุ๊บ..ผมก็ล้วงกุญแจบ้านในกระเป๋ากางเกงแต่มันไม่มีอ่ะ” เจ้าตัวยิ้มแหยๆเหมือนเป็นเรื่องตลก
“พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน น้องผมก็อยู่บอสตันไม่รู้จะทำยังไงเลยว่าขอหลับสักงีบ..แล้วค่อยคิดต่อว่าจะทำยังไง”
เวรกรรม!
เกิดมาเขาเพิ่งเจอคนแบบคิมฮยองจุน...ชีวิตอะไรมันจะง่ายปานนั้น!?
“แย่ล่ะสิผมตื่นแล้วนี่เนอะ แต่ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะทำยังไงแหะๆ” คนฟังเองก็ไม่รู้จะเดือดร้อนแทนไปทำไมในเมื่อเจ้าตัวดูจะไม่เครียดอะไรสักนิด แต่ก็ถามไปเป็นพิธี
“แล้วกระเป๋านายอ่ะ?”
“!!!!!” พอฮยอนจุงทักร่างบางก็นึกได้ สองมือควานหากระเป๋าไปทั่วแต่ก็ไม่พบได้แต่หันไปหาร่างสูงแล้วทำตาละห้อย
“กระเป๋าหายอ่ะT^T” มือขาวดึงชายเสื้อร่างสูงยิกๆราวกับมันจะวิ่งกลับมาหาได้
“นายหลับสนิท..คงมีคนเอาไปแล้วล่ะ...ดีแค่ไหนที่มันไม่ตีหัวแล้วลากนายไปขาย-*-”
สิ้นคำพูดร่างสูง ฮยองจุนถึงกับคอตกยืนนิ่ง ฮยอนจุงที่รู้สึกเวทนาซะเต็มประดาก็ชักทำอะไรไม่ถูกนอกจากตบไหล่บางเบาๆ กระทั่งน้ำใสๆหยดแหมะลงกระทบแขนแกร่ง
“เฮ้ย!!” ใบหน้าขาวเงยขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นในตาโตคู่สวยที่แดงก่ำเปรอะไปด้วยหยาดน้ำใส
ร่างบางแบะปากส่งเสียงสะอื้นเบาๆ
“กุญแจ..ฮึก..หาย ...กระเป๋าก็ ฮึกๆ..หาย ทำไงดีฮือออออTT TT”
ดวงหน้าคมซีดเผือด...
กรรมแท้ๆเขาจะไปวิงวอนขอกุญแจกับกระเป๋าให้ฮยองจุนจากไหน ครั้นจะปล่อยทิ้งไว้แถวนี้ก็หน้าสงสาร
“อย่าร้องสิ..ใจเย็นเดี๋ยวพี่ช่วยนะๆตานายบวมฉึ่งเลย^^ll” ร่างสูงเอียงหัวพยายามหาทางสื่อสารกับคนขี้แยที่เอาแต่ก้มหน้าปาดน้ำตา กลัวว่าแก้มใสๆจะช้ำไปตามแรงเช็ดลุ่นๆ มือใหญ่จึงจัดการดึงมือบางออกแล้วใช้แขนเสื้อแบรนด์เนมบรรจงซับน้ำตาให้อย่างเงอะเงิ่น
“แขนเสื้อพี่..อึ้ก..เลอะหมดแล้วฮะ..ฮึกๆ” ยังอุตส่าห์มีแก่ใจห่วง ฮยอนจุงควรขอบใจเด็กขี้แยคนนี้ดีมั้ยนะ?
“ถ้าไม่อยากให้เลอะก็นิ่งซะ” พลันเสียงสะอึกสะอื้นทั้งปวงก็หยุดลง เหลือเพียงตาฉ่ำๆสองข้าง
เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเขาจึงเริ่มสนทนากับร่างบางอีกครั้ง
“เอาล่ะ..กระเป๋าเราไม่มี...บ้านก็เข้าไม่ได้...แล้วกินอะไรรึยัง”
*โครกกกกกกกกกกกกก* มีเสียงซาวน์เอฟเฟคดังมาแทนคำตอบ
“เข้าใจล่ะเราไปค้างบ้านพี่จนกว่าคนบ้านเราจะกลับแล้วกัน..อ่ะ!” ร่างสูงถึงกับช็อค
เมื่อเจ้าเปี๊ยกวาดวงแขนโอบรอบคอเขาด้วยความดีใจ
...ปกติหน้านิ่งๆอย่างเขาไม่ได้มีคนกระโดดกอดบ่อยๆเสียหน่อย..
ถึงบางคนจะอยากเสียเต็มประดาก็ต้องหยุดความคิดเสียก่อนบาทามหากาฬจะออกฤทธิ์เดชปลิดชีวิตคนผู้นั้น
“พี่ฮยอนจุงใจดีจังเลย-^ w^- “เพิ่งเสียน้ำตาไปหยกๆแต่รอยยิ้มก็กลับมาเหมือนสั่งได้
มือใหญ่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศไม่รู้จะกอดตอบดีหรือแกะตัวคนกอดเขาออกดี
“เอ่อ..ฮยองจุน..ก่อนอื่นไปหาอะไรกินก่อนมั้ย” เด็กว่านอนสอนง่ายคลายแขนออก
ยืนตรงแด่วพยักหน้าหัวแทบหลุด
...กับอีกครั้งที่คำพูดเป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์...
วันนี้คิมฮยอนจุงพูดจาฉลาดได้โล่จริงๆ!
“คาดเข็มขัดเรียบร้อยนะ”
“อื้อ^-^” ถามเพื่อยืนยันระบบรักษาความปลอดภัยก่อนบิดสตาร์ทเหยียบคันเร่งให้ถูกใจทั้งคนขับและคนนั่ง
ย่านศูนย์การค้าในตัวเมืองหนีไม่พ้นศูนย์การค้าในเครือข่ายตระกูลคิมอยู่ดี บัตรวีไอพีในส่วนของตัวห้างทำให้คุณชายใหญ่แทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลยสักวอน ฮยองจุนที่เขากระเตงมาด้วยเลยพลอยได้ลาภปากอิ่มหมีพีมัน จะรอเวลาให้เปล่าประโยชน์ก็สู้เดินเล่นย่อยอาหารคงจะเข้าท่ากว่ากันเยอะ
“ฮยองจุนพี่ว่าเราหาเสื้อผ้าใหม่ให้นายกันเหอะ..กระเป๋านายหายไปทั้งใบ”
“อ่าไม่ดีมั้งฮะผมไม่มีเงินสักวอนT^T” ฮยอนจุงนึกแล้วว่าเจ้าเปี๊ยกนี่ต้องยัดข้าวของทั้งหมดไว้ในกระเป๋าเดินทางยักษ์ที่เขาเห็น แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะเขาไม่คิดจะให้คนข้างๆออกเงินอยู่แล้ว
“ใช้เครดิตพี่รูดน่ะแหละ ไม่คิดทวงด้วยสนใจมั้ย”
“ก็ไม่ดีอีกแหละฮะ..จริงๆแค่พี่ทิ้งผมไว้ที่นี่พร้อมบัตรวีไอพีเท่านี้ก็ไม่อดตาย..”
โป๊ก!
ฮยอนจุงขอแจกมะเหงกสักหนึ่งที
“คิดอะไรอย่างนั้นกัน...ห้างไม่ได้เปิด24ชม.นะ แล้วนายจะเน่าอยู่ในชุดนี้น่ะหรอ บอกว่าไม่เป็นไรไง”
คนเสนอตัวพูดเสียงเข้ม
“แต่ว่า..”
“พี่ก็ว่าจะหาชุดใหม่เมือนกัน..ดูผลงานนาย”
ว่าพร้อมยกแขนเสื้อเกรอะกรังด้วยคราบน้ำตาฝีมือร่างบางเป็นหลักฐาน
“ขอโทษฮะT-T”
“เลิกทำหน้าหงอแล้วตามมาก็พอ” นิสัยแอบเผด็จการที่ซ่อนเงียบอยู่ในซอกหลืบจิตใต้สำนึกคุณชายคิมเป็นขู่ให้ทำตามแทนการเชิญชวนไปยังโซนแบรนด์เนมที่ผู้จัดการระดับสูงคุมอยู่ แน่นอนว่าระดับนี้ไม่มีใครไม่รู้จักหลานชายท่านประธาน ทุกฝ่ายต่างวิ่งกุลีกุจอเสนอสินค้ากันให้ลึ่ม
“เดี๋ยวของผมจะเลือกเอง...แต่ของเขา..” ชี้ให้ผู้จัดการเห็นร่างโปร่งที่เดินดูสินค้าอย่างสินอกสนใจ
“รบกวนจัดให้ทั้งชุดลำลองและชุดนอนนะครับ”
“จัดสักกี่ชุดดีคะ”
“เขาสนใจตัวไหนก็มากองไว้แล้วกันครับ” พนักงานสาวเหยียดยิ้ม...
ก็คุณชายแกสบายๆกระทั่งเรื่องรูดการ์ดด้วยน่ะสิ ต่อให้เหมาหมดร้านขนหน้าแข้งก็ไม่ยักจะร่วงสักเส้น
ฮยอนจุงเลือกเสื้อผ้าสำหรับตัวเองแบบแทบไม่ต้องคิด ค่อนข้างภูมิใจนิดหน่อยที่ไม่ว่าหยิบจับอะไรก็ดูจะลงตัวเสียหมด
เมื่อเห็นว่าพนักงานที่มอบหมายหน้าที่ให้ยังวิ่งไปวิ่งมาหาเสื้อผ้าให้เจ้าตัวแสบคนว่างเลยเตร็ดเตร่ไปรอบๆ
พลันตาคมสบเข้ากับของสิ่งหนึ่งที่ชวนให้รู้สึกขันและเข้าทีในขณะเดียวกัน
“พี่ฮยอนจุงมันจะไม่เยอะไปหรอฮะ..”
ฮยองจุนกระพริบตาปริบๆมองถุงว่าที่เสื้อผ้าของตัวเองถูกแพ็คเป็นกองพะเนิน
แค่ป้ายราคาเสื้อฮูทเนื้อนิ่มสีฟ้าที่ใส่อยู่กับตัวฮยองจุนยังเกรงใจไม่หาย
สิ่งหนึ่งที่เรียนรู้หลังการได้ซื้อของกับฮยอนจุง
คุณชายคิมคนนี้ไม่เรื่องมากขนาดหนัก แค่เขาลองเสื้อตัวไหนแล้วบอกว่า “ก็โอเค” เป็นอันโกยไปกองที่แคชเชียร์
แม้ว่าฐานะทางบ้านของเขาเองก็จัดว่าดีมาก แต่การรูดการ์ดแหลกแบบนี้ยังคงห่างไกล
“รบกวนไปเก็บที่รถผมเลยนะครับจอดอยู่ช่องพิเศษของคุณปู่...แล้วเมื่อกี๊นายว่าอะไรนะ”
“ไม่มีอะไรหรอกฮะ^^” ” คิดอีกทีพูดไปเฮียแกก็จัดการให้เสร็จสรรพอยู่แล้ว ไม่พูดคงไม่ต่างอะไรนัก
เมื่อคิดได้แล้วร่างบางจึงยืนรอคนจ่ายเงินวาดลายเซ็นอย่างรู้หน้าที่ นัยน์ตาสีอ่อนทอดมองมาสคอทเรียกลูกค้าหน้าร้านขายของเล่นฝั่งตรงข้ามแล้วอมยิ้ม
ไม่ได้รู้สึกเลยสักนิดว่าคนข้างหลังจะครอบบางสิ่งบางอย่างที่เบาและนิ่มลงบนหัวเขา
“อะไรอ่ะ” มือขาวคลำหัวตัวเองป้อยๆ ที่แน่ๆมันคือหมวกแต่เป็นหมวกที่มีอะไรยาวๆเหมือนหูสีขาวคู่หนึ่ง
แถมยังนิ่มอีกต่างหาก
“สนใจสมัครเป็นมาสคอทกระต่ายมั้ยล่ะ?” มือครอบหมวกกระต่ายมองอย่างถูกใจในผลงานของตัวเอง
“หมวกหูกระต่ายนี่!..เอามาใส่หัวผมทำไม=3=” มาสคอทของคุณชายคิมเลยทำปากยื่นใส่
“อะไรกัน..พี่อุตส่าห์เจอนะเนี่ย..ใส่ๆไปเถอะน่ารักดี” พูดจบฮยอนจุงแทบกระชากลิ้นตัวเองออกมา
..ไปชมว่ามันน่ารัก...ใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย!...วันนี้เขาท่าจะเบลอจริงๆ
“อะไรนะฮะ” เคราะห์ดีเหลือเกินที่เจ้ากระต่ายดันหูไม่ดีถูกที่ถูกเวลา
“อ่า...หมายถึงใส่ๆไปเถอะเข้ากับนายดี” นึกอะไรได้ก็แถไปเรื่อย
“นี่อยากเดินดูอะไรต่อมั้ย?...มีเวลาอีกเกือบชั่วโมง” แต่เปลี่ยนเรื่องไปเลยหน้าจะเข้าท่าที่สุด
“ไปเกมส์เซ็นเตอร์^0^” ประโยคนี้แหละที่เขาคิดว่ามันเข้าท่าที่สุดตั้งแต่พบฮยองจุน
สองคนลุยเกมส์เซ็นเตอร์แลกชิพจนพนักงานเหงื่อตกจนเหงื่อแตก
เวลา1ชั่วโมงมันเป็นการบีบให้ใช้เวลาให้คุ้มที่สุด เรียกได้ว่าเล่นแบบสะบั้นหั่นแหลกจนลืมสังขาร
ส่งผลให้ขากลับ ‘กระต่ายน้อย’ จึงสลบคาเบาะอย่างที่เห็น
“ไหนพี่บอกว่าเดี๋ยวมาไง?” คุณชายจองมินที่ได้ยินเสียงรั้วบ้านเปิดเดินมาหน้าบ้านดักคอพี่ชายตามวิสัย
“แล้วนั่นหิ้วกระต่ายที่ไหนมาด้วยเนี่ย?”
“เรื่องมันยาวน่ะ..” จอดรถเข้าเทียบตีนบันไดหันไปสะกิดคนข้างๆให้ตื่น หอบข้าวของที่วันนี้ไปรูดการ์ดแหลก ก่อนโยนกุญแจให้เด็กในบ้านเอารถไปจอด
“อ้าวเด็กดีเด่น!?”
“สวัสดีตอนหัวค่ำ..ง่ำๆ” กระต่ายน้อยที่งัวเงียเต็มแก่เดินโซเซตามคนนำทางไป
“พาใครมาน่ะฮยอนจุง” ท่านเจ้าบ้านถามหลานชายหัวแก้วหัวแหวนที่กระเตงร่างบางหัวกระต่ายมาด้วยราวกับเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆที่หลานชายคนโตไม่ยักจะชอบพาเพื่อนมาบ้านสักเท่าไหร่
“รุ่นน้องน่ะครับ วันนี้เจอกันครั้งนึงแล้วที่แอร์พอร์ต..” ซึ่งฮยอนจุงต้องรับบทเท้าความตั้งแต่ต้นจนจบ
ถึงขั้นที่คุณชายใหญ่ปาดเหงื่อเลยทีเดียว
“เราน่ะฮยองจุนสินะ...ยังไงคืนนี้ต้องหาห้องให้เราพักน่ะล่ะ” ชายชราพูดหน้าตายิ้มแย้ม แม้จะเพิ่งเจอเด็กคนนี้แต่ตาโตใสแจ๋ว(ที่เหลือแค่ครึ่งลูก) กับรอยยิ้มมีชีวิตชีวา(ปนงัวเงีย)ทำให้รู้สึกเอ็นดูอย่างประหลาด
“ไม่ต้องหรอกครับ..ผมนอนที่ไหนก็ได้..” พูดทั้งที่ตาจะปิดอยู่รมร่อ
“จะให้พวกแม่บ้านจัดห้องเพิ่มหรอครับ” คยูจงที่นั่งอยู่ด้วยเปรย...
แค่รื้อห้องเก่าจองมินกับฮยอนจุงก็เห็นแม่บ้านปัดกวาดเช็ดถูกันหูตาเหลือก
“มันจะดีเร๊อ...”
“นอนห้องผมก็ได้นี่ครับปู่...ผมเป็นคนพาเขามา” คำพูดที่ทำเอาน้องชายแทบสำรอกน้ำแครอท
เพื่อนรักถึงขั้นสำลักอากาศ
“เอางั้นก็ได้...ดูเค้าจะง่วงนอนแล้วน่ะสิ” ประธานคิมหันมองกริยาง่วงหงาวหาวนอนปนสัปหงกรอบที่ร้อยของ ฮยองจุนนับแต่เดินเข้าบ้านก็ชักเห็นใจ
“งั้นผมพาฮยองจุนไปนอนก่อนแล้วกันครับ” ไม่ใส่ใจกับท่าทางแปลกใจแบบโอเว่อร์ของจองมิน
เดินชี้ทางให้คนงัวเงียเข้าที่พักอย่างสวัสดิภาพ ภาวนาไม่ให้ตกบันไดลงมาคอหักตายเสียก่อน
“โอ้แม่เจ้า!นั่นนายบอกฉันทีดิ่คยู..น้ำหน้าอย่างพี่ฮยอนจุง!!....O0O”
“ไม่จองมิน..นายแหละบอกว่านี่คือความจริงO_O”
“ฉันไม่เห็นว่าการที่ฮยอนจุงเกิดมีน้ำใจกับเพื่อนมนุษย์ขึ้นมาจะแปลกตรงไหน..”สองหนุ่มพร้อมใจกันหันไปมองทางต้นเสียงเป็นตาเดียว ชายชรายกริมฝีปากขึ้นอย่างพอใจ แล้วเปล่งเสียงออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ
“หลานปู่ซะอย่าง ฮ่าๆๆๆๆ” สองหนุ่มจึงได้แต่สบตาแล้วสามัคคีกันถอดถอนใจ
= =นั่นมันหลงหลานจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วครับตา/ปู่
---2---b---c-o-n-t-i-n-u-e----->>
วันนี้อัพแบบไม่ผิดพลาดสบายใจจัง...อ่านแล้วเม้นด้วยจะถือเป็นความกรุณาอย่างสูงเลยค่ะ
ความคิดเห็น