คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ผมจะรอ # ๑๕
15
ผมจะรอ
“ขอบคุณครับ” สายน้ำรับน้ำมาจากลำธารแล้วยกดื่มด้วยความกระหาย
ลำธารย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วมองสายน้ำที่กินน้ำอย่างกระหายหลังจากที่เพิ่งจัดการเปลี่ยนกลอนประตูให้เธอจนเสร็จ เธอจึงพาเขาเข้ามาดื่มน้ำในบ้านเพื่อเป็นการขอบคุณ
สายน้ำกลืนน้ำดังอึกแล้วสำรวจมองบรรยากาศบริเวณรอบๆ ในบ้านของหญิงสาว “บ้านคุณใหญ่ดีเนอะ”
“ไม่เห็นจะดี” ลำธารค้าน
“ทำไมอ่ะ ผมใฝ่ฝันอยากมีบ้านใหญ่ๆ แบบนี้มานานแล้วนะ”
“นายอยู่บ้านหลังเท่านั้นน่ะดีแล้ว อบอุ่นดีออกไม่ใช่หรอ” ลำธารพูดออกมาก็นึกอิจฉาสายน้ำไม่ได้ที่มีพี่น้องถึงสามคนทำให้เขาได้รับความอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนเธอที่ต้องอยู่บ้านหลังใหญ่ๆ ที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้อย่างว้าเหว่เพียงลำพัง
“ผมว่ามันน่าอึดอัดจะตายไป” สายน้ำเบ้ปากก่อนจะทำตาโตขึ้นมา “เอ้อ แล้วพ่อแม่คุณล่ะ”
“อยู่แคนนาดา”
“แล้วท่านกลับมาเยี่ยมคุณบ้างหรือเปล่า?”
ลำธารส่ายหน้า “พวกเขาไม่เคยมาหาฉันหรอกมีแต่ส่งเงินมาให้”
“อย่างนี้คุณก็เหงาแย่เลยสิ” สายน้ำพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ฉันชินแล้วล่ะ” ลำธารแสร้งยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“ถ้าเป็นไปได้ผมอยากมาอยู่เป็นเพื่อนคุณจัง” สายน้ำเอามือเท้าคางแล้วถอนหายใจ “แต่เสียดายที่ผมดันเป็นชายชาตรี ขืนผมมาอยู่มีหวังคุณถีบผมออกจากบ้านแน่ๆ”
“ใช่ ฉันถีบแน่”
“โฮย ผมอุส่าห์ไม่พูดเข้าข้างตัวเองแล้วนะนึกว่าคุณจะปลอบใจว่า ‘ถึงแม้นายจะเป็นผู้ชายแต่ก็ไม่เป็นไรหรอก นายมาอยู่ด้วยฉันจะได้หายเหงา’ เสียอีก ฮู้ว” สายน้ำบู้ปาก
“ฝันไปเถอะ นี่ กินน้ำเสร็จก็กลับบ้านไปได้แล้ว”
“โฮย ไล่งี้เลยหรอ” สายน้ำร้องโฮยอีกรอบ “ผมอุส่าห์มาเปลี่ยนกลอนให้คุณนะ ให้ผมนั่งพักอีกสักหน่อยไม่ใช่หรอ อีกอย่างผมมีเรื่องจะพูดกับคุณด้วยนะ”
“งั้นก็พูดมาสิ” ลำธารพูดพลางกอดอก
“สัญญากับผมก่อนได้ไหมล่ะว่าถ้าผมพูดคุณจะไม่ทำร้ายผม” สายน้ำยื่นนิ้วก้อยไปให้ลำธาร
“ฉันไม่รับปาก”
“ง่ะ..” สายน้ำเบ้ปาก
ใจหนึ่งก็อยากถามแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวถามไปแล้วจะโดนโกรธ เอาไงดีวะสายน้ำ
สายน้ำถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ...เอาวะ!!!
“คุณรักผมไหมลำธาร”
“...” ลำธารอึ้งจนพูดไม่ออกทันทีเมื่อได้ยินคำถาม
“นี่แหละ คือสิ่งที่ผมต้องการจะถามคุณ”
“...”
“ผมไม่รู้นะว่าผมจะได้คำตอบจากคุณว่ายังไง แต่ถ้าคุณถามผมแบบนี้ผมตอบได้เต็มปากเลยว่า...ผมรักคุณ”
“...”
นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหมสายน้ำ
“ผมไม่ชอบเวลาที่ยัยไหมมากอดคุณเลยให้ตายสิ” สายน้ำถอนหายใจ
“นายต้องการจะบอกอะไรกันแน่”
“ผมอยากให้คุณเลิกกับน้องสาวผม”
“อ๋อ ...เรื่องนี้นี่เอง เกริ่นมาตั้งนานเพียงเพราะจะพูดเรื่องนี้ใช่ไหม” ลำธารแคนยิ้มออกมา
ทุกสิ่งที่นายทำก็เพื่อแค่ให้ฉันเลิกยุ่งกับน้องสาวนายแค่นั้นเองสินะ..
“ใช่ เพราะผมไม่ชอบให้ยัยนั่นมายุ่งกับคุณ”
“นายไม่อยากให้ไหมมายุ่งกับฉันหรือให้ฉันไปยุ่งกับไหมกันแน่ ความจริงนายไม่จำเป็นจะต้องแต่งเรื่องก็ได้ว่านายรักฉัน เพราะยังไงฉันก็จะไปบอกเลิกน้องนายอยู่แล้วไม่ต้องห่วงหรอก”
“ผมไม่ได้แต่งเรื่องนะ ผมรักคุณจริงๆ นะลำธาร”
“พอเถอะ ฉันไม่อยากฟัง” ลำธารยกมือขึ้นมาห้ามสายน้ำ “ความจริงแล้วนายก็แค่ทำดีกับฉันเพียงเพราะต้องการให้ฉันเลิกกับน้องสาวนายเท่านั้นแหละ เลิกโกหกฉันสักที”
“คุณคิดว่าผมบ้าถึงขนาดตามไปช่วยคุณจนถูกตีหัวสลบเพราะผมต้องการให้คุณเลิกกับสายไหมอย่างนั้นหรอ?”
“...”
“ถ้าผมคิดแบบนั้นผมก็ปล่อยให้คุณโดยจับไป แล้วตอนที่คุณโดนจับไปผมก็หาผู้ชายมาจีบน้องสาวผมมันง่ายกว่ามาตามช่วยคุณตั้งเยอะ”
“...”
“ทำไมคุณชอบมองผมในแง่ร้ายอยู่เรื่อยเลยล่ะลำธาร”
“...”
ฉัน...
“แล้วที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้เพื่อให้คุณหันมาสนใจผมและกำลังช่วยเรย์อยู่ คุณรู้ไหมว่าหมอนั่นมันแอบชอบสายไหมมาตั้งนานแล้ว ผมก็คิดแค่ว่าถ้าคุณรักผมก็น่าจะปล่อยสายไหมไปเพื่อที่จะได้ให้เรย์มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในใจของยัยไหมบ้าง”
“เรย์ชอบสายไหมอย่างนั่นหรือ?” ลำธารถามด้วยความตกใจ
นี่เธอทำร้ายสายไหมไม่พอ เธอยังทำร้ายเรย์อีกหรอเนี้ย
“ใช่” สายน้ำพยักหน้า “แต่เอาเถอะ คุณจะเลิกหรือไม่เลิกมันก็ขึ้นอยู่กับคุณแหละนะ”
“...ฉัน” ลำธารก้มหน้าเงียบไปสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหาสายน้ำ “ก็ได้ ฉันจะเลิกกับสายไหม”
สายน้ำเบิกตากว้างขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยิน “เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ”
“ฉันรู้ว่านายได้ยินแล้ว”
“ผมดีใจที่สุดเลย” สายน้ำยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหมือนเด็กๆ
“แต่ฉันไม่รับปากนะว่าจะเลิกตอนไหน” ลำธารพูดขัดอารมณ์ดีใจของสายน้ำขึ้นมา ทำให้เขาถึงกับหดมือทั้งสองข้างลงมาทันที
“ถึงแม้ผมอยากจะให้เป็นเร็วๆ นี้แต่มันก็ยังดีกว่าคุณไม่รับปากผมล่ะนะ” สายน้ำยิ้ม
“แล้วนายไม่กลัวน้องสาวเสียใจบ้างเลยหรอ”
“กลัวสิ แต่อย่างน้อยถ้าคุณบอกตอนนี้ก็ยังดีกว่าปล่อยไว้นานๆ แล้วให้ยัยนั่นมาเสียใจทีหลัง”
...นั่นสินะ
“แต่ผมว่ายัยนั่นคงเศร้าได้แค่แปปเดียวน่ะแหละ มีไอ้เรย์อยู่ด้วยทั้งคน” สายน้ำหัวเราะคิกคัก
“แล้วนายจะมั่นใจได้ยังไงว่าเรย์จะช่วยได้”
“ก็เพราะยัยนั่นเคยชอบมันน่ะสิ”
“หรอ งั้นก็ดีแล้วล่ะ” ลำธารถอนหายใจอย่างโล่งอก
“คุณดูเป็นห่วงจังเลยนะ” สายน้ำถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
“เป็นห่วงสิ ถ้าฉันเห็นน้องสาวนายร้องไห้เพราะฉัน ฉันคงรู้สึกผิดมาก”
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมเชื่อว่ายังไงเรย์ก็ต้องทำได้” สายน้ำยิ้มอย่างมั่นใจก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “ว่าแต่คุณยังไม่ได้บอกผมเลยนะว่าคุณรักผมหรือเปล่า”
“ถามทำไม”
“ก็เพราะผมอยากรู้ไง”
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่านายรักฉันจริงๆ”
“แค่นี้คุณยังไม่รู้อีกหรอ นี่คุณซื่อหรือโง่นี้ย”
“นี่นาย” เธอยกมือขึ้นมาทำท่าจะตบเขา
“ก็มันจริงนี่น่า” สายน้ำบู้ปาก “แต่เอาเถอะผมเข้าใจว่าคุณมีอดีตที่ไม่ค่อยดี”
“..อืม” ลำธารตอบรับสั้นๆ แล้วก้มหน้า
หลังจากนั้นไม่นานท้องฟ้ายามเย็นที่พระอาทิตย์เริ่มตกลงแล้วเปลี่ยนเป็นพระจันทร์สีนวลสว่างขึ้นมาแทนเริ่มมีเมฆหมอกปกคลุมจนอึมครึ้มไปหมด เสียงฟ้าร้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่สายฝนจะกระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก
“เฮ้ย ฝนตก” สายน้ำตะโกนออกมาอย่างตกใจก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว จนทำให้ลำธารต้องวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
“นี่นาย” ลำธารตะโกนเรียกสายน้ำที่วิ่งฝ่าฝนออกไปแต่เขากลับไม่สนใจเสียงของเธอเลยสักนิด เธอมองสายน้ำที่วิ่งไปเข็นรถมอเตอร์ไซค์สุดที่รักของเขาเข้ามาหลบฝนใต้กันสาดแล้ววิ่งกลับมาหาเธอด้วยสภาพเปียกโชก
“ช็อปเปอร์เกือบเป็นหวัดแล้ว” สายน้ำยิ้มแล้วเอามือสางผมที่เต็มไปด้วยน้ำฝน
“ช็อปเปอร์?”
“ก็มอเตอร์ไซค์ที่รักผมไง”
“..อ้อ” ลำธารร้องอ๋อแล้วมองสภาพคนตรงหน้าอีกครั้ง “แต่ฉันว่านายจะเป็นหวัดแทนช็อปเปอร์ของนายนะ”
“ผมแข็งแรงจะตายไป” สายน้ำทำท่าเบ่งกล้ามให้ลำธารดูก่อนจะจามออกมาเสียงดัง “ฮัดชิ่ว!”
นั่นไง พูดไม่ทันขาดคำ ..เฮ้อ หมอนี่
“แฮะๆ” สายน้ำหัวเราะเจื่อนๆ แล้วเอามือเช็ดน้ำมูกตัวเอง
“เดี๋ยวฉันจะพาไปอาบน้ำ ตามมานี่” ลำธารเดินเข้าไปในบ้านแล้วเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านโดยมีสายน้ำเดินเช็ดน้ำมูกตามหลังต้อยๆ
เมื่อมาถึงหน้าห้องของพ่อของเธอลำธารก็ใช้มือเรียวของเธอเปิดประตูเข้าไปภายในห้องแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าก่อนจะยื่นให้สายน้ำ “ห้องน้ำอยู่ทางขวามือ เดี๋ยวฉันหาเสื้อผ้าที่นายพอจะใส่ได้แล้ววางไว้บนเตียงนะ”
“อ่า โอเค” สายน้ำรับผ้าเช็ดตัวมาจากลำธารแล้วเดินหายไปในห้องน้ำทันที
หลังจากที่สายน้ำเดินหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วลำธารก็เปิดตู้เสื้อผ้าพ่อของเธออีกครั้งเพื่อหาเสื้อให้สายน้ำใส่ ห้องนี้เป็นห้องของพ่อเธอที่ใช้พักอาศัยเมื่อกลับมาที่เมืองไทยแต่น้อยนักที่ท่านจะกลับมาเยี่ยมเธอ ทำให้สภาพห้องแลดูเรียบร้อยแต่มีฝุ่นจับพอสมควรเพราะเธอไม่ค่อยได้เข้ามาทำความสะอาดเท่าไหร่นัก
เอาตัวนี้ก็แล้วกัน
ลำธารหยิบเสื้อยืดสีขาวออกจากตู้โยนไปไว้ที่เตียงแล้วรื้อหากางเกงรำลองของพ่อตนก่อนจะตัดสินใจหยิบกางเกงขาสั้นดำที่สั้นประมาณเข่าออกมา แล้วเอามันมาวางที่เตียงก่อนจะจัดแจงเสื้อที่เธอโยนมาเมื่อกี้ให้เรียบร้อย
แค่นี้ก็เรียบร้อย
เธออมยิ้มออกมานิดๆ แล้วย่อนตัวนั่งลงบนเตียงก่อนจะใช้สายตาสำรวจห้องไปรอบๆ ก่อนที่สายตาของเธอจะไปสะดุดกับรูปๆ หนึ่งที่ถูกใส่กรอบไว้อย่างดีวางอยู่โต๊ะข้างเตียง ลำธารเอื้อมไปหยิบมันแล้วจ้องมองรูปด้วยความคิดถึง
ภาพของพ่อแม่ที่นั่งประกบเด็กผู้หญิงผมยาวพร้อมรอยยิ้มอย่างมีความสุข และเด็กผู้หญิงในภาพที่กำลังยิ้มนั่นก็คือลำธารหญิงสาวผู้ที่มีใบหน้าเรียบนิ่งนั่นเอง
“ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่เคยกลับมาเยี่ยมธารบ้างเลยล่ะคะ” เธอถามคนในรูปด้วยน้ำเสียงน้อยใจก่อนจะวางมันไว้ที่เดิมแล้วเดินออกจากห้องไป
สายน้ำเดินออกมาจากห้องน้ำพลางใช้ผ้าเช็ดหัว เมื่อเดินมาถึงเตียงเขาก็เห็นเสื้อผ้าชุดหนึ่งถูกวางไว้บนเตียงอย่างเรียบร้อย เขายิ้มออกมานิดๆ อย่างมีความสุขก่อนจะใช้สายตาสอดส่องหาหญิงสาวที่เป็นคนจัดแจงเสื้อผ้าให้เขา
สงสัยกลัวเราจะเดินแก้ผ้าออกมาแน่ๆ หาเสื้อผ้าให้เสร็จเลยรีบหนีเลย
เขาหัวเราะคิกคักกับความคิดของตัวเองก่อนจะใช้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย หลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้วสายน้ำก็เดินสำรวจห้องด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนจะหันไปมองรูปที่วางไว้ข้างเตียงแล้วเดินไปหยิบดูใกล้ๆ ภาพที่เขาเห็นคือภาพของพ่อแม่ลูกที่กำลังส่งยิ้มหวานให้กล้องอย่างมีความสุข เขาจึงคาดเดาได้ว่าชายหญิงที่อยู่ในภาพน่าจะเป็นพ่อแม่ของลำธาร ส่วนเด็กผู้หญิงที่ใส่ชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนคือลำธารในวัยเยาว์
น่ารักดีแฮะ
ระหว่างที่สายน้ำกำลังชื่นชมรูปของครอบครัวอยู่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาจึงรีบวางรูปไว้ที่เดิมทันทีก่อนจะหันไปหาผู้มาเยือนที่ใส่ชุดนอนสีชมพูลายตารางเข้ามา
“อาบเสร็จแล้วหรอ”
“อื้ม อาบเสร็จแล้ว” สายน้ำพยักหน้าหงึกๆ แล้วมองชุดหญิงสาว “ชุดคุณน่ารักดีนะ”
“ขอบใจ”
สายน้ำหันไปมองฝนที่ยังคงตกหนักที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลยแม้แต่นิดเดียวแล้วมองนาฬิกาในห้องพบว่าตอนนี้หนึ่งทุ่มเกือบสองทุ่มแล้วก่อนจะหันมามองลำธารอีกครั้ง “ผมว่าผมคงได้นอนค้างบ้านคุณแน่ๆ ตกหนักซะขนาดนี้”
“งั้นนายคงต้องขับรถฝ่าฝนกลับบ้านแล้วล่ะ เพราะฉันไม่ให้นายนอนที่นี้เด็ดขาด”
“โฮย คุณจะใจร้ายเกินไปแล้วนะลำธาร”
ลำธารยักไหล่อย่างไม่แยแสก่อนจะเดินไปเปิดโทรทัศน์ในห้องแล้วเดินไปนั่งบนโซฟา
สายน้ำลุกออกจากเตียงแล้วย้ายไปนั่งบนโซฟาเดียวกับลำธาร “ลำธารอ่า ให้ผมอยู่ค้างด้วยคืนหนึ่งสิ ผมสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี” สายน้ำเอาคางไปวางบนไหล่ของลำธารพร้อมส่งสายตาออดอ้อน
“เอาคางนายออกไป” ลำธารเอามือดันหน้าสายน้ำแล้วเขยิบหนี
“ลำธารอ่า” เขยิบเข้าไปใกล้อีก
“...” เขยิบหนี
สายน้ำเบะปากออกมาเหมือนเด็กๆ เมื่อลำธารเขยิบหนีก่อนจะเขยิบตาม “ลำธารร”
“นี่นาย ฉันจะดูหนัง” ลำธารหันมามองด้วยสายตาไม่พอใจ
“ลำธารใจร้าย” สายน้ำกอดอกแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนเด็กกำลังงอน
ลำธารมองคนตัวโตที่ทำตัวเป็นเด็กด้วยสายตาเอือมๆ เล็กน้อยแล้วหันกลับไปสนใจหนังในโทรทัศน์ต่ออย่างตั้งใจ
สายน้ำหันกลับมามองลำธารที่ไม่มีท่าทีว่าจะง้อเขาเลยแม้แต่นิดเดียว “นี่คุณไม่คิดจะง้อผมเลยหรอ”
“ใช่”
..ตอบชัดท่อยชัดคำมาก
“ฮู้ว วัยรุ่นเซ็ง” สายน้ำเบะปากแล้วหันไปให้ความสนใจกับหนัง “นี่คุณดูเรื่องอะไรอยู่อ่ะ”
“คดีรักสืบสวนหัวใจ”
“แล้วเรื่องมันเป็นยังไงบ้างหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกันเพิ่งดูครั้งแรก คงเกี่ยวพวกสืบสวนล่ะมั้ง”
“อ๋อ...” สายน้ำพยักหน้าคล้อยตาม “งั้นผมขอดูด้วยคนนะ”
“ก็ดูไปสิ” ลำธารพูดขณะที่สายตากำลังจดจ้องกับหนังอยู่
สายน้ำพยักหน้าหงึกๆ แล้วหันไปสนใจหนังอย่างตั้งใจโดยเหลือบมองหญิงสาวข้างๆ เป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากไหนก็ตามเธอก็คงแสดงสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย อาจจะมีสะดุ้งขึ้นมาบ้างเล็กน้อยเมื่อมีเสียงเอฟเฟ็คแต่เธอก็กลับมาสภาพปกติได้อย่างรวดเร็ว ผ่านไปสองชั่วโมงหนังก็จบลงเรียบร้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นรายการเพลงเกาหลี
“คุณฟังเพลงเกาหลีด้วยหรอ” สายน้ำหันไปถามลำธาร
“ก็ฟังนิดหน่อย”
“งั้นคุณต้องรู้จักเพลงนี้แน่เลย Bo Peep Bo Peep Bo Peep Bo Peep อ่า Bo Peep Bo Peep Bo Peep Bo Peep Bo Peep Bo Peep Bo Peep Bo Peep อ่ะ อ่ะ” สายน้ำร้องเพลงพร้อมเต้นให้เธอดู
ลำธารมองสายน้ำด้วยความอึ้งทึ่งกับท่าทางแอ๊บแบ๊วของเขา นี่ถ้าเธอไม่รู้จักเขาเธอคงคิดว่าเขาเป็นตุ๊ดแน่ๆ
“ตกลงคุณรู้จักไหม” สายน้ำถามย้ำลำธารแล้วทำท่าเหมียวหงาวอีกครั้ง
“อืม รู้จัก หยุดเต้นเถอะ” ลำธารยกมือขึ้นมาห้ามสายน้ำ
“ทำไมอ่ะ”
“มันน่าเกลียด”
“ออกจะน่ารัก” สายน้ำบู้ปากแล้วทำท่าแมว “เมี้ยวว”
“เลิกทำได้แล้ว ไม่งั้นกลับบ้านไปเดี๋ยวนี้”
“ง่ะ หยุดก็ได้” สายน้ำหยุดเต้นแล้วหันไปสนใจรายการเกาหลีต่อที่ตอนนี้มีนักร้องบอยแบรนด์กำลังเต้นอยู่แล้วชี้ไปที่หนึ่งในนั้น “เฮ้ย คนนี้หน้าเหมือนผมเลยอ่ะ”
ลำธารมองคนที่สายน้ำชี้แล้วหันไปมองสายน้ำเพื่อเปรียบเทียบ “ไม่เห็นจะเหมือน”
“เหมือนออก ตอนแรกมองนึกว่าตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้น”
“เวอร์”
“เอ้า จริงๆ คุณดูดีๆ สิ” สายน้ำยื่นหน้าไปใกล้ๆ ลำธาร “เหมือนไหม”
“นี่” ลำธารพยายามเขยิบหนีออกแต่สายน้ำก็ขยับตามมาเรื่อยๆ จนเธอชิดขอบโซฟา
“บอกผมก่อนสิเหมือนไหม” สายน้ำยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอมากกว่าเดิม
“ไม่รู้” ลำธารหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาของสายน้ำ
“ก็หันไปมองสิจะได้รู้เหมือนหรือไม่เหมือน” สายน้ำเอามือดันหน้าลำธารให้หันมาหาตนเองก่อนที่ทั้งสองจะสบตากัน
ลำธารจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนถูกต้องมนตร์สะกดก่อนที่เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลจะค่อยๆ เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนริมฝีปากของทั้งคู่แนบชิดติดกัน ทั้งสองมอบความรู้สึกที่ตนมีต่ออีกฝ่ายผ่านทางริมฝีปากนี้อย่างเนินนานก่อนจะค่อยๆ ผละออกจากกัน
“ผมขอถามคุณอีกครั้งนะ คุณรักผมไหมลำธาร” สายน้ำถามด้วยน้ำเสียงเผ่วเบา
“ฉัน...ไม่รู้” เธอเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความอาย
“แสดงว่ามันก็เปอร์เซ็นที่คุณจะรักผมใช่ไหม”
“..อืม” ลำธารตอบแล้วหันมาสบตากับอีกฝ่าย “สายน้ำ”
“ครับ?”
“รอฉันมั่นใจมากกว่านี้ก่อนแล้วฉันค่อยบอกนายได้ไหม”
“ได้ ผมจะรอ”
เอาตอนที่สิบห้ามาเสิร์ฟแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ช่วงนี้เริ่มปั่นเสร็จแล้วอัพเลยเพราะกลัวไม่มีเวลาอัพ ฮ่าๆ
เพราะฉะนั้นไม่ได้ตรวจคำผิดค่ะ ผิดตรงไหนรบกวนบอกหน่อยน้า
ขอบคุณเจ้อุ้ยมากที่บอกจ้ะ พริลได้แก้คำผิดเรียบร้อยแล้ว ><
ตอนแรกกะว่าเรื่องนี้จะมีซักยี่สิบสี่ตอนแต่ตอนนี้ก็ไม่รู้แล้วอ่ะว่าจะจบตอนที่เท่าไหร่
แต่ก็คงจะใกล้แล้วล่ะ
เห็นบทนี้แล้วคงมีลุ้นกันว่าจะสมหวังกันแล้ว
แต่!
ไรท์เตอร์ไม่ให้สมหวังกันง่ายๆ หรอก (/หลบรองเท้า)
อยากรู้ก็รอตอนต่อไปจ้ะ ๕๕๕๕
ความคิดเห็น