คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : อั๊บแอ อั๊บแอ # ๑๑
11
อั๊บแอ อั๊บแอ
สายน้ำพาลำธารวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตก่อนจะวิ่งเข้าไปในป่าที่อยู่หลังตลาดจนมั่นใจว่าไม่มีคนตามมาแล้วเขาจึงหยุดวิ่งแล้วยืนหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อย
“คุณไม่เป็นอะไรนะ”
“อืม” ลำธารตอบพลางหอบไม่แพ้กัน เธอเอามือด้านซ้ายมาทาบที่อกแล้วหายใจเข้าและหายใจออกอย่างช้าๆ เพื่อให้หายเหนื่อยแล้วหันไปมองสายน้ำที่ยืนหอบอยู่ข้างๆ ก่อนจะเลื่อนไปดูมือของเขาที่กำลังจับมือข้างขวาของเธออยู่เธอจึงรีบสะบัดออกทันที
“นึกว่าชอบซะอีก” สายน้ำยิ้มก่อนจะรีบยื่นน้ำชาเย็นที่เหลืออยู่เพียงแค่ครึ่งแก้วให้ลำธารทันทีเมื่อเห็นว่ามองเขาตาเขียว “ผมล้อเล่นน่า เอานี่ไปกินก่อนไปจะได้ใจเย็นขึ้น”
ลำธารรับชาเย็นจากสายน้ำมากินแต่ยังคงส่งสายตาไม่พอใจไปให้เขาอยู่
หลังจากที่ลำธารกินเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าป้าจิ๋วกำลังรอเธอกับสายน้ำอยู่ “นี่ พวกนั้นมันคงไม่ตามมาแล้วล่ะ ป่านนี้ป้าจิ๋วคงเป็นห่วงแย่แล้ว”
“จริงด้วย ลืมป้าจิ๋วไปเลย งั้นเรากลับกันเถอะ” สายน้ำหันหลังแล้วเดินกลับทางเดินโดยมีลำธารเดินตามข้างหลัง
ลำธารเดินตามสายน้ำไปเรื่อยๆ แล้วมองรอบๆ ไปเรื่อยเปื่อยจึงไม่ได้สังเกตใบหน้าของสายน้ำที่ตอนนี้ดูเป็นกังวลกับการหาทางออกจากป่าเสียเหลือเกินเพราะตอนที่เขาวิ่งมาเมื่อกี้เขาไม่ได้สังเกตหรือจำทางเลยแม้แต่นิดเดียว
ลำธารรู้มีหวังด่าเราเละแน่
สายน้ำถอนหายใจแล้วก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไปก่อนจะฉุดคิดขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ถ้าเรามัวแต่เดินแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วลำธารมารู้ทีหลังอาจจะโดนฆ่าเลยก็ได้นะ
สายน้ำขมวดคิ้วเป็นปมอย่างคิดหนักก่อนจะหยุดเดินแล้วหันไปเผชิญหน้ากับลำธารอย่างใจดีสู้เสือ (?)
“หยุดทำไม” ลำธารถามอย่างสงสัย
“คือ...ผมจำทางกลับไม่ได้น่ะ”
“อะไรนะ” ลำธาตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเองแล้วยกมือขึ้นมากุมหน้าผาก “ให้ตายสิ”
สายน้ำยิ้มเจื่อนๆ แล้วยกมือไหว้ลำธารเหมือนเด็กกำลังขอโทษผู้ใหญ่ “ผมขอโทษ” สายน้ำพูดเสียงอ่อย
“แล้วจะเอายังไงล่ะทีนี้”
สายน้ำเงียบแล้วก้มหน้าเหมือนเด็กกำลังสำนึกผิด
ลำธารมองคนตัวโตที่ทำตัวเหมือนเด็กๆ ก่อนจะพูดปลอบแบบอ้อมๆ เพราะจริงๆ แล้วมันก็เป็นความผิดของเธอที่โง่เดินตามสองคนนั้นมาไม่งั้นคงไม่วิ่งหนีกันจนหลงป่าหรอก
“ถ้านายมัวแต่ก้มหน้ายืนสำนึกผิดอยู่แบบนี้คงจะหาทางออกเจอหรอกนะ” ลำธารพูดแล้วผลักไหล่สายน้ำ “เดินต่อได้แล้ว”
ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่านี่ควรจะเรียกว่าการปลอบหรือเปล่า?
หลังจากที่ทั้งสองพากันเดินกันเกือบสองชั่วโมงแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าจะเห็นทางออกเลยแม้แต่นิดเดียว สายน้ำเหลือบมองลำธารที่ดูท่าทางว่าจะเหนื่อยแล้วอย่างเป็นห่วง
“ผมว่าคุณดูเหนื่อยแล้วนะ พักก่อนดีไหม”
“เราต้องหาทางออกให้เจอก่อนพระอาทิตย์ตก” ลำธารพูดโดยไม่หันมามองสายน้ำ
สายน้ำรู้สึกว่าเธอจะตอบไม่ตรงคำถามสักเท่าไหร่แต่มันก็ทำให้เขารู้คำตอบว่าเธอจะไม่ยอมพักจนกว่าจะหาทางออกเจอ เขาจึงจำใจจะต้องเดินต่อไปแม้เมื่อยใจจะขาดก็ตาม
“เออ ว่าแต่คุณทำไมถึงเดินมากับพวกนั้นแล้วไม่ยอมรอผมล่ะ” สายน้ำถามอย่างข้องใจ
“พวกนั้นบอกว่านายให้ฉันไปหา” ลำธารตอบไปตามตรงโดยไม่ได้มองหน้าสายน้ำและยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ
“แล้วคุณก็เชื่อเนี้ยนะ” สายน้ำพูดเสียงหลง
ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงอย่างลำธารจะเชื่อคนง่ายขนาดนี้
“เออ ทำไม” ลำธารถามเสียงหวน
“เปล่าครับเปล่า” สายน้ำยิ้มเจื่อนๆ “ผมแค่ไม่คิดว่าคนอย่างคุณจะเชื่อคนง่ายเพราะปกติเห็นผมพูดอะไรไปคุณไม่ค่อยจะเชื่อ”
“เพราะพวกนั้นตื้อมากจนน่ารำคาญฉันก็เลยต้องเชื่อ”
“งั้นวันหลังผมคงต้องทำให้คุณรำคาญซะละ” สายน้ำยิ้มทะเล้น
“ปกติฉันก็รำคาญนายอยู่แล้ว”
“โฮย เสียใจ” สายน้ำบู้ปาก “แล้วทำยังไงคุณถึงจะเลิกรำคาญผมล่ะ”
“เมื่อไปอยู่ไกลๆ ฉัน”
“งั้นคุณคงได้รำคาญผมไปตลอดชีวิตเพราะผมจะไม่ยอมไปไกลจากคุณแน่นอน”
ผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าลำธารก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเดินเลยแม้แต่นิดเดียวถึงแม้พระอาทิตย์จะตกดินแล้วก็ตาม
“นี่มันเย็นแล้วนะผมว่าพักก่อนเถอะ”
ลำธารหันไปหาสายน้ำ “ไม่” เธอตอบสั้นๆ แต่ความหมายชัดเจน
“แต่นี่มันก็มืดแล้วนะคุณจะมองเห็นทางหรอ เกิดไปเหยียบตัวอะไรเข้าขึ้นมาจะทำยังไง”
“สรุปนายอยากพักใช่ไหม” ลำธารหยุดเดินแล้วหันหาสายน้ำ
สายน้ำไม่ตอบอะไรโดยส่งยิ้มหวานไปให้แทนคำตอบ
“พักก็พัก” ลำธารพูดอย่างจำใจ “แต่ก่อนที่นายจะนั่งนายต้องไปหาไม้มาก่อไฟก่อน”
“งั้นเราไปหาไม้ด้วยกันเถอะ” สายน้ำยิ้ม
“นายไปคนเดียวสิ”
“เกิดมีใครจับตัวคุณไปอีกจะทำยังไงผมเป็นห่วงคุณนะ”
กลัวผีก็บอกมาเหอะ
สายน้ำมองลำธารที่ใบหน้าบ่งบอกว่าไม่เชื่อคำพูดของเขาอย่างเห็นได้ชัดเขาจึงพูดย้ำอีกรอบ “ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ นะ”
ลำธารเริ่มรู้สึกรำคาญสายน้ำขึ้นมาตะหงิดๆ จึงจำใจตกลง “ก็นำไปสิ”
สายน้ำยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะหยิบของบางอย่างในถุงก๊อบแก๊บที่ซื้อจากตลาดขึ้นมา “ก่อนอื่นเราต้องจุดเทียนก่อนจะได้สว่างๆ”
“ไปเอามาจากไหน” ลำธารถามอย่างแปลกใจ
“ก็ซื้อที่ตลาดน่ะสิ พอดีตอนไปซื้อน้ำไปเห็นเขาขายพอดีเลยซื้อมากะว่าจะใช้จุดเวลาอาบน้ำแต่สงสัยคงจะต้องเอามาใช้ในป่าแทน ผมซื้อมาสองอันแหละ อันนี้ให้คุณ” สายน้ำยื่นเทียนอีกเล่มให้ลำธาร
“นายควรจะซื้อไฟแช็กมาด้วยนะ”
“แหม ซื้อมาสิ ใครมันจะบ้าซื้อมาแต่เทียนล่ะ” สายน้ำหยิบไฟแช็กในถุงขึ้นมา
เขาจุดไฟแช็กก่อนจะเอาไปจ่อที่ไส้เทียนของลำธารและของตัวเอง
“แค่นี้ก็เรียบร้อยย” สายน้ำชูเทียนขึ้นเหนือหัว
ลำธารมองการกระทำเด็กๆ ของเขาอย่างหน่ายๆ ก่อนจะเดินไปหาไม้โดยไม่รอสายน้ำเลยแม้แต่นิดเดียว สายน้ำจึงหยุดการกระทำเด็กๆ แล้วรีบเดินตามเธอไปทันที “รอผมด้วยสิ”
เวลาผ่านไปนานความมืดก็ยิ่งปกคลุมพื้นที่ผ่านในป่าลำธารจึงต้องใช้สายตาในการเพ่งมองไปข้างหน้าเป็นพิเศษเพราะแสงจากเทียนของเธอและสายน้ำก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เธอพยายามใช้แสงจากเทียนส่องมองตามต้นไม้ต่างๆ เพื่อเอากิ่งมันมาใช้ก่อไฟโดยมีสายน้ำเดินตามหลัง ขณะที่เธอกำลังใช้แสงเทียนส่องตามต้นไม้ไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆ ก็มีเสียงสัตว์บางอย่างดังอยู่ใกล้หูเธอยิ่งนัก
ลำธารหยุดชะงักกึกทันทีเธอค่อยๆ กลั้นใจหันไปหาต้นเสียงอย่างช้าๆ ขาที่ยืนได้อย่างมั่นคงอยู่ดีๆ มันก็สั่นขึ้นมาดื้อๆ
อั๊บแอ อั๊บแอ
“กรี๊ดดด!!!”
ลำธารปล่อยเทียนออกจากมือด้วยความตกใจทำให้เทียนดับลงเหลือเพียงแต่เทียนของสายน้ำ
“เกิดอะไร...” สายน้ำหันไปหาลำธารอย่างตกใจไม่แพ้กันแต่ก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อลำธารวิ่งมาชนเขาอย่างแรงจนหงานหงายหลังล้มลงไปบนพื้นดินโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
สายน้ำเบ้หน้าด้วยความเจ็บก่อนจะเงยหน้ามองลำธารที่ท่าทางจะตกใจอยู่ “เป็นอะไรไหม” สายน้ำถามลำธารอย่างเป็นห่วง
“...ไม่..เป็นไร” ลำธารค่อยๆ ลุกขึ้นจากร่างของสายน้ำแล้วพยายามเรียกสติตัวเองกลับมาก่อนจะเปลี่ยนจากสีหน้าตกใจเป็นสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม
“ช่วยผมหน่อยสิ” สายน้ำยื่นมือไปให้ลำธาร
“ลุกเองสิ”
“คุณเป็นคนมาชนผมล้มคุณก็ต้องช่วยผมสิ”
ลำธารหมดหนทางเถียงจึงยื่นมือไปจับสายน้ำแล้วดึงเขาขึ้นมาอย่างจำใจ
“ขอบคุณครับ” สายน้ำยิ้มหวานให้ลำธารแล้วปัดเศษฝุ่นตามตัวของตัวเอง หลังจากปัดเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็หันมามองลำธารอย่างสงสัย “ว่าแต่เมื่อกี้คุณตกใจอะไรหรอ”
“เปล่า” ลำธารโกหกหน้าตายแต่เมื่อได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องขึ้นมาอีกครั้งเธอก็สะดุ้งขึ้นมาอย่างลืมตัวทำให้สายน้ำถึงกับยิ้มออกมา
“คุณกลัวตุ๊กแกหรอ”
ลำธารไม่ตอบแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทำให้สายน้ำยิ่งแน่ใจ
“เขาว่ากันว่าในป่าจะมีตุ๊กแกเยอะ” สายน้ำแกล้งพูดลอยๆ แล้วหันไปมองข้างหลังลำธารอย่างตกใจ “เฮ้ย ตุ๊กแก!”
ลำธารรีบกระโดดกอดสายน้ำทันที สายน้ำเปลี่ยนสีหน้าตกใจเป็นรอยยิ้มก่อนจะกอดตอบลำธาร
“ตัวเบ้อเริ่มเลย” สายน้ำแกล้งพูดให้ลำธารกลัวกว่าเดิม
และมันก็ได้ผลเพราะเธอกอดเขาแน่นขึ้น
“ไปสิ แน่ะ ยังไม่ไปอีก ชิ้วๆ” สายน้ำยังคงเล่นละครแกล้งลำธารไปเรื่อยๆ เขารู้ว่าถ้าลำธารรู้คงโกรธเขามากแน่ๆ แต่ช่างประไรโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดลำธารขนาดนี้มันมีมากเสียที่ไหนล่ะ
ถึงคราวนี้จะโดนโกรธหรือโดนตีเจ็บสักแค่ไหนแต่มันก็คุ้มแหละน้า
หลังจากเหตุการณ์นั่นจบลงด้วยการตบหนึ่งฉาดของลำธารทั้งสองก็กลับมาพักกันโดยสายน้ำแบกท่อนซุงด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับรอยมือบนหน้า ส่วนลำธารลำธารเดินตัวเปล่าแต่ใบหน้ากลับดูหงุดหงิดไม่เหมือนคนที่แบกของหนักอยู่สักนิดเดียว
พอกลับมาถึงที่พักปุ๊บสายน้ำก็วางท่อนซุงลงแล้ววางเป็นกากบาทสลับกันไปมาอย่างสวยงามก่อนจะใช้ไฟแช็กจุดไฟ
“เฮ้อ ได้นั่งสักที” สายน้ำพูดอย่างมีความสุขหลังจากก่อกองไฟเสร็จแล้ว
หลังจากก่อกองไฟเสร็จเรียบร้อยแล้วลำธารก็รีบจัดแจงหาที่นอนของตัวเองทันที สายน้ำนั่งยื่นมือเพื่อรับความอุ่นอยู่หันไปมองลำธารที่กำลังจัดแจงที่นอนอยู่ก่อนจะลุกไปหา
“ให้ผมช่วยไหม”
งั้นช่วยไปไกลๆ ฉันที ลำธารพูดในใจแล้วหยิบเสื้อผ้าในถุงมาคลุมท่อนซุงที่เหลือเพื่อใช้เป็นหมอนโดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจสายน้ำ
“ผมขอสีชมพูนะ” สายน้ำหยิบเสื้อสีชมพูของลำธารมาคลุมท่อนซุงบ้างก่อนจะลองหนุนดู “แข็งจัง แต่ไม่เป็นไรแค่ได้นอนหนุนเสื้อของลำธารผมก็นอนหลับฝันดีละ” สายน้ำยิ้มตาหยี
ลำธารหันไปมองสายน้ำที่นอนหนุนท่อนซุงที่ถูกห่อด้วยเสื้อของเธอที่กำลังส่งยิ้มตาหยีอย่างน่ารักมาให้เธอก่อนจะละสายตาไปทางอื่นทันทีอยู่ดีๆ ใบหน้าของเธออยู่ดีๆ ก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ
ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ นะ
“หน้าคุณดูแดงๆ นะเป็นอะไรหรือเปล่า” สายน้ำถามพร้อมส่งสายตาเป็นห่วงมาให้
นี่หน้าเราแดงหรอ
“เปล่า” ลำธารส่ายหน้าเบาๆ
สงสัยไฟที่ก่อไว้มันร้อนไปหน่อยล่ะมั้งหน้าเลยแดง ลำธารพยายามคิดในแง่ดี
“หรอ” สายน้ำมองอย่างไม่ค่อยเชื่อนักก่อนจะยิ้มตาหยีอีกครั้ง “หรือว่าคุณเขินรอยยิ้มของผม”
“หลงตัวเอง”
“แล้วรักไหมล่ะ” สายน้ำยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ลำธาร
“ถามโง่เนอะๆ” ลำธารผลักอกสายน้ำแล้วรีบนอนหันไปอีกทาง
“โง่แต่ก็รักนะ” สายน้ำย้ายมานั่งตรงหน้าลำธารพร้อมตาหยีๆ อีกครั้ง
ลำธารพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะพลิกตัวไปอีกฝั่งแล้วแกล้งหลับทันที
“ว้า นอนแล้วหรอ” สายน้ำท่าทางเสียดาย “งั้นฝันดีนะครับ” สายน้ำพูดแล้วยื่นหน้ามาจุ๊บปากลำธารเบาๆ แล้วรีบเผ่นไปนอนทันทีก่อนที่จะโดนอีกฝ่ายตบหน้าเข้า
สายน้ำนอนตะแคงมองลำธารนอนหลับตานิ่งพร้อมยิ้มบางๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มตาหยีเมื่อลำธารลืมตาขึ้นมาแล้วสบตากับเขาพอดิบพอดี
ลำธารตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองเธอพร้อมส่งยิ้มตาหยีให้เธอจึงรีบพลิกตัวกลับไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะปกติของเธอจู่ๆ ก็เต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นเสียดื้อๆ
ลำธารเอามือทาบลงไปที่อกข้างซ้ายของตัวเอง
ทำไมใจของเราถึงเต้นแรงขนาดนี้นะ
ลำธารถามตัวเองในใจก่อนที่ความรู้สึกตอนที่สายน้ำจุ๊บที่ริมฝีปากบางของเธอเบาๆ จะโผล่ขึ้นมาในหัว
ทำไมนายถึงต้องทำแบบนี้ด้วยรู้ไหมว่าสิ่งที่นายทำมันกำลังล้อเล่นกับหัวใจฉันอยู่
ความคิดเห็น