คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ผมจริงจังนะ
Guitar’s talk. J
นี่ก็เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว ที่มีใครก็ไม่รู้เอาดอกไม้มาวางไว้บนโต๊ะทำงานของฉัน แต่มันก็เริ่มมีมาตั้งแต่หัวหน้าคนใหม่เข้ามา แต่ถ้าคิดแบบนั้นฉังคงมโนไปเองแน่ๆ ช่างเหอะ จะใครก็ช่าง แต่ฉันชอบมันนะ...
ตอนนี้บริษัทจะมีการจัดงานครบรอบ แผนกฉันเลยมีงานเพิ่มโดยปริยาย งานก็จะเกือบครึ่งแล้ว ได้รูปแบบงาน ชื่องาน จะบอกฉันเป็นคนคิดด้วยแหละ รู้สึกภูมิใจจัง...
เราวางแผนกันว่าจะทำถุงผ้าเป็นที่ระลึกให้คนในงาน วันนี้เลยต้องมาซื้อผ้ากับคุณหัวหน้าคนใหม่ ที่สำคัญได้ผ้าแล้วด้วย กำลังจะเอาไปเก็บไว้ที่บ้านคุณหัวหน้า
ตอนนี้รถ CR-V สีขาวของคุณหัวหน้าคนใหม่ของฉันมาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง รั้วทั้งหมดเป็นต้นชาดัดถูกตัดให้เป็นกำแพงสองชั้นสลับสูงต่ำ มีประตูรั้วไม้สีน้ำตาลกั้นระหว่างรั้วต้นไม้ทั้งสองด้านอย่างลงตัว
“เดี๋ยวฉันลงไปเปิดประตูให้ค่ะ” ฉันพูดก่อนจะลงไปจากรถ เขาเหมือนจะเรียกฉันไว้ แต่ฉันก็ลงมาแล้ว ฉันออกแรงเปิดประตู สงสัยจะเก่า อีกทีละกัน เอ้า!! ไม่ออกอ่ะ ฉันหันไปส่ายหน้ากับคนที่อยู่บนรถ
“ดูนี่นะ” เขาลดกระจกลงก่อนที่จะพูดกับฉัน พร้อมกับยื่นมือออกมา ในมือมีอะไรไม่รู้สีดำๆ พอมองชัดๆ ก็รู้ว่าเป็นรีโมท
“ตึกๆ ครืดดดดดดด” ประตูไม้ค่อยๆ เปิดออก ฉันรู้สึกว่าความโง่เข้ามาปกคลุมร่างกาย และมันก็มาพร้อมกับความอายที่เพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว ตอนนี้ทำได้แค่เดินขึ้นรถเท่านั้น...
“ผมจะเรียกแล้วนะ แต่ไม่ทัน” เขาพูดก่อนที่จะยิ้มแหยๆ ให้ฉัน
พอเข้ามาในบ้านเหมือนสวนดอกไม้เลย มันถูกจัดไว้ดีมากๆ ถ้ามาตอนกลางวันมันคงจะสวยกว่านี้แน่ๆ ก็ตอนนี้ดอกไม้มันหุบหมดแล้วนี่ ฉันมองสวนดอกไม้ไปเรื่อยๆ ก็เจออยู่ต้นหนึ่งที่ยังไม่หุบ
“คุณค่ะ นั่นต้นอะไรหรือ มันยังบานอยู่เลย”
“...ผมชื่อเอฟเอ็มครับ ” เขาตอบ...ในสิ่งที่ฉันไม่ได้ถาม
“คุณเอฟ-เอ็มคะ นั้นต้นอะไรคะ??” ฉันถามอีกรอบโดยเน้นตรงชื่อเขาเป็นพิเศษ
เค้ายิ้มแบบกวนๆ ก่อนที่จะตอบฉัน
“ต้นซ่อนกลิ่น มันบานตอนกลางคืน คุณชอบหรือ??”
“อืม มันแปลกดี”
ฉันละสายตาจากต้นซ่อนกลิ่น ทันทีที่รถจอด พอหันมามองบ้านสองชั้นสีโทนสีเทาตรงหน้า มันสวยมาก แล้วมันก็ดูอบอุ่นมากด้วย ชั้นล่างแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือห้องกระจกใสที่ฉันคิดว่าเป็นห้องนั่งเล่น ห้องกลางไม่รู้ห้องอะไร อีกส่วนก็เป็นที่จอดรถ ด้านบนของห้องกระจกก็เป็นอีกชั้นหนึ่ง ส่วนห้องกลางด้านบนเหมือนจะเป็นดาดฟ้าอะไรแบบนั้น อีกอย่างบ้านถูกออกแบบให้คล้ายตึกที่ไม่มีหลังคา ดูสวยอีกแบบ
“คุณไปนั่งรอก่อนเลยเดี๋ยวผมยกเอง” เขาพูดก่อนที่จะชี้ไปที่ห้องกระจก เห็นมั้ยละฉันคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นห้องนั่งเล่น
“แล้วมีใครอยู่อีก นอกจากคุณมั้ย แบบพ่อกับแม่คุณ”
“พ่อกับแม่ผมหรือ ท่าน...” เขาพูดก่อนที่จะชี้มือขึ้นไปด้านบน นี่พ่อกับแม่เขาเสียแล้วรือ ฉันถามอะไรไปเนี่ย??
“ฉันขอโทษนะ นี่พ่อแม่ฉันก็เสียแล้วเหมือนกัน” ฉันพูดปลอบเขา
“เสีย.?? พ่อแม่ผมอยู่บนบ้านครับ” อ่าว!! แล้วทำไมไม่บอกเล่าตาบ้า..!! ฉันไม่รอให้เค้าพูดต่อแต่รีบเดินไปห้องกระจกทันที
ฉันเลื่อนประตูกระจกออก แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาสีขาว มองภายในมีรูปครอบครัวของคุณหัวหน้าเต็มไปหมด จากที่ดูแล้วนายนี่น่าจะเป็นลูกคนเดียว แต่ดูครอบครัวอบอุ่นมากๆ เลย มีรูปตั้งแต่เกิดยันรับปริญญาเลย ทุกรูปเหมือนถูกจัดมาว่าต้องมีครบทั้งสามคน ถ้าขาดใครไปรูปคงจะแปลกน่าดูเลยนะ
ในขณะที่กำลังนั่งมองรูปอย่างเพลิน ก็ได้ยินเสียงคนเดินลงมาจากบันได ตายแล้ว!! ใครเนี่ย??
“สวัสดีค่ะ” พอเห็นหน้าพวกท่านก็รู้ว่าเป็นพ่อกับแม่ของหัวหน้า ท่าทางดูใจดีจัง ฉันลดความเกร็งไปได้หลายเท่าตัวเลย
“สวัสดีลูก” ทั้งคู่ที่ประคองกันลงมาจากบันไดรับไหว้ฉัน ฉันลุกจากโซฟา เพื่อให้ท่านนั่งก่อน
“ไม่ต้องหรอกลูก นั่งเลยๆ” คุณแม่พูด
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบท่านก่อนที่จะนั่งลงที่เดิม
“นี่มากับไอ้แสบใช่มั้ยลูก ??” คุณพ่อถาม
“เอ่อ มากับคุณเอฟเอ็มค่ะ” ฉันตอบแบบอมยิ้ม ไอ้แสบหรือ?? ฟังแล้วเหมือนเด็กตัวเล็กซนๆ เลย ก็อย่างว่าแหละ พ่อแม่มักจะมองเราเป็นเด็กเสมอนี่
“แล้วนี่คบกันมานานหรือยังจ้ะ” คุณแม่ถามบ้าง
“คบ?? เอ่อหมายถึงรู้จักกันหรือคะ?? ก็เดือนกว่าๆ ค่ะ”
“เจ้าเอฟเอ็มมาเล่าเรื่องหนูให้พ่อแม่ฟังทุกวันเลยนะ”
“เล่าเรื่องหนู?? เอ่อ...” ฉันรู้สึกแปลกๆ ร้อนไปทั้งหน้าเลย
“พ่อครับ แม่ครับ สวัสดีครับ” หัวหน้าเดินมาพร้อมกับมานั่งข้างๆ ฉัน
“เป็นไงบ้างครับ คนนี้ผ่านมั้ย??”
“ถามเหมือนเราเคยพาคนอื่นมาให้พ่อกับแม่ดูอย่างนั้นแหละ”
“ครับ ไม่เคยครับ แล้วผ่านมั้ยครับ??” ผ่าน อะไรเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้ว
“พอๆ แฟนเราหน้าแดงหมดแล้ว” แม่พูดตัดบท แต่ฉันไม่ได้หน้าแดงสักหน่อย
“อย่างนั้นผม พาไปส่งบ้านก่อนนะครับ เดี๋ยวมีโอกาสจะพามาใหม่ ไปคุณกลับบ้านกัน” ฉันงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แต่ก็สวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่ ก่อนที่จะเดินตามหัวหน้าออกมา
“คุณ... ฉันงง”
“ก็ตามนั้นแหละครับ” เขาพูดก่อนจะยิ้มมาทางฉันแล้วเดินขึ้นรถไป ฉันไม่รู้หรอกว่าตามนั้นนะ มันตามไหน แต่ฉันชอบรอยยิ้มเมื่อกี้จัง มันอบอุ่นมาก ไม่ใช่เพราะบ้านนี้มันอบอุ่นเองหรอก แต่คนในบ้านนี้ทำให้มันอบอุ่นต่างหาก...
ระหว่างทางบ้านเขา มาถึงบ้านฉันไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้นแต่ฉันกลับรับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่มันทำให้ฉันอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน...
“ขอบคุณค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับก้าวลงจากรถ แต่เขารั้งแขนฉันไว้
“เดี๋ยวก่อน คือ..” เขาพูดพร้อมกับโน้มตัวมาใกล้ฉัน ใกล้ ใกล้มาก... รู้สึกว่าตัวเองหลับตาลง.. ตอนนี้ก้อนเนื้อในร่างกายมันเต้นแรงมาก เหมือนจะหลุดออกมาแล้ว...
“ผมมีอะไรจะให้น่ะ” ลมเย็นลอยผ่านหน้าฉันไป ฉันรีบลืมตาขึ้น แล้วก็เห็นต้นซ่อนกลิ่นที่ถูกปลูกอยู่ในกระถางเล็ก
“ขอบคุณค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับรับกระถางมา ฉันดีใจมาก ก็เป็นคนชอบต้นไม้นี่นา....
“คุณชอบมั้ย??” เขาถามฉัน โดยที่ตอนนี้ฉันมองตาเขาอยู่ ชอบมั้ย?? เขาอาจจะหมายถึงต้นไม้ แต่แววตาของเขากลับถามมากกว่านั้น หรือฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้...
“ชอบค่ะ” ตอนนี้เขายิ้มแบบนั้นอีกแล้ว ...
“ผมหรือ??” ฮ้ะ?? ....ฉันชอบเขามั้ยหรือ ไม่รู้สิ...มันก็...
“หมายถึงต้นไม้ค่ะ ขอบคุณนะ” ฉันพูดพร้อมกับลงมาจากรถ ขืนอยู่ต่อหน้าระเบิดแน่ๆ ตอนนี้มันร้อนไปหมดแล้ว
“ตึก” ฉันเดินเข้ามาในอยู่ในรั้วบ้านแล้ว ก็ต้องกลับหลังหันไป พร้อมกับเสียงเท้าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ตอนนี้เราห่างกันแค่เพียงรั้วไม้บางๆ กั้นอยู่
“มีอะไรหรือคะ??” ฉันถาม
“เอ่อ ผม...ผมจะบอกว่า...เอ่อ... ฝันดีนะครับ ”
“เช่นกันค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะ”
“ถ้าถึงแล้วจะโทรมานะ”
“ค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้ามาในบ้าน
“ผม...จริงจังนะครับ” ฉันหยุดเมื่อได้ยินเขาพูด แล้วก็พยักหน้าเชิงรับรู้โดยที่ไม่ได้หันกลับไป ก่อนที่จะรีบเดินเข้าบ้านมา ด้วยรอยยิ้ม...
ไปได้สวยแล้วนะตอนนี้ ว่าแต่จะเป็นยังไงต่อไปก็ช่วยติดตามกันด้วยนะครับบบ ^^
ความคิดเห็น