คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เพลงบทแรก
......สายลมโชยอ่อน เด็กชายคนหนึ่งกำลังนั่งเป่าใบไม้เล่นอย่างอารมณ์ดี เขาเป่าเป็นเพลงที่เมื่อใครได้ฟังแล้วจะรู้สึกเบาสบายเหมือนตนเองเป็นดั่งปุยนุ่นที่พลิ้วไหวไปตามสายลมเมื่อพัดต้องส่องประ เขาเป็นเจ้าของผมสีทองอร่ามส่องประกายเงาวาวเมื่อแสงแดดอ่อนส่องกระทบ คิ้วดกหนาพาดเหนือดวงตาคมโตสีเขียวน้ำทะเลซึ่งล้อมกรอบด้วยขนตายาวราวอิสตรี ริมฝีปากสีชมพูจัดได้รูปสวยเผยอเล็กน้อยอย่างน่าดูชม ขณะที่นิ้วเรียวยาวปานเทียนไขจับประคองใบไม้อย่างทะนุถนอม
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ ชายหนุ่มรูปร่างสง่างาม เจ้าของผมสีทองอร่ามงามตา ที่รับกับใบหน้ารูปไข่ ผมดกหนาปลิวไสวปกหน้า คิ้วดกหนาอยู่เหนือดวงตาสีเขียวน้ำทะเลที่ดูทรงเสน่ห์อย่างโดดเด่น เดินออกมาจากช่องผู้โดยสารออก ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินลากกระเป๋าเดินทางขนดใหญ่ จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งที่ทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดชะงัก แล้วมองหยุดสาวที่วิ่งตรงเข้ามาหา ด้วยกิริยาร่าเริงสดใสอย่างลิงโลด
"อ่ะให้" ด้วยน้ำเสียงนี้ทำให้เด็กชายต้องหยุดเป่า แล้วหนไปมองเด็กหญิงที่กำลังยื่นลูกอมให้ เธอยิ้มน้อยๆก่อนจะส่งลูกอมให้เด็กชายที่เอื้อมมืออันขาวสะอ้านรับลูกอมจกเด็กสาว
"เพราะจัง...เป่าอีกได้ไหม" เด็กสาวมองหนุ่มน้อย ด้วยดวงตาที่แฝงไปด้วยความตั้งอกตั้งใจ ฟังเพลงที่กำลังจะขับกล่อม.........
เสียงเพลงไพเราะเสนาะหู ที่ฟังแล้วทำให้ใจสงบ ผสมกับบรรยากาศรอบๆ ที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานานพันธุ์ ทำเอาเด็กหญิงตัวน้อยผล็อยหลับไป เด็กชายเห็นดังนั้นจึงหยุดเป่าแล้วหันมาจ้องมองเด็กหญิงที่กำลังหลับใหลอย่างพิจารณา ผมสีน้ำตาลเข้มช่างรับกับใบหน้าที่ได้รูปของเด็กหญิง ปากสีชมพูที่ดูอิ่มเอม กับแก้มสีขาวนวลปนชมพู ทำให้เด็กชายอดไม่ได้ที่จะ จุมพิต!!!! แม่แน่งน้อยคนนี้สักหนึ่งที
ทุกสิ่งในขณะนี้หยุดนิ่ง เสียงนกที่ร้องเป็นทำนองเพลงก็หยุดลง ต้นหญ้าไหวเอนอ่อนช้าๆ สายลมพลิ้วไหวไปมาชวนให้หนุ่มน้อยเข้าสู่อ้อมแขนของนิทรา ขณะที่เด็กชายกำลังหลับพริ้มเปี่ยมสุข เขาได้กลิ่นของดอกไม้ที่หอมรวยริน หนุ่มน้อยตื่นขึ้นมาพลางมองรอบกาย แต่กลับต้องเจอกับความว่างเปล่า แม่สาวแน่งน้อยหายไปแล้วเขาพยายามมองหาแต่ไม่พบ
เด็กชายเลยลุกขึ้นพร้อมกับบางสิ่งหล่นตกลงบนพื้น หนุ่มน้อยหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาดู มันเป็นถุงผ้าสีแดงที่มีการปักลวดลายด้วยความวิจิตรบรรจง เด็กชายพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดิ้นสีทองวาดลวดลายบนผ้าสีแดงเป็นอักษรที่สวยงามบ่งบอกถึงความใส่ใจของผู้ปัก "ลูกตาล" เขาเปล่งเสียงอ่านขณะดวงใจก็ลอยไปหานวลหน้าของผู้เป็นเจ้าของที่ตราตรึงในจิตใจอย่างยากจะอธิบาย
หนุ่มน้อยกำถุงผ้าไว้แน่น เขาจะจดจำเธอคนนี้ไปตลอด เด็กหญิงที่น่ารัก "ลูกตาล"
"พี่พอล" หญิงสาวกอดผู้เป็นที่เป็นพี่ชาย แน่นจนชายหนุ่มหน้าเขียวหน้าแดง เนื่องจากเริ่มขาดอากาศหายใจ!!
"แพท พี่หายใจไม่ออก" ชายหนุ่มผลักหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าออกไปเพราะว่าตนกำลังจะสิ้นลมหายใจ หญิงสาวมองพี่ชายอย่างเสียดาย.......
"ก็แพท คิดถึงพี่พอลนี้...พี่พอลนะพี่พอลไม่โทรมาหาแพทมั่งเลย หายไปตั้งหลายปี ไหนของฝากหละ" หญิงสาวตัดพ้อพี่ชายของเธอ แถมยังแบมือทวงของฝากจากพี่ชายตัวดี
"พี่ไปเรียน ไม่ได้ไปเที่ยว จะได้เอาของฝากมาให้เธอ" พิทยาตีมือเรียวสวยของน้องสาวไปหนึ่งที ด้วยความเอ็นดู
"โอ๊ย เจ็บนะพี่บ้า.... ขี้เหนียวหละสิไม่ว่า" หญิงสาวยืนกอดอกเสมองไปทางอื่น
"ใครขี้เหนียว พูดให้ดีๆหน่อยนะ พี่ไม่ได้มีเงินทองมากมายขนาดมาซื้อของไร้สาระให้เธอหรอกนะ พี่ก็ต้องทำงานเก็บตังค์เรียนเอง" พอลต่อว่าผู้เป็นน้องของเขา ทำเอาหญิงสาว สะบัดหน้าเดินหนีไป
เมื่อทั้งสองเดินทางกลับมาถึงบ้าน
ชายหนุ่มพิจารณาบ้านของตน มันไม่ได้ต่างจากเดิมเลย บ้านไม้สีขาวอันล้อมรอบด้วยประตูรั้วสีเดียวกัน ริมรั้วไม้สีขาวสะอ้าน ตัดกับดอกสีสวยของต้นเฟื่องฟ้า เมื่อกวาดสายตามาในสนามหญ้าหน้าบ้านก็พบกับตาเบ ต้นใหญ่แตกกิ่งก้าน ปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ชายหนุ่มย่างก้าวเข้ามามันประตูรั้ว เขาเดินตรงไปยังเรือนเพาะชำ ซึ่งเป็นที่เพาะเลี้ยงเจ้าต้นกล้วยไม้นานาพันธุ์ และสายตาของเขาก็มาหยุดอยู่กับกล้วยไม่ต้นหนึ่ง ที่กำลังออกดอกอย่างเต็มที เผยให้รู้ถึงการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของเป็นอย่างดี ดอกกล้วยไม้สีม่วง ตรงกลางเกสรดอกมีสีขาวนวล ก้านดอกที่ดูแข็งแรง รองรับน้ำหนักของดอกที่ใหญ่เป็นพิเศษได้เป็นอย่างดี
ชายหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านเขาได้พบ ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่อยู่ที่โซฟา ชายหนุ่มเดินตรงไปหาชายชราที่สายตาเริ่มฝ้าฟาง "คุณตาครับ ผมกลับมาแล้วครับ" ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆผู้ที่เป็นตา สิบนิ้วประนมก้มกราบลงบนตักของชายชราอย่างช้าๆ
ชายชราผู้นี้เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของ พอล และแพท เนื่องจากบุพการีของพวกเขาเสียชีวิตกันหมด ตั้งแต่ครั้งที่บ้านของพวกเขาถูกไฟไหม้ ชายชราผู้นี้เป็นผู้อุ้มเขากับน้องสาวออกมาให้พ้นจากกองเพลิงที่กำลังบ้าคลั่ง หลังจากนั้น สองพี่น้องจึงเคารพชายชราผู้นี้เหมือนเป็นดั่งผู้ใหญ่ในบ้านคนหนึ่ง
"กลับมาแล้วหรือ หายไปนานเลยนะพิทยา ไหนมาให้ตากอดให้หายคิดถึงหน่อยสิ" ชายหนุ่มสวมกอดกับผู้เป็นตา ความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ได้แพร่ซ่านไปทั่วร่างกายของชายหนุ่ม น้ำใสๆเริ่มไหลรินอาบ สองแก้มของชายหนุ่ม นั้นคงเป็นเพราะความคิดถึงที่ห่างหายไปนาน
เมื่อยามแสงของดวงตะวันล้วงลับไป พระจันทร์ส่องแสงนวลผ่องขึ้นมาแทนที่ จากแสงรำไรของโคมไฟบนตะทำงาน ทำให้เห็นใบหน้าที่ดูระรื่นของชายหนุ่มตาสีเขียวน้ำทะเล สายตาชายหนุ่มจับจ้องไปยังถุงผ้าสีแดง ปักลวดลายด้วยดิ้นสีทอง ที่อยู่ในมือด้วยความรู้สึกอันละเอียดอ่อน "ลูกตาล"
ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆขณะมือสัมผัสบนดิ้นสีทองอร่ามตา ที่บรรจงปักชื่อเจ้าของถุงผ้าสีแดง พิทยายังคงจำได้ดี ถึงแม่สาวน้อยแก้มใส ที่รบเร้าให้เขาเป่าเพลงใบไม้ แต่ไม่ทันหนุ่มน้อยจะได้เอ่ยถามชื่อสาวน้อยเธอก็กลับหายไป ทิ้งไว้เพียงแต่ ถุงผ้าสีแดงถุงนี้เท่านั้น........
"พี่พอล ยังไม่นอนอีกหรือ" น้องสาวตัวดีของเขาผลักประตูมาถามพี่ชาย เนื่องจากยังคงเห็นไปเปิดอยู่ ชายหนุ่มหันไปมองคนเป็นน้องด้วยความเอ็นดู
"ใกล้จะนอนแล้ว จะเข้ามาห้องพี่ทำไม ถ้าของพี่เสียหายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ" ผู้เป็นพี่ตอบ ขณะที่ผู้เป็นน้อง มานอนเอนกายบนเตียงของเขา และไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน
ตุ๊กตานางฟ้า เต้นระบำหมุนไปมาเคล้าคลอกับเสียงดนตรี เบาๆ ยิ่งดูยิ่งสบายตา หญิงสาวจ้องมองตุ๊กตานางฟ้าอย่างไม่วางตา เสียงเพลงอ่อนๆทำให้หญิงสาวเกือบเคล้มหลับไป
เพล้ง!!!!!!!!
"ยัยเเพท ยัยตัวแสบ พี่บอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่ามายุ่งกับของคนอื่นเขา" พอลดุน้องสาวที่กำลังก้มเก็บเศษกล่องเพลง ที่หล่นกระจายเต็มพื้นห้อง ทำเอาหญิงสาวหน้าเสีย มือหนอมือ ทำไมเป็นแบบนี้
"เก็บให้หมดเลยนะ" พอลทำเสียงแข็งใส่น้องสาว "เขาขอโทษ ก็เขาไม่ได้ตั้งใจนี่" หญิงสาวยังคงก้มหน้าเก็บเศษแก้วต่อไป "ยัยลิงเอ๋ย...."
"แพทไม่ใช่ลิงนะ"
"แล้วไอ้ที่ทำของคนอื่นเขาเสียหาย ไม่เรียกว่าลิงแล้วจะให้เรียกว่าอะไร" สาวน้อยทำหน้ามุ่ยใส่ พร้อมส่งเสียงฮึๆ ในลำคอ
"พี่พอล ยังคิดถึงนางฟ้าถุงแดง อีกหรือค่ะ" น้องสาวหันมาถามพี่ชาย เพื่อเปลี่ยนบทสนทนา พอลจึงหยิบถุงผ้าสีแดงสดขึ้นมาพิศอย่างประณีต พร้อมกับสีหน้าที่เริ่มเปลี่ยนไป เหมือนฟ้าหลังฝน!!!!
"พี่จะลืมเขาได้ไง ก็เขาคือนางฟ้าของพี่" ชายหนุ่มตอบด้วยท่าทางขวยเขินจนใบหน้าของเขาเริ่มร้อนและมีสีแดงฉาด ส่วนผู้เป็นน้องดูท่าจะเริ่มเบื่อหน่ายกับพี่ชายคนนี้สะแล้วสิ
"เอาเถอะ...พรุ่งนี้กรุณาไปส่งแพท ที่ มหาวิทยาลัยด้วยนะค่ะ" หญิงสาวอ้อนผู้เป็นพี่ด้วยกิริยาคล้ายลูกแมวน้อยที่กำลังอ้อนเจ้านายผุ้แสนดี แต่ดูเหมือนเจ้านายคนนี้จะไม่ค่อยชอบแมว เลยทำหน้าเสียใส่
"ไปเองไม่เป็นหรือ" พี่ชายถามน้องสาวผู้แสนน่ารักด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจเท่าไหร่ หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงไปหาพี่ชาย ทำตาหวานให้พี่ชายดู แล้วพยายามทำหน้าเศร้าๆ.... ได้ผล พอลเริ่มใจอ่อน แต่ยังไม่ทันที่พอลจะพูดอะไร หญิงสาวก็ออกปากขอบคุณ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไป ทำเอาพอลอ้าปากค้าง
พิทยา ยังคงนั่งชื่นชมกับถุงผ้าสีแดงถุงนั้น โดยไม่มีท่าทีว่าจะวางลงเลย ไฟในห้องค่อยๆดับลง รัตติกาลนี้ยังคงอีกยาวนาน ทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้การครอบงำของความมืด
......สายลมโชยอ่อน เด็กชายคนหนึ่งกำลังนั่งเป่าใบไม้เล่นอย่างอารมณ์ดี เขาเป่าเป็นเพลงที่เมื่อใครได้ฟังแล้วจะรู้สึกเบาสบายเหมือนตนเองเป็นดั่งปุยนุ่นที่พลิ้วไหวไปตามสายลมเมื่อพัดต้องส่องประ เขาเป็นเจ้าของผมสีทองอร่ามส่องประกายเงาวาวเมื่อแสงแดดอ่อนส่องกระทบ คิ้วดกหนาพาดเหนือดวงตาคมโตสีเขียวน้ำทะเลซึ่งล้อมกรอบด้วยขนตายาวราวอิสตรี ริมฝีปากสีชมพูจัดได้รูปสวยเผยอเล็กน้อยอย่างน่าดูชม ขณะที่นิ้วเรียวยาวปานเทียนไขจับประคองใบไม้อย่างทะนุถนอม
"อ่ะให้" ด้วยน้ำเสียงนี้ทำให้เด็กชายต้องหยุดเป่า แล้วหนไปมองเด็กหญิงที่กำลังยื่นลูกอมให้ เธอยิ้มน้อยๆก่อนจะส่งลูกอมให้เด็กชายที่เอื้อมมืออันขาวสะอ้านรับลูกอมจกเด็กสาว
"เพราะจัง...เป่าอีกได้ไหม" เด็กสาวมองหนุ่มน้อย ด้วยดวงตาที่แฝงไปด้วยความตั้งอกตั้งใจ ฟังเพลงที่กำลังจะขับกล่อม.........
เสียงเพลงไพเราะเสนาะหู ที่ฟังแล้วทำให้ใจสงบ ผสมกับบรรยากาศรอบๆ ที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานานพันธุ์ ทำเอาเด็กหญิงตัวน้อยผล็อยหลับไป เด็กชายเห็นดังนั้นจึงหยุดเป่าแล้วหันมาจ้องมองเด็กหญิงที่กำลังหลับใหลอย่างพิจารณา ผมสีน้ำตาลเข้มช่างรับกับใบหน้าที่ได้รูปของเด็กหญิง ปากสีชมพูที่ดูอิ่มเอม กับแก้มสีขาวนวลปนชมพู ทำให้เด็กชายอดไม่ได้ที่จะ จุมพิต!!!! แม่แน่งน้อยคนนี้สักหนึ่งที
ทุกสิ่งในขณะนี้หยุดนิ่ง เสียงนกที่ร้องเป็นทำนองเพลงก็หยุดลง ต้นหญ้าไหวเอนอ่อนช้าๆ สายลมพลิ้วไหวไปมาชวนให้หนุ่มน้อยเข้าสู่อ้อมแขนของนิทรา ขณะที่เด็กชายกำลังหลับพริ้มเปี่ยมสุข เขาได้กลิ่นของดอกไม้ที่หอมรวยริน หนุ่มน้อยตื่นขึ้นมาพลางมองรอบกาย แต่กลับต้องเจอกับความว่างเปล่า แม่สาวแน่งน้อยหายไปแล้วเขาพยายามมองหาแต่ไม่พบ
เด็กชายเลยลุกขึ้นพร้อมกับบางสิ่งหล่นตกลงบนพื้น หนุ่มน้อยหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาดู มันเป็นถุงผ้าสีแดงที่มีการปักลวดลายด้วยความวิจิตรบรรจง เด็กชายพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดิ้นสีทองวาดลวดลายบนผ้าสีแดงเป็นอักษรที่สวยงามบ่งบอกถึงความใส่ใจของผู้ปัก "ลูกตาล" เขาเปล่งเสียงอ่านขณะดวงใจก็ลอยไปหานวลหน้าของผู้เป็นเจ้าของที่ตราตรึงในจิตใจอย่างยากจะอธิบาย
หนุ่มน้อยกำถุงผ้าไว้แน่น เขาจะจดจำเธอคนนี้ไปตลอด เด็กหญิงที่น่ารัก "ลูกตาล"
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ ชายหนุ่มรูปร่างสง่างาม เจ้าของผมสีทองอร่ามงามตา ที่รับกับใบหน้ารูปไข่ ผมดกหนาปลิวไสวปกหน้า คิ้วดกหนาอยู่เหนือดวงตาสีเขียวน้ำทะเลที่ดูทรงเสน่ห์อย่างโดดเด่น เดินออกมาจากช่องผู้โดยสารออก ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินลากกระเป๋าเดินทางขนดใหญ่ จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งที่ทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดชะงัก แล้วมองหยุดสาวที่วิ่งตรงเข้ามาหา ด้วยกิริยาร่าเริงสดใสอย่างลิงโลด
"พี่พอล" หญิงสาวกอดผู้เป็นที่เป็นพี่ชาย แน่นจนชายหนุ่มหน้าเขียวหน้าแดง เนื่องจากเริ่มขาดอากาศหายใจ!!
"แพท พี่หายใจไม่ออก" ชายหนุ่มผลักหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าออกไปเพราะว่าตนกำลังจะสิ้นลมหายใจ หญิงสาวมองพี่ชายอย่างเสียดาย.......
"ก็แพท คิดถึงพี่พอลนี้...พี่พอลนะพี่พอลไม่โทรมาหาแพทมั่งเลย หายไปตั้งหลายปี ไหนของฝากหละ" หญิงสาวตัดพ้อพี่ชายของเธอ แถมยังแบมือทวงของฝากจากพี่ชายตัวดี
"พี่ไปเรียน ไม่ได้ไปเที่ยว จะได้เอาของฝากมาให้เธอ" พิทยาตีมือเรียวสวยของน้องสาวไปหนึ่งที ด้วยความเอ็นดู
"โอ๊ย เจ็บนะพี่บ้า.... ขี้เหนียวหละสิไม่ว่า" หญิงสาวยืนกอดอกเสมองไปทางอื่น
"ใครขี้เหนียว พูดให้ดีๆหน่อยนะ พี่ไม่ได้มีเงินทองมากมายขนาดมาซื้อของไร้สาระให้เธอหรอกนะ พี่ก็ต้องทำงานเก็บตังค์เรียนเอง" พอลต่อว่าผู้เป็นน้องของเขา ทำเอาหญิงสาว สะบัดหน้าเดินหนีไป
เมื่อทั้งสองเดินทางกลับมาถึงบ้าน
ชายหนุ่มพิจารณาบ้านของตน มันไม่ได้ต่างจากเดิมเลย บ้านไม้สีขาวอันล้อมรอบด้วยประตูรั้วสีเดียวกัน ริมรั้วไม้สีขาวสะอ้าน ตัดกับดอกสีสวยของต้นเฟื่องฟ้า เมื่อกวาดสายตามาในสนามหญ้าหน้าบ้านก็พบกับตาเบ ต้นใหญ่แตกกิ่งก้าน ปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ชายหนุ่มย่างก้าวเข้ามามันประตูรั้ว เขาเดินตรงไปยังเรือนเพาะชำ ซึ่งเป็นที่เพาะเลี้ยงเจ้าต้นกล้วยไม้นานาพันธุ์ และสายตาของเขาก็มาหยุดอยู่กับกล้วยไม่ต้นหนึ่ง ที่กำลังออกดอกอย่างเต็มที เผยให้รู้ถึงการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของเป็นอย่างดี ดอกกล้วยไม้สีม่วง ตรงกลางเกสรดอกมีสีขาวนวล ก้านดอกที่ดูแข็งแรง รองรับน้ำหนักของดอกที่ใหญ่เป็นพิเศษได้เป็นอย่างดี
ชายหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านเขาได้พบ ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่อยู่ที่โซฟา ชายหนุ่มเดินตรงไปหาชายชราที่สายตาเริ่มฝ้าฟาง "คุณตาครับ ผมกลับมาแล้วครับ" ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆผู้ที่เป็นตา สิบนิ้วประนมก้มกราบลงบนตักของชายชราอย่างช้าๆ
ชายชราผู้นี้เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของ พอล และแพท เนื่องจากบุพการีของพวกเขาเสียชีวิตกันหมด ตั้งแต่ครั้งที่บ้านของพวกเขาถูกไฟไหม้ ชายชราผู้นี้เป็นผู้อุ้มเขากับน้องสาวออกมาให้พ้นจากกองเพลิงที่กำลังบ้าคลั่ง หลังจากนั้น สองพี่น้องจึงเคารพชายชราผู้นี้เหมือนเป็นดั่งผู้ใหญ่ในบ้านคนหนึ่ง
"กลับมาแล้วหรือ หายไปนานเลยนะพิทยา ไหนมาให้ตากอดให้หายคิดถึงหน่อยสิ" ชายหนุ่มสวมกอดกับผู้เป็นตา ความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ได้แพร่ซ่านไปทั่วร่างกายของชายหนุ่ม น้ำใสๆเริ่มไหลรินอาบ สองแก้มของชายหนุ่ม นั้นคงเป็นเพราะความคิดถึงที่ห่างหายไปนาน
เมื่อยามแสงของดวงตะวันล้วงลับไป พระจันทร์ส่องแสงนวลผ่องขึ้นมาแทนที่ จากแสงรำไรของโคมไฟบนตะทำงาน ทำให้เห็นใบหน้าที่ดูระรื่นของชายหนุ่มตาสีเขียวน้ำทะเล สายตาชายหนุ่มจับจ้องไปยังถุงผ้าสีแดง ปักลวดลายด้วยดิ้นสีทอง ที่อยู่ในมือด้วยความรู้สึกอันละเอียดอ่อน "ลูกตาล"
ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆขณะมือสัมผัสบนดิ้นสีทองอร่ามตา ที่บรรจงปักชื่อเจ้าของถุงผ้าสีแดง พิทยายังคงจำได้ดี ถึงแม่สาวน้อยแก้มใส ที่รบเร้าให้เขาเป่าเพลงใบไม้ แต่ไม่ทันหนุ่มน้อยจะได้เอ่ยถามชื่อสาวน้อยเธอก็กลับหายไป ทิ้งไว้เพียงแต่ ถุงผ้าสีแดงถุงนี้เท่านั้น........
"พี่พอล ยังไม่นอนอีกหรือ" น้องสาวตัวดีของเขาผลักประตูมาถามพี่ชาย เนื่องจากยังคงเห็นไปเปิดอยู่ ชายหนุ่มหันไปมองคนเป็นน้องด้วยความเอ็นดู
"ใกล้จะนอนแล้ว จะเข้ามาห้องพี่ทำไม ถ้าของพี่เสียหายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ" ผู้เป็นพี่ตอบ ขณะที่ผู้เป็นน้อง มานอนเอนกายบนเตียงของเขา และไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน
ตุ๊กตานางฟ้า เต้นระบำหมุนไปมาเคล้าคลอกับเสียงดนตรี เบาๆ ยิ่งดูยิ่งสบายตา หญิงสาวจ้องมองตุ๊กตานางฟ้าอย่างไม่วางตา เสียงเพลงอ่อนๆทำให้หญิงสาวเกือบเคล้มหลับไป
เพล้ง!!!!!!!!
"ยัยเเพท ยัยตัวแสบ พี่บอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่ามายุ่งกับของคนอื่นเขา" พอลดุน้องสาวที่กำลังก้มเก็บเศษกล่องเพลง ที่หล่นกระจายเต็มพื้นห้อง ทำเอาหญิงสาวหน้าเสีย มือหนอมือ ทำไมเป็นแบบนี้
"เก็บให้หมดเลยนะ" พอลทำเสียงแข็งใส่น้องสาว "เขาขอโทษ ก็เขาไม่ได้ตั้งใจนี่" หญิงสาวยังคงก้มหน้าเก็บเศษแก้วต่อไป "ยัยลิงเอ๋ย...."
"แพทไม่ใช่ลิงนะ"
"แล้วไอ้ที่ทำของคนอื่นเขาเสียหาย ไม่เรียกว่าลิงแล้วจะให้เรียกว่าอะไร" สาวน้อยทำหน้ามุ่ยใส่ พร้อมส่งเสียงฮึๆ ในลำคอ
"พี่พอล ยังคิดถึงนางฟ้าถุงแดง อีกหรือค่ะ" น้องสาวหันมาถามพี่ชาย เพื่อเปลี่ยนบทสนทนา พอลจึงหยิบถุงผ้าสีแดงสดขึ้นมาพิศอย่างประณีต พร้อมกับสีหน้าที่เริ่มเปลี่ยนไป เหมือนฟ้าหลังฝน!!!!
"พี่จะลืมเขาได้ไง ก็เขาคือนางฟ้าของพี่" ชายหนุ่มตอบด้วยท่าทางขวยเขินจนใบหน้าของเขาเริ่มร้อนและมีสีแดงฉาด ส่วนผู้เป็นน้องดูท่าจะเริ่มเบื่อหน่ายกับพี่ชายคนนี้สะแล้วสิ
"เอาเถอะ...พรุ่งนี้กรุณาไปส่งแพท ที่ มหาวิทยาลัยด้วยนะค่ะ" หญิงสาวอ้อนผู้เป็นพี่ด้วยกิริยาคล้ายลูกแมวน้อยที่กำลังอ้อนเจ้านายผุ้แสนดี แต่ดูเหมือนเจ้านายคนนี้จะไม่ค่อยชอบแมว เลยทำหน้าเสียใส่
"ไปเองไม่เป็นหรือ" พี่ชายถามน้องสาวผู้แสนน่ารักด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจเท่าไหร่ หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงไปหาพี่ชาย ทำตาหวานให้พี่ชายดู แล้วพยายามทำหน้าเศร้าๆ.... ได้ผล พอลเริ่มใจอ่อน แต่ยังไม่ทันที่พอลจะพูดอะไร หญิงสาวก็ออกปากขอบคุณ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไป ทำเอาพอลอ้าปากค้าง
พิทยา ยังคงนั่งชื่นชมกับถุงผ้าสีแดงถุงนั้น โดยไม่มีท่าทีว่าจะวางลงเลย ไฟในห้องค่อยๆดับลง รัตติกาลนี้ยังคงอีกยาวนาน ทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้การครอบงำของความมืด
ความคิดเห็น