คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่22
ตอนที่ 22
หลังจากที่ผมเดินหนีฮงกีกับจายองออกมาแล้ว ผมก็ไปเจอกับวอนบินและแจจินที่กำลังยืนเถียงกันอยู่ ดูเหมือนว่าสองคนนี้ไม่มีเรื่องอะไรให้กลุ้มใจเหมือนผมเลยเนอะ ดีจังเลยผมอยากจะเป็นแบบสองคนนี้จัง ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ได้อยู่ด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน แล้ววอนบินก็ยังได้ไปส่งแจจินที่บ้านอีก เห็นแล้วก็อิจฉา ผมจะมีโอกาสได้ทำแบบนี้กับ...... ช่างเถอะมันคงยากอยู่แหละในเมื่อเค้ามีคนนั้นคอยดูแลอยู่แล้วหนิ เฮ้อออออ~ ในขณะที่ผมกำลังเดินไปเรื่อยๆ วอนบินก็ทักขึ้นมาครับ
“อ้าววว ไหนบอกว่าจะกลับพร้อมฮงกีไงทำไมมาเดินอยู่นี่อ่ะ”
“ก็ฮงกีเค้ามีคนมารับกลับไปแล้ว ฉันก็เลยเดินมาเอารถจะกลับบ้านนี้ไง”
“ใครมารับฮงไปหรอจงฮุน แล้วนายปล่อยไปได้ยังไงกันไม่ห่วงฮงบ้างรึไง”
“นั่นดิ ปล่อยให้ไปกับใครก็ไม่รู้เนี่ยนะ ฉันยังไม่อยากเสียเพื่อนไปนะเว้ย”
“นี่วอนบิน ปากนายนี่พูดอะไรดีๆบ้างก็ได้นะ ฮงก็เพื่อนฉันเหมือนกัน แล้วใครมารับฮงกีไปจงฮุน”
“เห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงชื่อจายองอะไรนั่นแหละ ฉันไม่ค่อยได้สนใจ”
“อ๋อออออ ยัยจายอง โล่งอกไปนึกว่าใคร”
“ใครหรอแพะน้อย เห็นนายกับฮงกีพูดถึงตั้งแต่วันนั้นที่สนามบินแล้ว”ขอบคุณมากเลยวอนฉันก็กำลังอยากรู้พอดีเลย
……….
“ฉันจะอธิบายรอบเดียวจบนะ แล้วก็ไม่ต้องมาถามนอกรอบอีกนะเข้าใจมั้ย?” ดูแล้วแจจินก็คงจะรู้จักคนคนนั้นดีเหมือนกันแล้วทำไมไอวอนไม่เห็นจะรู้จักเลยแฮะ
“อืม โอเคจะตั้งใจฟังนะ”ว่าแล้วแจจินก็เล่าไป เดินไป พวกผมสองคนก็ฟังไปเดินไปเช่นกัน
“จะเล่าแล้วนะ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า จายองอ่ะเป็นลูกพี่ลูกน้องของฮงกี ซึ่งมีอายุอ่อนกว่าฮงกี 2 ปี แล้วก็ได้ทุนของโรงเรียนไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา เพิ่งจะกลับมาไม่นาน แต่สองพี่น้องนั่นอ่ะสนิทกันมากเลยนะ ถึงจะเป็นญาติกันก็เถอะ ฮงเคยเล่าให้ฉันฟังว่าตอนเด็กๆอ่ะ จายองชอบมาเล่นกับฮงทุกวันเลยก็เลยสนิทกันมากๆ แล้วจายองก็ชอบเรียกฮงกีว่า ฮยองด้วย ไม่ยอมเรียกว่าโอปาสักที ฉันก็เพิ่งจะมารู้จักกับจายองช่วงก่อนที่จะไปเรียนต่อที่อเมริกาประมาณ 1 ปีได้แล้วมั้ง เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากเลยนะว่าจายองจะเป็นแฟนฮงกีอ่ะ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน แล้วที่กลับมานี่ก็คงเป็นช่วงปิดเทอมอ่ะแหละเดี๋ยวก็คงกลับไปเรียนต่อแล้วล่ะนะ เพราะฉะนั้นคนแถวนี้ก็คงจะสบายใจได้แล้วหล่ะนะ ฮ่าๆๆ”
“อ๋อเป็นแบบนี้นี่เอง แล้วทำไมไม่เห็นเล่าให้ฉันฟังบ้างเลยนะ ไอฮงมันมีน้องสาวน่ารักแบบนี้ก็ควรจะแนะนำให้รู้จักกันไว้บ้างสิใช้ไม่ได้เลยจริงๆ” วอนบินพูดออกมาแบบนี้หมายความว่ายังไงกันนะ
“ฮงกีเป็นคนที่หวงน้องสาวมากๆเลยนะวอนบิน ถ้านายจะจีบก็คงยากอยู่หล่ะ แต่ถ้าจะจริงจังก็สู้ๆนะ ฉันไปก่อนนะจงฮุนพรุ่งนี้เจอกันนะ” ผมรีบพูดแล้วก็รีบเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไรรู้แต่ว่า ถ้าอยู่นานอีกนิดน้ำตาผมจะต้องไหลแน่นอน ทำไมกันมันหมายความว่ายังไงกันทำไมมันจะต้องมาไหลอะไรตอนนี้ด้วย
“อ้าว จะไปไหนอ่ะแจจิน ประตูโรงเรียนไม่ได้อยู่ทางนั้นนะ กลับมาก่อน” เป็นอะไรของเค้านะแค่พูดเล่นเฉยๆนะ งอนผมงั้นหรอ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ
“แกไปดูแจจินเถอะ เดี๋ยวฉันจะกลับบ้านแล้ว” พอได้ยินที่แจจินเล่ามาทั้งหมดแล้วผมก็รู้สึกโล่งอกยังไงก็ไม่รู้สิ ทำไมผมไม่คิดในด้านนี้บ้างนะ ผมไม่น่าไปคิดว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกันเลย ว่าแต่ผมจะดีใจทำไมเนี่ย แต่ก็ดีแล้วแหละที่ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆอย่างที่คิดไว้ แต่ผมว่าตอนนี้วอนบินเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้วหล่ะ ดันไปพูดแบบนั้นให้แจจินได้ยิน สมน้ำหน้ามันโดนสะบ้าง (ถ้าแกโดนบ้างฉันจะแต่งให้แกหนักกว่าเฮียวอนเลยคอยดู >> ไรเตอร์)
........................................
หลังจากที่ผมเดินออกมาจากวอนบินและจงฮุน ผมก็ได้ยินเสียงของวอนบินเรียกชื่อผม แต่ผมไม่หันไปหรอก ก็คนมันกำลังร้องไห้อยู่หันไปก็โดนหัวเราะพอดี ทำไมผมต้องมาร้องไห้กับเรื่องที่วอนบินพูดด้วยนะ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ “จะไปทำความรู้จักอะไรกับใครก็ช่างนายสิ ฉันไม่เห็นจะสนใจเลย ไอวอนบินบ้า ไอเต่าบ้า บ้าที่สุดเลย!!!! ฮืออออ”
“แน่ใจหรอว่าไม่สนใจกันจริงๆอ่ะ แจจิน” กว่าจะหาเจอ วิ่งไวเหมือนกันนะเนี่ย แอบมาร้องไห้เพราะผมจริงๆด้วย
“แน่สิ ใครจะไปสนใจนายกันเล่า ฉันอะนะก็แค่...วอนบิน นายหาฉันเจอได้ไง” อุตส่าหาที่ที่คิดว่าหาไม่เจอแล้วนะเนี่ย
“ทำไมจะหาไม่เจอล่ะ ก็วิ่งตามมาอยู่ แล้วอีกอย่างถ้าฉันไม่ได้วิ่งตามนายมาฉันก็ต้องหานายให้เจอจนได้เพราะฉันไม่ปล่อยนายไว้คนเดียวแน่”
“ฉันไม่เชื่อหรอก ก็ไหนบอกว่าอยากจะไปทำความรู้จักกับจายองไม่ใช่รึยังไง ก็ไปสิจะมาอยู่กับฉันทำไม”
“ก็แค่พูดเล่นเฉยๆ คิดมากไปได้นายนี่ ทำไมเกิดหึงขึ้นมารึไงถึงได้วิ่งร้องไห้ออกมาแบบนี้เนี่ย”
“ไม่ใช่นะ จะหึงได้ไง ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยเพราะฉะนั้น ฉันไม่มีสิทธิ์หึงนาย”
“ใครบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน จำไม่ได้รึไงว่านายเป็นที่รักฉันนะ นายมีสิทธิ์”
“แต่ฉันก็ไม่ได้หึงนายนะ ก็แค่อยากร้องไห้เฉยๆ”
“มีที่ไหนร้องไห้ไม่มีเหตุผลเนี่ย ติ๊งต๊องแล้วนายอ่ะ” ผมไม่เชื่อหรอกว่าแค่อยากร้องไห้เฉยๆอ่ะ แจจินนายอย่ามาโกหกฉันเลยนะ
“ก็มีที่ฉันนี่ไง ^^”
“นี่แจจิน ฉันจะเล่านิทานให้ฟังหนึ่งเรื่องเอามั้ย”
“เอาสิอยากฟังพอดีเลย” รู้ได้ยังไงว่ากำลังจะขอให้เล่าให้ฟังอยู่เลย
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว น๊านนาน นานจนจำไม่ได้แล้ว ฮ่าๆๆ”
“นี่ จะเอายังไง จะเล่ามั้ยนิทานเนี่ยรึว่าอยากไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรพยาบาลฮ่ะ?”
“โอเคๆ เล่าแล้วๆดุจังเลย กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบ้านอยู่หลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านของฝรั่งผู้ร่ำรวย มีเงินทองมากมาย และมีลูกสาวอยู่สองคน ผู้เป็นพี่มีนิสัยและหน้าตาน่ารัก ต่างกับผู้เป็นน้องที่มีหน้าตาน่าเกลียด อยู่มาวันหนึ่งผู้เป็นน้องเกิดน้อยใจในหน้าตาที่หน้ากลัวของเขาจึงตัดสินใจผูกคอตายในห้องนอนของตนเอง และเขียนจดหมายไว้ก่อนตาย จากนั้นครอบครัวฝรั่งก็ได้ย้ายไปอยู่ต่างเมือง จึงติดป้ายให้เช่าไว้ที่หน้าประตูบ้าน และก็มีผู้ที่สนใจมาขอเช่าด้วยเห็นว่าค่าเช่าถูกมาก จึงตัดสินใจเข้ามาอยู่ และในคืนแรกที่พวกเขาเข้ามาอยู่ก็เจอกับวิญญาณของหญิงสาวที่ผูกคอตายในห้องนอน จนต้องย้ายออกไปนอกจากจะมีครอบครัวนี้โดนหลอกแล้วยังมีอีกหลายครอบครัวที่ย้ายเข้ามาอยู่และก็ต้องย้ายออกไป หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีใครกล้ามาเช่าอีกเลย บ้านหลังนั้นก็เลยถูกปิดตายมาตลอดจนถึงปัจจุบัน”
“โห น่ากลัวจังเลยนายไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน”
“ก็เคยอ่านเจอเมื่อ 2-3 วันก่อนอ่ะ น่าสนใจดีนะ”
“น่ากลัวจะตายไป งั้นฉันเปลี่ยนใจแล้ว คืนนี้ไปนอนบ้านนายดีกว่า กลัวผีอ่ะ อยู่คนเดียวด้วย”
“อ้าว แล้วไม่นอนบ้านตัวเองแล้วหรอ?”
“ก็เล่ามาซะขนาดนี้ แล้วเวลาแบบนี้ด้วยใครจะไปกล้าเล่า เย็นนี้ไปเป็นเพื่อนฉันเก็บเสื้อผ้าด้วย”
“อืม แล้วจะกลับได้รึยังเย็นมากแล้วเดี๋ยวประตูโรงเรียนก็ปิดหรอก”
“ไปดิ รออะไรอยู่เล่า” หลังจากที่ออกมาจากโรงเรียนกว่าจะมาถึงบ้านผมก็มืดพอดีเลยครับ
“นี่ถึงแล้วลงไปเอาเสื้อผ้าได้แล้ว แจจิน”
“นายก็ไปด้วยกันดิ ให้ฉันไปคนเดียวไม่ห่วงกันบ้างรึยังไง”
“แต่นี่มันบ้านนายนะ”
“บ้านฉัน แต่ก็กลัวนะเว้ย ไอเต่า”
“ป่ะๆ ไปก็ไป ไหนอ่ะสวิทไฟในบ้านอยู่ฝั่งไหน”
“ขวา”
พรึ่บบบบบ ไฟในบ้านสว่างขึ้นแล้วครับ แต่คนข้างหลังผมเนี่ยดิ เป็นอะไรไม่รู้ยืนตัวแข็งเลย
“วะ วะ วอนบิน ตัวอะไรจับขาฉันอะ”
“ก็ ไม่รู้สิ ผีมั้ง”
“เหวอออออ จริงดิช่วยด้วยๆ ไล่มันไปที”
“นี่พูดเล่น ใช่ที่ไหนกันแค่ด้ามไม้กวาดมันล้มแล้วนายก็เดินไปเตะมันก็แค่นั้นเอง”
“นายแกล้งฉันหรอ เดี๋ยวเถอะขึ้นไปบนห้องได้แล้วเดี๋ยวมันจะดึกมากกว่านี้”
“อืมมมม ห้องนายอยู่ด้านไหน แล้วห้องใครนักหนาเนี่ยเต็มไปหมดเลย”
“ขึ้นไปเลี้ยวซ้ายห้องที่สอง ถามอะไรมากมาย ก็ห้องพ่อ แม่ แล้วก็พี่สาว มีอะไรอีกมั้ย”
“ไม่มีแล้วครับผมที่รัก เอ้าเข้าไปเก็บของได้แล้วเร็วๆนะ”
“รู้แล้วน่า” หลังจากนั้นผมกับแจจินก็เดินทางมาที่บ้านผม ถ้ารู้ว่าแจจินกลัวผีแบบนี้นะ เล่าให้ฟังนานแล้ว ในระหว่างทางผมก็ชวนแจจินคุยไปเรื่อยๆจนในที่สุดเสียงของแจจินก็ค่อยๆเงียบไป ก็นึกว่าเป็นอะไรที่แท้ก็หลับนั่นเอง
“ถึงแล้วแจจิน ตื่นได้แล้ว”
“......”
“นี่จะตื่นมั้ย ไม่ตื่นอุ้มนะ”
“...........” คงหลับลึกเอาเป็นว่าอุ้มเลยก็แล้วกันนะ เมื่อเห็นว่าปลุกยังไงก็ไม่ตื่นผมก็จำเป็นต้องเดินไปเอากระเป๋านักเรียนของผม แจจิน แล้วก็กระเป๋าเสื้อผ้า กะจะมาอยู่เป็นเดือนเลยรึไงนะใบใหญ่มากแล้วก็ต้องเดินมาอุ้มแจจิน โชคดีทีแจจินตัวเล็กเลยเบาหน่อยอุ้มได้สบาย ถ้าตัวเท่าฮงกีไม่ไหวแน่นอนอย่างกับลูกหมูเลยหลังผมคงหักพอดี
“อ้าว วอนบินพาเด็กที่ไหนเข้าบ้านมาน่ะลูก”
“อ๋อ เพื่อนผมเองแม่ ว่าที่ลูกสะใภ้แม่แหละ”
“นี่ แล้วไปพาลูกสาวเค้ามาได้ไง พ่อแม่ผู้หญิงเค้าไม่ว่าเอาหรอ”
“ไม่ครับ แจจินอ่ะแหละที่ขอมานอนที่บ้านเราเพราะพ่อแม่เค้าไม่อยู่บ้านแล้วตอนนี้แพะน้อยของผมก็หลับไปแล้วด้วย น่ารักเชียว ^__^”
“ดูแลลูกสาวเค้าให้ดีๆนะวอนบิน!!!! ดูท่าทางลูกเราคงชอบเด็กผู้หญิงคนนี้จริงๆสินะ^^” (แม่ของเฮียเต่านี่ดีจังเลยเนอะ ถึงจะเข้าใจผิดไปนิดก็เถอะ >> ไรเตอร์)
=========================
ความคิดเห็น