ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Over Love One Hundred รักเธอเกินร้อยขอเอาหัวใจเป็นประกัน

    ลำดับตอนที่ #8 : เพื่อนพาซวย # ๗

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 54


    7

    เพื่อนพาซวย

    หลังจากที่ลำธารและซาซ่าเลิกเรียนแล้วทั้งสองก็พากันออกไปซื้อเครปหน้ามหาลัยกัน ซาซ่ายื่นเงินจ่ายให้แม่ค้าแล้วรับเครปมาก่อนจะหันไปยื่นให้ลำธาร

    “เฮ้อ งานเสร็จสักที” ซาซ่าถอนหายใจอย่างโล่งอก

    “ได้ข่าวว่าฉันทำเองเกือบหมดเลย ส่วนแกนั่งตกแต่ง” ลำธารหันไปพูดกับซาซ่า

    “ปกติมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ” ซาซ่ายิ้มแล้วงับเครปที่ถืออยู่ในมือเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย

    ลำธารมองซาซ่าอย่างเอือมระอาก่อนจะหันมากินเครปของตัวเองบ้าง ขณะที่ทั้งสองกำลังกินเครปอยู่นั้นอยู่ดีๆ ซาซ่าที่มีสีหน้าชื่นบานก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นหงุดหงิดทันทีเมื่อเห็นเบลคู่อริของเธอเดินตรงมาหาอย่างหาเรื่อง ลำธารมองซาซ่าที่มีสีหน้าที่หงุดหงิดก่อนจะหันไปหาต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนของเธอเปลี่ยนสีหน้าชื่นบานกลายเป็นหงุดหงิดได้อย่างรวดเร็วก็ร้องอ๋อในใจทันทีแล้วมองผู้ชายชุดดำทั้งหลายที่เดินตามหลังพร้อมผู้ชายผิวสีน้ำผึ้งที่เดินอยู่ข้างๆ

    เอ๊ะ นี่มันคนที่เราเคยหักหน้าไปนี่

    “นั่นมันคนที่มาสารภาพรักแกไม่ใช่หรอ” ซาซ่าหันไปถามลำธาร

    ลำธารไม่ตอบอะไรก่อนจะหันมาสนใจเครปต่อ ซาซ่ารู้ทันทีว่านี่คือการหนีปัญหาของเพื่อนรักเพราะเธอก็ทำเช่นกัน

    เบลเดินมาหาซาซ่าพร้อมยิ้มหวานเคลือบยาพิษให้ “ว่าไงจ้ะซาซ่า”

    ซาซ่าแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินก่อนจะหันไปหาลำธาร “ฉันว่าบรรยากาศแถวนี้มันไม่ค่อยดีไปที่อื่นกันเหอะ” ซาซ่าพูดแล้วเดินหนีไปทางอื่นทันที ทำให้เบลที่ยิ้มหวานอยู่เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงแล้วเดินไปกระชากมือของซาซ่าอย่างแรง

    “คิดจะหนีฉันหรอ!!

    “เห่าอะไรของเธอ” ซาซ่าถามแล้วสะบัดมือออกก่อนจะผลักเบลอย่างแรง

    “นี่ว่าฉันหรอ” เบลยกมือขึ้นมาทำท่าจะตบซาซ่า

    “เอาสิ๊ ตบเลย” ซาซ่าพูดอย่างท้าทาย

    “ท้าหรอ ได้ ฉันจัดให้!” เบลพูดแล้วง้างมือหมายจะตบหน้าของซาซ่าทันทีแต่ซาซ่าไวตัวทันรีบจับมือของเบลแล้วใช้มือข้างขวาตบเข้าไปที่หน้าของเบลแทนอย่างเต็มแรงก่อนที่ทั้งสองจะลงไม้ลงมือกันอย่างดุเดือด จนชายชุดดำเมื่อเห็นว่าคุณหนูของพวกเขาโดยซาซ่าตบไม่ยั้งจึงรีบกรูกันเข้าไปจับตัวซาซ่าไว้ ลำธารที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่จึงรีบเดินเข้าไปช่วยเพื่อนทันทีแต่ทวาว่ากลับถูกใครบางคนคว้าข้อมือเอาไว้ ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจากชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งนั่นเอง!

    “แสบมากนะที่หักหน้าฉันแบบนั้น!

    ลำธารมองคนที่จับข้อมือเธอไว้แน่นโดยไม่พูดอะไรก่อนจะพยายามสะบัดข้อมือออกเมื่อเห็นว่าซาซ่ากำลังถูกพาตัวขึ้นรถตู้สีเทา

    “ปล่อย!!!”

    “ทำไม จะไปช่วยเพื่อนของเธอหรอไม่ต้องห่วงหรอกยังไงก็ได้ไปด้วยกันทั้งคู่เนี้ยแหละ!” ชายผิวสีน้ำผึ้งพูดก่อนจะพยายามลากลำธารไปที่รถ ลำธารพยายามดิ้นสุดแรงก่อนที่จะใช้เท้าเตะผ่าหมากชายหนุ่มไปเต็มแรงพร้อมกับปาเครปที่อยู่ในมือใส่หน้าแล้วเอื้อมมือไปหยิบไม้หน้าสามที่อยู่ตรงต้นไม้ก่อนจะวิ่งไปช่วยซาซ่าที่กำลังโดยชายชุดดำสามคนกำลังลากขึ้นรถตู้อยู่ เธอใช้ไม้หน้าสามตีเข้าไปที่กลางหลังของหนึ่งในชุดดำเต็มแรงทำให้ชายชุดดำทรุดตัวลงไปกับพื้น ชายชุดดำที่เหลือหันมามองเพื่อนของตนเองที่โดนตีหัวอย่างตกใจ ซาซ่าจึงใช้เวลาช่วงนี้กัดไปที่แขนของชายชุดดำที่อุ้มเธออยู่ทำให้ชายชุดดำถึงกับตกใจแล้วปล่อยเธอลงพื้นจนตัวของเธอกระแทกลงกับพื้นเต็มแรง

    เจ็บฉิบ!!

    ซาซ่าสบถในใจแล้วรีบลุกขึ้นไปช่วยลำธารที่กำลังถูกชายชุดดำสองคนรุมอยู่ เธอพยายามมองหาอุปกรณ์เสริมที่อยู่แถวนั้นก่อนจะหันไปหาป้าหนึ่งในไทยมุงที่ถือร่มอยู่ เธอจึงรีบวิ่งไปคว้าร่มของป้าคนนั้นมาทันทีก่อนจะฟาดหัวของหนึ่งในชายชุดดำไปเต็มแรงแล้วถีบชายหนุ่มดำอีกคนจนกระเด็นไปหาลำธาร ลำธารจึงใช้ไม้หน้าสามในมือฟาดเข้าไปที่หน้าทันที

    เมื่อชายชุดดำทั้งหมดนอนสลบอยู่ที่พื้นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วซาซ่าและลำธารก็หันไปเบลที่ยืนนิ่งมองสภาพบอดี้การ์ดของเธอ ซาซ่าเดินไปหาเบลที่ยืนอยู่อย่างกลัวๆ ซาซ่าเช็ดเลือดที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้เบลอย่างน่ากลัว

    “แสบมากนะ” ซาซ่าใช้มือบีบคางเบล เบลพยายามดิ้นแต่ก็ต้องหยุดดิ้นทันทีเมื่อเห็นว่า ไมค์ หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งที่เป็นเพื่อนของเธอกำลังเดินไปหาลำธารที่กำลังมองเหตุการณ์อยู่ ไมค์หยิบปืนพกออกมาจากกระเป๋าแล้วย่องไปหาลำธารอย่างช้าๆ ก่อนจะใช้สันปืนตีเข้าที่หัวลำธารอย่างแรงทำให้ลำธารล้มพับหมดสติลงไปทันที

    “ขอบใจที่ชม” เบลยิ้มให้ซาซ่าอย่างกวนประสาทพลางมองไมค์ที่กำลังอุ้มลำธารพาดบ่าแล้วเดินมาหาซาซ่าอย่างเงียบๆ ก่อนจะใช้ปืนจี้เข้าไปที่กลางหลังของซาซ่า

    “ปล่อยเพื่อนฉันซะ ไม่งั้นฉันยิงไส้แตกแน่” ไมค์บอกเสียงเย็น

    ซาซ่ารู้สึกตัวชาทันทีเมื่อรู้สึกมีอะไรมาจ่อที่หลัง เบลยิ้มเยาะอย่างสะใจเมื่อเห็นว่าซาซ่าหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด

    บ้าฉิบ ซาซ่าสบถในใจก่อนจะปล่อยเบล

    เบลนวดคางตัวเองแล้วมองซาซ่าอย่างสะใจก่อนจะตบเข้าไปที่หน้าของซาซ่าอย่างแรงจนเป็นรอยมือ ซาซ่ารู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวในปากจึงรู้ว่าตัวเองโดนตบซะจนเลือดกรบปาก เธอกัดฟันแน่นแล้วมองหน้าเบลก่อนจะถมเลือดใส่

    “ยี๋ นังบ้า” เบลร้องยี๋ก่อนจะใช้มือเช็ดเลือดออกจากหน้าตัวเอง

    “เดินไปที่รถอย่าตุกติก ไม่งั้นเพื่อนเธอไม่รอดแน่”             ไมค์พูดขู่ซาซ่า ซาซ่าเมื่อรู้ว่าเพื่อนของตัวเองจะไม่ปลอดภัยถ้าเธอเล่นตุกติกเธอจึงยอมเล่นขึ้นรถไปแต่โดยดี

    ซาซ่าที่ถูกมัดมือไว้ด้านหลังถูกผลักเข้าไปนั่งด้านในของรถ เธอมองลำธารที่นอนสลบอยู่ข้างๆ พลางคิดหาทางออก

    ..คิดออกแล้ว

    “โอ้ยย” อยู่ดีๆ ซาซ่าก็ร้องโอ้ยขึ้นมาเสียงดัง ทำให้ชายชุดดำและเบลที่นั่งอยู่ด้านหน้ารวมถึงไมค์ที่กำลังขับรถอยู่หันมามองเป็นตาเดียว

    “เป็นอะไรของเธอ” ชายชุดดำที่นั่งประกบเธออยู่หันมาถามเธอ

    “ฉัน...ปวดท้อง” ซาซ่าก้มงุดแล้วส่ายตัวไปมา

    “เฮ้ย อย่ามาเล่นละครพวกฉันไม่ได้โง่นะเว้ย” ไมค์ที่ขับรถอยู่ตะโกนมาด้านหลัง

    “...ฉันปวด...จริงๆ โอ้ย”

    “นี่หยุดร้องสักทีมันน่ารำคาญ”

    “ก็..แวะปั๊มให้ฉัน...หน่อยสิ โอ้ยย”

    “งั้นก็ร้องไปจนกว่าจะหายปวดก็แล้วกัน” ไมค์พูดแล้วขับรถต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจซาซ่าที่ร้องโอดโอยอยู่

    ได้...งั้นฉันจะร้องจนกว่าแกจะปล่อยฉันลงจากรถเลย คอยดูสิ!

    วันนี้เป็นวันที่ผิดปกติที่สุดในรอบสามเดือนเพราะอะไรหรอ? เพราะวันนี้ร้านแจกันสามพี่น้องมีเจ้าของร้านมาเฝ้าร้านครบสามคนน่ะสิ!

    “ขอบคุณมาอุดหนุนไว้มาอีกนะครับ” สายน้ำยิ้มหวานให้ลูกค้าสาวสวย ลูกค้าสาวส่งยิ้มหวานคืนให้ก่อนจะเดินออกจากร้านไปทันที

    “ขอบคุณที่มาอุดหนุนครับ” สายลมกล่าวขอบคุณลูกค้าสาวคนเดิมแล้วหันไปฉีดต้นไม้ต่ออย่างอย่างตั้งใจ

    ส่วนสายไหมก็นั่งกินบลูเบอร์รี่ชิสเค้กพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดไปที่เบอร์ของลำธารแล้วกดโทรออกแต่กลับปิดเครื่องทำให้เธอรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

    “ทำไมถึงปิดเครื่องนะ” สายไหมพึมพำ

    เรย์ที่กำลังตัดแต่งต้นไม้อยู่เหลือบมองสายไหมที่นั่งหงอยอยู่อย่างเป็นห่วงจนเผลอตัดเข้าเนื้อตัวเองจนเลือดออก

    “โอ้ย” เรย์ร้องเสียงหลงทำให้คนในร้านหันมามองเป็นตาเดียวยกเว้นสายไหมที่นั่งมองโทรศัพท์ตัวเองอย่างเหม่อลอย

    “เป็นอะไร” สายลมถามอย่างสงสัย

    “ผมเผลอตัดเข้าเนื้อตัวเองน่ะ” เรย์หัวเราะแฮะๆ แล้วใช้ปากอมนิ้วที่เลือดไหลอยู่

    “ไอ้บ้าไปอมแบบนั้นได้ยังไง ไปล้างแผลสิ” สายน้ำตะโกนว่าเรย์แล้วหันไปหาสายไหมที่กำลังนั่งจ้องโทรศัพท์อยู่ ทำให้เขาเกิดไอเดียขึ้นมาทันที “นี่ ยัยไหมไปทำแผลให้เรย์หน่อยสิ”

    “หือ” สายไหมเงยหน้าขึ้นมามองสายน้ำอย่างงงๆ “หมอนั่นเป็นอะไรหรอ”

    “เผลอเอากรรไกรตัดเข้านิ้วตัวเองน่ะ” สายลมบอก

    “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมทำเองก็ได้พี่น้ำ”

    “อยู่เฉยๆ เถอะแกน่ะ” สายน้ำมองเรย์ตาเขียวเรย์จึงหยุดพูดทันที “เร็วสิ มัวแต่จ้องโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ เดี๋ยวไอ้เรย์มันก็เลือดไหลหมดตัวหรอก”

    “อืมๆ” สายไหมลุกขึ้นจากโต๊ะอย่างไม่เต็มใจนักก่อนจะเดินหายไปที่หลังร้านเพื่อไปเอากล่องยา

    “ตามไปสิ” สายน้ำสั่งเรย์

    เรย์ถอนหายใจก่อนจะเดินตามสายไหมเข้าไปที่หลังร้านทันที

    “แกคิดจะทำอะไรของแกวะ” สายลมถามสายน้ำทันทีเมื่อเรย์เดินไปหลังร้านแล้ว

    “ไม่รู้สิ” สายน้ำพูดอย่างกวนประสาท

    “กวนตีนจังเลยนะ”

    “ขอบคุณที่ชม”

    “ชอบมั้ยล่ะ ฉันจะได้เอาเท้าฉันไปกวนที่หน้าแกทุกวันเลย” สายลมพูดเสียงต่ำ

    “ไม่เป็นไร เกรงใจว่ะ”

    ขณะที่ฝาแฝดทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ เสียงระฆังที่แขวนไว้ตรงประตูร้านก็ดังขึ้นทั้งสองจึงหยุดคุยกันแล้วหันไปเพื่อต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างของซาซ่าที่สะบัดสะบอมแทนที่จะเป็นลูกค้าซะงั้น

    “ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี้ย” สายน้ำร้องทักทันทีเมื่อเห็นสภาพของซาซ่า

    “โอ้ย เดี๋ยวค่อยถามได้มั้ยไปช่วยลำธารก่อน” ซาซ่าพูดเสียงหอบๆ

    “ลำธารเป็นอะไร” สายน้ำรีบออกตัวถามทันที

    “ยัยนั่นถูกจับตัวอยู่บนรถตู้สีเทา”

    “ฮะ” สายน้ำอุทานออกมาอย่างตกใจแล้ววิ่งออกไปนอกร้านทันที

    สายน้ำมองซ้ายขวาเพื่อมองหารถตู้สีเทาที่ซาซ่าบอกแต่ก็ไม่พบ ระหว่างที่เขากำลังมองหาอยู่นั่นก็เห็นชายชุดดำสองสามคนวิ่งผ่านเข้าไปแต่ก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร เขาวิ่งต่อไปเรื่อยๆ จนเห็นรถตู้ที่เทาที่จอดอยู่ข้างถนนซึ่งห่างจากที่เขายืนอยู่มากนัก เขาจึงรีบวิ่งตรงไปที่รถคันนั้นทันทีโดยไม่ลืมที่จะหยิบท่อนเหล็กที่ตกอยู่แถวๆ นั้นไปด้วย เขาแกล้งเดินผ่านรถคันนั้นแล้วเหลือบมองเข้าไปข้างในรถพบว่ามีร่างของลำธารอยู่ เขาจึงมองเดินเข้าไปใกล้รถยิ่งขึ้นเมื่อไม่เห็นว่ามีคนอยู่ในรถแล้วลองเปิดประตูรถแต่ปรากฏว่าประตูถูกล็อก เขาจึงพยายามหาที่จะหาทางที่จะช่วยลำธารให้ได้แต่ขณะที่เขากำลังยืนคิดอยู่นั่นก็โดนอะไรบางตีเข้าที่หัวอย่างแรงทำให้สายน้ำล้มหมดสติลงไปกองบนพื้น

    “ฉันว่าแล้วว่าต้องเป็นมัน” ไมค์เก็บปืนลงแล้วยิ้มอย่างสมเพชคนที่หมดสติอยู่ “สงสัยจะรู้จักกับยัยนี่” ไมค์พูดพลางหันไปมองลำธารที่นอนสลบอยู่บนรถ

    “หล่อเหมือนกันนะเนี้ย” เบลย่อตัวลงแล้วจับหน้าสายน้ำขึ้นมาพิจารณา

    “เฮอะ” ไมค์สบถออกมาอย่างหมั่นไส้ “แล้วเธอจะเอายังไงตัวการก็หายไปไหนก็ไม่รู้”

    “งั้นก็เอาสองคนนี้ไปแทนก็แล้วกันอย่างน้อยก็น่าจะเอาไปต่อรองกับพวกนั้นได้บ้าง” เบลพูด

    “สรุปจะให้ฉันแบกไอ้นี่ขึ้นรถด้วยก็บอกมาเหอะ” ไมค์พูดอย่างรู้ทันก่อนจะพยายามแบกสายน้ำขึ้นรถแล้วโยนทิ้งบนเบาะอย่างไม่ใยดีแล้วโทรหาหนึ่งในชายชุดดำให้กลับมาที่รถก่อนจะสตาร์ทรถออกไปทันที

    แถมให้อีกหนึ่งตอนแบบไม่ได้ตรวจคำผิด -.,-
    พิมพ์ผิดตรงไหนก็บอกกล่าวกันด้วยนะจ้ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×