ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แต่งหลอก ๆ หยอกให้รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 รับข้อเสนอ...ดีไหม

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 51


    บทที่ 1 รับข้อเสนอ...ดีไหม 


                   3
    วันต่อมา 
                   
    หลังจากที่เจอกับคริส ฉันก็ยังนั่งคิดถึงเรื่องที่คริสมาบอก 'ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายมากมาย ฉันต้องรับผิดชอบผ่อน ทีวี ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า จิปาถะและเรื่องใหญ่ที่สุดคือบ้านที่พ่อกับแม่เป็นคนซื้อไว้ แต่ก็ยังโชคดีที่พ่อกับแม่เอาเงินมาใส่ในธนาคารก่อนท่านเสีย ในตอนนั้นฉันก็ยัง งง ๆ ว่าพ่อกับแม่เอาเงินให้ฉันทำไมเหมือนกับเป็นการสั่งลาครั้งสุดท้าย และฉันก็ไม่อยากขาดผ่อนส่งเพราะผ่อนก็เกือบจะเป็นไทยแล้ว 
                   
    ตอนนี้เงินในธนาคารเริ่มหดหายไปเยอะแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง งานก็ยังไม่มีทำ บอกตามตรงฉันก็ยังลังเลว่าจะไป..ตามขอเสนอของคริสและพี่มันดีไหม แต่อีกใจนึงไม่อยากไปเพราะมันเป็นการหลอกลวง ฉันนั่งคิดได้สักพักก็ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น พอมองดูเบอร์รู้สึกไม่คุ้นเลย
                    "
    สวัสดีค่ะ น้ำพูดค่ะ"
                    "
    น้ำ...เราเองคริส"
                    "
    อ๋อ...คริสนี้เองนึกว่าใคร โทรมามีไร"
                    "
    ก็จะถามน้ำว่าเป็นไงบ้าง ตกลงจะไปพบพี่เราเปล่า ถ้าน้ำช้าเดี๋ยวก็ไม่ได้งานหรอก"
                    "
    แกว่ามันเป็นงานหรอว่ะ เรื่องแต่งงานนะ มันไม่ใช่เรื่องเล็ก  ๆ นะ"
                    "
    ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่แต่น้ำเป็นผู้หญิงคนเดียว เราก็ไม่อยากให้น้ำลำบาก มาเป็นทองแผ่นเดียวกันดีกว่า"
                    "
    แกอยากให้ฉันเป็นพี่สะใภ้แกหรอไง ฉันยังไม่อยากแต่งงานหรอกฉันไม่ได้รักพี่ชายแกซักหน่อย แล้วถ้าฉันไปพบพี่แกแล้วเขาจะยอมรับฉันหรอ" ฉันถามเพราะคิดว่าในเมื่อเขาดูตัวผู้หญิงมาก็เยอะ..กะอีแค่แต่งงานหลอก ๆ ดูเขาจะเรื่องมาก และถ้าฉันไปเขาจะเลือกเหรอ
                    "
    ถ้าเป็นได้ก็อยากให้น้ำมาเป็นพี่สะใภ้ เรานับถือน้ำเหมือนพี่สาวและห่วงน้ำด้วย เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่วิดเขาจะว่าไงบ้างนะ...ก็ไปลองพบพี่เราดู"
                    "
    นี้ฉันแก่กว่าแกแค่ 6 เดือน ถึงกับต้องนับถือฉันเป็นพี่สาวเลยหรอ ถ้าจะต๊องนะแกรวมทั้งพี่แกด้วย...เฮ่อ...ขอคิดอีกทีก่อนแล้วกัน" 
                    "
    ถ้าน้ำจะไปก็โทรไปบอกเราแหละกัน จะไปส่งและไปเป็นเพื่อน แค่นี้ก่อนนะเรารู้สึกปวดท้อง..เข้าห้องน้ำก่อนนะ" 
                    "
    พูดมากเลยปวดอึล่ะซิ" 
                    "
    เออ...บาย" พูดเสร็จคริสก็ว่างสายเลย ฉันยังพูดไม่จบเลย สงสัยจะปวดอึอย่างรุนแรง

                    '
    เอายังดีไงว่ะเนี้ยเราจะไปดีไหมนะตอนเย็นวันนั้น ฉันก็หาข้าวกิน และอาบน้ำในระหว่างที่อาบน้ำหัวสมองของฉันก็ยังวนเวียนแต่กับเรื่องแต่งงานหลอก ๆ และเรื่องเงิน ฉันคิดหลายอย่างจนปวดหัว และคิดว่าถ้าไปแล้วเขาจะเลือกฉันไหม ถ้าไม่ไปก็ไม่รู้ว่าจะมีวิธีไหนที่หาเงิน 'เอาว่ะ...ไปก็ไป..ลองดูก็ได้ไม่เสียหายอะไร' พอตกลงกับตัวเองได้คืนนั้นฉันก็โทรไปหาคริส
        
                   '
    นี่ฉันยังดีไม่พอ หรือเธอไม่พอสักที ที่ฉันทำทุกๆ อย่าง เห็นใจกันบ้างไหมต้องให้ใจฉัน ทั้งโดนย่ำ โดนเหยียบเพียงใด เธอจึงคิดที่จะเปลี่ยน และกลับมารักแค่ฉันเพียงคนเดียว' (เสียงรอสาย ฉันดีไม่พอหรือเธอไม่พอซักที Am Fine)
                   "
    ฮัลโล...จะพูดกับใคร" โอ้..แม่เจ้า..ใครว่ะเนี้ย ผู้หญิงอะไร ทำไมพูดจาไม่เพราะเลย หางเสียงก็ไม่มี สงสัยกิ๊กไอ้คริสแน่เลย
                   "
    ขอสายคริสค่ะ จากน้ำ..คนสนิทของคริส" ฉันตอบออกไปอย่างหมั่นไส้
                   '
    ใครโทรมาหรอจีจี้' ฉันได้ยินเสียงคริสถามผู้หญิงคนนั้น (ชื่อ จีจี้ หรอชื่อยังกับหมา)  'เขาชื่อน้ำเขาบอกว่าเป็นคนสนิทกับคริส...สนิทกันแค่ไหน..ไหนบอกมีจีจี้คนเดียวไง' ฉันได้ยินเสียงยั้ยจีจี้ถามคริส 
                  
    ฉันกำลังตั้งใจฟัง 2 คนนั้นคุยกัน อยู่ดี ๆ ก็ได้ยิน คริสก็ถามขึ้นมา"น้ำหรอ โทรมามีไร"               
                  "
    ทำไม..โทรหาแกไม่ได้หรอ...ที่โทรมา..จะบอกว่าพรุ่งนี้ฉันตกลงจะไปพบพี่แกดู"
                  "
    อ๋อ...รับทราบ คิดถูกแล้วล่ะที่น้ำยอมไป งั้นพรุ่งนี้ 10 โมงเช้า เราจะไปรับน้ำที่บ้าน โอเคนะ"
                  "
    ก็โอ...เออ...แล้วอย่าลืมบอกกิ๊กแกด้วยว่าหัดพูดจาให้ไพเราะเพราะพริ้งหน่อย"
                  "
    อืมแล้วจะสั่งสอนให้ แค่นี้นะตอนนี้เราไม่ว่าง"
                  "
    ไม่ว่างเพราะเที่ยวอยู่ล่ะซิ"
                  "
    อืม...ช่าย"  ไอ้คริสนะไอ้คริส เที่ยวก็ไม่รู้จักชวนกันบ้างเลย
                  "
    เออ บาย ไม่รบกวนแหละ" ฉันบอกและก็กดว่างสายทันที

                 
    พรุ่งนี้จะเป็นไงบ้างนะ ฉันล่ะคิดไม่ออกเลย เอาเป็นว่าคืนนี้รีบนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้มีแรง 'สู้ต่อไป น้ำ' ฉันบอกตัวเอง

                  
    วันรุ่งขึ้น ตอน 10 โมง
                  
    ติ๊ง...ต่อง เสียงกริ่งดังนี่หว่า สงสัยคริสคงจะมาแล้ว พอดีฉันแต่งตัวเสร็จ ก็เดินมาเปิดประตูในคริสเอารถเข้าจอดในบ้าน
                  "
    มาแล้วหรอ ฉันแต่งตัวเสร็จพอดี" แล้วฉันก็แปลกใจว่าทำไมคริสถึงมองฉันตั้งแต่หัวจดเท้าเลย
                  "
    นี้...น้ำ จะแต่งตัวไปแบบนี้จริง ๆ หรอ...เราว่าไปเปลี่ยนดีกว่า พี่เราเขาไม่ชอบแบบนี้หรอก"
                  "
    อ้าว...ทำไมว่ะ มันน่าเกลียดตรงไหน" ฉันว่าพลางลูบเสื้อผ้าตัวเอง
                  "
    เราว่า..น้ำแต่งตัวเหมือนทอม...เปลี่ยนใส่กระโปรงดีกว่าดูเป็นทางการและน่ารักดี...ถ้าน้ำแต่งตัวแบบนี้ไปรับรองพี่ฉันคงไม่มอง" คริสแนะนำ
                  "
    ก็ทำไมฉันเป็นตัวของตังเองเหมือนมาร์คไง"
                  "
    มาร์คไหนอ่ะ" คริส งง! 
                  "
    ไม่เคยดูโฆษณาอ่ะดิ...วัน ๆ คงดูแต่แฟชั่นที่มีนางแบบหุ่นดี ๆ มาเดินโฉบให้ดู"
                  "
    แหมม..ก็รู้กันอยู่...มั่วแต่คุยนอกเรื่องตกลงจะเปลี่ยนหรือเปล่าชุดนะ" คริสถามย้ำ
                  "
    ไม่อ่ะ และฉันก็คิดว่าฉันไม่เหมือนทอม...ทอมที่ไหนเขาไว้ผมยาวเป็นลอนกัน เขาเรียกว่าสาวเท่ คิดมาก..ไปเหอะเดี๋ยวก็สายหรอก" ฉันบอก
                  "
    ตามใจ งั้นไป" 


                 
    ฉันนั่งรถที่คริสขับได้สักพัก ก็ถึงคอนโดของพี่ชายคริสมัน แต่ก่อนจะมาถึงฉันดันหลับในรถมา เลยไม่รู้ว่าคอนโดเข้าอยู่แถวไหน แล้วก็มาตื่นอีกทีตอนที่จะเข้าคอนโด พอกำลังจะเลี้ยวเข้าฉันก็เห็นชื่อคอนโด 'PAWIDCONDO' เมื่อคริสเห็นฉันตื่นก็บอกฉันว่า คอนโดนี้เป็นของพี่ชาย เป็นทั้งคนออกแบบและสร้างขึ้นมา และพี่ของเขาชื่อ ภวิศ ก็เท่ากับว่าเขาเป็นเจ้าของคอนโดนั้นเอง ดีนะที่คริสบอกชื่อพี่ชาย เพราะตั้งแต่คบกับมันมา รู้จักแค่ชื่อพ่อชื่อแม่ของคริส ไม่รู้จักชื่อพี่ชาย ที่จริงพ่อแม่ของคริสเคยเห็นฉันตั้งแต่เด็ก แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกท่านจะจำฉันได้หรือเปล่า เพราะไม่ได้เจอนานแล้ว ส่วนพี่ชายของคริสฉันไม่เคยเห็นหน้าหรอก ก็คงใกล้จะเห็นแล้วล่ะ ตื่นเต้นชะมัด!  

                  "แกจะเปิดเข้าไปเลยหรอ...ฉันว่ากดกริ่งน่าจะดีกว่า"  ฉันบอกคริส

                                "อืม...เปิดเข้าไปเลย ฉันมาบ่อยเวลาขี้เกียจกลับบ้าน และพี่วิดก็รู้แล้วว่าเราจะมา"

                               "หรอ" เฮ้อ...ตื่นเต้นชะมัดเลย หน้าตาเขาจะเป็นไงบ้างนะ เห็นคริสบอกว่าหล่อนักหล่อหนา

                                 พอฉันได้เข้ามาในห้องของพี่ชายคริส ฉันถึงกับต้องอุทานกับตัวเอง โอ้...โฮ้...สวยอะไรเช่นนี้ตกแต่งได้สวยมาก และฉันก็มองไปรอบ ๆ ห้องอย่างทึ่ง เขาก็เก่งใช่ย่อยออกแบบได้สวยไม่ว่าจะเป็นตัวคอนโดและก็ภายในห้อง คริสบอกให้ฉันนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนเพราะไม่รู้ว่าพี่เขาอยู่ส่วนไหนของห้อง เขาไม่ได้อยู่ที่ห้องหรอ..ไหนคริสบอกว่าเขารู้แล้วว่าฉันจะมาฉันคิดในใจ

                      ฉันนั่งได้แปบนึง คริสก็เดินมาพร้อมกับพี่ชายมัน ตอนเดินมาฉันไม่เห็นพี่ของคริสเพราะคริสเดินมาก่อน พอคริสเดินพ้นไปฉันก็ได้เห็นพี่ชายของคริส ฉันถึงกับตะลึง...ตะลึงในความหล่อเหลา ทำไมนะ! เขาถึงหาผู้หญิงจะแต่งงานด้วยไม่ได้สักทีก็ออกจะหล่อ และใจของฉันตอนนี้เต้นแรงมาก โดยไม่รู้สาเหตุ สักพักคริสเรียกฉัน ฉันก็สะดุ้งทันที

                                 "อะไร...คริส เมื่อกี้แกว่าไร"

                                 "เมื่อกี้เราพูด น้ำไม่ได้ยินหรอ...ถึงกับตะลึงในความหล่อของพี่เราเลยหรือไง" คริสแซว

                                 "ฉันไม่ได้ตะลึง....ฉันเคยเห็นคนหน้าตาดี หล่อ กว่าพี่แกอีก" ฉันพูดโดยลืมไปเลยว่าพี่ชายไอ้คริสยืนอยู่ใกล้ ๆ

                                 "ก็เมื่อกี้เห็นตะลึงตาค้างซะ" คริสพูดและก็ยิ้ม ๆ

                                 "ก็บอกว่าไม่ได้...."  ฉันยังเถียงกับไอ้คริสไม่จบ

                                 "เอาล่ะหยุดเถียงได้แล้วครับ...คุณนั่งลงเถอะ...เกรงใจผมหน่อย" ภวิศพูด เพราะเห็นท่าทีจะไม่หยุดเถียงกัน

                                  "ขอโทษค่ะ...ก็น้องคุณมาว่าฉัน มันได้เป็นอย่างที่น้องคุณบอก"  ฉันยังเถียงตอบกลับไป

                                  "เอาล่ะ ๆ แต่ผมก็เห็นคุณตะลึงตาค้างจริง ๆ อย่าแก้ตัวเลย"

                                  "ฉันเปล่า"  ฉันยังไม่ยอมรับความจริง

                                  "คุณยอมรับความจริงซะเถอะ" ภวิศเห็นหญิงสาวไม่ยอม...ก็ยิ่งพูด

                                  "ไม่..."ฉันตอบกลับไป ส่วนคริสก็เงียบไปเลย และมันก็มาสะกิดฉัน ฉันก็หันไปมองหน้ามัน

                                   “เดี๋ยวน้ำก็อดได้งานหรอก” คริสก้มลงมากระซิบ

                                   “เอาล่ะผมไม่เถียงกับคุณแหละ คุณชื่ออะไร” ภวิศถาม

                                   “ฉันชื่อ ปณาลี  คมสิทธิ์”  ฉันตอบแบบอารมณ์ บ่ จอย

                                   “ชื่อเล่นล่ะ” ภวิศถามต่อทั้งที่รู้แล้ว

                                   “ชื่อน้ำ”

                                   “คุณ...พูดจาหัดให้มีห่างเสียงหน่อย ถ้าคุณยอมรับความจริงว่าตะลึง ก็บอกมาเถอะผมไม่ว่าอะไร ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เห็นผมก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น”

                                   ไม่ค่อยจะชมตัวเองเลยนะ พ่อเทพบุตรสุดหล่อ

                                   “โอเค...ฉันยอมรับก็ได้ว่า ฉันตะลึงหน้าตาของคุณ พอใจยัง”  ฉันขึ้เกียจเถียงแล้ว และกลัวอดได้งานด้วย แต่หน้าฉันก็ยังเป็นตูดอยู่

                                   “บทจะยอมรับก็ยอมรับกันง่าย ๆ นะคุณ ก็แค่นั่นแหละ....ส่วนผมชื่อ ภวิศ เป็นพี่ชายของคริส...คุณคงรู้แล้วว่าผมต้องการหาคนที่แต่งงานด้วยแบบหลอก ๆ ผมคัดเลือกมาก็เยอะแต่ยังไม่ถูกใจสักที แต่พอเห็นรูปคุณที่นายคริสเขาให้ผมมา ก็รู้สึกอยากเจอและลองคุยกับคุณ และผมก็รู้ด้วยว่าสาเหตุที่คุณยอมมาพบผมคือเรื่องอะไร”

                                  “ในเมื่อคุณรู้...แล้วฉันก็มาพบ  คุณจะจ้างฉันไหมล่ะ เรื่องแต่งงานหลอก ๆ นะ” ฉันถามตรง ๆ เพราะจะได้รู้ไปเลยว่าเขาจะเอายังไง

                                  “คุณพูดตรงดี งั้นตกลงผมเลือกคุณ”

                                  คำตอบที่เขาพูดมาฉันถึงกับ อึ้ง! ทำไมมันง่ายได้อย่างงี้...ไม่มีการสัมภาษณ์อะไรเลยหรอ อุตสาลุ้นแทบตาย

                                  “ส่วนเรื่องเงินเดือนผมให้คุณเดือนล่ะ 30000 บาท หน้าที่ของคุณคือแสดงให้คุณพ่อกับคุณแม่ผมเชื่อว่าเรารักกัน และเราต้องแต่งงานจริง จดทะเบียนจริง แล้วเรื่องสินสอดผมยกให้คุณหมด โอเคไหมกับสิ่งที่ผมเสนอ” ภวิศถาม

                                 “มันก็โอ...แต่ต้องจดทะเบียนกันจริง ๆ ด้วยหรอ ไม่จดไม่ได้หรอ”

                                 “ไม่ได้ต้องจด ถ้าคุณคิดว่าจดทะเบียนกับผมไม่ได้ คุณก็กลับไปซะ ผมบอกได้แค่นี้”

                                 “ใจร้าย” ฉันว่าเขา

                                 “ผมก็ไม่ได้บังคับนี้ เรื่องของคุณ สิทธิ์ของคุณ ถ้าคุณตกลงคุณก็จะได้เงินตามที่ผมบอก แถมเป็นงานสบาย ๆ ”

                      เอายังไงดีว่ะเนี้ยเรา ไอ้เรื่องแต่งงานไม่เท่าไหร่ แต่ต้องจดทะเบียนกันจริง ๆ นี้ซิ  ปวดหัวจริง ๆ

                                 ภวิศเห็นหญิงสาวกุมขมับตัวเอง ก็เลยเอ่ยขึ้นมา “ที่ผมต้องจดทะเบียนนะ..ก็เท่ากับว่าผมให้เกียรติกับคนที่ผมแต่งงานด้วยถึงจะเป็นการแต่งงานหลอก ๆ  และคุณไม่ต้องกลัวเมื่อแต่งงานแล้ว คุณต้องอยู่บ้านเดียวกับผม กันไม่ให้คุณพ่อกับคุณแม่รู้ แต่เราแยกห้องกันนอน คุณอยากทำอะไรก็ทำ ผมจะไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคุณ”

                               “แล้วบ้านของฉันล่ะ ในเมื่อฉันจะต้องมาอยู่กับคุณ” ฉันถามเพราะฉันก็ห่วงบ้าน

                               “ก็ทิ้งไว้อย่างงั้น เสา อาทิตย์ ค่อยกลับไปดูก็ได้ และผมจะจ้างให้คนไปทำความสะอาดให้ ไม่ก็ให้คนเช่า”

                               “ถ้าฉันแต่งกับคุณแล้ว...จะต้องเลิกกันตอนไหน”

                               “ผมก็ยังไม่ได้คิด ก็คงสัก 2 ปี หรือไม่ก็ 3 ปี”

                              เฮ้อ...ทำไมชีวิตฉันถึงกับเหมือนในนิยายหรือในละครที่เคยดูเลย ไม่คิดว่าตัวเองก็เจอแบบนี้ “โอเคฉันตกลง” ฉันตอบเขา

                            เมื่อตกลงกันเสร็จ คุณภวิศเขาขอตัวไปทำกับข้าวต่อ และชวนกินข้าวเที่ยงที่ห้องของเขา  พี่ชายคริสมันเป็นเกย์เปล่าว่ะ ทำกับข้าวก็เป็น และเห็นบอกว่าคัดเลือกผู้หญิงมาเยอะแต่ไม่ถูกใจสักคน แต่กับฉันดันตกลงกันง่ายดาย หรือว่าเขาเห็นฉันเป็นเพื่อนของคริสน่ะถึงเลือก หรือขี้เกียจหาแล้วก็ไม่รู้ แต่ถ้าเป็นเกย์ก็ดีจะได้ว่างตัวถูก แต่ถ้าเป็นเกย์ก็เสียตายแย่และถ้าเขาเป็นคริสมันก็ต้องบอกซิและคริสมันหายไปไหนว่ะเนี้ย ตอนคุยกับคุณภวิศก็ไม่ได้สังเกต ทิ้งกันเลยนะเพื่อนเลว ไม่ยอมมานั่งให้กำลังใจกันเลย

                 
       ************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×