ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อันดราคาซัคค์

    ลำดับตอนที่ #6 : สอบ (1)

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 48


                  

                    บทลงโทษของศาสตราจารย์คริปตอนไม่เลวร้ายอย่างที่เอลไลย่าคิด…เจมิไนแค่ต้องอยู่ช่วยอาจารย์บรรณารักษ์จัดหนังสือในห้องสมุดตั้งแต่วันพรุ่งนี้จนถึงพฤหัสหน้า

                  

                   ในขณะที่อีกคน…

                  

                   “ปฏิเสธความผิดสักครั้งเท่ากับได้กระทำความผิดขึ้นอีกครั้ง…”

                  

                   ศาสตราจารย์คริปตอนพูดขึ้นมาลอยๆ

                  

                   “คนที่ผิดแล้วมีความกล้าที่จะยอมรับผิด ผู้คนย่อมสรรเสริญเพราะผู้นั้นสามารถเอาชนะความขลาดในใจตนเองได้…การทำความผิดแล้วไม่ยอมรับย่อมได้รับผลที่ตรงกันข้าม”

                  

                   ทุกคนเงียบกริบ ในขณะที่ศาสตราจารย์กวาดสายตาไปรอบๆ แล้วหยุดอยู่ที่แพทริค

                  

                   “เห็นด้วยมั้ยแพทริค เซบาสเตียน?”

                  

                   เหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดพรายขึ้นบนใบหน้าที่ขาวซีด นัยน์ตาสีม่วงไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบขึ้นสบนัยน์ตาสีดำข้างเดียวนั้น

                  

                   “ครับ” แพทริคตอบเสียงอ่อย

                  

                   “อะไรนะครูไม่ค่อยได้ยิน?”

                  

                   “เห็นด้วยครับ!!” แพทริคตะโกน

                  

                   “ดี” ศาสตราจารย์ยิ้ม

                  

                   “งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกเย็นเธอมีหน้าที่ทำความสะอาดห้องอาหารรวม ห้องโถงใหญ่ และห้องประชุม ต้องมารายงานตัวกับครู หลังทำความสะอาดเสร็จทุกครั้ง ห้ามมีคนช่วยและห้ามใช้ออลซอร์ท ต้องปฏิบัติตามจนกว่าครูจะเป็นคนสั่งยกเลิก หากปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ดีและไม่ปฏิบัติตามกฎ โทษจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2 เท่าทุกครั้ง รับทราบ?”

                  

                   “แต่!!  ผมไปเกี่ยวอะไรด้วย?”

                  

                   “รับทราบ?!!!”

                  

                   หมัดในมือกำแน่น ขบฟันแน่น ได้แต่มองปลายเท้าของตัวเองและข่มอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่าน

                  

                   “ครับ” แพทริคตอบเสียงอ่อยอีกครั้ง

                  

                   “ครูไม่ได้ยิน”

                  

                   “ทราบแล้วครับ!!!”

                  

                   “ดี!! ถ้าอย่างนั้นวันนี้คงแค่เพียงเท่านี้…เอ้า! ทุกคนแยกย้ายกันไปทานข้าวได้!”

                  

                   รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนักเรียนปีสองสีน้ำเงินแทบจะทุกคน ในขณะที่แพทริคได้แต่ปรายสายตาอาฆาตแค้นมายังคนเดียวที่ไม่มีรอยยิ้ม…

                  

                    เจมิไน แอชเชอร์…

                  

                    นายต้องรับผิดชอบ!!!

                                                                   ******************

                    

                    “อ้าว! ศาสตราจารย์ฮานน์ ลมอะไรหอบมาถึงนี่ได้ล่ะครับเนี่ย?”

        

                    ศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาการใช้พลังออลซอร์ทประจำสีเหลืองหันมาทักทายเมื่อเห็นแขกผู้มาเยือนถึงสนามฝึกหลังหอพักสีเหลือง

        

                    “แล้วทำไมยังไม่ไปสอนอีกล่ะครับ นี่มันเลยเวลามาตั้ง 10 นาทีแล้วนะครับ”

        

                    “สายนิดสายหน่อย อู้นิดอู้หน่อย เด็กผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ”

                    

                    จบประโยค ศาสตราจารย์ฮานน์ บราห์มินก็เริ่มหาว นัยน์ตาสีดำยังคงปรือไม่ตื่นดี ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง เหมือนคนเพิ่งจะตื่นนอนมา…

                    

                    สำหรับวิชาการใช้พลังออลซอร์ทที่ต้องแยกเรียนเป็นสีนี้ ศาสตราจารย์ผู้สอนของนักเรียนสีน้ำเงินปีสองก็ยังคงเป็นครูฮานน์เหมือนเดิม…แม้จะผ่านอะไรด้วยกันมามากเมื่อปีก่อน แต่ครูฮานน์ก็ยังคงเป็นครูฮานน์ จะมีเปลี่ยนก็แต่ผิวสีคล้ำที่ดูเหมือนจะคล้ำขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนจนกลายเป็นดำยิ่งกว่าเก่าก็เท่านั้น

        

                    “ขอโทษที่มารบกวนเวลาสอนนะ ศาสตราจารย์เฟดเดน”

                    

                    เขากวาดสายตามองสนามหญ้าหลังหอพักของสีเหลือง พวกเด็กปีสองสีเหลืองนั่งกันอยู่เป็นวงกลมและกำลังฝึกทำอะไรบางอย่างกันอยู่อย่างเคร่งเครียด มีศาสตราจารย์หนุ่มท่าทางสุภาพนามเฟดเดนผู้สอนนั่งอยู่ตรงกลางของวงกลมคอยชี้แนะ

                    

                    “ไม่เป็นไรครับ…แล้วมาหาผมนี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?” ศาสตราจารย์เฟดเดนถามพลางลุกขึ้นเดินมาหาครูฮานน์

        

                    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่จะมาศึกษาวิธีการสอนของศาสตราจารย์เอาไว้เฉยๆ”

        

                    “วิธีการสอนของผม?”

        

                    “ครับ ศาสตราจารย์ผู้ใหญ่ทุกท่านต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่าวิธีการสอนของศาสตราจารย์เฟดเดนแห่งสีเหลืองเนี่ย แจ่ม”

        

                    “ไม่จริงมั้งครับ ศาสตราจารย์ฮานน์ จะเอาอะไรบอกผมมาเลยดีกว่า อย่ามัวยอกันอยู่เลย”

        

                    “เอ้อ…ก็…สารภาพก็ได้…ความจริงผมทำหนังสือที่ศาสตราจารย์ให้ยืมเปียกน้ำ เลยจะมาสารภาพผิดพร้อมรับโทษ”

        

                    ครูฮานน์ชูหนังสือบวมน้ำเล่มหนึ่งขึ้นมาด้วยท่าทีสำนึกผิด  สีหน้าแสดงว่าเสียใจสุดๆของครูฮานน์ทำเอาศาสตราจารย์เฟดเดนโกรธไม่ลง ได้แต่อมยิ้มอย่างนึกขำท่าของผู้ใหญ่ที่ทำตัวเหมือนเด็กๆ

        

                    “ไม่เป็นไรหรอกครับ เล่มนี้ผมชอบมากจนซื้อเก็บไว้สองเล่ม เล่มนั้นยกให้ศาสตราจารย์ไปเลยแล้วกัน…ที่สละเวลาสอนมาถึงนี่เพราะแค่เรื่องหนังสือแค่นี้น่ะหรือครับ?”



                    “สารภาพอีกทีก็ได้ ที่จริงกะจะอู้งาน ขี้เกียจสอนก็เลยหาเรื่องเดินมาถึงนี่”

        

                    อู้งาน?…ศาสตราจารย์เฟดเดนพลันคิดไปถึงลูกศิษย์ของคนตรงหน้าด้วยท่าทีครุ่นคิด…เจมิไน นาธาน เมอลินด้า และเอลไลย่า…4 คนนี้เขาเคยเห็นฝีมือมาแล้วเมื่อคราวงานแข่งจตุภาคเมื่อปีก่อน…ฝีมือนับว่าล้ำหน้าไปมาก ระดับ 4 คนนี่น่าจะข้ามชั้นไปเรียนวิชาการใช้พลังออลซอร์ทกับปีห้าได้อย่างไม่มีปัญหา

        

                    “ถึงจะอู้งานบ้างก็คงจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้งครับ”



                    ครูฮานน์พอจะเดาอะไรๆได้จากน้ำเสียงในประโยคนั้น แต่ก็ทำตีความไปอีกแบบ…

        

                    “นั่นสินะ ก็เมื่อปีก่อนน่ะผมทำนอกเวลาไปตั้งเท่าไหร่ เนอะ”

        

                     ศาสตราจารย์เฟดเดนเข้าใจว่าครูฮานน์คงหมายถึงการติวเข้มทั้ง 4 คนก่อนการแข่งขันจตุภาค ที่ฝึกกันหนักแทบทุกวันจนพวกเขามีฝีมือขนาดเอาชนะมาได้

        

                     แต่ไม่ได้รู้ว่าที่ครูฮานน์พูดถึงนั้น…

        

                     มันมากกว่านั้นเยอะ…

        

                     เพราะมันรวมถึงการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลผู้พิทักษ์ทั้ง 7 และการเข้าร่วมสงครามครั้งนั้นด้วย!!

        

                     “แต่อย่าอู้บ่อยล่ะครับ ศาสตราจารย์”

        

                     ศาสตราจารย์เฟดเดนกล่าวพลางยิ้มอารมณ์ดี

        

                     “เดี๋ยวเด็กผมจะแซงเอา”

        

                     “คร้าบ อู้บ่อยๆคงไม่ได้ อู้มากเดี๋ยวเงินเดือนก็โดนอู้ไปด้วย” ครูฮานน์กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่สนใจกับพูดดังกล่าวเท่าใดนัก

        

                     “ผมพูดจริงนะ เด็กผมตอนนี้ก็ใช่ย่อย ส่งไปเรียนกับพวกเด็กปีสี่ได้สบายๆ”

        

                     ครูฮานน์ยิ้ม…เด็กปีสี่…พูดอะไรอย่างนั้น…หลังจากที่ปราดสายตามองการฝึกเพียงแวบเดียวเขาก็พอจะมองอะไรๆออกอยู่บ้าง เด็กสีเหลืองปีสองพวกนี้น่ะหรือ…ฝึกระดับของปีสองไปเถอะ…แล้วก็ฝึกต่อไปอีกสักปีสองปีคงใช้ได้

        

                     แต่อย่างน้อย ประโยคดังกล่าวก็ทำให้เขารู้อะไรขึ้นอีกมาก…

        

                     รู้ว่าศาสตราจารย์เฟดคิดเห็นกับเด็กของเขาอย่างไร…

        

                     คงจะคิดว่าเด็กเขามีฝีมือพอๆกับเด็กปี 4 ปี 5 ล่ะสิ…

        

                     แต่ที่คิดนั่นใช่ว่าจะถูกหรอกนะ…เด็กพวกนี้ผ่านสงครามมาแล้ว…อย่าว่าแต่ระดับปี 5 เลย…7 คนนี้ฝีมือล้ำหน้าไปถึงไหนถึงไหนแล้ว!!

                    

                     “ครับ ก็บอกแล้วว่ากลยุทธ์การสอนของศาสตราจารย์น่ะ แจ่ม”

                    

                    “ศาสตราจารย์ก็ชมผมเกินไป”

        

                    “ไม่เกินไปหรอกครับ…นี่ผมมาพาศาสตราจารย์อู้ไปด้วยอีกคนสิเนี่ย ถ้ายังไงผมไม่รบกวนเวลาแล้วล่ะ กลับไปทำงานทำการของตัวเองบ้างดีกว่า”

        

                    “ครับ ตามสบาย ไม่ส่งนะครับ ผมไปสอนต่อล่ะ”

        

                    ครูฮานน์พยักหน้า ก่อนออกเดินตรงมายังที่ที่สมควรอยู่ตั้งแต่เมื่อ 10 นาทีก่อน…

        

                    สนามหญ้าหลังหอพักสีน้ำเงิน…

                    

                                                               **********************



                     “หวัดดีทุกคน…เช้านี้อากาศดีนะ ว่ามั้ย?”

        

                     ครูฮานน์กล่าวพลางทรุดตัวลงนั่ง มีสายตาเด็กๆ 7 คนจับจ้องราวจะกินเลือดกินเนื้อ…

        

                     สายมาเกือบๆ 30 นาทีแล้ว…

        

                     “ครูห่าน นี่มันบ่ายแล้ว เช้าที่ไหนกันล่ะ?” เคอัสกล่าว

        

                     “ก็ที่ไหนซักที่ในดาวดวงนี้เนี่ยแหละ ที่ที่เพิ่งจะหมุนมาเจอแสงอาทิตย์ไง นี่เขาไม่ได้สอนวิชาอวกาศและดวงดาวกับพวกนายหรือไงกันนะ”

        

                     “ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลย สายทั้งปีอ่ะครูฮานน์” เอลไลย่าบ่น

        

                     “จ้า จ้า ครูผิดไปแล้ว”

        

                     “ก็เห็นพูดอย่างงี้ทุกที…แล้วก็สายทุกที” แอมเบอร์บ่นบ้าง เพราะขัดเล็บรอจนเสร็จไปตั้งนานแล้ว

        

                     “เอาเถอะครับ สรุปว่าวันนี้ทำอะไร” นาธานถาม

        

                     “นั่นสินะ…ทำอะไรดีล่ะ?”

        

                     “อ้าว?!” แทบจะทุกคนร้องเป็นเสียงเดียวกัน

        

                     “วันนี้ใครอยากทำอะไรก็ทำไปแล้วกัน ครูขอนอนต่อล่ะ ง่วง”

        

                     “อ้าว?!!” อีกครั้ง

        

                    “ก็ครูนึกไม่ออกว่าจะสอนอะไรดี พวกเธอก็เก่งๆกันแล้ว จะให้สอนอะไรล่ะ?”

        

                    “อ้าว?!!!” เป็นครั้งที่สาม

        

                    “งั้นวันนี้สอน…การตั้งการ์ดแล้วกัน”

        

                    “สอนไปแล้วครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว” จูปิไตกล่าว

        

                    “ถ้างั้น…เทคนิคการหน่วงเหนี่ยวพลังให้อยู่นานที่สุดล่ะ?”

        

                    “สอนแล้วอีกนั่นแหละครับ…สองอาทิตย์ก่อน”

        

                    “งั้น…สอนการใช้พลังออลซอร์ทควบคู่กับการใช้อาวุธ”

        

                    “สอนการใช้พลังควบคู่กับดาบไปแล้วครับ…เมื่อปีก่อน”

        

                    “เอ้า! เห็นมั้ย? สอนจนไม่มีอะไรจะสอนแล้ว”

        

                    ครูฮานน์เงียบไปพักหนึ่งก่อนกวาดสายตามองเด็กๆและแสยะยิ้ม…

        

                    “ถ้าอย่างนั้น…วันนี้….สอบ!!!”    

        

                    “เฮ้ย!!!” แทบทุกคนร้องพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเป็นครั้งที่ 4 ของวัน

        

                    “ก็สอนไปหมดแล้วก็ต้องสอบสิ…เอาล่ะทุกคนตามครูมา”

        

                    แต่ก่อนที่ครูฮานน์จะได้ออกเดินนำ จูปิไตก็ก้าวไปยืนขวางไว้ข้างหน้า นาธานล็อคแขนซ้าย เอลไลย่าล็อคแขนขวา เคอัสกระโดดขึ้นไปขี่หลังและล็อคคอ

        

                    “เฮ้ย! ปล่อยครู! มาสามัคคีกันล็อคครูไว้ทำไมเนี่ย?! เคอัสอย่ากดหลอดลม มันหายใจไม่ออก”

        

                    “ก็ครูฮานน์ไม่ยอมอยู่พูดกันให้รู้เรื่องก่อนนี่คะ…เลยต้องล็อคเอาไว้ก่อน” เอลไลย่าพูด

        

                    “นั่นสิคะครูฮานน์ บอกก่อนว่าจะสอบอะไร แล้วจะสอบได้ยังไง ยังไม่ถึงเวลาสอบกลางภาคเลยนะคะ อีกตั้งนาน” เมอลินด้าร้องท้วงอยู่ข้างหลังครูฮานน์

        

                    “สอบได้สิ…ก็สอบเก็บคะแนนย่อยเฉยๆไง”

        

                    “จู่ๆก็บอกสอบอย่างงี้ไม่ได้นะครูฮานน์ มันต้องให้เวลาเด็กเตรียมตัว อย่างน้อยบอกอาทิตย์นี้ แล้วอาทิตย์หน้าสอบก็ยังดี” แอมเบอร์ท้วง

        

                    “สอบมันอาทิตย์นี้แหละดีแล้ว ปล่อยครูได้ยัง? มันอึดอัดนะเนี่ย”

        

                    “ปล่อยครูห่านก็จับพวกเราสอบน่ะสิ เรื่องอะไร” เคอัสพูดพลางล็อคคอครูฮานน์แน่นขึ้น

        

                    “ไม่ปล่อยงั้นครูไปทั้งอย่างงี้จริงๆด้วย”

        

                     นิ่ง…

        

                     ทุกคนยังคงค้างไว้ท่าเดิม…

        

                     ครูฮานน์ถอนหายใจก่อนเริ่มก้าวขาทั้งสองข้างที่ไร้พันธนาการออกไป…ถึงจะต้องกระเตงๆลูกศิษย์ลูกลิงไปด้วย แต่ครูฮานน์ก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ แม้จะค่อนข้างลำบาก แอมเบอร์เห็นท่าจะไม่ดี รีบขัดขาครูฮานน์เอาไว้ก่อน ทำให้ครูฮานน์ที่เพิ่งก้าวไปได้สองก้าวล้มคว่ำลงบนพื้นหญ้า…น้ำหนักของคน 5 คนก็กดทับลงบนส่วนต่างๆของร่างกายทันทีจนไม่สามารถขยับตัวได้ มีเพียงส่วนศีรษะที่พลิกซ้ายพลิกขวาได้เท่านั้น พลิกไปพลิกมาก็หันไปเห็นตัวช่วยอีกสองคนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ

        

                     “เจมิไนช่วยครูด้วย!”

        

                     เจมิไนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เฉยๆ สะบัดพัดออกจนเกิดเสียงดังพรึ่บ! ครูฮานน์ยิ้มอย่างแน่ใจว่ารอดแล้วแน่ๆ…แต่เจมิไนก็เพียงแค่ยืนพัดอยู่อย่างนั้น…รอยยิ้มหุบไปแทบจะในทันที

        

                     “เมอลินด้า เด็กจิตใจงดงามอย่างเธอทนดูครูถูกทรมานทรกรรมอยู่อย่างงี้ได้ยังไง ช่วยครูหน่อยน้า”

        

                     เมอลินด้าถอนหายใจยาว

        

                     “ทุกคนปล่อยครูฮานน์เถอะจ้ะ นะ สงสารครูฮานน์…อีกอย่าง สอบๆให้มันเสร็จไปซะก็ดีไม่ใช่เหรอจ๊ะ ครูฮานน์คงไม่โหดกับพวกเราหรอก สอบย่อยยังไงก็ได้เต็มกันทุกคนเหมือนเดิมนั่นแหละ”

        

                     หลังจากได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเมอลินด้า น้ำหนักที่เคยกดทับก็ค่อยๆหายไปอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก จนกระทั่งครูฮานน์เป็นอิสระสามารถลุกขึ้นยืนได้ เขาทำทีเป็นปัดฝุ่นออกจากเสื้อก่อนออกวิ่งจู๊ดนำหน้าไปโดยที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว ตะโกนทิ้งท้ายเอาไว้ว่า

        

                     “ใครไปถึงคนสุดท้ายตก!! ครั้งนี้จะเอาแบบโหดๆเลยคอยดู!!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×