ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SS501] At what point shall we begin (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #10 : chapter9:Jealously

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 51


    ออฟฟิสที่สงบเงียบเบื้องหลังศูนย์การค้าใจกลางกรุงโซล แม้จะมีทางเชื่อมเฉพาะสำหรับพนักงาน

    แต่บรรยากาศกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง

     

    ศูนย์การค้า..ที่เต็มไปด้วยผู้คน บ้างเป็นครอบครัว บางเป็นกลุ่มเพื่อน  บ้างก็เป็นคนรัก

    ล้วนแสวงหาความสุขและบันเทิงจากที่นั่น

     

    สำนักงานของเหล่ามนุษย์เงินเดือน..ไม่ใช่ที่สถานที่อภิรมย์สำหรับชายหนุ่มนักบริหารคนเก่งสักเท่าไหร่

    เว้นอยู่กรณี...ถ้าจมอยู่กับกองเอกสารพวกนี้แล้วได้เหลือบมองคนแก้มยุ้ยคร่ำเคร่งกับงานของตัวเอง

    คยูจงก็ไม่ปฏิเสธหากแฟ้มงานชวนปวดหัวนี่จะมาอีกสักกี่ตั้ง

    ..แค่เหลือช่องเล็กๆไว้สักหน่อย

    ให้นัยต์ตาสีเทามีโอกาสชำเลืองมอง กำลังใจ  เป็นพอ

     


    โป๊ก
    !

     

    โอ๊ย!”  มือใหญ่ลูบหน้าผากตัวเองหลังถูก กำลังใจประทุษร้ายไปหมาดๆ

    แท่งพลาสติกทับกระดาษลายโบโนโบโน่แผลงฤทธิ์รุนแรงพอๆกับความแม่นยำของคนปา

     

    เหม่ออย่างนั้นงานจะเสร็จมั้ย?  ร่างบางโต๊ะข้างๆพูดเสียงเรียบ

    ก้มหน้าก้มตาเก็บรายละเอียดตรวจงานโฆษณาชิ้นเมื่อวานต่อ  หลังเหล่มองผลงานลูกกะปูดบนหน้าผากของคยูจง

     

    ไม่ได้เหม่อนะยองแซง

     

    ยังจะแก้ตัวอีกหรอ..ฉันมาทำงานในนี้นายเสียสมาธิรึปล่าว?...จริงๆให้ไปนั่งออฟฟิสข้างนอกก็ดีนะ

    เมือเรียวหมุนปากกาเล่น..เปิดบทสนทนาง่ายๆทว่าโหดร้ายกับอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว

     

    ไม่ๆ จะอยู่ทำไมข้างนอก..นายชอบที่เงียบๆนี่จะได้มีสมาธิไง

     


    ก็ไม่นะ..เห็นเลขานายกับโอเบอร์เรเตอร์ข้างนอกเม้าท์กันสนุกดี..ครึกครื้นจะตายไปริมฝีปากแย้มยิ้มอย่างอารมณ์ดี
    ...คยูจงนี่ก็แปลกคน หมกตัวอยู่ในห้องทึบๆจนชินสินะ...

     

    หันไปอีกทีร่างบางก็แทบสะกดกลั้นอารมณ์ขันไว้ไม่อยู่

    นัยนต์ตาคมสีเทากระพริบปริบๆ มองละห้อยอย่างหน้าสงสาร

    เหมือนเด็กน้อยที่ถูกทิ้งให้เฝ้าบ้านคนเดียว..แถมแว่นสายตาก็ไม่ได้ใส่แล้วยิ่งดูเด็กขึ้นเป็นกอง

    จะว่าไปคยูจงก็เด็กกว่าเขา3-4เดือนจริงๆนี่นา

     


    ยองแซงงงง  เสียงยานคางแบบเรียกร้องความสนใจดูขัดกับคนตัวโตในชุดสูทพิลึก 

    มือขาวซีดจึงยกขึ้นปรามอย่างยอมแพ้

     

     

    เอาล่ะๆฉันรู้ว่านายเหงา..จะอยู่เป็นเพื่อนก็ได้^^”

     


    ก๊อกๆ

     

    พลันเสียงเคาะประตูดังเป็นสัญญาณให้สองคนในห้องทำงานอยู่ในอาการสำรวมอย่างที่ควรจะเป็น

    คยูจงปรับท่านั่งให้เข้าที่พร้อมเปิดแฟ้มเล่มบนสุดขึ้นมาดู ตีสีหน้าเครียดชนิดที่ไม่มีใครจับได้

    ว่าเมื่อครู..หนุ่มคนนี้กำลังอู้งาน

     


    ...จริงๆที่ขรึมก็แค่ทำเนียนน่ะล่ะ...
    กับอีกคนที่ยังอมยิ้มกับท่าทางหน้ามือเป็นหลังเท้าอย่างนั้น

     


    เชิญครับ

     

    ฉันไม่ได้มากวนใช่มั้ยคะ?  แขกกิตติมาศักดิ์ผู้ไม่ได้รับเชิญเยื้องย่างไปยังมุมโต๊ะรับแขกอย่างมีอภิสิทธิ์

     

    คูณหนูชินฮเย...  คยูจงและยองแซงลุกขึ้นยืนโค้งทักทายเป็นมารยาท

     

    นั่งทำงานไปเถอะค่ะ...ดูยุ่งๆกันอยู่ 

    ซึ่งยองแซงก็ไม่ขัดอยู่แล้วที่จะละเว้นซึ่งมารยาทหากเจ้าหล่อนจะเป็นฝ่ายไม่ถือซะเอง 
    ผิดกับคยูจงที่ปลีกตัวจากกองเอกสาร 
    มานั่งสนทนากับคุณหนูตระกูลลีทันที

     


    ...ก็เรื่องที่ฮยอนจุงทิ้งคุณเธอไว้คราวที่แล้ว

    ..ถ้าไม่พอใจขึ้นมาอาจเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้...

     


    แหมพี่คยูจงยังรักษามารยาทเหมือนเดิมเลยนะคะ หญิงสาวแย้มรอยยิ้มหวานอย่างมีไมตรี 

    จงใจกดหนักไปยังคำว่า  มารยาท โดยเฉพาะ   นัยน์ตาเรียวรีของคนมุมห้องเหล่มองเล็กน้อยแบบที่ไม่ให้ชิยฮเยรู้ตัว

     

    ก็คุณหนูอุตส่าห์มาทั้งที...ทำไมไม่รอที่ห้องรับรองด้านนอกล่ะครับ  มีอะไรเรียกผมออกไปคุยจะสะดวกกว่า

     


    จริงๆฉันแค่อยากมาปรึกษาเรื่องพี่ฮยอนจุงน่ะค่ะ...และคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว

    ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีคนอื่นนั่งอยู่ด้วย  

    น้ำเสียงราบเรียบเน้นจริตกำลังรบกวนประสาทการทำงาน
    ของคนที่มุมห้องเงียบๆ  
    เพียงเจ้าของความรู้สึกกลับสงบนิ่งแสร้งเป็นไม่เข้าใจในความหมายแฝงนั้น

     


    ยองแซงไม่ใช่คนอื่นนะครับ...ออกจะสนิทกับพวกผมมากด้วยซ้ำ 

    แม้ร่างสูงยังรู้สึกถึงแรงกดดันนั้นจึงพูดออกไปอย่างบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น

     

    ตายจริง! ฉันไม่รู้เลยพูดอะไรผิดออกไป..ขอโทษด้วยนะคะ

    มือเรียวยกขึ้นป้องปาก ชม้ายตาไปทางหนุ่มหน้าสวยเล็กน้อยก่อนกล่าวขอโทษอย่างเสียมิได้

     

    ครับผมไม่ถือ..คุณไม่รู้อะไร..พูดผิดย่อมไม่แปลก  ยองแซงตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม  
    ในแบบที่อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าซ้ำรอยเดิมกับที่ฮยอนจุงเคยพูดไว้ครั้งนึง  


    ต่างที่หนุ่มหน้าสวยคนนี้ไม่ใช่เขาคนนั้น

     


    และถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ถือ...แต่เจ้าหล่อนถือ!

     


    นอกจากหนุ่มหน้าตุ๊กตาคนนั้นยองแซงคนนี้ก็คงเป็นก้างชิ้นหนึ่งของเธอ

    ลองถ้าเพื่อนเขาไม่ชอบ...จะให้ผู้ชายมาหลงคงยากสนิท
    ..เว้นแต่คยูจงจะเข้าถึงง่ายกว่ามาก

     


    คุณหนูจะปรึกษายังไง..ไปเดินเล่นที่ตัวห้างกันก่อนมั้ยครับ...ในห้องนี่ออกจะรกๆไปสักหน่อย

    คยูจงที่รับรู้ถึงบรรยากาศอึมครึมจึงคิดพาคุณหนูลีไปเดินเที่ยวเป็นการผ่อนคลาย

    คงดีกว่าให้นั่งกดดันยองแซงอยู่แบบนี้

     


    ...แม้วันนี้เขาอยากอยู่ติดออฟฟิสใจจะขาดก็เถอะ

     

     

    ดีเหมือนกันค่ะ..คุณยองแซงจะได้ทำงานสะดวกๆ 

    ริมปากสีเลือดนกแย้มพรายอย่างถูกใจในคำตอบ  ..คนอย่างคุณหนูลีต้องมีคนมาคอยเอาใจถึงจะถูก

     

     

    งั้น.. ร่างสูงหลิ่วตามองคนที่จงใจรัวแป้นพิมพ์โน้ตบุ้คแรงๆ ก่อนพูดต่อ 

    รบกวนรอผมด้านหน้าก่อนนะครับ..ขอเวลาจัดกองแฟ้มสักครู่

     

     

    ค่ะ..อ้อ..แล้วเจอกันนะคะคุณยองแซง 

    พูดจบหญิงสาวจึงจัดแจงลากส้นสูงเดินตัวปลิวไปรอคยูจงที่ชุดรับแขกด้านหน้าด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ

     

     

     
    ...เหลือเพียงคนสองคนในออฟฟิสเงียบเชียบเช่นเดิม

     


    จะไปก็รีบๆไปเถอะ...ถ้าห่วงเรื่องแฟ้มเอกสารพวกนี้เดี๋ยวฉันจัดให้  ร่างบางเอ่ยเรียบ

     

    ยองแซงฉัน..

     

    ยืนทื่ออะไรอยู่ล่ะ!”

     

    ... 
    ...ก็นายกำลังไล่ฉันอยู่นี่นา... 
    ผู้บริหารคนเก่งลอบคิดในใจทั้งที่อยากตะโกนออกไปดังๆ
    ..
    เขาก็ไม่ได้อยากจะไปนักหรอก   

     

    อืม..ฝากด้วยนะแล้วฉันจะรีบกลับเสียงทุ้มพูดเพื่อย้ำจุดยืนของตัวเอง  ก่อนสาวเท้าออกจากห้อง

     

    คยูจงเสียงเล็กดักขึ้นก่อนอีกฝ่ายจะปิดประตู

     

    หือ?

     

    ซื้อโดนัทมาฝากด้วยก็ดีนะ  

    ร่างสูงที่ชะโงกศีรษะเข้ามาครึ่งตัวยิ้มรับคำสั่งนั้น

     ครับผม^^”

     


    สิ้นเสียงปิดประตูร่างบางจึงทิ้งตัวลงบนเบาะหนังแล้วทอดถอนใจ


    ...ยองแซงหนอยองแซง...
    นายปล่อยคยูจงไปกับยัยหนูผีนั่นได้ยังไงกัน?

    ถึงยัยนั่นจะไม่ได้พิศวาสคยูจงก็เหอะ....


    แล้วใครจะไปรู้ล่ะ
    !?

     

     

    คิดแล้วหนุ่มหน้าสวยก็หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก  ตอนแรกไม่ยอมให้เขาออกไปทำงานข้างนอก

    จู่ๆก็ออกไปเดินเที่ยวกับแม่สาวร้ายเดียงสา 

    ไม่หน้าใจกว้างเลย
    !

     

     

     

    ...อย่างไรก็ตาม

     

    ลีชินฮเย...เธอคนนี้ไม่เหมาะสมกับเพื่อนเขา...ไม่ว่าจะเป็นคิมฮยอนจุงหรือคิมคยูจง!

     

     

    ตอนนี้ความรู้สึกของคำว่าเพื่อนคงจะสำคัญกับเขามากว่าสิ่งอื่นกระมัง?

    แล้วเพื่อนที่เขารักล่ะ..?


    ตอนนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้างหนอ

     

     


    ท่ามกลางแหล่งรวมวัยรุ่นที่เดินจับจ่ายซื้อของ  รวมทั้งแสวงหาความบันเทิงของศูนย์การค้าชั้นบนสุด

    หนึ่งร่างบางเจ้าของดวงหน้าตุ๊กตากับหนึ่งร่างสูงเจ้าของดวงหน้ารูปสลักกำลังเอร็ดอร่อยกับไอศกรีมโคน

    หลังตะลุยเกมเซนเตอร์กันจนแขนล้า 

     

    ฮยอนจุงเหลือบมองเจ้าของแก้มแดงอย่างเพลินสายตา

    มองกี่ครั้งก็เหมือนเด็ก!...ไม่นึกแปลกใจเลยที่คิมคิบอมคนน้องจะเป็นการเป็นงานเสียมากกว่า

    ไม่รู้เจ้าตัวจะลืมไปหรือเปล่าว่าน้องนอนป่วยอยู่บ้าน


    นี่คงวางใจจองมินมากอยู่เหมือนกัน
    …....ไม่รู้จะอยู่กันรอดมั้ย= =

     

    พี่ฮยอนจุง...ผมมีเรื่องจะปรึกษา”  
    ร่างสูงเลิกคิ้ว...อย่างเขานี่น่าเชื่อถือขนาดปรึกษาได้ด้วยหรอเนี่ย?

     

    ว่ามาเลย

     

    ผมอยากหางานทำ แล้วคิ้วหนาก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน

    ...หางานทำ?

    คิดพลางทบทวนคุณสมบัติของรุ่นน้องตาใสที่กำลังละเลียดไอศกรีมอย่างหน้าเอ็นดู

     

     

    ...จะทำอะไรเป็นมั้งล่ะเนี่ย-*-

    ตาโตคู่นั้นกำลังมองเขาอย่างมีความหวัง  ริมฝีปากบางเม้มแน่นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมีสีหน้าลำบากใจ


    หรือจะจริงของคิบอม...
    เขาคงไร้ความสามารถจะพึ่งพาตัวเองได้จริงๆ

     

    ฮยองจุน  อยากทำงานกับพี่มั้ย?เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น หลังหาทางออกได้เรียบร้อย

     

    ได้หรอฮะ0.0

     

    สนใจล่ะสิ..งั้นมาทางนี้เลยพูดจบก็จัดการกับปลายโคนวัฟเฟิลกรอบชิ้นสุดท้าย 

    แล้วถืออภิสิทธิ์จูงคนข้างตัวเข้าร้านขายสัตว์เลี้ยงที่ทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่เบื้องหน้านานสองนาน

     

     

    ฮยองจุนผู้ถูกลากมายืนท่ามกลางเหล่ากระต่ายน้อยหลายสายพันธุ์หันไปมองฮยอนจุงอย่างสงสัย

    ร่างสูงพยักหน้าเหมือนต้องการจะให้เขาพิจารณะเจ้าปุกปุยหูยาวพวกนี้ทุกๆตัว

    มีทั้งกระต่ายตัวโตกว่าลูกหมาอย่างพันธุ์ใจแอนท์ที่หน้ากอดรัดฟัดเหวี่ยง

    กระต่ายพันธุ์เท็ดดี้แบร์ตัวเล็กแต่ขนฟู  บางตัวพอเห็นเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนมองเข้าหน่อย

    ก็กระโดดจากหลังเพื่อนมาอวดความน่ารักอย่างไม่ยอมกัน

     

    ชอบตัวไหนบอกได้เลยนะ  ร่างบางหันไปตามเสียง  
    เห็นร่างสูงยืนล้วงกระเป๋าพิงตัวอยู่กับผนังด้านหนึ่ง
    ด้วยท่าทีสบายๆ

     

    ก็น่ารักทุกตัวเลย...ว่าแต่ทำไมถึงพาเข้าร้านขายสัตว์เลี้ยงล่ะฮะ 

     

     

    ริมฝีปากได้รูปขยับยิ้มในคำถามนั้นเล็กน้อย

    เลือกมาสักตัวก่อนแล้วพี่จะบอก

     

     

    ...จะเลือกยังไงล่ะก็น่ารักทุกตัวนี่นา  ฮยองจุนทำปากจู๋ใส่แผ่นหลังกว้าง ไอศกรีมคำสุดท้ายถูกกลืนลงไปแล้ว
    คนตัวโตไปยืนรอที่เคาท์เตอร์แต่ทิ้งการตัดสินใจที่แสนยากลำบากนี้ให้กับเขา

     

    ..ถ้าจะให้เขาเลือกกระต่ายให้ บอกไปเลยดีมั้ยนะว่าเอาทุกตัว
    ...ยังไงขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วงอยู่แล้วนี่-*-..

     

     

    พลันนัยน์ตาสีอ่อนสบเข้ากับตาใสแวววาว ขนสีน้ำตาลปุกปุยผนวกกับรูปร่างกำลังน่ากอดน่าฟัด
    น่าขันตรงที่เจ้าหัวโตกำลังเอาหัวโหม่งกรงกระจกทักทายเขา
    ถึงจะดูเพี้ยนๆเอ๋อๆแต่ก็น่ารักดีแฮะ^^


    ตัวนี้แล้วกันฮะ"  พูดพลางชี้ระบุเป้าหมายที่ยังโหม่งกระจกไม่เลิก..แสดงความจำนงอยากถูกซื้อเต็มที่

     

    ดีงั้นนายไปรอหน้าร้านเลย 

     

    แล้วงานที่ให้ผมทำ?  รางบางเดินเข้ามาย้อนคุยถึงเรื่องเก่าทันที

    เมื่อฮยอนจุงมาพร้อมเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน

    และพนักงานในร้านกำลังกระวีกระวาดหอบบ้านกระต่าย อาหาร ของใช้จำเป็นและของเล่นใส่รถเข็น

    คาดว่าจะต้องนำไปส่งที่รถบีเอ็มคันเก่งเป็นแน่

     

    "ก็นี่ไงงานนาย"  ร่างสูงตอบหน้าตาย

     

    “!!!” คำตอบแทบทำกระต่ายน้อยในร่างคนล้มทั้งยืน...
    ...นี่ตระหนักในศักยภาพของเขาขนาดนั้นเชียว-*-

     

    หัวใจเอ้ย!กระต่ายของพี่ดูแลให้ดีๆล่ะมือหนาบรรจงยื่นเจ้าตัวเล็กให้วงแขนบางรับไว้

     

    ไม่ตลกนะฮะถึงฮยองจุนจะรับมาก็ไม่วายพองแก้มใส่จอมเผด็จการน้อย

     

    พี่ก็ไม่ได้ขำนี่....พี่จะจ้างนายเลี้ยงกระต่ายต่างหาก

     

    แล้วทำไมพี่ไม่เลี้ยงเอง?

     

     

     

    พี่อยากมีกระต่ายแต่พี่ซื้อหมามาเลี้ยงแล้วกลัวมันกัดกระต่ายนี่นา...ยังไงนายก็อยู่บ้านเฉยๆฝากเลี้ยงไว้หน่อยนะ..
    ค่าใช้จ่ายของเจ้านี่เดี๋ยวพี่ออกให้ แล้วค่าจ้างของนายก็คือเงินค่าขนมเล็กๆน้อยๆไม่สนใจหรอ?

     

    แต่งานมันเบาไป...ดูแลแค่กระต่าย..  ฮยองจุนแย้ง

     

    งั้นสนใจจะดูแลเจ้าของด้วยมั้ยล่ะ

     

    พี่อ้ะ!”  ใบหน้าขาวร้อนฉ่าโดยอัตโนมัติ มือขาวตีไหล่คนตัวสูงดังตุ้บตั้บ

    ...ไม่เกรงจงเกรงใจมันแล้ว>//<..

     

    มือหนักนะเนี่ย

    จริงๆฝ่ามือขาวนั่นก็ไม่ทำให้ระคายเคืองได้มากว่าแสบๆคันๆนิดหน่อย

    ...รู้แต่เห็นอาการแบบนี้แล้วตัดใจไม่แกล้งยากชะมัด- -

     

     

    เอาล่ะๆพี่ไม่ล้อเล่นก็ได้...เอาเป็นว่าถ้านายไม่รับเลี้ยงมันพี่จะเอาไปคืน

     


    ขี้โกง
    !

     

    เสียงเล็กร้องก้องในใจฮยองจุน

     

    คนตัวโตจงใจพาเขาเข้าร้าน...จนถูกใจเจ้าตาแป๋วนี่

    ซื้อออกมา...ส่งให้อุ้มให้เล่น

     

    ...แล้วมาขู่ว่าจะเอากลับไปคืนถ้าไม่รับเลี้ยง..เอาไงดีล่ะฮยองจุน?

     


    ว่าไง?^^++ 

     

    ตกลงๆ ผมเลี้ยงก็ได้..  เจอทั้งคำพูดกดดันของคนกับตาแป๋วๆของกระต่าย

    งานนี้คิมฮยองจุนขอยอมแพ้...ว่าแต่
    อะไรจะเป็นปี่เป็นขลุ่ยเป็นใจกันได้ทั้งกระต่ายทั้งเจ้านายขนาดนี้


    เอาเถอะไว้เขาเอาไปเลี้ยง..จะขัดเกลาให้อย่างดีเลย

     

    นี่ไม่ได้งอนใช่มะ?ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ดวงหน้าขาวที่ทำเมินเขาเกือบจะจริงจัง

    ติดตรงที่กระต่ายในอ้อมกอดไม่ค่อยอยู่สุขสักเท่าไร

     

    นิดหน่อย

    ตอบออกไปตรงๆเพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำให้ปากไม่ตรงกับใจ

    ...พี่ฮยอนจุง...จงใจให้เงินเขาใช้แต่คิดวิธีให้ที่สร้างสรรค์กว่านี้ไม่ออกต่างหาก....

     

    มันหน้าหงุดหงิดแต่จะโกรธร่างสูงฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก 

    ในเมื่อคิดจริงๆแล้วแทบจะนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะไปทำงานอะไร

     

    คุณชายคิมมองคนอารมณ์บูดแล้วยังกระเซ้าต่อ

    แล้วต้องง้อมั้ยอ่ะ..เล่นดนตรีเดี๋ยวจะซ้ำ..งั้นคราวนี้พี่ลงทุนคุกเข่าเลยดีกว่าเนอะ 

    พูดไม่พอเข่าซ้ายชักลงเข่าขวาตั้งท่าจะย่อตาม 

     

     

    บ้า!ไม่ต้องแล้ว>3<” คนถูกง้อเลยยกโทษให้ทั้งไม่ต้องเปลืองแรง 

    เดินนำลิ่วฝ่าฝูงชนก่อนตกเป็นเป้าสายตาหนักกว่าเก่า  ร่างสูงที่เก็บความขำไว้ไม่อยู่จึงรีบจ้ำอ้าวตามหลังไป 

     

    ขำไปเถอะ..วันหลังจะให้ไปง้ออย่างนี้กลางสี่แยกไฟแดง!

     

     

     

     

     

    ภาพร่างบางกับกระต่ายน้อยในอ้อมแขนมีคุณชายสุดหล่อเดินเคียงคอยหยอกล้อ

    กำลังฉายสู่จอรับภาพของหนุ่มสาวในร้านกาแฟริมกระจก

     

    เล็บยาวจิกลงบนเนื้อกระโปรงของตนอย่างอัดอั้น พยายามข่มความรู้สึกริษยาทั้งหมดที่มี

    เว้นแต่อาการเหล่านี้ไม่อาจปกปิดสายตามุ่งร้ายที่ฉายกร้าวในดวงตาที่มักหยาดเยิ้มคู่นั้น

    ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามนึกด่าตัวเองในใจที่พาเจ้าหล่อนมาเห็นภาพบาดตาเช่นนี้

     

    จะกังวลแทนเพื่อนก็ปล่าวดาย...

    ไม่ว่าชินฮเยจะสวยหยาดฟ้ามาจะเกิดแค่ไหน

    ถ้าทำให้ชายคนนึงมีความรู้สึกอึดอัดได้ขนาดนี้ละก็...เรื่องกุมหัวใจฮยอนจุงน่ะหรือ?

    นอนฝันเอายังง่ายเสียกว่า

     

     --- ---- ---sorry I'm late again --- --- ---
    มาอัพแล้ว...อาทิตย์นี้ไม่ค่อยมีเวลาเลย...คิดว่าวันเสาร์อาทิตย์นี้คงเอามาลงอีกสักตอนอ่ะค่ะถ้าเป็นไปได้
    ตอนนี้ถ้าคำผิดมากก็อย่าว่ากันเน้...รักคนอ่านและคนเม้นทุกคนเสมอนะคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×