คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7
“มาขอสมัครเข้าชมรมดนตรีครับ” ผมเดินมุ่งหน้าเข้าไปที่ชมรมดนตรี เป็นไงเป็นกัน
วันนี้ไม่เจอสักวันก็ต้องเจอ ความโมโหทำให้ผมเดินเข้าไปเพื่อสมัครเข้าชมรมที่ตัวเอง
ไม่ได้มีความสนใจใดๆ เลย ก็แค่อยากเข้าไปให้รู้ว่าคนอย่างผมไม่เคยกลัวใคร
แล้วก็ไม่ต้องมาท้า เพราะว่าคำท้าทุกอย่างผมรับได้หมด
“ว๊าวๆๆๆๆๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าน้องริทจะมาสมัครด้วยตัวเองขนาดนี้
ความจริงแล้วไม่ต้องมาให้เมื่อยเลย แค่น้องริทบอกพี่โน่ พี่โน่จะเอาใบสมัครไปบริการ
ถึงเรือนหอของเรา เอ๊ย ถึงหอของน้องริทเลยนะครับ” ความโมโหยังไม่ทันหาย
ตัวการโมโหก็เดินออกมาจากห้อง พร้อมกับใบสมัคร ที่กรอกรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วน ร
อแค่ลายเซ็นอย่างเดียว อย่างกับรู้แน่ๆ ว่ายังไงผมก็ต้องมา มันจะมั่นใจเกินไปหน่อยแล้วมั้งเนี่ย
“หุบปากของพี่ไปเลยถ้ายังไม่อยากให้ปากมีสี อย่าคิดว่าเป็นพี่แล้วจะมาพูดจ้าอ้อล้อได้นะ
ที่เข้ามาวันนี้ ต้องการจะบอกว่าเด็กนิเทศอย่างผม ไม่เคยยอมแพ้อะไรทั้งนั้น แล้วพี่คอยดูแล้วกัน”
ผมเซ็นชื่อลงในช่องว่างที่ไอ้พี่โฉดเว้นว่างไว้ให้เซ็นต์
“แล้วเนี่ย ไม่ต้องมากรอกให้หรอกนะ ลายมืออย่างนี้เกรงใจคนอ่านเขา
นี่ไม่รู้ว่าใช้มือเขียนหรือว่าใช้เท้าเขี่ยกันแน่” ผมเห็นลายมือแล้วอดจะกวนโมโหพี่โฉดเค้าไม่ได้ ค
วามจริงแล้วมันไม่ใช่แค่แย่นะครับ แต่ว่ามันแย่มากๆ ต่างหาก
“โอ๊ยยยยย ” อยู่ๆ ไอ้พี่โฉดก็ทำท่าจะล้มลงไปกองที่พื้น ตอนแรกผมก็นึกว่าพี่เค้าต้องแกล้งเล่นแน่ๆ
แต่นี่ล้มลงไปนอนจริงๆ ก็เลยเอะใจ
“นี่ เป็นอะไรเนี่ย” ถึงจะเพิ่งต่อปากต่อคำกันไปหยกๆ แต่อาการที่เห็นก็ทำผมหน้าเสียไปเหมือนกัน
แต่คำตอบที่พี่เค้าตอบผมกลับมาทำให้ผมอยากเข้าไปกระทืบซ้ำจริงๆ ครับ แผนสูงชะมัด
“เจ็บใจ...พี่รึก็อุตส่าห์กรอกให้ ไม่อยากให้น้องริทต้องมานั่งกรอก เป็นห่วง กลัวจะเมื่อย
นี่ไม่เห็นความหวังดีของพี่เลยหรอ” ฮึย...พ่อนักแสดง มันน่านัก ไม่น่าหลงกลไอ้พี่บ้าเลย
“เป็นไงมั่งการแสดงของพี่ พอที่จะได้เป็นพระเอกละครเวทีปีนี้มั้ย” อย่าหวังเลยเหอะ
“หน้าโฉดๆ อย่างพี่อ่ะ ให้มาเป็นเด็กยกน้ำ ยังคิดแล้วคิดอีกเลย กรุณาอย่าคิดที่จะอาจเอื้อมมาเป็น
พระเอกให้ชมรมเค้าเสียหายเลยคร๊าบพี่โฉด” ผมตอบออกไปอย่างมั่นใจ
แล้วมุขเดิมก็กลับมาอีกครั้ง “เจ็บปวด..เหลือเกิน...วาจาน้องเชือดเฉือนพี่นัก แต่ไม่เป็นไร
พี่ชอบซาดิสต์ น้องริทว่ามาเลย เอาอีก แรงกว่านี้อีก พี่ชอบ” พูดพร้อมกับทำลอยหน้าลอยตา
ผมเถียงไม่ออกทำอะไรไม่ได้นอกจากกระทืบเท้าเดินออกไปจากห้องพร้อมกับตะโกนฝากไว้เป็นคำสุดท้าย
“ไอ้บ้าเอ๊ยยยย ฝากไว้ก่อนเหอะ” อย่าคิดว่าพี่เค้าจะเงียบครับ ไอ้พี่โฉดยังลากตัวเองออกมาตะโกน
“ที่นี่ไม่รับฝากหรอกนะ ฝากได้แค่ตัวกับหัวใจ ฝากไว้แล้ว ยึดนะไม่มีการรับคืนด้วยนะเอ้อ...”
ตะโกนมาได้ไม่ได้อายคนอื่นเค้าเลย ผมนี่แทบจะมุดหน้าลงดิน ไม่อายคนอื่นก็น่าจะอายตัวเองบ้าง
ดูพูดจาแต่ละคำ มันน่าตั๊นหน้าจริงๆ เล้ย โอ๊ยยย โมโหๆๆๆ
ประธานชมรมเดินกลับขึ้นมาพร้อมยิ้มที่หุบไม่ลง สมาชิกชมรมคนอื่นกรูกันไปที่หน้าต่าง
ไปดูหน้าคนที่ทำให้พี่โตโน่ประธานชมรมของพวกเค้าอารมณ์ดี ยิ้มไม่หุบ
แถมยังออกมารับใบสมัครเข้าชมรมด้วยตนเอง น่าแปลก ปกติชมรมนี้คนก็เยอะอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นที่ต้องไปประกาศหรือง้องอนให้ใครมาเข้าชมรมด้วยซ้ำ
ทุกคนสงสัยกันตั้งแต่ตอนที่มีแผนการโปรโมตชมรม
ก็เพิ่งมาเข้าใจกันนี่เองว่าคงเป็นเพราะคนตัวเล็ก หน้าหวานที่ทำให้พี่โตโน่เป็นได้ขนาดนี้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“โว๊ยยยย นี่มันอะไรกันวะ โมโหๆๆๆๆ ” เซนที่กำลังอาบน้ำอยู่รีบออกมาจากห้องน้ำ
ในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียว
“โวยวายอะไรมึง กูตกใจหมด ตะโกนอะไร นึกว่าไฟไหม้ห้อง” เซนวิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้องน้ำ
แล้วก็เห็นเพื่อนริทนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี ก่อนที่ตัวการเสียงดังจะพูดเหมือนไม่มี
เรื่องอะไรเกิดขึ้น
“มึง ไปอาบน้ำ จัดการธุระของมึงให้เสร็จก่อนเหอะเซน ออกมาอย่างงี้ กูจะเป็นตากุ้งยิงเปล่าๆ
อีกอย่างกูไม่ใช่พี่กันนะเว้ย มึงไม่ต้องอ่อยขนาดนั้น ” กวนตีนมันเล่นครับ เห็นหน้ามันตอนตกใจ
ก็อดขำไม่ได้ ทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นหน่อย
“อ๊าววว ไอ้นี่กวนแล้วไง นี่ทำกูหัวใจเกือบวาย แล้วยังมากวนตีนอีกนะ ริทมึงไม่บอกล่ะว่าอยากปากแตก
เดี๋ยวกูจัดให้” ไม่พูดเปล่า ถืออาวุธเป็นขันพร้อมน้ำอยู่ในมือ อีกข้างถือแปรงสีฟันที่ฟองยังติดอยู่
“เซนคร๊าบ ริทว่าเซนไปบ้วนปากก่อนดีไหมครับ ก่อนที่ริทจะปากแตก เซนคงกลืนฟองยาสีฟันหลายอึกและ”
ผมบอกมันด้วยความหวังดี อย่างนี้แหล่ะครับพวกผม ล้อกันเล่นเป็นประจำ แต่อย่างน้อย
เซนก็ทำให้ผมลืมเรื่องที่น่าโมโหในวันนี้เป็นปลิดทิ้ง จนกระทั่ง...
“สรุปว่าไงมึง มีเรื่องอะไรเมื่อเช้า กูก็ลืมถามไปเลย มัวแต่รีบไปเรียน โดนใครรังแกมาหรือไง
พ่อหนุ่มน้อยหน้าหวาน ” เซนเอามือมาลูบคางผม ให้ได้อย่างนี้สิ สัตว์เลี้ยงเต็มสูบชัดๆ
นับวันเซนยิ่งจะลูบหัวลูบหางผมมากเกินไปละ
“โห กูอุตส่าห์ลืมไปแล้วนะเนี่ย มึงนี่ก็ขุดคุ้ยขึ้นมา อารมณ์กูขุ่นมัวอีกและ” พอนึกขึ้นได้
ก็พาลจะโมโหอีกแล้วล่ะครับ
“เออ...งั้นกูไปนอนละ มึงไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า” โห...อารมณ์ไหนเนี่ย วันนี้เซนงอนครับ
“แหม...งอนเป็นแฟนพี่กันไปได้นะเซนนะ มา โอ๋ๆ เดี๋ยวพ่อจะเล่าให้ฟังนะลูกนะ อย่างอนๆ
ผู้ชายงอนมันไม่งามนะลูก พ่อจะบอกไว้” เซนมันรีบเอามือผมออกจากคอมันครับ
“ริท มึงอย่าร่ำไร จะเล่าก็เล่ามา นี่เดี๋ยวนี้ลามปามนะ ใครบอกว่ามึงเป็นพ่อกู เดี๋ยวกูขอตังค์เลยนี่
สรุปว่าไง เจอใครพ่นพิษใส่อีกล่ะมึง ชอบกวนตีนเขานัก” โอโห...สรุปกูจะได้เล่ามั้ยเนี่ย
ดูพูดออกมาแต่ละคำ ไม่ได้ดูหน้าเพื่อนเลย หน้าอย่างผมเนี่ยนะจะไปกวนตีนใคร คุณเซน
แต่ถ้าคนกวนตีนผมก่อน ผมก็ไม่ปล่อยให้รอดไปได้หรอกครับ
“เอาสั้นๆ ง่ายๆ กูไปสมัครมาแล้วนะชมรมดนตรีของพี่โฉดน่ะ” ไอ้เซนทำตาเป็นประกาย
นี่มันจะดูมีความสุขสมหวังอะไรขนาดนั้นวะ
“แล้วไงมึง เจอพี่เขามั้ยละ พี่โน่อ่ะ ” เอ๋...เพื่อนเซนทำเพื่อนริทแปลกใจอีกแล้วครับ
“พี่โน่...เออ กูเจอ แล้วมึงรู้จักหรอ เรียกซะสนิท ” เซนมันทำท่าอึกๆ อักๆ ผมว่างานนี้เซนมีเอี่ยวแน่
“อ๊าว มึงก็เรียกเค้าว่าพี่โน่ บางทีกูก็เห็นมึงเรียกว่าพี่โฉด สนิทกับพี่เค้านักหรือไง” โห...มันเอาคืนครับ
เจ็บปวด เซนให้ข้อมูลใหม่กับผมมาว่า
“แล้วมึงรู้มั้ยว่าพี่เค้าเป็นประธานชมรมดนตรี” นมแทบจะพุ่งออกมาจากปากเมื่อได้ฟัง
“เฮ้ย...ประธานชมรมหรอ หน้าอย่างไอ้พี่โฉดนะหรอ หน้าไม่ให้เลยว่ะ มึงอำกูเปล่าวะเนี่ย”
ไอ้เซนเกาหัวก่อนตอบ “เปล่า เรื่องจริงนี่มึงไม่รู้เลยหรอ ว่าพี่แกเป็นประธานชมรมแล้วยังมีวง
ที่ตั้งขี้นมาเฉพาะกิจด้วยนะ มีพี่โน่ พี่กัน พี่เก่ง มึงไปมุดอยู่ไหนเนี่ย ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
พูดมาซะเหมือนตัวเองเป็นคนวงในเลยนะเซน
“จริงดิ่ เซนมึงรู้ได้ไงเนี่ย .... อ๋อ...รู้และ พี่กันก็อยู่วงนี้ มึงก็เลยรู้ดีล่ะสิ ใช่มั้ยๆ บอกเค้ามานะตัวเอง”
ไอ้เซนไม่สนใจที่ผมเล่นปัญญาอ่อนกับมันเลยครับ
“เอาความจริงเลยแล้วกัน กูขี้เกียจแก้ตัว คือว่ากูก็เคยเจอพี่เค้า ...ครั้งสองครั้งน่ะ
พอดีพี่เขาอยู่กลุ่มเดียวกันกับพี่กัน ก็เลยได้เจอบ้าง แต่ไม่ได้สนิทอะไรหรอกนะ”
แหม ออกตัวเชียวนะ รู้จักกันมาก่อนก็ไม่บอก เดี๋ยวแม่จะงอนไม่มีวันหายเลยเหอะ
“เซน มึงหักหลังกู” ผมพูดพร้อมทำท่าเสียใจ แต่ไอ้เซนมันก็ดูออกอยู่ดีว่าผมไม่ได้โกรธมันจริงจัง
“แหม มึงไม่ต้องมาทำดราม่าเลย กูรู้จักพี่เค้าแต่มึงเป็นเพื่อนรักกูนะเว้ย กูอยู่ข้างมึง”
เซนพูดทำเอาผมซึ้ง แต่กูเห็นนิ้วชี้กับนิ้วกลางไขว้กันอยู่ข้างหลัง โทษทีว่ะเซน เอ็งไม่เนียนพอ
“เออ ก็ลองมึงอยู่ข้างนู้นสิ กูเลิกสนับสนุนพี่กันแน่ คนอะไรเพื่อนดีๆ มีให้คบไม่คบ
ดันไปคบกับคนกวนตีน พี่กันแสนดีขนาดนั้นทนคบได้ยังไงวะ กูล่ะงงจริงๆ
แล้วมึงอ่ะไม่ต้องมากบฏใส่กูเลย ไขว้นิ้วซะขนาดนั้น มึงบอกมาเลยดีกว่าว่ามึงอ่ะมีเอี่ยวกับไอ้พี่โน่”
เซนหัวเราะติดตลกก่อนจะบอกว่า
“ที่กูได้ยินมาพี่โน่เค้าก็ไม่ได้แย่นะมึง มึงก็ลองคุยกับเขาดีๆ สิ ไม่แน่นะงานนี้มึงอาจจะเจอเนื้อคู่ก็ได้”
ไอ้ริทเดินเข้ามาจนหน้าเกือบจะชนหน้าผม
“มึง รู้จักไหม กูใคร เรืองฤทธิ์ ระดับเรืองฤทธิ์ ไม่ควงผู้ชายให้เป็นขี้ปากหรอกเว้ย
ระดับนี้แล้วต้องสาว สวย หมวก เอ็กซ์ เท่านั้นเว้ย อีกอย่างมึงอย่าพูดเหมือนพี่เค้าแสนดีได้เปล่า
กูนึกภาพไม่ออกว่ะ” แล้วก็ไม่อยากนึกด้วย
ไอ้เซนรีบตัดบทผมเลยครับ “เออ กูง่วงและไปนอนก่อน พรุ่งนี้มีทำรายงานแต่เช้า
ของมึงอ่ะ เสร็จยัง” ผมยิ้มแต้แทนคำตอบก่อนจะพูดเสริมว่า “ของกูเสร็จตั้งแต่ยังไม่ได้ทำครับเพื่อนเซน
ระดับนี้แล้ว ชิวล์ๆ เสียดายว่ะเราน่าจะได้อยู่กลุ่มเดียวกัน” เซนเอ่ยต่อ “ก็นั่นน่ะสิ อาจารย์จัดกลุ่มให้
คงกลัวว่าพวกเราจะทำงานสบายเกินมั้ง อยู่ด้วยกัน สนิทกัน จารย์จับแยกกลุ่มหมด เซ็งเลย เออๆ
กูไปนอนละ มึงก็รีบนอนล่ะ อย่าไปคิดอะไรมาก ” ริทมองไปทางเซนพร้อมทำท่าคิ้วผูกโบว์
มันจะให้กูคิดมากเรื่องอะไรวะเนี่ย
ความคิดเห็น