ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Help me ภารกิจปาปารัซซี่จำเป็นของยัยตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #1 : ฉันเนี้ยนะ ปาปารัซซี่

    • อัปเดตล่าสุด 8 ส.ค. 52


    1
    ลัลล้า~
                ในที่สุดฉันก็ได้มาเกาหลี หลังจากที่ไปเรียนต่อที่ นิวซีแลน ฉันก็ขอคุณพ่อกับคุณแม่ว่า ขอมาเที่ยวที่เกาหลี เพราะว่าฉันมีบ้านอยู่ที่นี้เพราะว่าคุณพ่อกับคุณแม่ของฉันต้องมาเจรจาธุรกิจอยู่บ่อยๆ  เลยไม่ต้องห่วงเรื่องที่พักอะไรมากมายก็คนมันบ้านรวย คุณพ่อกับคุณแม่ฉันทำธุรกิจอะไรซักอย่าง ซึ่งฉันก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับธุรกิจของพวกท่านเลยแม้แต่น้อย ฉันวางแผนไว้ว่า จะอยู่ที่นี้ซัก2-3วัน แล้วค่อยกลับไปไทย ไปเยี่ยมพ่อ กับ แม่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่คิดถึงพวกท่านนะ แต่ว่าพวกท่านก็บินไปกลับนิวซีแลนทุกสองเดือนอยู่แล้วด้วย แต่กลับมาคราวนี้ ฉันก็กะว่าจะกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยที่เมืองไทยด้วย เพราะว่าพ่อกับแม่บอกว่าส่งฉันไปเรียนต่างประเทศตั้งนาน พวกท่านเลยไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับฉันเท่าไหร่ เลยอยากไห้ฉันกลับมาเรียนที่เมืองไทยเพราะว่าตอนนี้การศึกษาที่นี้ไม่ไปด้อยไปกว่าประเทศอื่นซักเท่าไหร่
                ฉันเดินตรงไปตรงที่รับผู้โดยสารเพื่อที่จะรอคนขับรถมารับ ไม่ได้มาที่เกาหลีตั่งนาน ทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้เนี้ย
                คุณหนูครับ ทางนี้คนรับคุณหนู
                อ่าว สวัสดีค่ะ ลิลลี่ก็นึกว่าคุณพ่อจะไห้ใครมารับ ที่แท้ก็ลุงโฮนี้เองนะคะ รอลิลลี้นานมั้ยคะเนี้ย
            “ไม่นานหรอกครับคุณหนู แล้วนี้คุณหนูจะให้ลุงขับรถกลับบ้านเลย หรือว่าจะขับรถไปเที่ยวไนตัวเมืองก่อนดีครับ
                ลิลลี่ขอขับรถไปช้อปปิ้งในตัวเมืองก่อนดีกว่าค่ะก่อนดีกว่าค่ะ ^ ^”
                อ้อ ลืมไป ฉันลืมแนะนำตัวไปเสียสนิทเลยนะเนี้ย ฉันชื่อ ลิลลี้ หรือเรียกเต็มๆว่า นางสาว ฐิติมรณ์อัศวบุญณากุล บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมฉันถึงมีชื่อเล่นว่าลิลลี่ ไม่ไช่เพราะว่ามันดูกิ๊บเก๋แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะว่าตอนที่คุณพ่อขอคุณแม่แต่งงาน คุณพ่อเอาดอกลิลลี่ 99 ดอกไปไห้ เพราะรู้ว่าคุณแม่ชอบ คุณแม่ก็เลยตั้งชื่อให้ฉันว่าลิลลี่ยังไงหละ โฮะๆๆๆ ตอนนี้ฉันอายุ สิบแปดย่างสิบเก้า แล้วหละ ตอนนี้พึ่งเรียนจบไฮสคูลมา เลยอยากจะมาเที่ยวคลายเครี่ยดซักหน่อยแล้วค่อยกลับไปบ้านเกิด ที่ประเทศไทยแล้วก็ไปเรียนต่อที่นั้นเลย
                อ๋อครับ งั้นจะให้ลุงขนกระเป๋าพวกนี้ไปเลยรึปล่าวครับของเต็มไปหมดเลยนะครับเนี้ย
                ค่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวลิลลี่ขอกุญแจรถหน่อยได้มั้ยคะ
                พวกกระเป๋าที่เห็นหลายๆใบนี้ ไม่ใช่ของฉันหรอกนะเนี้ย เพราะว่าพวกเสื้อผ้าของฉันอยู่ที่บ้านของญาติที่นิวซีแลนเรียบร้อยแล้วหละ ก็เป็นพวกของฝากของทุกๆคนเนี้ยแหละ ไหนจะของพวกเพื่อนๆฉัน แล้วก็พวกญาติของฉัน เฮ้อ เยอะเหลือเกิน ฉันมาคราวนี้กว่าจะกลับก็คงต้องเก็บของพวกนี้ไว้ที่บ้านคุณพ่อก่อนแล้วหละ แล้วค่อยขนกลับไปเมืองไทยทีหลัง
                พอได้กุญแจรถแล้วฉันก็เดินตรงไปที่รถมินิคูเปอร์สีแดงแสนสดใส ที่คุณพ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด แล้วฉันก็ขับไปที่ๆฉันต้องการเลยทันทีห้างที่ฉันจะไปก็อยู่ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก ขับไปอีก ครึ่งชั่วโมงก็ถึงพอดี
                แล้วฉันก็ถึงที่หมาย ว่าแต่ฉันจะซื้อไรดีหละ เอาพวกของใช้ส่วนตัวก็แล้วกัน เพราะว่าฉันทิ้งทุกอย่างไว้ที่นู้นหมดเลย พอฉันเดินเข้า เดินออกร้านเครื่องสำอาง ร้านสกินฟู้ดเรียบร้อยฉันก็จะกลับไปที่รถ แล้วฉันเดินผ่านร้านกุ้ดซี้ แล้วก็ต้องสะดุดตากับชุดเดรสดีเทา ลวดลายน่ารักตัวหนึ่ง ซื้อๆ ต้องซื้อให้ได้เลย *-* แล้วฉันก็เดินเข้าไปซื้อชุดที่โชว์นั้นทันที และข่าวดีก็คือมันเหลือตัวสุดท้ายแล้ว โหะๆโชคดีจริงๆเลยนะเนี้ยวันนี้ พอออกมาจากร้านกุ้ดซี้แล้วฉันก้อเดินไปกดลิฟต์เพื่อที่จะไปที่ลานจอดรถ
            ติ๊ง หน่อง~
                กรี้ดดดด
                ปึก
                โอ๊ย
                เสียงที่คุณได้ยินคือเสียงเปิดลิฟต์ เสียงกรี้ดแปดหลอดของพวกผู้ หญิง ไม่รู้กรี้ดอะไร กัน แล้วก็เสียงสุดท้าย เสียงร้องของฉันนั้นเอง แล้วถุงที่อยู่ในมือฉันก็ล้นก่อนที่ฉันจะถูกผลักเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับคนอีกคนหนึ่ง ตายแล้ว ประตูลิฟต์จะปิดแล้ว ถุงของฉันล่ะยังกองอยู่หน้าลิฟต์เลย กุ้ดซี้ของฉันหละ นั่นมันตัวสุดท้ายในร้านแล้วนะเนี้ย ฉันรีปเอื้อมมือไปกดลิฟต์ แต่ก็ต้องถูกใครบางคนขวางเอาไว้เสียก่อน
                คุณจะทำอะไรน่ะ
                ผู้ชายคนที่ผลักฉันเข้ามาในลิฟต์ถามแต่ฉันยังไม่มีเวลาหันไปดูหน้าเจ้าตัวการหรอกนะ
                นายไม่เห็นเหรอ ว่าถุงของฉันอยู่ข้างนอกหนะ
                ~กรี้ดดด~
                เสียงกรี้อของพวกผู้หญิงดังขึ้นมาเรื่อยๆ
                โถ่โว้ย
                ชายคนข้างๆฉันตะโกนอย่างหัวเสีย
                เดี๋ยวฉันซื้อคืนให้เองเอง ตอนนี้รีบปิดลิฟต์เร็ว พวกผู้หญิงพวกนั้นวิ่งตามมากันหมดแล้วไม่เห็นหรือไงเล่า
                แล้วชายคนนั้นก็รีบกดปิดลิฟต์ทันที
                นี้มันจะเกินไปแล้วนะ นายเป็นใครเนี้ย อยู่ดีๆก็วิ่งมาชนฉัน คำขอโทษก็ไม่มีซักคำ แล้วยังจะมาสั่งนู้นนี้อีก เปิดลิฟต์เดี๋ยวนี้เลยนะ ถุงกุ้ดซี้ฉันยังอยู่ข้างนอก นั่นมันเหลืออยู่ตัวเดียวทั้งร้านแล้วนะ
                ฉันพูดพลางเงยหน้าขึ้นไปดูหน้าเขา พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง หล่อมากก ผู้ชายอะไร คมกระชากใจสาว จมูกโด่ง ปากเรียวน่า จุ๊ฟ มากมาย ผิวออกขาวๆ ตัวสูงๆประมาน180 ซม. แถมผมออกยังเป็นสีออกควันบุหรี่ด้วย แล้วไหนจะตาที่ดึงดูดทุกคนได้คู่นั้นอีก O0O
                ให้ตายเหอะนี้เธอ ไม่รู้รึไงกัน ว่าฉันเป็นใคร?
            “........
                เงียบชั่วคณะค่ะทุกท่าน ตายแล้ว หล่อจัง -*- เคยได้ยินแต่ นางฟ้าตกสวรรค์ นี้มันเทวดาตกสวรรค์ชัดๆ
            “นี้ เธอไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ?
                ไม่ได้การแล้ว ห้ามเสียฟอร์มเด็ดขาดนะยัยลิลลี่ เธอต้องทำทีเป็นไม่สนใจเขาเข้าไว้
                ก็... ฉันจะไปรู้ได้ยังไงหละ ว่านายเป็นใคร นายไม่ใช่ญาติฉันสักหน่อย
                เหอะ ที่แท้ก็พวกบ้านอยู่หลังเขา แต่งตัวก็ดูดีมีชาติตระกูลนี้หน่า แต่ทำไมถึงไม่รู้จักฉัน หรือว่าพึ่งมาจากบ้านนอกแล้วไปขโมยเสื้อผ้าคาเขามีใส่หละ แต่ก็ดีนะ นานๆทีจะมีคนที่ไม่รู้จักฉันบ้าง
                อะไรของหมอนี้เนี้ย พูดอะไรหลังขง หลังเขา ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยบ้านฉันก็อยู่ที่ในตัวเมืองนี้หน่า -0-
            “นายพูดบ้าไรของนายเนี้ย บ้านฉันไม่ได้อยู่หลังเขาแล้วก็ไม่มีเขาอะไรที่นายพูดถึงด้วยนะจะบอกให้
                ติ๊ง~
                ลิฟต์มาแล้ว ฉันไปก่อนนะ ยัยบ้านนอก หวังว่าเราคงจะไม่ได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สองนะ ^ ^”
                ฉันยังไม่ได้พูดอะไร นายนั้นก็เดินออกจากลิฟต์ไปเสียก่อน อ่าวชั้นเดียวกับที่ฉันจะไปเลยนี้หน่า นี้ฉันต้องเดินตามตาบ้านี้จิงๆหรอเนี้ย เดี๋ยวเขาต้องมาหาว่าฉันเป็นพวกโรคจิตรแน่เลยอ่า เอาเถอะ ก็รถฉันจอดอยู่ตรงนู้นเอง เดินอีกนิดเดียวแล้ว ว่าแต่หมอนั้นหยุดเดินทำไมหละ ช่างเถอะ มันไม่ใช่เรื่องของฉันซักกะหน่อย
                นี้เธอเดินตามฉันมาทำไมเนี้ย อยากได้อะไรกันแน่
            นั้นไง ฉันยังพูดไม่ขาดคำ นายนี้มันพวกมองโลกในแง้ร้ายจริงๆเลยนะเนี้ย
                อะไร ใครเขาเดินตามนายหะอย่ามามั้วนะก็รถฉันจอดอยู่ตรงนู้น แล้วที่ยืนอยู่นั่นก็คนขับรถฉัน รู้ไว้ซะด้วยนะ
                ฮึ อย่ามาโกหกฉันจะดีกว่านะ ฉันคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วเชียว ว่าเธอน่าสงสัย ที่แท้เธอก็เป็น ปาปารัซซี่ ที่คอยท่ายภาพฉันอยู่ตอนนี้ใช่มั้ยนี้เองแล้วก็มาทำทีว่าไม่รู้จักฉัน มานี้กับฉันเดี๋ยวนี้เลยนะยัยตัวแสบ เธอรู้มั้ยว่ารูปที่เธอถ่ายไปมันทำไห้วงฉันเสียหายขนาดไหนเนี้ย
                หะ หา OoOให้ตายเถอะ หน้าตาก็ดีทำไมพูดจาแบบนี้ได้เนี้ย พูดซะบดบังความหน้าตาดีไปหมดเลย คนอะร้ายย หาว่าฉันเป็นปาปารัซซี่ แล้วยังหาว่าฉันตามถ่ายรูปเขาอีก
                อ่าว นี้หรอเพื่อนที่นายนัดเจอน่ะ ไหนบอกว่าผู้ชายไง นี้มันผู้หญิงนี้ ฉันรอมานานแล้วนะ เดี๋ยวพรึ่งนี้มีถ่ายปกนิตยาสารนะ เร็วหน่อยสิ
    พอเดินออกมาจากลิฟต์ ฉันก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อนายหน้าหล่อคนนี้ รู้สึกว่าจะชื่อเอสเตอร์ ว่าแต่ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะ หน้าตาก็ดี มีดีกรีเป็นถึงนางแบบได้เลยนะเนี้ย แล้วทำไมถึงรู้จักนาย เอสเตอร์อะไรนี้ได้หละ เอาเทอะยังไงเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่ดี แต่ว่าเมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นถามถึงฉันด้วยนี้หน่า แล้วฉันจะตอบเธอว่ายังไงดีหละ - -“
            “เอ่อ.. คือว่าหนู…”
                อ๋อปล่าวครับ
                อ่าว แล้วถ้าอย่างงงั้นนี้ใครหละจ๊ะ หรือว่าแฟน
                ไม่ใช่ครับ คือว่าเธอเป็นน้องสาวเพื่อนคนที่ผมพูดถึงหนะครับ เธอจะมาเที่ยวที่เกาหลีซักพักหนึ่งเท่านั้นเอง
                อ๋อจ๊ะ แล้วนี้น้องสาวเพื่อนนายชื่ออะไรหละ
                เอ่อ เธอชื่อ.....
                .......
            “นี้ เธอชื่ออะไร?”
                ......
    หมอนั้นกระซิบข้างหูฉันอย่างกลบเกลื่อน
                ฉันถามว่าเธอชื่ออะไร
                ละ ลิลลี่ ฉันชื่อลิลลี่
                เธอชื่อลิลลี่ครับ^ ^
                พอหมอนี้พูดจบ เขาก็เอามือมากอดคอฉันอย่างกับคนที่สนิทกันมากว่าสิบปี โอ้ย จะบ้าตาย นายเป็นอะไรของนายเนี้ย อยู่ดีๆก็มาทำอย่างงี้กับฉัน เมื่อกี้บอกว่าฉันเป็นปาปารัซซี่ ตอนนี้มาบอกว่าฉันเป็นเพื่อนอีก ทำอย่างงี้เล่นเอาฉันตั้งตัวไม่ทันเลยนะเนี้ย
                อ๋อจ๊ะลิลลี่ แล้ววันนี้ลิลลี่จะพักที่ไหนหละจ๊ะ^ ^
                อ๋อ คือว่าลิลลี่จะไปพักที่บ้านค่ะ
                - -?
            “คือลิลลี่เขาหมายถึงบ้านผมน่ะครับ บ้านผม ใช่มั้ยจ๊ะลิลลี่คือว่าเรานัดว่าจะมาเจอกันที่นี้ก่อนหนะครับแล้วค่อยกลับไยด้วยกันเลย
    หมอนี้พูดกับผู้หญิงคนนั้นพลางหันมายิ้มเย็นยะเยือกไห้กับฉัน หนอยแนะทำมาเป็นเนียนงั้นหรอ มีตู่หาว่าชั้นหนะเป็นปาปารัซซี่ โถ่เอ้ย ไม่อยากจะคุยนะว่าบ้านฉันหนะมันอันจะกินขนาดไหน
                ค่ะ
    ฉันตอบกลับไปแล้วหันไปยิ้มเย็นยะเยือกด้วยสายตาไม่เป็นมิตรกับหมอนั้น ก่อนจะกระซิบถามหมอนั้นด้วยความไม่พอใจ
    “นี้นาย ฉันบอกนายไปแล้วนะว่าฉันไม่ได้เป็นไอ้ปาปารัซซี่อะไรอย่างที่นายกล่าวหาฉัน อีกอย่างนะจะบอกไห้เอาบุญไว้ตรงนี้เลยว่าฉันไม่รู้จักนาย แล้วก้อไม่รู้ด้วยว่านายจะโด่งจะดังมาจากไหน แต่ฉันต้องการกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
    พอฉันพูดเสร็จก็หันกลับไปยิ้มด้วยสายตาอันเป็นมิตรกับคุณผู้หญิงน่าสวยคนนั้น แล้วนายเอสเตอร์อะไรนั้นก้อทำเนียนตามเคย
            “อ๋อจ๊ะ งั้นฉันกลับบ้านแล้วนะ ขอบคุณมากที่ให้ติดรถมา แล้วพรุ่งนี้อย่าสายนะ ถ้าสายนายโดนพวกนั้นเล่นงานแน่ อย่าลืมนะว่าเราจะอยู่ที่นี้กันอีกแค่สามวัน แล้วจะกลับไปไทย เพราะฉะนั้น อย่าทำเสียเรื่องก่อนหละ
                คร้าบบ
                แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เดินจากไป โดยที่ฉันยังไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ ตะ แต่ นายนี้บอกว่าไงนะ บอกว่าฉันจะไปอยู่บ้านนายเนี้ยนะ ไม่ได้การและ ฉันจะต้องคุยกับหมอนี้ไห้รู้เรื่องก่อนที่อะไรต่อมิอะไรมันจะเลยเทิดไปมากกว่านี้
                นี้นายเอสเตอร์ ฉันไปเป็นน้องสาวเพื่อนนายตั้งแต่เมื่อไหร่กันหะ แล้วเรื่องที่ฉันจะไปนอนบ้านนายอีก ฉันมีบ้านของฉัน แล้วฉันก้อไม่ใช้น้องสาวเพื่อนอะไรนั้นด้วยนะจะบอกให้ แล้วรถฉันก้อจอดอยู่ตรงนู้น เห็นมั้ย
                นี้ยัยปาปารัซซี้ เธอยังจะมาทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกรึไงกันหะ ต่อไปนี้ระวังตัวให้ดีนะ เพราะฉันจะจับตาดูเธอทุกฝีเก้า
                นี้ มันจะเกินไปแล้วนะ ฉันไม่รู้จักนาย ฉันไม่รู้เรื่องไรที่นายพูดถึงทั้งนั้นแหละ ปาปารัซซี้บ้าบอะไรฉันก็ไม่รู้จัก เพราะว่าฉันพึ่งกลับมาจากนิวซีแลน แล้วก็อออกมา ช้อปปิ้งที่นี้เข้าใจมั้ย พอกำลังจะกลับก็มาเจอกับนายเนี้ยแหละ แล้วฉันก็อยากกลับบ้านแล้ว เพราะว่าฉันเหนื่อย แล้วฉันก็ไม่รู้จักนายด้วย นายจะดังมาจากไหนก็ชั้งหัวนาย เพราะว่าฉัน-ไม่-สน-ใจ เข้าใจที่ฉันพูดรึปล่าวหะ
            ฉันพูดเรื่องที่เขาเข้าจผิดทั้งหมดไห้เขาฟัง แต่สิ่งที่หมอนั้นตอบกลับมากลับทำไห้ฉันแทบคลั่ง
                “โถ่สาวน้อย เธอนี้แต่งเรื่องเก่งจริงๆเลยนะ ทำเอาฉันเกือบจะเชื่อแหนะ พึ่งกลับมาจากนิวซีแลนงั้นหรอ งั้นไหนโชว์พาสปอรต์ หรือไม่อย่างนั้นก็กระเป๋าเดินทางของเธอไห้ฉันดูหน่อยสิ หรือว่าจะบอกว่าไห้คนขับรถเอ่กระเป๋าเดินทางกลับไปเก็บไว้ที่บ้านแล้ว แล้วเธอก็ยังเอาพาสปอร์ตทิ้งไว้ในนั้นงั้นเหรอ”
                โอ้ย ตายฉันอยากจะตะโกนดังๆว่าฉันไม่ได้โกหกนายแต่ว่าสิ่งที่นายพูดมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด แต่ถ้าฉันบอกความจริงตานี้ไปเขาก็ต้องไม่เชื่อฉันหนะสิ เบื่อๆๆ ฉันไม่เคยรู้สึกอยากตายขนาดนี้มาก่อนเลยนะชีวิต เอาไงเอากัน ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย พูดๆไปเหอะหมอนี้จะเชื่อไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร
    “ก็ใช่หนะสิ ฉันให้คนขับรถเอาไปเก็บที่บ้านแล้ว”
                ฉันพูดออกไปอย่างไม่หยี่หระแล้วก็เป็นอย่างที่ขาดเอาไว้ หมอนี้ไม่เชื่อจริงๆด้วย หมดกันฉันไม่รู้จะพูดยังไงแล้วเนี้ย
    “หึ ว่าแล้วเชียวว่าเธอต้องมามุขนี้ ไม่เป็นไรจำขำพูดของฉันเอาไว้ไห้ดีก็แล้วกัน ฉันจะจับตาดูเธอทุกฝีก้าว”
    หมอนั้นโน้มตัวลงมาไกล้ฉันแล้วพูดที่ข้างหูฉันเบาๆ เสร็จก็เดินไปที่รถเบ้นซ์สปอรต์สุดหรูของเขา ก่อนที่เขาจะสตารท์รถแล้วขับออกไปอะไรกันบทจะจบก็จบง่ายๆแบบนี้หนะหรอ แหมจะจับตาดูฉันทุกฝีก้าว พ่อคู้ญ เอาตัวเองไห้รอดก่อนเถอะ เมื่อตอนอยู่ในลิฟต์ฉันเห็นผู้หญิงวิ่งแห่ตามนายมาอย่างกับฝูงอีแร่งดีๆนี้เอง ฉันจะถือสะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกันนะ ถึงแม้ว่าของที่ฉันซื้อมาจะไม่อยู่แล้วก็เทอะ คิดซะว่าเป็นการล้างซวย ฉันคิดกับตัวเองในใจแล้วก็เดินกลับไปที่รถ แล้วก็ขับกลับบ้านทันที
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×