ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวไข่ดาวกับหนุ่มแม็กกี้

    ลำดับตอนที่ #4 : การเผชิญหน้าที่แท้จริง

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 49


    " คุณดาวขา------------คุณดาววววว เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ"เสียงแปดหลอดที่ไม่เห็นตัวก็รู้ว่าเป็นของใครดังมาจากหน้าร้าน

     

    "อะไร เกิดอะไรขึ้น"ไข่ดาวเงยหน้าขึ้นขณะที่มือก็กำลังจัดหนังสือใหม่ลงช่องวางหนังสือ


    "ริชชี่ทำผิดกฎบัญญัติสภากระเทยค่ะ"ริชชี่พูดเสียงเครียด


    "อะไรย่ะ พวกเธอมีกฎบทบัญญัติอะไรแบบนั้นด้วยหรอ"

    "มีซิค่ะ แล้วริชชี่ก็ทำผิดกฎร้ายแรงด้วย ฮือ ฮือออออ"กระเทยใจเล็กครวญครางร้องไห้

    "แล้วเธอทำไรผิด"ไข่ดาวถามโดยไม่สนใจที่จะหันไปคุยด้วยแต่กลับตั้งหน้าตั้งตาจัดหนังสือชั้นใหม่แทน
     

    "ริชชี่ทำร้ายผู้ชายหล่อค่ะ ฮืออือออ"


    "เฮ้ออออ..แค่เนี้ย.....ทำจะเป็นจะตาย"ไข่ดาวพูดอย่างไม่ใส่ใจแต่สิ่งที่สนใจกลับเป็นการแต่งตัวของกระเทยยักษ์ที่ใส่เสื้อลายดอกสีแดง และกางเกงสีชมพูที่ช่างไม่เข้ากันเสียเลยพลางคิดในใจว่าคนอะไรมันช่างมั่นใจในตัวเองจริงๆ  


    "แค่นี้ได้ไงค่ะ แล้วคุณดาวไม่สงสัยหรอว่าเป็นใคร"


    "แล้วไอ้ผู้ชายหล่อของเธอมันใครย่ะ"ไข่ดาวถามขณะที่มือก็จัดหนังสือเรื่อยๆ


    "ก็คนที่โดนเราตีเมื่อคืนไงคะ
    "


    "หรอ! หล่อ...แล้วไง ที่จริงมันน่าจะตีให้ตายไปแล้ว"หญิงสาวหยุดจัดหนังสือและพูดอย่างเคียดแค้นเมื่อนึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน


    "หล่อจริงๆนะคะคุณดาวขา หล่อลากดินขนาดทอม ครูดดดยังก๊านพี่ภูมิยังพ่ายพี่นิทกี้ยังถอยให้เลยนะค่ะ หล่อมั่กกกกกกกกกกค่ะ"ริชชี่ทำตาหยาดเยิ้มขณะบรรยายความหล่อของฝรั่งคนนั้นจนทำให้คนตรงหน้าหมั่นไส้


    "พอๆ เวอร์ไปเธอ เวอร์ไป"


    "จริงๆนะค่ะ คุ....."


    "เธอนี่มันโรคบ้าผู้ชายขึ้นสมองจริงๆเลย  "ไข่ดาวพูดโดยที่ไม่ได้หันไปมองลูกน้องที่ตอนนี้เงียบเพราะความอึ้งกับอะไรบ้างอย่าง


    "ใครเป็นโรคบ้าผู้ชายครับ"ผู้เข้ามาใหม่ถามพร้อมยิ้มอวดฟันขาวสว่างตา


    " เออ....ไม่มีอะไรค่ะ คุณ.....ต้องการอะไรค่ะ"ไข่ดาวเงยหน้าขึ้นมองพร้อมตอบปฏิเสธและถามถึงสิ่งที่ผู้ชายร่างสูงต้องการ


    "วันนี้ผมคงยังไม่ซื้ออะไรหรอกครับ เออ.....ผมชื่อจักรรินทร์ ครับ เรียกผมจักรก็ได้" ชายหนุ่มแนะนำตัวด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส


    "เออ....ค่ะ"


    "แล้วคุณ......."จักรรินทร์พูดเป็นเชิงถาม

    "อ๋อ....ฉันชื่อ ดาวค่ะ"หญิงสาวบอกชื่อแต่ส่วนท้ายเพราะไม่กล้าบอกชื่อเต็มๆที่อาจจะตลกจนตัวเองต้องเสียหน้า  


    " ส่วนฉันชื่อริชชี่นะคะ  ยินที่ได้รู้จักค่ะ"ริชชี่ที่ตอนนี้หายอึ้งแต่เปลี่ยนมาทำหน้าหื่นแทน รีบแนะนำตัวและรีบคว้ามือของชายหนุ่มมาจับ  


      "เออ....ยินดีที่ได้รู้จักครับ"จักรรินทร์พูดด้วยเสียงสั่นๆก่อนจะพยายามแกะมือตัวเองออกจากมือของริชชี่อย่างยากเย็น

    "ค่ะ.... คนอะไรน่ารักจัง"ริชชี่บอกพร้อมกับขบปากส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้กับจักรรินทร์ที่ตอนนี้กลัวจนขนหัวลุก


    "แล้วคุณ...."


    "เออ.....เดี๋ยวรอแป็บนะครับ"จักรรินทร์บอกไข่ดาวที่กำลังจะอ้าปากถามอะไรซักอย่างหนึ่งและเขาก็วิ่งไปที่ชั้นวางหนังสือล็อกหนึ่งในร้านแล้วดึงร่างของใครบ้างคนกลับมาด้วย


    "นี่เป็นเพื่อนผมครับ ชื่อ แม็กดิสัน เรียกเขาว่า "แม็กกี้" ก็ได้ครับ" จักรรินทร์แนะนำตัวแทนฝรั่งผมเข้มที่ตอนนี้มายืนอยู่ตรงหน้าไข่ดาวและริชชี่ที่ตอนนี้กำลังจะหลอมละลายไปกองอยู่กับพื้น 
     

    "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"ไข่ดาวกล่าวทักทาย


    "......................."เงียบไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวโต


    "เฮ้ย.....แม็กกี้ทำไมนายไม่ทักตอบวะ คนไทยถือว่าเสียมารยาทนะ เออ....เพื่อนผมเขาเพิ่งมาจากอเมริกานะครับ เขาชอบเมืองไทยมาก ก็เลยมาเที่ยวหาผมที่เพิ่งมาเปิดร้านหนังสือที่นี่.....ร้านเปิดใหม่ที่ตรงมุมนั้นน่ะครับ"จักรรินทร์ตำหนิและรีบแนะนำเพื่อนพลางดึงแขนเสื้อเตือนเบาๆ


    "........................."เงียบไม่มีเสียงตอบเป็นครั้งที่สองแต่กลับมีเพียงสายตาที่เย็นชาของนายแม็กกี้ที่มองไข่ดาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
     

    "ขะ เขา คงกำลังนึกคำที่จะพูดไม่ออกนะครับ อย่าถือสาเลย ก็อย่างว่านะครับ ภาษาไทยของเรายากไปหน่อย" จักรรินทร์รีบแก้ตัวแทนเพื่อนพลางคิดในใจว่ามันเป็นอะไรของมันกันนะ


    "ฉันไม่ได้นึกคำพูดไม่ออก แต่ฉันไม่อยากพูดกับหัวขโมย" แม็กกี้หันหน้าออกไปทางนอกร้านแล้วพูดเบาๆแต่ก็ดังพอให้ได้ยิน

    "นี่....นะ นาย..."ไข่ดาวอ้ำอึ้งและเริ่มมองคนกล่าวหาอย่าพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า ในใจก็พยายามนึกว่าเคยเจอนายคนนี้ที่ไหนซักที่ ไหล่ที่กว้างผึ่งผายรับกับรูปร่างสูงออกล้ำนิดๆ ผิวที่ขาวมากจนเป็นสีชมพูไร้ซึ่งรอยกระและจุดด่างดำน่ามอง  ปากที่บางเฉียบสีชมพูเม้มเป็นเส้นตรงบ่งบอกอารมณ์ที่ไม่เคยจะดีเท่าไหร่ จมูกที่โด่งเป็นสันรับกับโหนกคิ้วที่มีคิ้วสีเข้มปรากฏอยู่และสุดท้ายสายตาของเธอก็ไปหยุดอยู่ตรงที่ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มที่มีแววของความเจ้าเล่ห์อยู่เต็มเปี่ยมที่เธอเคยเห็นในความมืด


    "คุณ....."ริชชี่โพล้งเสียงออกมาพร้อมกับชี้มือไปที่นายฝรั่งตัวโต 
     

      "มะ..ไม่มีอะไรค่ะ ยัยเนี้ยมันบ้าผู้ชายมันจำคนสับสนไปหมดค่ะ ไม่มีอะไรไม่มีอะไร แฮะแฮะ"ไข่ดาวรีบเอามือปิดปากยัยลูกน้องที่กำลังจะทำให้เรื่องแตกอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดกลบเกลื่อน


    "ขอโทษนะค่ะอย่าถือสาเขาเลยนะคะ"ไข่ดาวเอามือออกจากปากริชชี่และขอโทษพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้จักรรินทร์และเพื่อนของเขาที่ยังคงทำหน้าเหมือนทองไม่รู้ร้อน แม้ปากชมพูนั้นจะยิ้มอย่างเป็นมิตรแต่สายตาที่มองไปยังคนยะโสที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับฉายแววแห่งความอาฆาตแค้น ซึ่งคนที่ถูกมองก็ไม่น้อยหน้าเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าถูกมองก็หันมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวด้วยหน้าที่ชวนให้ยั่วโมโหเช่นกัน


    "อะ....อะไรกันครับมีอะไรกันรึเปล่าครับ"จักรรินทร์ถามอย่างงงๆเมื่อเห็นคนทั้งสองถลึงตาใส่กันจนตาจะออกมาจากเบ้าตา


    "ไม่มีอะไร กลับกันเถอะ "สุดท้ายนายแม็กกี้ก็เป็นฝ่ายถอยศึกก่อน


    "งั้นผมกลับก่อนนะครับแล้ววันหลังจะมาเยี่ยมใหม่...อ้อ....ลืมบอกไป ผมอยู่ตรงร้านหนังสือเปิดใหม่นั้นนะครับ ถ้าไงวันหลังคงต้องขอรบกวนขอคำปรึกษาจากคุณดาวนะครับเพราะรู้สึกว่าแถวนี้ขโมยจะเยอะเหมือนกันนะครับเมื่อคืนเพื่อนผมก็โดน มันเลยอารมณ์เสียนิดหน่อย งั้นไปก่อนนะครับ บาย" จักรรินทร์ยิ้มบอกอย่างรวดเร็วและรีบขอตัวกลับเมื่อเห็นเพื่อนเดินจ้ำอ้าวออกจากร้าน


    "คุณดาวขา น่ารักทั้งสองคนเลยนะคะ" ริชชี่ชมพร้อมกับมองตามหลังจักรรินทร์ที่ตอนนี้ออกไปจากร้านแล้ว

    "น่ารักบ้าอะไร มาเปิดศึกเห็นๆ"หญิงสาวโพล้งออกมาโดยที่ในใจกลับนึกถึงสายตาอันยียวนกวนประสาทของนายแม็กกี้


    "วุ้ยยยยยยคุณดาวขาถ้าอย่างงี้เขาไม่เรียกว่าหล่อ ไม่เรียกว่าน่ารักแล้วริชชี่ไม่เป็นศพไปเลยหรอคะ"ริชชี่พูดสะดีดสะดิ้งใส่เจ้านาย


    "อ้าว....ทุกวันนี้เธอไม่รู้ตัวเธอหรอ"ไข่ดาวได้ทีประชด


    "คุณดาวอะ พูดอะไรไม่รู้ ไม่เอาไม่พูดค่ะ อย่าเอาความจริงมาพูดเล่นซิคะ"
     
    "เออ...ว่าแต่ว่าแล้วเราจะทำไงต่อไปดีคะ ท่าทางคุณแม็กกกกี้จะรู้ว่าเป็นเราสองคนที่ย่องเข้าไปในร้านเพื่อนเขา"


    "ตอนนี้ยังไม่รู้"


    "อ้าว...."


    "ก็ฉันไม่รู้นิ...แต่ที่แน่ๆต้องมีการเอาคืน"


    "เอาคืนอะไรคะ เขาไม่ได้ทำอะไรให้เราซักหน่อย"


    "ทำซิ"


    "ทำอะไรค่ะ เราต่างหากที่ทำเขา "ริชชี่มองหน้านายสาวและถามด้วยความสงสัยสุดขีด
     

    "กะ ก็มันจะมาแย่งลูกค้าของเรา ถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่างร้านเราเจ๊งแน่"ไข่ดาวรีบบอกเหตุผลในสมองก็กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาทางแก้แค้นไอ้ฝรั่งนั้น มันแค้นนนนนนนนนน.......



    ฝ่ายแม็กกี้เองเมื่อออกมาจากร้านหนังสือของผู้หญิงคนที่ชื่อดาวโดยมีจักรรินท์ที่รีบเดินตามหลังมา เขาก็ค่อนข้างแน่ใจว่า ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนคนเดียวกับไอ้หัวขโมยที่เขาคิดว่าเป็นกระเทยนั้นแน่ๆเพราะตอนที่จักรรินทร์เข้าไปพูดด้วยเขาจำเสียงเล็กใสนั้นได้และเขาก็แอบมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า  พิจารณารูปร่างและตากลมโตนั้นอย่างละเอียด โดยเฉพาะส่วนหน้าอกที่เขากะประมาณด้วยสายตาได้ว่าคงจะไม่เกินไข่ดาวสองฟองที่โปะอยู่บนจานอาหารเช้าแน่ๆและยิ่งแน่ใจเมื่อเขาแกล้งพูดกล่าวหาเธอ แล้วเธอก็มีปฏิกิริยาที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด  และไอ้คนที่มันตีหัวเขาก็คงเป็นยัยกระเทยยักษ์คนนั้นแน่ๆ


    "เฮ้ย.......แกเป็นอะไรวะ ทำไมพูดกับคุณดาวเขาอย่างนั้นวะ เธออออกจะน่ารัก"จักรรินทร์ถามขึ้นทำให้ความคิดของแม็กกี้ต้องชะงักลง


    "น่ารักกับผีน่ะสิ หน้าอย่างกับกุมารทองแล้วอีกอย่างแกไม่ควรไว้ใจเขาง่ายๆ"ชายหนุ่มเปรียบเทียบพร้อมกับเตือนเพื่อนที่ดูเหมือนจะชอบผู้หญิงคนนั้นซะเหลือเกิน


    "เฮ้ย  !!แกไปว่าเขาอย่างงั้นได้ไง แล้วแกรู้จักกุมารทองหรอ"


    "ทำไมฉันจะไม่รู้จัก ถึงฉันจะเป็นฝรั่งแต่ฉันก็รู้อะไรมากไม่แพ้คนไทยเหมือนกัน"
     

    "ฉันนับถือแกจริงๆวะ แค่แกมาเมืองไทย 2-3 ครั้งแกรู้อะไรเยอะแยะไปหมดแถมพูดภาษาไทยคล่องปรือเลย แกไปเรียนมาจากที่ไหนวะ"


    "ฉันเรียนมาจากที่ไหนแกไม่ต้องรู้หรอก รู้ไว้แต่ว่าฉันชอบที่นี่มาก ก็เลยอยากรู้ทุกอย่างที่คนไทยรู้"ชายหนุ่มยิ้มอย่างภูมิใจ


    "เฮ้ย...แล้วแกมาคราวนี้แกจะมาอยู่ซักกี่วันวะ"


    "3เดือน"


    "หา....3 เดือนเลยหรอ"


    "ใช่..ทำไม? มีอะไรหรอ"


    "ก็ไม่มีอะไรแล้วแกจะพักที่ไหนวะ ที่แฟลตฉันคงไม่ได้นะ เพราะว่าแฟนฉันอยู่"


    "อย่างแกเนี้ยกลัวแฟนด้วยหรอวะ เห็นเมื่อกี้ทำตาเยิ้มเชียว"ชายหนุ่มแกล้งแหย่เพื่อน


    "มันก็มีบ้าง......ให้หัวใจกระชุ่มกระชวย"จักรรินทร์ยิ้มกริ่ม


    "ฉันจะนอนที่ร้านแก"


    "เฮ้ย...  มันจะสะดวกหรอ ห้องที่นั้นมันแคบนะ"จักรรินทร์พูดอย่างห่วงๆเมื่อนึกถึงห้องพักสี่เหลี่ยมแคบๆที่เขาทำขึ้นเพื่อจะใช้สำหรับนอนเป็นบางครั้ง


    "ไม่เป็นไรฉันอยู่ได้ แล้วฉันจะเฝ้าร้านให้นายด้วยไงเผื่อมีขโมยเข้ามา" แม็กกี้เสนอเงื่อนไขซึ่งก็ได้ผล


    "งั้นก็ตามใจ แล้วนายมาตั้ง 3 เดือนงานที่โน้นจะไม่มีปัญหาหรือวะ"จักรรินทร์ถามอย่างสังสัยเมื่อนึกถึงธุรกิจที่ไม่เล็กของชายหนุ่ม


    "มีคนจัดการให้แล้ว"


    "แล้วคราวนี้แกจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างวะ"


    "คราวนี้ไม่ได้มาเที่ยววะ"ชายหนุ่มตอบเพื่อนพลางพลักประตูเข้าไปในร้านหนังสือที่มีป้ายขนาดใหญ่
    ว่า  '
    Smile Book'


    "แล้วมาทำไมวะ"


    "มาตามหาคน"  


    "มาตามหาใคร.....หรือว่าแกมาไข่ทิ้งไว้แถวนี้เลยมาตามเก็บหรอวะ ฮาฮา" จักรรินทร์ล้อเพื่อนพลางดึงเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆมานั่ง


    "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ฉันกำลังทำเพื่อผู้หญิงที่ฉันรักคนหนึ่ง"ชายหนุ่มบอกแล้วกับเดินออกไปจากห้องปล่อยให้จักรรินทร์นั่งงง


     

    "มันมาตามหาใคร แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครวะ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×