ลำดับตอนที่ #1
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
“แม่ฮะ..อย่าทิ้งหมอกไปเลยฮะ แม่ฮะ แม่ ฮือออ แม่ครับ ฮืออ” เด็กน้อยอายุราว 8 ขวบ ผมดำมัน ดูยุ่งเหยิง ร้องตะโกนอย่างสุดเสียง มือไม้พลางฉุดรั้งร่างอันบอบบาง แต่ทว่าดูเย็นชาเอาไว้ ราวกับกลัวว่าร่างนั้นจะหลุดลอยหายไป
“ปล่อยฉันนะ!!! แกอย่ามารั้งฉันไว้เลย ตั้งแต่แกเกิดมา ไม่เคยมีอะไรดีดีเข้ามาในชีวิตฉันซักอย่าง แกนะ มันตัวซวย !! ได้ยินมั้ย บอกให้ปล่อยไง เด็กบ้านี่!” หญิงผู้นั้น พยายามสะบัดมือน้อยๆนั้นให้ออกไป
“ไม่ฮะแม่!!! หมอกไม่ให้แม่ไป ฮืออ แม่ครับ แม่” เด็กชายคนนั้นยังร้องต่อไปไม่หยุด
“ นี่! จะปล่อยมั้ย บอกว่าให้ปล่อยยังงัยเล่า!!!!” หญิงผู้นั้นสะบัดมือจนหลุด แต่ดูเหมือนว่าเด็กชายยังคงไขว่คว้าหามือนั้นต่อไป
“ คุณคะ! ไปกันเถอะคะ”ร่างนั้นพูดกับ ชายร่างใหญ่ที่เดินเข้ามา เด็กชายร้องโหยหวนเหมือนคนสิ้นสติ น้ำตาอาบแก้ม
“แม่ฮะ ทำไมฮะแม่ ทำไมไม่เอาหมอกไปด้วยฮะ แม่ฮะ ฮือออ... ฮืออ” เด็กชายคนนั้นนอนร้องไห้มองดูแผ่นหลังของหญิงที่เขาเรียกว่าแม่ และแผ่นหลังใบใหญ่อีกใบที่อยู่เคียงข้างด้วยความทรมานและเจ็บปวด จนกระทั่ง......... ร่างทั้งสองนั้นหายลับตาไป
“แม่ฮะ แม่!!!!!”
ที่ห้องสี่เหลี่ยมแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่ม ผมมันดำ ได้สะดุ้งตื่นขึ้น ตาเขาเบิกโพลน มีเหงื่อซึมออกมาตามร่างกาย หอบเป็นจังหวะ ท่าทางตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เค้าพึ่งฝันถึง มันเหมือนจริงมาก เหมือนซะจนคิดว่านั่นไม่ใช่ฝัน ชายหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นออกจากเตียงอย่างช้าๆ
((มันไม่แปลกหรอกที่มันจะเหมือนจริง ในเมื่อมันคือเรื่องจริง)) ชายหนุ่มคิดอย่างลำพัง ตอนนี้ร่างของเขาพิงอยู่กับขอบหน้าต่าง ที่มีแสงสว่างยามเช้าเพียงน้อยนิด สาดส่องลงมา
((ฟ้ามืดเหมือนกับวันนั้นเลย.........12ปีแล้ว เห็นจะได้มั้ง)) ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่าง
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง...... ชายหนุ่มหันมาทางต้นเสียงอย่างช้าๆด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เมื่อรู้ว่ามันคืออะไร ชายหนุ่มจึงค่อยๆเดินมาปิดมัน เขาวางนาฬิกาปลุกไว้ในที่เดิม แล้วเดินออกนอกห้องไปยังห้องน้ำ ที่อยู่ทางซ้ายเลยห้องครัวที่อยู่เบื้องหน้าไปอีกนิดหน่อย
15นาทีผ่านไป สภาพของชายหนุ่มตอนนี้อยู่ในสภาพที่สามารถออกจากบ้านได้แล้ว เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นตัวใหญ่ กางเกงยีนส์ เครื่องแต่งกายของเด็กมหาลัยทั่วไป เค้าเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เพราะเค้าอาจจะรู้สึกตัวแล้วว่า ถ้าเขาไม่รีบ เขาต้องสายแน่!! เขาเดินมาเข็นรถจักรยานให้ออกไปนอกรั้วบริเวณที่ดูจะเหมือนว่าจะเป็นบ้าน พร้อมกับล๊อกย่างเรียบร้อย ดูจากภายนอกแล้ว บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่อะไร เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ถูกทาด้วยสีขาว ข้างหน้าบ้าน มีแผ่นป้ายไม่ใหญ่มากนัก ถูกเขียนไว้ว่า บ้านสีขาว ติดอยู่ แต่ใครจะไปรู้อะไร ว่าสำหรับชายหนุ่มคนนี้ มันกว้างมากขนาดไหน
เอี๊ยด///// ... เสียงเบรกดังขึ้น ขณะนี้ตัวของเขามาถึงจุดหมายแล้ว เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อรู้ว่า ยังงัยตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาสาย เขาสะพายเป้ไว้ที่หลัง แล้วก้าวเดินต่อไปอย่างเรื่อยเปื่อยเพื่อที่จะไปยังห้องเรียน ทันใดนั้น..
“เอ่อออ ขอโทษคะ คุณทำกระเป๋าเงินหล่นรึป่าวคะ” เสียงหญิงสาวแว่วดังขึ้นมา ทำให้หมอกต้องหยุดเดิน แล้วหันมามองอย่างแปลกใจ สาวหน้าตาสะสวย ยืนอยู่ข้างหน้าของเค้า
“อืม...” หมอกพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปหยิบสิ่งของ ของเค้าคืน พร้อมกับยัดมันลงไปในเป้ แทบจะทันทีที่หมอกหันตัวกลับทำท่าจะเดินจากหญิงสาวคนนั้นไป ทำให้หญิงสาว อึ้งกับการกระทำของเขาไปพักใหญ่ ก่อนที่จะเอ่ยปากถาม
“เดี๋ยวสิคุณ!!! จะไม่ขอบคุณกันซักคำเลยเหรอ” หญิงสาวจ้องแผ่นหลังของหมอกตาเป็นเขม็ง หมอกหยุดเดินสักครู่ หันกลับมาข้างหลังเพียงเล็กน้อย เพื่อต้องการจะมองหน้าหญิงคนนั้น แต่ถึงกระนั้น ใบหน้าของหมอกก็ยังคงนิ่งเฉย แล้วหมอกก็เดินจากไป
“ตาบ้านี่!!! หน้าตาก็ดี มารยาทมีบ้างรึป่าวนะ” หญิงผู้นั้นยังหยุดอยู่กับที่ พร้อมกับมองแผ่นหลังของหมอกต่อไป
“ผิว !! ทำอะไรอยู่?? จะเข้าเรียนอยู่แล้วนะ แล้วทำไมหน้าตาเธอถึงเป็นแบบนั้นละ ดูไม่ได้เลย 5555” หญิงสาวร่างท้วมเดินเข้ามาเคียงข้าง ผิว ผู้หญิงที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนพรุ่งนี้จะสิ้นโลก
“นี่ ! อั๋น แกรู้จักผู้ชายคนนั้นรึป่าว ที่ผมสีดำๆอ่ะ สะพายเป้น้ำเงิน คนนั้นนะ คนนั้น เห็นยัง????” ผิวถามเพื่อนร่างท้วมของเธออย่างหัวเสีย พร้อมกับยื่นนิ้วมือ ชี้ไปยังแผ่นหลังของชายหนุ่ม ก่อนที่ร่างของชายหนุ่มนั้นจะหายไป
“อ๋อ รู้จัก อยู่ศิลปกรรมปี3 ชื่อหมอกนะ ก็เป็นที่รู้จักในหมู่สาวๆเยอะนะ เห็นคนในคณะชอบบอกว่าเขานะไม่ค่อยจะถูกกับเพศตรงข้ามสักเท่าไหร่ แล้วก็เป็นคนที่เงียบเกินไป เงียบจนน่ากลัวเลยมั้ง? รู้สึกว่า จะมีอดีตฝังใจไรทำนองนี้แหละ ทำไมอยู่ดีๆมาถามฉันละ เอ....หรือว่า แกจะปิ๊งเขา!!!” อั๋นตอบกลับมาเป็นชุด พร้อมกับ ยิงคำถามเป็นสลุดกับเพื่อนสาวของเธอ
“เฮอะ เฮอะ ปิ๊งเหรอ!! ไม่มีทางแน่ๆ แกรู้มั้ย? ฉันละอุตส่าห์เก็บกระเป๋าให้ ขอบคุณซักคำยังไม่มีเลย พอเดินมาเอากระเป๋าเสร็จก็เดินไปเลย ฉันนี่ งงนะ หน้าตาก็ดี แต่ไม่ได้เข้ากับนิสัยเลย ” ผิวเล่าให้เพื่อนฟังในลักษณะที่เรียกว่าตะคอก เพราะเธอกำลังเริ่มหัวเสียเพิ่มขึ้นกับคำว่า ปิ๊ง ของเพื่อนเธอ
“5555 ก็ฉันบอกแกแล้วงัยว่าเขารักสันโดษ โอ๊ย!! อย่ามัวแต่บ่นเลย จะเข้าเรียนแล้ว ไปกันเถอะเร็ว” อั๋นพูดกับผิว พร้อมกับพยายามจะฉุดดึงเธอให้เดินอย่างฉับไว ผิวยอมทำตามแต่โดยดี แล้วทั้งสองก็หายขึ้นตึกไป อย่างรวดเร็ว
.............................
หมดสิ้นกับการเรียนของวันนี้ หมอกรีบเดินไปที่ลานจอดรถนักศึกษาทั่วไป เขาปั่นมันออกไปนอกรั้วมหาลัยอย่างเร่งรีบ เมื่อรู้ว่า ขณะนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว
เอี๊ยด///... เสียงเบรกดังขึ้นในตรอกซอยเล็กๆ และเต็มไปด้วยผู้คน ภายหน้าของหมอกตอนนี้ ดูเหมือนจะเป็นด้านหลังของร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง ที่ดูจะสับสนวุ่นวาย มีคนมากหน้าหลายตากำลังวุ่นวายกับการหยิบจับอาหารต่างๆ เพื่อจะนำไปให้ลูกค้า ดูพอสังเกตก็น่าจะรู้ว่าร้านนี้ก็มีชื่อเสียงอยู่ เพราะจำนวนคน และจานที่มีอยู่นั้น ไม่ใช่น้อยๆเลย หมอกก้าวออกจากจักรยานอย่างรีบเร่ง เพื่อที่จะก้าวเดินเข้าไปในร้านแห่งนี้
“ขอโทษครับที่มาสาย” หมอกตะโกนพอให้ทุกคนรับรู้ทั่วกัน
“มาก็ดีแล้ว มาช่วยกันหน่อย เอาอันนี้ไปเสร์ฟที่โต๊ะ 10 ที แล้วเดี๋ยวกลับมาล้างจานต่อนะ ล้างไม่ทันแล้ว” ชายวัยกลางคน ที่อยู่หน้าเตา หันหน้าที่ดูมันหยอง แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น มามองหมอกด้วยเวลาเพียงน้อยนิดเพื่อต้องการให้หมอกทำตามที่เขาสั่ง
1ชั่วโมงผ่านไป...
ทุกอย่างในร้านดูผิดถนัดกับเมื่อชั่วโมงที่แล้ว งานทุกอย่างเสร็จสิ้นลง ตอนนี้ทุกอย่างในร้านกลับเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ จานชามที่เคยวางสูงเป็นกอง บัดนี้มันกลับไปอยู่ในลังอย่างสะอาด ทุกคนในร้านต่างพากันเหนื่อยหอบ
“ วันนี้ก็ช่วยๆกันอีกวัน ขอบใจมาก เจอกันพรุ่งนี้ละกันนะ กลับบ้านดีๆละทุกคน แล้วอย่าลืมว่า อย่ามาสายละ!! อืมม แยกย้ายได้” ชายหน้าเตาคนนั้นตะโกนออกมาท่ามกลางผู้คนที่ดูเหน็ดเหนื่อยเรียงรายล้อมรอบ
“ครับ เฮียเจ๋ง” ทุกคนตอบรับ รวมไปถึงหมอกด้วย หมอกเดินออกนอกร้านด้วยอาการที่ปวดเมื่อยล้าไปทั้งตัว เขาเข็นจักรยานที่จอดทิ้งไว้ให้ตั้งตรงเข้าที่ จับเป้ที่วางไว้ให้มันขึ้นมาอยู่บนหลัง แล้วเขาก็ปั่นมันออกไป โดยที่ไม่รู้เลยว่า อีกไม่กี่นาที จะมีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตอลดชีวิต
หมอกเลี้ยวเข้าซอยบ้านสีขาว เช่นเดียวกับที่ทุกๆคืนเขาได้ทำ
((ทำไมวันนี้มันถึงได้ช่างยาวนานอย่างนี้นะ)) หมอกบ่นกับตัวเองเบาๆ นี่เขาแทบจะหลับคาจักรยานได้แล้วนะ
((อีกนิดเดียวเท่านั้นๆ อีกนิดเดียว)) หมอกคิด หน้าบ้านหมอกตอนนี้อยู่แค่เอื้อมก็จะถึงแล้ว แต่!! ...
“เฮ้ยย ใครมานอนตรงนั้นนะ” หมอกตะโกนเสียงดัง
“หลบไป!!” หมอกตะโกนอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าร่างที่ไร้สติที่อยู่ข้างหน้าเขานั้นจะขยับเขยื้อน หมอกเริ่มหน้าเสีย กดเบรกสุดแรง และรีบเอาขายันพื้นไว้เพื่อทรงตัว ก่อนที่เขาจะต้องล้มลงกับพื้น
“แฮ่ก แฮ่ก อะไรกันวะเนี่ย?” หมอกก้าวลงจักรยานของเค้า แล้วรีบเดินตรงไปที่ร่างนั่น หมอกดูอย่างพิจารณา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา คือ..
“เด็กเหรอวะ ????”
_____________________________________________________________________
**นิยายเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงการเริ่มต้นของรักแต่จะพูดถึงเส้นทางการเดินทางของรักในหลายมุมและหลายความหมายต่างหาก**
“ปล่อยฉันนะ!!! แกอย่ามารั้งฉันไว้เลย ตั้งแต่แกเกิดมา ไม่เคยมีอะไรดีดีเข้ามาในชีวิตฉันซักอย่าง แกนะ มันตัวซวย !! ได้ยินมั้ย บอกให้ปล่อยไง เด็กบ้านี่!” หญิงผู้นั้น พยายามสะบัดมือน้อยๆนั้นให้ออกไป
“ไม่ฮะแม่!!! หมอกไม่ให้แม่ไป ฮืออ แม่ครับ แม่” เด็กชายคนนั้นยังร้องต่อไปไม่หยุด
“ นี่! จะปล่อยมั้ย บอกว่าให้ปล่อยยังงัยเล่า!!!!” หญิงผู้นั้นสะบัดมือจนหลุด แต่ดูเหมือนว่าเด็กชายยังคงไขว่คว้าหามือนั้นต่อไป
“ คุณคะ! ไปกันเถอะคะ”ร่างนั้นพูดกับ ชายร่างใหญ่ที่เดินเข้ามา เด็กชายร้องโหยหวนเหมือนคนสิ้นสติ น้ำตาอาบแก้ม
“แม่ฮะ ทำไมฮะแม่ ทำไมไม่เอาหมอกไปด้วยฮะ แม่ฮะ ฮือออ... ฮืออ” เด็กชายคนนั้นนอนร้องไห้มองดูแผ่นหลังของหญิงที่เขาเรียกว่าแม่ และแผ่นหลังใบใหญ่อีกใบที่อยู่เคียงข้างด้วยความทรมานและเจ็บปวด จนกระทั่ง......... ร่างทั้งสองนั้นหายลับตาไป
“แม่ฮะ แม่!!!!!”
ที่ห้องสี่เหลี่ยมแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่ม ผมมันดำ ได้สะดุ้งตื่นขึ้น ตาเขาเบิกโพลน มีเหงื่อซึมออกมาตามร่างกาย หอบเป็นจังหวะ ท่าทางตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เค้าพึ่งฝันถึง มันเหมือนจริงมาก เหมือนซะจนคิดว่านั่นไม่ใช่ฝัน ชายหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นออกจากเตียงอย่างช้าๆ
((มันไม่แปลกหรอกที่มันจะเหมือนจริง ในเมื่อมันคือเรื่องจริง)) ชายหนุ่มคิดอย่างลำพัง ตอนนี้ร่างของเขาพิงอยู่กับขอบหน้าต่าง ที่มีแสงสว่างยามเช้าเพียงน้อยนิด สาดส่องลงมา
((ฟ้ามืดเหมือนกับวันนั้นเลย.........12ปีแล้ว เห็นจะได้มั้ง)) ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่าง
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง...... ชายหนุ่มหันมาทางต้นเสียงอย่างช้าๆด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เมื่อรู้ว่ามันคืออะไร ชายหนุ่มจึงค่อยๆเดินมาปิดมัน เขาวางนาฬิกาปลุกไว้ในที่เดิม แล้วเดินออกนอกห้องไปยังห้องน้ำ ที่อยู่ทางซ้ายเลยห้องครัวที่อยู่เบื้องหน้าไปอีกนิดหน่อย
15นาทีผ่านไป สภาพของชายหนุ่มตอนนี้อยู่ในสภาพที่สามารถออกจากบ้านได้แล้ว เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นตัวใหญ่ กางเกงยีนส์ เครื่องแต่งกายของเด็กมหาลัยทั่วไป เค้าเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เพราะเค้าอาจจะรู้สึกตัวแล้วว่า ถ้าเขาไม่รีบ เขาต้องสายแน่!! เขาเดินมาเข็นรถจักรยานให้ออกไปนอกรั้วบริเวณที่ดูจะเหมือนว่าจะเป็นบ้าน พร้อมกับล๊อกย่างเรียบร้อย ดูจากภายนอกแล้ว บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่อะไร เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ถูกทาด้วยสีขาว ข้างหน้าบ้าน มีแผ่นป้ายไม่ใหญ่มากนัก ถูกเขียนไว้ว่า บ้านสีขาว ติดอยู่ แต่ใครจะไปรู้อะไร ว่าสำหรับชายหนุ่มคนนี้ มันกว้างมากขนาดไหน
เอี๊ยด///// ... เสียงเบรกดังขึ้น ขณะนี้ตัวของเขามาถึงจุดหมายแล้ว เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อรู้ว่า ยังงัยตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาสาย เขาสะพายเป้ไว้ที่หลัง แล้วก้าวเดินต่อไปอย่างเรื่อยเปื่อยเพื่อที่จะไปยังห้องเรียน ทันใดนั้น..
“เอ่อออ ขอโทษคะ คุณทำกระเป๋าเงินหล่นรึป่าวคะ” เสียงหญิงสาวแว่วดังขึ้นมา ทำให้หมอกต้องหยุดเดิน แล้วหันมามองอย่างแปลกใจ สาวหน้าตาสะสวย ยืนอยู่ข้างหน้าของเค้า
“อืม...” หมอกพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปหยิบสิ่งของ ของเค้าคืน พร้อมกับยัดมันลงไปในเป้ แทบจะทันทีที่หมอกหันตัวกลับทำท่าจะเดินจากหญิงสาวคนนั้นไป ทำให้หญิงสาว อึ้งกับการกระทำของเขาไปพักใหญ่ ก่อนที่จะเอ่ยปากถาม
“เดี๋ยวสิคุณ!!! จะไม่ขอบคุณกันซักคำเลยเหรอ” หญิงสาวจ้องแผ่นหลังของหมอกตาเป็นเขม็ง หมอกหยุดเดินสักครู่ หันกลับมาข้างหลังเพียงเล็กน้อย เพื่อต้องการจะมองหน้าหญิงคนนั้น แต่ถึงกระนั้น ใบหน้าของหมอกก็ยังคงนิ่งเฉย แล้วหมอกก็เดินจากไป
“ตาบ้านี่!!! หน้าตาก็ดี มารยาทมีบ้างรึป่าวนะ” หญิงผู้นั้นยังหยุดอยู่กับที่ พร้อมกับมองแผ่นหลังของหมอกต่อไป
“ผิว !! ทำอะไรอยู่?? จะเข้าเรียนอยู่แล้วนะ แล้วทำไมหน้าตาเธอถึงเป็นแบบนั้นละ ดูไม่ได้เลย 5555” หญิงสาวร่างท้วมเดินเข้ามาเคียงข้าง ผิว ผู้หญิงที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนพรุ่งนี้จะสิ้นโลก
“นี่ ! อั๋น แกรู้จักผู้ชายคนนั้นรึป่าว ที่ผมสีดำๆอ่ะ สะพายเป้น้ำเงิน คนนั้นนะ คนนั้น เห็นยัง????” ผิวถามเพื่อนร่างท้วมของเธออย่างหัวเสีย พร้อมกับยื่นนิ้วมือ ชี้ไปยังแผ่นหลังของชายหนุ่ม ก่อนที่ร่างของชายหนุ่มนั้นจะหายไป
“อ๋อ รู้จัก อยู่ศิลปกรรมปี3 ชื่อหมอกนะ ก็เป็นที่รู้จักในหมู่สาวๆเยอะนะ เห็นคนในคณะชอบบอกว่าเขานะไม่ค่อยจะถูกกับเพศตรงข้ามสักเท่าไหร่ แล้วก็เป็นคนที่เงียบเกินไป เงียบจนน่ากลัวเลยมั้ง? รู้สึกว่า จะมีอดีตฝังใจไรทำนองนี้แหละ ทำไมอยู่ดีๆมาถามฉันละ เอ....หรือว่า แกจะปิ๊งเขา!!!” อั๋นตอบกลับมาเป็นชุด พร้อมกับ ยิงคำถามเป็นสลุดกับเพื่อนสาวของเธอ
“เฮอะ เฮอะ ปิ๊งเหรอ!! ไม่มีทางแน่ๆ แกรู้มั้ย? ฉันละอุตส่าห์เก็บกระเป๋าให้ ขอบคุณซักคำยังไม่มีเลย พอเดินมาเอากระเป๋าเสร็จก็เดินไปเลย ฉันนี่ งงนะ หน้าตาก็ดี แต่ไม่ได้เข้ากับนิสัยเลย ” ผิวเล่าให้เพื่อนฟังในลักษณะที่เรียกว่าตะคอก เพราะเธอกำลังเริ่มหัวเสียเพิ่มขึ้นกับคำว่า ปิ๊ง ของเพื่อนเธอ
“5555 ก็ฉันบอกแกแล้วงัยว่าเขารักสันโดษ โอ๊ย!! อย่ามัวแต่บ่นเลย จะเข้าเรียนแล้ว ไปกันเถอะเร็ว” อั๋นพูดกับผิว พร้อมกับพยายามจะฉุดดึงเธอให้เดินอย่างฉับไว ผิวยอมทำตามแต่โดยดี แล้วทั้งสองก็หายขึ้นตึกไป อย่างรวดเร็ว
.............................
หมดสิ้นกับการเรียนของวันนี้ หมอกรีบเดินไปที่ลานจอดรถนักศึกษาทั่วไป เขาปั่นมันออกไปนอกรั้วมหาลัยอย่างเร่งรีบ เมื่อรู้ว่า ขณะนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว
เอี๊ยด///... เสียงเบรกดังขึ้นในตรอกซอยเล็กๆ และเต็มไปด้วยผู้คน ภายหน้าของหมอกตอนนี้ ดูเหมือนจะเป็นด้านหลังของร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง ที่ดูจะสับสนวุ่นวาย มีคนมากหน้าหลายตากำลังวุ่นวายกับการหยิบจับอาหารต่างๆ เพื่อจะนำไปให้ลูกค้า ดูพอสังเกตก็น่าจะรู้ว่าร้านนี้ก็มีชื่อเสียงอยู่ เพราะจำนวนคน และจานที่มีอยู่นั้น ไม่ใช่น้อยๆเลย หมอกก้าวออกจากจักรยานอย่างรีบเร่ง เพื่อที่จะก้าวเดินเข้าไปในร้านแห่งนี้
“ขอโทษครับที่มาสาย” หมอกตะโกนพอให้ทุกคนรับรู้ทั่วกัน
“มาก็ดีแล้ว มาช่วยกันหน่อย เอาอันนี้ไปเสร์ฟที่โต๊ะ 10 ที แล้วเดี๋ยวกลับมาล้างจานต่อนะ ล้างไม่ทันแล้ว” ชายวัยกลางคน ที่อยู่หน้าเตา หันหน้าที่ดูมันหยอง แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น มามองหมอกด้วยเวลาเพียงน้อยนิดเพื่อต้องการให้หมอกทำตามที่เขาสั่ง
1ชั่วโมงผ่านไป...
ทุกอย่างในร้านดูผิดถนัดกับเมื่อชั่วโมงที่แล้ว งานทุกอย่างเสร็จสิ้นลง ตอนนี้ทุกอย่างในร้านกลับเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ จานชามที่เคยวางสูงเป็นกอง บัดนี้มันกลับไปอยู่ในลังอย่างสะอาด ทุกคนในร้านต่างพากันเหนื่อยหอบ
“ วันนี้ก็ช่วยๆกันอีกวัน ขอบใจมาก เจอกันพรุ่งนี้ละกันนะ กลับบ้านดีๆละทุกคน แล้วอย่าลืมว่า อย่ามาสายละ!! อืมม แยกย้ายได้” ชายหน้าเตาคนนั้นตะโกนออกมาท่ามกลางผู้คนที่ดูเหน็ดเหนื่อยเรียงรายล้อมรอบ
“ครับ เฮียเจ๋ง” ทุกคนตอบรับ รวมไปถึงหมอกด้วย หมอกเดินออกนอกร้านด้วยอาการที่ปวดเมื่อยล้าไปทั้งตัว เขาเข็นจักรยานที่จอดทิ้งไว้ให้ตั้งตรงเข้าที่ จับเป้ที่วางไว้ให้มันขึ้นมาอยู่บนหลัง แล้วเขาก็ปั่นมันออกไป โดยที่ไม่รู้เลยว่า อีกไม่กี่นาที จะมีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตอลดชีวิต
หมอกเลี้ยวเข้าซอยบ้านสีขาว เช่นเดียวกับที่ทุกๆคืนเขาได้ทำ
((ทำไมวันนี้มันถึงได้ช่างยาวนานอย่างนี้นะ)) หมอกบ่นกับตัวเองเบาๆ นี่เขาแทบจะหลับคาจักรยานได้แล้วนะ
((อีกนิดเดียวเท่านั้นๆ อีกนิดเดียว)) หมอกคิด หน้าบ้านหมอกตอนนี้อยู่แค่เอื้อมก็จะถึงแล้ว แต่!! ...
“เฮ้ยย ใครมานอนตรงนั้นนะ” หมอกตะโกนเสียงดัง
“หลบไป!!” หมอกตะโกนอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าร่างที่ไร้สติที่อยู่ข้างหน้าเขานั้นจะขยับเขยื้อน หมอกเริ่มหน้าเสีย กดเบรกสุดแรง และรีบเอาขายันพื้นไว้เพื่อทรงตัว ก่อนที่เขาจะต้องล้มลงกับพื้น
“แฮ่ก แฮ่ก อะไรกันวะเนี่ย?” หมอกก้าวลงจักรยานของเค้า แล้วรีบเดินตรงไปที่ร่างนั่น หมอกดูอย่างพิจารณา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา คือ..
“เด็กเหรอวะ ????”
_____________________________________________________________________
**นิยายเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงการเริ่มต้นของรักแต่จะพูดถึงเส้นทางการเดินทางของรักในหลายมุมและหลายความหมายต่างหาก**
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
ความคิดเห็น