ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Over Love One Hundred รักเธอเกินร้อยขอเอาหัวใจเป็นประกัน

    ลำดับตอนที่ #9 : เหตุเกิด ณ ห้องน้ำ # ๘

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 54


    8

    เหตุเกิด ณ ห้องน้ำ

    ลำธารค่อยๆ ลืมตาช้าอย่างช้าๆ แล้วพยายามขยับตัวแต่กลับขยับไม่ได้เนื่องจากถูกมัดไว้อยู่ เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะหันไปมองบรรยากาศในห้องแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อคนที่ถูกจับมาด้วยไม่ใช่ซาซ่าแต่กลับเป็นสายน้ำ

    “ตื่นแล้วหรอ” สายน้ำหันมาถามเธอ

    “นายมาได้ยังไง” ลำธารถามอย่างสงสัย

    “เรื่องมันยาวน่ะ”

    ลำธารยังคงมองสายน้ำที่เต็มไปด้วยคำถามมากมายอยู่ในหัวแต่เมื่อได้คำตอบแบบนี้มาเธอเลยเลือกที่จะเก็บคำถามไว้ในใจจะดีกว่าเพราะถ้าขืนถามเธอจะอารมณ์เสียเปล่าๆ หลังจากที่การสนทนาของทั้งสองจบลงทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออกมาพร้อมร่างสูงของไมค์และร่างเล็กของเบล

    “ไอ้ไมค์” สายน้ำพูดชื่อคนที่เดินเข้ามาในห้องด้วยความแปลกใจก่อนจะร้องอ๋อในใจทันที

    ไอ้นี่นี่เองที่ตีหัวเขาจนสลบ

    “ตกใจหรือไงเพื่อนรัก” ไมค์ส่งยิ้มให้สายน้ำจนทำให้ลำธารแทบขนลุก “น่าเสียดายเนอะที่คืนนี้แกคงไม่ได้ลงแข่ง รถของแกคงตกเป็นของฉันแล้วล่ะ”

    “หึ ถ้าภูมิใจที่ชนะทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงแข่งก็เอาไปเหอะ” สายน้ำหัวเราะเยาะ

    “ปากดีนักนะแก” ไมค์พูดแล้วซัดมัดเข้าไปที่หน้าสายน้ำอย่างแรง

    “นี่ๆ อย่าทำร้ายหมอนี่สิ เดี๋ยวหน้าเสียโฉมหมด” เบลรีบร้องห้ามทันทีเมื่อเห็นว่าไมค์จะต่อยสายน้ำอีกรอบ

    “บ้าผู้ชาย!” ไมค์หันไปว่าเบลอย่างอารมณ์เสีย

    “ก็ดีกว่าใครบางคนที่ไปสารภาพรักยัยลำธารแล้วโดนหักหน้ามาก็แล้วกัน!” เบลสวนกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้

    สายน้ำเมื่อได้ยินเบลพูดจึงหันไปมองลำธารแล้วหันไปมองไมค์ที่หันไปมองเบลที่แฉตัวเองอย่างโมโหด้วยแววตาเยาะเย้ย

    มันนี่เองที่โดนลำธารหักหน้ามา

    “นี่!” ไมค์ที่เริ่มมีน้ำโหเดินไปหาเบลอย่างหาเรื่อง

    “ทำไม!”

    ลำธารมองสองคนนั้นอย่างสมเพชมาด้วยกันแทนที่จะสามัคคีกันแต่กลับทะเลาะกันซะเอง เหอะ

    “ฝากไว้ก่อนเถอะ” ไมค์พูดก่อนจะเดินออกไปนอกห้องทันทีโดยไม่วายที่เดินชนไหล่เบลอย่างแรงก่อนที่จะไป เบลร้องว้ายเล็กน้อยเมื่อโดยชนจนเสียหลักเมื่อตั้งหลักก็หันไปมองไมค์ที่เดินออกไปแล้วตาเขียวก่อนจะหันกลับมาหาลำธาร

    “ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากจับแกมาหรอกนะแต่เพื่อนตัวดีของเธอดันหนีไปได้แล้วทิ้งเธอไว้ให้ฉัน ฉันก็เลยจับเธอมาเผื่อจะเอามาต่อรองอะไรยัยนั่นได้บ้าง” เบลพูดก่อนจะหันไปหาสายน้ำ “ส่วนนายตอนแรกก็กะจะทิ้งไว้ตรงข้างถนนเนี้ยแหละแต่เห็นว่าหน้าตาดีก็เลยเอามาด้วยเฉยๆ โทษตัวเองก็แล้วกันนะที่อยากเกิดมาหน้าตาดีเอง” เบลเดินไปลูบแก้มสายน้ำก่อนจะหอมแก้มสายน้ำฟอดใหญ่แล้วเดินออกไปจากห้องอย่างมีความสุข

    “อะไรวะ เกิดมาหน้าตาดีก็ผิด” สายน้ำบ่นงุบงิมแล้วพยายามเอาไหล่เช็ดแก้มตัวเองเนื่องจากโดนมัดไว้อยู่

    ลำธารหันไปมองสายน้ำที่บ่นงุบงิมแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ

    ทำไมเธอถึงต้องโดนจับมากับไอ้หน้าหม้อนี่ด้วยนะ ไม่เข้าใจเลย!

    สายน้ำหันไปมองลำธารที่ถอนหายใจออกมาซะเฮือกใหญ่ “เสียใจหรอที่ต้องโดนจับมากับผมน่ะ”

    ลำธารไม่ตอบอะไรสายน้ำแล้วเบือนหน้าหนีเขาไปทางอื่น

    สายน้ำเมื่อเห็นว่าลำธารไม่ตอบอะไรเขาเขาจึงพยายามเขยิบตัวย้ายไปนั่งข้างๆ ลำธาร ลำธารมองเขาอย่างไม่พอใจแล้วเขยิบหนีแต่สายน้ำก็ขยับตามอีกยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

    “จะเขยิบตามมาทำไมไม่ทราบ”

    “ผมจะแก้มัดเชือกให้คุณไงเล่า” สายน้ำตอบแล้วหันหลังให้ลำธาร “หันหลังมาสิครับคุณผู้หญิง”

    ลำธารทำท่าทางไม่ค่อยพอใจสายน้ำเล็กน้อยแต่ก็ยอมหันหลังให้เขาแต่โดยดี

    สายน้ำใช้มือทั้งสองของตัวเองที่ถูกมัดไขว้อยู่ด้านหลังพยายามแกะเชือกที่ข้อมือของลำธารแต่ด้วยความที่พวกนั้นมัดเชือกแน่นมากทำให้นิ้วของเขาแดงไปหมด สายน้ำกัดฟันทนความเจ็บแล้วพยายามแกะเชือกต่อไปจนเชือกค่อยๆ คลายออกจากข้อมือของลำธาร

    ลำธารสะบัดข้อมือออกแรงๆ เมื่อรู้สึกว่าเชือกเริ่มคลายออกจากข้อมือแล้วเพื่อให้เชือกหลุดก่อนจะหันไปแกะให้สายน้ำบ้าง

    “ขอบคุณครับ” สายน้ำกล่าวขอบคุณลำธารหลังจากที่เชือกที่พันธนาในมือเขากระเด็นไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องด้วยฝีมือของเขาเอง

    “อืม” ลำธารตอบสั้นๆ “แล้วเราจะเอายังไงต่อ”

    สายน้ำทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วมองไปรอบๆ ห้องแล้วยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นหน้าต่างบานหนึ่งที่มีความใหญ่พอสมควรของห้องถูกเปิดเอาไว้ก่อนจะเดินไปหามันแล้วชโงกหน้าออกไปเพื่อสำรวจพบว่าด้านนอกเป็นคลองใสสะอาดทั้งหมด

    “เราจะโดดลงไปข้างล่าง” สายน้ำหันไปบอกลำธาร

    ลำธารสาวเท้าเดินมาที่หน้าต่างก่อนจะชโงกมองลงไปข้างล่างแล้วหันขวับไปหาสายน้ำทันที “ไม่”

    “ทำไมล่ะ” สายน้ำขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย

    “...”

    เพราะฉันว่ายน้ำไม่เป็นน่ะสิ!

    “อย่าบอกนะว่าคุณว่ายน้ำไม่เป็น” สายน้ำหันมาถามอย่างรู้ทัน

    ลำธารเงียบแทนคำตอบแล้วเบือนหน้าหนีสายน้ำทันที

    “งั้น...” สายน้ำยื่นมือไปให้ลำธาร

    ลำธารเหลือบมองมือที่สายน้ำยื่นมาให้เล็กน้อยก่อนจะหันกลับอย่างไม่แยแส

    สายน้ำชักมือกลับแล้วเอากอดอกไว้ “ก็ได้ งั้นคุณก็อยู่กับไอ้ไมค์กับพวกไอ้ชุดดำถึกถึนนั่นแต่จะโดนทำมิดีมิร้ายหรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่รู้นะ” สายน้ำพูดแล้วปืนขึ้นไปบนหน้าต่าง “ผมไปแล้วนะ”

    ลำธารเหลือบมองสายน้ำแล้วชั่งใจคิดว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่นแต่เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะกระโดดลงไปข้างล่างเธอจึงรีบปีนขึ้นไปบนหน้าต่างเบียดกับสายน้ำทันที

    สายน้ำยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเอื้อมมือข้างขวาที่ไม่ได้จับขอบหน้าต่างไว้ไปจับข้อมือข้างซ้ายของลำธาร “ผมไม่ปล่อยให้คุณเป็นอะไรแน่นอน” เขาพูดแล้วกระชับมือข้างที่จับมือลำธารไว้ “นับหนึ่งถึงสามแล้วโดดลงไปพร้อมกันเลยนะ”

    ลำธารกลื้นน้ำลายลงคอแล้วพยักหน้าตอบช้าๆ

    “หนึ่ง...สอง....สาม!”

    เมื่อนับถึงสามทั้งสองก็กระโดดลงไปสู่ลำคลองทันที ลำธารพยายามตีแขนและขาในน้ำไปมาเพื่อไม่ให้ตนเองจมน้ำโดยมีสายน้ำช่วย

    “ตีขาอย่างเดียวก็พอแล้วเดี๋ยวก็ได้จมทั้งคู่หรอก” สายน้ำหันไปเอ็ดลำธาร

    ลำธารจึงหยุดตีแขนแล้วคว้าไหล่ของสายน้ำเอาไว้จนแน่นแล้วตีขาไปมาในน้ำ

    สายน้ำพยายามว่ายน้ำไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เนื่องจากเมื่อกี้ตอนที่ทั้งสองกระโดดลงมาเสียงดังมากซึ่งพวกนั้นอาจจะได้ยินแล้วรู้ว่าเขาและเธอหนีออกมาแล้ว

    ผ่านไปหลายนาทีสายน้ำเห็นว่าเขาว่ายมาไกลพอสมควรแล้วจึงว่ายเข้าฝั่งแล้วพยายามดันตัวลำธารขึ้นไปก่อนที่ตัวเองจะขึ้นตามไป

    หลังจากที่ลำธารขึ้นฝั่งมาเรียบร้อยแล้วเธอก็ใช้มือบิดน้ำออกจากผมและเสื้อโดยลืมคิดไปเลยว่าเสื้อนักศึกษาของเธอเป็นสีขาวเมื่อเปียกน้ำแล้วจะเป็นเช่นไร

    สายน้ำมองหญิงสาวตรงที่กำลังบิดน้ำออกจากผมแต่ก็ต้องหันหน้าหนีทันทีเมื่อสายตาเจ้ากรรมดันเลื่อนลงไปมองเสื้อนักศึกษาที่เปียกโชกไปด้วยน้ำของลำธารที่บัดนี้มันแนบเนื้อของเธอจนเห็นชุดชั้นในสีชมพูอ่อนที่เธอสวมอยู่ซะแล้ว สายน้ำจึงรีบถอดเสื้อนึกศึกษาของตัวเองที่สวมอยู่ออกแล้วรีบเดินไปสวมให้ลำธารทันที

    ลำธารรีบปัดเสื้อของสายน้ำออกทันทีแล้วหันไปหาสายน้ำที่ตอนนี้เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงนักศึกษา “เก็บไว้ใส่เองเถอะ”

    สายน้ำถอนหายใจแล้วก้มเก็บเสื้อของตัวเองก่อนจะยื่นมาให้ลำธาร “ใส่เถอะเชื่อผม ไม่งั้นผมเป็นตากุ้งยิงแน่”

    ลำธารขมวดคิ้วเข้าหากันเธอนิ่งไปสักพักเหมือนกับกำลังคิดอะไรบางอย่างแล้วรีบคว้าเสื้อของสายน้ำมาใส่ทันทีเมื่อรวบรวมคำพูดของสายน้ำได้

    “ค่อยยังชั่วหน่อย” สายน้ำถอนหายใจอย่างโล่งอก

    “ไอ้บ้า” ลำธารพึมพำด่าสายน้ำ

    “นี่คนอุส่าห์ช่วยไว้ยังจะมาว่ากันอีก ถ้าผมไม่บอกป่านนี้เห็นไปไหนต่อไปแล้ว”

    ลำธารมองสายน้ำแล้วบ่นงุบงิบเบาอีกครั้งแต่สายน้ำไม่ได้ยิน

    “ตอนนี้ก็ใกล้เย็นแล้วเราคงต้องหาที่พักกันก่อน” สายน้ำพูดแล้วใช้นิ้วชี้ไปที่บ้านหลังเก่าๆ เล็กๆ ที่ข้างด้านหลังลำธาร

    ลำธารหันหลังมองตามบ้านหลังที่สายน้ำพูดถึงดูเก่าโทรมและเล็กจิ๋วหลิวซึ่งดูไม่น่ามีคนอยู่เลยสักนิดถึงแม้เธอไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่จะต้องพักที่บ้านหลังนั้นแต่แถวนี้มันมีบ้านหลังอื่นนอกจากหลังนี้มั้ยเล่า

    เธอถอนหายใจแล้วเดินไปที่บ้านหลังนั้นทันทีโดยมีสายน้ำเดินตามหลัง

    เมื่อมาถึงหน้าบ้านสายน้ำใช้มือเคาะไปประตูไปสามครั้งเป็นพิธี “มีใครอยู่ไหมครับ”

    หลังจากที่สายน้ำตะโกนเรียกหาคนในบ้านได้ไม่นานก็มีป้าคนหนึ่งเปิดประตูออกมาแล้วมองชายหนุ่มที่มาเคาะประตูที่เปียกโชกไปทั้งตัวอย่างแปลกใจก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองหญิงสาวอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่ซึ่งเปียกไม่แพ้กัน “มีอะไรหรือพ่อหนุ่ม”

    “พวกเราหลงทางน่ะครับจะเป็นอะไรมั้ยถ้าจะขอค้างที่นี้สักคืน”

    “อ้อ ได้สิได้” หญิงวัยกลางยิ้มแล้วเปิดประตูบ้านให้กว้าง “เข้ามาสิ มาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา”

    “ขอบคุณมากครับ” สายน้ำยกมือไหว้หญิงวัยกลางแล้วคว้ามือลำธารที่ยืนนิ่งเข้าไปด้านใน

    ลำธารสะบัดมือสายน้ำทิ้งแล้วเดินเชิ่ดเข้าไปในบ้านทันที

    สายน้ำมองลำธารยิ้มๆ แล้วเดินตามหลังเธอไป

    เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วพบว่าภายในบ้านนั้นไม่ได้ดูเก่าหรือทรุดโทรมเหมือนภายนอกเลยแม้แต่นิดเดียวถึงจะไม่ได้หรูเริ่ดเหมือนบ้านในเมืองก็ตามแต่ ลำธารหันไปมองห้องด้านซ้ายมือที่มีเสียงของผู้ชายดังเจี๊ยวจ๊าวไปหมดไม่ต้องบอกก็รู้ว่าข้างในห้องนั้นจะมีคนมากแค่ไหน

    “เอ้า นี่ผ้าเช็ดตัวแล้วนี่ก็เสื้อผ้าหวังว่าจะใส่กันได้นะ” หญิงวัยกลางคนยื่นผ้าเช็ดตัวให้สายน้ำและลำธาร “เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปหาป้าที่ห้องแรกที่อยู่ซ้ายมือนะ อ้อ ลืมบอกไฟมันเสียนะ” หญิงวัยกลางพูดเสร็จก็เดินเข้าไปที่ห้องดังกล่าว

    “คุณอาบก่อนเลยก็แล้วกัน” สายน้ำพูดเมื่อมาถึงห้องน้ำ

    “ไฟใช้ไม่ได้แบบนี้แล้วฉันจะไปมองเห็นได้ยังไง”

    “ก็แง้มประตูไว้สิ เดี๋ยวผมเฝ้าหน้าห้องให้” สายน้ำอาสาแล้วมองหน้าลำธารที่บ่งบอกเลยว่าไม่มีทางให้เขาเฝ้าหน้าห้องน้ำแน่ๆ “หรือคุณอยากจะนอนปอดบวมทั้งคืนผมก็ไม่ว่าอะไรนะ”

    ลำธารมองสายน้ำค้อนๆ แล้ววางเสื้อในมือสายน้ำเต็มแรงก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ

    หลังจากที่ปิดประตูห้องน้ำแล้วแง้มเพื่อให้แสงเข้ามาด้านในเล็กน้อยเธอก็แขวนผ้าเช็ดตัวเอาไว้บนราว ลำธารหันไปมองประตูอีกครั้งเพื่อความชัวร์เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครแอบมองเธอก็ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียนและทรวงอกอวบอิ่มของเธอ ลำธารเอื้อมมือไปหยิบขันแล้วตักน้ำในโอ่งราดทั้งหัวจรดปลายเท้าก่อนจะใช้สบู่ก้อนถูทุกซอกทุกมุมของร่างกายตามด้วยทำความสะอาดผมของเธอ ลำธารเอื้อมไปหยิบขวดแชมพูที่อยู่บนชั้นสูงสุดของชั้นวางแต่ด้วยความที่พื้นห้องน้ำค่อนข้างลื่นทำให้เธอเสียหลักล้มลงไปกับพื้นอย่างจังแต่ความซวยของเธอยังไม่หมดเพราะของบนชั้นต่างพากันหล่นมาใส่หัวเธออีกต่างหากแต่ความซวยของเธอยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะเมื่อเธอล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปที่พื้นประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกโดยฝีมือของสายน้ำ

    “นี่คุณเป็นอะ... เฮ้ย!” สายน้ำกำลังจะเอ่ยถามลำธารอย่างเป็นห่วงร้องอุทานออกมาเสียงดังเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

    ลำธารอ้าปากค้างมองสายน้ำด้วยความช็อกที่อยู่ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาโดยที่เธอมีสภาพเปล่าเปลือยไม่ได้ใส่อะไรเลยแม้แต่นิดเดียวก่อนจะเป็นลมหงายตึงลงไปทันที

    “เฮ้ยคุณ” สายน้ำรีบถลาตัวเข้าไปหาลำธารทันทีแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างเปล่าเปลือยของเธอใกล้ขึ้น เขาจึงเบือนหน้าหนีแล้วเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อห่อตัวเธอไว้

    “นี่คุณ” สายน้ำเขย่าตัวเรียกลำธารแต่กลับไม่มีสัญญาณตอบกลับมา

    สงสัยจะช็อกจนเป็นลม

    สายน้ำถอนหายใจออกมาแล้วค่อยๆ อุ้มลำธารขึ้นมาแล้วเดินไปหาหญิงวัยกลางคนที่อยู่ในห้อง

    เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วสายน้ำแทบอยากจะปิดประตูทันทีเมื่อเห็นผู้ชายรุ่นลุงกำลังนั่งตั้งวงแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นมากินแต่พอสายน้ำเปิดประตูเข้ามาปุ๊บคนในห้องก็หยุดกิจกรรมที่ตัวเองทำอยู่แล้วหันมามองลำธารตาค้าง

    “อ้าว ไอ้หนูเป็นอะไรไปล่ะนั่น” หญิงวัยกลางถามขณะที่ข้าวเต็มปาก

    “เป็นลมน่ะครับ” สายน้ำตอบ “ไม่ทราบว่าห้องนอนอยู่ตรงไหนหรอครับป้า”

    “อยู่ห้องที่สองขวามือ ว่าแต่ไปทำอีท่าไหนล่ะถึงได้เป็นลมเป็นแล้งไป”

    สายน้ำยิ้มเจื่อนๆ ให้หญิงวัยกลางแทนคำตอบแล้วเดินออกจากห้องไปที่ห้องนอนแทน

    สายน้ำค่อยๆ วางตัวลำธารลงอย่างระมัดระวังแล้ววางเสื้อลงบนโต๊ะข้างๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงมองร่างบางของลำธารที่นอนนิ่งอยู่หน้าผากของเธอมีรอยช้ำขึ้นมาเล็กน้อยคงจะเป็นเพราะของจากชั้นตกลงมาใส่และเสียงดังโครมครามที่ดังออกมาจากห้องน้ำก็คือสาเหตุที่สายน้ำเปิดประตูเข้าไปกระทันหันจนลำธารเป็นลมนั่นแหละ

    อุส่าห์จะเข้าไปช่วยแท้ๆ แต่กลับทำเธอตกใจจนเป็นลมซะงั้น สายน้ำนะสายน้ำ

    ผ่านไปเกือบชั่วโมงลำธารที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ค่อยปรือตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงนุ่มแต่เมื่อขยับตัวปุ๊บความเจ็บปวดตามตัวก็พุ่งขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งตัวทำให้เธอถึงกับร้องโอ้ย

    เจ็บชะมัด

    เธอบ่นพึมพำในใจก่อนที่สายตาจะเลื่อนลงไปดูร่างกายของเธอที่ตอนนี้ถูกพันไว้เพียงผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียว ระหว่างที่เธอกำลังก้มลงมองสำรวจร่างกายของเธออยู่สายน้ำที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เข้ามาในห้องพอดี เมื่อเห็นหน้าของสายน้ำปุ๊บเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องน้ำก็ผุดขึ้นมาบนหัวทันที

    “ฟื้นแล้วหรอคุณ”

    ลำธารไม่ตอบอะไรก่อนจะหันไปคว้าหมอนคว้างใส่สายน้ำทันทีแต่โชคดีที่เขารับไว้ทัน “ไอ้ลามก!”

    “ผมไม่ได้ตั้งใจสักหน่อยก็เห็นคุณทำอะไรตกเสียงโครมครามก็กลัวว่าจะเป็นอะไรเลยเปิดเข้าไปดู” สายน้ำพูดพลางกอดหมอนที่อยู่ในมือก่อนจะยิ้มออกมา “แต่ผิวคุณก็ขาวดีนะ แถม...”

    “พอ! นายออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้เลย ไอ้สารเลว” ลำธารด่าสายน้ำอย่างโกรธๆ แล้วเขวี้ยงหมอนอีกใบใส่เขา คราวนี้โดนหน้าของสายน้ำเต็มๆ

    “โฮย ล้อเล่นนิดเดียวเอง ผมไม่เห็นอะไรหรอกน่า” สายน้ำพูดปดเพราะขณะที่เขาพูดนั่นรูปร่างของลำธารยังอยู่ในหัวเขาอยู่เลย

    “ฉันไม่เชื่อ ออกไปเดี๋ยวนี้!!” ลำธารยังคงตะโกนไล่สายน้ำไม่เลิก

    สายน้ำแบะปากเล็กน้อย “ก็ได้ ไปก็ได้” ก่อนจะเดินหายออกไปจากห้องทันที

    เมื่อสายน้ำออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้วลำธารก็รีบเดินไปล็อกประตูทันทีก่อนจะเดินกลับมานั่งชันเข่าลงบนเตียง

    หมอนั่นเห็นหมดแล้ว ..ร่างกายของฉันเขาเห็นหมดแล้ว น่าอับอายที่สุด

    ลำธารกำผ้าเช็ดตัวแน่นแล้วปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจให้ไหลออกมาหนัก

    ครั้งนี้เป็นการร้องไห้ที่นานที่สุดในสิบปีที่ผ่านมาของลำธาร เธอร้องไห้ไปเกือบสองชั่วโมงทั้งที่ปกติแล้วอย่างมากเธอร้องไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำแถมนานๆ ครั้งจะปล่อยโฮออกมาขนาดนี้ แต่ครั้งนี้จะไม่ให้เธอเสียใจได้ยังไงในเมื่อผู้ชายคนนั้นเห็นสัดส่วนรูปร่างของเธอไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ เธอเงยหน้าขึ้นมาจากเข่าแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด

    ลำธารทำไมเธอถึงขี้แงอย่างนี้นะ เลิกร้องไห้ได้แล้ว

    ลำธารปาดคราบน้ำตาบนหน้าทิ้งแล้วหยิบเสื้อผ้าข้างๆ เตียงขึ้นมาเปลี่ยนแล้วหมกตัวอยู่แต่ในห้องจนมีเสียงเคาะประตู เธอจึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตูพบว่าเป็นป้าเจ้าของบ้านนั่นเอง

    “มีอะไรหรือคะ”

    “หนูช่วยไปแบกแฟนหนูกลับมาที่ห้องนี้ทีสิ ตาแก่มันพาเมาเละแทะแล้ว”

    ลำธารขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่า แฟน “เขาไม่ใช่แฟนหนู”

    “อ้าวเรอะ ป้านึกว่าเป็นแฟนกันซะอีก เอาเถอะๆ จะใช่หรือไม่ใช่ก็ช่างมัน ตอนนี้ช่วยไปแบกพ่อหนุ่มคนนั้นกลับห้องทีนะ ส่วนพวกแก่ๆ ปล่อยให้มันนอนไปไม่ต้องไปสนใจ” หญิงวัยกลางพูดแล้วเดินกลับไปที่ห้องที่เธอว่าทันที

    ถึงแม้ว่าลำธารจะไม่อยากจะไปเห็นหน้าของสายน้ำแต่ถ้าจะให้ป้าคนนั้นแบกเขามาที่ห้องก็คงจะไม่ไหว เธอจึงเดินตามหลังหญิงวัยกลางไปอย่างจำใจ

    เมื่อเข้ามาในห้องลำธารก็ต้องผงะทันทีเมื่อได้กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ฟุ่งไปหมด ลำธารพยายามกลั้นหายแล้วเดินไปหาสายน้ำที่นอนแผ่อยู่กลางห้อง

    “นี่” ลำธารผลักหัวสายน้ำ

    “หืมม” สายน้ำพลิกตัวหันมาหาลำธารก่อนจะพูดทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ “มีอาไรหรอคร้าบป้าจิ๋วว”

    “ฉันไม่ใช่ป้าจิ๋ว” ลำธารขมวดคิ้วพูดอย่างหงุดหงิด “ลุกขึ้นแล้วไปนอนที่ห้องซะ” ลำธารสั่งคนเมา

    สายน้ำปรือตาพยักหน้าหงึกๆ แล้วพยายามยันตัวเองขึ้นมาจากพื้นก่อนจะเดินโซซัดโซเซจนไปชนประตู ทำให้ลำธารต้องรีบเดินไปพยุงไว้ทันที

    สายน้ำลูบหน้าผากตัวเองแล้วหันมายิ้มให้ลำธาร “ขอบคุณคร้าบ”

    ลำธารพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดแล้วพยายามลากสายน้ำไปที่ห้องอย่างยากลำบาก

    ตัวหนักชะมัด

    ลำธารใช้มือข้างซ้ายเอื้อมไปเปิดประตูห้องแล้วลากสายน้ำมาที่เตียงก่อนจะผลักเขาลงไปนอนบนเตียง หลักจากจัดการคนเมาเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินไปปิดประตูแต่เมื่อหันหลังปุ๊บก็ถูกคนที่นอนแผ่อยู่บนเตียงคว้ามือไว้จนเสียหลักล้มลงไปนอนทับร่างของคนที่ดึงมือเธอไว้ เธอพยายามยันตัวลุกขึ้นจากร่างสายน้ำแต่สายน้ำที่นอนเมาก็คว้าเธอมากอดอีกครั้ง

    “นี่นาย!” ลำธารตะโกนใส่สายน้ำเพื่อให้เขาได้สติ

    “คุณโกรธผมหรอ” สายน้ำถาม

    “ใช่ ฉันโกรธมาก”

    “ผมขอโทษ” สายน้ำกอดลำธารแน่นขึ้น

    “นี่ ปล่อยฉัน!” ลำธารดิ้น

    “ไม่ จนกว่าคุณจายกโทษให้ผม” สายน้ำพูดแล้วกอดแน่นขึ้นอีก

    “แล้วคิดว่ามันน่ายกโทษให้หรือไงที่ทำแบบนี้ ปล่อยสิเว้ย!” ลำธารหลุดพูดเว้ยขึ้นมาอย่างหงุดหงิด

    “หวา พูดเว้ยด้วยน่ากลัวจัง”

    โอ้ย ให้ตายเถอะ!

    “สายน้ำ!!”

    “อย่าขึ้นเสียงสิ๊ ผมกลัวน้า”

    ลำธารหลับตาแน่นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์โกรธของเธอที่ตอนนี้แทบลุกเป็นไฟแล้ว “โอเค ฉันไม่โกรธนายแล้ว ปล่อยฉันสักที”

    “จริงๆ นะ” สายน้ำลืมตาขึ้นมามองลำธารอย่างดีใจ

    “อืม”

    สายน้ำยิ้มแป้นอย่างดีใจแล้วค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกจากลำธาร

    ลำธารรีบยันตัวลุกขึ้นยืนทันทีก่อนที่จะโดนสายน้ำจับดึงลงไปอีก เธอมองคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างหมั่นไส้ก่อนจะหยิบหมอนอีกใบที่อยู่บนเตียงเพื่อจะเอามาหนุนนอนบนพื้นแข็ง

    ลำธารพยายามข่มตานอนบนพื้นแข็งแต่ก็นอนไม่หลับสักทีเธอจึงลืมตาขึ้นมาแล้วเอามือก่ายหน้าผากมองเพดานก่อนที่ภาพตอนที่สายน้ำกอดเธอจะผลุดขึ้นมา ทำให้เธอเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาในใจแต่ก็ไม่สามารถบอกกับตัวเองได้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร

    ทำไมเราต้องคิดถึงเรื่องแบบนี้ด้วยนะ

    ลำธารถอนหายใจรอบที่ล้านแล้วพยายามข่มตาหลับลงไม่ให้คิดถึงเรื่องเมื่อกี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×