ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Over Love One Hundred รักเธอเกินร้อยขอเอาหัวใจเป็นประกัน

    ลำดับตอนที่ #13 : ผมจะดูแลคุณเอง # ๑๒

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 54


    12

    ผมจะดูแลคุณเอง

                    แสงแดดยามเช้าลอดส่องแสงเข้ามาในป่ากระทบกับตาของลำธารทำให้เธอต้องลืมตาตื่นขึ้นมาทันที  ลำธารลุกขึ้นมานั่งแล้วหันไปมองที่นอนของสายน้ำที่ตอนนี้เจ้าตัวหายไปไหนก็ไม่รู้มีเพียงกล้วยหนึ่งหวีที่วางเอาไว้เท่านั้น

                    หมอนั่นไปเอากล้วยมาจากไหนกัน

                    ลำธารขมวดคิ้วมองกล้วยหวีนั้นอย่างสงสัยแล้วหยิบมันขึ้นมาก่อนที่จะมีเสียงท้องร้องของลำธารดังโครกครากออกมาเสียงดัง

                    ลำธารเอามือจับท้องเจ้ากรรมของตัวเองแล้วหันไปมองกล้วยในมืออีกครั้ง

                    กินได้ไหมนะ

                    “อ้าว ตื่นแล้วหรอ” เสียงของสายน้ำดังขึ้นมาจากด้านหลังลำธาร

                    ลำธารรีบวางกล้วยลงทันทีก่อนจะหันไปหาต้นเสียง

                    สภาพของสายน้ำตอนนี้ได้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำในมือถือแปรงสีฟันสีชมพู ผมมีหยดน้ำเกาะอยู่เต็มไปหมดทำให้เขาเซ็กซี่เข้าไปใหญ่เมื่อเสื้อสีขาวที่เขาใส่อยู่แนบติดเนื้อจนเห็นอะไรต่อมิอะไรข้างในหมด ทำให้ลำธารถึงกับผงะ

                    สายน้ำก้มมองเสื้อที่เปียกแชะของตัวเองก่อนจะเสยผมอย่างอายๆ “ผมไปอาบน้ำมาน่ะ”

                    “อืม ว่าแต่นี่ของนายหรอ” ลำธารพยายามเปลี่ยนเรื่องแล้วชี้ไปที่กล้วย

                    “ของคุณต่างหาก” สายน้ำเดินมานั่งข้างๆ ลำธาร

                    “ของฉัน?”

                    “ใช่ เมื่อเช้าผมยังเห็นคุณไม่ตื่นเลยเดินหาของกินในป่ามาให้คุณกิน”

                    “แล้วนายไม่กินหรอ”

                    “เอาไว้คุณกินอิ่มก่อนแล้วผมค่อยกิน” สายน้ำยิ้ม “เออว่าแต่คุณอยากอาบน้ำไหมเดี๋ยวผมพาไป”

                    “ก็ดี”

                    “งั้นตามผมมาเลย” สายน้ำลุกขึ้น

                    ลำธารลุกขึ้นยืนตามสายน้ำแล้วปัดเศษดินตามเสื้อผ้า

                    “แปรงสีฟันคุณอ่ะ” สายน้ำถาม

                    “อยู่ในถุง” ลำธารพูดก่อนจะเดินไปหยิบ

                    สายน้ำมองแปรงสีฟันที่ลำธารถืออยู่อย่างยิ้มๆ แล้วนำลำธารไปยังน้ำตก

                   

    เสียงน้ำจากยอดสูงตกลงมาสู่ด้านล่างดังกระหึ่มไม่ขนาดสาย ร่างเพรียวของลำธารกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าอย่างสบายใจ

    เธอหันไปมองน้ำตกที่ไหลลงมาอย่างมีความสุขแล้วอุ้มน้ำไว้มือทั้งสองข้าง

                    สบายจัง

                    สายน้ำมองลำธารเล่นน้ำเขารู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอดูมีความสุขมากถึงแม้เธอจะไม่ได้ยิ้มออกมาอย่างเห็นได้ชัดแต่สีหน้าของบ่งบอกถึงความมีความสุขในตัวเธอที่เจาไม่เคยเห็นมาก่อน สายน้ำจึงอดยิ้มไม่ได้กับภาพของสาวตรงหน้า

                    เวลาคุณอยู่กับผมแล้วมีความสุขแบบนี้บ้างก็ดีสิแต่คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะอยู่กับผมทีไรคุณชอบทำหน้าบึ้งใส่ทุกที

                    ...แต่นั่นก็น่ารักไปอีกแบบนะ ฮ่ะๆ

                    ถึงตอนที่สายน้ำเจอลำธารครั้งแรกเขารู้สึกถูกใจเธอแต่นั่นมันก็เป็นเพียงความประทับใจทางหน้าตาของเธอเท่านั้นซึ่งมันก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่เขาเจอ แต่พอรู้จักกันมาเรื่อยๆ ลำธารกลับไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นอย่างที่เขาคิดเพราะขนาดเขาพยายามทำดีและหว่านเสน่ห์ใส่เธอบวกกับหน้าตาที่ดูหล่อเหลาตั้งแต่เกิดของเขาอยู่แล้วลำธารก็ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเขาเหมือนคนอื่นเลยสักนิดแถมยังทำท่ารังเกียจใส่อีกต่างหาก ทำให้สายน้ำรู้สึกแปลกใจอย่างบอกไม่ถูกจนมารู้ความลับของลำธารจากซาซ่าเขาจึงรู้สาเหตุที่เธอทำท่ารังเกียจเขาเข้าไส้ ความคิดที่จะจีบเล่นๆ ของเขาเลยกลายเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที เขาพยายามหาทางเข้าใกล้ลำธารมากขึ้นและพยายามทำดีกับเธอมากขึ้น แต่ความพยายามของเขาก็ต้องพังลงเมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังคบกับสายไหมน้องสาวแท้ๆ ของเขาทั้งที่บอกให้เลิกยุ่งแล้ว ทำให้วันนั้นเขาโกรธลำธารมากและล้มเลิกความคิดที่จะจีบลำธารเปลี่ยนเป็นหาทางให้ลำธารและน้องสาวของเขาเลิกยุ่งกัน

    แต่ดูเหมือนว่าความคิดที่เขาล้มเลิกไปจะถูกนำมาใช้อีกครั้งตั้งแต่ที่มาช่วยลำธาร

    เขาได้พบอีกด้านหนึ่งของลำธารในวันที่เขาได้จุมพิตริมฝีปากงามของเธอเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเขาตกใจมากที่จู่ๆ เธอก็ร้องไห้ออกมา ในวันนั้นทำให้เขาได้รู้ว่าลำธารก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ต้องการการปกป้องจากผู้ชาย

    และสายน้ำคนนี้แหละจะเป็นคนปกป้องเธอเอง

    “นี่นาย!

    สายน้ำสะดุ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงลำธารตะโกนเรียกเขาเสียงดัง

    “มีอะไรหรอ” สายน้ำหันไปหาต้นเสียง

    เรียกตั้งนานเพิ่งจะได้ยิน มัวแต่คิดอะไรอยู่นะนายนี่

    “ช่วยไปหยิบถุงสีชมพูกับถุงสีขาวให้หน่อยแล้วก็เสื้อด้วย”

    “อ้อ ได้ๆ” สายน้ำพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะเดินหายไป

    ลำธารขึ้นมาทางน้ำตกแล้วยืนรอสายน้ำเธอใช้เวลาที่รอมองป่าไปรอบๆ อย่างเรื่อยเปื่อยโดยไม่นึกถึงภัยที่กำลัง

    ย่างก้าวเข้ามาหาเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

    ชายผิวสีแทนสภาพผมกระเซอะกระเซิง เสื้อผ้ามีเศษดินเต็มไปหมดกำลังมองไปที่หญิงสาวรูปร่างดีที่เพิ่งขึ้นมาจากน้ำอยู่ตรงพุ่มไม้รกๆ เมื่อเขาเห็นว่าชายหนุ่มที่มากับเธอด้วยได้เดินหายไปแล้วเขาจึงค่อยๆ ย่องเดินไปหาเธออย่างเบาที่สุด

    ชายซกมกเดินอ้อมมาทางด้านหลังของเธอแล้วใช้มือดำๆ ของเขาปิดปากเธอไว้แน่นก่อนจะพยายามลากเธอไปที่พุ่มไม้

    ลำธารที่มัวแต่เหม่อมองอะไรไปเรื่อยเปือยจนไม่ทันระวังตัวกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจเมื่อถูกมือหยาบของใครบางคนมาปิดที่ปากของเธอและเอาร่างกายของตัวเองมาเบียดตัวของเธออีกต่างหาก เธอพยายามดิ้นสุดชีวิตแล้วพยายามโวยวายเสียงดังขึ้นเมื่อมือหยาบเริ่มเลื่อนมาจับที่หน้าอกของเธอ

    “อ่อยอั๊ย!”

    “อ๊า นุ่มจัง”

    ไอ้โรคจิต!!!

    เมื่อได้ยินคำพูดสุดโรคจิตทำให้ลำธารถึงกับปี๊ดแตก เธอจึงพยายามดิ้นสุดแรงเท่าที่มีพร้อมใช้เท้าเหยียบเข้าที่เท้าสกปรกเต็มแรง

    “เฮ้ย ทำอะไรวะ!” สายน้ำที่เพิ่งมาตะโกนชี้หน้าไอ้โรคจิตอย่างโมโหจนมันรีบผละตัวออกจากลำธารแล้ววิ่งหนีไปทันที

    สายน้ำทิ้งถุงที่ถืออยู่ในมือทิ้งลงพื้นแล้วรีบวิ่งตามไอ้โรคจิตไปติดๆ ก่อนจะถีบหลังมันจนล้มลงไปกับพื้นแล้วขึ้นคร่อมบนตัวมัน

    “ไอ้เวรเอ๊ย!” สายน้ำซัดมัดเข้าไปที่หน้าเต็มแรง

    “แกกล้าดียังไงมาทำแบบนี้”

    ผัวะ!

    “ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ผมขอโทษ” ไอ้โรคจิตยกมือไหว้สายน้ำพร้อมร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด

    สายน้ำหยุดต่อยแล้วดึงขอเสื้อคนด้านล่างขึ้นมา “ขอโทษอย่างนั้นหรอ คำขอโทษของแกมันไม่สามารถลบความรู้สึกของผู้หญิงคนนั้นได้หรอกนะ” สายน้ำยิ้มเหี้ยม “ฉันไม่รู้หรอกว่าแกทำแบบนี้กับใครมากี่คนแล้ว” สายน้ำปล่อยมืออกจากคอเสื้อแล้วลุกขึ้น “แต่ฉันรู้แค่ว่าฉันรักผู้หญิงคนนี้มาก คนชั้นต่ำอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องแม้แต่ปลายเล็บ” สายน้ำใช้เท้าเตะคนเบื้องล่างเต็มแรงแล้วชี้หน้า “จำไว้!”

    หลังจากที่จัดการคนสารเลวเรียบร้อยแล้วสายน้ำก็รีบกลับไปหาลำธารทันทีเพราะเขารู้ว่าตอนนี้เธอขวัญเสียมากแค่ไหน

    เขามองลำธารที่ยืนกำเสื้อแน่น เม้มปากเป็นเส้นตรง น้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างรู้สึกผิด

    “เพราะผมมาช้าเลยทำให้คุณต้องเจออะไรแบบนี้ ขอโทษนะ”

    ลำธารเม้มปากแน่นกว่าเดิมแล้วเดินเข้าไปใกล้สายน้ำแล้วยืนก้มหน้านิ่งสักพักก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดสายน้ำโดยไม่ได้ตั้งตัว

    “..ฉันจะทำยังไงดี” ลำธารซุกหน้าที่แผงอกของสายน้ำแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่ได้

    “คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดูแลคุณเอง” สายน้ำกอดตอบลำธารแล้วลูบหัวเธอเบาๆ

     

     

    หลังจากยืนปลอบลำธารอยู่นานเธอก็หยุดร้องไห้และมีสติขึ้นมาบ้างแล้ว สายน้ำจึงพาลำธารกลับมาที่พักเพื่อเติมพลังงาน

    “เดี๋ยวผมป้อนนะ” สายน้ำปลอกเปลือกกล้วยแล้วยื่นไปหาลำธาร “อ้าม”

    “ฉันกินเองได้” ลำธารเอื้อมมือไปแย่งกล้วยจากสายน้ำ

    สายน้ำยกกล้วยหลบ “แต่ผมอยากป้อนลำธารนี่น่า” สายน้ำเรียกลำธารอย่างสนิทสนมพร้อมทำปากจู๋

    ลำธารถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วอ้าปากงับกล้วยในมือสายน้ำอย่างจำใจ

    เมื่อกี้ยังดูแมนๆ แต่ทำไมตอนนี้กลับมาเหมือนเด็กสิบขวบอีกแล้วล่ะ ลำธารคิดในใจพลางมองสายน้ำ

    สายน้ำมองลำธารที่เคี้ยวกล้วยตุ่ยๆ อย่างพอใจพร้อมยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่เห็นลำธารหยุดร้องไห้แล้วเอากล้วยเข้าปากบ้าง

    “อร่อยไหม” สายน้ำถามพลางเคี้ยวตุ่ยๆ

    “อืม”

    “งั้นกินเยอะๆ เลย” สายน้ำยื่นกล้วยป้อนลำธาร “อ้าม”

    ลำธารมองสายน้ำที่อ้าปากร้องอ้ามก่อนจะหลุดยิ้มออกมานิดๆ เหมือนกำลังขำสายน้ำอยู่แล้วอ้าปากงับกล้วยในมือสายน้ำ

    “รู้ไหมผมชอบเวลาคุณยิ้มมากเลย” สายน้ำยิ้ม

    “ฉันกำลังขำนายต่างหาก”

    “นี่ขำแล้วหรอ” สายน้ำถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “ผมอยากเห็นคุณหัวเราะจัง”

    “ฝันอยู่หรือไง”

    “ถึงตอนนี้จะฝันแต่ยังไงผมก็ต้องทำฝันให้เป็นจริงได้สักวันแหละน่าเพราะอย่างน้อยวันนี้ผมก็เห็นคุณยิ้มแล้ว” สายน้ำยิ้มตาหยีแล้วยัดกล้วยเข้าปาก “กินอีกไหม” สายน้ำถามลำธาร

    “ไม่ล่ะ ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้านมากกว่า”

    “โอเค งั้นเดี๋ยวคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วพอคุณเปลี่ยนเสร็จเราค่อยหาทางออกจากป่า”

    “นายคิดว่าฉันเจอเรื่องแบบนั้นแล้วยังจะกล้าเปลี่ยนชุดหรือไง”

    “แล้วจะไปทั้งสภาพแบบนี้เนี้ยนะ” สายน้ำมองสภาพลำธารที่เสื้อและกางเกงเปียกโชกทุกสัดส่วน

    “ใช่” ลำธารตอบชัดท้อยชัดคำ

    “แต่เดี๋ยวเป็นหวัดนะ”

    “ก็ดีกว่าเจอพวกโรคจิตก็แล้วกัน”

    สายน้ำถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นมาอย่างยอมแพ้ “โอเคๆ ผมไม่เถียงคุณแล้ว”

    ลำธารลุกขึ้นแล้วกอดอกก้มมองสายน้ำที่ยังไม่ลุก “ลุกขึ้นมาเร็วๆ สิ เดี๋ยวก็ได้นอนในนี้อีกคืนหรอก”

    สายน้ำยื่นมือให้ลำธาร “ดึงผมหน่อยสิ” สายน้ำทำแก้มป่อง “น้าา”

    ลำธารมองคนเบื้องล่างอย่างหน่ายๆ กับความขี้อ้อนของสายน้ำแล้วจับมือเขาดึงขึ้น

    สายน้ำปัดเศษดินตามตัวแล้วหันมาขอบคุณลำธาร “ขอบคุณครับ” สายน้ำยิ้ม

    “อืม” ลำธารตอบสั้นๆ “เราจะไปกันได้หรือยัง” เธอหันไปถามสายน้ำ

    “ได้แล้วครับผม” สายน้ำท่าตะเบะแบบตำรวจ

    ติงต๊องหรือเปล่านายนี่ ลำธารคิดในใจแล้วสาวเท้าเดินไปทันทีโดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจสายน้ำที่ยืนทำท่าตะเบะอยู่

    ระหว่างสาวเท้าเดินอย่างระมัดระวังสายตาของเธอก็คอยสอดส่องมองหาทางออกแต่จู่ๆ เธอก็สะดุ้งด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ สายน้ำก็คว้ามือเธอไปจับ

    “ผมกลัวหลง” สายน้ำรีบพูดอย่างรู้ทันเมื่อลำธารหันขวับมาหาเขาเพื่อเตรียมด่าแต่เมื่อเขาพูดดักเธอปุ๊บ เธอจึงหันหน้ากลับไปแล้วปล่อยให้สายน้ำจับมือต่อไปโดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    สายน้ำมองหญิงสาวแล้วยิ้มออกมานิดๆ อย่างดีใจเพราะปกติไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเธอจะไม่ยอมให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเลยเด็ดขาดแต่ตอนนี้เธอกลับยอมให้เขาจับมือแต่โดยดีถึงแม้เมื่อกี้จะหันมามองตาขวางก็เถอะ

    ดีใจชะมัด

    ลำธารเดินมองทางข้างหน้าไปเรื่อยๆ โดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ใครจะไปรู้ว่าขณะที่เธอกำลังมองตรงไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ภายใต้สีหน้าอันเรียบเฉยนี่เต็มไปด้วยความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าและหัวใจที่กำลังเต้น

    รัวไม่เป็นจังหวะ เธอรู้ว่าสาเหตุของอาการเหล่านี้เป็นเพราะสายน้ำกำลังจับมือเธออยู่ เธออยากจะสะบัดมือเขาออกไปให้รู้แล้วรู้รอดเพื่อให้อาการเหล่านี้หายไปแต่เพราะไอร้อนๆ จากมือของสายน้ำทำให้เธอสัมผัสถึงความอบอุ่นที่เขาส่งมอบให้เธอมันไม่ได้มอบความอบอุ่นให้เพียงมือของเธอเท่านั้น

    แต่เขาได้ส่งความอบอุ่นส่งไปถึงใจของเธอจนเธอไม่กล้าที่จะปล่อยมือออกจากเขาแม้แต่วินาทีเดียว

    ระหว่างที่ลำธารกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเธอก็ต้องหยุดชะงักการเดินแล้วเลิกคิดอะไรไร้สาระก่อนจะหันไปมองทางแยกข้างหน้า

    เอาแล้วสิ มีทางแยกด้วยแล้วจะไปทางไหนดีล่ะเนี้ย

    “มีทางแยกด้วยหรอเนี้ย” สายน้ำขยี้หัวอย่างเซ็งๆ “แล้วเราจะไปทางไหนกันล่ะ”

    “ฉันก็ไม่รู้”

    หลังจากนั้นทั้งสองก็นิ่งเงียบไม่มีใครพูดจนความเงียบเริ่มปกคลุมไปทั่ว

    แต่ความเงียบก็ปกคลุมได้ไม่นานนักเสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นมาไม่ดังมากนัก ทำให้ทั้งสองหันมามองหน้ากันอย่างพร้อม

    “คุณได้ยินเสียงอะไรไหม” สายน้ำถาม

    “ได้ยิน” ลำธารตอบ

    “เหมือนเสียงคนหลายๆ คนกำลังคุยกัน” สายน้ำเอียงหูเพื่อพยายามหาที่มาของเสียงแล้วชี้ไปทางแยกทางซ้าย “เสียงมาจากทางนี้” สายน้ำพูดแล้วทำจมูกฟุดฟิด “มีกลิ่นอาหารด้วย”

    “หรือว่าทางนั้นคือทางไปตลาด” ลำธารพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาเต็มด้วยไปความดีใจ

    “งั้นเราก็จะได้กลับบ้านกันแล้วสิ” สายน้ำเขย่ามือเธออย่างดีใจ “เย้ๆ”

    “หยุดๆ ฉันเจ็บ”

    “อ่า ขอโทษ” สายน้ำรีบหยุดเขย่ามือลำธารทันที “งั้นเรารีบไปกันเถอะ” สายน้ำตัดสินใจเดินไปทางซ้ายอย่างมั่นใจโดยมือยังคงจับมือลำธารเอาไว้อยู่

    ทั้งสองเดินจับมือกันไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินเสียงคนพูดคุยกันก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ และกลิ่นอาหารก็ยิ่งเตะจมูกทั้งสองมากขึ้น ทำให้ทั้งสองมั่นใจว่าทางนี้เป็นทางไปตลาดอย่างแน่นอนจึงเร่งฝีเท้า

    หลังจากที่เดินกันอยู่นานสองนานรอยยิ้มบางๆ ของลำธารก็ผลุดขึ้นมาเมื่อเห็นช่องทางออกเล็กๆ เพื่อเดินไปตลาด ส่วนสายน้ำก็ยิ้มออกมาเช่นกัน เมื่อเห็นทางออกแล้วทั้งสองจึงพร้อมใจกันวิ่งไปที่ช่องทางเล็กๆ ทันที พอออกมาจากช่องทางนั้นทั้งสองก็พบผู้คนเดินไปมาอยู่มากมายพร้อมเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่มาจากตลาดด้านใน

    “ในที่สุดก็ออกจากป่าได้สักที” สายน้ำถอนหายใจอย่างโล่งอก “แล้วเราจะไปไหนต่ออ่ะ” เขาหันไปถามลำธาร

    “คงต้องไปบ้านป้าจิ๋ว”

    “งั้นรีบไปกันเถอะ ผมว่าคุณคงอยากเปลี่ยนชุด” สายน้ำพูดแล้วดึงมือลำธารเพื่อเดินเข้าไปในตลาด

    ระหว่างทางเดินตลาดทั้งแม่ค้าและลูกค้าต่างมองทั้งสองเหมือนตัวประหลาดทำให้ลำธารรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย สายน้ำที่เหมือนรู้ว่าเธอกำลังรู้สึกอึดอัดจึงบีบมือเธอเบาๆ แล้วหันมายิ้มให้เธออย่างอบอุ่น ทำให้อาการอึดอัดของเธอลดลงเหลือเพียงเล็กน้อย หลังจากที่เดินออกมาจนถึงหน้าตลาดทั้งสองก็หยุดพักอยู่ครู่หนึ่งแล้วสาวเท้าเดินต่อไปยังบ้านป้าจิ๋ว

    ขณะที่กำลังเดินออกจากตลาดสายตาของสายน้ำก็หันไปเห็นรถกระบะคันเก่าๆ กำลังขับเข้ามาจอดในตลาด เขาเพ่งมองมันอยู่แว้บหนึ่งก่อนจะเบิกตากว้าง

    เฮ้ย รถลุงจอม!

    “คุณๆ” สายน้ำเขย่ามือลำธารแล้วชี้ไปที่รถกระบะเก่าๆ “นั่นมันรถลุงจอมนิ”

    ลำธารหันไปมองตามมือสายน้ำแล้วหันกลับมาสบตาสายน้ำแว้บหนึ่งแล้ววิ่งไปที่รถคันนั้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

    “ลุงจอม” สายน้ำตะโกนเรียกคนร่างท้วมที่กำลังเดินเข้าไปในตลาดแต่ไม่มีท่าทีว่าเขาจะหยุดเดินสายน้ำจึงตะโกนอีกครั้ง “ลุงจอม!!”

    คนถูกเรียกหยุดชะงักการเดินแล้วหันไปหาต้นเสียงแล้วชี้หน้าสายน้ำอย่างแปลกใจ “อ้าวพ่อหนุ่ม”

    สายน้ำและลำธารวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าลุงจอมพร้อมหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อย

    “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะลุง” สายน้ำยิ้มกว้าง

    “หายไปไหนมา รู้ไหมว่าจิ๋วมันตามหาแทบแย่” ลุงจอมพูดแล้วหันไปมองลำธาร “แล้วหนูไปทำอะไรมาน่ะ ทำไมเปียกแบบนั้น”

    “มีเรื่องนิดหน่อยน่ะลุง” สายน้ำตอบแทน

    “เรื่อง?”

    “เรื่องมันยาวน่ะลุงไว้ผมจะเล่าให้ฟัง”

    “โอเคๆ เดี๋ยวลุงไปขนผักแปป”

    “เดี๋ยวผมช่วย” สายน้ำรีบเดินตามลุงจอมไปแต่ก่อนไปยังไม่วายจะหันมาหาลำธาร “อยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะ”

    “อืม”

    “ดีมาก” สายน้ำส่งยิ้มตาหยีให้ลำธารแล้วเดินหายไปกับลุงจอมทันทีโดยปล่อยให้ลำธารยืนรออยู่เพียงคนเดียว

    ไม่นานนักสายน้ำกับลุงจอมก็ออกมาพร้อมถังใส่ผักคนละสองถังใหญ่ๆ โดยมีเด็กในตลาดมาช่วยอีกแรง

    สายน้ำวางถังไว้บนกระบะแล้วปีนตามขึ้นไปเพื่อรอรับถังผักจากลุงจอม “ส่งมาเลยครับลุง”

    “เอ้า รับ” ลุงจอมส่งถังผักให้สายน้ำ

    ลำธารมองสายน้ำที่รับผักมาจากลุงจอมและเด็กๆ พร้อมคุยหยอกล้ออย่างสนุกสนาน ถึงแม้แดดยามบ่ายจะร้อนเพียงไหนแต่เขาก็ยังคงมอบรอยยิ้มให้คนอื่นได้ไม่มีเบื่อ

    “ขอบคุณมาก” จอมหันไปขอบคุณเด็กหนุ่มและเด็กๆ แล้วยื่นแบงค์ยี่สิบให้เด็กๆ คนละใบ

    “ขอบคุณครับ” เด็กๆ ขอบคุณพร้อมยกมือไหว้ลุงจอมก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในตลาด

    “เด็กพวกนี้ขยันดีนะลุง” สายน้ำพูดแล้วหันไปมองพวกเด็กๆ ที่วิ่งเข้าไปในตลาดด้วยแววตาเอ็นดู

    ลุงจอมพยักหน้าเห็นด้วย “ว่าแต่พวกเธอสองคนจะกลับกรุงเทพกันหรือเปล่า ลุงจะเข้าไปส่งของที่ตลาดพอดี”

    “อยากกลับใจจะขาดแล้วลุง” สายน้ำหัวเราะ

    “แล้วไม่ให้อีหนูเขาเปลี่ยนเสื้อผงเสื้อผ้าก่อนเรอะ”

    “ไม่เป็นไรค่ะ หนูไปเปลี่ยนที่บ้านทีเดียวก็ได้” ลำธารรีบพูดแย้งเพราะตอนนี้เธออยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว

    “โอเคๆ ไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน งั้นขึ้นท้ายกระบะโล้ด” ลุงจอมพูดจบก็รีบขึ้นรถแล้วสตาร์ทรถทันทีลำธารจึงรีบปีนขึ้นท้ายกระบะอย่างรวดเร็วก่อนที่รถจะค่อยๆ ขับออกจากตลาดออกแล้วมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครฯ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×