ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    School Of Love by TaecJay KhunDong ChanHo DongSu

    ลำดับตอนที่ #3 : EP.3 ไม่มีทางหนีได้เลย ฉันเลยต้องเอ่ยปาก...บอกรักเธอมานานแสนนาน

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 55



     

      

         แอ๊ดดดดดดดด


           หลังจากที่แทคยอนก้าวเข้ามาในห้องของชมรมร้องเพลง เขาก็ต้องชะงักทันที และคิดว่าเขาไม่น่าลืมตัวเผลอเข้ามาในห้องนี่เลย  เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาน่ะสิ!!  ที่ไม่ใช่ใครที่ไหน....



      "แจบอม!!"   แทคยอนเอ่ยทักแจบอมเสียงดังด้วยอาการที่ยังไม่หายตกใจเท่าไหร่  และแจบอมเองก็ตกใจไม่ต่างกับเขาเช่นกัน


       แจบอมหลบตาเขา.....   แต่เขาเองก็ทำได้แค่มองเลิ่กลั่กไปรอบๆห้อง....แม้ว่าเขาจะเห็นห้องนี้จนชินตาแล้วก็ตาม
        
           (ทุกคนคงกำลัีงงงว่าระหว่าง 2 คนนี้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น  งั้น!!ย้อนไปเมื่อคืนก่อนหลังจาการพบปะกันของแก๊งดริ๊งด่องสิ้นสุดลง)



       โอ๊ย!!!!  มึนหัวเหลือเกินเขาไม่น่าดื่มมากขนาดนี้เลย  แจบอมคิดตอนนี้เขาอยู่ที่เบาะหลังภายในรถของชานซอง  ที่กำลังแล่นเพื่อไปส่งเขาและแทคยอนกลับบ้าน......ใช่  อ๊ก แทคยอนเองก็เมาไม่ต่างอะไรกับเขาแต่เผอิญหมอนี่เป็นประเภทเมาแล้วหลับเท่านั้นเอง  เแทคยอนหลับทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถ  และยึดไหล่เขาเป็นหมอนรองหัว



         วันนี้หมอนี่เป็นอะไรกัน!!  แจบอมคิด ชอบทำตัวแปลกๆ  มองเขาแปลกๆ  แถมวันนี้ยังอารมณ์ร้ายใส่นิชคุณอีกต่างหาก  ก่อนจะกลับก็เหมือนกัน  หลังจากที่เขาและนิชคุณเดินกลับมาที่โต๊ะเมื่อเต้นเสร็จ  แทคยอนก็เอาแต่อ้าปากยื่นฟันเหยินออกมาจิกกัดนิชคุณได้ตลอดเวลา  พอขากลับก็ไล่นิชคุณเหมือนหมูเหมือนหมาราวกับคนบ้า  แต่ดีน่ะที่ไอ้คุณไม่สนใจแทคยอนเลยสักนิดเอาแต่บอกว่าจะไปหาอูยองๆ  ให้พวกเขากลับไปก่อนเลยไม่ต้องไปส่ง แล้วก็เดินตุปั๊ดตุเป๋จากไป สงสารก็แต่อูยองไม่รู้ป่านนี้เป็นไงบ้าง ไอ้คุณยิ่งเมาอยู่ด้วย แต่โชคดีน่ะที่ชานซองยังพอมีสติอยู่บ้าง ถึงได้อาสาขับรถมาส่งเรากับแทคยอนกลับบ้าน


        
         "ฟู่.."  แจบอมได้แต่พ่นลมหายใจด้วยความเหนื่อย และคิดว่าเขาควรพักสายตาสักงีบนึงเหมือนแทคยอนจะดีกว่า


         "จะ จะ แจบอม"

             เสียงละเมอแสนเบาของแทคยอนดังขึ้นทำให้คนที่คิดจะนอนต่อต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินคนข้างๆ เพ้อออกมาเป็นชื่อเขาอีกด้วย จะให้หลับลงได้ยังไง


         "นะ นายเรียกฉันทำไมเนี่ย"  เขาพยายามพูดให้เบาที่สุดเพราะกลัวว่าชานซองที่นั่งขับรถอยู่เบาะหน้าจะได้ยินเข้า


         "แจบอม..."    เอาอีกแล้ว หมอนี่ละเมอเป็นชื่อเราอีกแล้ว สุดท้ายแจบอมคิดว่าเขาไม่สนใจเสียงละเมอนั้นจะดีกว่า  แต่เสียงละเมอของแทคยอนครั้งนี่ทำให้เขาต้องกลับไปสนใจอีกครั้ง

     
         "แจบอมอ่า...อะ อะไอ้บ้าคุณเอ๊ย"  หมอนี่เพี้ยนไปแล้ว ขนาดละเมอมันก็ยังคงด่านิชคุณ
    .
    .
    .
    .
    .

        "จะ แจบอม...ฉันรักนายน่ะ...ฟี้ zzzzzz" 




        "........."    นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!!~




     กลับสู่ปัจจุบัน....

     

         แทคยอนยังคงยืนอยู่ตรงหน้าแจบอม  ไม่มีใครพูดอะไรกันทั้งคู่.........ถึงแม้ในตอนนั้นแทคยอนจะเมาและละเมออะไรบ้าๆออกมา  แต่เมื่อเขาสร่างเมาในตอนเช้าวันนี้  เขากลับจำคำพูดของเขาได้ทุกคำ  และจำได้ขึ้นใจ.....



        เมื่อแจบอมเห็นว่าแทคยอนเองยังคงไม่พูดอะไรกับเขา  และเขาก็คงไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน  เขาจึงตัดสินใจเดินผ่านแทคยอนมุ่งไปที่ประตูเพื่อจะได้ออกจากบรรยากาศชวนอึดอัดในห้องนี่ซักที!!!  ถ้าคนตัวใหญ่ไม่มาคว้าแขนเขาไว้สะก่อน!!


       
        "เดี๊ยวสิ  ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย" แทคยอนเอ่ยเสียงเครียด

        
         "มีไรก็ว่ามาสิ ฉันต้องไปทำธุระอย่างอื่นต่อ มีเวลาไม่มากนักหรอก"  แจบอมพูดโดยไม่หันไปมองคนข้างหลังว่ามีสีหน้าเป็นยังไงซักนิด



        "เกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนก่อน...คือฉะ..."  ยังไม่ทันที่แทคยอนจะพูดจบแจบอมก็แทรกขึ้นทันที  "เมื่อคืนก็ไม่มีไรนิ นายเมาแล้วฉันกับชานซองก็พามาส่งที่บ้านแค่นั้นเอง"


       "นี่!! นายลืมทุกอย่างที่ฉันพูดไปแล้วหรือไง ที่ฉันบอกว่าฉันรักนา...."

      
       "หยุดเถอะ!! พอเหอะนายไม่ต้องคิดมากหรอกฉันรู้ว่านายแค่ขาดสติเฉยๆ" เขาพูดแทรกก่อนที่แทคยอนจะพูดอะไรที่เขาไม่อยากได้ยินออกมา


       "ฉันไม่ได้ขาดสติอะไรทั้งนั้น  เพราะเรื่องเมื่อคืนฉันพูดจริง!!"  

       คราวนี้แจบอมเป็นฝ่ายที่เครียดแทน...


         "และวันนี้ฉันก็มาเพื่อเอาคำตอบจากนาย ว่านายคิดเหมือนฉันรึเปล่า"  แทคยอนเหมือนจะไม่ยอมแพ้ และเริ่มกลับมาเป็นแทคยอนคนเดิมที่ดูมั่นใจและร่าเริงสุดๆ


        "......"  เมื่อเห็นว่าแจบอมไม่ตอบอะไรแทคยอนจึงมั่นใจทันทีว่าแจบอมก็คิดอะไรกับเขาเช่นกัน ก่อนจะจับแขนแจบอมแน่นแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงสดใส


       "นี่ แจบอมฉันถามนายทำไมนายไม่ตอบล่ะ เดี๊ยวฉันก็สรุปเอาเองเลย ว่านายก็ชอ...."



     "ไม่!!"  แจบอมพูดแทรกแทคยอนอีกครั้ง    "ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายแบบนั้น เพราะฉะนั้นนายเลิกคิดเหอะ ถึงไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่  ถ้างั้นปล่อยแขนฉันได้แล้ว ฉันต้องรีบไปทำธุระต่อ"

        
        
        แทคยอนหมดแรงแทบจะในทันที  มือที่เคยแข็งแกร่งและดูมั่นใจ กลับปล่อยแจบอมออกอย่างง่ายดาย  เมื่อแขนของแจบอมหลุดจากการเกาะกุมของแทคยอน  เขาก็รีบเดินออกจากห้องทัีนที  โดยทิ้งคนที่ยังยืนค้างนิ่งไม่ขยับตัวเลยสักนิดไว้ในห้องเพียงลำพัง  และไม่คิดที่จะสนใจ  เพราะแจบอมนั้นคงมัวคิดแต่เรื่องของเขาเองอยู่ว่าที่เขาตอบแทคยอนไปแบบนั้น  เป็นเพราะเขาไม่ใช่เกย์หรือกลัวใจตัวเองกันแน่.....






                                                                       ......................................................





             "ดงอุนอ่ะ  กินข้าวได้แล้ว  แกไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าแล้วน่ะ  ตอนนี้ก็ปาไปเที่ยงแล้วจะไม่ลงมากินอะไรหน่อยหรอ"  นิชคุณตะโกนเรียกน้องชาย  ที่ดูเหมือนว่าจะไม่เชื่อฟังสิ่งที่เขาพูดเลย


           "ไม่หิว!!"  นั่นคือคำตอบจากน้องชายที่ตะโกนอออกมาจากห้อง



          "ตามใจแก!!~"  นิชคุณบ่นพึมพำก่อนจะเลิกใส่ใจ  และกลับมาอมยิ้มอีกครั้ง  ก็จะอะไรล่ะที่ทำให้คนอย่างนิชคุณยิ้มหน้าบานได้ขนาดนี้  ถ้าไม่ใช่อูยองหนุ่มแก้มอูม  ผู้ครอบครองหัวใจเขาไปแล้ว (อ้วกนิดหน่อย=0=)  ที่ตกลงว่าจะไปดูหนังกับเขาวันนี้  หลังจากโดนเขาหลอกว่าจุนโฮ กับจุนซู  เพื่อนซี้ของอูยองจะไปดูหนังด้วยกัน  เท่านั้นอูยองก็ยอมไปด้วยทันที  ชั่วมั้ยล่ะ^^ นิชคุณคิดไปก็ยิ้มไป  สงสัยเขาคงจะบ้าเพราะอูยองแล้วจริงๆ  ก่อนจะีรีบเดินออกจากบ้านไปตามที่นัดไว้ทันที



        ส่วนชายหนุ่มข้างบนห้องนั่น กลับอยู่ในอารมณ์คนละแบบกับพี่ชายเขาโดยสิ้นเชิง  ดีน่ะ!! ที่วันนี้เป็นวันหยุด ไม่งั้นเราคงต้องไปเจอกับพี่จุนซูแน่ๆ  ดงอุนคิด


         หลังจากวันนั้นที่เขากับจุนซูทะเลาะจนมีปากเสียงกัน  ดงอุนก็เข้าใจในทันทีว่าเขาคงจะเป็นเกย์แบบพี่ชายเขาแล้วล่ะสิ  จะอะไรล่ะถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดทิ่มแทงของคิม จุนซู  คนที่มีอิทธิพลต่อเขามากที่สุด



        "ไม่หิวๆๆ"  ดงอุนพูดย้ำกับตัวเอง แต่ไอ้กระเพาะเจ้ากรรมมันกลับไม่ทำตามคำสั่ง  แถมยังส่งเสียงร้องครวญครางว่ามันต้องการอาหารจนเขาเริ่มรำคาญ


        ไม่อยากกิน  ไม่อยากลุกจากเตียง  ไม่อยากทำอะไรทั้งน้ัน  ดงอุนคิดอย่างนั้น  เพราะตั้งแต่เช้าเขาไม่ลุกออกจากเตียงเลยด้วยซ้ำ  ข้าวปลากก็ไม่คิดจะกิน(ถึงจะหิวก็เถอะ)  เขาไม่ได้ประชดแต่เขาไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้นจริงๆ



      

      แอ๊ดดดด  ....ปัง!!!!!   


         เสียงเปิดปิดประตูดังขึ้นติดกันอย่างรวดเร็วด้วยความรีบร้อนของหนุ่มหน้าหวาน  คิม จุนซู!!  เฮ้ย!!! นี่เราคิดถึงพี่เขาถึงขนาดเห็นภาพหลอนเลยเหรอว่ะเนี่ย ไอ้ดงอุนมึงบ้าไปแล้วหรอ!!!  คิดด่าตัวเองในใจ  แต่เขาก็รับรู้ได้ในทันทีว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ภาพหลอน  เพราะพี่จุนซูเอามือทั้งสองข้างจับหน้าผมไว้ก่อนจะพูดด้วยสีหน้ากังวลสุดๆ


       
        "นิชคุณโทรมาบอกว่านายไม่สบายมาก  ข้าวก็ไม่กิน ลุกก็ลุกไม่ไหว  เป็นอะไรรึเปล่า"  


          อ๋อ....0o0 ในที่สุดผมก็เข้าใจ  เมื่อวันก่อนหลังจากทีพี่คุณเห็นผมกลับบ้านด้วยสภาพน่าเวทนาสุดๆ  เขาจึงซักไซ้ผมจนในที่สุดผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ชายฟัง  แต่ผมไม่คิดเลยว่า  พี่คุณจะโทรตามพี่จุนซูให้มาหาผมถึงห้องแบบนี้  สงสัยพอพี่คุณกลับมาผมคงต้องขอหอมแก้มสักฟอดใหญ่สะแล้วสิ



        "พี่เป็นห่วงผมหรอ??"  ผมหลอกถามเพราะต้องการคำตอบจริงๆ  ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าผมรักคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามากแค่ไหน  ไม่งั้นคำพูดแค่เล็กน้อยของพี่จุนซูคงไม่ทำให้ผมเป็นอะไรได้มากขนาดนี้


       
         "ก็ใช่น่ะสิ  ไม่งั้นฉันไม่รีบร้อนมาหานายถึงบ้านหรอก"  จุนซูตอบตามความจริง  เขารู้สึกเป็นห่วงจริงๆ ถึงเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน


        "ปล่อยหน้าผมได้ยังครับ"  ผมแกล้งถามต่อเพราะรู้สึกดีที่พี่จุนซูยอมรับว่าเป็นห่วงผมจริงๆ


        "ขะ ขะ ขอโทด=///="   จุนซูชักมือกลับทันที  แก้มใสๆ เริ่มขึ้นสีเรื่อ  น่ารักจัง!! ดงอุนคิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้



         "ยิ้มอะไรของนาย"


        "ป่าวครับพี่"

       

        "ขอโทด..."  เอ๋??  ดงอุนงงกับคำพูดประโยคนี้ของรุ่นพี่ตน  ก่อนจะเอ่ยถามต่อ


        "ขอโทดเรื่องไรครับ  พี่อุตส่ามาเยี่ยมผม  แล้วจะขอโทดผมทำไมล่ะครับ??"

      
         "ระ เรื่องเมื่อวาน  ขอโทดน่ะ  ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแรงๆกับนายเลย"   โธ่เอ๊ย!!~ นึกว่าเรื่องอะไร  ดงอุนยิ้มหน้าบาน  เขารู้สึกดีมากที่พี่จุนซูใส่ใจกับความรู้สึกของเขามากขนาดนี้


        "นายยกโทดให้ฉันไ้ด้มั้ย  แร้วก็เรื่องลาออกด้วย  ฉันไม่รับคำลาออกของนายได้มั้ย?"  จุนซูเอ่ยถามต่อเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่ตอบอะไร  เขารู้สึกแย่จริงๆ  ตั้งแต่เมื่อวันนั้นจุนซูก็คิดเรื่องนี้แทบจะตลอดเวลา  โดยที่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องใส่ใจกับเด็กคนนี้มากมายนัก 



        "ผมไม่เคยโกรธพี่  ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ  เห็นพี่ขอโทดผมแบบนี้แล้วดีใจชะมัด"


        "ดีใจ?  ทำไมล่ะ"  ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นด้วย หรือเราจะคิดไปเอง

        
        "พี่...เอ่อ...พี่เป็นคนพิเศษสำหรับผมน่ะ"  จริงๆ แล้วดงอุนเป็นคนขี้อายมากแต่ในวันนี้  เขาจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีกแล้ว  เพราะกลัว  กลัวจะเสียพี่เขาไปโดยที่ตัวเองไม่เคยคิดจะทำอะไรเลยสักอย่าง  เขาไม่ต้องการแบบนั้น


       "นะ นะ นายบ้าไปแล้วหรอ  พูดอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า!!!!"



       "......"   จึก!!  เหมือนมีอะไรบางอย่างมันแทงไจเขาอย่างจัง



      ทั้งเจ็บ....



      ทั้งจุก.....


        สงสัยพี่จุนซูคงจะไม่ได้คิดแบบเดียวกับเขาเลยสักนิดเดียว


       "โทดน่ะแต่พี่ไม่ได้คิดอะไรกับนายแบบนั้น"  จุนซูเอ่ยอย่างรู้สึกแปลกๆชอบกล


       "พี่ไม่ได้คิดอะไรกับผมเลยหรอ  มะ ไม่ เลยหรอ...."  ตอนนี้ดงอุนพยายามมองหาคำตอบจากสายตาของจุนซูเนิ่นนาน  พวกเขาสองคนจ้องตากันอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่  ดงดุนเต็มไปด้วยสายตาวิงวอน  ส่วนจุนซู  ตอนนี้  เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเผลอมองดงอุนแบบไหน  ก่อนจะทำลายความเงียบด้วยคำว่า




     "......ไม่.....ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายเกินกว่าคำว่าพี่น้องหรอกดงอุน"


     "โกหก..."  ดงอุนเอ่ยเสียงแผ่วเบา


       "ฉันพูดจริง"


       "โกหก!!!!!~"  แต่ครั้งนี่ดงอุนตะโกนสุดเสียง  ก่อนจะเอ่ยต่ออย่างอ่านสายตาคนตรงหน้าออก


       "พี่กำลัีงโกหกตัวเองอยู่  หรือว่าพี่เห็นผมไม่เอาไหน ดูแลพี่ไม่ได้งั้นเหรอ"


       "ฉันไม่คิดเลยว่านายไม่เอาไหน"


      "งั้นทำไมพี่ต้องโกหกผมด้วย!!! พี่พูดแบบนั้นทำไม!!!~"  เสียงของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเงียบอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำนี้


       "ฉันไม่ได้ชอบนายแบบนั้น  นายคิดไปเองคนเดียวแล้วล่ะ"






      "........"   ตอนนี้ดงอุนจุกจนไม่รู้จะพูดอะไรต่ออีกแล้ว....


      "โทดน่ะ  พี่ขอตัวก่อน  นายก็...อย่าลืมทานข้าวทานยาล่ะ"  จุนซูเอ่ยก่อนจะรีบเดินออกไปแต่ก็ทันพอที่จะได้ยินคำพูดเบาๆของคนบนเตียง


       "ผมมันบ้าไปเองคนเดียวจริงๆ....."  


             เจ็บ.........เจ็บมาก  ดงอุนรู้สึกแบบนั้นจริงๆ  เขาไม่เคยคิดเลยว่าพี่จุนซูจะปฎิเสธเขาหลังจากวิ่งหน้าตาตื่นมาหาเขาถึงบ้านแบบนี้  

       โกหกใช่มั้ย??  หรือเขาฝันอยู่น่ะ...ถ้าฝันอยู่เมื่อไหร่จะตื่นเสียที  ผมอยากเห็นรอยยิ้มของพี่อีก  อยากให้พี่ยิ้มให้ผมอีกครั้ง  อยากฟังถ้อยคำห่วงใยจากพี่  พี่คนเดียวเท่านั้น.........................พี่จุนซู



         




        หลังจากจุนซูเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นได้สักพักใหญ่  เขาก็ยังคงยืนอยู่หน้าบ้านของเด็กหนุ่มหน้าใสที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้   ทั้งๆที่เขาเป็นคนปฎิเสธแท้ๆ  แต่ทำไมเขากลับรู้สึกแปล๊บๆตรงอกข้างซ้ายของเขาด้วย  เขาไม่อยากยอมรับว่าเขาก็คิดเช่นเดียวกันกับดงอุน  แต่จะทำไงได้ในเมื่อเขารู้มาโดยตลอดว่า  จุนโฮ   คนที่เขารักเหมือนน้องชายแท้ๆของเขา  กำลังแอบชอบดงอุนคนที่พึ่งจะสารภาพรักกับเขาเมื่อครู่นี้  แล้วจะให้เขาตกลงได้ยยังไงกัน



        ไอ้บ้าเอ๊ย!!!!~  ทำไมต้องร้องไห้ด้วยว่ะเนี่ย  จุนซูคิดก่อนจะรีบเอามือปาดน้ำตาิอย่างลวกๆ ก่อนที่ใครจะมาเห็นเขาในสภาพนี้  คิดได้ดังน้ัน  จุนซูก็รีบวิ่งจากไปไม่วายหันกลับมามองบ้านหลังนี้อีกครั้ง  แล้วหันกลับไปทันที



     



                                                        ...............................................................












         "รอนานมั้ย^0^"  นิชคุณพูดพร้อมกับขยับใบหน้าให้ใกล้กับใบหน้าอูมๆ  ของหนุ่มน้อยน่ารักเจ้าของดวงตาบวมๆ  จาง อูยอง นั่นเอง  ซึ่งตอนนี้แก้มยุ้ยๆ น้ันขึ้นสีชมพูเรื่อ.......เขินวุ้ย!!!



        "ออกไปห่างๆดิ๊"  อูยองเอ่ยแก้เขิน หลังจากผลักอกคนตรงหน้าเบาๆ  แล้่วทำไมฉันต้องเขินด้วยเนี่ย !!!~ คิดแล้วก็งงตัวเอง

        "เมื่อไหร่พี่จุนซูกับจุนโฮจะมาสักทีเนี่ย  นายนัดพวกเขาถูกเวลาป่ะเนี่ย??"  อูยองเอ่ยอย่างเซ็งๆ  เพราะเขามายืนรอนานพอสมควรแล้ว


         "สงสัยวันนี้เราสองคนต้องไปดูหนังกันแค่เนี่ยแหละ"


         "ห๊ะ!!O0O  ว่าไงน่ะ!!"


        "ก็จุนโฮไม่ว่าง  ส่วนจุนซูก็ดูเหมือนว่าต้องไปดูแลใครบางคนอยู่(จากฝีมือของตัวเองล้วนๆ)"


        "นี่นายอย่าบอกน่ะว่า  นายหลอกให้ฉันมาเที่ยวกับนายสองคนเนี่ยน่ะ"


        "ก็ใช่น่ะสิ  แร้วไงอ่ะ?"  ตอบยียวน-0-  เพราะอยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะทำอะไรต่อไป


        "ถามโง่ๆๆ ก็กลับไง  ฉันไม่น่าโง่ตามนายมาเลย"  ไม่พูดเปล่าอูยองเดินหนีทันที  แต่คนตัวสูงมือไวกว่าคว้่าหมับเข้าที่แขน  ก่อนจะเลื่อนลงมาจับมือคนตัวเล็กไว้  


         "ป่ะ ไปดูหนังกัน"


        "อะ อะ ไอ้บ้า  ปล่อยน่ะเฟ้ย คนเขามองกันเข้าใจผิดหมดแล้ว"  อูยองพูดพร้อมมองซ้ายทีขวาที


        "ไม่เห็นเป็นไรเลย  ใครสนล่ะ"  นิชคุณยังคงจับมือเขาแน่น ไม่ปล่อยง่ายๆ


         "แต่ฉันสนโว๊ย!!~"

       
         "ถ้างั้นแบบนี้แล้วกัน"  พูดจบมือใหญ่ก็เลื่อนมาโอบไหล่คนร่างบางก่อนจะเดิน(กึ่งลาก) ให้เข้าไปโรงหนังด้วยกัน


         "เฮ้ย!! "  แต่ดูเหมือนหนุ่มร่างบางจะไม่ได้เต็มใจเท่าไหร่นัก


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
        
    ผ่านไปได้สักครึ่งเรื่อง.........

        นิชคุณก็ยังคงดูหนังไปพลาง  เหลือบมองคนข้างๆไปพลาง   "น่ารักจัง" อุ๊บ!!~ เขาเผลอหลุดปากได้ไงเนี่ย  แต่แทนที่เขาจะได้รับฝ่ามือเล็๋กๆของคนข้างๆเหมือนอย่างเคย  กลับได้เห็นใบหน้าเขินอายของเด็กหนุ่มแก้มป่องที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำจนเหมือนไข้ขึ้นสูงได้แร้วมั้ง  นั่นยิ่งทำให้นิชคุณ  อดไม่ได้ที่จะยิ้มแก้มปริในความน่ารักของอูยอง  แต่ดูเหมือนว่าอูยองจะได้สติ  จึงตีหน้าโหดหันมาหาเขาทันที



       "ไอ้บ้า!!!~"  ว่าจบก็รีบหันหน้าไปที่หน้าจอภาพยนตร์ก่อนจะดูดน้ำแก้เขิน



          นิชคุณเห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งต่อโดยการ ค่อยๆเอนหัวไปซบไหล่บางๆ ของคนข้างๆ แล้วแกล้งทำเป็นหลับตาพริ้ม เหมือนคนหลับจริง  และดูเหมือนว่าอูยองจะเชื่อด้วยสิ  เพราะเขาไม่ปัดป้องแต่สะดุ้งเล็กๆ  ก่อนจะหันมามองใบหน้าหล่อเหลาบนไหล่ของตัวเอง  และเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว  หมอนี่น่ารักดีเหมือนกันน่ะ


        "ยิ้มไรอ่ะ"  นิชคุณพูดพร้อมกับลืมตามองใบหน้าของอูยองที่ตอนนี้หันหน้าหนีเขาทันที  แต่ไม่พ้นสายตาของนิชคุณผู้นี้หรอก


        "ปะ ปะ ป่าวยิ้มสะหน่อย"  อูยองพูดแก้เขินที่ถูกจับได้


        "ยิ้มให้พี่ก็ไม่เห็นมันจะน่าอายตรงไหน  ทำไมต้องโกหกว่าไม่ได้ยิ้มด้วยล่ะ หืม?"  นิชคุณพูดจบก็ทำตาโตกลมใส  ให้อูยอง


           
       อ๊าก!!!!~ เขินวุ้ย  อูยองคิดได้อย่างนั้นก็รีบสลัดความคิดนั้นทันที


        "จะดูไหมเนี่ยหนังอ่ะ"  พูดไปก่อนแร้วกันว่ะ เพราะตอนนี้อูยองไม่รู้จะวางตัวยังไงแล้ว


       
       "จ้าๆ ดูจ๊ะดู^^"  แต่ก็มิวายทิ้งระเบิดก้อนใหญ่ให้อูยอง  "เขินล่ะสิ รู้น่ะว่าพี่มันหน้าตาชวนใจสั่นชั่ยมั้ยล่ะ"


        "......=///=" (หมดคำบรรยาย)  ดูหน้าเด็กด้งเอาเอง


       "หน้าแดง หูแดงหมดแล้วอูยอง  แหม..แฟนพี่น่ารักจัง"  พูดจบนิชคุณก็เอามือบีบจมูกอูยองเบาๆ ด้วยความหมันเขี้ยว


       "นี่ นายเรียกใครแฟนนาย"  พูดจบอูยองก็เดินออกจากโรงหนังทันทีจะให้นั่งอยู่นานได้ยังไง?  ก็ดูหนังได้พักๆเดี๋ยวซบ  ดูได้พักๆ เดี๋ยวหยอด  เขาจะทนไงไหว  เขาก็คนน่ะไม่ให้รู้สึกเลยคงไม่ได้>0<

       
        

       "เฮ้อ....."  อูยองถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากออกมายืนอยู่ด้านนอกของโรงหนังที่ทั้งเงียบและไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นัก


        "นี่!! เขินเค้าจนต้องออกมาสงบสติอารมณ์ข้างนอกเลยเหรอจ๊ะ ตัวเอง"  ในที่สุดใบหน้าหล่อ น่ารักของนิชคุณ  ก็ตามมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง



       "คะ คะ ใครเขินนาย!!"  โอ๊ย!! ทำไมฉันต้องพูดติดๆ ขัดๆ ด้วยเนี่ย


       "ถ้าไม่เขินแร้วทำไม พูดไม่เป็นคำอย่างนี้ล่ะครับ หึๆๆ เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองสักทีห๊ะ"  นิชคุณพูดกลั้วหัวเราะในท่าทางของอูยอง  คนที่เขาอยู่ด้วยแล้วมีความสุขที่สุด


       
       "กะ ก็ฉันแค่...อุ๊บ!!"  ยังไม่ทันพูดจบประโยคนิชคุณก็จับหน้าอูยองก่อนจะ คิสเเบาๆ ที่ริมฝีปากเด้งๆ น่ารักๆของอูยอง  จูบแผ่วเบา  ให้ความรู้สึกอ่อนโยน  ที่ทำเอาคนโดนจูบตกใจ แต่ก็ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ  จากนั้นเจ้าของริมฝีปากบางจึงค่อยๆเลื่อนริมฝีปากมาหยุดอยู่บนหน้าผากของคนร่างเล็กอย่างอ่อนโยน  จุ๊บเบาำ ที่ทำให้จาง อูยองลืมตาขึ้นทันที  แต่ก็คงทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้  เจ้าตัวถึงได้ด่าคนตรงหน้าแก้เขิน



      "คะ ใคร อนุญาตให้นายทำกับฉันแบบนี้ห๊ะ!!!"  พูดไปพลางเอามือจับปากของตัวเองเบาๆ  ความรู้สึกเมื่อครู่นี้ยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปากเขา


       "พี่ชอบนาย พี่รักนาย พี่อยากอยู่ข้างๆนาย เหตุผลเท่านี้พอมั้ยอ่ะ??"  นิชคุณเอ่ยยิ้มๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความจริงใจ



       ">///<" (พูดไรไม่ออก)


       เมื่อเห็นคนตรงหน้ายืนนิ่งแต่แก้มป่องๆขั้นสีเรื่อ  นิชคุณก็ไม่รอช้าที่จะเร่งทำคะแนนให้คนๆนี่ยอมรับรักเขาสะที  โดยการดึงแขนคนตรงหน้าเข้ามากอดแน่น


      กอดที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นจากความรักล้วนๆ  ที่เจ้าของอ้อมกอดคิดว่าจะสื่อไปให้เด็กขี้อายปากแข็งคนนี้ได้รู้สะที







       ตึก ๆ  ๆ   ๆ   เสียงหัวใจของอูยองเต้นดังจนเจ้าตัวรู้สึกได้  ทำให้เขารู้ว่าเขาเองก็เริ่มจะชอบนิชคุณเช่นกัน  ถึงตอนแรกเขาจะเบื่อ  และอยากหนีไปไกลๆ  แต่ยิ่งนานวันเข้า  นิชคุณก็ยังคงตามเขาไม่เคยห่าง  นั่นแหละ!!ที่ทำให้อูยองหวั่นไหวขึ้นมาเฉยๆ  จนตอนนนี้เขารู้ตัวแล้วว่า  เขาก็รู้สึกไม่ต่างอะไรกับนิชคุณเช่นกัน  พอคิดได้ดังนั้น  แขนบางๆ ก็ค่อยๆ  กอดตอบคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา  ก่อนจะกอดแน่นอย่างยืนยันคำตอบของตัวเอง



       "ให้โอกาสพี่ได้มั้ย  คบกับพี่น่ะ"  นิชคุณเอ่ยถาม  ผู้ซึ่งรู้สึกถึงแรงกอดที่คนในอ้อมแขนมอบให้  ก่อนจะรอฟังคำตอบ



        อูยองเมื่อได้ยินคำถามจากคนที่ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดจากเขาทั้งๆที่ยังคงพูดอยู่กับเขาต่อไป  ก็เอ่ยตอบรับอย่างแผ่วเบา  "อืม^^"  ก่อนที่จะซบหน้าลงกับอกของคนตัวสูงกว่า ด้วยความเขินอาย



        "อย่างนี้ต้องให้รางวัลสะแล้ว"  ไม่พูดเปล่านิชคุณคลายอ้อมกอดก่อนจะหอมฟอดใหญ่ที่แก้มของอูยองทันที  อา!!~ชื่นใจจัง^^


       "หอมคืนมั่งดิ  หรือว่านายรังเกียจพี่หรอ"  ได้ทีไอ้คนพี่มันก็เอาใหญ่  แล้วยื่นแก้มขาวๆ ให้คนข้างๆ ที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว


       "นะๆๆๆๆ"  คนตรงหน้ายังคงอ้อนไม่เลิก  ทำให้อูยองทำไรไม่ได้นอกจากทำตามที่ไอ้บ้านี่มันขอ


       ปลายจมูก น่ารักๆ แตะแก้มของนิชคุณอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออกทันที  นั่นยิ่งทำให้นิชคุณอดที่จะยิ้มในความไร้เดียงสาของอูยองไม่ได้


       "คราวหน้า  แก้ตัวใหม่น่ะ^^"  พูดจบก็จับมือหนุ่มร่างบางให้เดินออกไปด้วยกัน  ซึ่งแค่นี้ก็เป็นเหมือนคำสัญญาแล้วว่าจะดูแลเด็กคนนี้ไปตลอด.....สัญญา^^    นิชคุณนึกคิดกับตัวเอง  วันนี้ช่างเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุดจริงๆ








                                                         ......................................................................  









      วันหยุดสุดสัปดาห์ในทุกๆวัน  เป็นวันที่จุนโฮเกลียดมากที่สุด  จะเพราะอะไรสะอีกล่ะ  ก็เพราะมันเป็นวันหยุด  เขาไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียน  แต่ต้องมานั่งอุดอู้อยู่บ้านแทน  นั่นทำให้ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์  จุนโฮมักจะออกไปชอปปิ้งเสมอ  และวันนี้ก็เช่นกัน


         ตอนนี้จุนโฮเดินเ้ลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้  รวมไปถึง  เสื้อผ้า  เครื่องแต่งกายตามแบบที่เขาชอบ  จนไม่รู้จะเดินซื้ออะไรอีกแล้ว  ข้าวของก็พะรุงพะรังเต็มสองมือ



         เบื่อเฟ้ย!!  จุนโฮคิด  จนพาลนึกถึงใครบางคนที่เขารู้สึกดีด้วยมาได้สักพักแล้ว  ตอนแรกก็ยังไม่คิดอะไรหรอก  เพราะไม่อยากเป็นเกย์นี่นา  ผู้หญิงสวยก็มีเยอะไป  แต่ทำไมกลับเป็นผู้ชายคนนั้นทุกทีที่ทำให้จุนโฮใจสั่น  ใครคนนั้นก็คือ  ซน ดงอุนนั่นเอง  ทุกคนอาจจะคิดว่าเขาไปรู้จักกับดงอุนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เพราะคุยกันในห้องเรียนก็แทบจะไม่ได้คุย  แต่เพราะเขาชอบความเป็นธรรมชาติของดงอุน  ไม่เสแสร้ง  แกล้งเข้าหาเขา  เพื่อหวังผลประโยชน์เหมือนคนอื่นๆ(ยกเว้นจุนซูกับอูยอง) จุนโฮรู้ดีว่าเพื่อนในห้องแต่ละคนมักจะเข้ามาทำความสนิทสนมกับเขา  ก็เพราะว่าเขามีฐานะ  ดูยังไงก็ไม่มีความริงใจอยู่ในนั้นเลย  แต่มีเพียงดงอุนเพื่อนร่วมห้องของเขาที่ไม่เคยใส่หน้ากากเข้าหากัน  มีแต่ความจริงใจล้วนๆที่มอบให้เขา  ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่  แต่เขาก็รู้สึกได้ทุกครั้งที่ดงอุนพยายามชวนเขาคุยเมื่อเห็นว่าเขาอยู่คนเดียว  เนี่ยแหละที่ทำให้จุนโฮค่อยๆ ชอบดงอุนโดยไม่รู้ตัว  



    ไม่รู้ว่าตอนนี้ดงอุนทำอะไรอยู่น่ะ?? จุนโฮครุ่นคิด


    "หวัดดี!!~"  จุนโฮหันขวับทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้องทักจากข้างหลัง


      "ฮวาง ชานซอง!!"  ไอ้หมอนี่อีกแล้ว  ไอ้คนที่อยากเจอกลับไม่เจอ ส่วนไอ้คนที่ไม่อยากเจอทำไมมมันเจอกันบ่อยจังว่ะ


       "มาทำไรอ่ะ"  ชานซองหนุ่มร่างใหญ่ แสนซื่อ  ถามคนตรงหน้าโดยไม่ได้คิดก่อน(อีกแล้ว)


       "เฮอะ!! นี่นายโง่หรือแกล้งโง่เนี่ย  มาเดินห้างฉันคงมาให้อาหารหมีมั้ง"


       "ห๊ะ!! ในห้างนี้เขามีสวนสัตว์มาเปิดแล้วหรอ ไม่ยักรู้แหะ"  ชานซองผู้ใสซื่อ(บื้อ)  เบิ่งตาโต  พลางทำท่าแปลกใจ  เขาไม่ได้แกล้งโง่อะไรหรอก แต่เขาแค่(โง่)จริงต่างหาก


       
      "โอ๊ย!!! คุยกับนายแล้วปวดกบาล ไปล่ะ"  พูดจบจุนโฮก็หอบของพะรุงพะรัง เดินออกจากห้างทันที  ก่อนจะต้องประสาทกินกับคนตรงหน้า


       
        "อ้าว?? อะไรของเขาว่ะ เอาใจไม่ถูกเลยแห๊ะ"  ชานซองเกาหัวก่อนจะเดินตามไอ้หนุ่มตี๋ขี้โมโหออกไป



        "ให้ช่วยมั้ย"  ชานซองพูดพลางเหลือบมองข้าวของที่เต็มสองมือเด็กขี้วีน


        "ไม่ต้อง!!"


        "ก็อยากช่วยอ่ะ"


        "ก็บอกว่าไม่ต้องไง!!~ นายฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอไง  จะไปไหนก็ไปป่ะ  เลิกตามฉันสักที รำคาญ!!"  จุนโฮพูดด้วยความโมโหที่เขาต้องมาอารมณ์เสียเพราะไอ้เด็กโข่งตรงหน้าทุกที




        "....."   


      แต่พอเห็นคนตรงหน้าเงียบไป เขาก็อดแปลกใจไม่ได้เหมือนกัน  หรือเราพูดแรงไปว่ะ??


       "แหะๆๆ  โทดที ฉันก็แค่เหงาน่ะอยู่บ้านก็อยู่คนเดียว เพื่อนสนิทก็หายจ๋อย เลยอยากหาเพื่อนคุยด้วยน่ะ  ช่างเหอะ!! ถ้านายรำคาญฉันขนาดนั้น งั้นไปน่ะ แล้วก็ปากนายอย่าลืมทายาล่ะ บาย...."  ชานซองเอ่ยหน้าจ๋อยๆ  ก่อนจะโบกมือแล้วหันหลังเตรียมตัวจะเดินจากไปตามคำเรียกร้องของหนุ่มตาตี่คนนี้




        "เดี๋ยว" พูดไรไปว่ะเนี่ย!!~ อี จุนโฮ  สังสัยเราคงจะบ้าไปแล้วจริงๆ ที่เกิดนึกสงสารไอ้หมีขี้เหงาคนนี้  แต่ก็อาจเป็นเพราะ เขารู้สึกว่า  ชานซองเหมือนเขาก็เป็นได้  ไม่มีพ่อแม่คอยดูแล  อยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด  แต่ยังดีที่พอมีเพื่อนสนิทกับเขาบ้าง


        "นายเรียกฉันหรอ!!~"  ชานซองหันควับก่อนจะรีบเดินกลับมาถามคำถามอีกครั้งเพื่อยืนยันคำตอบ


         "ฉันว่าจะไปกินข้าวอยู่พอดี  นายกินไรมายัง...ล่ะ?"  จุนโฮเอ่ยเบาๆ บอกคนตรงหน้า แต่สายตาไม่ได้มองชานซองเลยสักนิด แต่หลุบต่ำลงมองเท้าตัวเองแก้เขิน  เขาไม่ค่อยเอ่ยปากชวนใครก่อน  แต่พอเห็นชานซอง  เขาก็อดไม่ได้ที่เกิดจะนึกเอ็นดูมันขึ้นมา


        
        "ยังๆๆๆ  ฉันยังไม่ได้กินอะไรมาเลย งั้นขอไปด้วยน่ะ??"  หนุ่มหน้ามน  รีบตอบคำถามจุนโฮทันทีเพราะกลัวว่าถ้าช้า  คนตรงหน้าจะเปลี่ยนใจสะก่อน


       "ก็ไปสิ"  พูดจบจุนโฮก็เดินนำออกไปทันทีเพราะกลัวว่า ไอ้หมียักษ์นั่น  จะเห็นว่าเขาเผลอยิ้มให้กับความใสซื่อของเจ้าตัว



       "ถือให้น่ะ"  ชานซองเอ่ยถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ  เขาดึงถุงที่พะรุงพะรังในมือของคนร่างเล็ก  มาถือไว้เองทันที  ก่อนจะส่งยิ้มแฉ่งให้เจ้าของของพวกนี้


       "ตะ ตะ ตามใจ"  โอ๊ย!! ทำไมเขาต้องพูดติดๆขัดๆ ด้วยเนี่ย  ไม่เข้าใจเล้ย ก็แค่รอยยิ้มของไอ้ซื่อบื้อคนนึงเอง  อี จุนโฮ นายไม่ได้คิดอะไรทั้งน้ัน  นายชอบ ซน ดงอุนไงล่ะ ซน ดงอุน จำไว้~  จุนโฮย้ำกับตัวเองก่อนจะรีบเดินนำชานซองออกไป  โดยไม่พูดอะไรสักคำเดียว




       อะไรของเขาว่ะ??  ชานซองคิด  แต่ก็ช่างเถอะ แค่เห็นว่าจุนโฮดูจะยอมรับในตัวเขามากขึ้นกว่าเดิมนิดนึง  เขาก็รู้สึกดีใจอย่างประหลาด  คิดไปคิดมา ชานซองก็เผลอยิ้มออกมาไ่ม่รู้ตัว  ก่อนจะรีบเดินตามคนที่ทำให้เขาวุ่นวายใจขนาดนี้











    จบตอน






    เย้ๆๆ ในที่สุดก็มาถึงตอนที่ 3 กันแล้วน่ะค่ะ


    เรื่องกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีเลย  สุขสัน 2คู่

                                                         สับสน 2คู่


    ยังไงจะมาอัพต่อน่ะค่ะ  ขอบคุนที่ติดตามน่ะค่ะ

    ถ้าเข้ามาอ่านกันก็ช่วยคอมเม้นกันหน่อยน่ะค่ะ แหะๆๆ จาได้มีกำลังใจแต่งหน่อย (ไม่ขอมากไปชั่ยมั้ย)

    แล้วเจอกันตอนหน้าน่ะค่ะ

    TS. Kato
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×