คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1: SAD MEMORIE.
CHAPTER 1: SAD MEMORIES
ในวันที่อากาศเย็นสบายยามบ่าย ใต้ต้นไม้ใหญ่ในโรงเรียนมัธยมปลาย*กวังจู เด็กผู้ชายวัยรุ่นสองคนกำลังทะเลาะกันเสียงดังเอะอะโวยวาย เสียงของพวกเขาทำให้เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้างด้วยความรำคาญ
“ นี่พวกนายย ! จางฮยอนซึง ยงจุนฮยอง หยุดทำตัวงี่เง่าซักทีเซ่ มันเสียงดังน่ารำคาญแค่ไหน นายรู้มั๊ย?” เด็กสาวเอ็ดเสียงดังพลางยกนิ้วชี้ว่าเพื่อนของเธอ
สองหนุ่มหันมองหน้ากันหน้าตาเหรอหราก่อนจะหลุดหัวเราะเสียงดังแล้วแย่งกันนอนตักเด็กสาว
“ นาอึนสุดสวย ฉันไม่ผิดนะ ไอ้จุนฮยองมันมากวนประสาทฉันก่อนเอง” จางฮยอนซึง หนุ่มน้อยหน้าหวานเงยหน้าขึ้นฟ้องเด็กสาว ยงจุนฮยองที่นอนหลับตาอยู่ก็ไม่น้อยหน้าลืมตาขึ้นมาดันหัวเพื่อนเบาๆ
“เงียบไปเลย ไอ้ขี้ฟ้องเอ๊ย เธอจะเชื่อมันเหรอ? เธอเชื่อฉันใช่มั๊ย? นาอึนอา”ยงจุนฮยอง เด็กหนุ่มหน้าตาทะเล้นดันหัวฮยอนซึงไว้แล้วจ้องเด็กสาวตาโตเพื่อรอคำตอบ แต่ฮยอนซึงกลับลุกขึ้นมาตอบโต้เพื่อนตัวเองด้วยการดันหัวคืน เด็กสาวกอดคอเพื่อนสองคนก่อนสองคนนั้นจะกลับมาทะเลาะกันอีก จู่ๆเธอก็โพล่งอะไรออกมาลอยๆ แต่ทำให้ทั้งสองคนหยุดนิ่งก่อนจะหันมามองหน้าเด็กสาวด้วยดวงตาเบิกโพลง
“ เธอว่าไงนะ? ”
“ ฉันบอกว่าฉันกำลังจะมีความรัก ”
“ ห่ะ? ”
“ นี่เธอพูดอะไรของเธอ ล้อเล่นใช่มั๊ย? ”
“ ไม่ได้ล้อเล่น ฉันพูดจริง และพวกนายก็ได้ยินถูกแล้ว ” เด็กสาวจ้องหน้าเพื่อนของเธอสลับกันสองคนเป็นเชิงให้ตั้งใจฟังอย่างตั้งใจ
“ ฉัน ...... กำลังจะมีแฟน ดีใจมั๊ยๆๆๆ ”
วินาทีนั้น เวลาของผมเหมือนจะหยุดหมุน หัวใจของผมแทบหยุดเต้น หัวสมองของผมประมวลอะไรไม่ถูกซักอย่าง ผมคิดเพียงว่านี่มันต้องเป็นเพียงแค่ความฝัน เหมือนมีคนเอาไม้เบสบอลมาฟาดหัว หรือผมถูกต่อยท้องแรงๆจนจุก ทั้งจุกทั้งมึน ผมได้แต่เข้าข้างตัวเอง พอนายตื่นมันก็จะจบ ยงจุนฮยอง ตื่นได้แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเข้าข้างผมซักอย่าง มันไม่ใช่ความฝัน และผู้หญิงตรงหน้าผมก็ไม่ได้ล้อเล่น
“ ฮะ ฮ่าๆ...ฮ่าๆๆๆ พูดเป็นเล่นน่า ” ฮยอนซึงหัวเราะฝืดก่อนจะตีไหล่นาอึนเบาๆ
ผมรู้ว่าฮยอนซึงมันรู้ดีว่านาอึนไม่ได้ล้อเล่น มันแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องมากกว่า
“ ไม่เชื่อก็ตามใจ แล้วคอยดูนะ ฉันจะพาเขามายืนยันให้ได้ ” เด็กสาวลุกขึ้นเร็วๆอย่างโมโหแล้วเดินออกไป
เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ทั้งสองคนก็ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยซักคำ จนฮยอนซึงที่เหมือนจะตั้งสติได้แล้วรีบหันมาเขย่าแขนจุนฮยอง
“ จุนฮยอง มึงต่อยกูทีดิ เอาแรงๆเลย ” ผมทำแค่หันไปมองหน้ามัน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของผมตกใจอะไรขนาดนี้
“ อะไรของมึง ”
“ ไม่ได้ยินเหรอ นาอึนบอกกำลังมีแฟนนะเว่ย”
“ เออ ได้ยินแล้ว”
“ มึงงงง เขากำลังจะมีแฟน”
ถึงฮยอนซึงไม่พูด คำพูดของเธอมันก็ก้องซ้ำๆในหัวผมไม่ยอมหยุดอยู่แล้ว
‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’
‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’
‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’ ‘ ฉันกำลังจะมีแฟน ’
ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมเดินมาอยู่หน้าโรงเรียนตั้งแต่ตอนไหน นักเรียนกำลังทยอยเดินออกมาจากประตูโรงเรียนเพื่อกลับบ้านเพราะได้เวลาเลิกเรียน เป็นคู่บ้างเป็นกลุ่มบ้าง นาอึนที่เพิ่งออกมาวิ่งมาเกาะแขนผม
“ จุนฮยอง กลับบ้านกัน วันนี้ไม่ต้องรอฮยอนซึง ฉันบอกว่ามีธุระต้องคุยกับนาย จะกลับก่อน” ผมพยักหน้ารับน้อยๆ ในใจนึกสงสัยว่าธุระที่เธอจะคุยกับผมมันเรื่องอะไรกัน แต่เธอก็ลากแขนผมให้เดินตามไปเรื่อยจนถึงซอยที่คนเริ่มน้อย เธอเดินให้ช้าลงแล้วทำลายความเงียบ
“ จุนฮยอง นายยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ เรื่องนั้นน่ะ ”
“ หืม? ”
“ เรื่องที่ฉันกำลังจะมีแฟนไง จุนฮยองอา ฉันรู้ว่านายจะต้องดีใจกับฉัน ไม่เหมือนฮยอนซึงเพื่อนนิสัยไม่ดี”เด็กสาวพูดแล้วเบ้ปาก
“ ฉันต้องบอกว่า ดีใจด้วย อย่างงั้นเหรอ?”
“ ใช่สิ นายต้องดีใจกับฉันเซ่ เพื่อนนายกำลังจะมีแฟนนะ ”
“ แล้วทำไมฉันต้องดีใจกับเธอด้วย? ” เด็กสาวเดินมาขวางหน้าจุนฮยองก่อนจะชักสีหน้า
“ จุนฮยอง นี่นายใช่เพื่อนฉันจริงรึเปล่า? ”
ชายหนุ่มผลักเธอติดกับข้างกำแพง ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างกันไว้ไม่ให้เธอหนี แล้วก้มหน้าต่ำลงไปจนจมูกแทบจะชนกัน เด็กสาวเบิกตาโตอย่างตกใจ
“ ไม่ใช่..... ซนนาอึน ฉัน ไม่ ใช่ เพื่อนเธอ เราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ” พูดจบร่างสูงก็ทาบริมฝีปากหนาลงไปประทับที่ปางบางเบาๆ แต่ไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมา นาอึนที่ตั้งสติได้ผลักจุนฮยองออกอย่างแรง
“ จุนฮยอง นายทำอะไรของนาย จะบ้าเหรอ เราเป็นเพื่อนกันนะ ขอร้องล่ะ จุนฮยอง อย่าทำแบบนี้อีก ” หญิงสาวส่งสายตาผิดหวังให้เขา ก่อนจะรีบวิ่งหนีไปอย่างเร็ว จุนฮยองยิ้มเยาะอย่างสมเพศตัวเอง
“ เพื่อน? ใครเป็นเพื่อนกับเธอกันนะ ” ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย ในใจก็คิดถึงแต่เรื่องของหญิงสาว จะให้ยินดีเหรอ เธอจะฆ่าฉันด้วยคำพูดนั้นหรือไงนะ? เอามีดมาแทงฉันเลยยังจะดีกว่า
รถหรูสีดำคันงามกำลังขับผ่านวัยรุ่นสองคนที่จูบกันที่กำแพงข้างทาง ดวงตาคมมองภาพตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ ก่อนจะถูกเพื่อนข้างๆตบหัวเบาๆ เขาหันมามองอย่างขุ่นเคืองใจก่อนหัวเราะเบาๆ
“ วันรุ่นสมัยนี้นีจริงๆเล๊ย คิดจะจูบกันก็จูบบนถนน กลางวันแสกๆก็ยังไม่เว้นนะ ”
“ เพราะมึงพูดอย่างนี้ไง ดูแก่ชิบหายเลย บยองฮี”ชายหนุ่มดวงตาดำเข้มแขวะด้วยใบหน้านิ่ง
“ หรือมันไม่จริงวะ กูรับไม่ได้ ” ส่ายหน้าเบาเบา
“ แหม บยองฮีคร้าบบ สมัยมอปลายมึงอะฮึกอะฮึ่ยกับน้องอึนบีหลังล็อกเกอร์แล้วให้กูเฝ้ากูรับได้..ได้มากกกก ” เพื่อนหนุ่มพูดกระเซ้าเย้าแหย่
“ นี่ปากมึงเหรอเนี่ย? ” บยองฮีหันไปมองอย่างเอาเรื่อง แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร
“ จี้ใจดำหรอวะ วู้ฮู้ ”ชายหนุ่มหันไปพูดกวนประสาทใส่เพื่อนถึงแม้หน้าจะยังนิ่งเหมือนเดิม
“ จี้ใจเหี้ยอะไรของมึงครับ ปากมึงก็เป็นซะแบบนี้ ดูสิห้อยจะปิดคางมึงอยู่แล้ว ” บยองฮีหันไปดึงปากซึงโฮ ซึงโฮกำลังจะยกมือปัด แต่....
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
รถดันเบรกกระทันหันจนทั้งสองทรงตัวไม่อยู่ บยองฮีผู้มีอารมณ์ร้อนก็อดโวยวายขึ้นมาไม่ได้
“ เฮ้ย! เบรกทำไมวะมึงอยากตกงานรึไง เบรกจนกูสองคนจะหัวทิ่มอยู่แล้ว ” เขาพูดเสียงดังจนดูเหมือนตะคอก
“ เอ่อ... ขอโทษครับนายพอดีมีเด็กวิ่งตัดหน้ารถครับ ” คนขับรถตอบอย่างตะกุกตะกัก
“ มึงลงไปดูหน่อยดิวะ บยองฮี ”
“ เห้ย ทำไมต้องเป็นกู”
แต่เขาก็เดินลงไปดูอย่างหัวเสีย รถคันนี้พ่อเพิ่งซื้อให้เขาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ เกินอุบัติเหตุจนได้
“ ลูกพ่อเป็นรอยรึป่าวเนี้ย ” พูดพลางลูบรถ
“
.” คนถูกชนนั่งกุมแผลบริเวณต้นขาด้านซ้ายซึ่งเกิดจากการได้รับการกระแทกเล็กน้อย
“ เอ้า นายเดินภาษาอะไรห๊ะ? ไม่เห็นรถรึไง? วิ่งตัดหน้ารถซะได้.. แล้วเป็นอะไรมากรึป่าว? ” ถ้าลุงหนวดจะถามเยอะแบบนี้
“ อะ...ผะ..ผมไม่เป็นไรฮะ ขอโทษด้วยนะฮะ ” เด็กหนุ่มก้มหน้าก้มตาพูดก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน
บยองฮีไม่ได้ตั้งใจฟังเพราะกำลังหยิบเงินก้อนโตมาให้ แต่พอเงยหน้ามาเด็กหนุ่มคนนั้นก็หายไปแล้ว
“ เอ้า อะไรของมันวะ ไอ้เด็กนี่! .. เออดี ไม่ได้อยากจะจ่ายอยู่แล้ว”
เขากลับขึ้นมาบนรถโดยไม่เอ่ยปากพูดอะไร
“ เด็กนั้นเป็นอะไรมากรึป่าววะ? ” ซึงโฮหันไปถามในขนาดที่เพื่อนของเขาไม่มีทีท่าว่าเกิดเรื่องใหญ่
“ ไม่รู้มันวะ ไม่พูดเหี้ยอะไรเลยหน้ากูก็ไม่เห็น ขอโทษสักคำก็ไม่มีเด็กสมัยนี้ กูปลง ”
“ กูปลงมึงมากกว่านี่มึง 24 จริงรึป่าววะ บ่นยังกะ 64 ” แหย่อีกแล้วยางซึงโฮ
บยองฮีไม่ตอบอะไร ได้แต่นึกอย่างหัวเสียกับการเอารถใหม่มาเสี่ยงบุบตั้งแต่วันแรกของการใช้งาน
นึกแล้วก็ยังเจ็บใจไอ้เด็กนั้นไม่หาย
* ชื่อสถานที่เป็นเพียงชื่อที่สมมุติขึ้นมาเท่านั้น
... โปรดติดตามตอนต่อไป
เป็นยังไงบ้างคะกับตอนแรก?
หวังว่าคงถูกใจรีดเดอร์ทุกๆคนนะคะ
ช่วยกันคอมเมนท์เยอะๆเพื่อเป็นกำลังใจให้กับไรต์เตอร์ด้วยนะคะรีดเดอร์
ความคิดเห็น