ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : สอบ (3)
              ใจกลางทะเลสาบ สงครามย่อยๆกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
                ปี๊ด!!!!!
                โดยทันที พลังลมสาดซัดออกจากฝ่ามือของเจมิไนออกไปเป็นระนาบยาว ราวดาบล่องหนเล่มใหญ่ที่ถูกเหวี่ยงออกไปเป็นครึ่งวงกลม แม้จะไม่รุนแรงเท่าใดนัก เพราะกลัวว่าถ้าหนักมือจนเกินไป เพื่อนของเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บ แต่มันก็เพียงพอที่จะอัดกระแทกสิ่งกีดขวางเบื้องหน้าให้ล้มระเนระนาด!!!
                แผนเปิดตัวของเคอัส
                “พอครูฮานน์ให้สัญญาณเริ่มปุ๊บ นายก็อัด 3 คนนั่นให้ตกน้ำไปทีเดียวเลย ถ้าโชคดี พวกเราก็ไม่ต้องแข่งต่อ ได้คะแนนเต็มสบายๆ ”
               
                เพียงแต่
                แม้จะอยู่ในอาการตกใจเพราะมันกระทันหันและไม่ได้คาดการณ์ไว้ แต่เอลไลย่าก็สามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงบริเวณนั้นให้มีค่าน้อยๆได้ทันท่วงที ดังนั้นทีมไม้จิ้มฟันสีขาวทั้ง 3 คนจึงลอยตัวอยู่ได้โดยไม่หงายหลังตกน้ำไป เสียดายที่วิธีนี้ถูกจำกัดเวลาไว้ด้วยกติกาส่วนบุคคล ดังนั้นเพียงครู่เดียว เท้าของทั้ง 3 ก็แตะกลับลงบนตอไม้ดังเดิม
                แผนเปิดตัวล้มเหลว
                ไม่อัดพลังลมซ้ำเพราะถูกห้ามไว้ด้วยกฎ เจมิไนกระโดดถอยหลังเพียงทีเดียวก็ทำให้เขาย้ายมาอยู่ด้านหลังของแอมเบอร์และเคอัสที่ห่างออกไป 2 ช่วงตอไม้ กลายเป็นตำแหน่งการยืนรูปตัววีที่มีเขาอยู่หลังสุด เปลี่ยนจากตำแหน่งโจมตีเป็นสนับสนุน ส่วนแอมเบอร์กับเคอัสเป็นแนวหน้าทำหน้าทีโจมตีแทน
                  ทางด้านทีมไม้จิ้มฟันสีขาวมีลักษณะการวางตำแหน่งคนแตกต่างออกไป แม้จูปิไตจะมีหน้าที่สนับสนุนและเป็นตัวยืนพื้นเช่นเดียวกับเจมิไน แต่การเรียงแถวของฝ่ายนี้เป็นลักษณะแถวเดี่ยวหน้ากระดาน มีจูปิไตอยู่ตรงกลาง เอลไลย่าอยู่ทางขวา และนาธานอยู่ทางซ้าย
                  หลังจากโดนเปิดศึกจากทางโน้นอย่างกระทันหัน ทีมไม้จิ้มฟันสีขาวตัดสินใจเริ่มแผนการของตัวเองบ้าง ตอไม้ฝั่งทีมไม้จิ้มฟันสีดำเริ่มโคลงเคลง มากจนตอไม้ส่ายไปมา ไม่สามารถทรงตัวยืนอยู่ได้ เป็นผลจากการควบคุมให้ดินใต้น้ำบริเวณนั้นเคลื่อนไหวของเอลไลย่า แต่ก่อนที่แอมเบอร์และเคอัสจะตกน้ำ พลังลมของเจมิไนก็โอบอุ้มทั้งสองและตัวเขาเองให้ลอยขึ้น ผ่านไป 4 วินาที ตอไม้เบื้องล่างยังคงโยกเซไปมา วินาทีที่ 5 ตามกติกาส่วนบุคคลทำให้เท้าของทั้ง 3 แตะลงบนตอไม้ แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็ลอยกลับขึ้นไปใหม่
                  ไม่ผิดกฎ กติกาเพียงระบุว่าใช้ได้เพียงครั้งละ 5 วินาที แตะตอไม้แล้วก็ถือว่าเป็นการลอยตัวครั้งที่ 2 ซึ่งสามารถใช้ต่อได้อีก 5 วินาที แต่ปัญหามันอยู่ที่ตรงนี้ ครั้งที่ 2 แล้ว และกฎห้ามใช้ติดกันเกิน 2 ครั้ง นั่นแปลว่าจะไม่มีครั้งต่อไป แล้วจะทำยังไง?!!!
                  หน้าตัดวงกลมของตอไม้ที่เอลไลย่าเหยียบอยู่นั้น จู่ๆก็เกิดไฟลุกขึ้น! เอลไลย่ากระโดดเปลี่ยนตอไม้ทันที แต่เพียงเท้าสัมผัสลงบนตอใหม่ ไฟก็ลุกพรึ่บขึ้นจนต้องย้ายไปตอใหม่อีกครั้ง เป็นวินาทีเดียวกันกับที่เท้าของทีมไม้จิ้มฟันสีดำสัมผัสลงบนตอไม้ที่ไร้การเคลื่อนไหวใดๆ พร้อมๆกับรอยยิ้มในชัยชนะของเคอัส
                  เป็นแผนเบี่ยงเบนความสนใจของเคอัสที่คิดได้ในชั่วพริบตา ไฟที่เคอัสทำให้ลุกขึ้น มอดดับในวินาทีต่อมา เพราะหากปล่อยไฟให้ไหม้ไปอย่างนั้น ตอไม้จะเหลือแค่เศษฟืน ผิดกติกาส่วนบุคคล
                  ปี๊ด!!!!
                  สัญญาณย้ายที่ดังขึ้น ทุกคนต่างก็กระโดดย้ายที่ทันที มีผลให้การโจมตีต่างๆหยุดชะงักไปชั่วคราว แต่ถึงแม้จะต้องย้ายที่ รูปแบบการวางตำแหน่งของผู้เล่นแต่ละทีมก็ยังคงมีลักษณะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
                  เท้าแตะตอไม้ใหม่ได้ จูปิไตก็หยิบลูกเหล็กในกระเป๋าออกมาเปลี่ยนให้มีรูปร่างเป็นแท่งยาวหลายเมตร ทันที ก่อนย่อตัวลงวาดแท่งเหล็กออกไปด้วยมือทั้งสองข้าง หวังจะขัดขาตรงช่วงข้อพับของฝ่ายตรงข้ามให้ล้มตกน้ำไปทีเดียว 3 คน
                  ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้พลังลมของเจมิไน ทั้งสามก็พร้อมใจกันกระโดด แท่งเหล็กของจูปิไตกวาดโดนแต่เพียงอากาศธาตุ ก่อนที่ทั้งสามจะลงจอดลงบนตอไม้อันเดิม แต่จูปิไตยังไม่ยอมแพ้ วาดแท่งเหล็กซ้ำไปอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว แต่ราวฉายหนังซ้ำ คิดว่าจูปิไตทำพลาดเป็นครั้งที่สอง แต่ก็ยังคงทำท่าจะวาดแท่งเหล็กออกไปอีกเป็นครั้งที่สาม หากครั้งนี้ แท่งเหล็กหยุดชะงักค้างอยู่บนตอไม้ใต้แอมเบอร์ที่กระโดดขึ้นไปแล้ว จะลงบนตอไม้อันเดิมไม่ได้ เพราะแท่งเหล็กของจูปิไตรอจัดการกับเธออยู่ด้านล่าง!!
                  ครั้งแรกเพียงหยั่งเชิงเสี่ยงดู เปอร์เซ็นต์สำเร็จแทบจะไม่มี ครั้งที่สองหลอกล่อ ทั้งครั้งที่หนึ่งและสอง .ทั้งหมดเพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์สำเร็จให้กับครั้งที่สาม นี่แหละ เป้าหมายที่แท้จริง!
                  “เจมิไน!”
                  แอมเบอร์ร้องเรียก และแทบจะในทันที ตัวของเธอก็ลอยค้างอยู่กลางอากาศห่างจากแท่งเหล็กไม่กี่เซนติเมตร แต่แท่งเหล็กยังคงตามสูงขึ้นมาหวังเขี่ยเธอที่จะต้องตกลงมาตามกติกาส่วนบุคคลในอีก 5 วินาที ให้เปลี่ยนมาตกในน้ำแทนที่จะตกลงบนตอไม้ ในเสี้ยววินาทีที่แท่งเหล็กกำลังจะมาถึงตัว แอมเบอร์ก็เอื้อมมือไปคว้ามันไว้ ก่อนจะทำอะไรบางอย่าง และนั่นมีผลทำให้มันหลุดจากมือจูปิไตหล่นลงไปในน้ำทันที!!!
                  จูปิไตสะบัดมือทั้งสองข้างที่ชาเพราะถูกกระแสไฟฟ้าที่มาตามแท่งเหล็กช๊อต ฝีมือของแอมเบอร์ที่กลับมายืนอยู่บนตอไม้อย่างเดิมเรียบร้อย เคอัสไม่ปล่อยให้เวลานี้เสียเปล่า รีบปล่อยลูกบอลเพลิงกลุ่มหนึ่งออกจากฝ่ามือพุ่งตรงไปยังจูปิไตที่มือยังชาอยู่ทันที!
                  มือก็ยังชาจะควบคุมเหล็กขึ้นมาเป็นเกราะก็ยังทำไม่ได้ จะกระโดดหนีถอยหลัง ลูกบอลเพลิงก็จะตามไปอยู่ดี จะโดดหลบไปทางซ้ายหรือขวา ก็จนมุมด้วยลูกบอลเพลิงที่พุ่งมาจากทุกทิศ หากจะหลบ มีทางเดียวเท่านั้น ลงน้ำ
                  เปรี้ยง!!
                  คลื่นความถี่สูงระเบิดน้ำเบื้องหน้าจูปิไตให้กลายเป็นกำแพงน้ำพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศ ลูกบอลเพลิงเมื่อชนกับกำแพงน้ำก็มอดดับ ก่อนที่กำแพงน้ำจะร่วงหล่นลงมาสร้างคลื่นลูกใหญ่สาดซัดเข้าหาแนวหน้าของฝ่ายตรงข้าม แต่ด้วยความเร็วของสายลม เจมิไนกระโดดเพียงครั้งเดียวก็มายืนอยู่หน้าแอมเบอร์และเคอัส กลายเป็นการวางตำแหน่งใหม่รูปตัววีคว่ำ เกราะลมถูกสร้างขึ้นมาทันทีที่มาถึง ทำให้คลื่นน้ำสาดซัดถึงแค่เพียงเกราะลมเท่านั้น
                  “เจมิไน นายอยู่ตรงนั้นเลยไม่ต้องกลับมา พวกเราจะเปลี่ยนรูปแบบจากแนวตั้งรับเป็นบุกกลับ!!!” เคอัสตะโกนบอก เจมิไนที่ไม่ค่อยชอบใจกับความคิดนี้นัก ได้แต่ถอนหายใจและทำตามอย่างไม่อยากขัดใจเพื่อน เพราะไหนๆก็ยกตำแหน่งคนวางกลยุทธ์ให้ไปแล้ว คงต้องเลยตามเลย
                  “ขอบใจมากสำหรับกำแพงน้ำนะนาธาน” จูปิไตกล่าว ก่อนที่แท่งเหล็กยาวใต้ท้องน้ำจะถูกเรียกขึ้นมาอยู่ในมือขวาใหม่ อาการชาหายไปแล้วพร้อมกับแผนการใหม่ที่เพิ่งจะคิดได้ จูปิไตหันไปหาเอลไลย่าและทำสัญญาณอะไรบางอย่าง
                    ปี๊ด!!!!
                    อีกครั้งที่การโจมตีถูกชะลอด้วยกติกาการย้ายที่
                    ชะลอได้เพียงเสี้ยววินาที
                    “นาธาน ฉันของกำแพงแบบเมื่อกี้อีกทีได้มั้ย?” จูปิไตกล่าวด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบ
                    “ได้เลย!”
                    เปรี้ยง!!!
                   
                    กำแพงน้ำพวยพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าอีกครั้ง และดูเหมือนจะสูงมากกว่าครั้งก่อน ม่านน้ำบดบังวิสัยทัศน์เบื้องหน้าและด้านข้างไปหมดจนไม่เห็นการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม แต่เจมิไนก็เตรียมพร้อมรับมือคลื่นยักษ์ที่กำลังจะตามมาในอีกไม่กี่วินาที
                    แต่ทันทีที่ม่านน้ำถูกกางกั้น ฝูงก้อนดินเหนี่ยวก็พุ่งทะลุออกมาโจมตีทันที! เกราะลมถูกสร้างขึ้นมากำบังอย่างกระทันหัน แต่วินาทีเดียวกันนั้นเอง นัยน์ตาของเจมิไนเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนหันขวับกลับไปหาแอมเบอร์
                    “แอมเบอร์ ระวัง!”
                    ตู้ม!!!!
                    พร้อมๆกับม่านน้ำที่ร่วงหล่นลงมาสร้างคลื่นยักษ์ ร่างของแอมเบอร์ก็หงายหลังตกน้ำไปด้วยตามแรงดึงของผู้ที่มาเยือนอย่างเงียบเชียบที่ด้านหลัง จูปิไตลงเหยียบบนตอไม้เดิมของแอมเบอร์ ก่อนเคลื่อนบอร์ดกลับไปยังฝั่งของตัวเองด้วยความรวดเร็ว และก้าวลงยืนบนตอไม้ได้ทันก่อนเวลา 5 วินาทีของการใช้บอร์ดติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง!!!
                    “จูปิไต๊!!!! อ๊าย!!!! ทำอย่างงี้ได้ไงยะ?!! นาธานด้วย!!! ฉันหลงนึกว่านายเป็นสุภาพบุรุษ นี่กลับมาเล่นงานสาวน้อยน่าสงสารอย่างฉันได้ยังไงยะ แล้วก็เอลไลย่าด้วย!! รุมกันอย่างงี้ได้ยังไง!!!! โป้ง โป้ง โป้ง! โป้งหมดทุกคนเลย!!”
                    “ขอโทษด้วยนะแอมเบอร์” นาธานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
                    “โกรธไม่ได้นะแอมเบอร์ ก็เมื่อกี้เธอทำมือฉันชา ตามหลักแล้วเราต้องหายกันถึงจะถูก” จูปิไตกล่าวบ้าง
                    “น้ำเย็นดีมั้ยล่ะ?” เอลไลย่าถาม
   
                    แทนคำตอบ แอมเบอร์ก็สาดน้ำใส่ทั้งสามคนให้สัมผัสของเย็นของน้ำด้วยตนเอง ก่อนสะบัดหน้าว่ายเข้าฝั่งอย่างงอนๆ
   
                    “สมแล้วที่เป็นจูปิไตคิดแผน เนอะเมอลินด้า” ครูฮานน์กล่าว
   
                    “นั่นสิคะ หนูยังคิดไม่ถึงเลย ใช้กำแพงน้ำบังไม่ให้อีกทีมเห็นการเคลื่อนไหว ส่งจูปิไตอ้อมไปโจมตีแอมเบอร์จากด้านหลัง แล้วก็ให้เจมิไนมัวยุ่งอยู่กับการสร้างเกราะลมบังก้อนดินของเอลไลย่า จนไปช่วยแอมเบอร์ไม่ได้”
 
                    จบประโยคของเมอลินด้า ครูฮานน์ก็ก้มลงมองนาฬิกาก่อนเป่านกหวีดให้สัญญาณย้ายที่
   
                    ปี๊ด!!!!
                    ตอนนี้เหลือเพียง 5 คน 2 ต่อ 3 ข้างฝ่าย 2 คนดูเหมือนจะเริ่มแผนการใหม่ เมื่อเจมิไนกระโดดเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างกับเคอัส อีกฝั่งดูเหมือนจะรับรู้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แผนการใหม่จึงถูกนำมาใช้ จูปิไตเริ่มย้ายที่ ย้ายที่ และย้ายที่ แทบจะไม่หยุดนิ่งอยู่ที่ตอไม้ไหนเกิน 1 วินาที ก้อนดินเหนียวฝูงหนึ่งค่อยๆลอยขึ้นจากน้ำ เตรียมพร้อมปฏิบัติการอีกครั้ง
   
                    แต่แล้วเจมิไนก็หายวับไปจากที่ยืนเดิม
   
                    “เฮ้ย!!”
   
                    ตู้ม!!!!
   
                    เอลไลย่าหันขวับไปตามต้นเสียง นาธานลงไปว่ายน้ำเล่นอยู่ข้างล่างแล้ว ในขณะที่เจมิไนบัดนี้ยืนอยู่ที่เดิมที่นาธานเคยยืนอยู่ ด้วยนัยน์ตาสีน้ำเงินที่แสดงถึงความพอใจและมีรอยยิ้มนิดๆบนมุมปาก และทั้งๆที่มันเป็นภาพที่ออกจะน่ามอง แต่เอลไลย่ากำลังอยู่ในอารมณ์ที่อยากจะกระโดดถีบก้านคอเจ้าคนยิ้มเยาะนั่นมากกว่าอะไรทั้งหมด แบบนี้เขาเรียกเล่นที่เผลอ!!!
   
                    เจมิไนที่เปลี่ยนจากผู้สนับสนุนมาเป็น “รุกเร็ว” อาศัยความเร็วของสายลม พุ่งเข้ามาโจมตีนาธานระยะประชิดตัว เร็วขนาดที่นาธานยังมองตามไม่ทัน วินาทีก่อนก็ยืนอยู่ฝั่งนู้นอยู่ดีๆ กระพริบตาอีกครั้งเจมิไนก็โผล่พรวดมาอยู่ข้างหน้าตั้งและผลักเขาตกน้ำไปแล้ว ฉวยโอกาสที่เอลไลย่ากำลังคิดจะโจมตี ไม่ได้สนใจคิดจะป้องกัน ทำให้นาธานไม่ได้รับความช่วยเหลือให้ลอยขึ้นด้วยแรงโน้มถ่วงอย่างครั้งก่อนๆ
                    2-2 จำนวนผู้เล่นพลิกกลับมาเท่ากันอีกครั้ง
   
                    “หนอย เล่นทีเผลอ ” นาธานบ่นเจมิไนขึ้นมาจากในน้ำ แต่ก็อมยิ้มอย่างไม่ติดใจอะไร ก่อนว่ายกลับเข้าฝั่งไปอีกคน
                    “เจมิไน เจ๋งมาก!!! เอาให้ร่วงไปอีกคนเลย!!”
   
                    “น้อยๆหน่อยเคเค นายนั่นแหละจะต้องร่วงไปสรงน้ำเป็นคนต่อไป”
   
                    “คงทำได้หรอกนะ เอลลี่”
   
                    ฉับพลัน ตอไม้ที่เอลไลย่าเหยียบอยู่ก็เกิดประกายไฟ เอลไลย่ากระโดดหลบก่อนที่ไฟจะลุกจนท่วมตอไม้และมอดดับไปในวินาทีต่อมา ย้ายมาลุกท่วมตอที่เธอกำลังยืนอยู่และตอไม้บริเวณรอบๆจนไม่มีที่จะให้กระโดดหนี เอลไลย่าถูกบังคับให้ต้องใช้วิธีควบคุมแรงโน้มถ่วงบริเวณนั้นให้น้อยๆจนตัวของเธอลอยขึ้น ตามกติกาส่วนบุคคลให้ใช้ได้เพียงครั้งละ 5 วินาที เอลไลย่ามองหาตอไม้จะลงจอด แต่เพียงเท้าขวาได้สัมผัสตอไม้ ไฟก็ลุกท่วมขึ้นทันทีจนเอลไลย่าต้องลอยตัวขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ตอไม้ที่ไฟไม่ลุก เหลือเพียงที่เจมิไนยืน จูปิไตกำลังเหยียบ และที่เคอัสอยู่เท่านั้น ครั้งนี้ถือเป็นการใช้วิธีลอยตัวติดกันเป็นครั้งที่สองแล้ว หากหาที่ลงไม่ได้ในอีก 5 วินาที เธอจะต้องออกจากการแข่งขันเพราะผิดกฎ!!!
   
                    “จูปิไต!!”
   
                    แต่จูปิไตขณะนี้กำลังยุ่งอยู่กับคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะคิดโจมตีเขาตรงๆ แต่เพราะการที่จูปิไตเคลื่อนย้ายที่ทุกๆวินาที ทำให้เขายังทำอะไรได้ไม่ถนัดนัก ถ้าหากจูปิไตมัวมาช่วยเธออยู่ก็คงเสร็จกันพอดี เอลไลย่าคงต้องหวังพึ่งตนเอง!!
   
                    “เจมิไน นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ ทางนี้สบายมาก กำลังจะจัดการได้อีกหนึ่ง นายจัดการจูปิไตให้ได้ล่ะ” เคอัสตะโกนยั่วเอลไลย่าพร้อมทั้งส่งฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้
   
                    เอลไลย่าหายใจออกแรงๆอย่างขัดใจ ก่อนที่ก้อนดินก้อนหนึ่งจะลอยขึ้นมาจากน้ำและกางแผ่ออกเป็นแผ่นดินแบนๆ เอลไลย่าบังคับมันให้ไปทับบนตอไม้ตอหนึ่งใกล้ๆ ไฟเมื่อโดนดินแผ่นหนาทับก็ดับมอด เอลไลย่าลงเหยียบบนตอไม้ได้อย่างปลอดภัย และหันไปเล่นงานเคอัสเจ้าคนต้นเรื่องอย่างนึกแค้น พื้นดินบริเวณตอไม้ที่เอคัสเหยียบอยู่เริ่มเคลื่อนไหวราวปฐพีพิโรธ!!
   
                    “ว้ากกกก!!!”
   
                    ตู้ม!!!
   
                    เคอัสเซตกน้ำตามแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน แต่เมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำกลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
   
                    “ตัวเองเพิ่งจะตกน้ำ ยังหัวเราะอารมณ์ดีได้อยู่อีกเหรอ?” เอลไลย่าถามยิ้มๆ
   
                    แต่แทนที่จะตอบกลับมาเป็นชุดอย่างนิสัย เคอัสกลับเพียงแค่ยิ้ม ก่อนชี้ให้เอลไลย่าหันไปอะไรมองข้างหลัง
   
                    ตู้ม!!!
   
                    เอลไลย่าตะลึงกับภาพที่ได้เห็นเมื่อหันกลับไปมอง จูปิไตตกน้ำไปแล้ว!!! นี่เป็นเพราะเธอมัวแต่ห่วงแก้แค้นเคอัสจนลืมจูปิไตไปเสียสนิท ก็จูปิไตที่กระโดดย้ายที่ทุกๆวินาทีดูเหมือนจะได้เปรียบเจมิไนอยู่ แต่เธอหารู้ไม่ว่า ทุกครั้งที่จูปิไตกระโดดย้ายที่ เจมิไนจะกระโดดตามเข้ามา และบีบให้พื้นที่ที่จูปิไตจะสามารถกระโดดหลบไปได้เหลือวงแคบเข้าไปทุกทีๆอย่างที่เจ้าตัวไม่ได้คาดการณ์มาก่อน มาตระหนักเอาได้ภายหลังก็สายจนแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว จนในที่สุดก็จนมุม และพ่ายแพ้ต่อความเร็วที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรไปได้
   
                    “ขอตัวช่วย!!!”
   
                    เอลไลย่าตะโกนเสียงดัง ผิดคาดไปหมด ทั้งๆที่คนที่ยืนอยู่คนสุดท้ายของทีมตามแผนแล้วต้องเป็นจูปิไตแท้ๆ มากลายเป็นอย่างนี้ แล้วจะทำยังไง?!!!
   
                    “ขอตัวช่วย” เจมิไนกล่าวเสียงเรียบหลังจากที่เอลไลย่าขอตัวช่วยได้ไม่นาน ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นก็คือ ตอไม้ทั้งหมดในบริเวณกลายเป็นตอไม้แช่แข็งไปหมดแล้ว ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ การที่ขอตัวช่วยหมายถึงการขอให้เมอลินด้าทำให้ตอไม้ฝั่งตรงข้ามครึ่งของคู่ต่อสู้กลายเป็นน้ำแข็ง เป็นการทำให้ตอไม้ลื่นมากขึ้นและช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามตกน้ำง่ายขึ้น แต่เมื่อขอตัวช่วยจากทั้งสองทีมพร้อมๆกัน ทำให้ฝั่งที่เจมิไนยืนอยู่ต้องกลายเป็นน้ำแข็งเพราะเอลไลย่าเรียกใช้ตัวช่วย และฝั่งที่เอลไลย่ายืนอยู่ก็กลายเป็นน้ำแข็งด้วยเพราะเจมิไนเรียกใช้ตัวช่วย สรุปก็คือทั้งสองฝั่งหรือทั้งหมดของพื้นที่กลายเป็นน้ำแข็งหมดนั่นเอง
   
                    แต่ว่า
   
                    ถ้าตอไม้ทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็งเช่นนี้แล้ว การกระโดดย้ายที่ครั้งต่อไปคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก!
   
                    ปี๊ด!!!!
   
                    เอลไลย่าตัดสินใจกระโดดในทันที และเมื่อเหยียบลงบนตอไม้น้ำแข็งด้วยน้ำหนักทั้งหมด เอลไลย่าก็เริ่มเซเพราะความลื่นของน้ำแข็ง จนต้องใช้การลอยตัวโดยแรงโน้มถ่วงมาใช้ ก่อนค่อยๆลงเหยียบตอไม้ทั้งๆที่ทำให้บริเวณนั้นมีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าปกติอยู่ จึงสามารถยืนตรงอยู่บนน้ำแข็งได้ ค่อยๆผ่อนน้ำหนักลงบนเท้าทั้งสองทีละน้อยจนกระทั่งยืนอยู่ได้ในสภาวะแรงโน้มถ่วงปกติ แบบลำบากพอสมควร
                    ในขณะที่
   
                    เจมิไนที่ลอยอยู่ค่อยๆก้าวลงบนตอไม้น้ำแข็งและสามารถยืนอยู่ได้โดยไม่มีเซแม้แต่นิด!!!
   
                    เฮ้อ
         
                    เอาล่ะ งานนี้
   
                    วัดดวง!!!
   
                    ทันใดนั้นพื้นดินบริเวณที่เจมิไนยืนอยู่ก็เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง เอลไลย่าหวังจะให้เจมิไนที่ใช้วิธีลอยตัวไปแล้วต้องใช้อีกเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน และเมื่อผ่านไป 5 วินาที เจมิไนก็จะต้องจนมุมด้วยการยืนอยู่บนตอไม้น้ำแข็งลื่นๆขณะที่มันกำลังโยกไปโยกมาอยู่อย่างในขณะนี้!!!
                    เป็นไปดังคาด เจมิไนลอยตัวขึ้นเพื่อหลีกหนีการสั่นไหวเบื้องล่าง เอลไลย่ายิ้มอย่างแน่ใจแล้วในชัยชนะที่กำลังจะเกิดขึ้นใจอีก 5 วินาที!
   
                    หากแต่
   
                    ในเสี้ยววินาทีที่กำลังลำพองใจนั้น เจมิไนยื่นมือขวาออกมาเบื้องหน้าชี้ตรงมาหาเธอในลักษณะที่ฝ่ามือตั้งฉากกับพื้นดิน ก่อนที่เอลไลย่าจะรู้สึกได้ถึงพลังลมที่อัดกระแทกตัวเธออย่างเต็มที่จนหงายหลังตกน้ำไปอย่างแก้ไขสถานการณ์ไม่ทัน!!!
   
                    ตู้ม!!!!
   
                    เสียงปรบมือดังขึ้นมาจากครูฮานน์และเมอลินด้า ก่อนที่ครูฮานน์จะกล่าวเรียกทุกคนด้วยเสียงอันดัง
   
                    “จบเกมๆ ทุกคนมารวมกันทางนี้!”
   
                    เอลไลย่าว่ายน้ำเข้าฝั่งด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเพราะนึกโกรธตัวเอง ประมาทเกินไป ก็สมควรแล้ว
   
                    มือๆหนึ่งยื่นมาช่วย แต่เอลไลย่านึกฉุนเกินกว่าจะให้คนที่ทำเธอตกน้ำช่วย
   
                    “ไม่ต้องมาทำช่วยเลย จะตบหัวแล้วลูบหลังหรือไง?”
   
                    “อย่างนี้เขาเรียก แพ้แล้วพาล” นัยน์ตาสีน้ำเงินมีแววขบขันอย่างเปิดเผย ทำเอาเอลไลย่านึกฉุนมากขึ้น
   
                    “ใช่ จะพาล ก็นายน่ะสู้กับผู้หญิงจะออมมือหน่อยก็ไม่ได้”
   
                    “ทำตัวเหมือนเด็กๆ” เจมิไนบ่น แต่มือก็ยังคงยื่นออกมาจะช่วย
                    เอลไลย่าแยกเขี้ยวใส่ ก่อนมุดน้ำหนี
   
                    เจมิไนหัวเราะในลำคอ
   
                    “งั้นก็ตามใจ”
   
                    สิ้นประโยค เจมิไนก็หายวับไปรวมกลุ่มด้วยความเร็วของสายลม ทิ้งให้เด็กขี้โมโหผู้ช่วยเหลือตัวเองได้ว่ายน้ำกลับเอง ซึ่งก็กินเวลาไปพักหนึ่ง ก่อนขึ้นบกมาด้วยอาการหอบ
   
                    “ทุกคนทำได้ดีมาก ถึงจะใช้เวลาน้อยกว่าที่ครูคิดไปหน่อย แค่ 2 นาที 06 วินาทีเอง แต่ก็ดีแล้วล่ะ ครูจะบอกข่าวดี ” ครูฮานน์เว้นประโยค
   
                    “ครูให้ทุกคนเต็มหมดเลย”
   
                    “เย้!!!!” ทุกคนร้องพร้อมกัน โดยเฉพาะแอมเบอร์ที่ตกน้ำคนแรกส่งเสียงดังสุด
   
                    “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้แหละ ทุกคนกลับไปทำตัวให้แห้งแล้วก็หาเรื่องงีบกันดีกว่า”
   
                  “ผมว่าหาของกินดีกว่า ใช้แรงมากแล้วชักหิว”
   
                    แล้วเคอัสก็เดินนำไปเป็นคนแรก นำกลับไปยังหอพักสีน้ำเงิน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น