ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Over Love One Hundred รักเธอเกินร้อยขอเอาหัวใจเป็นประกัน

    ลำดับตอนที่ #14 : การกลับมาพร้อมแผนสุดร้ายกาจของสายน้ำ # ๑๓

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 54


    13

    การกลับมาพร้อมแผนสุดร้ายกาจของสายน้ำ

    “ระวังขับชนบ้านคนอื่นเขานะลุง” สายน้ำตะโกนบอกลุงจอมที่หันมาโบกมือให้ทั้งสองด้วยรอยยิ้ม ลุงจอมหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับคำพูดติดตลกของสายน้ำก่อนจะหันไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถกลับบ้าน

    หลังจากที่ลุงจอมขับรถออกจากซอยไปเรียบร้อยสายน้ำก็หันกลับมามองบ้านของตัวเองอย่างดีใจแล้วหันไปมองลำธารที่ยืนอยู่ข้างๆ ที่ไม่สามารถเข้าบ้านตัวเองได้เนื่องจากเธอทำกุญแจบ้านหายระหว่างหนีพวกเบลจึงทำให้หญิงสาวหัวเสียไม่นอน ดีนะที่กุญแจบ้านของเขาไม่หายไม่งั้นคงไม่ได้เข้าบ้านเนื่องจากพี่ชายฝาแฝดตัวดีของเขาไม่ยอมรับโทรศัพท์ส่วนน้องสาวก็ไปเรียน

    “เอาน่า เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้านผมก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยหาทางเข้าบ้านคุณ” สายน้ำบอกคนข้างๆ ที่ยืนหน้าหงิกอยู่แล้วไขกุญแจ

    ลำธารพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านสายน้ำ

    ตั้งแต่ที่เดินก้าวเข้ามาภายในบ้านสายน้ำเดินสำรวจไปทั่วอย่างคิดถึงพบว่าในบ้านยังคงสภาพเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    “นี่นาย” ลำธารสะกิดเรียกสายน้ำที่มัวแต่เดินสำรวจบ้านจนแทบลืมไปแล้วมีเธอยืนอยู่ข้างๆ เขา “จะให้ฉันเปลี่ยนชุดตรงไหน”

    “เดี๋ยวผมพาไปที่ห้องแม่ผมก็แล้วกัน คุณจะได้เปลี่ยนชุดสะดวก” สายน้ำเดินนำไปที่ห้องแม่ของเขา

    เมื่อมาถึงหน้าห้องสายน้ำก็เปิดประตูพาลำธารเข้าไปในห้องโดยไม่รู้ถึงความผิดปกติภายในห้อง ขณะที่สายน้ำกำลังเดินนำลำธารไปที่ห้องน้ำเขาก็ต้องหยุดกึกทันทีแล้วมองไปที่เตียงอย่างตะลึง

    ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นที่ตะลึงลำธารที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ตะลึงจนแทบจะหงายหลังกันเลยทีเดียว

    ทั้งสองพร้อมใจกันโฟกัสสายตาไปที่เตียงขนาดหกฟุตที่มีชายหนุ่มหน้าตาเหมือนสายน้ำกำลังนอนกอดหญิงสาวผมสีชมพูนมเย็นไว้ในอ้อมแขน

    สายน้ำมองภาพตรงหน้าแล้วก่นด่าพี่ชายฝาแฝดของตัวเองในใจ

    น้องชายแกหายไปทั้งคนยังมีหน้ามานอนกอดผู้หญิงอีกหรอ ไอ้พี่ไม่รักดี!

    ส่วนลำธารที่กำลังหงุดหงิดเรื่องกุญแจหายอยู่ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นเพื่อนสาวของเธอกำลังกอดกับสายลมอย่างสบายใจโดยไม่เป็นห่วงเพื่อนอย่างเธอที่หายไปทั้งคนเลยสักนิดเดียว!

    “ยัยซาซ่า” ลำธารกัดฟันกรอดแล้วทำท่าจะเข้าไปปลุกซาซ่าทำให้สายน้ำต้องรีบดึงมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว

    “ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ผมว่าเรารีบไปอาบน้ำเถอะ” สายน้ำรีบลากลำธารออกจากห้องทันทีก่อนที่เธอจะอาละวาด

    ลำธารทำท่าขัดขืนเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยอมให้เขาลากเธอไปแต่โดยดี

    หลังจากที่ออกมาจากห้องของแม่สายน้ำ (ที่ตอนนี้กลายเป็นห้องสวีตไปเรียบร้อยแล้ว) เขาก็พาเธอไปที่ห้องสายไหมแทนก่อนจะแยกไปอาบน้ำที่ห้องของตัวเองโดยให้ไปเจอเขาข้างล่างหลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    เมื่อเสียงประตูปิดลงโดยฝีมือสายน้ำ ลำธารก็รีบล็อกประตูทันทีเพื่อกันใครเข้ามาในขณะที่เธอกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวสีชมพูของสายไหมที่แขวนอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

                    ผ่านไปเกือบชั่วโมงลำธารก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวตัวจิ๋วพันร่างกาย ปกติแล้วเธอจะอาบน้ำอย่างมากก็เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแต่ครั้งนี้ที่เธออาบน้ำนานเป็นพิเศษเนื่องจากเธอไม่ได้อาบน้ำมาสองวันเต็มๆ แถมยังอยู่ในป่าอับชื้นอีก

                    ลำธารหันไปมองนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียงของสายไหมพบว่าตอนนี้เกือบบ่ายสามแล้วเธอจึงรีบหยิบเสื้อในถุงออกใส่ทันที เพราะสายน้ำต้องรีบไปดูร้านเนื่องจากสายลมมัวแต่นอนกอดสาวไม่ยอมออกไปเปิดร้าน

                    สายน้ำที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังนั่งดูโทรทัศน์รอลำธารไปพลางๆ ในชุดเสื้อยืดสีดำลายมิกกี้เม้าส์ยืนเด่นหลาอยู่ตรงกลางและกางเกงยีนส์สีน้ำเงินซีด ระหว่างที่เขากำลังนั่งโฆษณาไปเพลินๆ ระหว่างรอดูการ์ตูนลำธารก็เดินลงมาพอดี เขาจึงลุกขึ้นไปปิดโทรทัศน์แล้วหยิบพวงกุญแจและกระดาษโน้ตที่เขาเพิ่งเขียนอะไรสักอย่างลงไปเมื่อกี้บนโต๊ะแล้วเดินนำไปที่รถสายลมพร้อมเปิดประตูรถให้เธอและปิดให้ดั่งคุณนายก่อนจะเดินเอากระดาษโน้ตไปแปะไว้ที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง

                    มัวแต่นอนกอดสาวไม่ยอมตื่น งั้นขอยืมรถไปใช้ก่อนนะ

                                                                            สายน้ำ

                    สายน้ำยิ้มอย่างพอใจแล้ววิ่งไปเปิดประตูรั้วก่อนจะเดินกลับมาที่รถสายลมแล้วสตาร์ทรถออกไปทันที

                   

                    “ขอบคุณที่มาอุดหนุนครับ” สายน้ำกล่าวขอบคุณลูกค้าด้วยรอยยิ้มแต่พอลูกค้าออกจากร้านปุ๊บเขาก็บ่นออกมาเป็นชุด “ดูสิ ถ้าผมไม่มาที่ร้านลูกค้าคงยืนรอรากงอกแล้ว ไอ้สายลมนะไอ้สายลม โทรศัพท์ก็ไม่รับเกือบเสียลูกค้าไปแล้วเนี้ย”

                    ลำธารนั่งมองสายน้ำบ่นเหมือนผู้หญิงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติแล้วสายน้ำจะเป็นคนง่ายๆ ไม่ใช่ลุงแก่ขี้บ่นแบบนี้

                    แต่มันก็สมควรโดนบ่นล่ะนะ เล่นปล่อยให้ลูกค้ายืนรอหน้าร้านเกือบชั่วโมงแถมลูกค้าโทรไปก็ไม่รับโทรศัพท์ ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนต้องการซื้อแจกันไปใช้ด่วนป่านนี้คงหนีกลับบ้านไปแล้ว ดีที่สายน้ำกับเธอมาพอดี

                    “นั่นไงพูดถึงก็โผล่หัวมาเลย” สายน้ำหันไปมองสายลมที่กำลังเดินมาทางร้านผ่านกระจกใส ลำธารจึงหันไปมองตามพบว่าซาซ่าก็มาด้วย

                    “เป็นไงหลับสบายไหม” สายน้ำพูดแขวะสายลมทันทีเมื่อเขาเข้ามาในร้าน

                    “มาตั้งแต่เมื่อไหร่” สายลมถามสายน้ำโดยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่สายน้ำแขวะเมื่อกี้

                    “เพิ่งกลับมาวันนี้ นี่ ตอนที่ฉันไม่อยู่มีเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” สายน้ำถามอย่างมีเลศนัย

                    “ไม่มีนิ”

                    “หรออ” สายน้ำลากเสียงยาว “แล้วทำไมถึง...”

                    “แกรดน้ำต้นไม้ยัง” สายลมรีบพูดแทรกขึ้นมาทันทีเพราะรู้ว่าน้องชายของเขากำลังจะพูดอะไรออกมา

                    “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ว่าแต่ฉันแกก็พอๆ กันแหละวะ”

                    “ถ้าแกยังไม่หยุดพูดเรื่องนี้ฉันจะถีบแกออกไปนั่งนอกร้าน”

                    “โห โหด” สายน้ำเบ้ปาก “ไม่ถามแกแล้วก็ได้ ถามยัยนี่ดีกว่า” สายน้ำหันไปหาซาซ่าที่ยืนเหงื่อแตกอยู่ข้างๆ สายลมโดยไม่พูดอะไร

                    “จะถามอะไรฉัน ฉันไม่รู้เรื่อง” ซาซ่ารีบพูดอย่างร้อนตัวแล้วหันไปเหลือบมองลำธารที่นั่งมองเธอนิ่งๆ แต่ดวงตาแทบลุกเป็นไฟ

                    “แล้วเธอรู้ได้ไงว่าฉันจะถามอะไร”

                    “ก็ไม่รู้ไง”

                    “นั่นสิ เธอจะรู้ได้ไง” สายน้ำยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

                    “พอๆ เลิกแกล้งยัยนั่นได้แล้ว” สายลมห้ามสายน้ำเสียงดุๆ “ไปทำงานไป”

                    “ก็ด๊ายยย” สายน้ำลากเสียงแล้วเดินไปนั่งตรงเคาร์เตอร์

                    ซาซ่าถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อสายน้ำไม่ได้ซักไซร้อะไรแล้วก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้โดยลืมไปว่ามีอีกคนนั่งอยู่ด้วย เมื่อเห็นหันไปเจอลำธารจึงถึงกับสะดุ้ง

                    “ฉันซวยเพราะแกแต่แกกลับดูไม่เดือดร้อนอะไรเลยเนอะ” ลำธารพูดเสียงเย็น

                    “เดือดร้อนสิ” ซาซ่ารีบแย้ง “ฉันกับสายลมบุกไปถึงบ้านยัยเบลเลยนะแต่ยัยนั่นไม่ยอมพูดอะไรเลยแถมยังกวนประสาทฉันอีก”

                    ลำธารหัวเราะในลำคอแล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

                    ซาซ่ารู้ทันทีว่าถ้าเพื่อนของเธอเบือนหน้าหนีแบบนี้แสดงว่ากำลังงอนเธอจึงรีบง้อทันที “โฮ แกอย่างอนฉันเลยน้า ฉันสัญญาว่าฉันจะเล่าทุกอย่างให้แกฟังหมดเลย”

                    แต่เธอพูดไปก็เท่านั้นเพราะไม่มีสัญญาณตอบกลับจากลำธารเลยแม้แต่นิดเดียว

                    ซาซ่าถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่แล้วหันไปมองสายลมอย่างโกรธๆ

                    เพราะนายคนเดียว!

                    หลังจากนั้นภายในร้านก็ตกอยู่ในความเงียบโดยไม่มีใครพูดอะไรเลยจนกระทั่งมีเสียงระฆังตัวน้อยหน้าร้านดังขึ้น

                    กรุ๊งกริ๊ง

                    “พี่ลำธาร!!!” สิ้นเสียงระฆังประตูร้านเสียงของเด็กผู้หญิงก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังแล้วพุ่งเข้าไปกอดหญิงสาวที่นั่งหน้าบึ้งอยู่โดยที่เจ้าตัวยังไม่ทันได้ตั้งตัว “ไหมคิดถึงพี่ที่สุดเลย พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

                    “เพิ่งกลับมาวันนี้น่ะ” ลำธารกอดตอบเด็กสาวเบาๆ

                    “นี่ ไม่คิดถึงพี่เลยหรอ” สายน้ำพูดอย่างคุนเคืองแล้วหันไปมองเรย์ที่เพิ่งมาพร้อมสายไหมเมื่อกี้ กำลังมองภาพสายไหมกำลังกอดลำธารด้วยแววตาน้อยใจ

                    สายไหมคลายอ้อมกอดออกจากลำธารแล้วเดินไปกอดพี่ชายของตัวเอง “คิดถึงสิ”

                    “สายไปแล้วล่ะ” สายน้ำแกะแขนน้องสาวแล้วเดินหนีไปหาเรย์ “เป็นไงบ้าง สบายดีไหมไอ้น้อง” สายน้ำกอดคอเรย์

                    “ก็สบายดีครับ” เรย์ตอบอย่างหวั่นๆ เพราะเขารู้ว่าที่สายน้ำเดินมาหาเขาแบบนี้ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ

                    “โฮย พี่น้ำอ่ะ” สายไหมเบะปาก

                    สายน้ำหันไปแลบลิ้นใส่สายไหมแล้วหันกลับมาหาเรย์พร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตรแต่สำหรับเรย์มันเหมือนยิ้มที่เคลือบยาพิษมากกว่า “ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน ฉันมีเรื่องอยากจะคุยแกเยอะแยะเลย ไปคุยกันที่หลังร้านหน่อยสิ”

                    “คุยตรงนี้ก็ได้มั้ง”

                    “แต่ฉันอยากคุยกับแกเป็นการ ส่วนตัว มากกว่า” สายน้ำยิ้ม

                    “เอ่อ... ก็ได้” เรย์ยิ้มเจื่อนๆ

                    สายน้ำยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้านโดยมีเรย์ที่เดินเหงื่อตกตามเข้าไปอย่างจำใจ

                    สายไหมหันไปมองทั้งสองที่เดินหายเข้าไปหลังร้านด้วยแววตาสงสัยแล้วหันไปหาลำธาร “พี่กินอะไรมาหรือยังคะ”

                    “ยัง”

                    “งั้นเราไปกินข้าวกันไหมคะ พี่ลมกับพี่ซ่าด้วย”

                    “ไม่ล่ะ พี่ต้องเฝ้าร้าน ไหมไปกินเถอะ” สายลมบอกน้องสาวพลางฉีดน้ำต้นกล้วยไม้

                    “ฉันไม่อยากไปเป็นกขค.ใคร พวกเธอไปกันสองคนเถอะ” แน่นอนว่าคนที่พูดประโยคนี้ต้องเป็นซาซ่า

                    “คงต้องไปกันสองคนแล้วล่ะ” ลำธารหันมาพูดกับสายไหม

                    “ก็ว่างั้นแหละค่ะ” สายไหมหัวเราะ “ไปกันเถอะค่ะ” สายไหมจับมือลากลำธารออกไปนอกร้านทันที

                    ด้วยความหิวของลำธารที่ไม่ได้กินข้าวมาถึงสองวันเธอจึงยอมให้สายไหมลากไปแต่โดยดี

                   

                    อีกทางด้านหนึ่ง

                    “ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยหรอ” สายน้ำถามอย่างแปลกใจ “เป็นไปได้ยังไง แกก็ออกจะหน้าตาดีไหงน้องฉันถึงไม่สน”

                    “แต่อย่างน้อยไหมเขาก็ยอมคุยกับผมดีๆ นี่มันก็ถือว่าคืบหน้าแล้วไม่ใช่หรอ”

                    “มันก็ใช่แต่แกดูสิ เมื่อกี้พอยัยไหมมาถึงก็วิ่งมากอดลำธารซะแน่น” สายน้ำพูดอย่างไม่พอใจทำให้เรย์ออกอาการสงสัยขึ้นมาทันที

                    “ผมว่าความจริงพี่ก็ไม่น่าจะไปยุ่งเรื่องของสองคนนั้นนะ นอกจากพี่จะแอบชอบพี่ลำธาร”

                    สายน้ำเงียบไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา “ใช่ ฉันชอบลำธาร”

                    “โฮย ที่แท้ก็อยากกำจัดน้องสาวให้พ้นทาง นิสัยเสียจริงๆ เลยพี่” เรย์พูดอย่างตำหนิก่อนจะกระโดดหลบเท้าสายน้ำที่ยกขึ้นจะมาถีบเขา

                    “ฉันกำลังช่วยแกอยู่นะ”

                    “ผมไม่ได้ขอสักหน่อย” เรย์พึมพำ

                    “งั้นเงินเดือนเดือนนี้กับเดือนหน้าไม่ต้องเอาก็แล้วกันนะ”

                    “เอาเรื่องเงินมาขู่อีกละ ก็ได้ๆ ผมขอโทษ”

                    “ต้องอย่างนี้สิ” สายน้ำตบบ่าเรย์แรงๆ จนอีกฝ่ายเบ้ปากออกมาด้วยความเจ็บ

                    “แล้วจะให้ผมทำยังไงต่อ” เรย์พูดพลางลูบไหล่ตัวเองเบาๆ

                    “แกจำเรื่องค่ายที่ฉันเคยพูดได้ไหม”

                    เรย์พยักหน้า

                    “ระหว่างอยู่ค่ายแกทำยังไงก็ได้ให้ยัยไหมชอบ ส่วนที่เหลือฉันจัดการเอง!”

    ตกใจล่ะเซ่ที่มารวดเดียวแบบไม่ได้บอกได้กล่าวกันแบบนี้
    ไม่ต้องตกใจค่ะ
    เนื่องจากพรุ่งนี้นังไรท์เตอร์คนนี้เปิดเทอมแล้วคงหาโอกาสมาอัพยาก (และแต่งยากด้วย)
    คาดว่าเปิดเทอมคงต้องนอนเร็วตื่นเร็วเพื่อมาปั่นนิยาย ไม่งั้นคงไม่เสร็จ
    รอตอนนี้ที่สิบสี่ไปก่อนก็แล้วกันนะยังแต่งไม่เสร็จเลย ฮ่าๆ
    ถ้ารู้สึกแปลกยังไง ตรงไหน สามารถบอกได้นะยินดีรับฟังค่ะ :'D

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×