คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : +TRicK [5] +
“วันนี้จะไปไหนบ้าง แก้วอยากไปเดินเล่นชาดหาด กินอาหารทะเล ไปเดินช๊อปด้วยดีกว่า ”
“สรุปให้ฟางเลือกหรือแก้วเลือกเนี่ย พูดมาซะหมดแล้ว ” ฟางส่ายหัวเบาๆขณะเดินออกจากโรงแรม หลังจากประชุมมาเกินครึ่งวัน เวลาที่เหลือให้เที่ยวกันเอง อากาศแดดอ่อนๆกำลังดีแบบนี้ สบายจัง..
คนข้างๆก็ดูดีไม่เบา เสื้อกล้ามสีเหลืองเหน็บแว่นกันแดดกับกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ตัดกับสีผิวขาวๆ เห้อ …คิดอะไรอีกแล้วฟาง ชักจะไปกันใหญ่
“แล้วแต่ฟางไง แก้วแค่เสนอเฉยๆนะ …ไปเดินเล่นชายหาดกัน” แก้วฉีกยิ้มทันทีที่พูดประโยคสุดท้าย ขอบังคับละกัน อากาศแบบนี้อยากไปเดินเล่นนี่หน่า
“สบายจัง ” ร่างสูงลงไปนอนกลิ้งบนพื้นทรายให้คลื่นน้ำทะเลเบาๆสาดเข้าตัว
“ทำเหมือนไม่เคยมาทะเล..?” ร่างบางนั่งลงข้างๆ ก่อนจะนึกสนุกเอาทรายมาก่อทับขายาวทั้งสองข้าง
“นานแล้วที่ไม่ได้มาพักผ่อนแบบนี้” มือหนาประสานขึ้นรองหัวแล้วมองใบหน้าหวาน ปกติก็มานะ…แต่มาทำภารกิจที่พ่อสั่ง ไม่เคยได้เที่ยวหรอก
”ทำไมละ ปกติทำงานหนักขนาดนั้นเลยหรอ”
“ก็.. ไม่เชิง” ไม่ใช่เลยต่างหาก แค่นอนตอนกลางวันเที่ยวสถานบันเทิงตอนกลางคืน ไม่ก็เก็บผู้โชคร้ายที่ขัดแย้งกับพ่อ …ไม่ต่างจากที่กำลังทำอยู่ตอนนี้นักหรอก
ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวผู้โชคร้ายพวกนั้นถึงได้น่ารักกันทุกคน น่าเสียดายที่สุดท้ายก็ต้องไปน่ารักต่อในโลงกันหมด
“ความจริงฟางว่า นี่ก็ผ่านมาซักพักแล้วนะไม่เห็นจะมีอันตรายอะไรเลย แก้วไม่ต้องมาแล้วก็ได้” เสียงหวานเอ่ย พลางกลบทรายจนก่อเป็นเนินทับขาท่อนล่างของแก้วจนหมด
“อันตราย ..เราไม่รู้หรอกว่ามันใกล้ตัวแค่ไหน อย่าประมาทดีกว่านะ” ..รู้ไหม ใกล้แค่ไหน
แก้วนอนมองใบหน้าหวานที่ดูสนุกกับการก่อกองทรายบนตัวเองจนหมดทั้งขา
ยิ่งมองก็ยิ่งลังเล.. พรุ่งนี้ก็ต้องกลับสู่โลกความจริงแล้วหรอ พ่อคงอยากจะให้แก้วรีบๆทำงานให้สำเร็จซักที
แต่แก้ว.. ไม่รู้สิ ยังอยากรู้จักฟางให้มากกว่านี้อยู่เลย มีบางอย่างในดวงตาคู่นี้ที่อยากจ้องเข้าไปหาคำตอบ อยากมองให้นานกว่านี้ ..ใกล้กว่านี้
“คนที่อยู่ในใจฟาง เค้าดีแค่ไหนหรอ” สังเกตผิดรึเปล่าที่ใบหน้าเพลิดเพลินเปลี่ยนเป็นกังวลเหมือนไม่อยากตอบ..
“ ดีมากๆ.. ไม่เจ้าชู้ละกัน ” ตอบแล้วหันมายิ้มหวานให้ร่างสูงเป็นเชิงบอกข้อที่…คนนั้นดีกว่า
“นี่ฟางว่าแก้วเจ้าชู้หรอ?”
“ใช่สิ ดูจากท่าทาง แววตา ทุกอย่างนั้นแหละ ถ้าไม่เจ้าชู้ แล้วที่คุยกับเพื่อนฟางไปทั่วคืออะไรละ ” พูดจบก็ก้มลงสนใจกองทรายตรงหน้า เกลี่ยทรายไปมาให้เรียบ …เราคาดหวังคำตอบแบบไหนอยู่
“ก็แค่คุย แต่..เต้นรำกับคนแค่คนเดียว ชมว่าสวยแค่คนเดียว อยากอยู่ใกล้ๆแค่คนเดียว ยังเรียกว่าเจ้าชู้รึเปล่า..” ร่างสูงดันตัวขึ้นมานั่ง ดวงตาคมจ้องใบหน้าหวานที่เงยขึ้นมาสบตา
“… แต่คนนั้นรักฟางมากกว่า ดูแลฟางดีกว่า ” สุดท้ายก็ต้องหลบสายตา หาเหตุผลข้ออื่นที่ช่วยคัดค้านไม่ให้หลุดลอยไปมากกว่านี้
มั่นคง… ต้องมั่นคงกับคนรักสิ
“ฟางรู้ได้ไง ว่าแก้วจะทำได้แย่กว่าคนนั้น ในเมื่อฟาง..ยังไม่เคยลองให้โอกาสแก้ว” เสียงนุ่มลึกดังขึ้นข้างๆหูจนต้องเม้มริมฝีปากแน่น
รู้สึกสั่นในใจ หวั่นไหว.. คงจะไม่เป็นถึงขนาดนี้ถ้ามือหนาไม่เลื่อนมากุมมือไว้ เอาอีกแล้ว…รู้สึกอบอุ่นจนอยากอยู่แบบนี้นานๆ
อย่ามากไปกว่านี้ อย่าเลย..
“ฟาง…” มือหนาอีกข้างยกขึ้นมาเชยคางให้ขึ้นมาสบตา ให้ต้องมองตรงเข้าไปภายในดวงตาที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้หัวใจเต้นแรงถี่ขึ้นอีก
“..แค่เปิดใจได้ไหม ”
“แต่ว่า..”
“ไม่ต้องมีคำว่าแต่หรอกฟาง แค่เปิดใจ แก้วขอแค่นั้นจริงๆ”
… เพียงแค่พยักหน้าช้าๆ รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าคมก็เผยออกมา ..รอยยิ้มที่ดูจริงใจ
..เราเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เปิดใจ..
-------------
“ยังไม่อิ่มอีกหรอ ผัดไทห่อที่4แล้วนะ” ฟางเริ่มโวยวายที่ต้องจ่ายเงินเลี้ยงตามสัญญา นี่มื้อเดียวแก้วกินแบบทั้งอาทิตย์เลยชัดๆ
“ยัง ..ไม่ถึงครึ่งกระเพาะเลยด้วยซ้ำ ไปกินไอติมต่อกันเถอะฟาง” พูดจบร่างสูงก็รีบลุกขึ้นดึงแขนคนจ่ายเงินไปด้วยสีหน้าร่าเริง
“กินเยอะแบบนี้ขอให้อ้วน น้ำหนักขึ้น หน้าบวม”
“ฮ่าๆ ฟางชอบคนอ้วนหรอ ได้ๆงั้นแก้วจะอ้วนเพื่อฟาง โอเคไหม” ร่างสูงหันมายิ้มให้แล้วเลื่อนมือจากแขนไปจับมือเรียวจูงเดินไปตามทางตลาดโต้รุ่ง
“ฟางไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น…” ร่างบางเถียงกลับ แต่ดูไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่นักจากคนที่เอาแต่จะหาร้านไอติม ใบหน้าหวานก้มลงมองมือที่ถูกจับไว้ก่อนจะเผลอยิ้มออกมา
จะยิ้มทำไมนักหนากับแค่...จับมือ
ฟางมองร้านต่างๆระหว่างเดิน สายตาเหลือบไปเห็นร้านดูดวงก็รีบหยุดเดินแล้วอ่านป้าย
“หมอดูลายมือ 49 บาท แก้วมาดูดวงกันเถอะ นะๆๆๆแล้วค่อยกินไอติม”
“ก็ได้ๆ แก้วรอข้างนอกเนี่ยแหละ” ร่างสูงทำหน้าเบื่อหน่าย ,,เชื่อด้วยหรอเรื่องแบบนี้ ไร้สาระชะมัด
เข้าไปเพียงไม่กี่นาทีใบหน้าหวานก็กลับออกมา สีหน้าดูกังวลจนอดเป็นห่วงไม่ได้
“เป็นอะไรรึเปล่าฟาง ”
“แก้วว่าเขาจะดูแม่นรึเปล่า แก้วลองเข้าไปดูได้ไหมฟางอยากรู้” ดวงตาหวานส่งมาอ้อนวอน จนต้องยอมเข้าไปนั่งแบมือให้หญิงชราส่องดูลายมือ
“เธอ… เธอกำลังสับสนในตัวเองอยู่ เธอ… เธอกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายบางๆ การตัดสินใจของเธอ… สิ่งชั่วร้ายในจิตใจจะทำให้สูญเสียรักแท้ไปตลอดกาล ”
“เสียไปก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง คุณยาย ไม่มีรักแท้… ก็แปลว่าจะมีชีวิตอิสระกับใครก็ได้” ร่างสูงตอบกลับแล้วหัวเราะเยาะคำทำนายที่ดูไร้สาระ ,,,ใครจะไปสน
“เธอ… เธอเข้าใจผิดแล้ว เมื่อสูญเสียรักแท้ไป จะเหลือเพียงความเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีใครอื่นอีก เธอ..เธอคิดให้ดี สิ่งชั่วร้ายในตัวเธอ ,,คือกระสุนปืนเพียงเม็ดเดียว จริงไหม? ”
รอยยิ้มเยาะเย้ยหุบลงทันทีที่ได้ยิน แววตามีพลังของหญิงชราเงยขึ้นสบตายิ่งทำให้ต้องรีบชักมือหนี …รู้ไปหมดทุกอย่าง เป็นไปได้ยังไง
“แก้วเป็นไงบ้าง แม่นรึเปล่า” ฟางรีบเดินมาถามทันที่แก้วเดินออกมา
“เขาบอกฟางว่าอะไรบ้าง ” มือหนายกขึ้นจับไหล่บางทั้งสองข้าง สีหน้าดูจริงจังปนร้อนรนใจ
“เขาบอกว่าฟางเหมือนมีเชือกแขวนอยู่ที่คอ อยู่ที่คนบางคนไม่รู้ว่าเป็นใครที่จะตัดสินว่าเชือกนั้นจะยกขึ้นเพื่อฆ่าฟางหรือตัดมันทิ้งให้ ฟางกำลังจะตายหรอแก้ว…” น้ำเสียงสั่นยิ่งทำให้มือหนาบีบไหล่แน่นขึ้น
“ไม่ต้องห่วงนะฟาง แก้วเป็นบอดี้การ์ดของฟางอย่าลืมสิ แก้วจะไม่มีทางปล่อยให้ฟางเป็นอันตราย ” คำพูดหนักแน่นส่งออกไปให้คนฟังพยักหน้า
คำพูดหลอกลวงให้เชื่อ… หลอกลวงให้ไว้ใจ
หลอกตัวเองชัดๆ!! ว่าจะทำมันได้จริง
“อ้าวไม่กินไอติมแล้วหรอแก้ว”
“ไม่แล้วดีกว่า กลับโรงแรมกันเถอะเริ่มดึกแล้ว” แก้วเดินก้มหน้ามองพื้นดินคิดฟุ่งซ่านคนเดียว ไม่เคยมีครั้งไหนที่รับงานแบบนี้จากพ่อแล้วหนักใจขนาดนี้
“กังวลอะไรอยู่รึเปล่า บอกฟางได้นะ” มือเรียวบีบเบาๆเหมือนอยากให้กำลังใจ พลางมองมาด้วยสายตาใสซื่อ ยิ่งทำให้แก้วต้องหันหน้าหนี
เพราะฟางเป็นแบบนี้แหละ แก้วถ้าได้ยิ่งหนักใจ หนักใจกับตัวเอง จะรับมือกับความรู้สึกนี้ได้ยังไง ในเมื่อไม่เคยเป็นมาก่อน… ไม่คิดว่าจะเจอด้วยซ้ำ
-------------------------------------------------------
ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นห้องที่ว่างเปล่า …หายไปไหนเนี่ย
ลมเย็นๆพัดเข้ามาจากประตูระเบียงห้อง เหมือนบอกให้รู้ว่ามีคนอยู่ด้านนอกสร้างรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าหวาน
“ยังไม่เลิกเครียดอีกหรอ ฟางพอจะช่วยอะไรได้ไหมเนี่ย” ร่างบางเดินเข้าไปยืนข้างๆคนตัวสูงแล้วยิ้มให้
“ช่วยยืนเป็นเพื่อนหน่อยละกัน” แก้วหันไปยิ้มให้เป็นเชิงขอบคุณเมื่อเห็นร่างบางยกแขนขึ้นเท้าระเบียงเพื่อปักหลักอยู่ข้างๆ
“หนาวนะเนี่ย..” มือเรียวยกขึ้นทาบใบหน้าตัวเองเพื่อสร้างความอบอุ่นให้มือ
“แบบนี้อุ่นขึ้นรึเปล่า” ร่างสูงเลื่อนตัวเข้าไปชิดขึ้นแล้วใช้แขนโอบไหล่บางไว้ …นิสัยชอบฉวยโอกาส แก้ยังไงก็คงไม่หายหรอก
“อ..อืม ดีขึ้น” ฟางตอบเบาๆ เพียงแค่สัมผัสเบาๆจากแก้วมันก็ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายมากขึ้น จนเริ่มร้อนแล้วด้วยซ้ำ
“ความรักในนิยามของฟางมันคืออะไรหรอ ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นหลังจากติดอยู่ในห้วงความคิดตัวเองคนเดียวอยู่นาน
“ความรัก คือสิ่งที่เราไม่เห็น แต่รู้สึกได้…”
“งั้นหรอ.. รู้สึก ยังไง” ไม่ได้แกล้งโง่นะ แก้วอยากรู้จริงๆ ที่รู้สึกตอนนี้มันใช่รึเปล่า
“ก็ อยากอยู่ใกล้ๆคนนั้น เป็นห่วงเขา ยิ้มได้แบบไม่มีเหตุผลเท่าไหร่เวลาเขาคนนั้นอยู่ใกล้ๆ และ อยากจะอยู่กับเขาตลอดไป” ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งย้ำตัวเองถึงความรู้สึกที่มีอยู่…ตอนนี้ กับคนข้างๆนี้
แก้วนิ่งเงียบ มือหนาอีกข้างเลื่อนไปโอบรอบเอวบางแล้วขยับให้หันมาสบตา
“แก้วอยากรู้อะไรบางอย่างได้ไหม”
“อะไร?..” ดวงตาหวานมองกลับเข้าไปภายในดวงตาคู่ตรงหน้าที่เหมือนมีบางอย่างดึงดูดไว้
ใบหน้าคมค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้ อยากจะรู้..ว่ามันต่างจากที่เคยทำกับคนอื่นแค่ไหน
ริมฝีปากเข้าประกบกับริมฝีปากนุ่มเบาๆ สัมผัสที่อ่อนโยนจนเหมือนร่างกายจะล่องลอยไป ลิ้นหนาเริ่มทำงานหาความหวานจากโพรงปากอีกคนตามอารมณ์พาไป คงไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ มือเรียวเลื่อนขึ้นมาคล้องคอร่างสูงไว้ก่อนจะตอบกลับจูบหอมหวานจนควบตัวเองไม่อยู่
เสียงหัวใจเต้นแรงถี่ขึ้น …ไม่ต้องกลัวว่าอีกคนจะได้ยินรึเปล่า
เพราะ เสียงหัวใจที่ได้ยินอยู่มันก็คือเสียงหัวใจของทั้งคู่ที่เต้นเข้าจังหวะกัน
ไม่เรียกว่ารัก จะเรียกว่าอะไรได้อีก คงต้องยอมรับ เลิก ‘หลอก’ ตัวเองซักที
=============================================
ความคิดเห็น