ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    `got7 ✧ ❝ 언라인 ( o n l i n e ) ❞ - markbam

    ลำดับตอนที่ #3 : ` 언라인 ♡ - c h a p t e r 2

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 57


    -2-





     

     

    ผ่านมาอาทิตย์นึงละครับซึ่งผ่านไปช้าชิบหาย สารร่างผมแทบสลาย ใครว่าอยู่ห้องAแล้วดีวะครับ? คนที่อยู่ห้องนี้มีแต่พวกหัวดีแต่กำเนิด แล้วดูผมดิ่ครับ ได้โควต้ามาแบบงงๆ พิ้นฐานก็ไม่ใช่คนตั้งใจเรียนอยู่แล้ว มาเจอแบบนี้ผมแทบน็อคอ่ะครับ คือโรงเรียนแม่งตั้งใจจะปลุกปั้นให้เด็กห้องAเป็นความหวังของโรงเรียนในการแข่งขันต่างๆนานา ก่อนที่จะอัดความรู้มาให้กูมึงช่วยดูประวัติพฤติกรรมกูหน่อยก็ดี ..

     

     

    “แบม มึงตัดรูปปึ้งนี้ดิ้ เดี๋ยวกูหาข้อมูลแปป” สาเหตุที่ผมมาปักหลักอยู่หอยองแจเป็นเวลาสามวันแล้วก็เพราะงาน งาน แล้วก็งานเนี้ยแหล่ะครับ

     

     

    ผมหยิบกรรไกรขึ้นก่อนจะตัดรูปสัตว์ต่างๆและวางมันลงมาฟิวเจอร์บอร์ด โปรเจ็กต์จะเยอะอะไรนักหนาวะ นี่กูเพิ่งเปิดเทอมอาทิตย์แรกแม่งทำกูแทบตาย อยู่ทั้งเทอมนี่กูไม่ต้องลงโลงเลยหรอ

     

     

    จริงๆแล้วตอนแรกบีมันก็มาช่วยนิดหน่อยอ่ะครับ แต่ผมก็เกรงใจไง ผมว่าบีควรไปอ่านหนังสือประเทืองปัญญาแทนที่จะมานั่งตัดแปะโปรเจ็กต์ปัญญาอ่อนอะไรพวกนี้ ถึงใจจริงแล้วผมอยากให้มันมาช่วยใจจะขาดก็เถอะครับ เพราะมาทีไรนี่ผมใจเต้นแรงทุกที

     

     

    อย่าเพิ่งคิดว่าผมหวั่นไหวกับบีนะครับ

     

     

    เรื่องมันมีอยู่ว่า ..

     

     

    บีมันพาพี่หวังของน้องกันต์พิมุกมาด้วยเนี้ยสิ U _ U

     

     

    พูดถึงแล้วอยากจะกรี๊ดครับ คือแบบพี่เค้าช่วยจนผมเกรงใจอ่ะครับ สงสัยนึกว่าผมเป็นง่อย ผมจะหยิบจับ จะทำอะไรหน่อยพี่เค้าแย่งไปทำเองหมดเลยอ่ะครับ ไม่พอนะ ยิ้มให้อีก

     

     

    พี่แบมแม่งโดนแอทแทคอ่ะครับทุกคน!!

     

     

    ตอนที่พี่หวังอยู่คือพี่แบมก็เอาแต่จ้องหน้าคุณเค้าอ่ะครับ งานการนี่ไม่ต้องทำละ จนไอแตงมันต้องเรียกผมไปคุยว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ไม่ต้องอยู่กลุ่มเดียวกับมันแล้ว ผมเลยจำใจต้องส่งตัวคุณพี่ทั้งสองกลับไปเพราะกลัวอดใจมองหน้าพี่หวังไม่ได้ U _ U

     

     

    ตึ๊ง!!

     

     

     

    -?

    เหนื่อยมากมั้ยหืม 12:34

     

     

     

    นี่ก็อีกคนครับที่บั่นทอนสมาธิในการทำงานของผม ผมคุยกับพี่มันมาตลอดตั้งแต่วันนั้น เราตกลงกันเรื่องเฮดโฟนเรียบร้อยครับ พี่มันส่งคนมารับของที่หน้าโรงเรียน ซึ่งไม่ต้องลำบากผมแพ็คใส่กล่องไปหย่อนที่ไปรษณีย์ แถมยังได้เงินสดด้วย ชีวิตช่วงนี้เลยค่อนข้างแฮปปี้ครับ ค่าเฮดโฟนนี่ใช้ได้ไปอีกหลายเดือน

     

     

     

    BamBam1A

    Read 12:35 ก็มากอ่ะครับ แต่ก็ช่วยไม่ได้ U _ U

     

     

     

    -?

    อย่าลืมกินข้าวด้วยนะเข้าใจมั้ย 12:35

     

     

     

    BamBam1A

     Read 12:37 ได้เลยครับผม แล้วพี่เอ็มไม่มีงานหรอครับ?

     

     

     

    ผมสงสัยมาสักพักละครับ คือพี่เค้าตอบไวชิบหายอ่ะ ส่งไปปุ๊ปก็อ่านปั๊ป ผมล่ะสงสัยว่าพี่เค้าว่างมากหรอ ไม่มีงานมีการทำรึไง

     

     

     

    -?

    ก็มีแหล่ะครับ แต่อยากคุยกับเราไง 12:37

     

     

     

    ตึกตัก.. ตึกตัก..

     

     

    โอเค

     

     

    เขินแล้วโว้ย!!

     

     

    ไอพี่บ้านี่แม่งงงงงง พูดงี้พี่แบมก็ไปไม่ถูกป้ะวะ ต้องการอะไรวะห้ะ Y _ Y

     

     

     

    BamBam1A

    Read 12:37 พี่แม่งบ้า มีงานก็ไปทำดิ่ครับ U _ U

     

     

    -?

    ฮ่าๆๆ แต่ถ้าพี่ไปแล้วบอกเลยนะว่าพี่ไปนานหน่ะ 12:38

     

     

     

    ผมจ้องมองข้อความอยู่สักพักก่อนที่ผมจะตัดสินใจบอกให้พี่เค้าไปทำงาน แต่ทำไมพอผมกดส่งไปมันกลับตรงกันข้ามกัน?

     

     

     

    BamBam1A

    12:41 งั้นไม่ไปได้มั้ยครับ? อยู่กับแบมนะ

     

     

     

     

     

    ONLINE

     

     

     

     

     

    หลังจากที่พวกเราสองหน่อทำงานกันจนไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันกัน3วันแล้ว นี่ก็เป็นฤกษ์งามยามดีในการที่เราจะออกมาหาเปิดหูเปิดตากันครับ โดยที่มีสปอนเซอร์หลักคือบีนั่นเอง พาบีมาด้วยก็เหมือนมีเอทีเอ็มส่วนตัวอ่ะครับ กดได้แหลกตามที่ต้องการ

     

     

    “เห้ยแบม น้องแจ ทางนี้ๆ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากอีกฝั่งของถนน ผมโบกมือให้บีก่อนจะข้ามถนนไปหามันด้วยความรวดเร็ว

     

     

    “ไปไหนกันดี” เป็นยองแจที่ถามขึ้นครับ ผมหันไปหาบีเพื่อที่จะถามความคิดเห็น บีพยักหน้าช้าๆก่อนจะพูดขึ้น

     

     

    “ไปร้านอาหารที่โรงแรมบีละกัน เดี๋ยวมีเพื่อนบีไปด้วย” ผมพยักหน้ารัวๆอย่างเห็นด้วย ร้านอาหารที่โรงแรมบีนี่ถือว่าอร่อยมากๆเลยครับ มีทุกแนวทุกสไตล์ กินกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ อาหารทุกจานค่อนข้างแพงแต่พี่แบมไม่ต้องจ่ายครับ กินฟรีทุกงาน แฮ่

     

     

    ผมยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาก่อนจะพบว่านี่เพิ่งจะสามโมงกว่าๆ จะว่าไปแล้วสีน้ำอันเก่าผมก็ใกล้หมดแล้วด้วย แวะฮงแดก่อนก็คงไม่เป็นไร

     

     

    “บี แวะฮงแดก่อนได้ป้ะ” บีหันมามองงงๆแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

     

     

     

     

    เมื่อมาถึงผมก้าวลงจากรถก่อนจะเดินนำหน้าและลัดเลาะไปตามเส้นทางต่างๆด้วยความชำนาญ ผมมาที่นี่ค่อนข้างบ่อยครับเพราะมันอยู่ใกล้กับบ้านผม ว่างๆเราก็จะมาอยู่กันที่นี่แหล่ะครับ เหมือนบ้านหลังที่สามรองจากบ้านบีกับหอยองแจเลย

     

     

    ผมซื้อของที่จำเป็นต่างๆและขนมที่พอจะกินได้อีกทั้งปี ตอนนี้ผมไม่สนใจเรื่องน้ำหนักละครับ เวลาทำงานมันก็น่าเบื่อถูกมั้ยหล่ะครับ? เพราะฉะนั้นเมื่อทำงานทั้งวัน ผมกับยองแจก็เขมือบขนมไปนับสิบถุงครับ

     

     

    ผมเดินออกจากเซเว่นก่อนจะส่งถุงบางส่วนให้ยองแจถือแล้วเดินมองร้านต่างๆเรื่อยๆ ก่อนที่จะสะดุดกับร้านต่างหูเล็กๆร้านหนึ่ง

     

     

    ผมเดินเข้าไปในร้านอย่างไม่รอช้า กวาดสายตามองต่างหูต่างๆในตู้ด้วยความสนใจ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงตัดสินใจเดินเข้ามาในร้านนี้

     

     

    ในเมื่อหูผมตันไปแล้ว

     

     

    ‘ พี่เจาะหูตั้งแต่ม.ต้นแล้วหล่ะ ‘

     

     

    จู่ๆประโยคนี้ก็เด้งเข้ามาในหัวผม ผมส่ายหน้าเบาๆให้กับตัวเอง ไม่หรอกหน่า ผมแค่อยากเข้ามาดูเฉยๆแหล่ะ คงเป็นงั้นแหล่ะ ..

     

     

     

     

    ผมเดินออกมาจากร้านก่อนจะก้มมองถุงในมือตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ผมว่าผมต้องบ้าไปแล้วแน่เลยที่ตัดสินใจซื้อมันมา

     

     

    “ไอแบม!! มึงหายไปไหนมาวะ รู้ป้ะว่ากูกับบีตามหามึงตั้งนาน” ยองแจวิ่งเข้ามาหาผมก่อนจะหอบเล็กน้อย ตามมาด้วยบีที่มองผมด้วยสีหน้ากังวล

     

     “คราวหลังจะไปไหนอ่ะบอกด้วยดิ่ รู้มั้ยว่าบีเป็นห่วงแทบแย่ ที่นี่คนก็เยอะ แบมก็ยิ่งตัวเล็กๆอยู่ ถ้าแบมหายไปบีจะทำไง” พูดจบพี่มันก็ดึงผมเข้าไปกอดเลยครับ ผมตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของบี ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมานี่เป็นครั้งแรกที่บีมีท่าทางแบบนี้

     

     

    “แบมขอโทษ คราวหลังจะไม่ทำแล้วนะ” ผมกอดตอบพี่มันก่อนจะลูบหลังอีกคนเบาๆ ตอนแรกผมกำลังจะอ้าปากกวนตีนใส่ไปแล้วครับ แต่เห็นแบบนี้แล้วผมก็รู้สึกผิดนะครับ แต่ผมก็เข้าใจว่าถ้าบีหายไปผมก็คงเป็นห่วงไม่แพ้ที่พี่มันห่วงผมหรอก

     

     

    ผมคลายอ้อมกอดออก บียิ้มให้ผมก่อนจะขยี้หัวผมแบบที่ทำประจำ ผมเชื่อว่าถ้าผมเป็นพวกผู้หญิงคงได้ละลายไปละ

     

     

    “ละนี่โทรศัพท์ก็มี ทำไมไม่โทรหาแบมวะ”ผมพูดขึ้นหลังจากที่เราออกเดินต่อ จะหากันให้เหนื่อยทำไมอ่ะครับ โทรศัพท์ก็มี นี่ไม่ใช่ยุคหินนะเอ้อ

     

     

    “ก็ลองหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดูมั้ยหล่ะ ว่าทำไม” ผมมองหน้าบีงงๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูตามที่พี่มันบอก

     

     

    แบตหมด

     

     

    ผมส่งยิ้มแห้งๆไปให้อีกสองคนที่เดินมาพร้อมๆกันก่อนจะเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงตามเดิม พวกเราเดินไปที่รถและขับไปยังจุดหมายของเราในวันนี้ ซึ่งก็คือโรงแรมของบีนั่นเอง

     

     

     

     

    “แบมกับน้องแจขึ้นไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวบีจะไปรับเพื่อน” เมื่อมาถึง บีก็จอดให้ผมกับยองแจลง ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจให้บีก่อนที่มันจะขับรถออกไป

     

     

    “ยองแจ มึงขึ้นไปก่อนเลยก็ได้นะ เดี๋ยวกูเดินเล่นแถวนี้ก่อน” ยองแจตอบรับเบาๆก่อนจะเดินขึ้นไปโดยที่ไม่ได้ถามอะไร นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่เราเข้ากันได้ดีมั้งครับ ผมไม่ชอบคนเซ้าซี้ ส่วนยองแจไม่ใช่คนขี้เสือก แต่เป็นผู้รับฟังที่ดีเมื่อผมตัดสินใจจะเล่าอะไรให้ฟัง

     

     

    ผมเดินลัดเลาะไปตามสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สูดหายใจเข้าเต็มปอด ผมคลี่ยิ้มบางๆพลางมองไปรอบๆ ต้นไม้ชนิดต่างๆถูกปลูกขึ้นรอบสระ เผลอๆอาจจะเยอะกว่าครั้งล่าสุดที่ผมมาด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นผมจึงชอบโรงแรมบีค่อนข้างมาก

     

     

    โรงแรมบีนี่เหมือนสวรรค์ชั้น7เลยแหล่ะครับ

     

     

    ผมทิ้งตัวลงบนม้านั่งข้าสระ ผมค่อยๆหลับตาช้าๆ ลมเย็นๆพัดผ่านเป็นระยะๆ ผมรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้อยู่กับธรรมชาติ มันเหมือนเป็นทางออกสำหรับผมเมื่อผมมีปัญหาต่างๆ

     

    ผมลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนมีคนมานั่งข้างๆ ผมหันไปมองผู้มาใหม่ก่อนจะต้องขมวดคิ้มเป็นปม

     

     

    ใคร?

     

     

    ผมจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่หลบสายตา ผมสีควันบุหรี่ที่ทำให้เขาดูโดดเด่นไม่เบา ริมฝีปากเรียวรับกับดั้งโด่ง จัดว่าเป็นคนที่หน้าตาดีคนนึงเลยแหล่ะ ..

     

     

    เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำนอกจากยิ้มให้ผม คนโรคจิตป้ะวะเนี้ย

     

     

    ผมลุกขึ้นเตรียมจะเดินหนีอีกคนแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเขาเอื้อมมือมารั้งผมเอาไว้

     

     

    ผมหันไปมองมือของเขาที่จับข้อมือของผมอยู่ และเหมือนเขาจะรู้ตัวเมื่อเขาคลายมือออกทันที ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามเมื่อไม่เห็นเขาพูดอะไรสักที

     

     

    เป็นใบ้ป้ะวะ

     

     

    “มีอะไรรึเปล่าครับ?” ในที่สุดก็เป็นผมเองที่ทำลายความเงียบนั้น

     

     

    “อ่า แค่ .. อยากถามว่าชื่ออะไรน่ะครับ” มือหนายกขึ้นเกาท้ายทอยตัวเองก่อนที่ดวงตาคมจะเสมองทางอื่น ผมขำให้กับท่าทีของคนตรงหน้า ตัวก็โตแต่ทำตัวอย่างกับสัตว์กินพืช

     

     

    “ขำไรเล่า”

     

     

    “เปล่าครับเปล่า5555555555” คนตัวสูงมองผมอย่างเคืองๆ

     

     

    “อะๆ ชื่อแบมแบมครับ ว่าแต่นายหล่ะ?”

     

     

    “อ่า ยินดีที่ได้รู้จักนะครับแบมแบม ผมชื่อยูคยอม เรียกยูคก็ได้” ผมพยักหน้าก่อนจะยิ้มให้เขาบางๆ เรานั่งคุยกันเรื่อยๆ จนพระอาทิตย์ใกล้จะหายลับไปจากท้องฟ้า

     

     

    หลังจากคุยได้สักพักผมก็รู้สึกว่าเขาก็เป็นคนที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย ด้วยความที่อายุเท่ากันด้วยมั้งครับผมเลยคุยถูกคอกับเขา

     

     

    กริ๊ง..​ กริ๊ง..

     

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดบทสนทนาระหว่างผมและยูคยอม ซึ่งนั่นก็คงต้องเป็นโทรศัพท์ยูคยอมแหล่ะครับ ในเมื่อของผมแบตหมดไปตั้งแต่ตอนอยู่ฮงแด

     

     

    ยูคยอมรับโทรศัพท์ก่อนจะคุยกับใครสักคนที่ผมเดาว่าคงจะเป็นแม่ของเขา ผมไม่ได้สนใจอะไร แกว่งขาเล่นด้วยความที่ไม่มีอะไรทำ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ใกล้จะหกโมงแล้ว ..

     

     

    ตายห่าแล้วหล่ะครับ ผมโดนไอแตงกับบีบ่นจนหูชาแน่เลย U _ U

     

     

    “ยูค เดี๋ยวเราไปก่อนนะ พวกพี่มันรอกันน่ะ” ผมพูดขึ้นทันทีหลังจากที่ยูคยอมวางสายโทรศัพท์ เขาพยักหน้ารับเบาๆ ผมจึงรีบวิ่งออกมาทันที

     

     

    “เห้ยย เดี๋ยวก่อนแบมแบม!!” ผมชะงักฝีเท้าก่อนจะหันกลับไปมองคนที่วิ่งเข้ามาหาผม

     

     

    “เราจะได้เจอกันอีกมั้ย?” เมื่อยูคยอมพูดคำนี้ขึ้นมาผมจึงนึกขึ้นได้ว่าผมไม่ได้ให้อะไรเป็นช่องทางการติดต่อกับยูคยอมเลย แต่ผมก็คิดว่าผมจะไม่ให้นะครับ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเจอ แต่ผมแค่มีลางสังหรณ์ว่าเราจะได้เจอกันอีกเร็วๆนี้แน่ๆ

     

     

    “ก็ถ้าโชคชะตาเป็นใจน่ะนะ”

     

     

     

     

    ONLINE

     

     

     

     

    ผมเดินขึ้นมายังชั้นบนสุดของโรงแรมซึ่งเป็นโซนสำหรับวีไอพี บอกเลยว่าหรูโคตรๆ ผมเคยบอกให้บีมาอยู่โรงแรมตัวเองยังจะดีซะกว่า ใหญ่กว่าบ้านตั้งเยอะ แต่มันบอกกลับบอกว่า ‘ ไม่เอาหรอก ถ้าบีย้ายมาที่นี่ บีจะไปแกล้งใคร ’

     

     

    ผมเดินไปยังประตูที่สูงกว่าผมเท่าตัวก่อนจะค่อยๆเปิดเข้าไป

     

     

    เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ผมเดินเข้าไปยังโต๊ะขนาดใหญ่ที่มีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน

     

     

    “ไม่มาสักชาติหน้าเลยหล่ะครับน้องรัก” บีพูดกับผมด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ผมเบะปากใส่บีน้อยๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆยองแจ

     

     

    นั่งตรงข้ามกับพี่แจ็คสันอ่ะครับ Y _ Y

     

     

    “ว่าไงครับน้องแบม” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปสบตาคมที่มีอิทธิพลต่อผมยิ่งนัก U _ U

     

     

    แต่แปลกว่าทำไมวันนี้ผมไม่ได้ใจเต้นแรงอย่างวันก่อน?

     

     

    “สวัสดีครับพี่แจ็คสัน” ผมยิ้มกลับให้พี่แจ็คสันก่อนที่สายตาของผมจะเหลือบไปเห็นเรือนผมสีน้ำตาลแดงของใครสักคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆบี

     

     

    “กำลังจะถามใช่มั้ยว่าใคร” บีพูดขึ้นอย่างรู้ทัน ผมกรอกตาไปมาก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

     

     

    “เห้ยมึง เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ก่อนดิ้” บีพูดก่อนจะเอาศอกไปสะกิดคนที่นั่งข้างๆ

     

     

    เขาเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ก่อนที่สายตาของเราจะประสานกัน ..

     

     

    แก้มของผมไม่ได้ร้อนผ่าว

     

     

    ใจของผมไม่ได้เต้นแรง

     

     

    หากแต่ดวงตาคู่นั้นมีบางอย่างที่ทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปได้

     

     

    แม้สักวินาทีเดียว ..

     

     

    “แบม นี่มาร์คนะ เพื่อนบีเอง”

     

     

     

     

     

    T A L K

    มาอัพแล้ว เยยยยย้

    มาแบบรวดเดียวเลย5555555

    ทุกคนเดาว่าคนที่เล่นไลน์กับแบมมั้ย … เฉลยตอนหน้าน่ะครับ ฮี่

    ในที่สุดพี่มาร์คก็ออกแล้ว เย้555555 เชื่อว่าทั้งคนรออยู่(มั้ง)

    น้องแบมแม่งหลายใจอ่ะว่าป้ะ55555555

    เดี๋ยวตอนหน้าอาจจะเปลี่ยนไปแต่งบีเนียร์บ้างนะ(อาจจะ) ไม่รู้อ่ะแล้วแต่ฟีล5555555

     

    ขอบคุณทุกๆเม้นต์จริงๆนะคะ ต่อให้ยาวแค่ไหนเราก็อ่านทุกตัวอักษรอ่ะ

    ทุกคำติคำชมเราจะเอามาปรับปรุงให้ฟิคของเราดียิ่งขึ้นนะคะ

    ทุกๆเม้นต์มีความสำคัญกับเรามากจริงๆ

     

    สุดท้ายนี้อย่าลืมสกรีมแท็ก #ออนไลน์มบ นะคะ เข้าไปเช็คทุกวันเลย(ถึงจะไม่มีคนสกรีม)

     

    รักรีดทุกคนเลยย<3

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×