คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : :: 5 ร้ายกาจ (100%)
{ 5 }
ร้ายกาจ
“นายทำอะไรกับมันนนน!!”
ว่าแล้ว ตามที่คิมฮีชอลคาดไว้เปี๊ยบ ร่างบางใช้เวลาในการดูซีรี่ส์ยามค่ำหน้าทีวี พยายามจะไม่สนใจเสียงโหวกเหวกรอบที่ยี่สิบสี่ของวัน ซีวอนเองก็เช่นกัน เจ้าตัวนั่งอ่านนิตยสารถ่ายภาพอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับซาวด์ประกอบที่น่าพอใจของอีกสองคนที่เหลือ
“ทำอะไร?”แจจุงทำหน้าไม่รู้เรื่อง ในใจรู้สึกดีปานขึ้นสวรรค์เชียวล่ะที่ทำแบบนี้ มันยอดเยี่ยมจริง ๆ นะกับการแก้แค้น ร่างบางที่ยืนล้างจานอยู่หันไปมองใบหน้าหล่อ ๆ ของหมีป่าที่ซีดเป็นผักกาดขาว กางเกงทำท่าจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่เพราะเจ้าตัวดึงไว้ตลอดเวลา”ฉันทำอะไร?”
ยุนโฮมองอย่างแค้นใจ แต่พออ้าปากจะเถียง ความกดดันอีกระลอกก็พุ่งพรวดขึ้นมาจากความว่างเปล่าจนคนเอาผิดอะไรไม่ได้ต้องวิ่งกลับห้องน้ำพร้อมเสียงปิดประตูสนั่นหวั่นไหวตามหลัง แจจุงยืนทำหน้านิ่งอีกซักพักแล้วก็ระเบิดหัวเราะสะใจเยี่ยงนางมารร้าย
แอร๊ยยยย แก้แค้นได้แล้วเว้ยยย
นี่แหล่ะคือจุดจบของยุนโฮที่ชนะพนันแจจุง น่าสงสารมาก ๆ ฮีชอลได้แต่คิดแบบนี้แต่ก็ยื่นมือเข้าไปช่วยอะไรไม่ได้ ดีไม่ดีถ้าช่วยซักนิด ..ยาถ่ายในจานยุนโฮก็อาจจะมาอยู่ที่จานเขาซักนิดเช่นกัน หรือไม่ก็อาจจะไปทั้งบ้านก็เป็นได้ คนอย่างแจจุงแค้นแรงเกินไป น่ากลัวเกินไป
“แจจุง...”ผ่านไปอีกห้านาทียุนโฮก็ออกมา คราวนี้สีหน้าผักกาดขาวแปรสภาพไปเป็นผักกาดต้ม ร่างสูงหอบหนักเหมือนเหนื่อยมากมายกับกิจกรรมน่าสนุกของลำไส้ใหญ่ แจจุงคว่ำจานใบสุดท้ายแล้วหันมามองหน้ายุนโฮด้วยสีหน้าที่เรียกได้ว่าโคตรของโคตรกวนประสาท”สารภาพมาซะ ทั้งโลกให้อภัยนาย”
“ฉันทำอะไร?”ดูรูปการณ์แล้วเหมือนหนังดราม่าแอ็กชั่น บางทียุนโฮอาจจะเสียน้ำมากไปหน่อย แต่พอมอง ๆ ไปก็เห็นซองเกลือแร่ในมือแจจุง ..แหม ฮีชอลแอบยิ้ม มันก็ห่วงยุนโฮเหมือนกันนี่นา”นายอาจจะแพ้อาหาร”
“ทำไมต้องเป็นฉันคนเดียว!!”ร่างสูงร้องแรกแหกกระเชอ ดีดดิ้นเหมือนเด็กมีปัญหา แจจุงยักไหล่แล้วหันหลังกลับไปเทผงเกลือแร่ลงในแก้วน้ำ รู้สึกผิดนิด ๆ ย้ำอีกครั้ง นิด ๆ ก็เลยเลือกเกลือแร่ที่รสชาติดั้งเดิม เค็มร้ายกาจมาให้กิน แทนที่จะเป็นรสส้ม สะตอ อะไรก็ว่าไป”แจจุง!!”
“อื้อ รู้ ฉันชื่อแจจุง”ร่างบางเทน้ำเย็นใส่แก้วแล้วคนมันด้วยช้อน ให้ผงเกลือแร่ละลาย แล้วค่อยเอาขวดน้ำไปเก็บ ยุนโฮกัดฟันกรอด ๆ แล้ววิ่งเข้าใส่เหมือนหมีพร้อมตะครุบปลาแมคเคอร์เรล แจจุงที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับเหวอเมื่ออุ้งตีนอันแข็งแกร่งของอีกฝ่ายล็อกแขนไว้”ไอ้หมีไส้รั่ว!!”
“ไอ้ฟู!!”เรียกด้วยชื่อที่โดนแจจุงประณามว่าโลว์คลาส ร่างบางแทบจะกรีดร้องแล้ววิ่งออกไปเอายาถ่ายยัดปากยุนโฮอีกซักซอง ร่างสูงกดตัวแจจุงเข้ากับตู้เย็น ใบหน้าโน้มเข้ามาใกล้ ดูเป็นฉากที่น่าโรแมนติกถ้าไม่มีประกายไฟวิ่งชิ้ง ๆ อยู่ระหว่างตาคนสองคน แล้วฉากหลังไม่ใช่ตู้เย็น และกางเกงเลสีเขียวที่ยุนโฮนุ่งจะอยู่กับที่มากกว่านี้”สารภาพมาซะ ทุกคนให้อภัยนาย!”
“ขอหลักฐาน”แจจุงแลบลิ้นใส่ เท้าดิ้นรนจะขยับหาทางรอด ยุนโฮโน้มหน้าลงมาใกล้เรื่อย ๆ จนแจจุงเริ่มหันคอซ้ายขวาหาทางรอด”ปล่อยสิเว้ย!!”
“ไม่ปล่อย!!”
“ปล่อย!!”
“ไม่ปล่อยยย!!!”
“อ๊ากกกกกกกกก!!”แจจุงก็มีท่าไม้ตายเหมือนกัน เท้าขวาที่ขยับได้กระตุกชายกางเกงยุนโฮลงจนคนใส่กางเกงเลสีเขียวรู้สึกได้อย่างแท้จริงถึงคำว่าลมมันเย็นมาก ๆ ขอย้ำ ลมเย็นมาก ๆ มือทั้งสองข้างที่ตรึงข้อมือร่างบางไว้รีบดึงกางเกงไว้ก่อนที่จะได้เปิดเผยร่างกายให้สิ่งมีชีวิตรอบด้านดู ซีวอนถอนหายใจ ฮีชอลก็ถอนหายใจเช่นกัน ร่างบางรีบวิ่งออกมาแล้วกระโดดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องครัว
“แจจุง!!”
“นั่นชื่อฉัน!!”
“ชื่อนายอ่ะดิ่!! มานี่เลย!!”ยุนโฮทำท่าจะวิ่งไล่ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะแรงขับเคลื่อนที่คุ้นเคย ฮีชอลลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเปิดประตูห้องน้ำรอท่า”เชรี่ยยยยยย!!!”
สิ้นเสียงคำอุทานอันไพเราะ ยุนโฮก็ได้ฤกษ์วิ่งเข้าห้องน้ำอีกครั้ง และแจจุงก็เดินมาหาฮีชอลอย่างโล่งอก ร่างบางส่ายหัวน้อย ๆ แล้วมองหน้าน้องชายตัวแสบ
“ร้ายกาจนะเรา”
“สมน้ำหน้า”แจจุงทำหน้าเชิด ประมาณโลกนี้ฉันไม่ผิด”ถ้าไม่ปราบให้กลัวเดี๋ยวในอนาคตมันจะหือ”
“ทำเหมือนเป็นภรรยาเค้าแล้วล่ะนั่น”ฮีชอลบลั๊ฟนิ่ม ๆ แต่แจจุงก็ไม่สะทกสะท้านอะไร ใบหน้าสวยหันมาแยกเขี้ยวใส่แล้วโต้ตอบกลับไปราวกับทำศึกสายเลือด
“ของผมแค่เหมือน แต่ของพี่ก็กำลังจะสินะ”
ซีวอนขำออกมาเบา ๆ เรียกสายตาพิฆาตจากฮีชอลตวัดฉับไปมอง ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย สีหน้าที่เห็นได้ประจำจากคน ๆ นี้ ร่างสูงปิดหนังสือแล้วดึงตัวอีกฝ่ายเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เฉย ฮีชอลดิ้น แต่ก็หยุด เพราะรู้ว่าดิ้นไปยังไงก็ไม่รอด และท่าทางนี้เองก็อัญเชิญเสียงประหลาด ๆ ออกมาจากแจจุง
“จั๊ดจั๊ดจั๊ดจั๊ดจา~~”เสียงอัปยศอันเดิมที่ทำเอาคนทำเสียงนี้ชะงักกึก”หวาน..เชียวนะ”
“ไม่พูดไม่มีใครหาว่าไม่มีปากหรอกนะแจจุง”และอะไรที่แรงพอ ๆ กันก็ถูกส่งกลับมาจากฮีชอล
“ไม่หวานโลกนี้ก็ไม่ขาดน้ำตาลหรอกน่าพี่ฮีชอล”
ฮีชอลไม่เถียง แต่กลับพยักหน้าให้อะไรบางอย่างข้างหลังแจจุง น้องชายจอมแสบเลยหันไปแต่ก็ทำอะไรไม่ทันเสียแล้ว ยุนโฮที่หน้าตาเพิ่มความเคียดแค้นพร้อมจะแหวกร่างแจจุงเป็นหนึ่งร้อยสองเสี่ยงยกตัวแจจุงจนลอย คนพี่ที่โดนแกล้งเลยยิ้มหวานให้ยุนโฮแล้วพยักเพยิดไปทางห้องนอน
“ยกไปเลยยุนโฮ เอาให้เงียบเลย”ร่างบางใส่ไฟด้วยความแค้นในใจที่ลุกโพลง โดนมันแซวมาเยอะแล้ว ถึงแม้สิ่งที่แจจุงแซวจะเป็นจริงก็เถอะ”ปิดปากแจจุงไปซะ”
“พี่ฮีชอลลลล!!”แจจุงดีดดิ้น แล้วรีบเอามือทุบยุนโฮหลาย ๆ ทีให้ไอ้หมีเจ็บ ท่าทางยาถ่ายจะหมดฤทธิ์แล้ว แหงสิ เล่นงานมาเป็นชั่วโมงแล้ว”นี่แน่ะ ๆ”
“ดื้อ!”ยุนโฮเอานิ้วจิ้มหน้าผากแจจุงจนหงายแล้วยกร่างบางไปทางอีกฟากหนึ่ง ก่อนที่จะโยนลงบนโซฟาตัวเล็ก แจจุงนิ่วหน้าเมื่อทั้งตัวถูกโยนโดยไร้ความอ่อนโยน โดยที่มีฮีชอลมองอย่างสนใจ”ซน! ร้ายกาจ! แสบ!”
“แล้วจะทำไม!”คนดื้อและอีกหลายอย่างยังคงทำตัวได้แสบเหมือนเดิม ถ้าไม่ติดใบหน้าหวาน ๆ กับท่าทางที่ดูน่ารักมากกว่า ไม่แน่ ยุนโฮอาจจะเตะส่งออกไปข้างนอกแล้วก็เป็นได้”ไอ้หมีป่า ~ ไอปากห้อย จมูกบาน ฮิ้ววว”
(ยูชอนฮัดเช้ย)
“จะเงียบไม่เงียบ?”ยุนโฮถามเสียงนิ่งแล้วเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างบางแอบหวั่นใจ...ไอ้หมีนี่แม่งจับกูแดกทั้งตัวแน่ ดูหน้ามันสิ ฆ่าคนได้หลายพันศพ”แจจุง ...คิมแจจุง จะยอมแพ้รึยัง?”
“ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้เว้ย!!”แจจุงตวาดด้วยเสียงที่แมนสุดชีพ ร่างสูงยิ้มเย็นยะเยือกก่อนที่จะยกมือขึ้น แล้วจี้เอวแจจุงในทันที”โอ๊ยยย อย่านะเว้ยย ก๊ากกกก”
“ยอมแพ้ซะ!!”ยุนโฮยังคงปฏิบัติการดุเดือด
“ไม่ ..! ฮึก .. ก๊าก ๆ ๆ”แจจุงก็ยังเป็นผู้ร้ายปากแข็ง
“ทุกคนจะให้อภัยนาย!!”ทำเหมือนหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์
“ม๊ายยย ฮ่า ๆ”และก็ยังเหมือนเดิม
“แจจุง !!
เหวยยย”ร้องแบบแปลก ๆ เพราะโดนแรงอะไรบางอย่างที่คาดเดาว่าน่าจะเป็นฝ่าเท้าเพื่อนสนิทอย่างซีวอน ร่างสูงที่นั่งอ่านนิตรสารช่างภาพประกอบเสียงจี๋จ๋าของหมีกับแมวมานานเดินเข้ามาแล้วยกบาทาประเคนยุนโฮให้เต็มที่จนร่างสูง ๆ ของหมีป่าล้มไปใส่แจจุงที่นอนแผ่อย่างหมดแรงบนโซฟา ฮีชอลเลิกคิ้วที่ผลมันออกมาน่ารักกุ๊กกิ๊ก ที่จริงถ้าให้เดา บางทียุนโฮน่าจะจับแจจุงจูบปิดปากไปเลย
ไม่น่า อย่าเพิ่งเอาหนังสือวาย ๆ ที่เคยอ่านมาตัดสิน ยุนโฮซื่อบื้อจะตาย
“ยุนโฮ หนัก!!!”
“ดีมากเลยซีวอน”ร่างบางยอมรับแล้วผงกหัวให้คนถีบที่ดี ซีวอนพยักหน้ารับแล้วคว้ามือคนสวยขึ้นมาอย่างอุกอาจ”จับมือทำไมน่ะ?”
“พาแมวเข้านอน มันดึกแล้ว”ซีวอนตอบพลางบุ้ยใบ้ไปทางนาฬิกาที่ให้เวลาออกมาเป็นตัวเล็กที่ดึกพอสมควร สี่ทุ่มครึ่ง ฮีชอลเบ้ปากแล้วส่ายหัว
“ได้เป็นคนแล้วนอนอย่างเดียวมันจะคุ้มอะไรล่ะซีวอน ฉันไม่ได้อนามัยขนาดนั้นนะ”เหตุผลที่ยกมาทำให้ร่างสูงเริ่มคิดตาม ก็จริง เป็นคนได้แค่ตอนกลางคืน นอนก็หมดไปครึ่งแล้วสินะ”ที่นี่มีคอมพิวเตอร์มั้ย?”
“ที่นี่ก็ไม่ได้กันดารขนาดนั้นนะฮีชอล”สรรพนามที่เริ่มเปลี่ยนจากคุณกับผมมาเป็นฉันกับนายแสดงถึงความใกล้ชิดที่มากขึ้น ร่างบางเขย่าแขนซีวอนให้พาไปหาสิ่งที่ตัวเองโหยหามานาน ร่างสูงยิ้มน้อย ๆ แล้วทำท่าเหมือนอยากได้ของตอบแทน”ทำนี่ก่อน”
‘นี่’ที่ว่านั่นประกอบการการจิ้มแก้มตัวเองเพื่อเป็นรางวัล ฮีชอลเงียบไป แต่ก็ยอมทำตามให้ ริมฝปากนิ่มสัมผัสเข้าแก้มของอีกฝ่ายและรีบดันหลังซีวอนให้พาไปเล่นคอมพิวเตอร์ ลักยิ้มที่บุ๋มลงมาสองข้างบ่งบอกความพึงพอใจที่เกิดขึ้น สุดท้ายสองคนที่สร้างบรรยากาศหวานน้ำตาลหยดก็จากไป ... ทิ้งไว้แต่คู่กัดที่ยังฟัดกันนัวเนียบนโซฟาไม่เลิก
“นายอาศัยอยู่ที่ไหนน่ะ ก่อนที่จะมาที่นี่”ซีวอนที่ยังคงกลับมาขัดกล้องต่อถามฮีชอลอย่างสนใจ อยากจะรู้จักร่างบางคนนี้ให้มากขึ้น เพราะเท่าที่รู้ก็มีแค่ชื่อ ก็แค่นั้น ฮีชอลที่นั่งคลิกแฟนคาเฟ่ของนักร้องวงที่ตัวเองชอบก็หันมาตอบอย่างงง ๆ
“แถวเนี้ยแหล่ะ ทำไมล่ะ?”
“ก็แค่อยากรู้ ...”เผื่อ ๆ ตอนคืนร่างก็ได้ไปหา ซีวอนกลืนคำที่อยู่ในใจลงคอไป ไม่กล้าพูดออกมา ฮีชอลเองก็กลับไปนั่งเล่นไซเวิร์ลอะไรนั่นต่อ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด มีเสียงโวยวายด่ากันดังมาแต่ใกล้ ก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากแจจุงกับยุนโฮ”ไม่ต้องเล่นแล้วฮีชอล มานี่หน่อย”
“อะไรอ้ะ...”ร่างเล็กบ่นอิดออด แต่ก็ยอมปิด นี่มันตั้งตีหนึ่งกว่าแล้ว เพราะเล่นมานานเกินไปแล้วด้วยก็ส่วนหนึ่ง ฮีชอลเดินไปนั่งข้าง ๆ ซีวอนตามคำสั่ง ร่างสูงจับอีกฝ่ายให้หันหน้ามาตรงกันแล้วยิ้มน้อย ๆ แบบที่ชอบใช้เวลาจีบสาว
“เล่าเรื่องให้ฟังหน่อยสิครับ ... ที่รัก”
“อะไร๊!!!”เลือดวิ่งขึ้นหน้าด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่หัวใจจะทำได้ ฮีชอลถึงกับคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อไปเลยทีเดียว คนตันเหตุยิ่งยิ้มหนักกว่าเดิม รู้สึกชอบแฮะเวลาเห็นคนสวยหน้าแดง ... น่ารักดี
“ก็บอกแล้วว่าตอนเป็นแมวเรียกลูก”ย้ำคำเดิมที่ทำให้แมวเขินแทบพุ่งชนกำแพงมาแล้ว ฮีชอลก้มหน้างุด ๆ”ตอนเป็นคนเรียกที่รัก...”
“มาเรียกทำไมเล่า เก็บไว้เรียกเมียนายนู่น”และคำพูดปัดส่ง ๆ ก็ออกมาแก้เขิน แต่ก็ไม่รอดไปได้ ร่างบางยิ่งห้ามตัวเอง ...ยิ่งหน้าแดงขึ้นทุกที ในใจเต้นตึกตักอย่างห้ามไม่ได้”ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะ ...”
“ก็ฮีชอลน่ารัก”คำพูดนั่นยิ่งเร่งให้ร่างบางเขินจนแทบจะวิ่งออกไปที่อื่น แต่มันก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกแปลกประหลาดในใจ ฮีชอลเงียบไปพักหนึ่ง ความรู้สึกที่ร้อนผ่าวเมื่อครู่กลับกลายเป็นเย็นชา.. เมื่อความหลังผ่านเข้าในห้วงความทรงจำ
‘ฮีชอลนี่น่ารักจังเลยนะ’
“อ้าว .. ทำไมเงียบไปล่ะครับที่รัก”ซีวอนยังไม่เลิกเล่น แต่พอเห็นเสี้ยวหน้าที่ดูเศร้าไปก็รู้สึกตกใจขึ้นมา แต่ในพริบตา สีหน้านั้นก็จางหายไป ฮีชอลเงยหน้าขึ้นมาอีกแล้วแล้วส่งยิ้มให้..ถึงจะยิ้มไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่ก็เถอะ”เป็นอะไร?”
“ไม่มีอะไรหรอก”ฮีชอลบอกเสียงเรียบ ๆ แต่ไอ้คำว่าไม่มีอะไรแบบนี้จะมีอะไรทุกทีสิน่า..ซึ่งซีวอนวอนก็คงไม่คาดคั้น เขาเพิ่งรู้จักกันได้สามวันจะไปเอาเรื่องอะไรกันมากมาย ร่างบางมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วถอนหายใจน้อย ๆ
...สามวันที่ผ่านมานี่ เพิ่งรู้สึกตัวจริง ๆ ว่าเขากลายเป็นตัวอะไรที่แปลกประหลาด เหมือนชีวิตถูกผลักลงสู่สิ่งใหม่ที่แทบจะเปลี่ยนทุกอย่างที่เขาเคยรู้จักมา โลกใบเก่าที่เคยรู้จักค่อย ๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว ...
แต่เขากลับไม่เหงาเลยนะ กลับสนุกดีด้วยซ้ำ ชีวิตเมื่อก่อนที่มีภาระผูกคอไว้ให้ทำงาน หาเงินตอนนี้กลายเป็นเพียงเศษซากจาง ๆ เท่านั้นเอง ตอนนี้เขาไม่ต้องเหนื่อยแบบนั้นก็เลยรู้สึกดีขึ้นเยอะ .. แต่ก็ไม่รู้ว่านาน ๆ ไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก
“หน้าเศร้าจัง”ซีวอนทักขึ้นมาแล้วโยกศีรษะฮีชอลไปมา ร่างบางแยกยิ้มอย่างหงุดหงิดแล้วเอนตัวลงพิงซีวอนไปด้วย รู้สึกอบอุ่นดีที่เป็นแบบนี้ ... บางทีเรื่องบังเอิญก็เกิดขึ้นได้บนโลกนี้ ใครบางคนที่พบเจอกันไม่นานแต่กลับรู้สึกดีด้วย ซีวอนลูบหัวที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีส้มที่เริ่มมีสีดำแซมที่โคนแล้วพิงหลังเข้ากับผนัง”ฮีชอลอายุเท่าไหร่เหรอ”
“ยี่สิบห้าน่ะ ส่วนแจจุงยี่สิบสาม”ร่างบางตอบเบา ๆ พลางนั่งนึกไปด้วย ตั้งสามปีมาแล้วแน่ะที่เขาเรียนจบแล้วตั้งหน้าตั้งตาหาเงินส่งแจจุงเรียน”พ่อแม่ฉันตายตั้งแต่ตอนที่ฉันอยู่ปีสามน่ะ ... เลยต้องเลี้ยงแจจุง แล้วก็ทำงานอะไรเอง”
“ผมอายุยี่สิบสี่ ยุนโฮก็เหมือนกัน”คำยืนยันอายุทำให้ฮีชอลถอนหายใจ เขาแก่อีกแล้วแฮะ”ที่จริงฮีชอลดูเหมือนคนสบาย ๆ นะ...ไม่ได้ดูเครียดอะไร”
“เพิ่งตกงานน่ะ ก่อนเป็นแมวนิดเดียวเอง แจจุงเองก็เหมือนกัน”ความรันทดชีวิตนิด ๆ หน่อย ๆ กลับกลายเป็นหายนะใหญ่หลวงเมื่อเขากลายเป็นแมว จำได้แค่ลาง ๆ ว่าไปกินเหล้าดับทุกข์กับแจจุง พอตื่นเช้ามาก็โดนจับใส่กรงขายซะแล้ว...
เรื่องพวกนั้นมันดูนานมาแล้ว ... เหมือนอาทิตย์ก่อนด้วยซ้ำ แต่อันที่จริงมันก็เพิ่งสามสี่วันที่แล้วนี่เอง
ซีวอนนั่งฟังฮีชอลเล่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ เวลาเลื่อนจากตีหนึ่งไปจนเกือบ ๆ ตีสาม สุดท้ายฮีชอลก็ทนไม่ไหวเลยหลับไปเสียก่อน ร่างสูงค่อย ๆ จัดท่าทางให้ฮ๊ชอลนอนดี ๆ แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ รู้สึกง่วงก็จริง ..แต่กลับอยากมองหน้าคนสวยคนนี้นาน ๆ...
ยอมรับว่าตอนแรกก็หลงรูป
แต่ตอนนี้กลับรู้สึกดีขึ้นเรื่อย ๆ ...แบบที่คนสวยหลาย ๆ คนก็ทำไม่ได้แบบนี้
จริงนะ ๆ :)
อย่างไรก็ตาม ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของที่สองคนและสี่ตัวก็ดำเนินมาได้ซักพัก วันหนึ่ง ๆ ตารางเวลาจะคล้าย ๆ แบบเดิมคือตื่นมาเอาอาหารที่แมวกินได้ใส่จาน แต่งตัวไปทำงานตามปกติ แมวก็นอนไป นอน กิน ดูทีวี เต้น อ่านนิยาย เล่นคอมบ้าง ตามเท่าที่สรีระและสมรรถภาพของแมวทั้งสองจะเอื้อให้ได้ รวม ๆ แล้วก็หนึ่งอาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันมาในบ้านหลังนี้
ทุกครั้งที่กลายร่าง ฮีชอลจะมีหน้าที่นอน เล่นคอมพิวเตอร์ จัดบ้านบ้างถ้าอยาก แจจุงก็ทำอาหารเย็นให้ทั้งบ้าน อร่อยดี ไม่มีอะไรสำหรับซีวอนและฮีชอล แต่กับยุนโฮ เค็มเกิน เผ็ดเกิน หวานเกิน เป็นแบบนี้ทุกทีจนยุนโฮขี้เกียจจะโวยวาย(เหนื่อยแล้ว) แต่พักหลัง ๆ แจจุงพัฒนาดีขึ้นเรื่อย ๆ ในด้านความสัมพันธ์กับยุนโฮ อย่างน้อยตอนกลายร่างเป็นแมวก็ไม่กระโดดข่วนมันทุกครั้งเหมือนเมื่อก่อน ส่วนซีวอนกับฮีชอล ..พูดได้ว่าสนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนยุนโฮกับแจจุง อย่างที่บอกว่าดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าดี ความแสบของแจจุงยังเป็นสิ่งที่เอาไม่ลงเสมอเพราะเอกลักษณ์ของยุนโฮเข้ามาผสม ถ้าหากยุนโฮเป็นแบบซีวอน เอาใจเก่ง แหย่เก่ง แจจุงก็คงจะเขินและทำตัวเงียบ ๆ แบบฮีชอล ทั้ง ๆ ที่นิสัยสองพี่น้องนี้แสบเหมือนกันเปี๊ยบ แต่เพราะยุนโฮคือยุนโฮ แจจุงถึงได้เป็นแบบนี้นั่นแหล่ะ
“มึงงงงง”เสียงนี้คงไม่รู้เลยว่าเป็นใคร ในที่ทำงานแบบนี้ มีไม่กี่คนที่กล้าเรียกปาร์คยูชอนด้วยถ้อยคำประเภทนี้ได้ ไม่ยุนโฮก็ซีวอน สถุลทั้งสองคนนั่นแหล่ะ แต่คราวนี้เป็นยุนโฮ ร่างถึก ๆ เดินมาพร้อมเอกสารที่เขาเพิ่งบอกให้เลขาจัดส่งออกไปให้พนักงานทั้งบริษัทเรื่องสัมมนา”กูไม่อยากไป”
“เรื่องของมึง กูไม่แคร์”ยูชอนแทบจะลุกขึ้นมาเต้นเป็นเพลง2NE1ใส่หน้ายุนโฮที่ทำหน้าบูดเบี้ยวกับการออกนอกสถานที่เพื่อสัมมนา ไม่ทะเล ไม่มีสาวสวยบิกินี่ แต่เสือกเป็นภูเขากับทุ่งหญ้าที่แม้จะเป็นฤดูใบไม้ผลิก็คงจะหนาวชิบหายวายวอด”มึงไม่อยากไปมึงก็โดนหักเงินค่าต้นฉบับ”
“ปัญหาของกูกับซีวอนนะเว้ยยย”เชรี่ย ยุนโฮอยากตาย แต่ก่อนตายขอเอาไอ้เถิกนี่ลงนรกไปด้วยกัน”กูจะเอาแมวไปยังไง!!”
“เออว่ะ ชิบหาย”ยูชอนก็นึกขึ้นได้ ยุนโฮเคยมาเปรย ๆ ให้ฟัง แล้วดูงานเขียนล่าสุดแมวครองโลกอะไรของมันก็น่าจะบอกความเก็บกดในใจออกมาได้ดี”แต่กูสั่งแล้วอ่ะ สัมมนาเลยนะมึง คราวนี้สาวสวยไปเพียบ มึงได้โอกาสหาเมียแล้วนะเว้ย”
พยายามให้กำลังใจเพราะเห็นไอ้ยุนโฮแม่งโสดมาทั้งชาติ แต่หน้าหล่อ ๆ แทนที่จะระริกระรี้ได้ไปจีบพนักงานสาว ๆ สวย ๆ ถึงถิ่นโรแมนติกกลับหงอยลงทันทีอย่างกู่ไม่กลับ ยูชอนตบหน้าผากตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ก็จริง ถ้าแม่งเอาแจจุงไปตอนกลางคืนจะทำยังไงวะ
“ถ้ากูไปจีบแมวที่บ้านกูคงอาละวาดอ่ะมึง”ยุนโฮหน้าเศร้าเชียว...แหม พนักงานที่นี่สวย ๆ มีตั้งเยอะ หลาย ๆ คนก็ยังโสดอยู่ แน่นอนว่ายุนโฮคงจะหาโอกาสงาบ ๆ มาหลายหนแล้ว ..แต่ก็ไม่รอด
“เค้าหึงมึงเรอะ”ยูชอนถาม คนโดนแมวหึงถึงกับสะดุดขาตัวเองทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เดินไปไหน ดีนะที่อยู่ในห้องทำงานอันส่วนตัวของปาร์คยูชอนไม่งั้นคงได้ฮากระจายกันทั้งที่ทำงาน เสียงฝีเท้าข้างนอกดังขึ้นพร้อมกับอีกคนที่น่าจะมีปัญหา ซีวอนเดินถือไอ้ใบสัมมนาเวรกรรมอันเดียวกันมาแล้ววางแปะลงที่หน้าโต๊ะทำงานของยูชอน
“แล้วแมวกูล่ะสาดดดด”
“สาดมึงนี่น้ำลายเต็มหน้ากูแล้วว่ะ”ยูชอนบอกอย่างเบื่อ ๆ สองตัวนี้แม่งจะห่วงแมวกันไปไหนวะ แม่ง ชีวิตกูน่าสงสารจริง ตกเป็นที่รองรับอารมณ์ไอ้เวรตะไลสองตัวนี่อีก ตำแหน่งเจ้านายกูมีไว้ทำเกลืออะไรวะ แอร๊ย”ไม่รู้ว่ะ พวกมึงต้องไป cause I don’t care ~”
มีการออกท่าประกอบให้ดูด้วยเป็นบุญตา ซีวอนกับยุนโฮถอนหายใจเฮือก ทริปนี้ก็เหมือนคราวก่อน ๆ ที่จัดให้พนักงานได้พักผ่อนและสัมมนา โดยที่โลเคชั่นจะเปลี่ยนไปบ้าง ฝ่ายยุนโฮที่เป็นประเภทนักเขียนก็จะได้คุยหาแนวทางใหม่ ๆ ซีวอนก็ได้ไปถ่ายรูปบ้าง โดยที่สถานที่ครั้งนี้เป็นภูเขาโซรัคซานที่สวยมาก มีทุ่งดอกไม้บลา ๆ ให้ไปชื่นชม
แต่แมว .. แมวของสองคนนี้ - -
“กูไม่อยากให้ฮีชอลอยู่บ้านโดยไม่มีใครดูแล”ซีวอนถอนหายใจเฮือกเมื่อนึกถึงคนสวยที่นับวันเริ่มนิสัยเหมือนแจจุงขึ้นทุกที ขี้งอนขึ้น เอาแต่ใจขึ้นเรื่อย ๆ จนมุกแหย่ให้เขินเริ่มไม่ได้ผลเหมือนที่เคย
“มึงไม่มีหมอนข้างตอนกลางคืนล่ะสิ”ยูชอนรีบดักคอ เห็นมั้ย ตรงเป๊ะ ทำเอาไอ้ม้าหื่นนี่สะดุ้งโหยง บอกแล้วยูชอนทั้งฉลาด หล่อ เก่งกาจ โอ้ เพอร์เฟ็คชิบหาย”มึงคงจะได้แมวเป็นเมีย”
“ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดี...”ซีวอนรำพึง แต่ยุนโฮกลับทำหน้าตาประหลาดประมาณว่ารับไม่ได้
“มึงคิดแบบนั้นเหรอซีวอน!!”สีหน้าเปรียบประหนึ่งบุคคลที่ไม่รู้เรื่องมาก่อน ยูชอนเอาหัวโขกโต๊ะ ซีวอนเองก็ทำหน้าตามึนเมาใส่ยุนโฮ ไอ้หมีโง่นี่มันดูไม่ออก เดาไม่ออกเลยรึไงวะว่าเขาคิดอะไรและทำอะไรกับฮีชอล”ไอ้วิปริตผิดสถานะ!!!”
“มึงอย่าด่ากูเลยไอ้ยุนโฮ ทำยังกับมึงไม่ใช่งั้นอ่ะ”คนวิปริตสวนกลับไปทันที”กัดกันทั้งวันอ่ะ ปากมึงบอก ๆ ว่ารำคาญแจจุง แต่ระวังเหอะมึงงง!!”
“ไม่ใช่!!”ยุนโฮร้อนรนหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง ไม่รู้ทำไมพอนึกถึงความสัมพันธ์แบบนั้นของตัวเองกับแจจุงขึ้นมา ..ไม่ได้ขยะแขยงนะ แต่รู้สึกแปลก ๆ เขิน ๆ ไงก็ไม่รู้ อ๊าง (จะให้กูอ๊างทำเกลืออะไรล่ะโว๊ย)”แจจุงเป็นแค่ .. เอ่อ...”
“เมีย?”ปาร์คยูชอนแนะนำขึ้นมา
“ไม่ใช่เว้ย!!”ยุนโฮปัดออก
“แม่ทูนหัว”ซีวอนแนะนำขึ้นมาอีกคน ยุนโฮส่ายหัวปฏิเสธรัว ๆ ขมวดคิ้วจนหน้าตาเครียดเหมือนคิดเรื่องงาน คำจำกัดความของเขากับแจจุงคืออะไรวะ ...เดาไม่ออก
“คนรู้จัก”สุดท้ายก็ได้ข้อสรุป เพื่อนก็ไม่ใช่เพราะแม่งตีกันจะตายในหนึ่งวัน ไม่ใช่เพื่อนก็ต้องคนรู้จักเนี่ยแหล่ะ แต่สายตาเคลือบแคลงใจของเพื่อนทรพีอีกสองตัวที่มองมาก็ทำเอาหนาว ๆ ร้อน ๆ แม่งทำยังกะกูโกหก”เฮ้ย กูพูดจริง”
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหวจนคนพูดจริงสะดุ้ง ยุนโฮหันซ้ายหันขวา อากาศแจ่มใสแบบนี้แม่งฟ้าเสือกผ่า พระเจ้าไม่เชื่อกูขนาดนั้นเลยรึไงวะ เชรี่ยเอ๊ย ซีวอนหันไปแท็กมือกับยูชอนด้วยความสะใจที่แม้แต่สรวงสวรรค์ยังไม่เชื่อคำของชองยุนโฮ (ก็แม่งโคตรไม่น่าเชื่อ) ยูชอนลุกขึ้นจากเก้าอี้ไฮโซที่นั่งอยู่แล้วทำหน้าเห็นอกเห็นใจ
“Hey, Baby”เอาสำเนียงอังกฤษกระแดะ ๆ มาพ่นใส่กูอีก ยุนโฮทำหน้าเหม็นเบื่อกับความเท่ห์ที่คนพูดมันคิดไปเองคนเดียว”Don’t worry
I’ll let you have a sweet time with Jaejoong
.”
สาด กูฟังออกอยู่คำเดียวคือคำว่าแจจุง
“มึงกรุณาสื่อออกมาตรง ๆ ไอ้เหี้ยห้อย”ยุนโฮทนไม่ไหวเลยขอด่าไปเสียก่อน ยูชอนยิ้มพรายแล้วหยิบเอกสารงานสัมมนาของบริษัทขึ้นมาอ่าน
“ไปเฉพาะผู้จัดการขึ้นไปใช่มะ .. ก็มีห้องให้ สองคนนอนหนึ่งห้องแล้วกัน กูให้เป็นกรณีพิเศษ แล้วมึงก็ซ่อนเมียพวกมึงไว้ในนั้นแล้วกัน”ซีวอนยิ้มรับ แต่ยุนโฮกลับทำตาเหลือกกับคำกล่าวหาคำนั้น”ตอนเป็นแมวค่อยเอาออกมากอดมาถูไถอะไรตามสันดาน ...แล้วก็ถ้าใครมาเจอ หาทางแก้เอาเองแล้วกัน”คำประกาศิตที่แสนจะไม่ไยดีของยูชอนทำให้สองเพื่อนหนุ่มอย่างยุนโฮซีวอนถอนหายใจเฮือก โยนให้กูตลอด อะไรเกิดก็โยนตลอด”กรุณาย้ายตูดพวกมึงออกไปได้แล้ว กูต้องทำงาน”
“ครับ ๆ ท่านประธาน”ซีวอนเองก็โอเค ถ้าหากว่ามีที่ให้ฮีชอลหลบอยู่ในนั้น ตอนกลางคืนให้อุปโลกน์ตัวเองก็ได้ว่ามาจากบ้านพักข้าง ๆ ของอีกคณะทัวร์ แล้วโมเมเอาอีกทีว่าเป็นเพื่อนกันเลยพามาแนะนำที่นี่ ซึ่งความคิดแบบนี้ก็เข้าทางซีวอนอยู่แล้วในเรื่องการสับรางหลอกคนอื่น แต่สำหรับยุนโฮ...
คิดออกแค่ขังแจจุงไว้ในห้องไม่ให้ไปไหน แค่นั้นแหล่ะ - -
++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห่างหายจากการแต่งอะไรหวาน ๆ ไปนานย่อมคิดไม่ออกเป็นธรรมดา
ไม่ชินกับเรื่องที่เรื่อย ๆ แล้วอ่ะ ไรท์เตอร์อยากสร้างปัญหาเร็ว ๆ !! 55
จะรีบปั่นรีบลงฮะ T^T
กลัวหมดปิดเทอมแล้วอดแต่งแบบนี้แฮะ
พรุ่งนี้ไรท์เตอร์ไปสยามดิส ไปลุ้น 12+
ขอให้ได้ ขอให้ได้ สาธุ!
จะกลับมาอัพตอนดึก ๆ หน่อยนะ กลับดึก 55
แล้ววันที่ 13 ใครไปกีฬาสีเอลฟ์บ้างอ้ะ ไรท์เตอร์ไปนะ อยู่สีชมพู
ความคิดเห็น