คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11
Chapter 11
Jonghun’Talk
ผมล่ะเบื่อมนุษย์ฮงกีจริงๆเล้ย แค่เมื่อคืนผมนอนด้วยก็ทำเป็นโวยวาย ทีฉันอุ้มตัวหนักๆอ้วนๆของนายขึ้นมานอนบนห้องฉันยังไม่บนนายสักคำ รู้งี้ผมปล่อยให้เจ้าตัวนอนหลับคารถไปก็ดี ทำคุณบูชาโทษชัดๆเลย เหอะ! แต่ถึงผมจะโดนฮงกีโวยวายใส่ถึงผมจะต้องเสียแรงแบกร่างของฮงกีขึ้นมาถึงห้องแต่ผมว่าผมก็แอบคุ้มอยู่นิดๆนะ นิดเดียวเท่านั้นแหละ มันเป็นแค่ขนมหวานเล็กๆน้อยๆที่ผมได้มาจากริมฝีปากบางอมชมพูของฮงกี ใช่ผมแอบจูบฮงกี แอบจูบเพื่อนตัวเอง! ผมรู้ว่าผมไม่ควรทำแบบนั้น แต่จะให้ผมทำยังไงได้ล่ะ ผมพยายามยับยั้งตัวเองแล้วนะแต่ริมฝีปากบางสวยของฮงกีมันก็ล่อตาล่อใจผมเกินไปจนผมห้ามตัวเองไม่ได้ จริงๆจะเรียกว่าจูบก็คงจะไม่ได้เพราะผมแค่จุมพิตเบาๆไปที่ริมฝีปากบางสวยนั้นเท่านั้นเอง ขนาดแค่ผมจุมพิตไปแค่เบาๆนะผมยังสัมผัสได้ถึงความหวานจากริมฝีปากของฮงกีเลยแล้วถ้าผม....โอเค เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ ผมจะพยายามไม่คิดเรื่องอกุศลแล้วกัน แหะๆแล้วตอนนี้ผมกับฮงกีก็ออกมาเดินซุปเปอร์มาเก็ตกัน อันที่จริงตอนนี้ผมควรที่จะไปอยู่โรงพยาบาลแล้วเดินราวน์วอร์ดอยู่แท้ๆเชียว แต่ผมก็เลือกที่จะโดด ก็แหม่ถ้าได้โดดเรียนแล้วมีโอกาศได้อยู่กับฮงกีมันก็โอเคอยู่นะ เพราะเรื่องเรียนผมมั่นใจว่าตัวเองเก่ง ใช่ผมเก่งและฉลาดมากไม่งั้นผมสอบเข้าแพทย์ไม่ได้หรอกครับ แถมคะแนนการสอบของผมก็เป็นคะแนนสูงสุดทุกปีด้วย ถึงผมจะทำตัวชิวมากก็เถอะแต่พอมีเวลาพอเรียนผมก็ทุ่มเทกับมันจริงๆนะ การที่เราจะเป็นหมอได้ไม่ใช่ง่ายๆนะครับ
“เป็นอะไรของนายหัวเราะคิดคักอยู่คนเดียว?”
“เป็นคนที่รักเธอ ฮิ้ววววว” ห้ะ เดี๋ยว อารมณ์ไหนของนายเนี่ยฮงกีที่แรกผมชวนออกมาซื้อของฮงกียังไม่อยากจะมาเลย พอตอนนี้ทำไมดูคึกคักขึ้นมาได้ล่ะ
“=__=;”
“อะไรของนาย ทำหน้าเหี่ยวทำไมเนี่ย ยิ้มสิยิ้มมม><”ฮงกีว่าแล้วยื่นมือมาดึงแก้มผมเพื่อให้ผมยิ้ม เดี๋ยวก่อนสิวะนายอารมณ์ไหนเนี่ย ฉันตามไม่ทันแล้วนะเว้ย จริงๆต้องเป็นฮงกีที่ตามอารมณ์ผมไม่ทันสิ นี่มาเป็นผมที่ตามอารมณ์ฮงกีไม่ทันได้ยังไงเนี่ย
“เอ้า! ฉันบอกให้นายยิ้ม ยังจะทำหน้าเหี่ยวอยู่อีก ยิ้มครับจงฮุนยิ้ม” ยัง ยังไม่หยุดดึงแก้มผมอีก ได้ฮงกี ได้ ยิ้มใช่มั้ย ฉันจัดให้
“^_^”ผมระบายยิ้มแบบที่ใครเห็นก็ต้องตกหลุมรักแน่นอนว่ารอยยิ้มนี้ของผมเห็นทีจะมีแค่ฮงกีละมั้งที่เห็นแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งๆที่รอยยิ้มแบบนี้คนที่เห็นมันบ่อยที่สุดคือฮงกีแท้ๆเชียว
“เอ่อ...โอเค แล้วนี่ซื้อของเสร็จยังเนี่ย ฉันว่าฉันจะไปร้านจิวเวอร์รี่สักหน่อย”ฮงกีเอามือออกจากแก้มของผมแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ เห็นมั้ยรอยยิ้มของผมใช้ไม่ได้ผลกับฮงกีเลย แย่ชะมัด
“หืม? ไปทำไม นายจะไปซื้ออะไรเหรอ”
“ไปร้านจิวเวอร์รี่ฉันไปซื้อผงซักผอกมั้งล่ะ ก็ต้องซื้อเครื่องประดับดิถามแปลกๆ”ไอ้คนที่คิดแปลกๆมันคือนายมากกว่ามั้งที่ถามเนี่ยผมหมายถึงจะไปซื้อเครื่องประดับอะไรทำไมยังไง แต่ดูเหมือนฮงกีจะไม่เข้าใจความหมายที่ผมตั้งใจจะถามหรือไม่ก็เข้าใจแต่อยากจะกวนประสาทก็ไม่รู้
“ฉันก็เพิ่งจะรู้ว่าร้านจิวเวอร์รี่มีผงซักผอกขาย”
“ไอ้….!!!” นายกวนฉันก่อนเองนะช่วยไม่ได้ ฮ่ะฮ่า
“โอเคๆ แล้วจะไปซื้ออะไร?”
“เดี๋ยวนายก็รู้เองนั้นแหละ ไปๆ เอาของไปจ่ายตังค์ได้ล่ะ”ฮงกีไล่ผมไปจ่ายเงินส่วนเจ้าตัวก็เดินนำหน้าผมไปรอที่รถแล้ว แล้วก็อย่างที่เคยเป็นทุกครั้ง ผมเป็นคนออกตังค์ค่าของทั้งหมด =__= ไหนล่ะความยุติธรรมของ ชเว จงฮุน ไม่เคยมี
หลังจากที่เราเอาของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ที่ห้องของฮงกีเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราก็มาเดินเล่นกันอยู่ในร้านจิวเวอร์รี่ชั้นนำชื่อดังแห่งหนึ่ง สรุปว่าไอ้ของที่ผมตั้งใจจะซื้อไปทำกินกับฮงกีก็ต้องพักยกไว้ก่อน เพราะคุณหนูฮงกีเขาอยากมาร้านจิวเวอร์รี่มากเสียเหลือเกิน แล้วคนอย่างผมจะขัดอะไรได้ล่ะจริงมั้ย?
“จงฮุน!!!”เสียงแหบๆของฮงกีดังเข้ามาในแก้วหูของผมในระดับ9.99ริกเตอร์เห็นจะได้ ผมยังไม่แก่นะระบบประสาทการรับเสียงของผมยังคงใช้ได้ดีอยู่จะเรียกเสียงดังทำไมกัน
“อะไร?”
“เอาวงไหนดีอ่ะจงฮุน”ฮงกีว่าพลางชี้นิ้วไปยังแหวนเพชรวงสวยสองวงที่ตรงโชว์อยู่ในตู้กระจก หืม?? นายอยากได้เหรอฮงกีเดี๋ยวฉันซื้อให้เอามั้ย เป็นของหมั้นไปเลย ฮ่ะฮ่า
“แล้วนายชอบวงไหนล่ะ?”
“ถ้าฉันเลือกได้ฉันจะเรียกนายทำแมวอะไรล่ะไอ้บ้า คิดสิคิด รอยหยักในสมองมีบ้างมั้ย เรียนหมอซะเปล่าทำไมโง่แบบนี้วะ”แล้วมาด่าฉันทำไมวะ เดี๋ยวเอามีดแทงเลย -*-
“งั้นอันทางซ้ายมือแล้วกันสวยดี”
“ไม่เห็นสวยเลยฉันชอบอันขวามือมากกว่าอีก” อ้าวเฮ้ย ถ้าจะบอกว่าอันขวามือสวยกว่าแล้วมาถามความเห็นจากฉันทำไมไม่ทราบครับคุณอี ฮงกี
“=__=”ผมมองฮงกีด้วยใบหน้าที่เอือมเต็มที่ และก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเลยส่งเสียงจิจ้ะในรำคอออกมาน้อยๆ
“เหอะ พี่ครับผมเอาวงนี้ รบกวนช่วยสลักชื่อในข้างในแหวนให้ด้วยได้มั้ยครับ?”ฮงกีเอ่ยบอกกับพนักงาน สรุปว่าฮงกีก็ตัดสินใจเลือกอันที่ผมบอกซะงั้นแหละ
“ได้ค่ะ แต่ต้องใช้เวลาในการทำนะคะ คือว่าน้องต้องมารับแหวนวันหลัง”
“ครับ ไม่มีปัญหา”
“รบกวนช่วยเขียนสิ่งที่จะให้สลักลงไปด้วยค่ะ”พี่พนักงานเอ่ยบอกพร้อมกับส่งกระดาษใบเล็กๆที่มีดีไซน์อย่างน่ารักให้กับฮงกี
‘HK&DR’
ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ฮงกีเขียนลงไปในกระดาษแผ่นนั้นคำแรกมันหมายถึงตัวฮงกีเองแน่ๆแต่ว่าคำหลัง DR เหรอ...
“ซื้อให้ใครน่ะ”และด้วยความอยากรู้ผมเลยเอ่ยถามฮงกีออกไปหลังจากที่ฮงกียืนกระดาษที่เขียนเสร็จแล้วให้กับพี่พนักงาน
“ไม่บอก”ฮงกีว่าด้วยสีหน้ากวนๆพลางหยักไหล่ นี่ตั้งใจจะยั่วโมโหกันใช่มั้ย
“หึ ซื้อให้กิ๊กก็บอกเดี๋ยวนี้แอบไปมีสาวโดยที่ไม่บอกฉันแล้วเหรอ?”
“อย่ามาดูถูกฉันนะจงฮุน!”ก็แล้วที่ฉันพูดมันผิดตรงไหน นายซื้อแหวนให้ใครล่ะ แอบไปมีสาวๆแล้วไม่บอกฉันใช่มั้ย นายไม่ต้องทำมาเป็นอารมณ์เสียใส่ฉันเลยนะ ฉันต่างหากที่เป็นคนต้องอารมณ์เสีย ไม่ใช่นาย!
“....” ถึงในใจผมจะคิดแบบนั้นแต่ผมก็ได้แต่เงียบเท่านั้นแหละ
“ฉันคิดว่านายจะรู้จักฉันดีกว่าใครซะอีก นายเห็นฉันเป็นคนยังไงจงฮุน! นายก็น่าจะรู้ว่าถ้าฉันรักใครรักจริง ไม่เที่ยวหว่านเสน่ห์ไปทั่วเหมือนนายหรอก” อ้าว สรุปว่าผมผิดงั้นสิ?
“ฉันไปหว่าดเสน่ห์ใส่ใครตอนไหน”
“เยอะแยะไป-*-”ฮงกีว่าพร้อมทั้งลดระดับน้ำเสียงลงจากตอนแรกอีกทั้งยังทำหน้ามู่ๆใส่ผมอีก นึกว่าตัวเองน่ารักมากหรือไง
“นายคิดไปเอง” ผมว่าแล้วก็อดที่จะเอื่อมมือไปขยี้หัวฮงกีเสียไม่ได้ก็นะดูฮงกีทำหน้าเข้าสิ ฮะๆ ผมกับฮงกีนี่เปลี่ยนอารมณ์กันไวเนอะว่ามั้ย
“อย่ามายุ่งกับหัวฉันจะได้มั้ย=_=”ฮงกีปัดมือผมออกจากหัวหลังจากนั้นฮงกีก็จ่ายเงินกับพนักงานแล้วเราทั้งคู่ก้ออกมาจากร้านจิวเวอร์รี่กัน
“สรุปซื้อให้ใครเหรอ?”ผมถามฮงกีออกไปอีกครั้ง ก็คนมันอยากรู้จริงๆนี่ ผมอยากรู้ว่าคนที่ฮงกีซื้อแหวนให้คือใคร ทำไมช่างเป็นคนที่โชคดีจัง ถ้ามีโอกาสผมก็อยากเป็นคนคนนั้นบ้าง...
“นี่อยากรู้จริงดิ?” ไม่อยากรู้แล้วจะถามทำไมล่ะ
“อื้ม”
“ตอนนี้ฉันหิวมากกกกกกก ไว้นายทำอาหารให้ฉันกินก่อนแล้วเดี๋ยวจะบอก โอเคเนอะ ปะๆขึ้นรถ”แล้วฮงกีก็ยังคงไม่บอกผมอยู่ดีว่าแหวนที่ซื้อน่ะซื้อให้ใคร ร้ายนักนะ รู้มั้ยว่าฉันอยากรู้ใจแทบขาดอยู่แล้ว “ได้! ถ้าฉันทำให้แล้วนายไม่บอกฉันนะน่าดู”ผมว่าด้วยน้ำเสียเข้มๆแล้วเดินเข้าไปในรถ
“ฉันเพิ่งรู้ว่าคนอย่าง ชเว จงฮุน จะขี้เสือกเป็นด้วย^^”ฮงกีบอกผมเอาตัวอ้วนๆเข้ามานั่งบนรถ เหอะ หลอกด่ากันนี่หว่า
“ก็เพราะมันเป็นเรื่องของนายนั่นแหละ”ผมบ่นออกไปเบาๆเคยนั้นแต่ดูเหมือนว่าฮงกีจะได้ยินแหะ
“ห้ะ นายว่าไงนะ?”
“เปล่า ฉันไม่ได้พูดอะไรนี่”
“อ่อเหรอ” ฮงกีหยักไหล่น้อยๆก้อนจะหันออกไปมองวิวข้างทาง ดีแล้วที่นายทำเป็นเหมือนไม่สนใจคำพูดของฉัน ดีแล้วล่ะฮงกี…
“จงฮู้นนนนน หิวจะตายแล้วเมื่อไหร่จะเสร็จสักทีเนี่ย!!”
“รอหน่อยสิ อย่ากินของอร่อยๆก็ต้องรอ”
“ไม่เอาไม่รอ หิวแล้ว หิวมาก ถ้าฉันรออีกนิดนึงฉันต้องตายแน่ๆเลยสัปหลาดในท้องฉันมันคำรามดังมากขนาดนี้ ฮือ”ฮงกียังคงบ่นไม่เลิกอีกทั้งยังบ่นในเรื่องที่ไร้สาระมาก สัปหลาดบ้านนายสิ
“ขอเวลาอีกห้านาที”ผมว่าแล้วพยายามทำอาหารของผมต่อไปให้เร็วที่สุดจนไม่ทันสังเกตเลยว่าฮงกีเดินเข้ามาในครัวตั้งแต่ตอนไหน
“เฮ้ย!!”ในขณะที่ผมกำลังจะหมุนตัวกลับเพื่อเอาไก่เทอริยากิที่เพิ่งทอดเสร็จเมื่อกี้ไปวางเพื่อที่จะเตรียมเสริฟพร้อมกับอาหารอื่นผมก็ตกใจที่เห็นหมูตัวเบอเร่อยื่นอยู่ข้างหลังระยะประชิด เอ่อ... ผิดๆ ผมตกใจที่เห็นฮงกีมายืนอยู่ข้างหลังผมน่ะ มาตอนไหนทำไมผมไม่รู้แถมยังยืนยิ้มแป้นอีก
“ไก่น่ากินจังเลยเนอะ^O^”ไม่ว่าเปล่าฮงกียังเอาส้อมที่ไม่รู้ไปหยิบมาตอนไหนเหมือนกันจิ้มลงบนเนื้อไก้เทอริยากินุ่มๆที่ผมทำแล้วก็เอาเข้าปาก เฮ้ยยยย!! เดี๋ยวก่อนสิผมเพิ่งทำไก่เสร็จนะ คือมัน...
“โอ้ย! ร้อน TOT” นั่นไงกะแล้วไม่มีผิด ความหิว(หรือความโง่)ของนายทำร้ายตัวนายเอง ก็ฉันเพิ่งทำเสร็จมันก็ต้องร้อนสิ
“ฮ่าๆๆ”
“หัวเราะบ้าอะไรของนายเพื่อนเจ็บแล้วมาหัวเราะแบบนี้เนี่ยนะ เลวมาก!” ก็มันน่าหัวเราะมั้ยล่ะโถ่ว ฮงกีเอ้ย
“แล้วใครใช้ให้นายกินมันตอนร้อนๆล่ะ ฮ่าๆ”
“นายจะหยุดหัวเราะเยาะฉันได้หรือยัง!”
“ฮ่าๆ โอเคๆ ไหน มาดูซิ”ผมพยายามกลั้นหัวเราแล้วเอื้อมมือไปสัมผัสกับริมฝีปากนุ่มๆของฮงกีที่ปกติมันจะเป็นสีชมพูอ่อนแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสีแดงเพราะความร้อนจากไก่เทอริยากินั่นเอง
“...”
“...”แล้วอยู่ๆความเงียบก็เข้าปกคุมเราทั้งคู่ แย่แล้วผมไม่น่าเลย ไม่น่ายื่นมือไปสัมผัสกับริมฝีปากของฮงกีแบบนี้เลย แบบนี้ระยะห่างของเราทั้งคู่มันก็น้อยมากๆแถมหน้าของเราทั้งคู่ก็อยู่ใกล้กันมากๆด้วยน่ะสิ ใกล้จนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของคนตรงหน้าที่กำลังจ้องมองมายังผมได้เลย ฮงกีกำลังมองผมอยู่....ตึกตักๆ เสียงหัวใจของผมมันเต้นโครมครามและรุนแรงมากเลยตอนนี้ ฮงกีจะรู้มั้ยนะ
“...”เราทั้งคู่ยังคงเงียบและมองหน้ากันอยู่อย่างนั้นไม่มีใครส่งเสียงหรือปริปากพูดอะไรเห็นทีก็คงจะมีแต่เสียงหัวใจของผมล่ะมั้งที่มันดังโครมครามประหนึ่งโลกจะแตกแบบนี้ แล้วอยู่ๆร่างกายของผมมันก็ไม่ยอมฟังคำสั่งจากสมองเลย มือของผมค่อยๆลูบไล้ริมฝีปากสวยของฮงกีเบาๆก่อนที่จะค่อยๆโน้มตัวและใบหน้าที่ใกล้กันมากอยู่แล้วให้ใกล้กันเข้าไปอีก หยุดเดี๋ยวนี้นะ หยุด!
ไม่ ผมยับยั้งร่างกายของตัวเองไม่ได้ทั้งๆทีหัวของผมสั่งให้หยุดแต่ดูเหมือนร่างกายมันจะไม่ยอมฟังเอาเสียเลย ผมยังคงค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าสวยๆของฮงกีจนตอนนี้ปลายจมูกของเราสองคนสัมผัสกันเบาๆริมฝีปากของผมค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้ริมฝีปากบางสวยของฮงกีเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั้งริมฝีปากของผมแตะโดนเข้ากับริมฝีปากของฮงกีเบาๆ...
“จ๊อกกกกกก...”แล้วอยู่ๆก็มีเสียงของสัปหลาดในท้องของฮงกีก็ดังขึ้นทำให้เจ้าตัวสะดุ้งแล้วผละตัวออกจากผม
“เอ่อ...กับข้าวเสร็จแล้วใช่ปะ งั้นฉันยกไปที่โต๊ะกินข้าวเลยแล้วกันนะ ฮ่ะฮะฮ่า” ฮงกีพูดรัวอีกทั้งยังหัวเราะแห้งๆแล้วหมุนตัวกลับไปยกอาหารที่ผมทำเสร็จแล้วเดินออกจากห้องครัวไป...
เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ...ต้องขอบคุณสัปหลาดในท้องของฮงกีนะที่เกิดร้องขึ้นมาไม่งั้นตอนนี้ผมอาจจะโดนฮงกีเกลียดไปแล้วก็ได้ เพราะผมมั่นใจว่าถ้าเมื่อกี้ท้องของฮงกีไม่ร้องขึ้นมาขัดเสียก่อนผมต้องจูบฮงกีแน่ๆเลย เฮ้อออ เพราะร่างกายมันไม่ยอมฟังคำสั่งจากสมอง...แต่กลับฟังคำสั่งจากหัวใจผมนี่ไงล่ะT_T
บรรยากาศอันน่าอึดอัดและตรึงเครียดสำหรับผมเริ่มหายไปเมื่อ...
“ฝีมือนายนี่ใช้ได้นะ อันนี้ก็อร่อย อันนั้นก็ดี เยี่ยมๆ”ฮงกีเอ่ยปากชมในขณะที่ทั้งปากของเจ้าตัวกำลังเต็มไปด้วยอาหาร
“กินเสร็จแล้วค่อยพูดก็ได้มั้ง=_=”
“นี่ฉันชมฝีมือนายนะ นายควรจะยิ้มรับด้วยความยินดีไม่ใช่มองฉันด้วยใบหน้าที่เหี่ยวๆแบบนั้น ไม่คลูเลย” วันนี้นายหลอกด่าฉันกี่รอบแล้ว อี ฮงกี รู้งี้เมื่อกี้ไม่น่าปล่อยให้รอดเลย ฮึ่ยยยย!
“ฉันต้องได้ฆ่านายแน่ๆ สักวัน-*-“
“ทำไม รับไม่ได้เหรอ โธ่ๆ นี่เรียนหมอจบมาก็ศัลยกรรมดึงหน้าให้กระชับสิ ยากอะไร” ฉันขอสาปแช่งให้ข้าวติดคอนายตาย
“เอออออ ใครมันจะไปเหมือนนายล่ะ”
“ฉันหล่อและหน้าเด็กมากล่ะสิ”
“ตีนกาหรือตีนแมวตีนหมาขึ้นเต็มหน้าเลย ฮ่าๆๆ”ฮงกีชะงักๆไม่สักพักหนึ่งกับประโยคที่ผมพูดออกไปก่อนที่จะเริ่มโวยวายเสียงดังใส่ผม
“อ้ากกก!! จงฮุน นี่นายว่าฉันเรอะ ไอ้หมอบ้า หน้าฉันไม่ได้มีตีนกาอะไรมากมายขนาดนั้นปะ หน้าฉันเด็กกว่านายตั้งเยอะ ฮึ่ยยย!!” ผมคิดว่าถ้าฮงกีพ่นไฟได้ฮงกีคงทำไปแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ”
“ถ้าไม่ติดว่าฉันเสียดายอาหารนี่นะ ฉันจะสาดใส่นายให้รู้แล้วรู้รอด ไอ้คนมีตาหามีแววไม่หน้าฉันออกจะเหมือนเด็กวัยใสประหนึ่งทารกเพิ่งออกจากท้องแม่!!”พูดเสร็จก็ยัดข้าวใส่ปาก โกรธแล้วกิน โกรธแล้วกิน มิน่าถึงได้อ้วนท้วมสมบูรณ์แบบนี้
“ฮ่าๆ เออแล้วนี่สรุปจะบอกฉันได้หรือยัง?”ผมถามฮงกีขึ้นเกี่ยวกับเรื่องที่ผมค้างคาใจมาตลอด
“อะไร?” ไม่ต้องมาทำหน้างง ไม่ต้องมาทำหน้าลืม นายบอกกับฉันไว้ว่าอะไร
“ซื้อแหวนให้ใครไม่ทราบครับ?”
“โฮะ นี่ยังไม่ลืมอีกเหรอ ความขี้เสือกของคุณหมอจงฮุนนี่ร้ายกาจเหมือนกันแหะ”เอาเล้ยยย ยอมรับว่าเสือกก็ได้แต่ที่ฉันเสือกก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องของนายนั่นแหละรู้ไว้เลย
“=__=”
“อย่าทำหน้าเหี่ยว ทำหน้าดีๆก่อนแล้วจะบอก”จะแซะให้ได้โล่ใช่มั้ย
“ครับผม ครับ”ผมว่าและพยายามฉีกยิ้มใส่ฮงกี
“นายทำหน้าตลก ฮ่าๆๆ โอเค คนที่ฉันซื้อแหวนให้คือคนที่นายรู้จักดีเลยแหละ ลองเดาดูดิ”คนที่ผมรู้จักดีงั้นเหรอใครวะ
“พ่อฉันเหรอ?”
“พ่อนายสิ บ้าเหรอ นายคือว่าฉันจะซื้อแหวนไปให้พ่อนายทำเพื่ออะไรแล้วแหวนแบบนั้นมันเหมาะกับผู้ชายวัยพ่อนายมั้ย คิด!” ไม่ใช่ว่าผมไม่คิดแต่ผมคิดไม่ออกต่างหากคนที่ผมรู้จักดีใช่ว่าจะมีแค่คนสองคนนะเว้ย
“ไม่รู้”
“โอเค งั้นฉันใบ้ให้อีก ผุ้หญิงที่นายรู้จักดีคนหนึ่ง”
“แม่ฉัน”
“ก่อนตอบได้คิดก่อนมั้ย โว๊ะ! ฉันบอกให้ก็ได้”บอกตั้งแต่แรกก็จบเรื่องมั้ย นายนี่เรื่องเยอะจริงๆเลย
“ว่ามาสิ”
“คนที่ฉันซื้อแหวนไห้ก็คือ ‘แฟนของฉัน’ นา ดูริม หรือก็คือ‘เพื่อนสาวคนสนิท’ของนายนั่นแหละจงฮุน อย่าบอกว่านายลืมไปแล้วนะ น่าเสียใจแทนดูริมชะมัด” คุณเคยอยู่เฉยๆแล้วเหมือนถูกตบหน้ามั้ย ผมตอนนี้ความรู้สึกของผมไม่ต่างอะไรกับคนถูกตบหน้าเลย เพราะตอนนี้ผมชาไปหมด สมองผมอื้ออึงไปหมด ดูริมเหรอ ดูริมงั้นเหรอ นั่นสินะ ผมลืมไปได้ยังไง...
“ดูริม...”
“ใช่ ดูริม ที่เป็นแฟนของฉันและเป็นเพื่อนของนาย” ใช่แล้วผมลืมไปได้ยังไงกัน ผมลืมดูริมเพื่อนของผมไปได้ไง ผมลืมไปได้ยังไงว่าดูริมคือแฟนของฮงกี ผมลืมไปได้ยังไงว่าเพื่อนสนิทของผมทั้งคู่เขารักกัน ผมลืมไปได้ยังไง!!
“อ่า...ฉันนี่แย่จังเนอะลืมเพื่อนตัวเองไปได้ยังไง ฮ่ะฮ่า” การฝืนยิ้มและฝืนหัวเราะนี่มันลำบากดีจัง
“ใช่ แย่มากกก คอยดูนะฉันจะฟ้องดูริม-*-”
“นายจะไปหาดูริมเหรอ?”
“ใครบอกว่าฉันจะไปหาดูริม ดูริมกำลังจะกลับมาอยู่ไทยแล้วต่างหากล่ะครับคุณหมอ นี่ดูริมไม่ได้บอกนายเหรอ”
“เปล่านี่”
“ก็อย่างว่าแหละ นายมันเพื่อนไม่รักดี ดูริมไม่บอกนายก็สมควรแล้ว ฮ่าๆๆ ฉันดีใจจังดูริมจะกลับมาอยู่ไทยแล้ว ฉันจะได้สวีตกับแฟนฉันบ้างแล้ว ดีใจจังเลยโว้ยยยย>O<” ใช่ ฉันมันเพื่อนไม่รักดี แต่ฉันรักนาย ฮงกี...ตลอดเวลาที่ผ่านมาในใจของนายคงมีแต่ดูริมสินะ บางทีฉันก็อิจฉาดูริมนะนายรู้มั้ย อิจฉาที่นายรักเธอมากขนาดนี้ ฉันเองก็อยากให้นายรักฉันบ้างเหมือนกัน เมื่อไหร่นายจะรู้ว่าฉันก็ชอบนาย แต่มันคงไม่มีวันที่นายจะรู้หรอกใช่มั้ยเพราะในสายตาของนาย ในหัวใจของนายมันไม่เคยมีฉันอยู่เลยน่ะสิ พื้นที่นั้นมันเป็นไปด้วยดูริมหมดแล้วใช่มั้ย เหอะ
“อื้ม...”ผมตอบกลับฮงกีไปได้แค่นั้น จริงๆมันก็ผิดที่ผมเองนั่นแหละที่ไปชอบฮงกีทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่สมควร จำไว้นะจงฮุน จำไว้ว่าฮงกีมีแฟนแล้วอย่าเผลอลืมไปอีกล่ะ ฮงกีมีแฟนแล้วและแฟนของฮงกีก็คือดูริมเพื่อนของนายนั่นแหละ ชเว จงฮุน จำไว้!!!
--------------------------------------
โย่วววววว ซอรี่ที่หายไปนาน เค้าไม่ว่างจริงๆนะ เรียนหนักมากๆโลย
นี่ที่มาแต่งมาลงก้ไม่ได้ว่างนะ แต่อู้งานขร่าาาาา55555555
คือตอนนี้มันหลากหลายอารมณ์มากๆ ยังไงก็ตามให้ทันนะจ้ะ อิ้อิ้
เป็นไงล่ะ คจอ. แฟนฮงกีจะกลับมาแล้วแหละเทอวววววว์ >O< ♥
ความคิดเห็น