คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8
“เก่ง มึงขึ้นเวรเปล่าวะวันนี้ มาดื่มฉลองกับกูหน่อย เออ...ให้ไวนะมึง ไอ้กันมาแล้ว
รอมึงนี่แหล่ะ เออ...เดี๋ยวกูเล่าทีเดียว เออ..แล้วเจอกัน” นี่แหล่ะครับพวกผม
ว่างเมื่อไหร่ก็นั่งชิลด์ๆ กัน ไอ้เก่งเนี่ยไม่ค่อยได้มาชิลด์เท่าไหร่เข้าใจครับว่ามันเรียนหนัก
แต่ถ้าว่างก็ไม่เคยเห็นมันปฏิเสธเพื่อนซักทีต้องอย่างนี้ซิครับ
“โห มึงรอกูหลับแล้วค่อยมาเลยมั้ยเก่ง” กว่ามันจะหอบเอาตัวขาวๆ วิ้งๆของมันมาได้
พวกผมก็ดูหนังเกือบจบเรื่อง
“มึงหุบปากเลย กูซื้อของมาให้พวกมึงแดกเนี่ยแหล่ะ มาช้ายังดีกว่าไม่มานะมึง
เห็นว่าประเด็นนี้คงคุยกันอีกยาว เลยหาซื้ออะไรมาให้พวกมึงกินรองท้องด้วย
เดี๋ยวกระเพาะพวกมึงจะทะลุเอา แดกแต่เหล้าเพียวๆ”
อ๊าว ไอ้นี้ ดูถูกกูนะเนี่ย “ไอ้กัน ดูคุณหมอสิครับ มันดูถูกพวกเราเห็นๆ เซียนขนาดนี้
โรคกระเพาะไม่กล้ามาหาหรอก ดูคอพวกกูก่อน ทองแดงขนาดนี้ กระเพาะก็เคลือบสังกะสี
มึงไม่ต้องห่วงหรอกเก่ง” พวกผมไม่ได้โม้นะครับ
“แล้วสรุปมึงมีไร เล่ามาเลย กูเริ่มง่วงแล้วนะเนี่ย พรุ่งนี้กูจะไปรับน้องเซนด้วย
รีบๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูโทรม มึงรับผิดชอบกูเลยนะไอ้โน่” แหมดูมันพูด ระดับกันเนี่ย
คงไม่โทรมจนดำไปกว่านี้แล้วมั้ง
“แหม เพื่อนกันตั้งแต่มีความรักกับน้องเซนเนี่ย อนามัยนะมึง แล้วเป็นไงดีมั้ยล่ะความรักมึงอ่ะ ”
ต้องให้มันอัพเดตบ้างครับ ไอ้พวกนี้เรื่องของผมมันรู้ทุกเรื่อง เรื่องของตัวเองเงียบ
“เออ ของกูเป็นไปอย่างราบเรียบโว๊ย กูไม่อยากโฉด ไม่อยากกาก ไม่อยากโลดโผนเหมือนมึงหรอก
มึงรีบๆ เล่ามาเลย กูอยากรู้” สรุปกันมันรีบหรือว่ามันรนอยากรู้เรื่องวะเนี่ย
“น้องริทมาสมัครเข้าชมรมกูแล้วนะเว้ย มาแบบพายุอ่ะมึง สงสัยจะเครียดหนักเรื่องที่กูไปกวนตีนน้องเขา
เดินหน้าเอาเรื่องเข้ามาในชมรมเลยมึง ดีนะกูดูดี เลยรอบรับอารมณ์ของน้องไว้ได้ด้วยหน้าหล่อๆ อย่างกู”
แล้วกันก็เอ่ยประโยคที่ทำให้ผมรักมันมากครับ “กูว่าน้องแม่ง ตกหลุมมึงแล้วว่ะ
เดินเข้าหาซะตามแผนมึงเลย”
ยังดีใจที่ไอ้กันพูดไม่เท่าไหร่ ไอ้เก่งก็เถียงแทนน้องเลย
“มึงพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะกัน น้องริทนะฤทธิ์เยอะนะมึง ไม่ง่ายอย่างที่มึงเจอมาหรอกไอ้โน่ มึงคอยดู ”
กูจะรับฟังไว้แล้วกันนะเก่ง
“มึงพูดอย่างกับมึงรู้จักน้องดีอย่างงั้นแหล่ะ เคลียร์ตัวเองด้วยนะเว้ยเก่ง” ไม่งั้นงานนี้มีเคลียร์แน่ๆ
“เออๆ ไอ้นี่หวงอย่างกับน้องเค้าตอบตกลงคบมึงแล้วอย่างงั้น กูก็แค่รู้จัก รู้จักเค้าแต่เค้าไม่รู้จักกูหรอก
เพื่อนกูมันชอบก็เลยตามจีบ แต่ก็แห้วว่ะ” ภาคินหัวเราะ
“ก็แน่ล่ะสิ น้องอ่ะของของกู ใครเข้ามาก็ชวดทั้งนั้นแหล่ะ เพราะว่าฟ้าเค้าประธานมาให้กูเว้ย”
เริ่มดึกความคึกก็เริ่มมา เสียงก็เริ่มดังขึ้นครับ
“เน่าไปมั้ยวะโน่ แล้วมึงจะเอาไงต่อ เออ กูคิดออกแล้ว น้องมาสมัครเข้าชมรมมึงลองชวนน้องเข้าวงดิ่...
สมาชิกตอนนี้ก็กำลังขาดพอดีด้วยมึงจะได้เห็นหน้าน้องเค้าทุกวันไง” ไอ้เก่งแนะนำ ถึงแม้ว่ามันจะหา
ข้อโต้แย้งมาบอกผม แต่ว่าอย่างน้อยมันก็มีความคิดที่เข้าท่ามากๆ น่าสนใจๆ
“ถึงน้องไม่อยู่ในวง กูก็เห็นหน้าน้องเค้าได้เว้ย แต่สิ่งที่กูกลัวก็คือ ขนาดน้องยังไม่ได้เข้าวง
ยังไม่ได้เล่นละครน้องยังดังขนาดนี้ กูชักจะไม่อยากให้เขาทำอะไรแล้วว่ะ แค่คิดก็รู้สึกหวงแล้วก็ห่วง”
ถุ้ย ...เสียงสบถดังออกมาจากปากเพื่อนทั้งสองคน แหม พวกมึงไม่มีใครเข้าใจกูหรอก
“ก็กูหวงของกูนี่นา”
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“น้องครับสมัครเข้าชมรมแล้วไม่ยอมเข้าชมรมเนี่ย ระวังนะครับ
คะแนนกิจกรรมจะไม่ผ่านได้ง่ายๆ เอ ...หรือว่าความจริงแล้วแอบกลัวอะไรอยู่หรือเปล่าครับ
ถึงได้ไม่กล้าเข้าชมรม”
เสียงที่ลอยมาตามลม ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วล่ะครับว่าเป็นใคร พักนี้ไอ้พี่โฉด วนเวียนมาอยู่ใกล้ๆ
ผมตลอดเวลา เหมือนสัมพเวสี ที่ไม่มีใครเขาอยากให้ไปเกิด วันๆ ก็มาคอยกวนประสาทผม
“ชมรมนี้เนี่ย วันๆ ประธานชมรมเขาคงไม่ต้องทำอะไรสินะ ถึงได้เอาเวลามาก่อกวนคนอื่นเค้าได้
อย่างนี้น่าจะยุบๆ ไปซะ เสียดายเงินสนับสนุนของมหาลัยจริงๆ”
เหน็บผมมาได้ผมก็เอาคืนได้เหมือนกันนั่นแหล่ะครับ
“แหม ก็ถ้าสมาชิกชมรมไม่ครบแบบนี้ จะเริ่มได้ยังไงล่ะครับ เนี่ย คิดดูแล้วกันว่าสมาชิกคนอื่น
เค้ารอน้องเตี้ยคนเดียวนะ ” คำก็เตี้ย สองคำก็เตี้ย ไอ้พี่สูงชะลูดเอ๊ย
“นี่ พี่ครับ ขาดผมสักคนชมรมพี่จะง่อยเปลี้ยขนาดทำงานไม่ได้เลยหรอครับ ผมก็แค่สมาชิกคนนึง
ไม่ใช่ประธานชมรมที่จะได้สลักสำคัญอะไรนะ แล้วที่สำคัญเลิกเรียกผมว่าเตี้ยได้แล้ว
ใครมันจะสูงเป็นเปรตเหมือนพี่สูงชะลูดล่ะครับ”
พี่โฉดทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ผม “ ใครว่าล่ะ น้องริทเนี่ยล่ะเป็นกำลังใจหลักของประธานชมรมเลยนะ
ถ้าขาดน้องเตี้ย เอ้ย น้องริทไปเนี่ย หัวใจประธานคงหยุดเต้น งานก็ไม่เดิน เนี่ยแหล่ะนะ
คนเขาไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม สมาชิกคนอื่นเค้าก็ต้องเดือดร้อนกันหมด ”
ยิ่งฟังก็ยิ่งฉุน ทำไมคนเราถึงกวนได้ขนาดนี้นะ
“โว๊ยยย พอแล้ว หยุดพูดได้แล้ว ฉันจะไปเข้าชมรมพรุ่งนี้ พอใจรึยังล่ะ แล้วก็อยู่ห่างๆ ฉันไว้ด้วย
ตอนนี้กำลังโมโห อาจจะชกหน้าใครได้โดยไม่รู้ตัว” โอโหของเค้าแรงจริง
“ชะอุ่ย แหมๆ ใจเย็นๆ นะครับ น้องริท เป็นแฟนประธานชมรมก็ต้องอดทนอย่างนี้แหล่ะ ” มันยังไม่หยุดครับ
“อยากให้ฉันลาออกมั้ย” ขู่ครับ น้องขู่ผม แต่ผมก็ไม่กล้าเสี่ยงเหมือนกัน
“อะ อะ งั้นพี่ไม่กวนน้องริทแล้ว เดี๋ยวเจอกันตอนเย็น อย่าลืมเข้าชมรมนะครับเพื่อนๆ แล้วก็พี่โตโน่รออยู่
” โอ๊ยกว่าจะไปได้ ผมไม่น่าเสนอตัวไปเข้าชมรมของคนเพี้ยนพรรค์นี้เลยเหอะ ทำเก่งไปงานเข้าแล้วไงล่ะ
ตอนนี้ ใครๆ ก็พากันเข้าใจว่าผมเนี่ยเป็นคนที่ไอ้พี่โตโน่มันตามจีบอยู่ แล้วก็อย่าหวังเลยว่าใครจะกล้า
ขัดคำสั่งของไอ้พี่โตโน่ได้ ของเค้าแรงจริง
วันก่อนผมกำลังเข้าคิวซื้อข้าวอยู่ที่โรงอาหาร มีคนมาแซงคิวผม แล้วอยู่ในระยะที่เจ้าพ่อมันมองเห็น
งานนี้ก็เลยเป็นเรื่อง ตอนแรกผมก็จะปล่อยผ่านไป แต่นี่ แซงคิวตอนซื้อน้ำแล้วยังตอนซื้อข้าวอีก
งานนี้ผมก็มีน้ำโหเหมือนกันนะครับ แต่งานนี้ไม่ต้องถึงมือผมเลย ไอ้หนุ่มขี้แซง กองลงไปอยู่ที่พื้น
โดยที่ผมยังไม่ได้แตะตัวมันสักแอะเดียว อยู่ๆ เจ้าพ่อแกก็เข้ามากระชากคอเสื้อ
แล้วก็ผลักไอ้ขี้แซงลงไปที่พื้น โอโห...โคตรแมน แต่จะแมนกว่านี้มั้ย ถ้าผมเป็นคนอัดมันลงไปเอง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้ผมดูเป็นผู้ชายแหยๆ ถึงขนาดที่ต้องมีเจ้าพ่อมาคอยคุมยังไงก็ไม่รู้
เสียเครดิตต่อหน้าสาวๆ แบบนี้ ผมก็อายเป็นเหมือนกันนะครับ ก็เลยต่อว่าไปชุดใหญ่เลย
คนอะไรทำตัวเป็นนักเลง คิดว่าใหญ่มาจากไหนเชียว แม้ว่าจะรู้ว่าเขาห่วงใยแล้วก็ใส่ใจเราดี
แต่บางทีผมก็อยากแมนบ้างอะไรบ้าง
หลังจากที่ผมประชุมเกี่ยวกับการแสดง แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องเข้าชมรมดนตรีด้วย
งานนี้มีวิ่งครับ เดี๋ยวไปช้าเจอไอ้พี่โน่แขวะอีก พอถึงตึก ผมก็เดินเข้าไป เห็นสมาชิกในชมรม
นั่งกันเต็มห้อง เป็นผู้หญิงไปกว่าครึ่งห้อง เอ...นี่มันชมรมดนตรีจริงหรือเปล่าเนี่ย
เลยลองเดินไปดูประตูทางเข้าห้องชมรม
“ชมรมดนตรี”
เอ...ก็ถูกห้องแล้วนี่นา เปิดเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้สมาชิกมองผมตาแป๋วทีเดียว
แล้วพอมองไปหน้าห้องก็เจอสายตาของไอ้พี่โฉด วันนี้ทำไมมันออกแนวซีเรียสจังวะ
“สวัสดีครับทุกคน ขอโทษที่มาช้าครับ” ความรู้สึกผิดท่วมท้นที่ใจผมเลยครับ
ดูเหมือนทุกคนจะหน้าตาซีเรียสจริงจัง แต่ประเด็นที่ผู้หญิงในชมรมดนตรีเยอะขนาดนี้
มันก็ยังทำให้ผมข้องใจไม่หายอยู่ดี ถึงมันจะทำให้ผมกระชุ่มกระชวย แต่ก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้
ตอนนี้สายตาทุกคนมองมาที่ผม ประหนึ่งว่าผมมาไม่ทันออกรบ ทำให้ทุกอย่างที่เตรียมการไว้เป็นอันพัง
“ทุกคนตามสบายนะ” เสียงประธานชมรมเอ่ยขึ้น เสียงเจี้ยวจ๊าวก็ดังขึ้น
เสมือนว่าคลื่นความเครียดเมื่อสักครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมก็ได้แต่ยืนงง
มองประธานชมรมหัวเราะ นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย
“น้องริทครับ เชิญนั่งที่เก้าอี้ตัวนี้เลยครับ” พี่กัน เรียกผมไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ ไอ้ท่านประธาน
“เอ่อ ความจริงผมว่านั่งฟังตรงนี้ก็ดีนะครับ ไม่ต้องเบียดคนอื่นเข้าไป เกรงใจเขาเปล่าๆ ฮะพี่กัน
ไม่เป็นไรฮะ” อย่างน้อยผมก็ไม่ควรแสดงกิริยาก้าวร้าวต่อหน้าพี่กัน เพราะว่าพี่เค้าก็เป็นสุภาพบุรุษ
กับผมเหลือเกิน ไม่เหมือนคนบางคน
“มาเถอะน้องริท เอ้า รับป้ายชื่อไป จะได้รู้จักกันไว้” พี่เก่ง ชื่อที่ผมอ่านจากป้ายที่ห้อยลงมาจากคอพี่เค้า
ว่าแต่ว่า แล้วทำไมชื่อของผมถึงกลายเป็น “น้องเตี้ย” ไปได้ล่ะครับเนี่ย โอ๊ย เล่นกับผมแรงไปแล้วนะเนี่ย
“คือว่าพี่เก่งฮะ ผมชื่อริทฮะ ป้ายนี้คงไม่ใช่ของผมหรอกครับ ผิดคนแล้ว” ผมคืนป้ายให้พี่เก่งกลับไป
ใครจะไปยอมรับเล่าว่าตัวเองเตี้ย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตามเถอะ ระหว่างที่ผมพูดอยู่ก็ค่อยๆ
ก้าวเข้ามานั่งข้างๆ ประธานที่ด้านใน ความจริงก็ไม่ได้อยากนั่งนักหรอกนะ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เกรงใจคนอื่นเขา
มาช้าแล้วยังจะเรื่องมากอีก “เดี๋ยวเชิญน้องเตี้ยนั่งลงก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่จะจัดการเรื่องเปลี่ยนชื่อให้
ว่าแต่จะนั่งตรงไหนดีล่ะ ตรงนี้ หรือว่าตรงนี้” มันเดินมากระซิบผมพร้อมกับลากเก้าอี้ออกให้
แถมยังชี้ที่เก้าอี้ตัวเองแล้วก็ชี้ที่หน้าอกตัวเองอีก เสี่ยวซะไม่มี แล้วดูการกระทำสิ ลากเก้าอี้ออกมาให้
นี่ผมเนี่ยแมนนะครับ ไม่ใช่สุภาพสตรีถึงต้องมาคอยบริการลากเก้าอี้เข้า - ออกให้ตลอด เสียลุคหมดพอดี
ความคิดเห็น