ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC]SHINee 2Min:Hieina ' ไฮอินะ 'ดอกไม้ขาวแห่งบัลลังก์มังกร

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 8 : เตรียมพร้อมตอบโต้

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 54


    Part 8 :เตรียมพร้อมตอบโต้

















    ‘The Moon 704’






    ภาพประโยคที่วนเวียนไปมา ทำให้คนที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด ต้องสะบัดหัวไล่ความคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    คิบอมพยายามนึกถึงที่มาที่ไปของเจ้าประโยคที่ตามเค้าอย่างไม่ยอมเลิกรา
    ใครกันที่เป็นคนช่วยชีวิตเขากับแจฮาในคืนนั้น บุคคลนิรนามที่ไม่ยอมปรากฏตัว
    ทิ้งไว้แต่เพียงประโยคที่สร้างปัญหาให้กับเขาอย่างน่าปวดหัว



    ใครกัน… ที่ดูเหมือนจะรู้ความลับอะไรบางอย่าง




    ความลับของ…





    ดอกไม้กับแสงจันทร์





    ความสัมพันธ์ประหลาดที่คนสมควรรู้เท่านั้น จึงจะรู้







    เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันกลับมามองยังคนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านาย
    ที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงสี่เสาหลังใหญ่






    หลังจากวันนั้น หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับให้ข่าวการเกิดเหตุสะเทือนขวัญ
    เจ้าบ่าวนักธุรกิจเจ้าพ่อคนใหม่ของพรรคชื่อดัง กับลูกสาวเพียงคนเดียวของหัวหน้าพรรคจิน
    ถูกล้มงานแต่ง โรงแรมชื่อดังของตระกูลพังเสียหายไม่เป็นท่า





    เกิดการสูญเสีย อย่างไม่น่าให้อภัย ผู้บริสุทธิ์ต้องมาตายอย่างไม่ยุติธรรม
    เจ้าสาวรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ คุณหลิวหัวหน้าพรรคจินบาดเจ็บสาหัสอาการเป็นตายเท่ากัน

    ส่วนเจ้าบ่าว หายตัวไปลึกลับ







    … หรืออาจจะถูกระเบิดจนกลายเป็นจุลไปเสียแล้ว






    ทางพรรคหลันหลงไม่ออกมาให้ข่าวใดๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้
    คิบอมสั่งให้ทุกคนปิดข่าวทุกอย่าง เพราะยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    แทมินเองก็ยังไม่แข็งแรงมากนัก แม้วันนั้นจะถูกกระสุนแค่เพียงเฉียด แต่กลับต้องมานอนซมเพราะพิษไข้







    บางที คิบอมก็แอบขำกับเหตุการณ์ครั้งนี้


    บางที มันก็ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเลยสักอย่าง


    คนที่ทำลงไปต้องการอะไร… ปิดชีวิตแทมิน งั้นเหรอ?








    ป่านนี้… ทุกคนคงเข้าใจไปแล้วว่า

    หัวหน้าพรรคหลันหลง เสียชีวิตไปเพราะถูกระเบิดกลางงานแต่งของตัวเอง

    น่าขำ… ไม่ใช่เพราะถูกระเบิด แต่ที่มานอนซมอยู่อย่างนี้เพราะ พิษไข้



    ‘นายน่ะมันดวงดี’




    …ใช่แน่เหรอ?





    ‘ถ้านายมันดวงดี เราสองคนก็คงจะดวงดีพอกันนั่นแหละ’










    คิบอมตัดสินใจลุกขึ้น เร่งฝีเท้าไปยังลูกน้องคนสนิทที่ยืนคุ้มกันอยู่หน้าห้อง

    “กลับไปส่งข่าวให้คนที่พรรคทั้งที่เซี่ยงไฮ้และโซล นายท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่อาการสาหัส
    ต้องพักรักษาตัวอีกหลายเดือน สั่งให้ทุกคนเตรียมงานที่จะถึงให้เต็มที่
    เก็บเรื่องที่อยู่ของนายท่านไว้เป็นความลับด้วย แล้วอีกสองสามวันฉันจะตามไป”




    คิบอมสั่งสีหน้าเรียบ ฝ่ายลูกน้องทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็กลับเอ่ยคำถาม


    “คุณแจฮาล่ะครับ”

    “พากลับไปด้วย”


    “แต่ผมว่าจะไม่ปลอดภัย”


    “บอกให้พากลับไป ก็พากลับไปสิ” คิบอมเอ่ยหน้าดุ ก่อนจะหันหลังกลับไปดูอาการของเพื่อนรัก อย่างไม่สนใจจะตอบคำถามใดๆอีก














    ‘เด็กคนนั้นน่ะ ให้กลับไปโซลเถอะ เค้ามีบอดี้การ์ดประจำตัวรออยู่’








    พอนึกถึงบอร์ดี้การ์ดของเจ้าเด็กแจฮาคนนั้นแล้ว ต้องอารมณ์เสียทุกทีสิน่า





























































    สองสามวันมานี้คฤหาสน์หลันหลง เงียบเหงา ราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ พ่อบ้าน แม่ครัว คนสวน ทั้งหลาย
    ไม่มีกระจิตกระใจจะทำการทำงาน หลังจากที่ได้ทราบข่าวร้ายที่ประกาศหลากลางหน้าหนังสือพิมพ์



    จะคิดเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร เจ้านายของพวกเขาคงไม่โชคดีขนาดนั้น

    น่าสงสารคุณแทมิน มีคนจ้องเล่นงานอยู่รอบด้าน

    ทายาทจะสืบทอดก็ไม่มีอีกแล้ว

    …พรรคหลันหลงคงสิ้นชื่อก็คราวนี้




    สิ้นชื่อด้วยเหตุผลง่ายๆ




    เสียงฝีเท้าเร่งถี่ของใครบางคน ที่ได้ยินชัดเจนท่ามกลางความเงียบของห้องเครื่องโอสถ
    ทว่ากลับไม่มีใครนึกจะใส่ใจมันแม้แต่น้อย หากมีใครจะเข้ามาทำร้ายพวกเขาก็คงไม่คิดจะต่อสู้
    ถึงอย่างไรชีวิตของพวกเขาตอนนี้ก็เสมือนกับการได้ตายลงไปแล้ว นับจากวันที่ผู้เป็นนายได้จากไป…



    ชายหนุ่มสองคนมองหน้ากัน แม้จะเหนื่อยจากการเดินทางอันเร่งรีบ แต่ก็จำต้องเอ่ยสาระสำคัญ
    ที่คุณคิบอมได้มอบหมายให้ เขาตัดสินใจเอ่ยอย่างเสียงดัง


    “นายท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่อาการยังสาหัส ต้องพักรักษาตัวหลายเดือน
    ขอให้ทุกคนเลิกซึมเศร้าและกลับมาเตรียมงานที่กำลังจะถึงนี้อย่างเต็มที่
    และอีกไม่นานคุณคิบอมจะกลับมาดูงานด้วยตัวเอง ขอให้ทุกคนรับทราบ จากคุณคิบอม”




    ราวกับน้ำเสียงดุดันนั้นเป็นเสียงทองจากสวรรค์ รอยยิ้มและเสียงร้องขึ้นอย่างดีใจปรากฏเต็มพื้นที่บริเวณนั้น
    แต่ก็ยังมีบางคนที่พอมีสติหันกลับไปถามชายสองคนนั่นว่า



    “แล้วตอนนายท่านอยู่ไหนล่ะ”





    “คุณคิบอมสั่งให้เก็บไว้เป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยของนายท่าน”


    แม้จะไม่ได้คำตอบที่อยากรู้ แต่ทุกคนก็ยอมที่จะกลับไปทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มใจ








    ในมุมหนึ่ง อีอนยูคลี่ยิ้มบางๆ ด้วยความพอใจ






    ‘ถึงคราวที่หัวหน้าห้องเครื่องโอสถจะแสดงฝีมือแล้ว …นายท่านอย่าลืมรีบหายแล้วกลับมาดูผลงานล่ะ”










    …แล้วคฤหาสน์หลันหลง ก็กลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง







































    เสียงเครื่องมือไม้กระทบกันดั่งเซ็งแซ่ พร้อมทั้งกลิ่นไอหอมของพืชพรรณนานาชนิดที่ฟุ้งกระจาย
    ควันจางๆของไอน้ำในหม้อต้มยาที่เดือดผุดๆ น้ำหวานและเหล่าอาหารทั้งหลายถูกแต่งแต้มด้วยความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยม
    กับบรรยากาศที่ตลบอบอวลไปด้วยความสุข



    งานในห้องเครื่องโอสถดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างพากันเร่งทำงานอย่างขยันขันแข็ง เพื่อให้ทันวันงานที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน



    เพื่อเกียรติของดอกไม้ที่จะเบ่งบานต่อไปอีกนับพันปี

    เพื่อศักดิ์ศรีของหลันหลง

    เพื่อสรรเสริญบรรพชนแห่งหลันหลง

    เพื่อ…คุณแทมิน





    “เอ้าๆ เร่งมือกันหน่อย …ระวังๆด้วย” เสียงนุ่มของอนยูที่ดังก้องทั่วทั้งห้องโถงไม้ ป่าวร้องอย่างอารมณ์ดี
    แม้จะเร่งทำงานกันเหน็ดเหนื่อย แต่ทุกใบหน้ากับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เป็นภาพที่หัวหน้าห้องเครื่องเองก็อดภูมิใจไม่ได้

    “คุณอนยูค่ะ พันธุ์ไม้ชั้นที่สามแถวสามสิบแปด ตอนนี้ไม่เหลืออยู่เลยค่ะ ที่ห้องเก็บพรรณไม้ก็ไม่มี”
    หญิงสาวผู้หนึ่งรีบเร่งเข้ามาหาอนยู เอ่ยอย่างร้อนใจ

    “หมดได้ยังไงกันนะ ไปบอกคนที่ห้องเก็บพรรณไม้ไปว่าให้จดชื่อพรรณไม้ที่ใกล้จะหมด
    แล้วแจ้งไปให้ที่แหล่งของเราส่งมาโดยเร็วที่สุด
    แล้วตอนนี้ให้ใช้พรรณไม้ของชั้นที่สี่แถวสองแทนไปก่อน รสชาติคงไม่ต่างกันมาก”
    หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนไปทำงานตามคำสั่ง ก่อนจะมีหญิงอีกคนเร่งตามเข้ามาแทนที่



    “คุณอนยูคะ ซุ่ยเซียนแห้ง พร้อมแล้วค่ะ ให้เอาไปไว้ที่ไหนคะ”


    “เอาไปไว้ที่ห้องเล็กนะ แล้วก่อนถึงวันงานอีกวันให้เอาไปตากตอนใกล้ๆย่ำรุ่งสองชั่วโมง
    อย่าให้ขาดเกิน เสร็จแล้วเรียกฉันไปดูอีกที ถึงจะเอาไปต้มได้” หญิงสาวพยักหน้ารับ
    จากไปพร้อมๆกับหญิงอีกสามคนที่ถือถาดดอกซุ่นเซียนแห้งออกไปทางห้องไม้ขนาดเล็ก ที่อยู่ไม่ไกล



    “คุณอนยูครับ เจี้ยนหลันพร้อมแล้วครับ” ชายอีกคนเอ่ยรายงานตามหน้าที่ตน


    “เอาไปให้ฝ่ายห้องครัวได้เลย แล้วทำอย่างที่เคยทำทุกปีนั่นแหละ”
    ชายหนุ่มพยักหน้ารับแล้วเดินออกไปทำหน้าที่ของตน






    อนยูได้แต่ยุ่งอยู่กับการดูแลและควบคุมงาน ให้ดำเนินไม่อย่างเรียบร้อยและสมบูรณ์ที่สุด
    ต้องคอยตอบคำถามและแนะนำ รวมถึงตักเตือนบางฝ่ายที่ยังทำงานพลาดไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนน้อย
    เพราะคนที่นี่ถ้วนแต่มีประสบการณ์และคลุกคลีอยู่ในห้องเครื่องโอสถมาเป็นเวลานานแล้ว







    บางคนที่ยังอายุน้อย ก็ล้วนแต่เติบโตมาในพรรคหลันหลง เคยเห็นพ่อแม่ทำงานอยู่ในห้องเครื่องโอสถมาตั้งแต่ยังเด็ก
    จึงไม่น่าแปลกที่จะเรียนรู้งานต่างๆได้อย่างรวดเร็ว









    แต่อีอนยู คนที่ไม่มีใครเห็นว่าเคยมาวิ่งเล่นแถวๆนี้ กับเขาเสียเมื่อไร กลับจัดการและรู้ทุกอย่างได้ดีจนน่าทึ่ง


    หัวหน้าห้องเครื่องคนใหม่ ดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลาย
    เพราะนอกจากจะอารมณ์ดีแล้วยังเก่งไปเสียทุกอย่าง



    ไม่น่าเชื่อว่าคนอายุเท่านี้ จะมีความสามารถถึงเพียงนี้




    ยังคงไม่มีใครแน่ใจได้ว่า อนยูได้ความสามารถพวกนี้ มาจากคุณยาย…จริงๆหรือ?











    “คุณอนยูคะ อาหารพิเศษสำหรับปีนี้ พร้อมแล้วค่ะ เชิญคุณอนยูตรวจได้ค่ะ”
    หญิงสาวเดินนำอนยูออกไปยังมุมหนึ่ง ตรงนั้นมีหม้อดินสามหม้อเรียงกันอยู่
    ไอขาวๆลอยขึ้นพร้อมกลิ่นหอมแบบเฉพาะตัวของมัน




    ชายหนุ่มใช้ช้อนไม้ขนาดใหญ่ชิมสิ่งที่อยู่ในหม้อดินทั้งสามทีละใบ พลางใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยว่า
    “อืม ใช้ได้แล้วนะ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง ไปทำงานส่วนที่เหลือให้เสร็จเถอะ ขอบใจมาก”


    เมื่อหญิงสาวคล้อยจากไป ชายหนุ่มเริ่มพิจารณาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง




    …อาหารพิเศษสำหรับปีนี้




    ต้องพิเศษกว่าทุกๆปีแน่นอน…. อีอนยูให้สัญญา

































    มือหนาพลิกหน้ากระดาษไปพร้อมๆกับสายตาคมเข้มที่จ้องมองหนังสือในมืออย่างตั้งใจ
    ชายหนุ่มคิดทบทวนเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้


    …คุณปาร์คจองซู สั่งให้เค้าตามหาของสำคัญบางอย่าง ที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันสำคัญอย่างไร


    ชายคนหนึ่ง ที่เพียงได้เจอกับเขา แม้ชายผู้นั้นจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขาก็ตาม แต่กลับเอาแต่ร้องไห้


    เขาเองก็รู้สึกคุ้นเคยกับชายผู้นั้นอยู่ไม่น้อย…

    ใบหน้าคมเข้มนั้นกลัดกลุ้มอย่างหนัก เปลือกตาปิดลงเพื่อใช้ความคิด
    ก่อนที่เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นในห้วงความคิด



    ‘แม่ยังกลับไม่ได้หรอกมินโฮ แม่ต้องหาของสำคัญให้เจอ หาจนกว่าแม่จะหมดลมหายใจ’


    ประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินจากผู้เป็นแม่



    หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พบหน้าแม่อีกเลย







    ผมกับแม่มีหน้าที่ต้องตามหาของสำคัญเหมือนๆกัน …



    แม้ต้องแลกด้วยชีวิต…เพื่อชีวิตของคนที่รัก






    “ดูแกจะกลุ้มใจมากนะ มินโฮ” เสียงของจองซูดังขึ้น ทำลายสมาธิของเขา
    มินโฮลืมตาขึ้น วางหนังสือในมือลง ก่อนจะหันมาสนใจกับนายของตน

    “ฉันยังไม่ได้ให้รางวัลกับผลงานชิ้นโบว์แดงของแกเลยมินโฮ” ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
    ที่ลูกน้องคนสนิททำงานตามที่สั่งได้อย่างถูกใจ ยิ่งนัก

    “ผมไม่ได้ต้องการอะไรหรอกครับ”

    จองซูยิ้มอย่างพอใจ นับวันเขายิ่งจะเพิ่มพูนความรักที่มีให้แก่ลูกน้องคนนี้




    ไม่เสียแรง…จริงๆ










    สายตาเข้มกวาดมองรอบห้องก่อนจะสะดุดกับหนังสือเล่มหนาที่มินโฮอ่านทิ้งไว้เมื่อครู่


    “แกดูอะไรอยู่”


    “ก็…หนังสือเกี่ยวกับของที่นายให้ผมตามหาไงล่ะครับ”

    จองซูยิ้มพลางส่ายหน้า





    “การที่แกเอาใจใส่มันก็ดีอยู่หรอก แต่ของแบบนั้นน่ะ ต่อให้คนเป็นร้อยช่วยกันตามหา มันยังยาก
    แล้วแกมาเปิดหนังสือดูอย่างนี้ มันจะไปเจออะไร… โน่น แกต้องออกไปหามันด้วยตัวเอง
    ถ้าแกอยากได้มัน แกต้องทำด้วยตัวเอง”



    ชายหนุ่มไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นนายเอ่ยกับเขา จึงได้เอ่ยถาม


    “ถ้าคนเป็นร้อยหาไม่เจอ แล้วคนแค่คนเดียวจะหาเจอได้ยังไงกันครับ”


    จองซูแค่นหัวเราะ ก่อนเอ่ยตอบว่า


    “ก็เพราะ…คนคนนั้นมันเป็นแก ไง มินโฮ … เพราะอย่างนั้นฉันถึงเลือกแก”


    พูดเสร็จก็ทำท่าจะเดินออกไป ทิ้งให้อีกฝ่ายที่ยืนนิ่งใช้ความคิดอยู่ที่เดิม
    ก่อนที่จองซูจะนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงหันกลับมาเอ่ยกับลูกน้องของตน





    “แกรู้ใช่ไหม ว่าของชิ้นนั้นมันสำคัญมากแค่ไหน มีผลกับชีวิตของใครยังไง”










    “ ครับ”








    ปาร์คจองซูออกไปแล้ว ชายหนุ่มยังจมอยู่ในความคิดของตนอย่างหนัก
    คิ้วขมวดเคร่งด้วยความเครียด เสียงสัญญาณโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกให้เขาตื่นจากความคิดนั้น



    หน้าจอโทรศัพท์ ปรากฏข้อความ จากใครคนหนึ่ง












    …แทมินบาดเจ็บสาหัส นายจะแก้ตัวว่ายังไง



















    ความเครียดเมื่อครู่พลันหายไป กลายเป็นเรื่องบางอย่างที่ปรากฏต่อสายตา ที่ทำให้เขาต้องรีบเร่งออกจากที่นั้นไปอย่างร้อนใจ

    ชายหนุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ก่อนขับรถออกไป จงฮยอนยืนมองเพื่อนที่แสดงอาการประหลาดอย่างแปลกใจ
    เขาไม่เห็น มินโฮ ผู้แสนเยือกเย็น… แสดงอาการร้อนอกร้อนใจ ถึงเพียงนี้
    เพราะไม่ว่าจะมีเรื่องมากแค่ไหน ผู้ชายคนนั้น จะไม่แสดงอาการใดๆ ให้ใครได้รู้





    เรื่องอะไรกันที่ทำให้ ชเวมินโฮ เป็นได้ถึงขนาดนี้?























    คิบอมแวะรับบิดาที่พักษาตัวจากการบาดเจ็บเพราะเหตุระเบิดที่เซี่ยงไฮ้
    ก่อนจะรีบขึ้นเครื่องและตรงดิ่งไปยังคฤหาสน์หลันหลงในกรุงโซล



    เซียวฟงเอ่ยถามถึงอาการและที่อยู่ของแทมิน ตลอดทาง


    ชายหนุ่มทำได้แค่เพียงเอ่ยตอบว่า ปลอดภัยดี
    นอกเหนือจากนั้น เขาคงพูดอะไรไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยของแทมิน


    ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจพ่อ… แต่เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น




    ไฮอินะจำเป็นต้องบานต่อไป เพื่อเหล่ามวลไม้อีกมากมาย…รวมถึงพีริสเคีย







































    เป็นอีกวันที่ชายหนุ่มควบคุมสั่งงานคนในห้องเครื่องโอสถอย่างตั้งอกตั้งใจ
    วันนี้คุณคิบอมจะเดินทางมาถึง แน่นอนว่าคงจะมาซักไซ้ไล่เรียงถามโน่นนี่นั่น จากเค้าเป็นพัลวัน
    คิดแค่นั้นก็รู้สึกปวดหัว ชายหนุ่มได้แต่เพียงส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ
    ก่อนจะหยิบถ้วยชาสองสามถ้วยวางลงบนถาด และเดินขึ้นไปบนตึกใหญ่ตามปกติ











    ระหว่างทางเดินชั้นสอง ตลอดทางมีชายหนุ่มยืนเรียงราย ดูแลความปลอดภัยกันอย่างเต็มที่
    นี่ก็เป็นอีกคำสั่งหนึ่งของคิบอม ที่ดูจะเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในทุกบริเวณมากขึ้น หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
    นี่คงเป็นอีกหนึ่งบทเรียนของแทมินและคิบอม

    ชายสองคนที่ยืนเฝ้าหน้าห้องของลียองแจ เปิดประตูให้อนยูเข้าไป ชายหนุ่มวางถาดยาไว้บนโต๊ะ
    ก่อนจะค่อยๆคุกเข่าลงข้างๆเตียง ดวงตาทอดมองชายที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง

    ภาพของชายที่อารมณ์ดี หัวหน้าห้องเครื่องที่ขยันขันแข็ง บัดนี้ เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มธรรมดาที่มีแววตาเศร้าสร้อย
    มองภาพใครคนหนึ่งอย่างที่มองในทุกๆวัน


    “พ่อครับ… วันนี้คิบอมจะกลับมาแล้ว แต่แทมินคงไม่ได้กลับมาด้วย คิบอมบอกว่าน้องบาดเจ็บสาหัส
    ผมรู้…ว่าไม่ใช่ น้องคงมีเหตุผลที่บอกกับทุกคนแบบนี้”

    ชายหนุ่มลุกขึ้น หยิบเอาถาดยามาป้อนให้ชายตรงหน้า จัดการทุกอย่างเหมือนในทุกๆวัน
    ก่อนจะกลับออกไป เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของชายที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง






















    อนยูเดินผ่านตามระเบียงชั้นสอง ได้ยินเสียงรถยนต์ คิบอมคงจะมาถึงพอดี ชายหนุ่มเร่งฝีเท้า เดินลงไป
    คิบอมพร้อมกับเซียวฟง รวมถึงอี้เฟย กำลังก้าวเข้ามาในตัวคฤหาสน์ อนยูเอ่ยทักทายตามมารยาท
    แอบสำรวจมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา ตามตัวของอี้เฟยยังคงมีร่องรอยบาดแผลไม่ต่างจากเซียวฟง
    มีเพียงแต่คิบอมที่ดูจะไม่เป็นอะไร


    อนยูขอตัวเดินออกไป แต่ถูกเสียงของคิบอมดักไว้





    “ทำงานเสร็จแล้ว ไปรอฉันที่สวนด้วยนะ”







    ชายหนุ่มไม่ตอบรับอะไร เดินดิ่งออกมา พลางนึกถึงอี้เฟย ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของหัวหน้าพรรคหลันหลง
    คนที่กำลังจะมาเป็นนายหญิงคนใหม่ของทุกคน



    หญิงสาวที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ น่าสงสารและน่าเห็นใจ ที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลือกไม่ได้เช่นนี้














    หญิงสาวควรจะแต่งงานอย่างราบรื่น และ อยู่กับสามีหลังวันแต่งงานอย่างมีความสุขไม่ใช่เหรอ?















































    “คิบอม…” เสียงหวานเรียกให้ชายหนุ่มที่กำลังจะเดินแยกไปอีกทางหยุดลง ก่อนจะหันกลับมามองยังหญิงสาว


    “มีอะไรหรือครับ?”



    “คิบอมช่วยแนะนำเราด้วยนะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างขอความช่วยเหลือ
    คิบอมมองท่าทางไร้เดียงสาราวกับเด็กน้อยนั้น ก่อนจะเอ่ยด้วยไมตรีว่า


    “ได้สิครับ งานแรกเลย คือ คุณอี้เฟยจะต้องช่วยผมเตรียมงานที่กำลังจะมาถึงนะครับ
    งานนี้เป็นงานใหญ่และสำคัญมากๆของพรรคเรา เราต้องทำออกมาให้ดีที่สุด
    ถ้านายท่านยังอาการไม่ดี ในฐานะของนายหญิงแห่งพรรคหลันหลง
    คุณอี้เฟยจะต้องอยู่เป็นตัวแทนของนายท่านอย่างสมศักดิ์ศรี”



    หญิงสาวยิ้มกว้าง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับอย่างเต็มใจ





    หญิงสาวไม่กล้าเอ่ยถามอะไรเกี่ยวกับแทมิน… รู้แค่เพียงว่าปลอดภัยดี ก็พอแล้ว











































































    คิบอมนึกหงุดหงิดตัวเอง ที่ต้องออกมาพบกับใครบางคนที่ไม่ค่อยถูกชะตา
    ในยามวิกาลเช่นนี้เสียทุกครั้งไป ดวงตาคมมองหลังของชายหนุ่มที่ยืนมองสวนสวยอย่างไม่นึกรู้เลยว่า เขามาถึงตรงนั้นแล้ว

    “แฮ่มม” ชายหนุ่มแกล้งกระแอม พอให้อีกฝ่ายหันมา
    คิบอมแอบสังเกตคนที่ไม่ได้พบหน้ากันมาหลายวัน อีกฝ่ายดูท่าทางจะโทรมไปมาก
    ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า คงจะเอาดีกับตำแหน่งใหม่อย่างเต็มที่











    ตั้งใจทำงาน ตามที่สั่งดีนิ่



    แต่





    มันก็อดหมั่นไส้ไม่ได้… เหมือนเดิม









    ไม่มีเหตุผล ไม่มีคำอธิบายอะไรเกี่ยวกับชายคนนี้


    แค่นึกอยากจะรู้สึกก็รู้สึก




    “ทำงานเสร็จแล้วเหรอ” คิบอมเริ่มเอ่ยถามก่อน

    “เปล่าหรอกครับ งานครั้งนี้หนัก ทำกันหามรุ่งหามค่ำ ไม่มีคำว่าเสร็จหรอกครับ
    ต้องทำจนกว่าจะดีที่สุด แต่ที่ผมออกมาก็เพราะไม่อยากขัดใจคุณคิบอม”
    คำตอบของอีกฝ่ายทำเอาคิบอมหัวเสีย นึกโมโหกับคนตรงหน้า




    ทำอย่างกับ…ไม่เคยขัดใจงั้นล่ะ พ่อคนเก่ง





    คิบอมพยายามข่มกลั้นอารมณ์โมโห นึกอยากจะเถียงออกไป แต่ก็ไม่อยากจะต่อความให้เสียเวลา
    จึงได้เอ่ยถามเกี่ยวกับความคืบหน้าของงาน


    ยิ่งฟังที่ชายหนุ่มเล่า เขาก็ยิ่งแต่จะนึกชื่นชมในตัวชายผู้นี้ แต่ความรู้สึกบางอย่างก็รั้นไว้ว่า …ไม่




    ใครๆก็ว่า หัวหน้าห้องเครื่องโอสถ อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรกับทุกคน … โกหกกันทั้งนั้นล่ะ

    ก็คนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนเนี้ย หน้าบูดตลอดเวลา ทำอย่างกับไม่อยากคุยกับเขาอย่างนั้นล่ะ

    แล้วจะให้ฉันพอใจได้ยังไง




    “อาหารพิเศษสำหรับปีนี้คืออะไร?”





    “ผมยังบอกตอนนี้ไม่ได้ และจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากคุณคิบอมด้วยครับ”

    คิบอมเลิกคิ้วอย่างอย่างแปลกใจ ก่อนเอ่ยออกไปว่า




    “งั้นก็เชิญบอกมา เพื่อให้งานของพรรคออกมาดีที่สุด”


    “ครับ..เพื่อให้งานนี้สำเร็จอย่างสมบูรณ์ ผมมีบางอย่างจะขอจากคุณ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างระวัง









    “ขออะไร?”
































    “พิริสเคีย”























    นายกล้ามาก อีอนยู

















    TBC






    Talk: สวัสดีค่ะ รีดเดอร์ ยังจำฟิคเรื่องนี้ของข้าพเจ้าได้บ้างหรือ 5555 ขอโทษมากที่สุดจริงๆค่ะ เรียนหนักและทำงานด้วย จึงทำให้ไม่มีเวลามาเขียนฟิคต่อเลยค่ะ แต่จิตใจนั้นก็พะวงถึงไฮอินะอยู่ตลอดจริงๆนะ


    ที่ตอนนี้ไรเตอร์มาอัพได้ เพราะน้ำท่วมค่ะ ว่างงาน เลื่อนเปิดเทอม แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลย ไรเตอร์อยากให้ประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
    ขอเป็นกำลังใจเล็กๆให้แก่ผู้ประสบภัยทุกคนนะ สู้สู้ๆนะคะ



    ปล ขอตอบคำถามล่วงหน้าค่ะ ว่าทำไมอีเฟย ถึงยังเป็นภรรยาของแทมินได้อีก 555 เพราะ งานที่ถูกระเบิดนั้น เป็นแค่งานฉลองมงคลสมรส เหมือนๆบ้านเราค่ะ


    ปล ถ้าสงสัยว่าชื่อตอนสัมพันกับตอนนี้ยังไง บอกว่า ต้องมองดีๆค่ะ 555




    ปล ตอนต่อไปอีกไม่เกินอาทิตย์แน่ๆค่ะ

    ปล ใครที่รอ ทูมิน ต้องขออภัยจากใจค่ะ แต่ตามเนื้อเรื่อง มันต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ อดทนสักนิดนะคะ เพราะตัวแทมินและมินโอเองก็อดทนรอเหมือนเราเหมือนกันค่ะ ^^ น้าาาาา(อ้อนวอน) รับรองว่ามีแน่ๆ แค่ต้องเป้นในเวลาที่ใช่(5555555555555)


    ขอเม้นสวยๆ ให้กำลังใจไรเตอร์บ้างนะคะ ดอกไม้ต้องการน้ำฉันใด ไรเตอร์ก็ต้องการกำลังใจฉันนั้น





    ขอบคุณจากหัวใจค่ะ 





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×