ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อันดราคาซัคค์

    ลำดับตอนที่ #4 : ชีวิตในโรงเรียน (3)

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 48


                  

                   สำหรับวิชาภาคบ่ายในวันนี้ แค่เพียงเคอัสได้ยินชื่อก็หาวนำเอาไว้ก่อนแล้ว…

                  

                    วิชาภูมิศาสตร์เอออร์ต้า…

                  

                    เสียงนุ่มๆของศาสตราจารย์ผู้สอนก็ช่างชวนเคลิ้มอะไรเช่นนี้…ศาสตราจารย์คิตเทอิ วาทานสกิต ชายสูงอายุรูปร่างท้วมที่ราวกับพกลูกแตงโมเอาไว้ที่ท้องตลอดเวลา ผมสีเทาเข้มถูกแทรกด้วยผมหงอกสีขาวจนดูกลายเป็นสีเทาอ่อน นัยน์ตาสีเทาอมฟ้าดูใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่าภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะที่ดูคล้ายกับแว่นขยายมากกว่าแว่นตา…ทำไมหนอโรงเรียนจึงไม่คิดจ้างอาจารย์สาวๆสวยๆเสียงหวานๆมาสอนนักเรียนบ้าง…อย่างน้อยเขาก็คงอยากจะลืมตาขึ้นมามองอาจารย์คนสวยบ้าง แต่แบบนี้เห็นทีจะไม่ไหว…

                  

                     น้ำย่อยในกระเพาะกำลังทำหน้าที่ของมันอย่างหนักจนไม่เหลือพลังงานเอาไว้ให้เขาได้ใช้ในการเรียนหนังสือเสียเลย เสียงของศาสตราจารย์ในยามนี้ราวกับเสียงดนตรีขับกล่อม ทำเอาหนังตาเริ่มหนักขึ้นทุกทีๆ…

    สำหรับศาสตราจารย์คิตเทอิคนนี้ เคอัสเรียนรู้มาจากชั่วโมงก่อนๆว่า ถ้าไม่สนใจจะเรียนแล้วล่ะก็ จะทำอะไรก็ทำได้ ขอเพียงไม่ทำอะไรที่เป็นการรบกวนการเรียนของคนอื่นๆก็พอ…จะหลับก็ไม่ว่าอะไร…

                  

                     ข้างหน้า…เอลไลย่า ก็ไปแล้วหนึ่ง…ข้างหลัง นาธานก็ทำท่าจะไปด้วยอีกคน…จะให้ตรงกลางเหลืออยู่มันก็จะดูไม่เรียบร้อยสวยงาม…ดังนั้นในที่สุด เคอัสก็ตัดสินใจหยิบท่าไม้ตายขึ้นมาใช้…หนังสือเรียนเล่มหนาเตอะถูกกางออกเป็นกำแพงกำบังอยู่เบื้องหน้าเพื่อไม่ให้โจ่งแจ้งเกินไปจนน่าเกลียดอย่างคนข้างหน้า เจ้าตัวค่อยๆฟุบตัวลงกับโต๊ะ ตั้งท่าเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่กับการศึกษาภูมิศาสตร์ของดาวอย่างเจาะลึกด้วยตัวเอง…ในฝัน…

                  

                     กำลังเคลิ้มจะหลับแล้วเชียว นัยน์ตาสีแดงก็พลันไปสะดุดกึกอยู่กับอะไรบางอย่างในมือของคนข้างๆ…สิ่งที่เห็นนับเป็นยาช่วยให้หายง่วงเป็นอย่างดี…ยางลบก้อนสีขาวสะอาดขนาดใหญ่ที่เพิ่งได้รับการแกะออกจากห่อพลาสติกหมาดๆกำลังถูกบรรจงตัดเป็นรูปร่างอยู่ใต้โต๊ะ แรกๆดูคล้ายกับดักแด้ที่มีหัวกลมๆอันใหญ่ ต่อมาถึงได้มาพอเดาออกเมื่อแขนและขาเริ่มโผล่ทีละข้าง…ศิลปะชิ้นเอกกำลังถูกบรรจงสร้างสรรค์โดยคนที่มีหัวศิลปะน้อยถึงน้อยที่สุด…คนที่วาดรูปเป็นอยู่แค่ 3 อย่างคือบ้านเหลี่ยมๆ ดอกไม้ตากแห้ง กับพระอาทิตย์ขนเม่น กำลังสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ที่ถ้าแข่งกับเด็กอนุบาลก็คงชนะได้อย่างเฉียดฉิว

                  

                     ยางลบรูปคนในมือของแอมเบอร์…

                  

                     คะแนนความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ให้เต็ม เพราะยังไม่มีใครที่ไหนคิดเอายางลบมาตัดเล่นเป็นรูปในชั่วโมงศาสตราจารย์คิตเทอิ ดังนั้นเขาถึงให้คะแนนเต็มไปเลยโดยไม่ต้องลังเล…คะแนนความสวยงามให้ 8…หรือคิดอีกทีน่าจะให้สัก 9…ตกลงเป็น 9ดีกว่า…จากคะแนนเต็ม 100…หัวคนโตใหญ่ยักษ์ขนาดนั้น แขนก็ลีบเล็กนิดเดียวอย่างกับเด็กเป็นโรคโปลิโอขาดสารอาหาร ขานั่นดูว่าเป็นขาได้ก็เก่งแล้ว สรุปโดยรวมแล้วก็คือ ถ้าไม่ได้จินตนาการอันสูงส่งของเคอัสคนนี้ก็คงไม่มีใครที่ไหนเขาดูออกว่ามันเป็นรูปคนแน่นอน

                  

                     แต่เจ้าของผลงานคงไม่ได้มีความคิดอย่างนั้น เธอจับจ้องผลงานของตัวเองด้วยความภูมิใจโดยไม่ได้รับรู้ถึงสายตาอีกคู่ที่กำลังมองมาด้วยความขำ เธอปัดเศษยางลบที่ไม่ใช้ออกจากตักก่อนเริ่มลงมือหยิบปากกาหมึกสีแดงขึ้นมาบรรจงเขียนประโยคยาวที่กลางลำตัวคนด้วยรอยยิ้ม

                  

                     ความว่า…

                  

                     “เคอัส ไอ้บ้า บังอาจคิดจะมาแย่งเจมิไนของฉัน!! ไอ้หัวกลวงกล้ามไม่มีขี้หลีแต่กับผู้ชาย จงตายไปซะ!”

                  

                     เคอัสอ้าปากค้าง…

                  

                     ตุ๊กตายางลบ…

                  

                     รูปตัวเขาเอง…

                  

                     รอยยิ้มน้อยๆของแอมเบอร์เปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมเมื่อเข็มสีเงินเล่มยาวถูกหยิบขึ้นมาอย่างช้าๆ…เธอลังเลก่อนตัดสินใจปักเข็มลงตรงกลางหัวใจของหุ่นตัวน้อย…เคอัสยกมือขึ้นลูบอกข้างซ้ายของตนเองโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ก็อดรู้สึกเสียวๆไม่ได้ ยิ่งโดยเฉพาะเข็มไม่ได้มีเพียงเล่มเดียว…แต่มีเป็นสิบ!! อึดใจต่อมาทั้งมือและเท้าของเคอัสก็ไม่รอดพ้น ก่อนจะตามมาที่ท้อง 3 เล่มเรียงกันเป็นแถว ชวนให้กลั้นหายใจเพราะเฉียดจุดยุทธศาสตร์ไปเส้นยาแดงผ่าแปด…นึกว่าจะรอดแล้ว…แต่เข็มเล่มสุดท้ายที่เต็มไปด้วยอารมณ์อาฆาตแค้นทำให้หัวใจที่กำลังเต้นระรัวนั้นหยุดนิ่งสนิทด้วยความช็อคสุดขีด…รอยยิ้มแสยะกว้างมากขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววความสะใจ ขณะแทงเข็มเล่มยาวเล่มสุดท้ายที่ใต้หว่างขาทะลวงขึ้นมาทะลุออกทางหัวของหุ่นอย่างไร้ความปรานี!!!

                  

                     “อ๊ากกกก!!!”

                  

                     เคอัสกรีดร้องดังสนั่นพร้อมทั้งกระโดดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนเก้าอี้หงายล้มตึงไปข้างหลัง…เรียกสายตาทุกคู่ในห้องให้หันมามอง โดยเฉพาะสายตาของแอมเบอร์ที่ตะลึงมองด้วยความตกใจ…เพราะไม่อยากจะเชื่อว่า…ตุ๊กตาวูดูทำเองจะใช้ได้ผล…

                  

                     “เคอัส แฟลมไมร์”

                  

                     เสียงเรียกเย็นๆที่เป็นสัญญาณแห่งความตายดังมาจากชายเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่หน้าห้อง…

                  

                     “เธอมีปัญหาอะไรกับระดับความสูงของเทือกเขาทางทิศตะวันตกของเมืองเตคการ์อย่างนั้นรึ?”

                  

                     ตายสนิท…

                  

                     ก็จะไปมีปัญหาได้ยังไงในเมื่อไม่ได้ฟังเลยแม้แต่คำเดียว?

                  

                     นัยน์ตาสีแดงหันไปคาดโทษกับคนต้นเหตุที่ตอนนี้แสยะยิ้มด้วยความสะใจที่เอาคืนเมื่อตอนกลางวันได้

                  

                     “ว่าไง?” ศาสตราจารย์คิตเทอิถามย้ำ เล่นเอาเหงื่อซึมไปทั่วใบหน้าของเคอัส

                  

                     อึ๋ย…

                  

                     “เอ่อคือว่า…คือ…พอดีผมรู้สึกตกใจในความสูงของเทือกเขาน่ะฮะ ก็เลยเผลออุทานออกมาเสียงดังไปหน่อย”

                  

                     จะรอดมั้ยเนี่ย?…เพี้ยง…รอดเหอะ…ได้โปรด…

                  

                     “ตกใจในความสูงของเทือกเขาที่เตี้ยที่สุดในดาวเนี่ยนะ?”

                  

                     อ้าว…กรรมแล้วไง…

                  

                     “เอ่อ…ก็…ตกใจว่าทำไมมันเตี้ยจังน่ะฮะ”

                  

                     ศาสตราจารย์คิตเทอิส่ายหน้าอย่างหน่ายๆกับคำตอบน้ำขุ่นคลักของเจ้าลูกศิษย์ตัวแสบที่คงจะเผอิญนอนฝันร้ายในชั่วโมง…

                  

                     “เอ้า…ถ้าไม่มีอะไร ครูจะต่อล่ะนะ…หวังว่าคงไม่ตกใจเรื่องอะไรอีกนะเคอัส”

                  

                     สายตาของศาสตราจารย์ที่มองมาทำเอาเคอัสเสียวสันหลังวาบ…

                  

                     “ไม่มีแน่นอนคร้าบบ”

                  

                     แอมเบอร์นะแอมเบอร์…จำไว้…

                  

                     จำไว้…



                                                                   *******************



                    บอร์ดสำหรับปิดป้ายประกาศตรงทางเดินในตอนนี้เต็มไปด้วยแผ่นประกาศข่าวประชาสัมพันธ์อะไรต่อมิอะไรมากมายเสียจนแทบจะไม่เหลือพื้นบอร์ดสีดำไว้ให้เห็น เอลไลย่าหยุดมองเจ้ากระดาษหลากสีที่แข่งกันเรียกร้องให้คนมาสนใจตนเองด้วยประโยคแปลกๆ หรือไม่ก็ตัวอักษรสีแสบสัน ส่วนมากจะเป็นข่าวการประกวดโน่นประกวดนี่ที่ไม่รู้ทำไมจะต้องมาสามัคคีจัดประกวดกันในช่วงนี้เต็มไปหมดราวเก็บเป็นฤดูกาลแห่งการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬา  การประกวดเรียงความเรื่องสั้น การประกวดคำขวัญ การแข่งขันฟันดาบ การแข่งขันทางด้านดนตรี การแข่งขันหมากล้อม…น่าสงสารเจ้ากระดาษพวกนี้ที่ไม่ว่าจะพยายามเรียกร้องให้ผู้คนหันมาสนใจมากเพียงใดก็ดูจะไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย นี่ถ้าเธอไม่หยุดยืนมองจนทำให้เพื่อนอีก 6 คนของเธอหยุดมองไปด้วยล่ะก็…พื้นที่หน้าบอร์ดตรงนี้ก็ร้างผู้คน…

                    

                   “คิดอยากจะลงประกวดอะไรล่ะ เอลลี่?” เคอัสถามพลางมองกวาดไปทั่วๆบอร์ด คนถูกตั้งชื่อให้ใหม่หันมาหรี่ตามองอย่างไม่ค่อยจะพอใจกับชื่อใหม่ แต่เจ้าคนชอบตั้งชื่อชาวบ้านมัวแต่มองบอร์ดเลยไม่ได้สนใจ

                  

                  “ก็ไม่มีหรอกเคเค”

                    

                  “เคเคมันชื่อตุ๊กแก…ตั้งให้มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง?”

                    

                  “มีใครสนใจจะสมัครลงอะไรมั่งมั้ยล่ะ?” เอลไลย่าหันไปถามคนอื่นๆ ไม่สนใจตุ๊กแกที่กำลังส่งเสียงร้อง’ตั๊กแก’ อยู่ข้างหลังอย่างเรียกร้องความสนใจ

                  

                  “ฉันว่าอันนี้ก็เข้าท่าดีนะ หมากล้อม” จูปิไตตอบ ขยับเข้าไปใกล้กระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งมากขึ้นด้วยความสนใจ

                

                  “แต่ต้องลงเป็นทีมแฮะ”

              

                  จูปิไตไล่สายตาไปตามกระดาษต่างๆอย่างรวดเร็ว ก่อนไปชะงักหยุดอยู่ที่แผ่นหนึ่งที่อยู่สูงขึ้นไป

            

                   “นาธาน นายไม่สนใจจะแข่งไวโอลินมั่งเหรอ?”

          

                   “หืม…ฉันเนี่ยนะ? ไหนดูหน่อย…โห… แข่งในเมืองเชียวนะ ท่าทางจะมีแต่คนเก่งๆ…ไม่ไหวมั้ง?”

          

                   “ปัดโถ่!! พรสวรรค์ของนายมันกำลังร้องไห้อยู่นะ ลงเหอะ ถ้านายแข่งฉันจะได้มีโอกาสหนีตามไปเที่ยวในเมืองด้วยไง” ตุ๊กแกรีบเชียร์

        

                   “สรุปฉันควรจะลงแข่งเพราะนายจะได้เที่ยว?”

        

                    “ใช่!”



                    10 วินาทีต่อมา…

                    

                    “เฮ้ย!! ไม่ใช่”

                    

                    นาธานส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย

                    

                    “เอาเถอะๆ”

                    

                    “นี่ก็น่าสนนะ” จูปิไตผละจากกระดาษแผ่นเดิมไปยังอีกแผ่น

                    

                    “แข่งฟันดาบ…งานวันเดียวกับแข่งไวโอลินนั่นเลย…แข่งใกล้ๆกันซะด้วยสิ…สนใจลงมั้ยล่ะเคอัส จะได้ไปเที่ยวในเมืองอย่างที่อยากไง?”

                    

                    “ลง!!! ไหนมาดูกติกาหน่อย”

                    

                    “เจมิไน นายล่ะ ไม่สนเหรอ?” จูปิไตหันมาถาม

                    

                    เจมิไนเพียงเลิกคิ้วขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนส่ายหน้าเป็นคำตอบ

                    

                    “กรี๊ด!!! ทุกคนดูนี่สิ ตายแล้ว ไม่ยักกะรู้ว่ามีประกวดนี่ด้วย นี่เขาจัดขึ้นมาเพื่อฉันโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย”

                    

                    สายตาทุกคู่เลิกสนใจในสิ่งที่กำลังสนใจอยู่ หันไปจับจ้องอยู่ที่กระดาษสีชมพูหวานแหววตามเสียงเรียกของแอมเบอร์ทันทีด้วยความอยากรู้ และทันทีที่ได้รู้ว่าเป็นการประกวดอะไร เคอัสก็ขำก๊ากออกมาทันทีจนคนที่เดินผ่านไปมาหันมามอง…ก็จะไม่ขำได้ยังไงในเมื่อมันเป็น…

                    

                    “การประกวดมิสทีนแอนทีคก้า” เมอลินด้าอ่านออกเสียง

                    

                    “จะประกวดนางงามเนี่ยเหรอจ๊ะ?”

                    

                    “ถูกต้อง! เธอก็ควรจะลงสมัครด้วยกันนะเมอลินด้า”

                    

                    “เอ่อ…ไม่ดีกว่ามั้ง”

                    

                    “โถ่เอ๊ย ลงเป็นเพื่อนกันหน่อยสิ…เอลไลย่าก็ได้ลงมั้ย?”

                    

                    “ฉันเนี่ยนะ?! ส่งเคอัสลงยังจะดีซะกว่าเลย”

                    

                    “ก็ดีเหมือนกันนะ…เอามั้ยล่ะเจ้าลิง ฉันจะได้ตัดคู่แข่งไปอีกหนึ่ง”

                    

                    “เจ๊ขอร้อง ไม่ต้องมายุ่งเลย…แล้วเรื่องวูดูนั่นก็ยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ”

                    

                    “คิดเป็นกับเขาด้วยเหรอบัญชีน่ะ? ตัวเลขนับได้ครบร้อยแล้วเหรอ?”

                  

                     แทนคำตอบ…อะไรบางอย่างก็พุ่งออกจากมือเคอัสลอยไปตกตุ๊บอยู่บนศีรษะของแอมเบอร์

                    

                    “กรี๊ด!!!!!”

                    

                    แมงมุมยางทำงานของมันได้อย่างยอดเยี่ยม…ไม่เสียงแรงไปขู่เอามาจากรุ่นน้อง…เอ๊ย! หมายถึง ไม่เสียแรงไปของยืมมาจากเด็กปีหนึ่ง…แอมเบอร์เต้นโหยงเหยงเป็นเจ้าเข้า แต่ขาทั้ง 8 ของแมงมุมก็สามารถเกาะอยู่บนศีรษะของเธอได้เป็นอย่างดีไม่มีขยับเขยื้อน…ในที่สุดแอมเบอร์ก็กลั้นใจปัดสัตว์ประหลาดออกจากผมอันเงางามของเธอ ทันทีที่มันตกลงมาอยู่ที่ปลายเท้า เธอก็กระโดดถอยหลังหลบทันที…

                    

                     พลั่ก!!!

                    

                     ทั้งแอมเบอร์และเด็กผู้ชายคนหนึ่งลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นทางเดินหลังจากที่แอมเบอร์กระโดดถอยหลังไปชนเขาโดยอุบัติเหตุ

                    

                     “ป้า!! ถอยหลังอะไรไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือซะบ้างเลย เป็นอะไรมากหรือเปล่า เรียว”

                    

                     เด็กผู้ชายอีกคนที่เดินมาด้วยพูดใส่แอมเบอร์ด้วยความโกรธ ก่อนถลาลงไปดูแลเพื่อน เมอลินด้ากับเอลไลย่าก็ช่วยกันประคองแอมเบอร์ให้ลุกขึ้นยืน แต่สายตาของแอมเบอร์ในขณะนี้จับจ้องอยู่กับเด็กผู้ชายที่เธอเพิ่งจะชนเข้าให้โครมใหญ่นั่น

                    

                     น่ารัก…

                    

                     เด็กหนุ่มรูปร่างบอบบางใบหน้าสีขาวสะอาดเกลี้ยงเกลา แก้มสีชมพูอ่อนเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อมากกว่าเก่าเมื่อรู้ตัวว่ากำลังโดนจ้อง ปากสีแดงเล็กๆช่างตัดกันกับสีของนัยน์ตาสีดำสนิท ผมสีดำยุ่งน้อยๆแต่ยังดูดี…โอ้ย…

                    

                     “ป้าๆ ปาดน้ำลายหน่อยไหลย้อยเชียว”

                    

                     เสียงของเด็กคนเดิมดังขึ้นเมื่อเห็นสายตาที่แอมเบอร์มองเพื่อนของตน

    หวงเพื่อนอย่างกับหมาหวงก้าง…เชอะ!!

                    

                     “ใครป้ายะ?!! เรียกให้ดีนะ!!”

                    

                     “อ้าว…เมื่อกี้ผมเรียกป้าเหรอฮะ…โทษทีๆ…ผมหมายถึง…ย่า….”

                    

                     “หนอย!!!”

                    

                     แอมเบอร์กำลังจะถลาไปเอาเรื่องเด็กคนนั้นอยู่แล้ว แต่เอลไลย่าคว้าตัวเอาไว้ได้ทัน

                    

                     “แก่ซะเปล่า ชนคนแล้วไม่รู้จักขอโทษ”

                    

                     “ช่างเถอะ…เราไม่เป็นอะไรมาก…อีกอย่างพี่เขาก็ไม่ตั้งใจด้วย…ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะครับที่เสียมารยาท”

                    

                     ‘เรียว’ ค้อมศีรษะลงต่ำเป็นการขอโทษ พร้อมทั้งจับเพื่อนให้ทำตามด้วย

                    

                      ช่างเป็นเด็กดีอะไรอย่างนี้…

                    

                     “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ…พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ” แอมเบอร์ดัดเสียงหวานสุดขีดตอบไป…แบบที่เคอัสแอบด่าในใจว่าดัดจริต…น่าหมั่นไส้…

                    

                     “ว่าแต่น้องชื่ออะไรอยู่สีไหนคะเนี่ย?”

                    

                     เคอัสเริ่มบ่นงุบงิบไม่เป็นใจความอยู่คนเดียวอย่างที่ไม่มีใครสนใจ…

                    

                     เสือกำลังจะขย้ำเหยื่อ…เจ๊กำลังจะงาบเด็ก…อย่างนี้มันเรียกพรากผู้เยาว์…โคแก่กินหญ้าอ่อน…เลี้ยงต้อย…

                    

                     “เรียว จิบะ ปีหนึ่ง สีฟ้าครับ…ส่วนหมอนี่ ยู ทาจิบานะ”

                    

                     “พี่ชื่อแอมเบอร์ อิลเลนนอยด์นะคะ จะเรียกพี่แอมเบอร์คนสวยก็ได้ อยู่ปีสอง สีน้ำเงิน ยินดีที่ได้รู้จัก”

                    

                     ไอ้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! หน้าก็จืด ดูไปดูมาคล้ายๆลูกหมา ปากแดงยังกับผู้หญิง ท่าทางบอบบางสะอ้อนสะแอ้นขนาดนี้ ไม่เห็นมันจะมีดีตรงไหน!!!

                    

                     “ครับ…เอ่อ…ถ้ายังไงผมต้องขอตัวก่อนเพราะมีเรียน”

                    

                     “จ้ะ ตามสบาย แล้วเจอกัน”

                    

                     น้องเรียว…

                    

                     อยากย้ายสีไปอยู่สีฟ้าจริงๆ…

                    

                     น้องเรียว…



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×