คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2nd rebound
REBOUND II
ผมวางแฟ้มรูปโพลารอยด์สีครีมลงบนโต๊ะทำงาน พลางถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อเห็นเอกสารกองใหญ่ที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จภายในเย็นนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ.. ขณะนี้เป็นเวลาพักเที่ยง เลขาคนสนิทของผมคงจะลงไปกินข้าวแล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่มีทางเลือกครับนอกจากเซ็นเอกสารทั้งหมดคนเดียว
“ครืด..” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นผมจึงหันไปมองก็พบว่าเพื่อนสนิทของผมส่งข้อความมานั่นเอง ผมจึงกดแอพพลิเคชั่นแชทยอดฮิตขึ้นมาเพื่ออ่านข้อความ
สุดหล่อกัมจง
เห้ยมึง เย็นนี้หลีหญิงกัน 12 : 14
สุดหล่อกัมจง
วันนี้ไอเซฮุนปิดผับเลี้ยงเลยนะเว้ยสัส 12 : 15
รอบที่2ของเดือนแล้วครับ ..
READ ชายปาร์ค
12 : 16 เออกูไป กี่โมงว่ามา
READ ชายปาร์ค
12 : 16 เดี๋ยวกูเคลียร์งานเสร็จแล้วตามไป
สุดหล่อกัมจง
อีห่านี่ก็เอาแต่ทำงาน 12 : 16
สุดหล่อกัมจง
พวกเซฮุนกับเด็กกูจะอยู่ที่นั่นตั้งแต่สองทุ่ม แต่กูไปสามทุ่ม 12 : 17
สุดหล่อกัมจัง
มึงจะไปกี่โมงก็ได้ แต่ห้ามไปหลังกู 12 : 17
เออ จ้ะ ..
READ ชายปาร์ค
12 : 18 เออครับสัส แล้วเจอกัน
ผมกดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเอนหลังนอนบนเก้าอี้ทำงานของผม ชีวิตของผมนี่ก็ไม่มีไรมากครับ วันๆก็เอาแต่ทำงาน พบปะสังสรรค์กับเพื่อนเป็นครั้งครา ถ้าเดือนไหนงานเยอะก็อาจจะเดือนละสองครั้ง โอเคครับ ยอมรับว่าเที่ยวเล่นบ่อย แหม่ ก็คนมันเครียดนิ่ครับ อยู่แต่กับงาน คนเราก็ต้องหาความสุขใส่ตัวบ้าง...
ส่วนอีพวกเพื่อนสุดรักของผมนี่เอาแต่ผลาญเงินเล่นครับ ไม่ใช่ไม่มีงานทำนะครับ มีงานทำแต่อย่าเรียกว่าทำงานเลยครับ มันแค่มีชื่ออยู่ในตำแหน่งเฉยๆเอาไว้ประดับบารมีเล่นๆ ก็งี้แหล่ะครับพวกลูกคนรวย ประมาณว่าถึงจะไม่ทำงานก็สบายทั้งชาติ ผับที่จะไปวันนี้ก็ของไอเซฮุนมันแหล่ะครับ ผมเลยกินเหล้าฟรีบ่อยๆ มีเพื่อนรวยก็ดีตรงนี้แหล่ะครับ
ผมรู้ว่าตอนนี้ทุกคนกำลังคิดว่าผมไม่รวย พวกคุณคิดผิดครับ ผมนี่หล่อ รวย สาวตรึมนะครับ นี่ใครกัน ปาร์ค ชานยอลทายาทธุรกิจโรงแรมห้าดาว มีสาขาทั่วโลกเชียวนะครับขอบอก แต่ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเหลวไหลไร้สาระเหมือนพวกจงอินกับเซฮุนก็เพราะพ่อผมแหล่ะครับ ไม่อยากให้ผมมีชีวิตแบบไร้ประสบการณ์และความรู้ เลยให้ผมมาเป็นประธานของสาขาในเกาหลี ซึ่งผมก็ไม่ได้เกี่ยงอะไรครับ มันก็สนุกดี แค่เหนื่อยไปหน่อยนะครับบางที เห้อ
นี่ก็เที่ยงแล้ว .. ผมลงไปหาอะไรกินเล่นสักหน่อยดีกว่า
ร้านกาแฟสไตล์ยุโรปข้างล่างตึกบริษัทผมนั่นแหล่ะคือจุดหมายของผม ผมมักจะลงไปนั่งหาไรกินตรงนั้นเป็นประจำ รสชาติก็ใช้ได้แหล่ะครับ แต่ประเด็นที่ผมมาคือบรรยากาศ
ผมผลักประตูเข้ามาในร้านซึ่งแน่นอนว่าทุกคนหันมามองผมเป็นสายตาเดียว ก็แน่แหล่ะครับ มีแต่ลูกน้องผมทั้งนั้น
โต๊ะหลังร้านเนี่ยแหล่ะเหมาะที่สุดแล้วครับ วิวสวยและเงียบดี ไม่มีใครมาเดินผ่านไปมาให้รบกวนใจ ผมนั่งลงก่อนจะสั่งกาแฟดำกับเครปวนิลลาของโปรดมาทานเล่น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมถึงชอบมานั่งร้านนี้ทั้งๆที่มันทำให้ผมฟุ้งซ่าน เวลามองไปรอบในขณะที่สมองว่างนี่ยิ่งหนักครับ เหมือนสติผมโดนดูดไปซะอย่างงั้น ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะผมก็ยังลงมานั่งที่ร้านนี้ มุมนี้ และสั่งเครื่องดื่มแบบเดิมทุกวันอย่างไม่รู้สึกเบื่อ
ผมสาบานได้นะว่าผมไม่ได้มารอใคร
ผมสาบาน ผมพูดจริงๆนะ
มันไม่ได้เรียกว่ารอนะ ผมแค่มาดูเผื่อว่าเขาจะมารึเปล่าก็แค่นั้นแหล่ะ
คิดถึงเรื่องนี้ทีไรนี่ผมรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาทุกทีครับ อยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรที่มันผิดพลาดซะใหม่ ผมคงไม่ทำแบบนั้นออกไป ถ้าผมไม่..
“ผมขอช็อกโกแลตร้อนแก้วกลางแบบกลับบ้านฮะ” เสียงหวานๆดังขึ้นมาจากหน้าร้าน ผมจะไม่เอะใจเลยสักนิดถ้ามันเป็นเป็นเสียงที่คุ้นหูผมซะจริงๆ
แต่เอาเถอะครับ ช่างมันเถอะ
มาร้านนี้ทีไรทำให้นึกถึงคนเดิมทุกที
ย้อนกลับไปวันนั้น ผมยังจำประโยคนั้นได้ขึ้นใจครับ คิดถึงมันทีไรนี่เจ็บจี๊ดทุกที ทั้งใบหน้าหวานที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้ แววตาที่ส่งมาทำผมรู้สึกจุกเลยครับ ทั้งท่าทางของเขา น้ำเสียงของเขา ผมโคตรรู้สึกแย่เลย
เดี๋ยวนะ
น้ำเสียง
ผมไม่สนใจอะไรละครับ รีบวิ่งออกไปหน้าร้านทันที แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครอยู่ตรงเคาน์เตอร์เลยสักคน
“น้องครับ คนที่มาสั้งช็อคโกแลตร้อนเมื่อกี้ออกไปนานยังครับ?” ตอนนี้อย่างเดียวที่ผมคิดได้คือหวังว่าจะเป็นคนที่ผมรอ
หวังว่าจะเป็นคนคนนั้น
“เพิ่งออกไปไม่นานเองครับ เห็นเลี้ยวไปด้านซ้าย..” ผมวิ่งออกไปก่อนละครับไม่ต้องรอให้พนักงานพูดจบ คำขอบคุณไว้ค่อยทีหลังเมื่อผมหาคนนั้นเจอแล้ว
ผมวิ่งเลี้ยวมาทางซ้ายมือ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นใคร นี่มีพลังแบบ วาร์ปได้ไรงี้ป้ะ คือเร็วชิบหาย หายไปไหนวะ
“ไปฮงแดฮะพี่” ชัดเลยครับ
ผมหมุนตัว360องศาก็เห็นเหมือนเด็กผู้ชายคนนึงกำลังขึ้นรถแท็กซี่ไป ผมมองเห็นไม่ชัดหรอกครับ เห็นแค่หลังไวๆ เอาไงดีวะ
จะไปฮงแด หรือจะไปทำงานดีวะครับ
ถ้าผมไปทำงาน ผมก็จะไม่รู้ว่าคนคนนั้นใช่คนที่ผมคิดอยู่รึป่าว แต่ถ้าผมไปฮงแด เท่ากับว่าเอกสารกองใหญ่นั่นจะไม่ได้ถูกเคลียร์ และลูกน้องเกือบพันชีวิตก็จะต้องโดนเลื่อนการให้เงินเดือนออกไป เพราะผมยังไม่ได้เซ็นเอกสารอนุมัติงบในการจ่ายเงินเดือน และผมคงจะต้องโดนพ่อโทรกลับมาว่าและหักเงินเดือนผมเดือนนี้แน่ๆ
เอาไงดีวะ
ถ้าผมไปฮงแดนี่จะมีใครด่าว่าผมเห็นแก่ตัวป้ะ
คงไม่มีหรอกครับ ใครจะกล้ามาว่าผมนอกจากพ่อ
เมื่อคิดได้ผมก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งไปที่รถของผมทันที รีบเหยียบคันเร่งแบบไม่กลัวตายเลยครับ ไฟจราจงจราจรอะไรผมไม่สนครับ เพราะผมรู้สึกว่าผมใช้เวลาในการตัดสินใจนานไปหน่อย ผมอาจจะคลาดกับคนคนนั้นได้ ผมต้องไม่พลาดครับ
พอออกมาจากบริษัทแล้วผมก็รีบต่อสายหาเลขาผมอย่างด่วนครับ เพื่อให้เธอปั๊มอนุมัติงบเงินเดือนแทนการเซ็น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องเซ็นอยู่ดี แต่การเลื่อนวันจะไม่เกิดขึ้น
ถึงผมจะเห็นแก่ตัว ผมก็ยังมีความรับผิดชอบและจิตใต้สำนึกนะครับ
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ให้เธอปั๊มได้แค่อย่างเดียว ยังเหลือเอกสารที่กองพะเนินอยู่บนโต๊ะผมที่ต้องเซ็นเท่านั้นอีกเยอะครับ... แต่วินาทีนี้ผมไม่กลัวโดนพ่อด่าละครับ ช่างแม่ง
จริงๆแล้วฮงแดถือว่าไกลจากบริษัทผมในระดับนึงเลยนะ แต่ผมมาถึงที่นี่ในเวลาแค่สิบห้านาที..
ก็คนมันรีบนิ่ครับ คุณตำรวจอย่าด่าผมเลย..
ลงมาจากรถปุ๊ปผมก็ต้องกุมขมับทันที ผมมองทางข้างหน้าด้วยความเหนื่อยใจ คนเยอะขนาดนี้ผมจะหาเค้าจากไหนวะเนี้ย
ผมเดินบนถนนฮงแดไปเรื่อยๆเนื่องจากคนที่พลุกพล่านทำให้ผมไม่สามารถที่จะวิ่งเร็วๆได้ ความหวังที่มีอยู่ช่างริบหรี่เหลือเกินครับ แต่แล้วสมองของผมที่นานๆทีจะฉลาดขึ้นมาได้บ้างก็นึกอะไรออกครับ
แบคฮยอนชอบเข้าร้านเครื่องประดับ
.
.
.
.
.
ผมเข้าออกร้านเครื่องประดับมาเกือบสิบร้านละครับ แต่ยังไม่เจอคนที่ผมต้องโดดงานมาหาถึงฮงแด ผมไล่เข้าร้านเกือบทุกร้านในทุกบล็อกร้านค้าจนกระทั่งมาถึงบล็อกสุดท้าย ผมเดินเข้ามาในร้านที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ ผมเดินทั่วฮงแดแล้วครับ นี่เป็นร้านเดียวที่ผมยังไม่ได้เข้า ลุ้นอยู่ครับว่าจะเจอไหม ไม่ใช่ว่าผมมาผิดเวลาอีกแล้วหรอกนะ
ผมเดินทั่วร้านแต่ก็พบกับความว่างเปล่า เอาเป็นว่าผมถามพนักงานขายน่าจะง่ายกว่าครับ
“น้องครับ เห็นผู้ชายตัวเล็กๆ ตาตี่ๆ ผิวขาว ผมสีน้ำตาลเข้ามาในร้านนี้บ้างป้ะครับ” ผมพยายามอธิบายลักษณะให้เคลียร์ที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ได้แต่หวังว่าจะใช่คนคนนั้น ..
“ผู้ชายผมสีน้ำตาลหรอคะ... ไม่เห็นเลยค่ะ” จบสิ้นแล้วครับชีวิตชายปาร์ค
ผมโค้งให้กับพนักงานเป็นเชิงว่าขอบคุณ ก่อนจะเดินคอตกออกมาจากร้าน นี่ผมทำผิดอะไร ผมอุตส่าห์โดดงานออกมาเพื่อตามหาคนคนนึงที่ผมเฝ้ารอมา1462วัน ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่าการโดดงานจะทำให้ผมต้องเจอกับอะไรบ้าง นี่ผมคิดถึงเค้าใจจะขาดแล้วนะครับเนี้ย มีคำพูดอีกตั้งมากมายที่มันอยู่ในหัวผม ผมอยากจะบอกเค้า ว่าผมรอเค้ามาเสมอ ผมอยากจะขอโทษสำหรับสิ่งเลวๆที่ผมทำลงไป
แต่เหตุผลที่ผมต้องทำแบบนั้น.. ผมขอไม่เอ่ยถึงนะครับ
เพราะเหตุผลของผมมันเลวเกินกว่าจะให้อภัยจริงๆ
TALK
มาอัพให้อย่างไวอ่ะบอกเลย
นี่ไม่รู้คึกมาจากไหนนั่งแต่งตอนตีสองครึ่ง
คือมึนและเบลอมาก เนื้อหาอาจจะแปร่งไปบ้าง ไว้มาแก้คำผิดทีหลังนะ เอิ้ก +_+
คือตอนนี้มีแค่สามเม้นต์อ่ะ เสียใจ T _ T
เราจะทำใจและแต่งต่อไปนะคะ เลิ้บๆ <3
ความคิดเห็น