ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ+SJ] A Cat's Lover...แฟนผมเป็นแมว♥ :: yunjae&woncin

    ลำดับตอนที่ #9 : :: 7 ก็แค่อิจฉา (100.102 %)

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 53


    { 7 }

    ก็แค่อิจฉา

     

    แจจุงทนไม่ไหวอีกต่อไป พอตีเนียนคุยกับกาอินได้นิดเดียวยุนโฮก็เข้ามาร่วมวงด้วย ซ้ำร้ายหมีวัดยังส่งสายตาที่บอกว่าไม่มีทาง!’ มาให้ เห็นแล้วยิ่งลมออกหู มันไม่พอใจ ไม่พอใจมาก ๆ จนรู้สึกแปลก กาอินก็สวย แต่ไม่ได้ตรงสเป็คขนาดนั้น แต่บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกอยากชิงดีชิงเด่นก็ได้ หรือไม่ก็ไม่อยากให้ยุนโฮได้งาบ ๆ คนสวยไป

     

    คุณแจจุงนี่คุยเก่งจังนะคะกาอินทักขึ้นด้วยเสียงที่หมายความแบบนั้นจริง ๆ แจจุงยิ้มรับแล้วหันไปยักคิ้วใส่ยุนโฮท่าทางจะสนิทกับคุณยุนโฮด้วย นี่คุณแจจุงทำงานที่ไหนเหรอคะ?”

     

    คุณแจจุงโดนทักแบบนั้นถึงกับสะดุ้ง กูเนี่ยนะสนิทกับยุนโฮ แต่พอหะนไปมองใบหน้าที่ไม่รู้เรื่องของกาอินก็ต้องจำใจปั้นเรื่องโกหกตอบไปอย่างรวดเร็วเท่าที่สมองจะสั่งการได้

     

    ก็ ... เป็นพวกพนักงานน่ะครับ แล้วก็บ้านอยู่ใกล้ ๆ กับยุนโฮเลยสนิทกันรอยยิ้มกลวง ๆ ที่ออกไปทางบู้บี้หน่อย ๆ ทำให้ยุนโฮแอบเตะแจจุงใต้โต๊ะ ร่างบางหันไปขมวดคิ้วใส่ แล้วก็ได้รับการแลบลิ้นตอบกลับมา แจจุงเห็นแบบนั้นยิ่งปรี๊ด อยากจะเอาอาหารบนโต๊ะเทราดหมีเสียจริง ๆยุนโฮนะครับ อยู่ที่บ้านชอบทำอะไรแปลก ๆ เยอะแยะเลย สงสัยเพราะเป็นนักเขียนมากเกินไป บางทีก็ปีนต้นไม้เล่นบ้าง ทะเลาะกับแมวบ้าง แปลกนะครับ

     

    ข้อกล่าวหาที่คิดได้สดใหม่ทำเอาคนแปลกสะดุ้งโหยง กาอินขำออกมาเล็กน้อยเพราะท่าทางยุนโฮดูตกใจจริง ๆ ที่เธอบอกว่าดูสนิทกันก็เพราะว่าทั้งสองคนดูทะเลาะกันตลอด ..แต่มันก็ดูอบอุ่นดีเวลาที่ยุนโฮเถียงแจจุงไม่ขึ้น สองคนนี้จะรู้ตัวมั้ยว่าเวลาคุยกับเธอ เหมือนคุยกันเองน่ะ

     

    ก็คุณยุนโฮเป็นคนมีจินตนาการนี่คะแล้วก็อัจฉริยะกับคนบ้าห่างกันนิดเดียว อุ๊ย ..ขอโทษทีค่ะกาอินเผลอไปหน่อยเลยต้องรีบขอโทษ ยุนโฮหัวเราะแห้ง ๆ แล้วถลึงตามองแจจุงอย่างเจ็บปวดใจที่ตัวเองกลายเป็นคนพิลึกไปแล้วในสายตาคุณกาอิน

     

    ไม่เป็นไรหรอกครับยุนโฮกู้หน้าไม่กลับแล้ว แต่ก่อนที่จะได้ไปไหนกันมากกว่านั้น ร่างสูงโย่งของใครบางคนก็เดินมานั่งข้างแจจุงแล้วเอามือพาดไหล่คนสวยราวกับสนิทกันมาสามร้อยชาติ ยุนโฮมองตามมือไปและพบว่าคนสูงโย่งที่มานั่งข้างๆคือเด็กประหลาดที่กำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างในปากกร้วมๆ ใบหน้าคมฉายแววเคลิบเคลิ้มกับรสชาติอาหารสุดเลิศในปากที่บรรยายสิบชาติก็ไม่หมด

     

    คิมแจจุงล่ะชักจะเอียน

     

    สนิทกะกูไหม....ก็เปล่า

     

    แต่ดันมาวางมือหน้าตาเฉยแบบนี้.....

     

    เดี๋ยวแม่งถีบ !!!

     

    คุยไรกันเหรอฮะ ท่าทางน่าสนุกไอ้คำว่าน่าสนุกของชางมินดูไม่น่าไว้ใจเลยแม้ซักนิด แจจุงทำหน้าเซ็งแล้วสะกิดให้แขนของไอ้เด็กโย่งให้ออกไป ยุนโฮก็กระพริบตามองท่าทางของใครไม่รู้ที่ท่าทางจะสนิทกับแจจุงมาก ชางมินหยิบของในจานขึ้นมากินอีกหนึ่งชิ้นคุณกาอินนี่สวยจังเลยฮะ

     

    ขอบ...ขอบคุณค่ะกาอินแอบสะดุดกับมุกหยอดของชางมิน แจจุงจิ้มเนื้อแขนลงไปเต็ม ๆ แต่พ่อหนุ่มนักกินก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนคุณชางมิน อาหารอร่อยนะคะ

     

    แน่นอนครับ รสชาติเยี่ยมชางมินยิ้มรับหน้าบานแล้วผลักจานเปล่าออกไปจากตัว แล้วชั่ววินาทีที่แจจุงไม่ทันดู จานอีกจานที่เต็มไปด้วยอาหารก็โผล่ขึ้นมา ..จากความว่างเปล่า?”อาหารที่นี่อร่อยจริง ๆ นะฮะ

     

    คุณเป็นใครน่ะ?”ยุนโฮถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัยอย่างหนักว่าคน ๆ นี้เป็นใคร แต่เขารู้สึกว่าไม่ชอบให้มาตรงนี้เลย หรือว่าเพราะชางมินชมกาอินว่าสวยนะ? ร่างสูงโย่งทำสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ถูกกลบหายไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มกวนประสาทโผล่ขึ้นใบหน้าหล่อ ๆ แล้วแขนที่โอบแจจุงไว้ก็รัดแน่นขึ้นไปอีก

     

    ชิมชางมินครับผมแม้แต่พูดก็ยังไม่ละเว้นการกินเพื่อนสนิทมาก ๆ ของแจจุงครับ

     

    อะไรของนายน่ะชางมิน !!”แจจุงแว๊ดใส่แล้วตีอีกฝ่ายไปหนึ่งทีแรง ๆ ยุนโฮมองภาพนั้นแล้วรู้สึกคลางแคลงใจ .. มันรู้สึกแปลก ๆ แฮะเอามือของนายออกไป๊

     

    ชางมินทำเฉยแล้วหยิบอีกชิ้นเข้าปาก ร่างบางฟาดหนัก ๆ อีกทีด้วยความหงุดหงิดใจ สุดท้ายก็ตัดปัญหาด้วยการลุกขึ้น ทำให้ชางมินต้องลุกตามไปด้วย คนสวยขี้รำคาญหันมาโค้งลาผู้หญิงหนึ่งเดียวในโต๊ะ

     

    ผมขอไปก่อนนะครับแจจุงยิ้มให้แล้วสะบัดหน้าใส่ยุนโฮอย่างจงใจ ชางมินก็รีบโค้งลากาอินแล้วเกาะไหล่แจจุงตามไปด้วย ร่างเล็กหันมาโวยใส่อย่างหงุดหงิดใจที่โดนชางมินตามกวนประสาทไม่หยุดหย่อน ยุนโฮมองตามไปอย่างไม่รู้สึกตัว จนอีกทีที่กาอินเรียกเสียงเขาดัง ๆ นั่นแหล่ะ

     

    คุณยุนโฮคะ!! คุณยุนโฮ!!”

     

    หะ...หา ..ครับยุนโฮพยักหน้ารีบเอ๋อ ๆ และหันซ้ายขวาเหมือนคนเมา กาอินยิ้มเล็กน้อยแล้วมองตามแจจุงกับชางมินที่เดินออกไปแล้ว

     

    น่ารักดีนะคะ

     

    อะ...เอ่อ...ครับทำไมไม่รู้นะ แต่ยุนโฮอยากตอบว่าไม่จัง

     

     

    ฮีชอลเดินออกมาจากงานแล้ว แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องแล้วโดยที่ไม่มีใครเดินมาเป็นเพื่อน รู้สึกเหงาแปลก ๆ ที่ไม่มีซีวอนมาคอยเดินอยู่ข้าง ๆ ความรู้สึกแบบนี้เขาได้แต่สรุปว่าตัวเองอาจจะบ้าไปแล้วก็เป็นได้ที่คิดอะไรเพี้ยน ๆ แบบนี้ ฮีชอลนั่งลงที่หินใหญ่ก้อนหนึ่ง ลมหนาวของยามค่ำคืนพัดมาปะทะใบหน้าจนต้องกอดตัวเองแน่น

     

    คิดถึงชีวิตแบบเมื่อก่อนเหมือนกัน ...

     

    ทำไมต้องเศร้าขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ ทำไมต้องรู้สึกไม่ดีที่ซีวอนไปดูแลคนอื่น คำตอบมีอยู่ แต่เขาแค่ไม่อยากยอมรับ บางทีทุกอย่างอาจจะเป็นแค่ความหวั่นไหว หรือความอิจฉา หรือจะเป็นอะไรก็ได้ เขาไม่เคยเข้าใจตัวเองจริง ๆ เสียที ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

     

    ....บางทีเขาอาจจะใจอ่อนมากไปหน่อย

     

    เสียงคนเดินกันเข้ามาใกล้จนฮีชอลต้องยืดคอมอง ก็เห็นเป็นนาร์ชากับซีวอนเดินออกมาด้วยกันที่ทางเข้าห้องอาหาร ฮีชอลเลยหลบอยู่หลังต้นไม้เพื่อให้มิดชิด รอยยิ้มขมขื่นผุดขึ้นที่มุมปากก่อนที่เจ้าตัวจะส่ายหัวเพื่อลบความรู้สึกบ้า ๆ ในใจออกไป เขาไม่ได้หึง ไม่ได้หวง ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น ..

     

    เขาไม่กล้าพูดว่ามันคือความรู้สึกรัก ... หรือชอบ

     

    มันอาจจะแค่หวั่นไหวก็ได้ ...

     

    ได้ยินเสียงซีวอนบอกลานาร์ชา แล้วก็เดินไป ร่างบางยิ่งไถลตัวหลบมากขึ้น อยากอยู่เงียบ ๆ บางทีก็ไม่ต้องกลับห้อง นอนมันตรงนี้นี่แหล่ะ ... ร่างบางหลับตา หวังว่าความรู้สึกหดหู่ในใจจะคลายลงไปบ้าง แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา พื้นที่ส่วนตัวก็ถูกบุกรุกด้วยคนหน้าเดิม ๆ

     

    เป็นอะไรน่ะที่รัก ..ไหงมานอนตรงนี้?”คำว่าที่รักทำให้รู้สึกแปลก ๆ ยังไงชอบกลอยู่ ถ้าคำนี้มันพูดได้ง่ายในเวลาอันสั้นขนาดนั้น ..มันจะไร้ความจริงใจแค่ไหนนะ? ฮีชอลลืมตาขึ้นมามองซีวอนนิ่ง พบกับรอยยิ้มเดิม ๆ ที่ทำให้ให้หัวใจอ่อนยวบไม่หนาวเหรอน้ำเสียงห่วงใยที่ถูกส่งมาทำให้ใจดวงน้อยวูบไหว จากที่หวั่นไหว ..ก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก ฮีชอลซ่อนใบหน้านั้นจากการมองเห็นของซีวอนแล้วส่ายหัวอยากนอนแล้วเหรอ ..กลับห้องกัน

     

    ฮีชอลยังคงส่ายหัว ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจประดังเข้ามาจนเละเทะไปหมด ร่างบางหยัดกายขึ้นมาแล้วทำท่าจะเดินออกไปโดยทิ้งบรรยากาศอึมครึมไว้เบื้องหลัง แต่มือของคนปากหวานอย่างซีวอนก็ตามมาเสียก่อน ฉุดรั้งให้ฮีชอลนิ่งอยู่กับที่ ร่างเล็กถอนหายใจแล้วหันกลับมายิ้มให้เหมือนไม่ได้คิดอะไรมากมาย

     

    เป็นอะไรน่ะฮีชอล อารมณ์ไม่ดีเหรอซีวอนตามมารั้งตัวคนสวยไว้ ดูแปลกไป ..เหมือนงอนเขาเลยงอนอะไรผมน่ะ?”

     

    ไม่ได้งอนฮีชอลตอบด้วยคำที่ดูยังไงมันก็งอนชัด ๆ เลยกลับลำใหม่หลังจากหยุดไปได้สองวินาทีเออ...งอน

     

    ยอมรับง่ายจังคำนี้ทำให้ซีวอนยิ้มแก้มปริ ไม่เคยเจอใครเลยที่ยอมรับได้ง่ายแบบนี้ น่ารักดีแล้วชอบง้อแบบไหน

     

    ฮีชอลหันกลับมาแล้วเจอกับสายตาคู่นั้นก็นิ่งไป แก้มใสแดงขึ้นจนเห็นได้ในความมืด ซีวอนดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้ แต่ฮีชอลก็ขืนตัวเอาไว้ ไม่อยากจะใจอ่อนไปมากกว่านี้แล้ว ..ใจยิ่งเต้นแรงขึ้นจนน่ากลัว

     

    ก็ ..ไม่รู้ ก็วันนี้ไม่มีใครคอยอุ้ม ไม่ชอบตอบปัด ๆ ไปแล้วดึงมือออกหายงอนแล้ว พอแล้ว

     

    น่ารักนะซีวอนกระซิบเบา ๆ แล้วออกแรงดึงร่างเล็กให้เดินตามไปด้วยกันในความมืด ฮีชอลเองก็เดินตามไปด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ ก็ดีที่ไม่ได้เถียงอะไรกันไปมากกว่านี้ ไม่งั้นเขาอาจจะรู้สึกอะไรแปลก ๆ ...มากกว่านี้กินข้าวรึยังเนี่ย?”

     

    กินไปนิดเดียวฮีชอลตอบกลับไป ก็จริง เขากินอะไรไม่ค่อยลง แล้วก็ไม่หิวเท่าไหร่ด้วยซีวอน ... เฮ้ย

     

    คำอุทานหลุดออกมาเบา ๆ เมื่อหันหลังกลับไปแล้วพบว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้กว่าที่คิด ซีวอนชะโงกหน้าเข้ามาใกล้แล้วรวบมือทั้งสองข้างของฮีชอลไว้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้คนสวยหนีไปไหน ร่างบางหลับตา แล้วลืมตาอีกรอบด้วยความหวังว่ามันอาจจะเป็นแค่ฝัน แต่ไม่จริง ... ลมหายใจของอีกฝ่ายอยู่ใกล้นิดเดียว ...ใกล้จนน่ากลัว

     

    ไม่ร่าเริงเลย ..ฮีชอลเป็นอะไรคำพูดที่ดูเหมือนวิจารณ์นั่นหลุดออกมาพร้อมกับสายตาเป็นห่วงที่จริงใจ ร่างบางก็เก็บอาการไม่อยู่ มือไม้พานจะอ่อนแรงเอาเสียดื้อ ๆแปลกไปนะ...

     

    สังเกตด้วยเหรอนั่นไง นิสัยชอบต่อปากต่อคำของเขาเริ่มออกมาแล้ว ฮีชอลเชิดปากขึ้นแล้วจ้องอีกฝ่ายตาเขม็ง รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังสอบสวนซีวอนยังไงก็ไม่รู้ ร่างสูงเลิกคิ้วกับท่าทางที่น้อยครั้งนักจะได้เห็นของคนตัวเล็กปล่อยได้แล้ว อยากกลับไปนอน ง่วง

     

    โกหกออกไปคำโตเพราะนี่มันเพิ่งสองทุ่ม คนอย่างเขาไม่เคยอนามัยขนาดนี้ และท่าทางซีวอนก็รู้ทันเสียด้วย คนตัวสูงกว่าหัวเราะออกมาแล้วลากฮีชอลเข้าไปกอดเสียแน่น ฮีชอลดิ้น แต่ก็เลิกภายในสามวินาทีเพราะยังไงก็ไม่มีผล ความอบอุ่นในอากาศที่กำลังหนาวนิด ๆ แบบนี้เรียกให้เลือดวิ่งพล่านทั่วกาย

     

    รู้แล้วว่างอน ... ดีกันนะคนง้อก็ไม่รู้หรอกงอนเรื่องอะไร แต่ก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเหมือนกันว่าฮีชอลหึงเขา นิ้วก้อยถูกยื่นให้คนตรงหน้าเหมือนเด็ก ๆ ฮีชอลมองภาพนั้น ไล่ขึ้นไปยังใบหน้าเจ้าของที่ยิ้มเสียแก้มบุ๋ม ก่อนที่จะหันหลังหนีเอาเสียดื้อ ๆ

     

    ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอนมากขนาดนั้น

     

    แต่เขินนะเว้ย ..

     

    อ้าวคนง้อร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายวิ่งหนีเสียแบบนั้น จะวิ่งตามก็ไม่ทันเพราะคนวิ่งหนีหายไปแล้ว ใบหน้าแดง ๆ นั่น...พูดได้คำเดียวว่าเขินอยู่ และมันก็ทำให้เขาดีใจอยู่เหมือนกันที่ฮีชอล...หึง ร่างสูงกอดอกแล้วมองท้องฟ้าที่พร่าพรายไปด้วยแสงดาว อดคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่อไปไม่ได้

     

    แล้วถ้าฮีชอลกับแจจุงคืนร่างได้ ....

     

    บางทีสองคนนั้น ไม่บางทีหรอก แน่นอนว่าสองคนนั้นคงจะกลับไปอยู่บ้านของตัวเอง และแน่นอนว่าคงต้องห่างกันไป เขาทนได้ไหม .. อันที่จริงในทางเทคนิดก็ได้ เพราะความผูกพันยังเป็นแค่ด้ายเส้นบาง ๆ ระหว่างกัน บางทีสิ่งที่เขามีให้อาจจะเป็นแค่หลงรูป

     

    ก็ต้องรอดูไปก่อน

     

     

    ยุนโฮจัดการเดินไปส่งกาอินเรียบร้อย แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องตัวเอง ระหว่างทางก็เจอยูชอนกำลังเดินหาจุนซูที่ไม่รู้ไปว่ายน้ำที่ไหนรึเปล่า คุณประธานผู้ยิ่งยงเดินหัวฟู หน้าตายุ่งเหยิงตรงมาหา ..สาเหตุ เพราะเมียหาย ..ไปไหน ก็ไม่รู้

     

    เหี้ยห้อยยุนโฮ!!!”พูดปุ๊บก็ไม่ได้ดูตัวเองปั๊บ แถมยังตะโกนลั่นอีกถ้าพนักงานมาเห็นนี่..โคตรหมดศรัทธาเห็นเมียกูมั้ย!?!”

     

    ถามกูแล้วจะให้กูถามต้นกล้วยที่ไหนยุนโฮตอบหน้าอึน ๆ เพราะก็ไม่รู้จริง ๆ ตอนมาคราวนี้เห็นจุนซูแวบเดียว จากนั้นเจ้าตัวก็สะบัดครีบหายไปเลย ร่างสูงทำท่าจะออกเดินต่อแต่ก็โดนเพื่อนไก่รั้งไว้เหี้ย กูจะไปนอน

     

    เพิ่งสองทุ่ม จะรีบไปทำแมวอะไรยูชอนทำสีหน้าจริงจัง แต่ยุนโฮก็สะดุดกับคำพูด นั่นสิ ..แมวเขาไปไหนหว่า หายไปกับไอ้เด็กกวนตีนนั่นเลยนะมาช่วยกูหาเมียหน่อย เดี๋ยวไปอาละวาดที่ไหนเข้า

     

    มึงห่วงอะไร?”

     

    สวัสดิภาพคนรอบข้างเมียกูยูชอนตอบได้น่ารัก น่ารักมาก ๆ หน้าตาเลยจริงจังตามคำตอบ ยุนโฮนึกวาดภาพจุนซูออกตอนที่ได้ยินประโยคนี้เลยแฮะ เสียงประมาณสามสิบแปดล้านเดซิเบลเสียดแทงขั้วหัวใจเร็ว ๆ มึง

     

    ยูชอนคว้ามือยุนโฮแล้วออกเดิน ร่างสูงมองมือตัวเองอย่างแหยง ๆ ที่ไอ้เพื่อนมันโผล่มาจับ ทำให้เกิดสปาร์คเป็นตำนานทูยูกลางสวนในโรงแรม แม่เจ้า ไฮโซมาก จะแกะก็แกะไม่ออก ในเมื่อยูชอนมันหวาดระแวงว่าเขาจะทอดทิ้งมันไป

     

    ยุนโฮ...อย่าทิ้งฉันไปนะยูชอนอ้อนวอนขอร้องทั้งน้ำตา ความเสียใจถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความอาลัย ยุนโฮเอื้อมมือไปกุมมืออีกฝ่ายแล้วส่ายหัวด้วยท่าทีหนักแน่น

     

    ฉันจะไม่ทิ้งนายไปแน่นอน ..ยูชอน

     

     

    คิดเหี้ยอะไรอยู่วะกู

     

    ยุนโฮส่ายหัว แล้วก็เดินตามเข้าไปในโรงแรม ยูชอนชะโงกหน้ามองตรงนั้นตรงนี้ เพื่อหาเมียสุดที่รักของตัวเองให้เจอ ยุนโฮก็ได้แต่กลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย เมื่อทั้งสองคนผ่านล็อบบี้ที่มีนักเปียโนนั่งเล่นเพลงที่ยุนโฮชอบ ร่างสูงก็กระตุกมือเพื่อนให้หยุดแล้วยืนฟัง และเมื่อหมีกับไก่หยุด ..สายตาก็เห็นอะไรบางอย่างเข้าพอดี

     

    ร่างผอมบางผมสีบลอนด์กำลังนั่งคุยอย่างเคร่งเครียดกับอีกคนที่ผมตัดสั้นสีน้ำตาล ยูชอนทำหน้าโล่งใจ แต่ก็มองยุนโฮอย่างแปลก ๆ เหมือนอยากถามว่าแจจุงจะทำอะไรจุนซูแต่ยุนโฮก็มองตอบกลับมา เมียมึงนั่นแหล่ะจะทำอะไรแจจุงของกู

     

    หา!!

     

    อะไร เขาไม่ได้คิดคำนั้นนะ เขาไม่ได้คิดคำนั้น !!! แจจุงเป็นตัวของตัวเอง แจจุงไม่ใช่ของเขา!!!

     

    มึง .. เงียบ ๆยูชอนส่งเสียงจุ๊ ๆ เหมือนจิ้งจกตามฝาผนังแล้วย่องเงียบเข้าไปใกล้ เข้าไปโต้ง ๆ ก็กลัวแสนกลัวว่าเมียจะแว้ด ยุนโฮก็เดินตามมาด้วยท่าทางเฉย ๆ ไม่เห็นจำเป็นต้องปกปิดอะไร ก็ในเมื่อเขากับแจจุงไม่ใช่คนที่มีความผิดต่อกัน แต่ปาร์คยูชอน... แค่มีชายคนนี้เป็นคนแปลก

     

    ร่างสูงหยิบแว่นกันแดดมาสวม เอาหมวกมาใส่ ทำเหมือนคนปลอมตัวจะสืบอะไรซักอย่าง ยุนโฮมองอย่างขยาด ๆ แล้วตัดสินใจทำเป็นไม่รู้จัก เดินออกมาห่าง ๆ เสียแบบนั้น ยูชอนเองยังไม่รู้ว่าเพื่อนตีตัวออกห่างเสียแล้ว เจ้าตัวยังตั้งหน้าตั้งตาแผงตัวเข้าไปใกล้ ยุนโฮแค่เดินไปสั่งกาแฟมากินตรงมุมที่พอเหมาะก็โอเคแล้ว

     

    เพื่อนกูทำอะไรอยู่วะแม่ง

     

    แจจุง แบบนี้เราต้องเอามันให้ตาย เราอย่าปล่อยมันไว้เสียงเล็ก ๆ ที่ท่าทางเหมือนกำลังเชียร์อะไรบางอย่างให้แจจุงฟังอยู่แหลมปรี๊ดขึ้น ยุนโฮรู้สึกเสียววาบ ๆ กลัวว่ามันที่ว่านี่คือเขา แล้วเอามันให้ตาย ..โคตรน่ากลัวอย่าปล่อยไว้ เชื่อมั่นในตัวเอง แจจุง

     

    ก็ยุนโฮชอบซื้อบื้อ ฉันด่าไปแต่ละคำไม่เคยได้อะไรตอบกลับมา มันเซ็งอ่ะจุนซู!!”สองคนนี้สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าอาจจะเป็นพวกเดียวกันก็เป็นได้ แจจุงสะบัดหัวสะบัดหางอย่างเซ็งสุดกู่แล้ววันนี้หงุดหงิดด้วย!!”

     

    ชีวิตมันก็แบบนี้แหล่ะแจจุงจุนซูตบแขนอีกฝ่ายเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ ยุนโฮจิบกาแฟเย็นไปหน่อยนึง สายตายังคงมองไปที่ปาร์คยูชอนที่ทำตัวเหมือนพิงค์แพนเตอร์ที้ตองเอาหลังแนบกับโซฟาเพื่อให้ได้ยินการสนทนาพยายามต่อไป

     

    นายรู้จักชางมินมั้ย?”แจจุงถามขึ้นมาอย่างทันทีเมื่อตัวเองนึกออก ยุนโฮขมวดคิ้วเขาเป็นใครเหรอ

     

    ไม่รู้จักอ่ะ ใช่คนสูง ๆ กินเก่ง ๆ ที่เข้ามาคุยกับนายป่ะ เห็นอยู่แวบนึง น่ารักดียูชอนถึงกับตัวเกร็งขึ้นมา เมียกูชมผู้ชายอื่น แอร๊ยยยยย ยุนโฮเองก็แอบหวังว่ายูชอนจะหึงหน้ามืดขนาดไปดักตีหัวไอ้เด็กกวนตีนนั่นถึงถิ่นเลยนะแล้วทำไม ... นั่นใครน่ะ?”

     

    สมกับเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ จุนซูสามารถสังเกตเห็นสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเข้ามาได้ภายในเวลาอันสั้น ยุนโฮกลืนกาแฟเข้าไปจนน้ำแข็งไปอุดทางเดินอาหาร เลยต้องรีบไออย่างไร้เสียง แต่คนที่ถูกจับไม่ใช่ยุนโฮ กลับเป็นปาร์คยูชอนผู้ยิ่งยง ร่างสูงค่อย ๆ ยืดตัวขึ้น ฉีกยิ้มแบบที่คิดว่าจะเอาชนะใจจุนซูได้ ร่างเล็กเจ้าของเสียงแหลมปรี๊ดหรี่ตาลงอย่างสงสัย

     

    ปาร์ค•ยู•ชอนเสียงนั้นเน้นหนักทีละคำ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นลางร้าย ยุนโฮเลยพยายามจิบกาแฟแล้วหันหลังให้ เหมือนคนปกติทั่วไปที่แค่บังเอิญผ่านมาแถวนี้ ยูชอนเริ่มยิ้มซีด เมียพิโรธ เรือหายแล้วมั้ยมึงนาย•ต้อง•การ•อะ•ไร

     

    มาหาจุนซูครับ ...ตอบเหมือนนักเรียนถูกบังคับให้ตอบคำถามสิบตลบเกี่ยวกับเคมี ยุนโฮวางแก้วลงเพราะกาแฟหมดแล้ว หูก็คอยฟังเสียงสนทนาไปด้วย นี่แหล่ะโอกาสสะใจยามเหนือไก่แล้วมีโลมาบงการชีวิต โคตรรู้สึกดีที่เพื่อนประสบภัยถึงชีวิตที่รักอย่างอนเลยน้า ..โอ๋~”

     

    ไม่ต้องมาพูด แล้วแว่นดำนั่นใส่ทำไม!!”ยูชอนรีบดึงออกในทันใดหมวกนั่นด้วย!!”

     

    มันเป็นเทรนด์ครับ ..มันคือศิลปะเลยนะจุนซูคำแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ กับวลีที่ซีวอนชอบใช้เวลาเจออะไรถูกใจโคตรฟังไม่ขึ้น โชคดีนะเว้ย โอ้เยผมแค่มาตามหาจุนซู .กลับห้องกันเถอะ ผมอยากนอนกอดโลมาจะแย่อยู่แล้ว

     

    สายตาหวานเชื่อมที่เจ้าตัวถนัดถูกส่งออกมาจนโลมาน่ากอดหุบปากลงกะทันหัน จุนซูกระฟัดกระเฟียดเดินตามคนที่ผายมือเหมือนเชิญเจ้าหญิงขึ้นบัลลังก์ไป แล้วคู่รักที่เลือดสาดมากที่สุดในปฐพีก็เดินจากไป ทิ้งไว้กับแจจุงและยุนโฮซึ่งไม่รู้จะทำอะไรดี จะลุกไปหาแมวตัวแสบหรือรอให้อีกฝ่ายลุกก่อน แต่ก่อนที่จะได้ตัดสินใจ แจจุงก็ลุกขึ้นพอดี

     

    จะนั่งตรงนั้นอีกนานมั้ยไอ้หมีวัด

     

    โอ้เยอะไรแปลก ๆ หลุดออกจากปากยุนโฮไปก่อนที่จะห้ามได้ทัน แจจุงเกือบกลั้นยิ้มไม่อยู่ แต่ก็เก๊กหน้านิ่งไว้ได้ ..ก็คนมันไม่พอใจนี่นา ไม่รู้ทำไม

     

    กลับห้องซะ อย่าอยู่เกะกะคำสั่งโหดร้ายทำให้หมีปฏิบัติตามราวนักเรียนเตรียมทหาร ลุกขึ้นตัวตรงแด่วเดินตามแจจุงไป ร่างบางเดินนำเข้าลิฟท์ไปอีกชั้นแล้วก็ทำหน้าโหดใส่จนหมีไม่กล้าชวนคุย จนถึงห้องที่มีอีกสองคนพักอยู่ เข้าไปข้างในก็เจอฮีชอลนั่งดูทีวี ท่าทางตัดขาดจากซีวอนที่หน้าตาอยากสานสัมพันธ์ต่อเต็มที่ไปไป๊ เกะกะ

     

    อ้าวยุนโฮก็ไม่รู้ทำไง จะให้ไปนั่งแทรกสองคนนั้นก็ทำไม่ได้ ปวดใจ แจจุงเชิดใส่แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    จะแปรงฟันร่างบางรีบบอกแล้วจะปิดประตูใส่หน้ายุนโฮ หมีเกิดแรงบัลดาลใจอะไรก็ไม่รู้ นึกครึ้ม ..เดินตามเข้าไปด้วย จนคนตัวสูงกว่าปิดทางออกไว้เฉย แจจุงถลึงตาใส่เข้ามาทำเกลืออะไร!”

     

    คงไม่ใช่เข้ามาดูทีวีในนี้หรอกแจจุงไม่แน่ อาการปากไวอาจจะเป็นโรคติดเชื้อแปรงฟันสิ

     

    ออกไปเลย ที่มันคับแคบ!!”แจจุงตอนนี้ ..เหมือนคนงอนยังไงยังงั้น หน้าสวย ๆ ดูบูดบึ้ง แต่ก็ยังดูน่ารักดี อย่าให้เอาเกลือมาสาดไล่นะยุนโฮ

     

    จะแปรงฟันหมีเริ่ไม่รู้ไม่ชี้ หยิบแปรงตัวเองมาเฉย แจจุงมองแปรงที่สองคนนั้นซื้อมาให้ใหม่แล้วก็ต้องทำหน้าตาเหมือนอยากระเบิดโรงแรมทิ้งอีกครั้ง แปรงสีชมพูหวานเชียว

     

    ไร้รสนิยม!”คำด่าที่ทำเอายุนโฮบีบยาสีฟันพลาด หยดยาสีฟันร่วงลงไปบนพื้นทันทีฉันเกลียดสีนี้!!”

     

    อ้าวยุนโฮก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำหน้าอึน โอ้เย

     

    หัดรู้ซะบ้างสิว่าฉันชอบสีดำ สีเทา สีขาวแจจุงยังคงเทศนาต่อยาวเหยียด ยุนโฮก็รับฟังด้วยใบหน้าที่ยังคงมึนไม่หาย ใครมันจะไปทราบแก่นแท้จิตใจของแจจุงได้(วะ)จำไว้ซะด้วย!!”

     

    ครับยุนโฮขานรับแล้วก็แปรงฟันต่อด้วยท่าทางที่ไม่ได้แคร์อะไร แจจุงเองก็สะบัดหน้ากลับไป ทั้งสองคนยืนมองกระจกแล้วทำความสะอาดช่องปากไปมา แต่ไม่รู้สิ แจจุงรู้สึกแปลก ๆ ไม่ชอบมองเข้าไปในกระจกแล้วเห็นตัวเองยืนเทียบอยู่กับยุนโฮเลย มันรู้สึกแปลก ๆ จริง ๆ นะ

     

    ร่างสูงบ้วนปากแล้วปาดน้ำที่มุมปากออก ทำท่าจะเดินออกไปข้างนอกแต่ก็หยุดนิ่งกะทันหัน นัยน์ตาคมเบือนไปมองแจจุงที่ทำท่าจะบ้วนปาก ร่างบางจ้องกลับมา สายตาเชือดเฉือน

     

    อองอำไอ!!(มองทำไม!!)พูดไม่ชัดเพราะฟองเต็มปาก แจจุงรีบถุยฟองทิ้งแล้วบ้วนปาก แต่ยุนโฮก็ยักไหล่ ถ้าปล่อยให้เจ้าแม่แมวพูดได้ชัดล่ะก็เขามีหวังได้โดนด่ายับในข้อหามองหน้าแหง ๆ ร่างสูงเดินออกมาแล้วทำท่าจะนอนบนเตียง ในห้องนี้มีเตียงคู่หนึ่ง ฟูกบนพื้นหนึ่ง ซึ่งฮีชอลก็ยึดข้างบนไปแล้ว ไม่รู้ว่าซีวอนจะไปนอนด้วยหรือเปล่า ..

     

    ถ้าแบบนั้นเขาคงต้องนอนฟูกกับแจจุง

     

    โอ้เย

     

    มึงนอนไหนน่ะเพื่อความแน่ใจยุนโฮเลยเดินไปถามซีวอนที่นั่งเช็ครูปที่ไปถ่ายวันนี้มึงจะนอนกับเมียมึงป่ะ?”

     

    ถามควาย ๆยังมีคำชมย้อนกลับมาอีกต่างหาก ซีวอนไปทางทิศห้องน้ำแล้วได้ยินเสียงแจจุงกำลังจะเปิดออกมา ร่างสูงเร่งรีบยัดสิ่งของแล้ววางไว้หน้าโต๊ะ ก่อนจะโบกมือลาให้ยุนโฮกูแย่งที่นอนเจ้าแม่ของมึงแล้วนะ

     

    อ้าว ไอ้เหี้ยยุนโฮอ้าปากค้างแล้วยืนมองซีวอนล้มตัวลงนอนข้าง ๆ คนที่นอนห่มผ้าซะมิดชิด ม้าเจ้าเล่ห์ยักคิ้วให้หมีซื่อบื้อหนึ่งที

     

    ปิดไฟให้ด้วย

     

    ซีวอนนนนน!!!!”นั่นแหล่ะ แจจุงเห็นบนเตียงที่ตั้งใจจะนอนกับพี่ชายตัวเองโดนยึดครองก็ร้องเสียงโหยหวน ยุนโฮรีบเดินไปนอนที่ฟูกข้างล่างก่อนที่จะโดนอัปเปหิให้ไปนอนนอกห้อง เอาผ้าห่มคลุมซะมิด ฮีชอลมุดออกนอกผ้ามาดู แต่มันก็เหมือนจุดจบ พอมุดออกมาก็เจอซีวอนส่งยิ้มให้เฉยเลยยุนโฮ ออกไปจากเตียงฉันนะ!!”

     

    มันเป็นเตียงคู่ยุนโฮรีบชี้แจงว่ามันนอนได้สองคน แจจุงเตะฟูกอย่างหงุดหงิดในใจปิดไฟหน่อยแจจุง

     

    ร่างบางยินยอมเดินไปปิดให้แล้วเดินมานอนข้าง ๆ ยุนโฮ มือบางฉุดกระชากผ้าห่มของยุนโฮไปจนหมดจนร่างสูงอ้าปากค้าง ได้ยินเสียงฮีชอลโอดมานิดหน่อยเพราะโดนซีวอนดึงไปกอดทั้งตัว

     

    เฮ้ย แจจุง

     

    มันหนาว - -

     

    หนาวยุนโฮกระซิบใส่แจจุง ได้รับตีนหนัก ๆ ถีบกลับมาเป็นการตอบแทนใครให้เร่งแอร์เนี่ยแจจุง

     

    20 องศาเอง ใจเสาะร่างบางหันหน้ามาเถียง แต่แค่นั้นก็พอแล้ว ยุนโฮรีบรวบตัวอีกฝ่ายเข้ามาแล้วดึงผ้าห่มออกจากตัวแจจุง คนถูกแย่งก็ดิ้นเสียสนุกสนาน จนหมีป่าทนไม่ไหวต้องรวบตัวอีกฝ่ายเข้ามาทำตามวิธีที่ซีวอนชอบใช้ ..

     

    กอด ...

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++

     

    อ่านพาร์ทนี้อาจจะมีหลายคนรู้สึกว่าวอนซินอึมครึมแปลก ๆ

    ไม่หรอก มันไม่แปลก สงสัยไรท์เตอร์ชินกับการแต่งเศร้ามือมันเลยไปเอง เดี๋ยวจูนสมองกลับมาเมื่อไหร่มันก็หวานเองล่ะ - -

    ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้จะจบเรื่องนี้แบบไหน อยากให้มันยาวไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    แต่คงเหนื่อย หมดมุกสินะ คิ

     

    มีคนไซโคด้วยแหล่ะว่าให้รวมเล่มทันเดือนสิงหา จะได้ขายงานไก่ทอด ..คิคิคิคิ

     

    อาจจะมาช้าบ้าง ..เพราะกำลังเข้มข้นกับการฝึกวาดรูป ไรท์เตอร์จะเตรียมเข้าคณะศิลป์ง่ะ -0-

    มึงจะเรียนวิทย์คณิตอีพีมาทำเพื่อ ? =[]=

    แต่ถ้าวาดเมพมาก ๆ อาจจะวาดโดจินเรื่องนี้ คิคิคิคิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×