คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : +TRicK [3] +
ชายสูงวัยมองลูกคนเดียวฮัมเพลงแบกกระเป๋าใบโตผ่านหน้าไป
“ไปไหนลูกพ่อ หน้าตาดูมีความสุขแบบนี้แสดงว่าจะปิดฉากแล้วใช่ไหม”
“ยังหรอกพ่อ แก้วขอใช้ประโยชน์จากยัยนั้นก่อนแล้วค่อยยิงทิ้ง แก้วจะไปหัวหินสามวัน กลับมาเมื่อไหร่เราค่อยมาคุยเรื่องจัดการกัน” ร่างสูงตอบ หยิบขนมปังมาคาบไว้ โบกมือลาพ่อ
ปี๊นๆๆๆ
“เสร็จรึยังงงงงง” รถคันเดิมมาจอดอยู่หน้าบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดี
“เสร็จแล้ว รีบจริงๆเลยนะ” มือหนายื่นมาช่วยยกกระเป๋าใส่เข้าหลังรถ
“เดี๋ยวตกรถไง ต้องรีบสิ” รอยยิ้มมีนัยส่งออกมาจากใบหน้าคม จนร่างบางอดขำออกมาไม่ได้ อยากจะบ้า…นี่ฉันพาหมาป่าไปในด้วยรึเปล่าเนี่ย
“ฟางมาซะเร็วเลยนะ เอ.. แล้วนี่กิ๊กใหม่ของฟางหรอ” สาวสวย จินนี่ ทักเพื่อนแล้วหันไปมองร่างสูงที่ยืนยิ้มให้ข้างๆ
“เปล่าครับ.. พอดีเป็นแค่เพื่อน ชื่ออะไรหรอ เราชื่อแก้วนะ ” แก้วตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามเก็กสุดๆ จนฟางต้องเหลือบมองแล้วถอนหายใจ
“อ่อค่ะ เราชื่อจินนี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ” เสียงหวานๆตอบกลับมาด้วยยิ้มหวานๆๆๆๆจนใจคนตัวสูงแทบจะล่องลอย
“ไปได้แล้ว!” ฟางดึงแขนให้เดินตามมาขึ้นรถเพราะเริ่มทนไม่ไหวกับสายตาของแก้วที่ใช้มองเพื่อนตัวเอง
“อะไรเนี่ยฟาง แก้วยังคุยกับจินนี่ไม่เสร็จเลย ขอคุยอีกนิดนึงนะๆๆๆ” ใบหน้าคมตีหน้าอ้อนวอนแล้วต้านแรงดึงของสาวตัวเล็ก
“ไม่ต้องแล้ว นายบ้า”
“แหมฟาง แฟนหรอ? มาถึงก็หวานเลยนะ” เสียงแหลมของหวายดังขึ้นเรียกให้แก้วหันไปมองแล้วยิ้มออกมาทันทีที่เห็นสาวแก้มป่องที่น่ารักไม่แพ้กัน มือหนารีบเอาแขนฟางออก
“ไม่ใช่แฟนครับ เป็นแค่เพื่อน” …คิดว่าแฟน เดี๋ยวเรตติ้งตกพอดี “เราชื่อแก้วนะ เธอชื่ออะไรหรอ ”
“เพื่อนฟางชื่อหวาย! มีแฟนแล้วด้วย นายมานี่เดี๋ยวนี่เลย” ร่างบางตอบแทน น้ำเสียงดูเหวี่ยงจนคนตัวสูงต้องยอมเดินตามไปยืนข้างรถบัสเงียบๆ มองสีหน้าที่ดูจริงจังของฟางที่ยืนกอดอก เหมือนกำลังจะว่าอะไรซะอย่าง …เตรียมตัวไว้เลย
“ถ้านายจะมาเพื่อ… เพื่อสร้างความวุ่นวายในค่าย เอาแต่จ้องเหมือนจะกินเพื่อนฟางไปทั้งตัวแบบนี้ ..กลับไปเหอะ ฟางจะไปคนเดียว”
“…” ตอบไรดีละ ก็ตั้งใจจะมาแบบนี้จริงๆ เห้ย..ไม่ใช่ๆ เอาไงดีเนี่ย
“ขอโทษละกัน แต่ยังไงแก้วก็จะไปด้วยเพราะแก้วต้องทำหน้าที่” เสียงตีให้ฟังดูสำนึกผิด ทั้งๆที่ก็พูดเพื่อให้ได้ขึ้นรถบัสออกไป แล้วค่อยว่ากัน
“เห้อ… ตามมาขึ้นรถละกัน แล้วเลิกมองเพื่อนฟางด้วยสายตาแบบนั้น” พูดจบฟางก็เดินนำไปขึ้นรถคันที่ใกล้สุด
“นี่ๆ โกรธหรอ..” แก้วสะกิดแขนเบาๆถามเมื่อเข้าไปนั่งข้างๆ
“เปล่า” น้ำเสียงยังคงดูเหวี่ยงไม่ต่างจากเดิมจนต้องรีบหดมือกลับมานั่งเฉยๆ มองไปรอบๆรถแล้วเผลอยิ้มออกมาแต่กลับต้องหุบลงเมื่อเห็นดวงตาหวานจ้องมาจับผิด
โอเคๆ เก็บอาการไว้ก่อน สาวๆน่ารักทั้งรถแบบนี้… ถึงหัวหินเมื่อไหร่เจอกันแน่
ก็เพราะฉันหลงทางหลงอยู่กลางใจของเธอ
อยู่ไหนก็ใก้ลเธอเพราะว่าใจเธอกว้างใหญ่
ตกลงว่าเธอแล้วอ่ะนะ ติดใจอ่ะ เธอซะตั้งเยอะ
ออกจากเธอไม่ไหว ฉันก็เลยไม่ห้ามใจ …ปล่อยไปรักกับเธอ
เสียงเพลงจากไอพอดผ่านหูฟังเข้ามาเป็นจังหวะในหู เพื่อไม่ให้น่าเบื่อเกินไปสำหรับสองชั่วโมงในรถบัส
ซักพักภายในรถที่ดูวุ่นวายเหมือนจะเริ่มเงียบลงจนต้องเลื่อนมือไปลดเสียงเพลงให้เบา ดวงตาหวานๆของสาวๆเริ่มจะปิดเก็บแรงเอาไว้เที่ยว รวมถึงใบหน้าหวานข้างๆที่หลับไปเรียบร้อยค่อยๆเอนตัวตามแรงโน้มถ่วงมาพิงไหล่หนา จนเจ้าของไหล่ต้องหันไปมองแก้มอมชมพู
‘อยู่นิ่งๆ ไม่พูดมากก็น่ารักเหมือนกันนะ ยิ่งใกล้ๆแบบนี้แล้ว…’
แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างรถมากระทบใบหน้าหวานยิ่งทำให้ดูขาวเด่นขึ้นไปอีกยากที่จะละลายตาออกมา กลิ่นแชมพูบนผมยาวเป็นลอนโชยมาอ่อนๆก็ยิ่งต้องเผยยิ้มออกมาไม่รู้ตัว
บ้าน่า.. คิดอะไร นับถอยหลังไปสามวัน คนข้างๆก็จะไม่เหลือลมหายใจแล้ว
เร็วไปรึเปล่า ยังรู้จักกันไม่ดีเท่าไหร่เลย …ทำไม อยากรู้จักให้มากกว่า …ทำไม เหมือนมีอีกหลายอย่างให้น่าค้นหา
มือหนาค่อยๆเลื่อนไปขยับม่านมาบังแสงแดดที่ส่องเข้ามา พยายามให้ไหล่ด้านที่ถูกพิงเคลื่อนน้อยที่สุด ไม่ได้ตั้งใจจะขยับตัวให้ยิ่งใกล้นะ…มันจำเป็นจริงๆ ถึงจะพยายามขยับน้อยแล้ว… แต่…
“นาย!! อือออ” แก้วรีบเอามือปิดปากนั้นไว้ก่อนจะส่งเสียงรบกวนคนอื่นที่หลับกันอยู่ในรถ
“เดี๋ยวคนอื่นตื่นพอดี จะโวยวายทำไม” ร่างสูงบอกเบาๆแล้วคลายมือออก
“นายออกไปไกลๆเลยนะ คิดจะทำอะไร” ฟางผลักร่างสูงออกให้ห่าง ถึงจะพูดเสียงเบาๆแต่ในน้ำเสียงยังเคืองอยู่ไม่น้อย
“ก็แค่จะปิดม่านให้ ก็เพราะฟางนั้นแหละมาพิงไหล่แก้วเลยต้องเอื้อมแบบนั้น คิดว่าแก้วจะทำอะไรละ” คำถามประโยคสุดท้ายถามอย่างท้าทายคำตอบพร้อมยักคิ้วกวนๆให้
“จะทำอะไรฟางไม่รู้หรอกนะ แต่อย่ามาเข้าใกล้ ไปนั่งที่อื่นเลยไป” ร่างบางขยับตัวให้ชิดขอบหน้าต่างมากที่สุดแล้วนั่งกอดอก
“ไปก็ได้ๆ เชอะ…” ไล่ดีนักนะ ไปนั่งกับคนนั้นดีกว่าที่ข้างๆว่างอยู่ น่ารักซะด้วย
“ขอนั่งด้วยคนได้รึเปล่า…” ใบหน้าคมถามขึ้นอย่างเป็นมิตร
“ได้สิ ว่างอยู่ นายชื่ออะไรหรอ เราพิมนะ”
“ว้าว ชื่อพิมหรอ แก้วกะแล้วว่าหน้าแบบพิมต้องชื่อประมานนี้” แก้วว่าไปเรื่อยตามนิสัย
“ทำไมละแก้ว” ดวงตากลมโตมองมาด้วยความไร้เดียวสา
“อ้าว… ตาโตแก้มเนียนๆ น่ารักๆแบบนี้ ต้องเข้ากับชื่อพิมเท่านั้น น่ารักทั้งชื่อทั้งหน้าเลยไง” คำหวานหยอดไปไม่ขาดสายจนใบหน้าเนียนเริ่มแดงระเรื่อ
แก้วพูดจบก็แอบมองชำเลืองที่นั่งเดิมของตัวเองที่อยู่เยื้องไปด้านหน้านิดหน่อย
‘ไม่คิดจะหันมาสนใจหน่อยเลยรึไง… ใจร้ายชะมัด’
“แล้วทำไมพิมถึงนั่งคนเดียวละ หรือว่าเว้นไว้สำหรับแก้ว” ใบหน้าคมหันกลับมาคุยต่อ
“พอดีแฟนพิมเค้าติดธุระเลยไม่ได้มาด้วยกัน พิมเลยต้องมาคนเดียว แย่เลยต้องหาคู่เต้นรำวันงานราตรี …แก้วมีคู่รึยัง” รอยยิ้มบนใบหน้าคมหายไปทันที …มีแฟนแล้วทำไมพึ่งบอกเปลืองน้ำลายชะมัดเลยยยย แต่น่ารักแบบนี้แย่งซะเลยดีไหม
“ว่าไงแก้ว สรุปมีคู่เต้นรำรึยัง แล้ว…แก้วมากับใครละ” ดวงตาหวานยังคงมองมาแบบไร้เดียงสาไม่ต่างจากเดิม
“เอ่อ.. แก้วมากับฟาง แต่ว่าไม่ใช่แฟนหรอกนะอย่าเข้าใจผิด” พูดกันไว้ก่อนทุกครั้ง …เดี๋ยวเรตติ้งตก “เรื่องคู่เต้นรำก็ยังไม่รู้เหมือนกัน” สิ้นประโยคใบหน้าคมก็ชะเง้อมองปฏิกิริยาของฟางแต่กลับไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ยังคงนั่งเฉยๆอยู่แบบนั้น
“มาด้วยกันแล้วไม่ได้คุยกันหรอ?”
“ยังเลย แก้วขอตัวก่อนละกัน”
ร่างสูงย้ายตัวเองกลับไปนั่งที่เดิม มองฟางที่ยังคงนั่งชิดหน้าต่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“เรื่องคู่เต้นรำ… แก้วตั้งใจจะมาหาใครซักคนไม่ใช่หรอ มันก็เป็นโอกาสดี…มีเวลาหาทั้งวันแหละก่อนจะเริ่มงานคืนนี้”
คำพูดของร่างบางเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าคมได้ไม่น้อย
ทำไมน่ะหรอ… ฟางพูดแบบนี้แสดงว่าแอบฟังที่ตัวเองคุยกับพิมอยู่ละสิ ก็งี้แหละน้า ทำเป็นไม่สนใจที่แท้ก็เป็นห่วงแก้วนี่เอง (…หลงตัวเองที่สุด)
ในที่สุดรถบัสก็จอดหน้าโรงแรมให้ทุกคนทยอยนำข้าวของไปเก็บในห้อง เตรียมเที่ยวตามใจชอบ
“ฟางๆ คือว่าที่ฟางจะขอห้องเพิ่ม มันเต็มแล้ว ฟางกับเพื่อนอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอ หรือว่า…จะให้เพื่อนฟางมาอยู่กับเราก็ได้นะ เรามาคนเดียว ” มิล่า ประธานจัดค่ายเอ่ยแล้วหันไปยิ้มให้ร่างสูง
“งั้น…”
“แก้วอยู่กับฟางก็ได้ ขอโทษด้วยนะที่บอกช้าว่าจะมา” แก้วรีบพูดตอบแทนให้แล้วหันไปยิ้มกว้าง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ได้แก้วมาค่ายกับพวกเราแล้วดูมีสีสันขึ้นเยอะเลย” สาวสวยเอ่ยขึ้นแล้วเดินไปคุยกับคนอื่นต่อ
“ไปเที่ยวกันเถอะๆๆ หิว” ร่างสูงโยนของลงบนเตียงตัวเองหยิบแว่นกันแดดออกมาเหน็บเสื้อเตรียมตัวออกไป
“รีบจริงๆนะ หิวข้าวหรืออย่างอื่นกันแน่…” ฟางพูดออกมาแบบรู้ทัน
“หิวข้าวสิ ไปกันเถอะ เดี๋ยวต้องรีบกลับมาเปลี่ยนชุดในงานราตรีอีกนิ”
“นั่นสิ ไม่อยากไปงานเลย อยากเที่ยวมากกว่า ” ร่างบางทำหน้าเซงๆ แล้วเดินไปเปิดประตูห้องช้าๆ
อาหารมื้อนี้อร่อยชะมัด… อาหารตาอาหารใจทั้งนั้น แต่เซงจริงๆที่แต่ละคนดันพาแฟนมานั่งข้างๆทั้งนั้นเลย มองได้ไม่เต็มที่
“นี่.. ไว้มื้อพรุ่งนี้ฟางจะพาไปกับเพื่อนที่ยังไม่มีแฟนบ้างละกัน วันนี้ทนไปก่อนนะ” ร่างบางกระซิบเบาๆ …รู้ทันอีกและ
“พูดแบบนั้นถูกใจสุดๆ ฟางดูน่ารักขึ้นมาทันทีเลยรู้ไหม…” คำหวานหยอดใส่คนข้างๆแบบไม่เว้น แต่..
“ไม่ต้องมาพูดเลย นายหน้าหม้อ!” พูดจบก็ผลักตัวบอดี้การ์ดที่ไม่เห็นต้องทำหน้าที่ออกไปเบาๆ
หลังจากกินเสร็จแทนที่จะได้เดินเที่ยวต่อ สาวๆทุกคนกลับดูรีบจะไปเปลี่ยนชุด ทำผม แต่งหน้า เพื่องานราตรีในคืนนี้
“ฟางไปแต่งตัวห้องเพื่อนนะแก้ว ไว้เจอกันในงานเลยละกัน หาคู่ให้ได้เร็วๆละ” ฟางยิ้มให้แล้วแบกชุดเตรียมของ
“เดี๋ยวสิฟาง แล้ว…ฟางมีคู่และหรอ”
“ยัง.. ไปก่อนนะ”
“อืม..” …คู่กันไหม ทำไมไม่ถามละ ทำไมไม่พูดออกไป
แล้วทำไมต้องพูด…? เห้อ.. นี่เราใกล้บ้าขึ้นทุกวันรึไงเนี่ยชอบมีความคิดขัดแย้งกันในตัวเอง รีบเปลี่ยนชุดลงไปหาสาวๆดีกว่า
เพียงเวลาไม่นาน ชุดสูทสีดำก็ถูกจัดเข้าที่เข้าทางบนร่างสูงโปร่ง ผมสีดำเป็นเงาเซ็ทขึ้นให้เข้ากับใบหน้าคม
“หล่อขนาดนี้ ใครไม่มองก็บ้า ” แก้วพูดพลางปรับเนคไทให้ตรงเตรียมออกไปลุย
ขายาวพาตัวเองเข้าไปอยู่ในงานยืนจิบเครื่องดื่มคอยมองสาวๆที่เดินผ่านไปมา
“อ้าวแก้ว แล้วฟางละ” จินนี่เอ่ยทักขึ้น
“เดี๋ยวคงตามลงมา รับซักแก้วไหม ” มือหนาเลื่อนไปหยิบยื่นเครื่องดื่มให้ด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณนะ จินนี่พาไปรู้จักกับเพื่อนคนอื่นๆดีกว่า ยืนคนเดียวแบบนี้เหงาแย่เลย”
“อ่อ ดีเหมือนกัน ไปกันเถอะ” ..เข้าทางชะมัด
ในที่สุด แก้วก็ได้ไปอยู่ท่ามกลางวงสาวๆจนได้ คิส มาย โบ แบม เกิล จินนี่… ขาวๆน่ารักทั้งนั้น
พูดคุยกันไปได้ซักระยะ ผู้คนก็เริ่มเข้ามาเต็มงาน ใกล้ถึงเวลาเต้นรำเต็มที
“เอ่อ… แล้วใครยังไม่มีคู่เต้นรำบ้างเนี่ย” เสียงหล่อถามขึ้น
“มายๆๆ ” “โบก็ยังคู่กันนะแก้ว” สาวๆรีบแย่งกันพูดจนคนตัวสูงต้องยกมือบอกให้เงียบก่อนที่ทุกคนในงานจะหันมา
“ทุกคนๆ เงียบก่อน มิล่าจะขอเปิดงานเต้นรำคืนนี้ด้วย สาวสวยสุดดาวประจำคณะของเรา” มิล่าเอ่ยกลางเวทีแล้วผายมือออก เรียกเสียงตบมือจากผู้คน
เพียงแค่ได้ยิน ร่างสูงก็รีบหันไปทางเวทีดูอย่างใจจดใจจ่อ
สิ้นเสียงตบมือ ใบหน้าหวานอมชมพูก็ขึ้นมาบนเวทีด้วยชุดเดรสเกาะอกสีแดง เผยให้เห็นไหล่ขาวๆ สะดุดตาผู้คนในงานที่มองด้วยความชื่นชม
“แก้ว นั่นไงฟาง สวยเนอะ” จินนี่สะกิดแขนบอกแต่ไม่มีปฏิกิริรยาตอบกลับจากคนตัวสูงที่ดูอึ้งกับคนบนเวทีจนจ้องไม่ละสายตา
“ฟางขอกล่าวเปิดงานเต้นรำในคำคืนนี้ ให้ทุกคนสนุกกับงานนะคะ” ฟางเอ่ยขึ้นแล้วถอยหลังไปยืนข้างๆมิลล่า เสียงตบมือดังขึ้นอีกครั้ง
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เชิญฟางและคู่ไปเต้นรำกันตรงกลางฮอลเป็นคู่แรกเลยดีกว่า… ”
เมื่อฟังจบ ฟางก็สะกิดแขนมิล่าด้วยสีหน้าลำบากใจ “มิล่าคือฟาง…ไม่มีคู่” เสียงหวานกระซิบเบาๆ
“อ้าวก็..แก้วไง ไม่ได้คู่กันหรอ นั้นไงแก้วมาเดินมาแล้ว” ดวงตาหวานหันไปมองตามที่เพื่อนบอกก็พบใบหน้าคมกำลังเดินเข้ามาใกล้ๆท่ามกลางคนอื่นๆที่แหวกให้เป็นทาง
“คู่กันตอนนี้ยังไม่สายใช่ไหม…” แก้วถามออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กๆ มือหนายื่นไปรับมือเล็กให้ลงมาเต้นรำด้วยกันที่กลางฮอลตามเสียงเพลงที่เปิดขึ้น ก่อนที่คู่อื่นๆจะเริ่มเข้าคู่เต้นตาม
“วันนี้ฟางสวยเป็นพิเศษนะ”
“พูดแบบนี้มากี่คนแล้วละ” ฟางเงยหน้าขึ้นสบตากับแก้ว มองใกล้ๆก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าคมมีเสน่ห์อยู่ไม่น้อยจนต้องหลบสายตา
“…พึ่งพูดคนแรกและเป็นคนเดียวด้วย” มือหนาคลายมือออกเล็กน้อยเพื่อให้อีกคนหมุนตัวตามจังหวะ ก่อนจะเลื่อนเข้าไปจับเอวบางไว้เหมือนเดิมแต่ดูจะใกล้มากขึ้น รอยดูรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าหวานก็อดจะยิ้มออกมาตามไม่ได้ ยิ่งในดวงตาสีน้ำตาลสวยเหมือนมีบางสิ่งกำลังดึงดูดให้อยากเข้าใกล้
นางฟ้ารึเปล่าถึงได้น่าหลงใหลขนาดนี้
สิ้นสุดเพลงทั้งคู่ก็ออกมาเดินเล่นกันนอกงานในสวนเล็กๆ
“ขอบคุณนะที่ช่วย”
“หืม.. เรื่องอะไร”
“ก็เรื่องคู่เต้นรำไง ถ้าแก้วไม่ออกมาฟางคงจะยืนอยู่ตรงนั้นแหละ” ฟางพูดแล้วหยุดเดินอยู่กลางสะพานไม้ข้ามสายน้ำจากน้ำตกขนาดเล็ก
“ไม่เป็นไร ยินดี” ร่างสูงยืนเท้าราวสะพานอยู่ข้างๆคนตัวเล็ก
บรรยากาศเย็นสบายๆ เสียงน้ำตกกระทบก้อนหินเล็กๆยิ่งที่ให้จิตใจที่เคยแข็งกลับว้าวุ่น
“คือแก้ว… อยากรู้จักฟางมากกว่านี้” อยู่ๆแก้วก็เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“ยังไง? ก็เรารู้จักกันแล้วไม่ใช่หรอ ยังไงแก้วก็เป็นบอดี้การ์ดให้ฟางอยู่แล้วตามคำสั่งพ่อ” ใบหน้าหวานหันมาถาม
“หมายถึง…”
“…ไม่ใช่ในฐานะบอดี้การ์ด ได้รึเปล่า”
จ้องมองเข้าไปในดวงตาหวานอีกครั้ง มองหาคำตอบภายใน ไม่ใช่แค่คำตอบจากอีกคนแต่เป็นคำตอบจากตัวเองมากกว่าที่ต้องการ
ทั้งๆที่ก็รู้ว่าทุกอย่างที่ตัวเองทำไป เป้าหมายคืออะไร แล้วจะยังไงต่อ… แล้วพูดอะไรออกไป
“เก็บไว้พูดกับคนอื่นดีกว่านะแก้ว ขอโทษ พอดีฟางมีใครอยู่ในใจแล้ว” ร่างบางพูดจบก็ยืดตัวขึ้นเดินต่อไปตามทาง
มีใครอยู่ในใจแล้วงั้นหรอ
มือหนาล้วงเข้าไปหยิบปืนในกระเป๋ากางเกงแล้วเล็งไปที่คนข้างหน้าซึ่งเดินออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็กลับปาทิ้งลงจากสะพานไป ร่างสูงยืนพิงสะพานด้วยความหงุดหงิด
ฟางตอบแก้วมาแบบนี้ คิดว่าแก้วจะยอมแพ้ง่ายๆรึไง ก่อนที่ฟางจะตาย…แก้วจะต้องทำให้ฟางรักแก้วให้ได้
=======================================================
ไรเตออาจจะหายไปเกือบอาทิต แล้วจะรีบมาต่อนะ
อ่านแล้วเม้นด้วยละ
ขอบคุณที่ติดตามนะทุกคน
ความคิดเห็น