ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SS501] At what point shall we begin (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #12 : Hyungjoon BirthDay ShortFic - Kidnaper

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 51


    ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับAt What pointแต่อย่างใด

    เป็น Special แยกออกมาต่างหากน่ะค่ะ

     สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะเขี้ยว

     

    Hyungjoon BirthDay ShortFic

     "Kidnaper"

     

    1

    ผมคิมฮยองจุนอายุ20ปี อีกไม่ถึง10นาที ผมจะกลายเป็นคิมฮยองจุนอายุ21ปี

    21 ปีที่ผมทำให้พ่อแม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลลูกชายคนโตที่กำลังพยายามทำให้พวกท่านภาคภูมิใจ  

    ผมตัดสินใจอยู่กินข้าวและค้างที่บ้าน บอกราตรีสวัสดิ์พ่อ แม่ และน้องชายเป็นครั้งแรกในรอบปี

     

    แต่ก็เป็นครั้งแรกในรอบปี

     

    ที่ไม่ได้ยินคำกล่าวราตรีสวัสดิ์จากคนๆนั้น...

    สองมือยกขึ้นห่อตัวหลวมๆเมื่อต้องไอเย็นของน้ำค้างยามค่ำคืน

    แม้อากาศริมระเบียงจะไม่ได้หนาวไปกว่าความรู้สึกของผม

    แต่การข่มตาหลับมันคงยากยิ่งกว่ารอให้ผ่านพ้นวันใหม่เสียอีก

     

      "วันนี้ผมจะกลับบ้าน" ผมโพล่งขึ้นกลางโต๊ะอาหารเช้า ทั้งที่สมาชิกในบ้านทั้งหมดยังไม่ตื่นดี

     

    "อืมก็เอาสิ...แต่แหมนึกว่าจะอยู่ฉลองกับพวกเราซะอีก"

    พี่ยองแซงพูดพลางถมกับลงในจานข้าวตัวเองอย่างได้อรรถรส 
    ในขณะที่คนข้างๆผมนั่งจ้องชามข้าวเปล่าหลังฟาดไปแล้วหนึ่งสำรับเงียบๆ

     

    "ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน ยังไงพรุ่งนี้ก็วันเกิดผมอยู่ดีนี่นา หลังเสร็จงานก็ช่วยๆกันเลี้ยงผมด้วยนะ"

     

    "ได้อยู่แล้ว เพราะคนเลี้ยงน่ะคนนู้น"

     

    "นั่นสิ..พวกเราพลอยได้ลาภปากไปด้วยทุกที..งานนี้อาหารอิตาเลียน ภัตตาคารจีนหรือโรงแรม5ดาวที่ไหนล่ะพี่"

     

    "พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง" พี่ฮยอนจุงตอบก่อนรับชามข้าวไปพุ้ยต่อทั้งที่ไม่เงยหน้ามองใคร "ต้องเข้าบริษัท"

     

    "เกินไปมั้งมีแค่เพอร์ฟอแมนซ์นิดหน่อย...พี่จะเข้าไปทั้งวันเลยรึไง"

     

    "ก็ทำนองนั้น..อิ่มแล้ว" ร่างสูงลุกจากโต๊ะทันทีที่กล่าวจบ

     

    "วันนี้ฮยอนจุงทำตัวไม่น่ารักเลย- -" พี่ยองแซงทำหน้ามู่ทู่ก่อนตักสันในหมูย่างเข้าปาก

     

    "พูดเหมือนปกติน่ารักเลยเนอะ" จองมินแย้ง

     

    "วันเกิดมักเนทั้งทีทำงี้ได้ที่ไหนล่ะ"

     

    "แต่ผมเห็นเอกสารจากบริษัทแล้วพี่ สำคัญจริงๆน่ะแหละ เรื่องโปรโมตซิงเกิ้ล

    ทำอัลบั้ม แล้วยังเรื่องคิวซ้อมกับแผนงานยันปีหน้าเลยนะ" คยูจงอธิบายในขณะที่ผมชักจะกระเดือกซุปกิมจิไม่ลงคอ

     

    "แล้ววันเกิด..!" จองมินขึ้นเสียงสูง

    "...เจ้านี่ล่ะ?" ก่อนจะแผ่วปลายเสียงลง  หมอนั่นทำหน้าเหมือนถ่ายไม่ออก

    เมื่อหันมาพบว่าผมตักผักขม แครอท หัวหอม บรรดาเมนูเพื่อสุขภาพของเขาใส่ปากได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

     

    ปกติผมก็ไม่ชอบหรอกนะ...

    แต่ตอนนี้ลิ้นจืดสนิท หลับหูหลับตากินเข้าไปสร้างวิตามินสักหน่อยคงไม่ตาย!

    กลายเป็นสร้างบรรยากาศหดหู่ให้กับมื้อเช้าของทุกคน

     

    "จริงๆแล้วพี่เค้าคิดว่าคืนนี้จะพาทั้งบ้านไปฉลอง จองร้านไว้แล้วด้วย"

     

    "แล้วทำไมไม่ปรึกษากันเลยอ่ะ" คยูจงยิ้มเจื่อนก่อนพูดประโยคฆ่าตัวตายออกมา

     

    "พี่ฮยอนจุงกลัวคนอื่นปากสว่างบอกฮยองจุนก่อนน่ะสิ" เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง
    จองมินตวาดแหวด่าไล่หลังพี่ฮยอนจุง ก่อนหันมาลงกับคยูจงผู้จริงใจในการให้ปากคำด้วยการล้มโต๊ะอาหาร
    พี่ยองแซงปิดปากเงียบและไม่หันไปพูดกับคยูจงอีกเลยจนกระทั่งเก็บล้างและบัดนี้...สภาพความวุ่นวายย่อมๆนี้เอง
    ที่จะเป้นโอกาสให้ผมปลีกตัวออกมาพูดกับคนๆหนึ่งให้เข้าใจ

     

     

    "พี่ฮยอนจุง.." ผมพูดอย่างกล้าๆกลัวเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องกำลังงีบหลับ

    "..." ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...โอเคไว้ค่อยคุยกันทีหลัง...

     

    "จะกลับบ้านเมื่อไหร่..เดี๋ยวไปส่ง" เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนผมจะก้าวผ่านธรณีประตู

     

    "หลังเสร็จงานน่ะฮะ"

     

    "แล้วพรุ่งนี้กลับกี่โมง..จะให้คนไปรับ"

     

    "ตาม...ทุกคนสะดวกแล้วกันฮะ" ผมตอบเสียงอ่อย..อย่างไม่กล้าจะสบตาคนตรงหน้าเท่าใดนัก

     

    "แวะซื้ออะไรก่อนเข้าบ้านมั้ย"

     

    "อ่า!..เมื่อวานผมออกไปซื้อ...มาแล้วฮะ" ผมสามารถอ่านคำว่า "ผิด" ได้จากดวงตาคู่นั้น

    เหมือนตอกย้ำว่าตัวเองทำอะไรคนเดียวโดยพลการ  เท่านี้ก็เป็นการบอกได้กลายๆว่าแผนจะกลับบ้านวันนี้มีการเตรียมการ
    แต่ไม่มีการบอกกล่าวให้ใครรู้.. ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องส่วนตัว...ของผมไม่ใช่หรอ
    ?

     

    "อืม"

    คำตอบสั้นๆของพี่ฮยอนจุงกลับทำให้ผมเข้าใจในความผิดของตนเองในที่สุด

    เมื่ออีกฝ่ายเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงกองแผ่นพับ และบัตรรูปแบบเดียวกัน5ใบบนหัวนอน ...



    ผมค่อยๆทิ้งตัวลงบนเบาะก่อนบรรจุงหยิบเอกสารพวกนั้นขึ้นมาพิจารณา

     

     

     

    อยากหัวเราะให้กับความเฉิ่มของลีดเดอร์จอมวางมาดคนนี้จริงๆ แค่จะพาไปเลี้ยงข้าว...

     

    ทำไมต้องเขียนนู่นขีดนี่ให้วุ่นวาย?

     


    หัวกระดาษเป็นลิสเมนูตั้งแต่ออร์เดิฟยันของหวาน

    เขียนตัวแดงๆโตๆไว้ในบางรายการให้งดผักบางประเภทที่ผมไม่ถูกโรคด้วย

    เอ่อ....อ่านถึงตรงนี้รู้สึกตื้อๆในอกยังไงอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

     

    ผมกวาดตาอย่างเร็วๆเพราะกลัวเจ้าตัวจะจับได้ พลันสะดุดตากับรอยดินสอมุมซ้ายล่าง

    เหล้าใส่อาหารชนิดที่ดีกรีแรงเกินไป(ในสายตาเขา)ถูกเขียนกำกับไว้พร้อม...ผมไม่ใช่เด็กอมมือซะหน่อย!


    ชอบห่วงเกินจำเป็นทุกทีเลย -///-

     


    เฮ้อ....ไม่อยากกลับบ้านแล้วล่ะครับทำไงดี
    ?

     

     

    "คนมาส่งหน้าคุ้นๆนะพี่" ร่างโปรงด้วยความสูงไล่เลี่ยกับผมพูด ขณะที่ผมหิ้วกระเป่าสัมภาระและถุงของฝากเข้าบ้าน

     

    "มาเรียงของพวกนี้ซะ..ถ้าว่างนักละก็" 

    "คนมาส่งทั้งทีไม่มีเรียกเข้ามาพักดื่มน้ำซะหน่อยล่ะฮะ"

    "วันหลังก็เองเรียกสิ"

    "พูดเองนา...ที่ปกติไม่เรียกเพราะเกรงใจพี่จุนหรอก..เดี๋ยวข้ามหน้าข้ามตา" พูดจบก็แลบลิ้นปลิ้นตา
     
    วิ่งหนีลูกถีบขึ้นชั้นสองไปอ้อนแม่ตามระเบียบ พักหลังชักจะเอาใหญ่แล้วนะน้องคนนี้

    ผมเดินลงส้นเท้าหนักๆไปหยุดอยู่ที่ตีนบันไดแล้วปล่อยพลังเสียงออกมาประหนึ่งพี่ยองแซงโหยหวน

    ในเพลงFind

    "ไอ้เด็กแก่แดด!!!!"
     


    คิดแล้วก็ให้ขำ...

    พอแม่ได้ยินเท่านั้นแหละ คุณนายคิมได้เดินนวยนวดลงมาอบรบลูกชายคนโตอย่างกระผมเสียยกใหญ่
    หาว่าผมพูดจาหยาบคายกับน้องชายสุดที่เลิฟ...แก่แดดเนี่ยนะหยาบคาย
    ?
    งั้นวันหลังจะเปลี่ยนเป็น แ-ร-ด แทนแล้วกัน ชิไอ้ลูกคนโปรด-*-

    โปรดไม่โปรด..ถ้าทุกคนพอจะจำได้...ผมเคยถ่ายทำรายการจากบ้านตัวเองอยู่ครั้งหนึ่ง
    ห้องนอนที่เป็นสวรรค์ของผมถูกน้องชายบังเกิดเกล้ายึดอาณาจักรไปเรียบร้อย
     
    ส่วนพี่ชายผู้เสียสละอย่างผมต้องอับเปหิตัวเองลงไปนอนพื้น แน่ละครับโชว์ก็เพิ่งขึ้น งานเข้าขนาดนี้
    นอนพื้นแข็งๆจะให้หลับลงยังไงไหว แถมวันนี้แตะกับข้าวไปนิดเดียว
     
    แม้คุณแม่ผมจะรสมือเยี่ยมก็เถอะ...จู่ๆตอนนั้นท้องมันก็ออกอาการไม่รับขึ้นมาเสียเฉยๆ

    ตอนนี้สำนึกได้แล้วว่าอยากกลับ "บ้าน" หลังที่ทุกๆคนเอาใจใส่ผมในฐานะน้องเล็ก
    วันนี้ผมควรได้ไปร้านอาหารสุดหรูเลิศ ที่ผมกับสมาชิกในวงอีก4คนจะได้ฉลองร่วมกัน
    ได้ของขวัญห่อโตๆ กินข้าวกันจนพุงกาง เฮฮากับทุกคน...ทุกอย่างพี่ฮยอนจุงเตรียมไว้หมดแล้ว

    อยากเจอ...

    ..พี่ฮยอนจุง

    ผมหลับตาลงช้าๆเมื่อรู้สึกถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว  แหงนหน้ารับสายลมที่พัดผ่าน
    ลมเย็นพัดเอื่อยๆชวนให้เย็นใจกระทั้งเส้นผมที่ปลิวไสวไปตามแนวแรงกลับคงที่
    หากแปลกกว่าเคยเมื่อยามนี้ผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นห่อหุ้มอยู่รอบกายชวนให้ใจผมหยุดความคิดทั้งมวล
    เพราะมัวเคลิบเคลิ้มอยู่กับภวังค์นั้น จนไม่ทันตรองว่าความรู้สึกนี้มาจากอ้อมกอดของแขกผู้มาเยือนยามราตรี!

    "มารับแล้ว" เสียงทุ้มกระซิบเข้าที่ข้างหู ทำให้ผมตื่นจากละเมอ


    "พี่ฮยอนจุง!" ผมหันหน้าไปมองบุรุษด้านหลังด้วยความตกใจ

    "มาได้ยังไงเนี่ย!?"


    "ปีนขึ้นมา"  ร่างสูงตอบหน้าตายก่อนเคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาเข้าใกล้ผมจนรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดต้นคอ 

    "กล้บด้วยกันนะ"


    "
    ใช่ที่ไหนล่ะ..ผมบอกให้พี่มารับวัน.."

     

    "นายบอกพี่เมื่อวานแล้วนี่ก็..เที่ยงคืนแล้ว-" พี่ฮยอนจุงพูดดักอย่างรู้ทัน..จริงสินี่ก็ข้ามวันแล้วนี่นา

     

    "ต..ตอนนี้เนี่ยนะ" ผมพยายามคุมเสียงให้เป็นปรกติ จะหันไปก็ไม่กล้า มีหวังแก้มชนกับจมูกพี่เค้าแหงมๆ
    จะให้เสียผีไม่ได้
    > <

     

    "ก็นายบอกว่าเมื่อไหร่ก็ได้ที่สะดวก" ..ง่าแต่ตอนนี้พี่กำลังทำผมหายใจไม่สะดวก

     

    "แต่พี่บอกว่าจะส่งคนมารับ..ผมก็นึกว่าอีกสามคน" พูดพลางใช้นิ้วสะกิดแขนพี่ฮยอนจุงเบาๆ..ปล่อยเค้าเถอะT^T

     

    "แล้วพี่ไม่ใช่คนรึไง..กลับกันพรุ่งนี้ 9โมงต้องรีบเข้าบริษัทอุตส่าห์หลับตุนมาทั้งวันเลยนะ"  
    ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เมื่อพี่ฮยอนจุงก้มลงมาเคยคางบนไหล่ผม..แข็งเลยสิครับทีนี้

     

    "แล้ว..จะกลับ...ยังไง..ล่ะฮะ"

     

    "พี่ไม่ให้นายกลับทางที่ปืนขึ้นมาหรอกน่าออกทางปกตินั่นแหละ" คนพูดยิ้มน้อยๆเมื่อพอใจกับการตักตวงกำไรไปเกินสมควร
    จึงคลายมือออก...โฮกกกก...มายฟรีด้อม

     

    "มาอย่างโจรแต่จะไปอย่างผู้ดีเนี่ยนะ=*=" ผมพูดพลางสำรวจร่างสูงได้อย่างถนัดตาขึ้น
    จะมารับผมทั้งที..หรืออาจแค่ความคิดชั่ววูบก็เป็นได้

    ลีดเดอร์แห่งวงดับเบิ้ลเอสไฟว์โอวันในชุดกีฬาอาดีดาส(ชุดนอนของพี่เค้าล่ะ)กับกางเกงขายาว 
    ยืนกอดอกจ้องหน้าผมในแสงสลัว


    "
    จะให้กลับไปอย่างผู้ดีหรือโจรลักพาตัวล่ะ- -++"

    พี่อย่าถือเค้านะตะเอง...โดนปล่อยปุ๊บปากเก่งปั๊บเกือบซวยแล้วมั้ยล่ะ

     

    "ง่ะ...ผู้ดี๊ผู้ดี เค้าไม่ข้องใจแล้วT^T"

     

    "เด็กดี..งั้นไปเก็บข้าวของเฉพาะที่จำเป็นแล้วไปกันเลย"

     

    "ฮะ..แต่ถามอีกนิดนึง...ผมต้องเขียนโน้ตไว้ว่ายังไงถึงจะไม่โดนแม่ดุ...แว้ก"

    ผมแหกปากเกือบลั่นเพราะยังมีสติเกรงใจพ่อกับแม่ห้องข้างๆ ทว่าลีดเดอร์แห่งวงดับเบิ้ลเอสไฟว์โอวัน
    กำลังปุกพยานปากเอกนามว่าคิบอมน้องชายในไส้ของผม ผู้ครอบครองพื้นที้70%ของห้อง...ด้วยการเขย่าให้ตื่น
    !

     

    "หือ...อะไร...อ่า...พี่ฮยอนจุงสวัสดีครับ ง่ำๆ" พระเจ้า!=[]=

    น้องชายผมงัวเงียเงยหัวขึ้นจากกองผ้าห่มมาทักทายแขกยามวิกาลอย่างซื่อๆ

    ไม่มีอารม์ณหงุดหงิดเหมือนตอนผมสะกิดปลุกอย่างเกรงใจเลยสักนิด

     

    "ฝากบอกพ่อกับแม่ด้วยว่าพี่ต้องพาฮยองจุนกลับก่อน ธุระสำคัญมาก"

     

    "เหอ?..ธุระ..งืม..คับๆ..เดี๋ยวบอกให้..ตึง!" น้องชายหัวดื้อวันนี้ว่าง่ายอย่างเหลือเชื่อ

    ตกปากรับคำปุ๊บก็ลงรูไปโดยอัตโนมัติ

     

    "ฝันดี..แปะๆ" พี่ฮยอนจุงตบหลังดักแด้น้อยคิบอมใต้ผ้านวมอย่างเอ็นดู  

    หอบข้าวของของผมเดินนำเจ้าของบ้านอย่างผมไปหน้าตาเฉย

    ผมยังไม่ทันเปลี่ยนชุดเลยนะ!

     

    "มัวทำไรอยู่..ต้องให้อุ้มลงไปมั้ย?"

     

    "เย้ย..เค้าเกรงใจไปเองได้ค้าบ" ..วันเกิดเราแท้ๆขู่ได้ขู่ดี ฮือออออ..

    แต่ให้เค้าใส่ลายเป็ดน้อยนี่กลับบ้านจริงอ่ะ
    !?

    บ่นไปยังงั้นแหละครับ ใจมันพาให้เดินลงบันไดดุ่ยๆตามโจรลักพาตัวกิติมาศักดิ์ 
    กระโดดขึ้นเบาะหน้าปรับแอร์รอพี่ฮยอนจุงลากกระเป๋าเสื้อผ้าผมใส่ท้ายรถ

     

    นั่งเอาหน้าเป่าลมให้หนาวเล่นอยู่นานสองนานพี่ฮยอนจุงถึงจะโผล่ศีรษะเข้ามา  
    ฝ่ามือมัจจุราชซัดอาวุธลับขนาดใหญ่เข้าให้จนผมรับแทนไม่ทัน  เกือบจะแหกปากโวยวายไปแล้ว
    ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้าสิ่งนั้นคือตุ๊กตาหมาตัวโต
    ทำหน้ายู่ยี่เหมือนอดนอนชนิดไม่บอกก็รู้ว่าใครให้ 
    แต่ความนิ่มของมันนี่สิ...สวนทางกับหน้าตาลิบลับเลย
    > <

     

    "ฟัดมันจนไส้จะทะลักขนาดนั้นชอบล่ะสิ"

     

    "ก็..เฉยๆอ่ะของพื้นๆ" ผมตอบอย่างไว้เชิง

     

    "งั้นเอามา"

     

    "แง้...ถูกใจจนน้ำตาจะไหลเลยฮะT^T"

     

    "ก็แล้วไป- -+"

     

    "ว่าแต่...ของขวัญวันเกิดผมใช่ป้ะ0...0"

     

    "อือ" เพียงเสียงตอบรับสั้นๆใจผมกลับสั่นแปลกๆ

     

    "ข..ขอบคุณนะฮะ..เอ่อ" ผมนึกอยู่หลายตลบว่าจะแสดงออกวิธีไหนถึงจะเหมาะที่สุด
    แล้วก็ลงเอยด้วยวิธีที่หวังว่าเจ้าของหมาจะถอดมาดขรึมน่าหมั่นไส้ออกเสียที

     

     

    "จุ๊บ" ถือเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต! 
    ผมหลับตาปี๋แตะริมฝีปากเบาๆที่ข้างแก้มพี่ฮยอนจุง ก่อนหันหน้ามองตรงอย่างรวดเร็ว

    อะไรดลใจเราเนี่ยยยยยยยย!!!!

     

     

    "แค่เนี้ย?"  ปฏิกิริยาตอบกลับสุดแสนเย็นชาจนผมอยากเอาหัวฟาดกระจกหน้า

    ประโยคเย้ยหยันดับความโรแมนติกได้ชะงัด

     

    ..ยิ้มสักนิดก็ไม่มี..=3=

    ก้อนหิน!ท่อนไม้!ไอ้พี่ฮยอนจุงโรบอท!

    แต่ที่สำคัญ.....


    กว่าจะทำไอ้อย่างมะกี๊มันยากนะเฟ้ย
    !

     

    "จะเอาอะไร" งอนครับ...ของอน

    ว่าแล้วก็เบี่ยงหน้าดูวิวแทนดูหน้าหล่อแต่ทื่อเป็นสากกะเบือของใครบางคน

     

    "บอกไว้ก่อนว่าตอนนี้ยากจน!ไม่มีอะไรจะให้-3-" ประโยคนี้ขอไว้อาลัยแก่การกระทำเมื่อ4-5วิที่แล้ว

     

    ทว่าน้ำหนักของมือใหญ่ที่วางบนศีรษะก่อนไล้ไปตามเส้นผม

    กำลังทำให้ความคิดประทุษร้ายพี่ฮยอนจุงทั้งมวลถูกม้วนเก็บเข้ากรุไป    

     

    "ไม่เอาหรอกแค่ชอบก็ดีใจแล้วล่ะ"  เสียงทุ้มกล่าวพร้อมรอยยิ้มก่อนมือหนาจะเลื่อนมาหยิกแก้มผมเบาๆ

     

    "./////////."

     

    ความร้อนจากสัมผัสข้างแก้มกำลังลุกลามไปทั่วใบหน้า 

    รอยยิ้มอบอุ่น กับสายตาอ่อนโยนกำลังทำให้ใจผมแกว่งไปมาเหมือนลูกตุ้มนาฬิกา

    ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดเขินแทนคนพูด ><

     

     

    "แล้วอย่ามัวกอดแต่มัน ไม่งั้นจะยึดคืน"

     

    "ง่ะ.." ผมไม่ได้คิดลึกนะ แต่พี่เค้าทำให้คิด

     

    "ห้ามรักมันมากกว่าพี่ด้วย ไม่งั้นจะเผาทิ้งไปเลย"


    "
    หา!?"

     

    "เข้าใจยากหรอ"

     

    "ก็..รักมากกว่า..อะไร..เผา..ยังไง.."

     

    "พี่รักนาย.."

     

    ตูมมมมมมมมมม!

    ระบบประสาทส่วนกลางของผมกำลังถูกทำลาย!

    ด้วยคำหวานผ่าซาก....ของคุณชายสากกะเบือ@_@

     

    โอย...เอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนถึงจะเหมาะเนี่ย...

    อารมณ์นี้มันเกินบรรยายจริงๆครับ  อยากยิ้มจนแก้มฉีกแต่เล่นเอาน้ำตาแทบร่วงเหมือนกัน

     

    หรือต้องซบอกพี่ฮยอนจุง? ....

     

     

    โนวววว!!!!!!!


    ทำไมกลายเป็นคนใจง่ายเช่นนี้
    !

    จะว่าไป...ที่เคยซบมันก็อุ่นดีนะ (.,,,.)

     

    ว้ากกกกกกกกกกก! 

    พระเจ้าเอาศีลธรรมกลับมาสู่จุนนี่ที~

     

    มือทั้งสองกอดน้องหมาหน้าย่นซ่อนใบหน้าแดงก่ำด้วยความคิดอกุศลนับร้อยแปด
    ชั่วครู่ผมกลับรู้สึกหวิวๆที่แผ่นหลังราวถูกคนข้างเคียงจับจ้องจณะคิดไปไกลคนเดียวได้ตั้งนานสองนาน
    รถที่เคลื่อนที่บนถนนใหญ่ยามค่ำคืนค่อยๆชะลอความเร็วลงจนนิ่งสนิทในเลนส์จอดรถส่วนบุคคล


    เอาล่ะสิ..เป็นลางสังหรณ์..^^"


    "คืนนี้มานอนห้องพี่"
    เฮือก
    ...ทำไมตาคมคู่นั้นถึงได้พราวระยับถึงเพียงนี้!?
    ได้ข่าวว่าพี่แกหลับชาร์ตพลังมาทั้งวัน! นี่คงไม่ใช่ทำดีหวังผล ทำตัวน่ารักแต่หวังลักหลับเค้านะ!!


    "หึหึ"
    เสียงหัวเราะในลำคอแบบเอคโค่ผนวกกับรอยยิ้มปีศาจกระชากผมให้ออกมาเผชิญหน้ากับโลกแห่งความจริงอีกครั้ง
    ขาสองข้างก้าวเดินตามร่างสูงไปช้าๆไม่ห่างกันนัก มือใหญ่ฉวยข้อมือข้างที่ว่างอยู่ของผมแล้วออกแรงดึงให้เข้าไปใกล้
    สาบานได้ว่าสามัญสำนึกผมบอกให้ฝืนตัวแต่แรงควายๆของพี่ฮยอนจุงกระตุกแค่ครั้งเดียวระยะปลอดภัยก็ถูกทำลาย


    นี่สินะครับคือจุดจบของการหนีตามผู้ชายที่ใครๆเค้าว่ากัน..

    ประตูบ้านถูกเปิดและปิดลงเบาๆในความมืด มุมปากได้รูปยกขึ้นเล็กน้อย
    มืออุ่นผละจากข้อมือ เคลื่อนมาโอบรอบเอวผม..
    พอจะแกะมือหรือขืนตัวออกพี่ท่านก็จะยิ่งรัดแน่นหนักกว่าเดิม

    เมื่อขยับปากหมายจะต่อรอง สรรพเสียงนั้นกลับถูกดูดกลืนอย่างหนักหน่วง
     
    จนแรงต้านทั้งหมดสลายไปในที่สุด

     

    ในคืนวันเกิดอายุครบ21ปี ผมถูกลักพาตัวออกจากบ้าน  ซึ่งผู้ต้องหามีรูปร่างสูงสง่าเยี่ยงเจ้าชายในฝัน      
    ใบหน้าหล่อซึ้งเหมือนพระเอกในซีรี่ย์  พูดจากวนประสาทได้บาดใจ  และสายตาพิฆาตชนิดขยี้หัวใจคุณได้ง่ายๆ

    ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดไม่ใช่ระเบียงบ้านที่ปีนง่ายจนเกินเหตุหรือน้องชายตัวแสบที่รู้เห็นเป็นพยาน 

    แต่เป็นหัวใจเจ้ากรรมที่ยอมจำนนทุกรณีต่อผู้บุกรุกยามวิกาลคนนี้

    -
    -- --
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -HBD Hyugjoonnie- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    วันนี้ไม่ได้อัพอะไรเพิ่มหรอกค่ะแต่มาแก้คำผิดแหะๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×