ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC FTISLAND] ภารกิจ(รัก)สยบคุณชายมาดนิ่ง

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 128
      0
      18 ส.ค. 55

    ตอนที่1 ณ โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่งของกรุงโซลประเทศเกาหลีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีนักเรียนชายมากหน้าหลายตาเดินกันเต็มโรงเรียนไปหมด โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนเอกชนและมีค่าเทอมที่สูงมาก แต่นักเรียนบางคนก็เป็นนักเรียนทุนที่สอบชิงทุนกับโรงเรียนได้ซึ่งนักเรียนที่เป็นนักเรียนทุนนั้นจะเสียค่าเทอมน้อยกว่านักเรียนปกติ แต่ก็ถือว่าค่าเทอมก็ยังแพงอยู่ดี ...... “หวัดดีแจจิน” หนุ่มหน้าหวานคนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงอาหารและกล่าวทักเพื่อนชายของเค้าที่นั่งกินน้ำอยู่ “หวัดดีฮงกิ^^” แจจินเพื่อนของเค้าเงยหน้าขึ้นมาแล้วกล่าวคำทักทายกับมาที่เค้าและยิ้มหวานให้ “นี่แจจินแล้ว ไอ้วอน ไอ้ซึง มันไปไหนล่ะ” ฮงกิกล่าวถามแจจินถึงเพื่อนสนิทของเค้าอีกสองคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน “แล้วฉันจะไปรู้เหรอ” แจจินกล่าวพร้อมกับยกน้ำขึ้นมาดื่ม “เฮ้อ~ มันหายไปไหนของมันกันนะ” ฮงกิบ่นแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับแจจินอย่างหงุดหงิด “ทำไมเหรอ นายจะถามหาพวกนั้นทำไม มีเรื่องอะไรรึป่าว ฮง?” แจจินถามขึ้นเพราะเห็นหน้าของเพื่อนชายดูหงุดหงิด ผิดปกติ แต่ว่าหน้าตาของฮงกิเพื่อนของเค้าก็หงุดหงิดได้ทุกวันนั้นล่ะ อะไรนิดอะไรหน่อยก็หน้าบึ้ง บางทีก็ยิ้มซะเกินหน้าเกินตา จนเดาไม่ถูกว่าเค้าคิดอะไร “ป่าวฉันก็แค่ถามว่าพวกมันไปไหนกัน วันนี้ว่าจะโดดซักหน่อย” ฮงกิที่นั่งอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้แจจินถึงกลับสำลักน้ำทันทีที่ได้คำตอบของเพื่อนชาย “จะโดดไปไหนอีกล่ะ เดี๋ยวก็เรียนไม่ทันหรอก นี่ก็ปีสุดท้ายแล้วนะ” “ยุ่งน่า นายก็จดโน้ตไว้ให้ฉันสิ ไม่เห็นยาก อีกอย่าง มันน่าเบื่อ-_-” ฮงกิกล่าวแล้วกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อจะหาเพื่อนของเค้าอีกสองคน “ฮงกิ นายตั้งใจเรียนหน่อยไม่ได้รึไงเนี่ยห๊า? นายเป็นนักเรียนทุนนะตั้งใจเรียนหน่อยสิ” แจจินเอ่ยขึ้น เพราะเห็นคำพูดและสีหน้าของเพื่อนเค้านั้นดูขี้เกียจเรียนมาก ทั้งๆที่ตัวเองเป็นเด็กนักเรียนทุนแท้ๆแต่ก็ยังไม่ตั้งใจในการเรียนอีก (มันน่าให้เรียนมั๊ยเนี่ย>>ไรเตอร์) “ยุ่งน่า แจจิน นายเงียบไปเลย น่ารำคราญ บ่นเป็นยายแก่อยู่นั้นล่ะ-_-” ฮงกิเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิดเพราะดูเหมือนว่าแจจินเพื่อนของเค้าจะพูดมากเกินไปแล้ว “ฮงกิ!!!!!!!!!=O=” “เออๆ ไม่โดนก็ได้วันนี้ ชิ!” ฮงกิที่เห็นสีหน้าของแจจินเลยพูดออกมาเพราะฮงกิเองนั้นรู้ดีว่าแจจินเป็นห่วงเค้าและจะคอยห้ามเค้าไม่ให้โดดเรียนและทำอะไรผิดๆเสมอ แต่แจจินก็ห้ามฮงกิไม่ได้ตลอดหรอก “เฮ้ยยยย! ฮง!” เสียงทักจากเพื่อนหนุ่มของฮงกิดังขึ้นทำให้ทั้งแจจินและฮงกิหันไปมอง “ไอ้ซึง!!!” ฮงกิเอ่ยขึ้นแล้วโบกไม้โบกมือให้เพื่อนของเค้าเดินมาหา เพื่อที่พวกเค้าจะได้คุยกันถึงเรื่องต่างๆ “แล้วไอ้วอนอะ ไม่ได้อยู่กับแกเหรอ?” ฮงกิเอ่ยถามซึงฮยอนขึ้น เพราะเค้ายังไม่เห็นวอนบินเพื่อนของเค้าอีกคนเลย “ไม่รู้สิ มันไปไหนของมันฉันจะรู้มั๊ยไม่ได้ตัวติดกับมันนะจะได้รู้อะ” ซึงฮยอนพูดแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆฮงกิ ก่อนที่แจจินจะลุกขึ้นเดินเอาแก้วน้ำไปถิ้งแล้วกลับมานั่งที่เดิม Hongki Talk วันนี้ผมมาโรงเรียนอันแสนหน้าเบื่อเป็นปกติพอมาถึงผมก็เข้าไปในโรงอาหารที่ปกติแล้วแจจินจะไปนั่งรออยู่ที่นั่น ผมเดินเข้าไปแล้วไปนั่งกับแจจินอย่างเซ็งๆ ก็วันนี้ผมว่าผมจะพาไอ้วอนกับไอ้ซึงมันโดดเรียนสักหน่อย แต่พอผมพูดว่าจะโดดเรียนเท่านั้นล่ะแจจินก็ห้ามผมไว้ทันที รู้งี้ไม่บอกซะก็ดีแล้ว ผมนี่มันโง่จริงๆเลยเนอะ และอีกสักพัก ซงซึงฮยอน หรือไอ้ซึงเพื่อนสนิทของผมอีกคนก็เดินเข้ามา เฮ้อ~ น่าเบื่อกับโรงเรียนนี้มากๆเลย ความจริงผมไม่น่าเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว โรงเรียนชายล้วน ไม่มีสาวๆสวยๆไว้ให้เจริญหูเจริญตาเลย มีแต่ไอ้พวก ลูกคุณหนู ลูกคุณชาย ลูกไอ้พวกคนรวยทั้งหลายเหล่ ก็โรงเรียนมันเป็นโรงเรียนเอกชนนี่มีแต่คนรวยๆเรียนกันค่าเทอมก็แพงซะ ดีนะที่ผมเป็นนักเรียนทุนไม่งั้นผมคงตายจะไปหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเทอมล่ะ นี่ขนาดผมเป็นนักเรียนทุนนะยังจ่ายค่าเทอมตั้งเกือบห้าหมื่นแล้วไอ้พวกที่ไม่ใช่ล่ะคงจะเป็นแสนๆเลยมั่ง แต่ที่ผมได้เป็นนักเรียนทุนนี่ไม่ใช่ว่าผมเก่งอะไรหรอกผมก็แค่ฟลุ๊คเท่านั้นล่ะ นี่ถ้าผมไม่ฟลุ๊คได้นะผมได้เรียนที่อื่นที่ไม่ใช่โรงเรียนบ้าๆนี่ไปนานล่ะ ไอ้มือบ้ามือดันไปมั่วถูกได้ไงก็ไม่รู้ แล้วถ้าผมไม่เห็นแก่พ่อกับแม่นะ ผมไม่เรียนมันหรอกไปนอนตีพุ่งอยู่ที่บ้านไม่ดีกว่ารึไงกันไม่ต้องมานั่งปวดหัวด้วย แต่นี่ผมยังมีสามัญสำนึกที่ดีอยู่ไงเลยเรียนต่อนี้ ผมยัง งง กับตัวเองอยู่เลยว่าผมทนอยู่กับโรงเรียนบ้าๆนี่มาสองปีได้ไง เออ ผมลืมบอกไปใช่มั๊ยว่าตอนนี้ผมอยู่ม.6ปีสุดท้ายแล้วล่ะ ทนอีกหน่อยเดี๋ยวผมก็อิสระแล้ว ฮ่าๆๆๆ ว่าแต่วันนี้คุณวอนบินเพื่อนชายของผมมันยังไม่โผ่ลหน้ามาเลยหายไปไหนของมันกัน ความจริงแล้วผมไม่ใช่คนนิสัยไม่ดีนะผมนิสัยดีมากเลยดีพอๆกับหน้าตาผมนั้นล่ะแต่อาจน้อยกว่าหน้าตาผมนิดนึง เพราะหน้าตาผมดีมากกกถึงมากถึงมากที่สุด ผมทั้งหล่อ น่ารัก ดูดี โอ๊ย ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าผมหน้าตาดีอะนะ^^ จะว่าไปแล้วผมชักจะเริ่มหิวแล้วสิไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า หิวๆ+O+ ............ และฮงกิก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ “จะไปไหนเหรอ?” แจจินถามเพื่อนของเค้าขึ้น เพราะเห็นว่าฮงกิเพื่อนของเค้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ไปซื้ออะไรกิน เอาไรมั๊ยล่ะแจ? เอาไรมั๊ยซึง?” ฮงกิกล่าวขึ้นและหันไปมองหน้าเพื่อนทั้งสอง “ฉันไม่เอาหรอก” ซึงฮยอนที่นั่งเงียบเล่นโทรศัพท์อยู่เอ่ยขึ้น “ฉันก็ไม่เอา” แจจินเอ่ยขึ้นแล้วหยิบหนังสือเล่มหนาในกระเป๋าขึ้นมาอ่าน ฮงกินั้นเมื่อได้รับฟังคำพูดของเพื่อนทั้งสองแล้วเค้าก็เดินไปหาซื้ออะไรกิน “เอาอันนี้ เอาอันนั้น แล้วก็อันนี้” ฮงกิเอ่ยปากสั่งแล้วชี้นิ้วเป็นเชิงบอกเจ้าของร้านว่าตนต้องการอะไรบ้าง หลังจากที่ฮงกิซื้อของมานั่งกินจนอิ่มเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ก็เป็นเวลาใกล้เข้าเรียนเต็มที ทั้งซึงฮยอน แจจินและฮงกิต่างก็พาแยกย้ายไปที่ห้องของตัวเองเพื่อที่จะไปเรียนเพราะกว่าจะเดินถึงห้องก็เข้าเรียนพอดี Hongki Talk “เฮ้อ~ ได้เวลาเข้าเรียนแล้วสิ น่าเบื่อจัง” ผมถอนหายใจและบ่นกับตัวเองเล็กๆก่อนที่ผมจะเดินออกจากโรงอาหารมาเพื่อไปประทับที่ห้องเรียน ห้องเรียนของผมก็อยู่แสนจะใกล้ ใกล้ซะจนผมปวดขา ผมเดินไปห้องเรียนพร้อมๆกับ แจจิน ผมกับแจจินอยู่ห้องเดียวกันล่ะแต่ซึงฮยอนกับวอนบินมันสองคนอยู่ห้องเดียวกันซึ่งมันคนล่ะห้องกับผม ผมลืมบอกอะไรไปอีกอย่างมั๊ยว่าแจจินก็เป็นนักเรียนทุนเหมือนกันแล้วก็เป็นคนที่เรียนเก่งด้วย แต่เสียที่บางทีก็ติ๊งต๊องเกิ๊น แล้วก็ขี้งอนเป็นที่สุดเลย ขอบอก แต่แจจินก็เป็นเพื่อนที่ดีนะบางทีก็ดีเกินไปด้วย ดูอย่างเช่นวันนี้ ผมว่าจะโดด ก็โดดไม่ได้ซะแล้วเพราะแจจินนี่ล่ะ-_- และอีกอย่างที่ผมไม่ชอบก็คือการที่ผมต้องมานั่งเรียนกับภูเขาน้ำแข็ง คงสังสัยใช่มั๊ยว่ามันคืออะไร เดี๋ยวผมจะบอกให้ก็ได้ว่า ภูเขาน้ำแข็งที่ผมว่าเนี่ยมันคือ หัวหน้าห้องของผมเองล่ะ ถ้าผมจำชื่อไม่ผิดน่าจะชื่อ ชเวจงฮุน รึอะไร ฮุนๆนี่ล่ะ ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรกับหมอนี่นักหรอก แถมผมจะเกลียดๆเอาซะด้วยซ้ำไป ก็นายนี่วันๆได้แต่ทำหน้านิ่ง ไม่พูดไม่จา ขี้เก๊ก อยู่นั่นล่ะน่ารำคราญ ถามคำตอบคำ ไม่ถามก็ไม่ตอบไม่คุย ไม่รู้ว่าลืมเอาวิญญาณมารึไงถึงได้นิ่งซะ รึไม่ก็ยังไม่ตื่นละเมอมาโรงเรียนทุกวันน่าหมั่นไส้ น่าหงุดหงิดทุกที ที่ผมต้องเจอกับนายนี่ ไม่รู้เหมือนกันว่านายนี่มันมีเพื่อนกับเค้าบ้างรึป่าว แต่นายนี่หน้าตามันก็ดูดีใช้ได้ในระดับหนึ่งอะนะ แต่ก็ดูดีสู้ผมไม่ได้หรอกจริงมั๊ย?^^ แต่ผมได้ข่าวมาว่านายภูเขาน้ำแข็งเนี่ย เวลาเดินผ่านผู้หญิงนะมีแต่สาว กริ๊ดๆใช่ว่าแต่กับผู้หญิงนะ เดินผ่านผู้ชายก็มีกริ๊ดเหมือนกันผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกคนที่กริ๊ดๆนั้น มันกริ๊ดไปเพราะอะไร บางคนก็บอกว่า ‘อ๊าย จงฮุน หล่ออะ , จงฮุนน่ารัก , จงฮุนเท่มากเลยยย’ ผมถึงกลับ งง ในทันทีว่าไอ้ภูเขาน้ำแข็งหน้านิ่งขี้เก๊กนี่ มันหล่อมันน่ารักตรงไหนกัน วันๆได้แต่ทำหน้านิ่ง ชอบกันไปได้ไงกัน “นักเรียนเคารพ” นั่นไงเสียงของไอ้ฮุนๆไรนั่นอะ “สวัสดีคับอาจารย์” ผมและทุกๆคนในห้องต่างก็พูดทักทายอาจารย์ที่เข้ามาสอนเพราะขณะนี้ได้เวลาเรียนแล้วซึ่งแน่นอนคนอย่างผม นั่งอยู่หลังห้องคับ ผมจะไปเสนอหน้าอยู่ข้างหน้าให้โดนเรียกทำไมกันล่ะ^^ “ฮงกิๆ” เสียงของแจจินเพื่อนชายของผมที่นั่งอยู่ข้างๆกันดังขึ้น สงสัยกันใช่มั๊ยล่ะว่าทำไมคนเก่งๆอย่างแจจินถึงนั่งอยู่ข้างหลัง เดาไม่ยากเลย ก็แจจินโดนผมบังคับให้นั่งตรงนี้ด้วยกันล่ะเพราะถ้าแจจินไม่ยอมนั่งตรงนี้ผมก็จะโว้ยวาย ให้ดู เป็นเพื่อนกันแล้วจะโดดหนี้ผมไปนั่งข้างหน้างั้นรึ ฮ่าๆๆ ผมไม่ยอมหรอก “มีอะไร?” ผมตอบแจจินไปเพราะเมื่อกี้แจจินเรียกผมนี่ เออ ลืมบอกไปอีกอย่างว่าไอ้ภูเขาน้ำแข็งหน้านิ่งขี้เก๊กไร้วิญญาณนั้นอะมันหัวดีชะมัดเลย น่าอิจฉาไงก็ไม่รู้ แต่ก็อย่างที่เค้าว่ากันล่ะมั่งว่าไอ้พวกคนที่IQสูงนี่มักจะมีEQต่ำ คงจะจริงดูอย่างไอ้ภูเขาน้ำแข็งหน้านิ่งขี้เก๊กไร้วิญญาณเป็นตัวอย่าง ซึ่งต่างกับผมเลยเนอะเพราะผมเป็นพวกEQสูงอะนะเลยไม่ได้ไร้วิญญาณเหมือนไอ้ภูเขาน้ำแข็งนี่ แต่บางคนก็ไม่ได้ไร้วิญญาณเหมือนไอ้ภูเขาน้ำแข็งนี่นะ จากที่ผมเคยพบเคยเจอและเคยเห็นก็มีแต่ไอ้ภูเขาน้ำแข็งหน้านิ่งขี้เก๊กไร้วิญญาณนี่ล่ะที่มันเป็นเอามากสุดๆ-_- “นายได้ส่งงานวิชาภาษาอังกฤษรึยัง” แจจินถามผมขึ้น งานไรฟ่ะ อย่าว่าแต่ส่งเลย ทำผมได้ทำรึป่าวก็ยังไม่รู้เลย “งานอะไรแจจิน?” “ก็เมื่อวานที่อาจารย์เค้าสั่งให้กลับไปทำเรื่องเกี่ยวกับประเพณีวันสำคัญต่างๆของแต่ละประเทศไงที่อาจารย์เค้าให้เอาไปเขียนมาห้าประเทศไง นายอย่าบอกนะว่า....” ชิพ_าย! แล้วไง ตายล่ะ ผมยังไม่ได้ทำเลยอะดิ จำไม่ยักได้ว่ามีการบ้านภาษาอังกฤษด้วย ตายห่_แล้วคราวนี้หายะนะมาเยือนผมแล้วไง แล้วอาจารย์อังกฤษ แมร่ง ก็ไม่รู้จะดุไปไหน จบกันแน่ชีวิตผมโดดซะก็ดีแล้ววันนี้-_- “นายยังไม่ได้ทำจริงๆเหรอฮง?” แจจินถามผมอีกครั้ง “เออ ก็ใช่อะดิ ถ้าฉันทำแล้วจะมานั่งหน้านิ่วคิ้วผูกปมอยู่อย่างนี้รึไงล่ะ รู้งี้โดดก็ดีเพราะนายนั้นล่ะ” ผมพูดแล้วทำหน้าเบื่อโลก ให้ตายเถอะทำไมวันนี้มันชั่งซวยอะไรเช่นนี้ แล้ววันนี้อังกฤษคาบแรกอีกตะหาก ตายศพไม่สวยก็คราวนี้ล่ะ “ยังจะมีหน้ามาโทษฉันอีกนะฮง ถ้านายตั้งใจนายก็ทำได้จำได้แต่นายย....” “เออๆ รู้แล้วล่ะน่า บ่นอยู่นั้นล่ะนายง่ะ แล้วมันเยอะมั๊ยล่ะ” ผมพูดตัดหน้าก่อนที่แจจินจะพูดสาธยายอะไรไปมากกว่านี้ “ก็ประมาณสิบกว่าหน้าเอง ไม่เยอะหรอก^^” แจจินพูดขึ้นพร้อมกับเปิดกระเป๋าเอางานอังกฤษขึ้นมาให้ผมดู =[]= ให้ตายเถอะ สิบหน้านี่น้อยของนายเหรอวะเนี่ย โอ๊ย! ผมอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย-_-^ “วันนี้อาจารย์ ซูยอนฮวัง ที่สอนอังฤกษกับพวกเธอขอลาป่วยหนึ่งวันนะจ๊ะ” และเหมือนจะเป็นเสียงสวรรค์ที่ส่งมา เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจผมอยู่ เลยทำให้วันนี้อาจารย์ที่สอนอังกฤษที่ผมยังไม่ได้ทำงานที่สั่งเสร็จลาป่วย “เย้!!!!รอดแล้วโว๊ยยยย!!!!^++++^” ผมพูดเสียงดังลั่นห้อง จนรู้สึกว่าตอนนี่ทุกคนในห้องหันมามองทางผมกันหมด ไม่รู้จะมองหา พระแสงอะไรมิทราบ นี่ถ้าครูที่ปรึกษาไม่อยู่ในห้องนะ ผมได้เปิดศึกกับไอ้พวกนี้ไปแล้ว-_- “แต่ อย่าเพิ่งดีใจกันไปนะเพราะอาจารย์เค้าสั่งไว้ว่าให้ทำงานที่อาจารย์เค้าสั่งไว้ให้เสร็จแล้วส่งกับ จงฮุน ภายในชั่งโมงนี้ด้วยนะจ๊ะ” พูดจบครูที่ปรึกษาก็เดินออกไป โอ๊ยยย!!! จะสั่งบ้าสั่งบอ อะไรกันวะ แล้วเสร็จในชั่วโมงด้วย ให้ตายเถอะภาษาอังกฤษนะโว๊ยไม่ใช่ภาษาเกาหลีจะได้ทำเสร็จภายในชั่วโมงเดียว ขนาดภาษาเกาหลีผมยังทำไม่เสร็จเลยแค่ชั่วโมงเดียวนี่ “ฮงกิ นายมีเวลาทำแล้วนะ รีบทำเข้าสิ^^” แจจินหันมาพูดกับผม -_- เฮ้อ~ นายนี่ชั่งไม่รู้อะไรเอาซะเลยว่าถึงฉันจะทำไปก็ไม่เสร็จหรอกตั้งห้าประเทศ ผมไม่ได้เป็นพระเจ้านะจะได้ตัสรู้ว่าประเทศอะไรมันมีประเพณีเป็นอะไรแล้วแถมยังต้องเขียนเป็นอังกฤษอีก แค่เกาหลีผมยังไปไม่รอดเลย-_- “นี่แจจิน ฉันขอดูของนายก่อนนะ” “เรื่องไรล่ะทำเองสิ นายก็รู้นี่ว่าถ้าเหมือนกันจะโดนหักคะแนนทั้งคู่อะ” แจจินพูดปฎิเสธ ผมขึ้นทันที โธ่โว๊ยไอ้เพื่อนบ้าดูนิดดูหน่อยก็ไม่ได้ทำเองก็ได้ฟ่ะ แล้วเวลาก็ผ่านไป..... “ยุนยองมิน, ยูแทคฮวัง.....” ดูเหมือนว่าตอนนี้ไอ้ภูเขาน้ำแข็งหน้านิ่งขี้เก๊กไร้วิญญาณนั่นมันจะเรียกเก็บตามรายชื่อแล้วล่ะ ให้ตายเถอะเชื่อมั๊ยว่าผมเพิ่งทำเสร็จไปหน้าเดียว ประเทศแรกยังไม่เสร็จเลย-_- “ลีฮงกิ!” รู้สึกว่าชื่อนี้มันคุ้นๆอยู่นะ อ้าวเฮ้ย ชื่อผมนี่หว่า ยังไม่เสร็จเลยโว๊ยยย “ลีฮงกิ” ดูเหมือนไอ้หัวหน้าห้องภูเขาน้ำแข็งมันจะเรียกชื่อผมอีกแล้ว จะเรียกอะไรกันนักกันหนาฟ่ะ “ลีฮงกิ” “โอ๊ย!! รู้แล้วๆ เรียกอยู่นั้นล่ะ=o=” “เอางานมาส่ง-_-” ไอ้หัวหน้าห้องภูเขาน้ำแข็งหน้านิ่งขี้เก๊กไร้วิญญาณนั่นพูด ให้ตายสิ มันลืมเอาวิญญาณมาจริงๆรึนั่น “ฉันยังทำไม่เสร็จ” ผมพูดตะโกนออกไป ก็จริง ผมยังทำไม่เสร็จ แล้วไม่อยากจะบอกว่าเพิ่งได้แค่แผ่นเดียวจากสิบแผ่นกว่าๆของคนอื่น ฮ่าๆๆ “งั้นนายก็เอาไปส่งกับอาจารย์ย้อนหลังเอานะ-_- อึนมาจุง” เออ รู้แล้วเดี๋ยวฉันไปส่งเองก็ได้... อ้าวเฮ้ยยยยย!!!~ นี่มันไม่คิดจะรับผิดชอบงานเพื่อนบ้างเลยรึไงกันให้ไปส่งเองได้ไง เป็นหัวหน้าต้องรับหน้าที่ไปส่งสิวะ “เฮ้ยยย เดี๋ยวดิ จะให้ฉันไปส่งเองได้ไง ในเมื่อการเอางานไปส่งมันเป็นหน้าที่ของนาย..” ผมกึ่งตะโกนกึ่งพูด ออกไป “แล้วนายจะเอายังไง ในเมื่อนายยังทำไม่เสร็จ-_-” ไอ้หัวหน้าห้องภูเขาน้ำแข็งพูดและยังคงหน้านิ่งไร้ความรู้สึกเช่นเดิม ชักไม่สบอารมณ์แล้วสิ-_-^ “นายก็รอฉันเสร็จก่อนแล้วเอาไปส่งเซ่” “ไม่ได้เพราะมันต้องส่งภายในชั่วโมงนี้-_-” โธ่ เว๊ย จะอะไรกันนักกันหนาวะ ไอ้หัวหน้าไร้วิญญาณ พล่าม อยู่นั้นล่ะจะอะไรนักหนา อาจารย์ก็ไม่ได้มาซะหน่อย “อาจารย์ก็ไม่ได้มาแล้วนายจะรีบหอบงานไปเรียกวิญญาณนายไง” ผมพูดออกไปด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะโมโหนิดๆแล้วล่ะ “คนต่อไป ฮยอนวูจิน, กวังยองแซง , มยองวัง-_-” แล้วไอ้หัวหน้าห้องภูเขาน้ำแข็งนั่นก็เรียกชื่อคนต่อๆไปโดยเห็นผมเป็นดินลมฟ้าอากาศไปแล้ว “ครบแล้วใช่มั๊ย ฉันเอาไปส่งล่ะ-_-” ไอ้หัวหน้าบ้าบอนั้นพูดแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้องไป “เฮ้ย เดี๋ยวก่อนดิ เป็นหัวหน้ายังไง นับครบได้ไง ฉันยังไม่ได้ส่งเลย” “งั้นก็เอามาส่งสิ-_-” ปัดโธ่เว้ย นี่มันชักจะจุดอารมณ์ของผมให้โมโหขึ้นมาแล้วนะ “ก็ฉันบอกนายแล้วไงว่าฉันยังทำไม่เสร็จ” “งั้นก็เอาไปส่งเอง ฉันไปล่ะ-_-” แล้วไอ้หน้านิ่งไร้วิญญาณนั้นมันก็เดินออกไป “ไอ้ภูเขาน้ำแข็งหน้านิ่งขี้เก๊กไร้วิญญาณเอ้ย ถ้าไม่ติดว่าฉันกลัวจะโดนหักคะแนนความประพฤตินะ ฉันต่อยหน้านายไปนานแล้ว ไอ้บ้า!!!!”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×