ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อันดราคาซัคค์

    ลำดับตอนที่ #8 : สอบ (3)

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 48




                   ใจกลางทะเลสาบ…สงครามย่อยๆกำลังจะเริ่มต้นขึ้น…



                    ปี๊ด!!!!!



                    โดยทันที…พลังลมสาดซัดออกจากฝ่ามือของเจมิไนออกไปเป็นระนาบยาว ราวดาบล่องหนเล่มใหญ่ที่ถูกเหวี่ยงออกไปเป็นครึ่งวงกลม…แม้จะไม่รุนแรงเท่าใดนัก เพราะกลัวว่าถ้าหนักมือจนเกินไป เพื่อนของเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บ…แต่มันก็เพียงพอที่จะอัดกระแทกสิ่งกีดขวางเบื้องหน้าให้ล้มระเนระนาด!!!



                     แผนเปิดตัวของเคอัส…



                     “พอครูฮานน์ให้สัญญาณเริ่มปุ๊บ นายก็อัด 3 คนนั่นให้ตกน้ำไปทีเดียวเลย…ถ้าโชคดี พวกเราก็ไม่ต้องแข่งต่อ ได้คะแนนเต็มสบายๆ…”

                    

                     เพียงแต่…



                     แม้จะอยู่ในอาการตกใจเพราะมันกระทันหันและไม่ได้คาดการณ์ไว้ แต่เอลไลย่าก็สามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงบริเวณนั้นให้มีค่าน้อยๆได้ทันท่วงที ดังนั้นทีมไม้จิ้มฟันสีขาวทั้ง 3 คนจึงลอยตัวอยู่ได้โดยไม่หงายหลังตกน้ำไป…เสียดายที่วิธีนี้ถูกจำกัดเวลาไว้ด้วยกติกาส่วนบุคคล ดังนั้นเพียงครู่เดียว เท้าของทั้ง 3 ก็แตะกลับลงบนตอไม้ดังเดิม



                     แผนเปิดตัวล้มเหลว…



                     ไม่อัดพลังลมซ้ำเพราะถูกห้ามไว้ด้วยกฎ…เจมิไนกระโดดถอยหลังเพียงทีเดียวก็ทำให้เขาย้ายมาอยู่ด้านหลังของแอมเบอร์และเคอัสที่ห่างออกไป 2 ช่วงตอไม้ กลายเป็นตำแหน่งการยืนรูปตัววีที่มีเขาอยู่หลังสุด เปลี่ยนจากตำแหน่งโจมตีเป็นสนับสนุน ส่วนแอมเบอร์กับเคอัสเป็นแนวหน้าทำหน้าทีโจมตีแทน



                      ทางด้านทีมไม้จิ้มฟันสีขาวมีลักษณะการวางตำแหน่งคนแตกต่างออกไป แม้จูปิไตจะมีหน้าที่สนับสนุนและเป็นตัวยืนพื้นเช่นเดียวกับเจมิไน แต่การเรียงแถวของฝ่ายนี้เป็นลักษณะแถวเดี่ยวหน้ากระดาน มีจูปิไตอยู่ตรงกลาง เอลไลย่าอยู่ทางขวา และนาธานอยู่ทางซ้าย…



                      หลังจากโดนเปิดศึกจากทางโน้นอย่างกระทันหัน…ทีมไม้จิ้มฟันสีขาวตัดสินใจเริ่มแผนการของตัวเองบ้าง…ตอไม้ฝั่งทีมไม้จิ้มฟันสีดำเริ่มโคลงเคลง…มากจนตอไม้ส่ายไปมา ไม่สามารถทรงตัวยืนอยู่ได้…เป็นผลจากการควบคุมให้ดินใต้น้ำบริเวณนั้นเคลื่อนไหวของเอลไลย่า…แต่ก่อนที่แอมเบอร์และเคอัสจะตกน้ำ พลังลมของเจมิไนก็โอบอุ้มทั้งสองและตัวเขาเองให้ลอยขึ้น…ผ่านไป 4 วินาที ตอไม้เบื้องล่างยังคงโยกเซไปมา…วินาทีที่ 5 ตามกติกาส่วนบุคคลทำให้เท้าของทั้ง 3 แตะลงบนตอไม้…แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็ลอยกลับขึ้นไปใหม่…



                      ไม่ผิดกฎ…กติกาเพียงระบุว่าใช้ได้เพียงครั้งละ 5 วินาที…แตะตอไม้แล้วก็ถือว่าเป็นการลอยตัวครั้งที่ 2 ซึ่งสามารถใช้ต่อได้อีก 5 วินาที…แต่ปัญหามันอยู่ที่ตรงนี้…ครั้งที่ 2 แล้ว และกฎห้ามใช้ติดกันเกิน 2 ครั้ง…นั่นแปลว่าจะไม่มีครั้งต่อไป…แล้วจะทำยังไง?!!!



                       หน้าตัดวงกลมของตอไม้ที่เอลไลย่าเหยียบอยู่นั้น จู่ๆก็เกิดไฟลุกขึ้น!…เอลไลย่ากระโดดเปลี่ยนตอไม้ทันที แต่เพียงเท้าสัมผัสลงบนตอใหม่ ไฟก็ลุกพรึ่บขึ้นจนต้องย้ายไปตอใหม่อีกครั้ง…เป็นวินาทีเดียวกันกับที่เท้าของทีมไม้จิ้มฟันสีดำสัมผัสลงบนตอไม้ที่ไร้การเคลื่อนไหวใดๆ พร้อมๆกับรอยยิ้มในชัยชนะของเคอัส…



                       เป็นแผนเบี่ยงเบนความสนใจของเคอัสที่คิดได้ในชั่วพริบตา…ไฟที่เคอัสทำให้ลุกขึ้น มอดดับในวินาทีต่อมา เพราะหากปล่อยไฟให้ไหม้ไปอย่างนั้น ตอไม้จะเหลือแค่เศษฟืน…ผิดกติกาส่วนบุคคล…



                       ปี๊ด!!!!



                       สัญญาณย้ายที่ดังขึ้น…ทุกคนต่างก็กระโดดย้ายที่ทันที มีผลให้การโจมตีต่างๆหยุดชะงักไปชั่วคราว…แต่ถึงแม้จะต้องย้ายที่ รูปแบบการวางตำแหน่งของผู้เล่นแต่ละทีมก็ยังคงมีลักษณะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน…



                       เท้าแตะตอไม้ใหม่ได้ จูปิไตก็หยิบลูกเหล็กในกระเป๋าออกมาเปลี่ยนให้มีรูปร่างเป็นแท่งยาวหลายเมตร ทันที ก่อนย่อตัวลงวาดแท่งเหล็กออกไปด้วยมือทั้งสองข้าง หวังจะขัดขาตรงช่วงข้อพับของฝ่ายตรงข้ามให้ล้มตกน้ำไปทีเดียว 3 คน



                       ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้พลังลมของเจมิไน ทั้งสามก็พร้อมใจกันกระโดด…แท่งเหล็กของจูปิไตกวาดโดนแต่เพียงอากาศธาตุ ก่อนที่ทั้งสามจะลงจอดลงบนตอไม้อันเดิม…แต่จูปิไตยังไม่ยอมแพ้ วาดแท่งเหล็กซ้ำไปอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว…แต่ราวฉายหนังซ้ำ…คิดว่าจูปิไตทำพลาดเป็นครั้งที่สอง…แต่ก็ยังคงทำท่าจะวาดแท่งเหล็กออกไปอีกเป็นครั้งที่สาม…หากครั้งนี้ แท่งเหล็กหยุดชะงักค้างอยู่บนตอไม้ใต้แอมเบอร์ที่กระโดดขึ้นไปแล้ว…จะลงบนตอไม้อันเดิมไม่ได้ เพราะแท่งเหล็กของจูปิไตรอจัดการกับเธออยู่ด้านล่าง!!



                       ครั้งแรกเพียงหยั่งเชิงเสี่ยงดู เปอร์เซ็นต์สำเร็จแทบจะไม่มี…ครั้งที่สองหลอกล่อ…ทั้งครั้งที่หนึ่งและสอง….ทั้งหมดเพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์สำเร็จให้กับครั้งที่สาม…นี่แหละ เป้าหมายที่แท้จริง!



                       “เจมิไน!”



                       แอมเบอร์ร้องเรียก และแทบจะในทันที ตัวของเธอก็ลอยค้างอยู่กลางอากาศห่างจากแท่งเหล็กไม่กี่เซนติเมตร…แต่แท่งเหล็กยังคงตามสูงขึ้นมาหวังเขี่ยเธอที่จะต้องตกลงมาตามกติกาส่วนบุคคลในอีก 5 วินาที ให้เปลี่ยนมาตกในน้ำแทนที่จะตกลงบนตอไม้…ในเสี้ยววินาทีที่แท่งเหล็กกำลังจะมาถึงตัว แอมเบอร์ก็เอื้อมมือไปคว้ามันไว้ ก่อนจะทำอะไรบางอย่าง…และนั่นมีผลทำให้มันหลุดจากมือจูปิไตหล่นลงไปในน้ำทันที!!!



                       จูปิไตสะบัดมือทั้งสองข้างที่ชาเพราะถูกกระแสไฟฟ้าที่มาตามแท่งเหล็กช๊อต ฝีมือของแอมเบอร์ที่กลับมายืนอยู่บนตอไม้อย่างเดิมเรียบร้อย…เคอัสไม่ปล่อยให้เวลานี้เสียเปล่า รีบปล่อยลูกบอลเพลิงกลุ่มหนึ่งออกจากฝ่ามือพุ่งตรงไปยังจูปิไตที่มือยังชาอยู่ทันที!



                       มือก็ยังชาจะควบคุมเหล็กขึ้นมาเป็นเกราะก็ยังทำไม่ได้…จะกระโดดหนีถอยหลัง ลูกบอลเพลิงก็จะตามไปอยู่ดี…จะโดดหลบไปทางซ้ายหรือขวา ก็จนมุมด้วยลูกบอลเพลิงที่พุ่งมาจากทุกทิศ…หากจะหลบ…มีทางเดียวเท่านั้น…ลงน้ำ…



                       เปรี้ยง!!



                       คลื่นความถี่สูงระเบิดน้ำเบื้องหน้าจูปิไตให้กลายเป็นกำแพงน้ำพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศ ลูกบอลเพลิงเมื่อชนกับกำแพงน้ำก็มอดดับ ก่อนที่กำแพงน้ำจะร่วงหล่นลงมาสร้างคลื่นลูกใหญ่สาดซัดเข้าหาแนวหน้าของฝ่ายตรงข้าม…แต่ด้วยความเร็วของสายลม เจมิไนกระโดดเพียงครั้งเดียวก็มายืนอยู่หน้าแอมเบอร์และเคอัส…กลายเป็นการวางตำแหน่งใหม่รูปตัววีคว่ำ…เกราะลมถูกสร้างขึ้นมาทันทีที่มาถึง…ทำให้คลื่นน้ำสาดซัดถึงแค่เพียงเกราะลมเท่านั้น…



                       “เจมิไน นายอยู่ตรงนั้นเลยไม่ต้องกลับมา…พวกเราจะเปลี่ยนรูปแบบจากแนวตั้งรับเป็นบุกกลับ!!!” เคอัสตะโกนบอก เจมิไนที่ไม่ค่อยชอบใจกับความคิดนี้นัก ได้แต่ถอนหายใจและทำตามอย่างไม่อยากขัดใจเพื่อน เพราะไหนๆก็ยกตำแหน่งคนวางกลยุทธ์ให้ไปแล้ว…คงต้องเลยตามเลย…



                       “ขอบใจมากสำหรับกำแพงน้ำนะนาธาน” จูปิไตกล่าว ก่อนที่แท่งเหล็กยาวใต้ท้องน้ำจะถูกเรียกขึ้นมาอยู่ในมือขวาใหม่…อาการชาหายไปแล้วพร้อมกับแผนการใหม่ที่เพิ่งจะคิดได้…จูปิไตหันไปหาเอลไลย่าและทำสัญญาณอะไรบางอย่าง



                        ปี๊ด!!!!



                        อีกครั้งที่การโจมตีถูกชะลอด้วยกติกาการย้ายที่…



                        ชะลอได้เพียงเสี้ยววินาที…



                        “นาธาน…ฉันของกำแพงแบบเมื่อกี้อีกทีได้มั้ย?” จูปิไตกล่าวด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบ



                        “ได้เลย!”



                        เปรี้ยง!!!

                        

                        กำแพงน้ำพวยพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าอีกครั้ง และดูเหมือนจะสูงมากกว่าครั้งก่อน…ม่านน้ำบดบังวิสัยทัศน์เบื้องหน้าและด้านข้างไปหมดจนไม่เห็นการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม แต่เจมิไนก็เตรียมพร้อมรับมือคลื่นยักษ์ที่กำลังจะตามมาในอีกไม่กี่วินาที…



                        แต่ทันทีที่ม่านน้ำถูกกางกั้น…ฝูงก้อนดินเหนี่ยวก็พุ่งทะลุออกมาโจมตีทันที!…เกราะลมถูกสร้างขึ้นมากำบังอย่างกระทันหัน…แต่วินาทีเดียวกันนั้นเอง นัยน์ตาของเจมิไนเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนหันขวับกลับไปหาแอมเบอร์…



                        “แอมเบอร์ ระวัง!”



                        ตู้ม!!!!



                        พร้อมๆกับม่านน้ำที่ร่วงหล่นลงมาสร้างคลื่นยักษ์ ร่างของแอมเบอร์ก็หงายหลังตกน้ำไปด้วยตามแรงดึงของผู้ที่มาเยือนอย่างเงียบเชียบที่ด้านหลัง…จูปิไตลงเหยียบบนตอไม้เดิมของแอมเบอร์ ก่อนเคลื่อนบอร์ดกลับไปยังฝั่งของตัวเองด้วยความรวดเร็ว และก้าวลงยืนบนตอไม้ได้ทันก่อนเวลา 5 วินาทีของการใช้บอร์ดติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง!!!



                        “จูปิไต๊!!!! อ๊าย!!!! ทำอย่างงี้ได้ไงยะ?!! นาธานด้วย!!! ฉันหลงนึกว่านายเป็นสุภาพบุรุษ นี่กลับมาเล่นงานสาวน้อยน่าสงสารอย่างฉันได้ยังไงยะ แล้วก็เอลไลย่าด้วย!! รุมกันอย่างงี้ได้ยังไง!!!! โป้ง โป้ง โป้ง! โป้งหมดทุกคนเลย!!”



                        “ขอโทษด้วยนะแอมเบอร์” นาธานกล่าวด้วยรอยยิ้ม



                        “โกรธไม่ได้นะแอมเบอร์ ก็เมื่อกี้เธอทำมือฉันชา ตามหลักแล้วเราต้องหายกันถึงจะถูก” จูปิไตกล่าวบ้าง



                        “น้ำเย็นดีมั้ยล่ะ?” เอลไลย่าถาม

        

                        แทนคำตอบ แอมเบอร์ก็สาดน้ำใส่ทั้งสามคนให้สัมผัสของเย็นของน้ำด้วยตนเอง ก่อนสะบัดหน้าว่ายเข้าฝั่งอย่างงอนๆ

        

                        “สมแล้วที่เป็นจูปิไตคิดแผน…เนอะเมอลินด้า” ครูฮานน์กล่าว

        

                        “นั่นสิคะ หนูยังคิดไม่ถึงเลย ใช้กำแพงน้ำบังไม่ให้อีกทีมเห็นการเคลื่อนไหว ส่งจูปิไตอ้อมไปโจมตีแอมเบอร์จากด้านหลัง แล้วก็ให้เจมิไนมัวยุ่งอยู่กับการสร้างเกราะลมบังก้อนดินของเอลไลย่า จนไปช่วยแอมเบอร์ไม่ได้”

      

                        จบประโยคของเมอลินด้า ครูฮานน์ก็ก้มลงมองนาฬิกาก่อนเป่านกหวีดให้สัญญาณย้ายที่…

        

                        ปี๊ด!!!!



                        ตอนนี้เหลือเพียง 5 คน…2 ต่อ 3…ข้างฝ่าย 2 คนดูเหมือนจะเริ่มแผนการใหม่ เมื่อเจมิไนกระโดดเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างกับเคอัส…อีกฝั่งดูเหมือนจะรับรู้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แผนการใหม่จึงถูกนำมาใช้…จูปิไตเริ่มย้ายที่ ย้ายที่ และย้ายที่ แทบจะไม่หยุดนิ่งอยู่ที่ตอไม้ไหนเกิน 1 วินาที…ก้อนดินเหนียวฝูงหนึ่งค่อยๆลอยขึ้นจากน้ำ เตรียมพร้อมปฏิบัติการอีกครั้ง…

        

                        แต่แล้วเจมิไนก็หายวับไปจากที่ยืนเดิม…

        

                        “เฮ้ย!!”

        

                        ตู้ม!!!!

        

                        เอลไลย่าหันขวับไปตามต้นเสียง…นาธานลงไปว่ายน้ำเล่นอยู่ข้างล่างแล้ว ในขณะที่เจมิไนบัดนี้ยืนอยู่ที่เดิมที่นาธานเคยยืนอยู่ ด้วยนัยน์ตาสีน้ำเงินที่แสดงถึงความพอใจและมีรอยยิ้มนิดๆบนมุมปาก…และทั้งๆที่มันเป็นภาพที่ออกจะน่ามอง แต่เอลไลย่ากำลังอยู่ในอารมณ์ที่อยากจะกระโดดถีบก้านคอเจ้าคนยิ้มเยาะนั่นมากกว่าอะไรทั้งหมด…แบบนี้เขาเรียกเล่นที่เผลอ!!!

        

                        เจมิไนที่เปลี่ยนจากผู้สนับสนุนมาเป็น “รุกเร็ว”…อาศัยความเร็วของสายลม พุ่งเข้ามาโจมตีนาธานระยะประชิดตัว…เร็วขนาดที่นาธานยังมองตามไม่ทัน วินาทีก่อนก็ยืนอยู่ฝั่งนู้นอยู่ดีๆ กระพริบตาอีกครั้งเจมิไนก็โผล่พรวดมาอยู่ข้างหน้าตั้งและผลักเขาตกน้ำไปแล้ว…ฉวยโอกาสที่เอลไลย่ากำลังคิดจะโจมตี ไม่ได้สนใจคิดจะป้องกัน ทำให้นาธานไม่ได้รับความช่วยเหลือให้ลอยขึ้นด้วยแรงโน้มถ่วงอย่างครั้งก่อนๆ…

                        2-2 จำนวนผู้เล่นพลิกกลับมาเท่ากันอีกครั้ง

        

                        “หนอย…เล่นทีเผลอ…” นาธานบ่นเจมิไนขึ้นมาจากในน้ำ แต่ก็อมยิ้มอย่างไม่ติดใจอะไร ก่อนว่ายกลับเข้าฝั่งไปอีกคน



                        “เจมิไน เจ๋งมาก!!! เอาให้ร่วงไปอีกคนเลย!!”

        

                        “น้อยๆหน่อยเคเค…นายนั่นแหละจะต้องร่วงไปสรงน้ำเป็นคนต่อไป”

        

                        “คงทำได้หรอกนะ…เอลลี่”

        

                        ฉับพลัน ตอไม้ที่เอลไลย่าเหยียบอยู่ก็เกิดประกายไฟ…เอลไลย่ากระโดดหลบก่อนที่ไฟจะลุกจนท่วมตอไม้และมอดดับไปในวินาทีต่อมา ย้ายมาลุกท่วมตอที่เธอกำลังยืนอยู่และตอไม้บริเวณรอบๆจนไม่มีที่จะให้กระโดดหนี…เอลไลย่าถูกบังคับให้ต้องใช้วิธีควบคุมแรงโน้มถ่วงบริเวณนั้นให้น้อยๆจนตัวของเธอลอยขึ้น…ตามกติกาส่วนบุคคลให้ใช้ได้เพียงครั้งละ 5 วินาที…เอลไลย่ามองหาตอไม้จะลงจอด แต่เพียงเท้าขวาได้สัมผัสตอไม้ ไฟก็ลุกท่วมขึ้นทันทีจนเอลไลย่าต้องลอยตัวขึ้นอีกครั้ง…คราวนี้ตอไม้ที่ไฟไม่ลุก เหลือเพียงที่เจมิไนยืน จูปิไตกำลังเหยียบ และที่เคอัสอยู่เท่านั้น…ครั้งนี้ถือเป็นการใช้วิธีลอยตัวติดกันเป็นครั้งที่สองแล้ว…หากหาที่ลงไม่ได้ในอีก 5 วินาที…เธอจะต้องออกจากการแข่งขันเพราะผิดกฎ!!!

        

                         “จูปิไต!!”

        

                         แต่จูปิไตขณะนี้กำลังยุ่งอยู่กับคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะคิดโจมตีเขาตรงๆ แต่เพราะการที่จูปิไตเคลื่อนย้ายที่ทุกๆวินาที ทำให้เขายังทำอะไรได้ไม่ถนัดนัก…ถ้าหากจูปิไตมัวมาช่วยเธออยู่ก็คงเสร็จกันพอดี…เอลไลย่าคงต้องหวังพึ่งตนเอง!!

        

                         “เจมิไน นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ ทางนี้สบายมาก กำลังจะจัดการได้อีกหนึ่ง นายจัดการจูปิไตให้ได้ล่ะ” เคอัสตะโกนยั่วเอลไลย่าพร้อมทั้งส่งฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้

        

                         เอลไลย่าหายใจออกแรงๆอย่างขัดใจ ก่อนที่ก้อนดินก้อนหนึ่งจะลอยขึ้นมาจากน้ำและกางแผ่ออกเป็นแผ่นดินแบนๆ เอลไลย่าบังคับมันให้ไปทับบนตอไม้ตอหนึ่งใกล้ๆ…ไฟเมื่อโดนดินแผ่นหนาทับก็ดับมอด เอลไลย่าลงเหยียบบนตอไม้ได้อย่างปลอดภัย และหันไปเล่นงานเคอัสเจ้าคนต้นเรื่องอย่างนึกแค้น…พื้นดินบริเวณตอไม้ที่เอคัสเหยียบอยู่เริ่มเคลื่อนไหวราวปฐพีพิโรธ!!

        

                         “ว้ากกกก!!!”

        

                         ตู้ม!!!

        

                         เคอัสเซตกน้ำตามแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน…แต่เมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำกลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี…

        

                         “ตัวเองเพิ่งจะตกน้ำ ยังหัวเราะอารมณ์ดีได้อยู่อีกเหรอ?” เอลไลย่าถามยิ้มๆ

        

                         แต่แทนที่จะตอบกลับมาเป็นชุดอย่างนิสัย…เคอัสกลับเพียงแค่ยิ้ม ก่อนชี้ให้เอลไลย่าหันไปอะไรมองข้างหลัง…

        

                         ตู้ม!!!

        

                        เอลไลย่าตะลึงกับภาพที่ได้เห็นเมื่อหันกลับไปมอง…จูปิไตตกน้ำไปแล้ว!!!…นี่เป็นเพราะเธอมัวแต่ห่วงแก้แค้นเคอัสจนลืมจูปิไตไปเสียสนิท…ก็จูปิไตที่กระโดดย้ายที่ทุกๆวินาทีดูเหมือนจะได้เปรียบเจมิไนอยู่ แต่เธอหารู้ไม่ว่า…ทุกครั้งที่จูปิไตกระโดดย้ายที่ เจมิไนจะกระโดดตามเข้ามา และบีบให้พื้นที่ที่จูปิไตจะสามารถกระโดดหลบไปได้เหลือวงแคบเข้าไปทุกทีๆอย่างที่เจ้าตัวไม่ได้คาดการณ์มาก่อน…มาตระหนักเอาได้ภายหลังก็สายจนแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว…จนในที่สุดก็จนมุม และพ่ายแพ้ต่อความเร็วที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรไปได้…

        

                        “ขอตัวช่วย!!!”

        

                        เอลไลย่าตะโกนเสียงดัง…ผิดคาดไปหมด…ทั้งๆที่คนที่ยืนอยู่คนสุดท้ายของทีมตามแผนแล้วต้องเป็นจูปิไตแท้ๆ…มากลายเป็นอย่างนี้…แล้วจะทำยังไง?!!!

        

                        “ขอตัวช่วย” เจมิไนกล่าวเสียงเรียบหลังจากที่เอลไลย่าขอตัวช่วยได้ไม่นาน ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นก็คือ…ตอไม้ทั้งหมดในบริเวณกลายเป็นตอไม้แช่แข็งไปหมดแล้ว…ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ การที่ขอตัวช่วยหมายถึงการขอให้เมอลินด้าทำให้ตอไม้ฝั่งตรงข้ามครึ่งของคู่ต่อสู้กลายเป็นน้ำแข็ง เป็นการทำให้ตอไม้ลื่นมากขึ้นและช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามตกน้ำง่ายขึ้น แต่เมื่อขอตัวช่วยจากทั้งสองทีมพร้อมๆกัน ทำให้ฝั่งที่เจมิไนยืนอยู่ต้องกลายเป็นน้ำแข็งเพราะเอลไลย่าเรียกใช้ตัวช่วย และฝั่งที่เอลไลย่ายืนอยู่ก็กลายเป็นน้ำแข็งด้วยเพราะเจมิไนเรียกใช้ตัวช่วย สรุปก็คือทั้งสองฝั่งหรือทั้งหมดของพื้นที่กลายเป็นน้ำแข็งหมดนั่นเอง…

        

                        แต่ว่า…

        

                        ถ้าตอไม้ทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็งเช่นนี้แล้ว…การกระโดดย้ายที่ครั้งต่อไปคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก!

        

                        ปี๊ด!!!!

        

                        เอลไลย่าตัดสินใจกระโดดในทันที และเมื่อเหยียบลงบนตอไม้น้ำแข็งด้วยน้ำหนักทั้งหมด เอลไลย่าก็เริ่มเซเพราะความลื่นของน้ำแข็ง จนต้องใช้การลอยตัวโดยแรงโน้มถ่วงมาใช้ ก่อนค่อยๆลงเหยียบตอไม้ทั้งๆที่ทำให้บริเวณนั้นมีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าปกติอยู่ จึงสามารถยืนตรงอยู่บนน้ำแข็งได้…ค่อยๆผ่อนน้ำหนักลงบนเท้าทั้งสองทีละน้อยจนกระทั่งยืนอยู่ได้ในสภาวะแรงโน้มถ่วงปกติ…แบบลำบากพอสมควร…

                        ในขณะที่…

        

                        เจมิไนที่ลอยอยู่ค่อยๆก้าวลงบนตอไม้น้ำแข็งและสามารถยืนอยู่ได้โดยไม่มีเซแม้แต่นิด!!!

        

                        เฮ้อ…

              

                        เอาล่ะ…งานนี้…

        

                        วัดดวง!!!

        

                        ทันใดนั้นพื้นดินบริเวณที่เจมิไนยืนอยู่ก็เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง…เอลไลย่าหวังจะให้เจมิไนที่ใช้วิธีลอยตัวไปแล้วต้องใช้อีกเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน…และเมื่อผ่านไป 5 วินาที เจมิไนก็จะต้องจนมุมด้วยการยืนอยู่บนตอไม้น้ำแข็งลื่นๆขณะที่มันกำลังโยกไปโยกมาอยู่อย่างในขณะนี้!!!



                        เป็นไปดังคาด…เจมิไนลอยตัวขึ้นเพื่อหลีกหนีการสั่นไหวเบื้องล่าง…เอลไลย่ายิ้มอย่างแน่ใจแล้วในชัยชนะที่กำลังจะเกิดขึ้นใจอีก 5 วินาที!

        

                        หากแต่…

        

                        ในเสี้ยววินาทีที่กำลังลำพองใจนั้น…เจมิไนยื่นมือขวาออกมาเบื้องหน้าชี้ตรงมาหาเธอในลักษณะที่ฝ่ามือตั้งฉากกับพื้นดิน…ก่อนที่เอลไลย่าจะรู้สึกได้ถึงพลังลมที่อัดกระแทกตัวเธออย่างเต็มที่จนหงายหลังตกน้ำไปอย่างแก้ไขสถานการณ์ไม่ทัน!!!

        

                        ตู้ม!!!!

        

                        เสียงปรบมือดังขึ้นมาจากครูฮานน์และเมอลินด้า ก่อนที่ครูฮานน์จะกล่าวเรียกทุกคนด้วยเสียงอันดัง

        

                        “จบเกมๆ ทุกคนมารวมกันทางนี้!”

        

                        เอลไลย่าว่ายน้ำเข้าฝั่งด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเพราะนึกโกรธตัวเอง…ประมาทเกินไป…ก็สมควรแล้ว…

        

                        มือๆหนึ่งยื่นมาช่วย…แต่เอลไลย่านึกฉุนเกินกว่าจะให้คนที่ทำเธอตกน้ำช่วย…

        

                        “ไม่ต้องมาทำช่วยเลย…จะตบหัวแล้วลูบหลังหรือไง?”

        

                        “อย่างนี้เขาเรียก แพ้แล้วพาล” นัยน์ตาสีน้ำเงินมีแววขบขันอย่างเปิดเผย ทำเอาเอลไลย่านึกฉุนมากขึ้น…

        

                        “ใช่…จะพาล ก็นายน่ะสู้กับผู้หญิงจะออมมือหน่อยก็ไม่ได้”

        

                        “ทำตัวเหมือนเด็กๆ” เจมิไนบ่น แต่มือก็ยังคงยื่นออกมาจะช่วย…



                        เอลไลย่าแยกเขี้ยวใส่ ก่อนมุดน้ำหนี

        

                        เจมิไนหัวเราะในลำคอ

        

                        “งั้นก็ตามใจ”

        

                        สิ้นประโยค เจมิไนก็หายวับไปรวมกลุ่มด้วยความเร็วของสายลม…ทิ้งให้เด็กขี้โมโหผู้ช่วยเหลือตัวเองได้ว่ายน้ำกลับเอง…ซึ่งก็กินเวลาไปพักหนึ่ง ก่อนขึ้นบกมาด้วยอาการหอบ…

        

                        “ทุกคนทำได้ดีมาก…ถึงจะใช้เวลาน้อยกว่าที่ครูคิดไปหน่อย…แค่ 2 นาที 06 วินาทีเอง…แต่ก็ดีแล้วล่ะ ครูจะบอกข่าวดี…” ครูฮานน์เว้นประโยค

        

                        “ครูให้ทุกคนเต็มหมดเลย”

        

                        “เย้!!!!” ทุกคนร้องพร้อมกัน โดยเฉพาะแอมเบอร์ที่ตกน้ำคนแรกส่งเสียงดังสุด

        

                        “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้แหละ ทุกคนกลับไปทำตัวให้แห้งแล้วก็หาเรื่องงีบกันดีกว่า”

        

                       “ผมว่าหาของกินดีกว่า…ใช้แรงมากแล้วชักหิว”

        

                        แล้วเคอัสก็เดินนำไปเป็นคนแรก…นำกลับไปยังหอพักสีน้ำเงิน…



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×