คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : trouble maker ☀ - INTRO - ( Ciudad de las sonrisas. )
INTRODUCTION : Ciudad de las sonrisas.
ปฐมบท : เมืองแห่งรอยยิ้ม
วันนี้ท้องฟ้าสดใสกว่าที่เคย กลุ่มเมฆก้อนขาวลอยคละตัดกับสีส้มอ่อนๆของแสงอาทิตย์ยามเช้า ลมพัดเอื่อยๆเหมาะกับบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิส่งผลให้เช้านี้ที่ซานตาบาบร่าดูจะอบอวลไปด้วยความสุขยิ่งกว่าวันอื่นวันใด เด็กสาวในชุดฮู้ดตัวโคร่งกับรองเท้าผ้าใบเก่าๆเดินลากเท้าไปตามจังหวังเพลงในไอพอดก่อนจะอ้าปากหาววอดใหญ่ ก้มมองกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆที่คุณนายเชสเตอร์ลงทุนมางัดเธอออกจากที่นอนแสนรักเพื่อแป้งข้าวโพด ผงยีสต์และนมสดอีกสองขวดอย่างหน่ายๆ เงินห้าสิบดอลล่าร์ที่ถูกเหน็บกับกระดาษใบจิ๋วทำให้ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มน้อยๆแล้วปล่อยให้เพลงที่เล่นอยู่ขับกล่อมเช้าที่แสนมืดมนของเธอให้ดีขึ้น
“ไฮอเล็กซ์ J”
“ไปตายซะโจนาธาน ลูอิส”แม้ไม่ต้องหันไปมองเสียงกวนประสาทนั่นเธอก็เดาได้ทันทีว่าชายหนุ่มที่มาพร้อมกับสเก็ตบอร์ดคู่ใจและเสียงสาวแตกประหนึ่งจัสติน บีเบอร์นี่คือใคร ใช่ เขาคือโจนาธาน ลูอิส ไอ้เด็กไม่หย่านมแม่บ้านตรงข้ามนั่นยังไงล่ะ
“คุณนายเชสเตอร์ส่งผมมาเป็นบอดี้การ์ดให้ลูกสาวเขาน่ะ”
“อ้อเหรอ”ดวงตาสีเฮเซลนัทกรอกไปมาอย่างหน่ายใจเต็มที”ถ้าลูกสาวของคุณนายเชสเตอร์คืออเล็กซานดร้า เชสเตอร์แล้วล่ะก็ ขอให้นายรับรู้ไว้ได้เลยว่าหล่อนสบายดี ยังไม่ได้ไปสลบกลางทางที่ไหน ที่นี้ช่วยกลับไปอยู่ในคอกยาเน่าๆของนายเถอะย่ะ ลาล่ะ”
“เธอเห็นมังกี้ในนิตยสารใหม่รึยังอเล็กซ์ ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าไอ้งั่งนั่นโตขึ้นมาจะเป็นนายแบบกับเขาได้”
“อ้อเหรอ..”อเล็กซานดร้าตอบรับลากเสียงยืดยาวแล้วปล่อยให้นายโจนาธานไถสเก็ตบอร์ดเก่าๆตามมาและพยายามตีซี้อย่างไม่ใส่ใจนัก
“ผมว่าเขาจะต้องรีทัชหรือใส่โฟโต้ช็อปเพื่อกลบรอยใต้ตาของมันแหง ดูซินอนกอดขวดเหล้าต่างหมอนข้าง คิดแล้วยี๊จริงๆ ทำไมโมเดลลิ่งไม่มาติดต่อผมบ้างนะ”
“เพราะแกพูดมากและโคตรน่ารำคาญไงล่ะโจนาธาน -_-”ถูกเผง! อเล็กซานดร้ายกมือขึ้นทักทายหนุ่มผมสีเข้มที่ยืนหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ด้านหลังของโจนาธาน มังกี้ ดี. ลูฟฟี่หรือฮอตท็อปปิกในการสนทนาอยู่ฝ่ายเดียวของโจนาธานนั้นเพียงพยักหน้ารับแล้วหันไปมองหน้าหนุ่มตัวดีอย่างหาเรื่อง โอ้ เธอช่างคิดถูกจริงๆที่ยืนปิดปากเงียบไม่เออออไปกับโจด้วย มังกี้ ดี. ลูฟฟี่คือตัวปัญหาที่ไม่ว่าใครก็ขยาดทั้งนั้น
ยกเว้นเสียแต่พวกชอบลองของอย่างเช่นโจนาธาน ลูอิสเป็นต้น
“ฮะ..เฮ้มังกี้ มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ตั้งแต่แกนินทาฉันนั่นแหละ ไอ้ลูกหมา”
“งั้น..ฉันไปล่ะ”
“เดี๋ยวสิอเล็กซ์!”
“ไม่ต้องทำหน้าวิงวอนเลยโจ”อเล็กซานดร้าหัวเราะในลำคอก่อนจะดึงเฮดโฟนที่พาดอยู่บนคอขึ้นไปที่ตำแหน่งเดิม กดเร่งโวลลุ่มเสียงเพลงจนสุดแล้วสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ผิวปากหวืออย่างสบายอารมณ์ก่อนจะทอดน่องไปบนถนนโคลฟเวอร์เดลสตรีทโดยไม่แม้จะหันมามองท่าทางตลกๆของโจนาธาน ลูอิสที่พยายามจะไถสเก็ตบอร์ดหนีมังกี้เลยสักนิด
สายลมเย็นๆหอบเอากลิ่นขนมปังเพิ่งอบใหม่หอมกรุ่นจากร้านของคุณนายมอริสที่ผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้หืนๆของร้านฟลาวเวอร์เรนของคุณนายเจนมาจากอีกหัวมุมหนึ่งของถนน เวลาเก้านาฬิกาที่คนไม่ค่อยผลุกผล่านทำให้ถนนอิฐสีแดงที่เริ่มกัดกร่อนนี่ดูเงียบสงบกว่าในช่วงเย็นอยู่มาก อเล็กซานดร้าเดินสวนออกมาจากร้านขายเครื่องมือเบเกอรี่ก่อนจะยิ้มกว้างทันที
“โดโรธี!”
“หืม..อ้าว อเล็กซ์!”นัยน์ตาสีดำเบิกกว้างก่อนที่ริมฝีปากบางๆเคลือบด้วยสีชมพูอ่อนนั่นจะเผยยิ้มกว้างออกมา เพื่อนสาวตัวเล็กในชุดฮู้ดตัวใหญ่สาวเท้ามาหาแล้วทำหน้าสงสัยใส่ทันที
“เธอผอมลง”
“นิดหน่อย ว่าแต่นี่มัน..เก้าโมง ? อเล็กซานดร้า เชสเตอร์ บอกฉันมาซะดีๆว่าเธอเล่นยาเกินลิมิต”
“ขอโทษนะมิสกูเบลอร์ ฉันโดนแม่ถลกหนังหัวให้มาซื้อของต่างหาก”อเล็กซานดร้าพูดติดตลกแล้วชูถุงกระดาษในมือเป็นเครื่องยืนยัน”ว่าแต่เธอเถอะ หายหน้าไปนาน จู่ๆเป็นโรคคิดถึงบ้านขึ้นมารึไง”
“ฉันไปเที่ยวมาจ้ะมิสเชสเตอร์ ฉันชนะรางวัลการเขียนเรียงความแล้วได้เงินมาพันเหรียญเลยแบ็คแพ็คไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะ”
“คุณนายวิทล็อคจะไม่คลั่งแล้วเข้ามาเขย่าคอรึไงถ้ารู้ว่าเธอแอบดอดไปเที่ยวถึงเอเชียแบบนั้น”
“ฉันไม่แคร์นี่”เสริมคำพูดด้วยการยักคิ้วนิดๆจนคู่สนทนาต้องแอบเบ้ปาก
“เรื่องของเธอ อย่ามางอแงให้ฉันเห็นล่ะที่รัก”โดโรธี กูเบลอร์ยักไหล่ก่อนจะปลีกตัวเพื่อเอาของไปเก็บที่บ้าน บ้านของคุณนายวิทล็อคอยู่ถัดไปอีกสองบล็อกนับจากบ้านของอเล็กซานดร้าและมันเป็นเรื่องปกติหากโดโรธีและเธอจะสนิทกันเฉกเช่นที่แจสเปอร์ วิทล็อคจอมยโสนั่นสามารถสนิทกับไอ้ขี้เมาข้างถนนอย่างอเล็กซานเดอร์ เชสเตอร์ พี่ชายตัวร้ายของเธอได้
รองเท้าคอนเวิร์สใกล้หมดสภาพพาอเล็กซานดร้ากลับมาถึงหน้าหมู่บ้านอันแสนรักและแสนชังไปในเวลาเดียวกัน แดดอ่อนๆสาดส่องลงมามากกว่าช่วงเช้าแม้อากาศจะยังเย็นสบาย เธอเดินเอื่อยไปตามฟุตบาธที่มีนกร่อนลงมาจิกหาเศษขนมปังอยู่เป็นพักๆก่อนจะทิ้งตัวลงกับเก้าอี้สาธารณะตัวหนึ่งอย่างหมดแรง
ไม่รู้ว่าป่านนี้แม่ของเธอจะฆ่าอเล็กซานเดอร์ พี่ชายในไส้แทนตัวเธอเองแล้วรึยัง เพียงแต่ตอนนี้ขาของเธอมันล้าเกินกว่าจะเดินต่อแล้วนี่นา..
ร่างสูงระหงส์ของนาริม ชิน ชาวเกาหลีที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้สามปีกว่าเดินมาพร้อมกับเสียงฮัมเพลงภาษาประหลาด เธอบนส้นสูงสามนิ้วครึ่งเดินเป็นจังหวะ คลิ๊ก คลิ๊ก ก่อนจะหยุดมองลูกสาวตระกูลเชสเตอร์ด้วยความฉงน ใบหน้าคมสวยที่แฝงความหวานแบบคนเอเชียนั่นคลี่ยิ้มบางๆ
“นี่คุณหนูเชสเตอร์ อดอยากขนาดต้องมานอนข้างถนนแล้วเหรอจ้ะ”
“ใช่ ฉันอดอยากและโคตรหมดแรงเลย ขอขี่หลังหน่อยดิ”
“เสียใจ วันนี้ลูบูแตงของฉันส้นเข็มจ้ะ น้ำหนักของเธออาจจะทำมันหักได้”
“แค่นี้มันก็จะหักแล้วล่ะมาดาม”
“วันนี้ฉันมีคลาสทฤษฎี ฉันคนไม่อยากปวดหัวตายกับการต่อล้อต่อเถียงกับเด็กสติไม่เต็มอย่างเธอ โอเค แค่นี้นะ สวัสดี”ว่าจบเธอก็สะบัดผมสีน้ำตาลคาราเมลของตัวเองแล้วเดินอย่างมั่นใจต่อไปประหนึ่งว่าฟุตบาธโทรมๆแห่งนี้คือเวทีแคทท์วอล์ค นาริม ชินคือคำนิยามของผู้หญิงผู้ก้าวตามสมัยของโลกที่เปลี่ยนไป อ่า..เธอบอกมาแบบนี้น่ะ
อเล็กซานดร้าทำหน้าเอือมๆไล่หลังก่อนจะลุกขึ้นยืนบ้าง เกรงว่าหากไปถึงบ้านช้ากว่านี้สักนิดอาจจะถูกแม่ที่รักเอากีต้าร์โปร่งของพี่ชายตัวแสบนั่นไล่ตี มือเล็กกระชับถุงกระดาษที่บรรจุยีสต์ นมสองขวดและแป้งแล้วเริ่มเดินนวยนาดลากรองเท้าตามทางต่อไป เฮดโฟนกรอกเสียงเพลงบีตหนักๆและเสียงหวีดของร็อกเกอร์ใส่หูของเธอขัดกับบรรยากาศรอบข้างที่เหมาะจะฟังเพลงคลาสสิก สีไวโอลิน ดีดเปียโนอะไรเทือกนี้เสียมากกว่า
แต่ช่างเถอะ ชีวิตมันก็มีแค่นี้
“กู้ดมอร์นิ่งอเล็กซ์”
“ไฮเอสเธอร์”
“ฝากยาให้พี่ชายเธอหน่อยนะ เมื่อคืนเขาเมาหนักมากเลย”เอสเธอร์ มานาโกะทำให้อเล็กซานดร้าต้องแปลกใจเมื่อเธอยื่นถุงพลาสติกที่สกรีนลายเครื่องหมายบวกสีเขียวให้ด้วยรอยยิ้มที่ดู..ขัดเขิน?”เพื่อนของอเล็กซานเดอร์พาเขากลับมาส่งตอนตีสาม ป่านนี้คงยังไม่ตื่นหรอกมั้ง ถ้าตื่นแล้วให้เขาทานยาด้วยนะ มันเป็นยาแก้แฮงค์น่ะ อ้อ ไม่ต้องเอามาคืน ฉันซื้อให้จ้ะ”
“เดี๋ยวนะเอสเธอร์ เธอ..”
“ให้ทานสองเม็ดทุกๆหกชั่วโมงถ้ายังไม่หายนะอเล็กซานดร้า บาย”ปัง! ประตูไม้โอ๊คของบ้านมานาโกะถูกปิดพร้อมกับที่ร่างบางในชุดเดรสสีชมพูอ่อนหายเข้าไป อเล็กซานดร้าถึงกับขมวดคิ้วพันกันยุ่ง ยัยญี่ปุ่นนี่เป็นเพื่อนข้างบ้านของเธอตั้งแต่สมัยจำความได้แต่ขอเถอะ ..ไม่ได้สนิทกันเลยสักนิด! อย่างที่เห็นว่าเอสเธอร์ค่อนข้างจะ ..โลกส่วนตัวสูง? ส่วนตัวเธองเองก็ค่อนข้างจะ ..ไม่สมประกอบ? นั่นคงเป็นเหตุผลที่บทสนทนาระหว่างสองสาวค่อนข้างจะอึดอัดและตรึงเครียดอยู่ไม่น้อยอย่างที่เห็นเสียละมั้ง
สาวผมน้ำตาลเข้มยักไหล่แล้วหมุนหัวกลับไปที่ประตูบ้านของตัวเอง เสียงคุณนายเชสเตอร์ดังขึ้นทันทีที่ประตูบ้านเปิด ‘ฉันเกือบจะโทรแจ้งตำรวจแล้ว เธอหายไปนานมากอเล็กซานดร้า’ ส่วนลูกสาวตัวดีก็วางถุงกระดาษไว้บนเคาต์เตอร์ในห้องครัว โยนรองเท้าคอนเวิร์สทิ้งไว้แถวหน้าประตูแล้ววิ่งขึ้นที่บันไดไม่กี่ชั้นที่จะเชื่อมขึ้นไปสู่ชั้นสอง
“อเล็กซ์ ทานยา”
“หืออออ”เสียงยานคางเหมือนคนไม่ตื่นดีของอเล็กซานเดอร์ เชสเตอร์ พี่ชายของเธอดังตอบมาเป็นสัญญาณชีวิต น้องสาวโยนถุงยาพลาสติกไว้ข้างๆโซฟาที่ตัวพี่ชายนอนอย่างหมดสภาพหนุ่มหล่อสุดฮอตที่เคยได้รางวัลบลาๆนั่นอย่างอดสมเพชไม่ได้”ยาแก้แฮงค์ โอ้พระเจ้า ในที่สุดน้องสาวของฉันก็ทำตัวสมเป็นน้องสาวอย่างที่เป็นควรเป็นเสียที หยิบน้ำให้หน่อยดิอเล็กซ์ ลุกไม่ขึ้นหว่ะ”
“โจ๊กเกอร์ขับรถมาส่งเหรอ”
“ใช่”อเล็กซานดร้าวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะเตี้ยๆหน้าโซฟาก่อนจะยืดตัวกลับไปยืนกอดอก”ขอบใจจ้ะน้องสาว”
”ไม่มีครั้งหน้า จำไว้ -_-”อเล็กซานเดอร์ยักไหล่ก่อนจะตบยาเข้าปากแล้วกรอกน้ำทั้งแก้วตามลงไป เป็นสเต็ปทิ้งตัวลงนอนกับโซฟาในท่าเดิม น้องสาวได้แต่หัวเราะในลำคอแล้วกรอกตาไปมา อเล็กซ์กับอเล็กซ์ ..บางทีแม่เธอก็ต้องการจินตนาการในการตั้งชื่อลูกมากกว่านี้ ไม่ใช่จับแบรนด์โปรดมายัดเยียดให้ลูกชายคนโต พอถึงคิวลูกสาวเลยหาอะไรที่มันพอทดแทนกันได้แบบนี้
แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องของเธอสักหน่อย
- TO BE CONTINUED -
© Tenpoints !
เด็กดีกวนประสาทมาก ใช้เวลาลงไอ้ตอนนี้ตั้งครึ่งชั่วโมง T.T
ใช้เวลาแต่งทั้งนั้นนี้รวมแล้วสองชั่วโมงคะ ใช้เวลากับการบรรยาย เก็บรายละเอียดเยอะมาก *
ดูเนิบๆเนือยๆแต่คิตตี้ว่าโอเคเลยนะ แต่งงาย 55 อยากให้ออกแนวซิทคอมกับนิยายแปลนิดๆด้วย
มันต้องใช้บรรยายเยอะ สูบวิญญาณเหลือเกิน อยากกราบทรณี
อยากให้ได้อารมณ์ตะวันตก แต่มันดูเกาหลี๊เกาหลี U_U ชื่ออเล็กซานดร้ากับอเล็กซานเดอร์ทำเอามึน 55
ภาษาแปลกๆงงๆติดขัดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ ติกันมาได้เลยจะพยายามแก้ไขเน่อ T.T
เอามาลงแบบไม่แคร์คนอ่านและคนเม้นท์ รู้แต่ว่าตอนนี้คึกจัดคะ n_n คิกคิก
ตอนที่หนึ่ง(ไม่น่า)จะเกินพรุ่งนี้คะ :) ให้กำลังใจตัวเอง เอ้า ฮึบบ !
เม้นท์หรือไม่เม้นท์ก็ได้นะคะ ขอแค่ติดตาม ขอแค่อ่านก็ดีใจแล้ว เย้ >3<♥
ความคิดเห็น