คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : เหตุการณ์พลิกผลัน # ๑๐
10
เหตุการณ์พลิกผลัน
หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วป้าจิ๋วก็ชวนสายน้ำและลำธารไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่ตลาดในเมืองอีกครั้งทั้งสองตกลงที่จะไปด้วยเพราะอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ
เมื่อก้าวลงจากรถกระบะเก่าๆ ของลุงจอมที่ป้าจิ๋วยืมมาขับลำธารก็มองดูบริเวณรอบๆ อย่างสนใจเพราะแถวบ้านเธอไม่ค่อยมีตลาดแบบนี้ให้เห็นเท่าไหร่นักมีแต่ตลาดที่ดูสกปรกจนเธอไม่อยากจะเข้าไป
นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้มาเดินตลาดแบบนี้
“นี่เงิน” ป้าจิ๋วยื่นแบงค์ห้าร้อยให้สายน้ำและลำธาร “เดินดูให้ทั่วเลยนะอยากซื้ออะไรก็ตามสบาย เสร็จแล้วเจอกันที่รถ”
ลำธารก้มมองแบงค์ห้าร้อยในมือแล้วมองป้าจิ๋วที่เดินหายไปทันทีเมื่อพูดจบก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่กำลังสำรวจมองรอบๆ อยู่
“ไปซื้อแปรงสีฟันกัน ใช้นิ้วแปรงมาหลายวันแล้ว” สายน้ำเอื้อมมือไปจับลำธารแล้วเดินเข้าไปในตลาด
ลำธารสะบัดมือของสายน้ำทิ้ง “ฉันเดินเองได้”
“เดี๋ยวหลง” สายน้ำเอื้อมมือไปจับมือลำธารอีกรอบ
“ฉันไม่ใช้เด็กสามขวบนะ” ลำธารสะบัดมือสายน้ำทิ้งอีกรอบแล้วเดินไปดูของทันที
“รอผมด้วยสิ” สายน้ำรีบวิ่งตามลำธาร “เดี๋ยวก็หลงกันหรอก” สายน้ำพูดขณะที่เดินมาอยู่ข้างๆ ลำธารเรียบร้อยแล้ว
ลำธารไม่สนใจเสียงของสายน้ำแล้วเดินดูของต่อไปเรื่อยๆ
สายน้ำมองลำธารที่สายตาจดจ้องกับของในร้านต่างๆ โดยไม่สนใจผู้ชายรูปหล่ออย่างเขาที่ยืนตัวโตอยู่ข้างๆ เลยสักนิดเขาจึงหันไปสนใจของตามร้านบ้างและของอันดับแรกที่เขากำลังมองหานั่นก็คือ ‘แปรงสีฟัน’
แหม...ถึงหน้าตาจะหล่อแต่ถ้าปากเหม็นสาวที่ไหนจะมอง จริงไหมล่ะ
เขาพยายามมองหาของที่ต้องการจนร้านแล้วร้านเล่าในที่สิ่งก็เจอจนได้
สายน้ำหันไปสะกิดลำธารที่กำลังสนใจกับเสื้อผ้าอีกร้านหนึ่งอยู่ “ไปซื้อแปรงสีฟันกับผมหน่อยสิ”
“ก็ไปซื้อเองสิ” ลำธารพูดโดยไม่หันไปมองสายน้ำ
สายน้ำบู้ปาก “ฮู้ว ไปซื้อเองก็ได้ ผมอยู่ร้านตรงข้ามนะ” สายน้ำเดินไปร้านตรงข้ามกับลำธารทันทีเมื่อพูดจบ
ลำธารเหลือบมองสายน้ำที่กำลังเลือกแปรงสีฟันอยู่อย่างตั้งใจเหมือนเด็กที่กำลังเลือกของเล่นอยู่ยังไงอย่างนั้นก่อนจะหันกลับมาสนใจเสื้อผ้าตรงหน้าต่อ เธอหยิบเสื้อมาเทียบกับตัวเองอยู่สามสี่ตัวก่อนจะตัดสินใจซื้อเสื้อยืดสีดำและสีชมพูอ่อนที่มีลายอยู่บนเสื้อเต็มไปหมดกับกางเกงยีนส์ที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยสองตัวแล้วยื่นเสื้อให้แม่ค้าใส่ถุงพร้อมเงิน
“ขอบคุณค่ะ” ลำธารรับถุงเสื้อจากแม่ค้าและเงินทอนก่อนจะเดินไปหาสายน้ำที่ยังคงยืนเลือกแปรงสีฟันอยู่
แค่แปรงสีฟันทำไมเลือกนานจัง
“เสร็จหรือยัง”
“อ้าว ซื้อเสร็จแล้วหรอ” สายน้ำหันมาหาลำธารแล้วชูแปรงสีฟันสีเขียวกับสีชมพูขึ้นมา “คุณว่าสีไหนสวยกว่ากัน”
“สีไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ”
“แต่ผมชอบทั้งสองสีเลยนี่น่า”
ผู้ชายบ้าอะไรชอบสีชมพู
ลำธารมองคนตัวสูงที่ทำแก้มป่องเหมือนเด็กแล้วหยิบแปรงสีฟันสีชมพูมาไว้ในมือตัวเอง “นายเอาสีเขียวไป ฉันใช้สีชมพูเอง”
“คุณชอบสีชมพูหรอ”
“หรือนายจะใช้”
“ใช้ก็ได้นะ” สายน้ำยิ้ม
ลำธารมองสายน้ำอย่างหน่ายๆ ก่อนจะหันไปยื่นเงินให้แม่ค้าแล้วใส่แปรงสีฟันไว้ในถุงเดียวกับเสื้อผ้าโดยปฏิเสธถุงจากแม่ค้า
“ขอบคุณครับ” สายน้ำยิ้มหวานให้แม่ค้า “คุณจะซื้ออะไรอีกมั้ย” สายน้ำหันไปถามลำธาร
“อืม”
“ซื้ออะไรหรอ”
“ของใช้ส่วนตัว” ลำธารพูดแล้วเดินไปดูของร้านอื่นก่อนจะพยายามมองหาของบางอย่างที่เธอต้องการนั่นก็คือ ‘ชุดชั้นใน’
เมื่อเจอร้านชุดชั้นในที่อยู่ใกล้จากเธอไปอีกประมาณสองเมตรเธอจึงหันไปหาสายน้ำ “นายช่วยไปซื้อน้ำให้หน่อยสิ”
“ค่อยไปซื้อตอนที่คุณซื้อขอเสร็จไม่ได้หรอ ผมกลัวหลงอ่ะ”
“แต่ตอนนี้ฉันหิวมากก” ลำธารลากเสียง
“โอเคๆ งั้นรอผมอยู่ตรงนี้” สายน้ำรีบวิ่งไปซื้อน้ำทันที
ลำธารมองสายน้ำจนมั่นใจว่าเขาจะไม่เดินกลับมาแล้วเธอจึงเดินตรงเข้าไปที่ร้านขายชุดชั้นใน เมื่อเดินมาถึงหน้าร้านเธอก็เลือกดูชุดชั้นในที่อยู่ตรงแผงกระบะโดยไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังมองอยู่
“คนเยอะชะมัด” ชายร่างท้วมบ่น
“ก็เออสิ” ชายร่างผอมพูดอย่างหงุดหงิด “แกนี่มันซื่อบื้อจริงๆ ที่ทำแปรงฉันตกส้วม ดูสิต้องมาหาซื้อในเมือง คนก็เยอะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่ได้ตั้งใจๆๆ แกพูดแบบนี้มากี่ล้านรอบแล้ววะ คราวที่แล้วก็เอาแชมพูคนไปอาบน้ำให้หมา”
“เอ้า ก็แชมพูหมามันหมดนิ” คนร่างท้วมแก้ตัว
คนตัวเล็กกว่ามองคนตัวใหญ่ร่างท้วมแต่ใจมดอย่างหน่ายๆ ก่อนจะเดินไปซื้อแปรงสีฟัน
คนตัวใหญ่เดินตามคนตัวผอมไปแล้วยืนรออยู่หน้าร้านระหว่างที่ยืนรอก็ใช้สายตามองไปที่ร้านเสื้อผ้าแล้วสาวๆ สวยๆ ที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ด้วยสายตาหวานเยิ้มแล้วเลื่อนสายตาไปที่ร้านชุดชั้นในที่อยู่ใกล้ไปอีกประมาณสามเมตรแล้วชะงักเมื่อสายตาไปสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับผู้หญิงที่คุณหนูเบลเจ้านายของเขาจับมาแต่ตอนนี้ได้หนีไปแล้ว เขาจ้องเธออยู่นานก่อนจะสะดุ้งเมื่อโดนชายชุดดำร่างผอมตบหัวอย่างแรง
“ไปได้แล้วไอ้อ้วน”
“อย่าเพิ่งๆ” ชายร่างท้วมกระชากแขนเสื้อชายร่างผอม
“อะไรของแก” ชายร่างผอมชักสีหน้าเล็กน้อยอย่างไม่พอใจที่ถูกกระชากแขนเสื้อ
“แกดูผู้หญิงคนนั้นสิ” ชายร่างท้วมชี้ไปที่ลำธาร
“คนไหน” ชายร่างผอมมองตามนิ้วของชายร่างท้วม
“คนที่กำลังหยิบเสื้อในสีดำขึ้นมาดูน่ะ เห็นยัง”
ชายร่างผอมพยายามมองหาจนเจอผู้หญิงที่หยิบเสื้อชั้นในสีดำขึ้นมาดูอย่างที่ชายร่างท้วมบอก “เออเห็นละ ทำไมวะ”
“แกว่าหน้าคุ้นๆ ไหม ฉันว่าเหมือนผู้หญิงที่ชื่อลำธารที่คุณหนูเบลเขาจับมาเลยว่ะ”
“หืม” ชายร่างผอมพยายามเพ่งมองไปที่ลำธาร “เออจริงว่ะ คนเดียวกันหรือเปล่าวะ”
“ฉันว่าใช่” ชายร่างท้วมพูดอย่างมั่นใจ “เอาไงดี เข้าไปจับตัวมาเลยดีมั้ย” เขาหันไปถามความเห็นชายร่างผอม
“เฮ้ย ขืนเข้าไปจับตัวเลยก็โดนกระทืบพอดีสิ ไม่เห็นหรือไงว่าคนเยอะจะตาย ว่าแต่ฉันจำได้นะว่ามีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ถูกจับมาด้วย ทำไมไม่มาด้วยกันวะ”
“แกถามฉันแล้วฉันจะไปถามใคร”
“วู้ว แกนี่มันไม่ได้เรื่องเล้ย” ชายร่างผอมบ่นอย่างเซ็งๆ “ถ้าเราจับผู้หญิงคนนี้ไปได้เราต้องได้รางวัลก้อนใหญ่แน่ๆ” เขายิ้ม
“แล้วเราจะทำยังไงกันล่ะถึงจะจับตัวผู้หญิงคนนี้ไปได้” ชายร่างท้วมถามอย่างสงสัย
“เอาหูมานี่”
ชายร่างท้วมเอียงหูไปหาชายร่างผอมแล้วยิ้มออกมาเมื่อได้ยินแผน
โห ทำไมคนเยอะขนาดนี้เนี้ย
สายน้ำมองแถวคนรอซื้อน้ำที่ยาวเหยียด
ไปซื้อร้านอื่นดีกว่า
เขาละสายตาออกจากร้านขายน้ำร้านนั้นแล้วเดินหาร้านขายน้ำร้านอื่นต่อแต่ก็พบว่าทุกๆ ร้านล้วนแต่มีคนต่อแถวซื้อเยอะแยะไปหมดเขาจึงมองหาร้านที่คนต่อแถวน้อยที่สุดก่อนจะเดินไปต่อแถว ระหว่างที่ต่อแถวเขาก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ขึ้นมาตะหงิดๆ ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงลำธารขึ้นมา เมื่อถึงคิวตัวเองสายน้ำจึงรีบซื้อแล้วรีบกลับไปหาลำธารทันที
เมื่อกลับมาที่เดิมสายน้ำก็พบว่าลำธารไม่ได้อยู่ที่เดิมยิ่งทำให้เขาห่วงเธอเข้าไปใหญ่ เขาพยายามเดินหาลำธารแต่ก็ไม่มีร่องลอยของเธอเลยแม้แต่นิดเดียวสายน้ำจึงตัดสินใจถามแม่ค้าที่ขายชุดชั้นในอยู่
“พี่ครับเห็นผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีขาวตัวใหญ่ๆ กับกางเกงขาสั้นบ้างไหมครับ”
“อ้อ เธอเพิ่งมาซื้อของพี่เมื่อตะกี้ เห็นเดินไปทางนู้นกับผู้ชายสองคน” แม่ค้าสาวชี้ไปทางขวาของร้าน
“ขอบคุณมากครับ” สายน้ำรีบวิ่งไปตามทางที่แม่ค้าสาวบอกทันที
ลำธารเดินตามหนุ่มแปลกหน้าสองคนอีกคนหนึ่งอ้วน ส่วนอีกคนหนึ่งผอมไปเรื่อยๆ โดยแอบสงสัยอยู่ในใจว่าสายน้ำจะให้เธอเดินไปหาทำไมตั้งไกลแล้วเขารู้จักผู้ชายสองคนนี้ด้วยหรือแต่ด้วยความรำคาญของเธอ เธอจึงยอมเดินตามมาแต่โดยดี
“นี่ถึงหรือยัง” ลำธารถามชายร่างท้วมที่เดินประกบอยู่ข้างๆ
“ใกล้แล้ว ใจเย็นๆ น่า”
หลังจากจากบทสนทนาสั้นๆ ลำธารก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย เธอเดินตามชายทั้งสองไปเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติเพราะชายทั้งสองเริ่มพาเดินออกนอกตลาดและระหว่างทางที่เดินคนก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่รถตู้สีเทา ลำธารจึงรู้ทันทีว่าตัวเองถูกหลอกแล้วเธอจึงรีบหันหลังกลับทางเดิมแต่ถูกชายร่างท้วมจับตัวไว้ก่อน
“จะหนีไปไหน”
“ยอมไปกับพวกเราดีๆ ซะเถอะจะได้ไม่เจ็บตัว” ชายร่างผอมเปิดประตูรถ “เอ้า พายัยนี่ขึ้นมา”
ชายร่างท้วมพยายามจะอุ้มลำธารขึ้นบ่าแต่ลำธารไวตัวทันจึงใช้เท้าถีบเข้าไปที่กลางท้องทันที ทำให้คนตัวอ้วนทรุดลงไปกับพื้นด้วยความจุก
“แสบนักนะ” ชายร่างผอมหยิบมีดจากบนรถขึ้นมาแล้วชี้ไปที่ลำธาร
ลำธารหยุดการเคลื่อนไหวทันทีแล้วจ้องไปที่คนร่างผอมนิ่งๆ ก่อนที่สายตาของเธอจะหันไปเห็นสายน้ำกำลังแอบอยู่ตรงเสาปูนขนาดใหญ่อยู่ก่อนจะรีบวิ่งมาที่ด้านหลังของรถตู้
“จะขึ้นไปดีๆ หรือจะให้มีดเข้าไปปักที่ท้องก่อนฮะ” ชายร่างผอมขู่
ลำธารแสร้งทำเป็นยอมแพ้แล้วค่อยๆ ก้าวไปที่รถเพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ
ชายร่างท้วมที่กำลังจุกอยู่หันไปเห็นสายน้ำที่ยืนอยู่ด้านหลังเพื่อนของตัวเองจึงรีบตะโกนบอกเพื่อน “ระวังข้างหลัง!”
ชายร่างผอมหันไปมองข้างหลังอย่างงงๆ ก่อนจะหงายล้มตึงไปทันทีเพราะถูกสายน้ำถีบเข้าไปที่อกเต็มๆ
“ไอ้โง่” สายน้ำหันไปด่าชายร่างผอมอย่างสะใจแล้วคว้ามือลำธารก่อนจะพากันวิ่งหนี
ชายร่างผอมค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นก่อนจะวิ่งตามสองคนนั้นอย่างทุลักทุเลแต่ก็ต้องหยุดวิ่งเมื่อเห็นชายร่างท้วมยืนเอ๋อไม่ยอมวิ่งตามสองคนนั้นไป
“ไอ้อ้วน ตามพวกมันไปสิเว้ย!”
ความคิดเห็น