ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KOREA TRIP รักนี้ไม่เคยจางไป

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 : 사랑해요 한국

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 57


    Incheon International Airport

    ท่าอากาศยานอินชอน เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี


    หญิงสาวผมยาวร่างเล็กบางเดินออกมาจากสนามบินก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างสดชื่น สองชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกันวิ่งมาหาพี่สาวอย่างตื่นเต้น
    "ไม่ได้มานาน กลับมายังสวยเหมือนเดินเลยเนาะ พี่แพรว พี่พัท" น้องเล็กสุดของบ้านเอ่ยอย่างตื่นเต้น
    "นั้นสิ คิดถึงสมัยเด็กๆที่มากับแม่เลยเนอะพี่แพรว" น้องชายคนกลางเอ่ยขึ้นบ้าง
    "นั้นสิเนาะ!" หญิงสาวพูดก่อนจะหันมายิ้มให้น้องชายทั้งสอง รถตู้สีเทาคันใหญ่ขับมาจอดเทียบหน้าสามพี่น้อง ประตูบานใหญ่ค่อยๆเลื่อนออกทำให้เห็นผู้ที่อยู่ข้างใน
    "พี่แบร์!!!" สามคนพี่น้องเอ่ยพร้อมกัน แบซูบินหรือแบร์ ชายหนุ่มวัย30 ปลายๆ อดีตไกด์นำเที่ยวที่พวกเขาเคยมาเที่ยว ชายหนุ่มค่อยๆก้าวลงมาจากรถ
    "welcome to korea agains!! แพรว พัท พิท" ชายหนุ่มในรถเอ่ยขึ้นเป็นภาษาไทย สามคนพี่น้องยิ้มกว้าง
    "เดียวนี่พูดไทยชัดเลยน้าาา" พิทธภูสนะเอ่ยขึ้นแซว
    "ใช่แล้ว!! อย่ามัวแต่คุยอยู่เลย รีบๆขึ้นรถเถอะ เดียวไม่สบาย" แบซูบินเอ่ยบอกก่อนดันทั้ง 3 ขึ้นรถ จากสนามบินอินชอนมาถึงกังนัมใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ รถตู้คันใหญ่เลี้ยวเข้าบริเวณรั้วบ้านอย่างคุ้นเคย
    "เห้ ตื่นๆ ถึงบ้านแบร์แล้ว" ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยขึ้น
    "ถึงแล้วหรอ?" หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อเห็นบริเวณบ้าน ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะเดินนำลงไปหาหญิงสาววัยเดียวกับเค้าที่หน้าบ้าน
    "นี้ภรรยาผม วี" แบซูบินเอ่ยขึ้น วีรดา พลไพศาล หญิงสาววัยกลางคนยิ้มกลับอย่างอ่อนหวาน
    "ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะคุณแพรว คุณพัท คุณพิท" วีรดาเอ่ยทักทาย
    "ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ มาดามวี" พิทธภูสนะเอ่ยตอบ แบซูบินและวีรดาเดินนำทั้งสามคนเข้าบ้านด้วยความคุ้นชิน ก่อนที่แบซูบินจะเดินแยกพาสองหนุ่มไปเก็บกระเป๋าที่ห้อง และให้วีรดาเดินพาแพรวพรรณรายนำกระเป๋าไปเก็บเช่นเดียวกัน วีรดาเปิดประตูห้องออกเผยให้เห็นห้องที่แต่งเป็นสไตล์คลาสสิกสีฟ้าขาว แพรวพรรณรายเดินเข้ามาในห้องอย่างสดใส
    "ห้องสวยจังค่ะคุณวี" แพรวพรรณรายเอ่ย
    "เรียกพี่วีดีกว่าน่ะค่ะคุณแพรว" วีรดาเอ่ยบ้าง
    "งั้นพี่วีก็เรียกแพรวธรรมดาก็พอค่ะ" แพรวพรรณรายพูดก่อนยิ้มให้วีรดาเบาๆ
    "ค่ะ พี่ได้ข่าวมาจากแบร์ว่าคุณ เอ่ย หนูแพรวเรียนหมอรึจ่ะ" วีรดาเอ่ยถามหญิงสาว

    “ค่ะพี่วี แพรวเป็นหมออยู่ที่ไทยนะค่ะ” แพรวพรรณรายเอ่ยตอบวีรดาอย่างเป็นกันเอง

    “ถ้าอย่างนั้นคงจะคุยกับยัยวาน้องสาวของพี่รู้เรื่องแล้วละ” วีรดาพูดพร้อมยิ้มๆ เสียงตะโกนดังลั่นเข้ามาภายในบ้าน หญิงสาวตากลมโตตัวเล็กเดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะเดินขึ้นมาบริเวณชั้นสองของบ้านอย่างหงุดหงิด

    “เกิดอะไรขึ้นยัยวา” วีรดาชะโงกหน้าออกไปถามน้องสาวที่เดินลงส้นขึ้นมาบนบ้าน

    “ก็อีตาแทฮีน่ะสิพี่วี ราวีวาไม่ยอมเลิกสักที อุ้ย มีแขกหรอค่ะ” วาสิทธีชะงักเมื่อเห็นแพรวพรรณรายยื่นหน้าออกมาจากห้อง

    “สวัสดีค่ะคุณวา” แพรวพรรณรายเอ่ยเสียงทัก

    “นี้หนูแพรวเพื่อนพี่แบร์ที่มาจากเมืองไทยนะ” วีรดาเอ่ยแนะนำแขกในบ้านให้น้องสาวรู้จัก วาสิทธียื่นมือมาให้แพรวพรรณรายจับเพื่อทักทาย แพรวพรรณรายยื่นมือจับตอบ

    “สวัสดีค่ะคุณแพรว” วาสิทธีเอ่ยเสียงทัก

    “เรียกแพรวเฉยๆก็พอค่ะ” แพรวพรรณรายตอบ วาสิทธียิ้มรับ

    “ค่ะ แพรวไม่ต้องพูดค่ะกับวาก็ได้” วาสิทธีเอ่ยบอกแพรวพรรณราย หญิงสาวพยักหน้ารับ

    “มีอะไรให้วาช่วงไหมพี่วี” วาสิทธีเอ่ยถามพี่สาวที่เดินกลับเข้าไปในห้องของผู้มาใหม่

    “มาช่วยหนูแพรวจัดห้องก็ดีนะยัยวา จะได้เสร็จเร็วๆ” วีรดาเอ่ยบอกน้องสาว วาสิทธีเดินเข้ามาอย่างว่าง่าย

    “คุณแพรวทำงานเกี่ยวกับอะไรหรอค่ะ” วาสิทธีเอ่ยถามขณะที่ช่วยแพรวพรรณรายหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า

    “แพรวเป็นหมออ่า” แพรวพรรณรายหันมาตอบวาสิทธีก่อนจะหันไปหยิบเสื้อผ้าออกต่อ

    “เป็นหมอเหมือนวาเลยน่ะ” วาสิทธีเอ่ย

    “อ้าว วาก็เป็นหมอเหมือนกันหรอเนี้ย” แพรวพรรณรายหันมาถามหญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆอย่างตื่นเต้น

    “ใช่ วาเป็นทันตแพทย์นะ แล้วแพรวละเป็นหมออะไร” วาสิทธีหันไปถาม

    “แพรวเป็นหมอฉุกเฉินนะค่ะ” หญิงสาวหันไปตอบ

    “แสดงว่าหนูแพรวต้องไม่กลัวผีแน่ๆเลย” วีรดาหันมาพูดยิ้มๆ

    “ไม่เลยครับ” เสียงหนุ่มน้อยเอ่ยเข้ามาก่อนที่จะเดินตามเข้ามาในห้อง

    “พี่แพรวกลัวผีจะตายครับ” ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยก่อนจะเดินตามเข้ามาเช่นกัน วาสิทธีทำหน้างงก็จะหันหน้าไปหาพี่สาว

    “น้องแพรวเองจ่ะ พัทกับพิท สวัสดีพี่วาสิ” คนเป็นพี่เอ่ยบอกน้องชายทั้งสองคน ชายหนุ่มทั้งสองยกมือไหว้คนตรงหน้า

    “สวัสดีครับพี่วา” ชายหนุ่มทั้งสองเอ่ยขึ้น วาสิทธียกมือรับไหว้ชายหนุ่มทั้งสองอย่างงุนงง

    “พัทกับพิทจะอยู่ที่นี่กี่วัน” แพรวพรรณรายหันมาถามน้องชายทั้งสอง

    “แล้วพี่แพรวละ จะอยู่สักกี่วัน ลางานนานเดียวโรงพยาบาลไล่ออกหรอก” พิทภูสนะเอ่ยขึ้น แพรวพรรณรายคว้างหมอนใส่หน้าน้อง

    “ปากหรอเนี้ยพิท”

    “เลิกเล่นสักพักได้ไหมพิท พี่แพรวจะกลับเมื่อไหร่อะครับ” พัทธนพัทธ์เอ่ยถามผู้เป็นพี่สาว

    “ไม่รู้สิพัท พี่ก็ยังไม่ได้คิดเลย” แพรวพรรณรายเอ่ยตอบน้องชาย

    “อยู่นานๆก็ได้นะแพรว ที่นี่ยินดีต้อนรับ” วาสิทธีเอ่ย

    “ก็อยากจะอยู่นานๆนะวา แต่แพรวก็ต้องกลับไปทำงานเหมือนกันน่ะสิ” แพรวพรรณรายหันไปตอบ วาสิทธียิ้มจ๋อยๆ

    “แล้ววันนี้พี่เจมส์จะมาทานข้าวกับเรารึเปล่าครับมาดามวี” พัทธนพัทธ์เอ่ยถาม วีรดาพยักหน้าตอบพัทธนพัทธ์

    “มาสิจ่ะ น้องพิทอยากเจอซะขนาดนั้น แบร์ก็ต้องพามาอยู่แล้วและ” วีรดาตอบ พิทภูสนะยิ้มแหยๆ

    “ใครคือเจมส์กันค่ะพี่วี” วาสิทธีถาม

    “ชเวจีมิน” วีรดาตอบเสียงเรียบ

    “ถ้าจีมินมา นายแทฮีก็ต้องมาด้วยนะสิ” วาสิทธีทำหน้าเหยเก วีรดาขำ ส่วนสามพี่น้องทำหน้างง

    “ยูแทฮีไง จำได้ไหมหนูแพรว” วีรดาเอ่ยถาม

    “อ่อ ที่เงียบๆใช่ไหมค่ะ” แพรวพรรณรายเอ่ย

    “เงียบหรอแพรว เธอคิดผิดแล้วละ นายนั้นอะนะร้ายตัวพ่อเลยวาจะบอกให้” วาสิทธีเอ่ย

    “สองคนนี้เค้าไม่ถูกกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วนะหนูแพรว” วีรดาอธิบายให้ฟัง สามพี่น้องพยักหน้าเข้าใจ

    “นี้ยัยวาเรานะไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ จะได้ลงมากินมื้อเย็นพร้อมกัน พี่ลงไปก่อนนะหนูแพรว น้องพัท น้องพิท อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ตามลงไปน่ะจ่ะ” วีรดาพูดก่อนที่จะดันน้องสาวตัวดีออกจากห้อง พัทธนพัทธ์และพิทภูสนะเดินตามออกมา แพรวพรรณรายเดินมาปิดประตูก่อนจะกลับไปหย่อนตัวลงบนเตียงไซส์คิง หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูภาพเก่าๆของเธอและต้น น้ำใสๆค่อยๆไหลออกมาจากดวงตา แพรวพรรณรายสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะปาดน้ำตาและเดินเข้าห้องน้ำไป

     



    __________________________________________________________________




    15 March 2014
    mcriene    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×