ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The first fantasy(My School)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 0 ก่อนการเริ่มต้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 179
      0
      8 เม.ย. 54

    Frist fantasy (My school)

    บทที่ 0 ก่อนการเริ่มต้น

     

                    “แม่จ๋า”เสียงร้องเรียกผู้เป็นแม่ของเด็กชายผู้ที่เกิดมาได้เพียงไม่ได้สัปดาห์ดีนัก เด็กชายคนนั้นกวาดดวงตาสีเทาเพื่อมองหาผู้เป็นแม่อย่างร้อนรนขณะที่รอบข้างเต็มไปด้วยสีดำของความมืด

                    “ลูกแม่ ฝันร้ายหรือ”ผู้เป็นแม่ร้องถามอย่างร้อนใจ “หลับตาสิแม่จะเล่าอะไรให้ฟัง”เด็กชายทำตามที่ผู้เป็นแม่บอกทันที

                    “กาลครั้งหนึ่ง...โลกเราเคยตกอยู่ในยุคมืดดำ ไฟแห่งสงครามที่อยู่ที่หย่อมหญ้า ชาวไร่ชาวน...”

                    “แม่ ถ้าไฟติดที่ทุกหย่อมหญ้าทำไมถึงยังมีต้นไม้อยู่ล่ะฮะ”เสียงไร้เดียงสาถามขัดจังหวะการเล่าเรื่องทำให้เธอยิ้มน้อยๆก่อนจะตอบออกมา

                    “เป็นการเปรียบเทียบน่ะจ้ะ ว่าทุกๆที่มีสงครามอยู่”เด็กน้อยคนนั้นพยักหน้าทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ “เล่าถึงไหนแล้วนะ?”หญิงสาวถามอย่างไม่ต้องการคำตอบนัก

                    “เล่าถึงชาวไร่ฮะ”ผู้เป็นแม่ยิ้มอย่างอ่อนโยนทันที

                    “จ้ะ ชาวไร่ชาวนาลำบากยากแค้น สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และภูติรวมทั้งสัตว์เทพทั้ง10ที่ยาวนานกว่า3000ปีได้ยุติลงด้วยความสามารถของใครรู้ไหม”

                    “เซฟิรอธ ดรากอนอายฮะ เรื่องนี้แม่พึ่งเล่าไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเองนะฮะ” ความจำดีอีก

                    “รู้ไหมจ๊ะ เซฟิรอธน่ะ เป็นพ่อของลูกนะจ๊ะ”เด็กน้อยเผลอลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะรีบปิดลงอย่างรวดเร็วราวกับว่ากลัวโดนดุ

                    “หรอฮะ”เสียงถามอย่างไร้เดียงสาดังขึ้นอีกครั้ง

                    “ใช่จ้ะ เรื่องต่อไปเอาเป็นตำนานอาวุธทั้ง10 โลกของเราประกอบด้วยธาตุทั้ง9ที่ประกอบด้วย ความมืด แสงสว่าง ลม ไฟ น้ำ ดิน สายฟ้า โลหะ และไม้ ในอดีตกาลก่อนสงครามแห่งยุดมืดจะปะทุ ช่างตีเหล็กนามเซเรฟและผู้ช่วยโอเลต้า ได้ตะเวนไปทั่วโลกเพื่อดึงพลังของโลกจากแต่ละที่ผนึกเข้าในอาวุธด้วยความหวังที่ว่าจะสามารถต้านภัยธรรมชาติลงได้บ้าง...ทว่าด้วย พลังของแต่ละพื้นที่ที่อ่อนแอทำให้ผนึกแห่งบรรพกาลที่ว่ากันว่าถูกสร้างโดยชนเผ่าแรกเริ่ม ทำให้สงครามยุคมืดบังเกิดขึ้น...”หญิงสาวหันมามองใบหน้ายามหลับของเด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างปวดใจน้ำตาแห่งความเศร้าไหลรินลงบนใบหน้าหวาน

                    “เทร่า เราไม่ได้มีเวลากันทั้งวันนะ”เสียงของชายผมสีเทาผู้มีใบหน้าใกล้เคียงกับเด็กน้อยผู้ที่กำลังหลับใหลอยู่ในฝันอันสวยงามของตน

                    “ข้า ชื่อเทเรซ่า ท่านจำมันไม่ได้หรือ”หยาดน้ำตาไหลลงมามากขึ้นและมากขึ้น “ท่านแน่ใจว่ามันจะเป็นทางเดียว”หญิงสาวกล่าวออกมาเสียงเบาราวกับว่าเสียงของเธอนั้นได้หายไปหมดแล้ว

                    “ใช่...วิธีเดียวที่จะทำให้พลังไม่ถูกสลายก่อนเวลา...ไม่อย่างนั้นความหวังสุดท้ายของพวกเราจะมลายไปกับสายลมทันที”ชายคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น

                    “รอธ...หวังว่าการที่ฉันยอมห่างกายลูกของเราไป15ปีมันจะช่วยให้เราได้อยู่มองลูกได้นานกว่าเดิมนะ”เขาพยักหน้าก่อนจะกอดเธออย่างให้กำลังใจ

                    “เธอคงไม่อยากเห็นพลังปะทุออกมาพร้อมกับร่างของเขาที่แหลกเป็นผงใช่ไหม”เธอพยักหน้าอย่างเงียบงันน้ำตาไหลลงมารีบระลอก

                    “หวังว่าเขาจะอภัยให้ฉันและคุณนะ”เธอพูดเบาๆ “ลาก่อนลูกรัก...หวังว่าเมื่อถึงเวลาลูกจะมาหาเราพร้อมอ้อมกอดที่เปี่ยมไปด้วยรักและคิดถึงนะ”เทเรซ่าจูบลูกอย่างแผ่วเบาที่หน้าผากเด็กน้อยที่ตอนนี้กำลังผจญภัยในฝันของเขาอย่างเปลี่ยมสุขไม่ได้รับรู้ถึงความทุกข์ที่ใกล้เข้ามา “ข้าแต่ท่านเทพทั้งปวง ข้าเทเรซ่า ดรากอนอาย ขอเรียกให้ท่านสดับรับฟังข้าด้วยอำนาจทั้งหมดที่ข้ามีอยู่ในกาลนี้...ดูแลบุตรชายของเราด้วย”น้ำตาหยดลงบนใบหน้าที่มีความสุขของเด็กน้อยทำให้เขาหันหน้าหนีก่อนจะนิ่งไป

                    “ข้าขอแลกพลังทั้งหมดที่ข้ามีในตอนนี้ เพื่อให้เด็กชายตรงนี้ปลอดภัย”เขาหลับตาลงก่อนที่จะรู้สึกว่าพลังที่ไหลเวียนในตัวหายไปในทันที

                    “ท่านรับฟัง...”เทเรซ่าพูดไปก่อนสิ้นสติร่างของเด็กชายหายไปจากจุดที่เคยอยู่เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นอาย...และไออุ่นแสดงตัวว่าเขาเคยอยู่ตรงนั้นเพียงเท่านั้น

                    ร่างของเด็กชายถูกส่งมาอยู่ในสภาพของตะกร้าสานมีผ้าห่มให้อย่างดีเงินทองอยู่ในถุงข้างกายที่คอห้อยสร้อยยาวที่มีจี้รูปทรงกลม...มีขีดคล้ายดวงตาขวางอยู่...ดูๆไปคล้ายตาแมว...มีกรอบทองติดอยู่อย่างที่ไม่น่าจะติดได้เพราะว่ามีระยะห่างอยู่เกือบหนึ่งเซนฯ ข้างกายของเด็กชายมีมีดสั้นในปลอกอย่างดีเล่มหนึ่งสีดำสนิทโค้งอย่างสวยงาม...อีกเล่มสีขาวสว่างตั้งตรงราวและปลายแหลม บรรยากาศโดยรอบมีสายฝนตกลงมาอย่างหนักทว่าร่างของเด็กชายคนนี้ไม่มีฝนหยดใส่แม้แต่เม็ดเดียวราวกับมีร่มทั้งๆที่ร่มของหน้าบ้านหลังนี้ไม่น่าจะกันอะไรได้เลย

                    ออด

                    เสียงออดดังขึ้น หญิงวัยกลางคนเปิดประตูหลังจากเสียงดังขึ้นราวๆ10นาทีก่อนจะร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ

                    “ว๊าย!!! เด็กน้อยหน้าตาน่ารักที่ไหนเนี่ย”หญิงวัยกลางคนมองซ้ายมองขวาก่อนจะอุ้มเด็กชายคนนี้เข้าไปในบ้านที่ป้ายเขียนไว้อย่างสวยงามว่าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า “ยินดีต้อนรับสู่บ้านใหม่จ้ะ...เอ มีชื่อเขียนด้วยนี่ คลาวด์ คลาวาโด ดรากอนอาย หรอ ชื่อเพราะดีนะจ๊ะ” เด็กน้อยรับรู้ถึงสัมผัสของอากาศเย็นยะเยือกที่พัดผ่านตัวทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อมส่งเสียงร้องทันที...

                    [เกรินมาพอแล้วเข้าเรื่องเลยเนอะ]

     

                    13ปีผ่านไป

                    หนึ่งวันสามฤดูเป็นคำนิยามของยุคที่ตอนเช้าร้อน กลางวันฝนตกและตอนเย็นหนาวจัด พ.ศ.2998

                    “เห้ย วันนี้สอบวันสุดท้ายทั้งทีไปกินเลี้ยงกันไหมวะ”เสียงของซี้ดังขึ้นทุกคนหันไปมองแวบหนึ่งก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ

                    “ขอบายว่ะ วันนี้ข้าต้องไปช่วยแม่ทำงาน”ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินปลีกตัวออกไป

                    “พวกเราไปกินข้าวเย็นกันไหม”พูดจบกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็เดินปลีกตัวออกไปจนในที่สุดก็เหลือเขากับคนที่เรียกตัวเองว่าซี้อยู่2คนเขาที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่จึงไม่รู้ตัวแต่อย่างใด

                    “ว่าไงคลาวด์ ได้กินเลี้ยงกับข้าไหมวะ ห้อง1กับ2ก็ไปกันนะเว้ย”ซี้เดินเข้ามาทักชายผู้โดดเดี่ยวเจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงมือที่แตะที่บ่าตน ดวงตาข้างขวาส่องประกายสีน้ำเงินอ่อนๆอยู่เปลี่ยนเป็นปกติอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่เห็น

                    “คลัตหรอ มาก็ให้เสียงก่อนสิตกใจหมด”คลาวด์ชายหนุ่มผู้เงียบที่สุดในห้อง6S3 หรือก็คือชั้นม.6ห้องSซึ่งเป็นห้องพิเศษสำหรับเด็กเรียนเร็วทั้งๆที่เรียนจบกันหมดแล้วแต่อายุกลับอยู่ที่13-15กันเท่านั้นโดยจะไล่ความเก่งจาก3ไป1ซึ่งเป็นการเรียงที่แปลกไม่น้อย

                    [คลาวด์ ชายหนุ่มผมสีเทา นัยน์ตาสีเทาอ่อน เป็นคนที่เรียกได้ว่าหน้าตาดีที่สุดในโรงเรียนถึงแม้ว่าหน้าตาจะออกแบบเด็กหน่อยก็ตามเพราะว่าอายุเพียง13เท่านั้น]

                    [คลัต ชายหนุ่มหน้าตาดีแต่ทว่ากลับคมเข้มและดูแก่เกินวัย15ดูๆไปแล้วเหมือนคนอายุซัก25มากกว่า ผมสีน้ำตาล ตาสีนิล ถือว่าติดท็อปเท็นหน้าตาดีที่สุดในห้องแต่ว่าด้วยนิสัยที่ชอบพาลจึงมีคนที่ไม่ชอบเยอะมากชนิดที่ว่าเกินครึ่งของคนที่รู้จักไม่รวมญาติและคนที่เป็นผู้ใหญ่]

                    ในขณะที่คลัตซึ่งฟังอยู่อ้าปากจนแมลงวันเข้าได้เป็นสิบๆตัวในใจคิดว่าที่พูดเมื่อกี้ไม่ใช่การส่งเสียงหรืออย่างไร

                    “มีอะไรงั้นหรอ”คลาวด์ถามขณะที่ดวงตายังคงจ้องไปที่หนังสือที่หน้าปกเขียนว่า วิชาป้องกันตัว

                    “คือจะถามว่าเย็นนี้ไปงานเลี้ยงกันไหมสอบวันสุดท้ายเนี่ย”คลัตทำใจเย็นถามซ้ำอีกครั้ง

                    “อืม...นายเลี้ยงไหมล่ะ”คลาวด์ถามขณะที่ยังคงจ้องหนังสือต่อไป คลาวด์เป็นที่รู้ๆกันของโรงเรียนว่าเป็นเด็กกำพร้า แต่สมองกลับปราดเปลื่อง*ยิ่งกว่าใครๆ ค่าเทอมก็อาศัยชิงทุนเอา ค่าอาหารถ้าเพื่อนไม่เลี้ยงก็จะเอาเงินจากการแข่งกันไม่ใช้ของฟุ่มเฟือยอย่างโทรศัพท์มีแต่เครื่องรุ่นปาหัวหมาแตกในขณะที่คนอื่นใช้รุ่นดีๆกันทั้งนั้น

                    [ปราดเปลื่อง เขียนถูกไหมครับ]

                    “ได้ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ห้อง1กับห้อง2ไปด้วยนะเว้ย”คลาวด์พยักหน้ารับครั้งหนึ่ง

                    “ที่ไหน”

                    “ร้านเดิม ทุ่มครึ่ง เดี๋ยวข้าไปรับที่หอพัก”คลาวด์พยักหน้าก่อนจะปลีกตัวออกไป คลาวด์นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในคนดีที่สุดในห้องเพราะว่านอกจากจะช่วยสอนการบ้านเพื่อนทั้งๆที่มีสิทธิ์ว่าจะโดนแย่งตำแหน่งได้ง่ายๆแต่ว่าก็ยังสอน ยังรักษาคำพูดคำไหนคำนั้นยกเว้นเหตุสุดวิสัยอย่างอุบัติเหตุก็จะมาขอโทษทีหลังบางทียิ่งปิดเทอมอย่างนี้มีขั้นไปขอโทษถึงที่บ้านเลยทีเดียวทำให้มีหญิงติดอยู่หลายคนและเป็นที่น่าแปลกว่าไม่มีใครเคยได้ควงกับชายคนนี้เลย

                    เวลาทุ่มตรง ณ หอพักนักเรียน

                    คลาวด์เก็บของทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนจะเปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นชุดอื่นที่พอจะใส่ไปงานเลี้ยงได้บ้างในใจหดหู่อย่างช่วยไม่ได้เพราะว่านี่คงเป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้วก่อนจะออกจากที่นี่ไปความรู้ของเขาในตอนนี้มีมากเสียคนอาจารย์ใหญ่ถึงกับขอให้มาเป็นอาจารย์ที่เลยทีเดียวแต่ว่าอาชีพในฝันเขาไม่ใช่อาจารย์แต่เป็นทหารใช่แล้วครับทหารปัจจุบันทหารได้เปิดรับสมัครคนที่อายุตั้งแต่15ถึง20วุฒิเทียบเท่าหรือสูงกว่า ม.3สำหรับโรงเรียนนายร้อย

                    ชายหนุ่มหยิบจี้ที่เป็นลูกแก้วขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง1นิ้วได้มีขีดคล้ายๆตาแมวอยู่ตรงกลางแล้วก็มีทองหลอมเป็นวงรอบลูกแก้วคล้ายๆรัศมีของดวงอาทิตย์แบบที่ชอบวาดกันหากว่านำไปขายคงจะขายได้ไม่ต่ำกว่าล้านเพราะความประณีตและเพชรพลอยที่ประดับอยู่แต่ว่าเป็นของดูต่างหน้าพ่อแม่เขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ชายหนุ่มมองดูมันอยู่สองสามนาทีก่อนจะหยิบสวมที่คอและเดินลงไปรอซี้ที่คงจะมาในอีกไม่ช้า

                    ทำไมถึงเรียกคลัตว่าซี้นั้นเพราะว่าเขาเป็นคนที่ชอบตีสนิทกับคนอื่นไปทั่วโดยเฉพาะคนที่เก่งและมีความสามารถบางทีรู้จักกันเดือนสองเดือนคลัตก็บอกว่าตัวเองซี้กับคนนั้นมากๆทั้งๆที่อีกฝ่ายแทบจะไม่อยากรู้จักด้วยเลย คลัตมีนิสัยขี้โม้และพอใครไม่เชื่อหรือทำเหมือนไม่เชื่อเขาก็เริ่มพาลทั้งด่าทั้งท้าตีท้าต่อยจนทำให้มีคนไม่ชอบเขามากกว่าครึ่งอย่างที่ได้บอกไป และเขาชอบปัดความรับผิดชอบเช่นทำของพังพอมีคนมาถามก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง แต่พอคนอื่นทำของของตนเสียหายซักหน่อยก็เรียกค่าเสียหายซะเกินจริง...

                    “รอนานไหม”รวมทั้งอายุยืนเสียด้วย ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเทาส่ายหน้าก่อนจะขึ้นรถของอีกฝ่ายไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าคลัตนั้นบ้านรวยจริงๆรถแลมโบกินี่ที่แทบจะหาไม่เจอในเมืองไทยก็อยู่ตรงนี้แล้ว!!!

                    เวลาทุ่มครึ่ง ณ งานเลี้ยง (ร้านเดิมที่ว่า)

                    “นั่นไงคลัตมาแล้ว”เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นไม่หยุดหย่อนจนกระทั่งชายหนุ่มเดินออกจากรถมาในขณะที่โยนกุญแจให้บริกรหนุ่มซึ่งกำลังมองรถอย่างอึ้งๆชายหนุ่มจึงตบหลังเขาไปเบาๆครั้งหนึ่ง

                    “อย่าทำเป็นรอยนะ”คลัตกระซิบให้บริกรหนุ่มได้ยินเบาๆในขณะที่เขาเกือบจะเดินไปถึงรถแล้วประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับชายที่ดังที่สุดในโรงเรียน...คลาวด์เดินออกมาพร้อมรอยยิ้มละลายใจ เสียงกรี๊ดดังขึ้นกว่าเท่าตัวคลัตเลยทำหน้าจ๋อยไปเลยก่อนเมื่อคลาวด์เดินมาข้างๆชายหนุ่มจึงกระซิบพูดออกไปว่า

                    “รู้งี้ไม่เอานายมาหรอก”คำพูดที่ฟังดูก็รู้ว่าพูดเล่นต่อให้คลัตเป็นคนที่มีคนไม่ชอบมากแค่ไหนแต่คลัตก็ยังเป็นคลัตสมองช้า และต้องการเพื่อนมากเป็นอันดับหนึ่ง

                    เจ้าของเรือนผมสีเทาเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปอย่างง่ายดายเพราะว่าเมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็จะเกิดทางทันที โต๊ะเลข14มีคนนั่งอยู่ไม่น้อยและทุกคนล้วนรู้จักกันทั้งนั้น...ห้อง6S3

                    “ว่าแล้วนายต้องมา”เซรีน่าพูดขึ้นพร้อมโปรยยิ้มให้และช่วงเวลานั้นเองคลาวด์ก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินคู่กับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง

                    [เซรีน่า หญิงสาวผมสีดำสนิทเช่นเดียวกับดวงตา ใบหน้าหวานรอยยิ้มที่ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อประดับบนใบหน้าเสมอ ทำให้หญิงสาวได้ชื่อว่าสวยเป็นอันดับ1ของห้อง]

                    “นั่น น้ำกับเดรสนี่นา”เสียงครูซดังขึ้นทักเมื่อมองตามสายตาของคลาวด์ส่งผลให้ชายหนุ่มหันกลับมาทันทีพร้อมกับทำท่าไม่รู้ไม่ชี้และเริ่มสวาปามอาหารตรงหน้า

                    [ครูซ ชายหนุ่มหน้าตาดีเป็นอันดับสองของห้อง ผมสีบรอนซ์ ดวงตาสีเขียว ใบหน้าหวานคล้ายหน้าผู้หญิง และดวงตาเจ้าเล่ห์ชนิดที่ว่ามองผ่านๆก็รู้ว่าเจ้าชู้]

                    [น้ำ ผู้ที่ได้รับตำแหน่งที่หนึ่งในดวงตาคลาวด์ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเกือบตลอดเวลาและดูอ่อนหวานจนทำให้คนมองยิ้มตามไปด้วย มีผมสีน้ำตาลไหม้ และดวงตาสีนิล อยู่ห้อง6S2]

                    [เดรส ดวงตาและผมสีนิล ใบหน้าสวยหวาน ท่าทางเหมือนกับผู้ชายอยู่น้อยๆ ยิ้มง่ายและยิ้มสวยติดกับน้ำตลอดเวลา อยู่ห้อง6S2]

                    “นายนี่นะแค่เจอน้ำหน่อยไม่เห็นต้องหลบขนาดนั้นเลย ปอดว่ะ”เสียงเรย์ดังขึ้นกวนประสาททันทีเมื่อเห็นสภาพนั้น

                    [เรย์ ชายผู้ที่หน้าตาดีเป็นอันดับสี่ ตัวเตี้ยนิสัยกวนประสาทมากจนถึงที่สุด ตาสีน้ำตาล ผมสีดำสนิท]

                    “เห้ย ช่างคลาวด์มันเถอะน่า เดี๋ยวมันก็กินแห้วไปเองล่ะ”เชสพูดขึ้นเหมือนจะช่วยแต่กลับฟังดูเหมือนซ้ำเติมยังไงก็ไม่รู้

                    [เชส ชายหนุ่มเจ้าของอันดับสามของผู้ชายหน้าตาดี นิสัยดีเล็กน้อยถึงปานกลาง กวนประสาทเล็กน้อย ผมและตาสีน้ำตาลไหม้]

                    “เชสพูดดีว่ะเอาไป5”เรย์และครูซพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะยกมือขึ้นตบกันเหนือหัว

                    “นี่ คลาวด์พรุ่งนี้วันเกิดเธอใช่ไหม”เซรีน่าหันมาถามหลังจากส่ายหน้าระอาชายหนุ่มทั้งสาม

                    “วันที่ฉันถือว่าเป็นวันเกิดน่ะ”คลาวด์ยิ้มเศร้าๆ

                    “จะ15แล้วทั้งทีอย่าทำอ่อนแออย่างนั้นสิ”โอปอลดุ

                    [โอปอล หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีนิลดวงตาสีน้ำเงินเข้ม เป็นคนที่เรียกได้ว่าน่ารักอีกอันดับโรงเรียนเลยด้วยนิสัยและหน้าตาทำให้มีผู้ชายสนใจอยู่ไม่น้อย]

                    วันพรุ่งนี้ที่เขาถือว่าเป็นวันเกิดเพราะหนึ่งวันนั้นเป็นวันที่เขาเข้าและออกสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า รวมทั้งเป็นวันที่เขาได้เจอ...น้ำเสมือนเป็นวันที่ทำให้เขาได้เกิดใหม่และในเอกสารราชการก็ออกไว้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเขาเช่นกัน

                    “สวัสดีทุกๆท่าน คนส่วนใหญ่ในที่นี้คงจะรู้จักผมแล้วนะครับ”เสียงคลัตดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏบนเวทีอย่างช้าๆ “ถึงแม้ว่าที่โรงเรียนจะจัดงานอำลาให้แล้วแต่ก็ยังไม่หนำใจฉะนั้นผมขอให้ใครก็ตามที่มีความในใจกับเพื่อนคนไหนขอให้ได้พูดออกมาที่นี่ได้เลยครับ”คลัตพูดออกมาได้น่าสนใจไม่น้อยโดยที่ทุกคนในห้อง6S3ก็ต่างรู้ดีว่าทำไม่ถึงได้มีอย่างนี้ขึ้นเพราะว่าทุกคนในห้องนี้ได้เชียร์ให้คลาวด์เข้าไปขอคบกับน้ำมานานแล้ว

                    “กลับก่อนนะ ของฉันยังจัดไม่เสร็จเลย”คลาวด์โกหกออกไปหวังว่าจะรอดออกจากสถานการณ์นี้แต่ว่านั่นเป็นแค่ความหวัง

                    “ฝันไปเถอะพรุ่งนี้นายค่อยจัดก็ได้ไม่ต้องหนี”เสียงที่เป็นดังเสียงปลิดชีพดังขึ้น ชายหนุ่มหน้าซีดเหงื่อแตกอยู่ตรงนั้นหูไม่ได้ยินเสียงสารภาพที่ดังขึ้นเรื่อยๆอีกต่อไปแล้วมีทั้งเสียงสารภาพรักที่มีต่อเขารวมทั้งที่มีต่อเพื่อนสนิททั้งสามอีกด้วยจนในที่สุดตอนนี้เจ้าเพื่อนทรยศได้ยื่นไมค์มาให้เขาแล้วคลาวด์สอดส่องหวังว่าหญิงสาวที่เป็นปัญหาจะกลับไปแล้วแต่ที่ไหนได้เจ้าตัวยังนั่งตั้งใจฟังอยู่ที่โต๊ะห่างกันไม่กี่ตัวเท่านั้น!!!

                    “เอ่อ...”ไม่เพียงแค่หญิงสาวคนนั้น หญิงสาวคนอื่นๆก็ฟังอย่างตั้งใจจนตอนนี้แทบกลั้นหายใจกันแล้ว “เอ่อ...ผม...เอ่อ...”ด้วยความที่พูดไม่เก่งจึงสรรหาคำพูดออกมาไม่ได้ในตอนนี้ “ผมอยากจะขอโทษ”มีเสียงโห่ดังขึ้นจากเหล่าเพื่อนๆ “ขอโทษที่เคยทำให้เพื่อนบางคนโกรธ โมโห แต่ผมขอพูดไว้เลยว่าผมไม่ได้ตั้งใจ ก็อย่างว่านะครับใครเขาอยากจะให้เพื่อนโกรธกันเล่า”เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ

                    “ขอบคุณเพื่อนๆที่คอยช่วยเหลือและไม่รังเกียจที่ผมเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ ผมซาบซึ้งจริง”เริ่มมีเสียงสะอื้นดังขึ้นเรื่อยๆแล้ว

                    “และขอให้เพื่อนทุกคนเจอกับอนาคตที่ดีนะครับ”คลาวด์ยิ้มที่หาทางลงได้ในที่สุดยื่นไมค์ตั้งใจจะส่งต่อแต่ทว่าอีกฝ่ายรับและส่งกลับคืนพลางพูดลอดไรฟันมาว่า

                    “ถ้านายยังไม่เลยนอกเรื่องไม่ต้องกลับหอหรอก”คำขู่ที่ทำให้เขาหน้าซีดอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงๆ

                    “สุดท้ายนะครับ...”คลาวด์หันไปมองน้ำที่หันมาฟังอย่างตั้งใจ “ผมน่ะ...รักคุณเพื่อนทุกๆคน”เสียงโห่ดังขึ้นจากคนในห้องทำให้เขาได้แต่ยิ้มแหยๆให้คนที่ขู่เขาเมื่อครู่มองมาด้วยสายตาที่อยากจะกินเลือดกินเนื้อ “และผมรัก...”ไม่รู้ว่าน่าเสียดายหรือน่าดีใจเพราะยังไม่ทันได้พูดชื่อก็เพื่อเหตุจลาจลเสียแล้ว

                    ตูม! (ระเบิดช่วยชีวิต!!!)

                    เสียงระเบิดดังขึ้นที่เวทีที่ตอนนี้ว่างเพราะว่าที่คนจดจ่ออยู่กับคำพูดของชายเจ้าของเรือนผมสีเทาคนนี้อยู่เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นทันที

                    “คนไหนคลาวด์ออกมาเดี๋ยวนี้”ชายในชุดสวาท[S.W.A.T]ถือปืนm203อยู่ในมือก่อนจะมีคนโรยตัวลงมาจากเพดานนับสิบคน “คลาวด์นายถูกหมายหัวจากรัฐบาลโลกแล้วไม่ว่ายังไงนายก็โดนจับได้แน่ๆออกมาซะ”

                    “นายไปทำอะไรไว้วะเนี่ย”ครูซตะโกนแข่งกับเสียงกรี๊ดคลาวด์ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

                    “ถ้าไม่ออกมาเราจะเริ่มหา หากมีคนบาดเจ็บจะเป็นเพราะนายคนเดียว”เสียงนั้นตะโกนอีกครั้ง

                    “พวกเราไม่โทษนายหรอกหนีไปซะ”คลัตตะโกนเสียงแข็งคล้ายคำสั่ง

                    “ขอบใจนะ”คลาวด์บอกพร้อมกับวิ่งออกมาจากภายในงานเลี้ยงและพบกับทหารในชุดสวาทกำลังล้อมที่นี่ไว้อยู่โชคดีที่ประตูเป็นกระจกแบบที่ข้างในมองเห็นของนอกแต่ข้างนอกไม่สามารถเห็นข้างในได้เลย

                    ให้มันได้อย่างนี้สิ ชายหนุ่มผมเทาประชดในใจเบาๆเท่าที่ดูหน่วยสวาทล้อมที่นี่ไว้หมดแล้วโดยอ้างว่าเป็นการฝึกซ้อมการจับกุมคนร้าย...ให้มันได้อย่างนี้สิวะดวงตาสีเทาสอดส่องอย่างรวดเร็วและเคร่งเครียด ร้านนี้รู้สึกว่าจะมีทางหลบหนีฉุกเฉินจากสงคราครั้งที่แล้วสินะ เยี่ยมเลย ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีชัยก่อนจะวิ่งไปที่ห้องครัวก่อนจะพบว่ามีหน่วยสวาทนายหนึ่งคุมอยู่ คนส่วนใหญ่คงจะไปรวมกันที่ห้องกินเลี้ยงและยังไม่ได้ยินเสียงปืนหรือเสียงร้องซักครั้งแปลว่าทุกคนยังอยู่ดี

                    “ดูเหมือนว่าคลาวด์จะไม่ได้มางานนี้ครับท่าน”หน่วยสวาทนายหนึ่งเดินเข้าไปกระซิบชายที่ตะโกนเมื่อครู่ เขาหลับตาลงเล็กน้อยก่อนจะลืมตาอย่างรวดเร็ว

                    “ที่นี่ข้าจำได้ว่ามีทางหลบหนีฉุกเฉินสินะไปรอที่ปลายทางเร็ว ข้าจำได้ว่ามันมีอยู่7ทางกระจายกำลังไปดักให้หมดเหลือคนไว้ซัก10คนคอยดูเผื่อว่ามันจะยังอยู่ในนี้และย้ำมันว่าหากว่าเด็กนั่นเข้าใกล้เกิน10เมตรสัญญาณเตือนจะดัง”เขาบอกก่อนจะวิ่งไปทางที่เข้ามา...ทางที่ระเบิดเข้ามาหน่วยสวาทถอนกำลังไปเกือบทั้งหมดเหลือไว้10นายโดยที่นายที่เฝ้าทางเข้าก็ได้ออกไปด้วยคลาวด์จึงประติดประต่อเรื่องราวได้และเปลี่ยนเส้นทางในที่สุด

                    “คลาวด์นายอยู่ที่นี่ใช่ไหม”เสียงเรียกเบาๆอันคุ้นเคยเรียกรอยยิ้มได้ดี     “มาเร็วฉันจะพานายไปเอง”คลัตและเพื่อนสนิททั้งสามของเขาเดินมาพาเขาไปซึ่งไม่เป็นที่น่าสงสัยนักเพราะว่าตอนนี้ทุกคนเริ่มทยอยกันออกมาแล้วหน่วยสวาทดักรออยู่หน้าประตูระยะห่าง ห่างกันอยู่คนละ15เมตรยืนสงบนิ่งอยู่หน้าประตูขนาดใหญ่

                    “เชิญไปได้ครับ”เสียงชายหนุ่มดังขึ้นคนเริ่มทยอยกันออกไปทันทีและเมื่อคลาวด์เดินเข้าไปใกล้ในรัศมี10เมตรของหน่วยสวาทคนหนึ่งเข้าก็เกิดเสียงแปลกประหลาดขึ้น

                    วี๊ด!!!

                    เสียงที่ดังขึ้นอย่างน่าสยดสยองหน่วยสวาททั้ง10คนที่เฝ้าอยู่เคลื่อนไหวทันที ในขณะที่คลาวด์กำลังกัดฟันนิ่งที่สุดเท่าที่ทำได้ทั้ง10เริ่มเข้าใกล้เขามามากขึ้นแล้วส่งผลให้เขาเดินเร็วขึ้นทีละนิดๆจนกระทั่งถึงรถแลมโบกินี่อย่างปลอดภัย

                    “ฉันจะรีบไปส่งให้เร็วที่สุด”คลัตบอกเพื่อนทุกคนที่นั่งมาด้วยก่อนจะออกตัวด้วยความเร็วสูงเมื่อหน่วยสวาททั้ง10เดินใกล้เข้ามา

                    “เจอตัวแล้วครับ เป้าหมายอยู่ที่รถแลมโบกินี่ ป้ายทะเบียน TS SM 1722 ครับ”เสียงรายงานดังขึ้นจากวิทยุข้างกายของชายผู้เป็นหัวหน้าของครั้งนี้

                    “โธ่ เว้ย ไปดักมันที่บ้านเร็ว”หัวหน้าสั่งมีหรือลูกน้องจะไม่ทำตามรถออกตัวด้วยความเร็วสูงแต่กลับต่ำเมื่อเทียบกับรถที่ออกไปก่อน

                    “คลัต ช่วยส่งฉันที่บ้านก่อนได้ไหม5นาทีพอ”คลัตพยักหน้ารับ ทันทีที่ถึงหอพักคลาวด์ขึ้นไปหยิบกระเป๋าเงินที่เต็มไปด้วยเงินสดกว่าหมื่นบาทเพราะว่าเขารู้ว่าวันนี้ต้องมาถึงจากคำทำนายของเพื่อนเขาตอนอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าและเพื่อนคนนั้นทำนายไม่เคยพลาด จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบมีดสั้นสองเล่มอยู่ในปลอกอย่างดีเป็นของอีกอย่างที่ได้มาเป็นของต่างหน้าพร้อมกับที่ที่ส่งเขามาที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจากนั้นก็ลงมายังรถเพื่อนตนอย่างรวดเร็ว

                    “ไปไหนต่อ”คลัตถาม คลาวด์หันไปมองเพื่อนๆคนอื่นๆก่อนจะแย้มยิ้ม

                    “สนามบิน แล้วพวกนายไม่ต้องตามฉันมาหรอก ฉันจะไปลอนดอนเพื่อนเก่าฉันคนหนึ่งบอกว่าถ้าไปที่นั่นจะช่วยฉันได้”คลาวด์ยิ้มให้อย่างรื่นเริงทว่าในใจกลับปิดบังความเศร้าราวกับกลัวว่ามันจะทำให้เขาเกิดความเสียใจอย่างยิ่งยวด...
    ----------------------------------------------
    อ่า...ถ้าเกิดว่ามีคำผิดบอกด้วยนะครับผิดไม่แน่ใจเพราะว่าผมพิมพ์แล้วไม่ค่อยได้ตรวจดูแต่ก็พยายามให้มีน้อยที่สุดนะครับ^^
    ส่วนแรกดราม่าไปนิดๆ- -*
    วันที่10-12กับ14-28ผมไม่อยู่นา -3- พึ่งเขียนไปได้นิดเดียวก็ชิ่งเสียแล้ว555+

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×