ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi SuJu] White Love Story [Kihae,Kyumin]

    ลำดับตอนที่ #61 : [HBD FIC] {KyuMin} * Happy Together

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 52


    [Fic HBD to My friend] ,{KyuMin} : Happy Together

     

    ผมกำลังรู้สึกเหมือนฝันไป

     

    เพียงแค่ร่างนั้นเดินผ่าน ผมก็หยุดเคลื่อนไหว นัยน์ตาและศีรษะหันตามไปโดยไม่รู้ตัว จมูกเหมือนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยมาตามสายลม ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไร เรือนผมระต้นคอสีดำนั่นยังติดตาผมอยู่ ขาทั้งสองข้างเองก็ก้าวตามไปอย่างไม่รู้ตัว ผมเดินตาติดไปเข้าคอฟฟีช็อปหน้าโรงเรียนที่ไม่เคยคิดเหยียบย่างจนได้

     

    "อ่า..เอากาแฟใส่นมหวานครับ"

     

    "สั่งแบบนี้ทุกทีเลยนะคะ"

     

    เสียงของหญิงสาวพนักงานบอกพร้อมกับเดินไปทำมาให้ กลิ่นของนมหวานที่ผมไม่ชอบลอยมาแตะจมูก แต่ทำไมนะ..ใจของผมที่กำลังเต้นรัวเร็วอยู่ตรงนี้กำลังบอกให้ผมคิดจะลองกินนมที่ผมเกลียดที่สุดดูซักที ร่างบางข้างหน้าที่ห่างกันเพียงช่วงแขนหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับรับแก้วกาแฟอุ่น ๆ มาถือไว้ในมือ ผมมองเสี้ยวหน้าขาวสว่างที่เห็นลอดผมสีดำสนิทออกมา รอยยิ้มนั้นสวยเหลือเกิน

     

     

    "รับอะไรดีคะ?"

     

    ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ เขาคนนั้นเดินออกไปแล้ว ผมก็ได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนี้ สมองตีพันกันมั่วซั่ว ฟากหนึ่งบอกให้จัดการเรื่องกาแฟ อีกฟากก็บอกให้ตามคน ๆ นั้นไป

     

    "รับอะไรคะ?"

     

    เสียงหญิงสาวคนนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง ผมสั่นหัวเพื่อปลุกสติและสั่งด้วยเสียงอมยิ้มน้อย ๆ

     

     

    "กาแฟใส่นมหวานครับ"

     

     

     

    นั่นแหล่ะการพบกันครั้งแรกของผมกับเขา

     

     

     

    รอยยิ้มเจิดจ้าสว่างไสวยังคงอยู่ในสายตาของผม ใบหน้าเรียวที่ติดอวบนิด ๆ ริมฝีปากน่ารัก ๆ พร้อมกับฟันที่เหมือนกระต่าย รูปร่างกำลังดี ถึงแม้จะอวบไปนิดก็เถอะ เขาใส่ชุดเครื่องแบบโรงเรียนผม เข็มที่กลัดไว้บอกได้ว่าอยู่มัธยมปลายปีที่สอง อันที่จริง สวยมากไหม..ก็ไม่ได้สวยมาก น่ารักมาไหม ก็ไม่ได้น่ารักมาก แต่ผมกำลังตกหลุมคน ๆ นี้

     

     

    ใจมันบอกว่าคน ๆ นี้แหล่ะที่ใช่

     

     

    แต่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรไม่มีใครรู้ อาจจะเป็นเพราะความบังเอิญ หรือจงใจ มันเร็วมากจนตั้งตัวแทบไม่ติด สายตาผมเห็นทันแค่ชื่อบนอกเสื้อ กับรอยยิ้มที่สะกดให้ผมหลงใหลแค่นั้น

     

    ...อีซองมิน...

     

     

     

    โจคยูฮยอนเสียงเรียกชื่อที่มาพร้อมกับแรงมือหนัก ๆ ที่ป้าบเข้าให้บริเวณไหล่ แต่แรงแค่นั้นก็ไม่ได้ทำให้คนที่นั่งเหม่อมานานเกินครึ่งชั่วโมงหันมาสนใจ ทั้ง ๆ ที่ปกติต้องหันกลับมาโอดโอยซะเว่อร์

     

    โจคยูฮยอน..

     

    ป้าบ !!!

     

    โอ๊ยย...เจ็บนะคร้าบ..คยูฮยอนที่ลงไปนอนกองกับพื้นร้องโอดโอย มือก็จับไหล่ที่ถูกแรงช้างสารของเพื่อนร่วมห้องผลักลงไปนอนกับพื้น เจ้าของแรงมือหมหาศาลก็ได้แต่ยืนกอดอกนิ่งอยู่กับที่เจ๊ติดแรงแฟนเจ๊มารึไงอ่ะป้าทึก แรงหมีชัด ๆ

     

    ป้าบ ! ป้าบ !!

     

    สองป้าบเข้าให้ คยูฮยอนร้องหนักเข้าไปใหญ่พลางสบถภาษาเกาหลีผสมภาษาแปลก ๆ อีกมากมาย อีทึกที่ทำหน้าแค้นไ/ด้เสมือนจริงถอนหายใจอย่างหน่ายปากร้าย ๆ ของคยูฮยอน

     

    รังแกคนหล่อตาดำ ๆ ป้าทำงี้ได้ไงอ่ะ แย่ที่สุดร่างสูงบ่นอุบอิบ พลางยืนขึ้นมา ลูบเนื้อลูบตัวเหมือนกับจะตรวจหาไรโซปัสบนผิว อีทึกเห็นคนห่วงตัวเองแบบนั้นก็ได้แต่หมั่นไส้ ตีเพียะเข้าไปอีกที คยูฮยอนร้องโอ๊ยและกระเถิบตัวหนีแย่ !!”

     

    ใครแย่ นายนั่นแหล่ะ ฉันเรียกนายมานานแล้วนะอีทึกทำตาเขียวใส่เพื่อนที่ชอบเรียกตัวเองเป็นผู้อาวุโสเสมอ ไม่เข้าใจ ทำไมต้องโหดร้ายแบบนั้นกับเขาด้วย - -“คังอินบอกให้ตามนายไปที่ห้องอ่ะ

     

    แหม พี่ยองอุนตาม..คังอินจ๋า เดี๋ยวเค้าไปตามมาให้เองนะคนกวนตีนพูดย้อนกลับได้อย่างน่าขนลุกขอค่าตามหน่อยสิจ๊ะ...แหม มีสามีแล้วลืมเพื่อน ร้ายกาจ She ร้ายกาจ !!”

     

    ไอ้คยูฮยอน !!!”

     

    และสงครามย่อม ๆ เหมือนทุกวันที่มีอีทึกวิ่งไล่กัดคอคยูฮยอนก็ดำเนินไป คนที่ยอมให้อีกฝ่ายทุบตีโดยดีได้แต่หัวเราะน้อย ๆ ถึงแม้ใบหน้าจะยิ้ม ในใจก็ยังกังวลถึงเรื่องเดิม ๆ ไม่เคยเปลี่ยน

     

    วันนี้เขาถูกพี่ยองอุนตามตัวไปหามือกีตาร์คนใหม่ที่มาแทนคนเก่าที่ออกไป เพราะเขาเป็นนักร้องนำของวง สมาชกทุกคนจึงจำเป็นต้องไปพบเพื่อสร้างความคุ้นเคยไว้เสียก่อน แต่ให้ตายเถอะ ถ้าเขาไปเจอก็คงจะไม่ทันเวลาสี่โมงครึ่ง

     

    เวลาที่ซองมินคนนั้นจะไปที่คอฟฟีช็อป ที่เดิม เวลาเดิม กาแฟแก้วเดิม เขาก็แค่เดินไปสั่งบ้าง แล้วก็นั่งมองจากมุมไกล ๆ ที่เดิม เวลาเดิมเช่นกัน เพื่อนในกลุ่มก็สงสัยบ้างว่าทำไมเขาถึงได้กลับบ้านเร็วทั้ง ๆ ที่ปกติควรจะกลับประมาณหกโมง เขาก็ได้แต่ปิดปากเงียบ

     

    ขืนบอกออกไปสิ พวกมันได้ล้อตายพอดี -*-

     

    ป้า ถ้าผมไม่ไปแล้วแฟนป้าจะว่าไรมั้ยอ่ะพอพักเหนื่อยจากการวิ่งไล่ คยูฮยอนก้เอ่ยถามอีทึก ร่างบางเบ้หน้าอย่างไม่ชอบใจ อายุก็แก่กว่าไม่กี่เดือน แต่ไหงไอ้เพื่อนคนนี้แทนตัวเองว่าผม แล้วเรียกเขาว่าป้าทุกที ไม่รู้มันจะหาว่าเขาแก่อะไรมากมายหนักหนา

     

    แต่มันก็ดีอย่างหนึ่ง ถึงเขาจะด่าอะไรเท่าไหร่ จะทำร้ายร่างกายไปซักเท่าไหร่ คยูฮยอนก็ไม่เคยทำอะไรเจ็บ ๆ กลับมาซักครั้ง แต่ก็เสียแค่ความปากร้ายของมันนั่นแหล่ะ - -

     

    ไม่รู้ ไปขอคังอินเค้าเองสิ

     

    พึ่งอะไรไม่ได้เล๊ยเสียงบ่นอุบอิบที่คนบ่นจงใจให้ได้ยินเรียกให้อีทึกหันไปเอามือฟาดที่ไหล่อีกครั้ง

     

    อะไรนะ !”

     

    ปล๊าววเสียงสูง ๆ น่าถีบนั่นทำให้อีทึกต้องยกเท้ายันโครมไปอีกที เหนื่อยใจกับความกวนตีนของคยูฮยอนมันจริง ๆ = =

     

     

    ร่างสูงเดินมาตามทางที่จะไปยังห้องซ้อมดนตรี ใบหน้านั่นมีแววเสียดายนิด ๆ ที่วันนี้ไม่ได้โอกาสไปนั่งมองซองมินคนนั้นอีกหน่อย พูด ๆ ไปอาจจะหาว่าเพ้อ เขาเล่นไปทำแบบนี้มาสองอาทิตย์แล้ว ทุก ๆ ครั้งที่มองเห็นซองมิน หรือซองมินเห็นเขา ร่างเล็กนั่นก็ยิ้มให้หรือไม่ก็เมินผ่าน แหงสิ ก็อีกฝ่ายเป็นผู้ชายเหมือนกัน คงไม่คิดหรอกว่าจะมีใครมาเกาะติดขนาดนั้น

     

    และจากการสังเกต ทำให้คยูฮยอนรู้ว่าร่างบางมักจะมานั่งที่นี่ทุกสี่โมงครึ่ง กลับเวลาห้าโมงครึ่งโดยที่มีคนมารับ แล้วก็ซองมินน่าจะมีพี่ชายหนึ่งคน แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร พี่ชายคนนั้นเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเสียด้วย

     

    เขาทำแบบนี้มาตั้งสองอาทิตย์แล้ว ยังไม่เห็นทางที่จะใกล้มากกว่านี้

     

    แต่ก็เอาวะ พอใจ - -

     

    ซองมินคงเห็นว่าเขาเป็นเด็กนั่นแหล่ะ ทำไงได้ ฝ่ายนั้นอยู่ตั้งปีสาม เขาก็แค่เด็กแก่แดดอยู่ปีหนึ่ง เรื่องจะให้ตีสนิทก็ไม่มี ได้แต่รอความบังเอิญไปเรื่อย ๆ เหมือนครั้งแรกเท่านั้นเอง

     

    คยูฮยอนผลักประตูห้องซ้อมเข้าไปโดยที่อ้าปากหาวไปด้วย ช่วงนี้ไม่มีงานที่ไหนให้เขาไปร้องเพลง ถึงได้โดดซ้อมติด ๆ ๆ ไปตามหาคนน่ารักคนนั้นแทน

     

    วงของพวกเขาดังพอสมควร เนื่องจากว่าสมาชิกหน้าตาดี เวลาไหนมีงานโรงเรียนก็จะเป็นวงปิดงานเสมอ มีนักเรียนสาวจากต่างโรงเรียนกรี๊ดเยอะเหมือนกัน แต่ในโรงเรียนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเขาเรียนชายล้วน ถ้าจะมีปัญหาก็มีแต่เรื่องเขาไปกวนตีนคนอื่นจนได้เรื่องนั่นแหล่ะ - -

     

    กว่ามึงจะมานะไอ้เด็กแก่แดดเสียงทักทายอันสุภาพของคุณรุ่นพี่คิมยองอุน ตำแหน่งมือกลอง เจ้าตัวนั่งทำหน้าบูดอยู่ตรงโซฟาริมห้องที่ต้องรอไอ้เด็กจอมโอ้เอ้ที่ทำให้วงตองซ้อมแบบไร้คนร้องนำไปเสียนาน

     

    ไปติดสาวที่ไหนมาล่ะและก็อีกเสียงบ่นของตำแหน่งเบส ชเวซีวอน เจ้าตัวกำลังนั่งปรับสายกีตาร์ให้แฟนสาว(?)ตำแหน่งมือกีตาร์

     

    คยูฮยอนยักไหล่ พลางกระโดดขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ มองซีวอนกับฮีชอลอี๋อ๋อกันด้วยหมั่นไส้

     

    ไม่ติดสาวร้ายกาจแบบแกแล้วกันซีวอน

     

    ว่าใครร้ายกาจ?”คิมฮีชอลหันหน้ามามองทันที คยูฮยอนกลอกตาและยักไหล่อย่างกวน ๆ คังอินถอนหายใจเฮือกและตัดบทกลางศึกในวง

     

    อยากเจอสมาชิกใหม่มั้ย?”

     

    เค้าเป็นใครอ่ะฮะ?”คยูฮยอนหันมาตั้งคำถามให้กับคังอิน ร่างสูงส่ายหัวเบา ๆ

     

    ให้แกเห็นเองเหอะไอ้คยูฮยอน

     

    อันที่จริงถ้าไม่มีอะไรก็ไม่น่าให้มา เสียเวลา - -

     

    คยูฮยอนได้แต่คิดแบบนั้น มือหยิบหูฟังขึ้นมาเสีบ หนึ่งเพื่อแก้เบื่อ สองเพื่อหลบหนีเสียงจิ๊จ๊ะของคู่รักหวานเลี่ยนข้าง ๆ ทำไมฟะ พี่ยองอุนก็มีแฟนแล้ว (ไม่ไกลมากมาย ป้าทึกนั่นแหล่ะ) สองคนนี้ก็เริ่มไม่สวย แต่ซีวอนจับปล้ำทีเดียวเสร็จ -..-

     

    ดูเหมือนสมาชิกใหม่จะถูกยองอุนพาเข้ามาแล้ว แต่คยูฮยอนก็ยังเลือกเพลงอยู่ไม่เลิก ไม่ได้หันไปสนใจเท่าไหร่นัก ได้ยินเสียงฮีชอลโวยวายหน่อย ๆ

     

    แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอยู่ดี...

     

    เฮ้ย คยูฮยอน ลงมาดิ้เสียงสั่งของคังอินพร้อมกับมือที่ดึงหูฟังออกไป ร่างสูงเบ้หน้า เขากระโดดลงจากโต๊ะและเดินไปหาสมาชิกใหม่ที่หันหลังให้ ร่างนั้นดูคุ้นตาเอามาก ๆ จนหัวใจเขาเต้นอย่างประหลาด..

     

    นั่นใครกันนะ...

     

    นี่..อีซองมินเค้าจะมารับหน้าที่เล่นคีย์บอร์ดชั่วคราวคังอินบอก แต่ดูเหมือนคยูฮยอนจะไม่ได้ฟัง นัยน์ตาที่จ้องซองมินอยู่มีแววตาทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจ รอยยิ้มแบบที่ทุกคนไม่ค่อยเห็นจากหนุ่มกวนตีนคนนี้ก็ผุดขึ้นมา

     

    โจคยูฮยอนครับ

     

    อื้อ...ยินดีที่ได้รู้จักนะ

     

    คยูฮยอนกำลังรู้สึกเหมือนฝันไป

     

    ขอบคุณคิมยองอุนที่ทำให้เขาได้รู้จักคนตัวเล็กนี่มากกว่าเดิมซะแล้ว..

     

     

    นี่...ฮีชอล มึงว่าคยูฮยอนมันแปลกไปป่ะคังอินกระซิบถามเพื่อนรุ่นเดียวกัน ฮีชอลถอนหายใจ ร่างบางกำลังซบอกซีวอนนั่งมองคนสองคนที่แยกไปคุยกันต่างหากที่มุมห้องโน้นอย่างหมั่นไส้

     

    กูก็ว่างั้นว่ะ เชี่ยแม่ง ดูมันดิ่ แม่งไม่กวนตีนไอ้ซองมิน แถมพูดน้อยกว่าเดิมตั้งเยอะ

     

    ที่รักครับ..พูดจาไม่เพราะเลยซีวอนเตือนเบา ๆ อันที่จริงไม่แปลกนั่นแหล่ะเพราะฮีชอลกับคังอินเป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม ส่วนเขาเป็นเพื่อนกับไอ้คยูฮยอนมัน ไม่งั้นคงได้พูดกันไปอีกคนแล้ว

     

    ครับคุณบาทหลวงซีวอน..อ้ะ คำขอโทษฮีชอลยืดตัวขึ้นไปจูบปากซีวอนทีนึงแล้วกลับมานั่งสังเกตหมาป่าที่กลายเป็นหมาบ้านไปแล้วมึง..เอ๊ย เอ็งว่าคยูฮยอนมันชอบซองมินป่ะ?”

     

    มึงพูดเชี่ยไร สองคนนี้เจอกันครั้งแรกนะเว้ยคังอินแย้ง แต่เขาเองก็อดเห็นด้วยไม่ได้ ดูสายตาไอ้คยูฮยอนดิ่ ทำยังกะอยากกินซองมินเข้าไปทั้งตัวแล้ว = =

     

    เป็นไปได้นะ..รักแรกพบไงซีวอนเองก็ตั้งข้อสังเกตอาจจะมีมานานกว่านี้ก็ได้ เชี่ยคยูมันกลับเย็นทุกวันใช่ป่ะ อาจจะไปดักรอพี่ซองมินก็ได้

     

    เออว่ะ มึงฉลาดคังอินพยักหน้าหงึก ๆ ฮีชอลเองก็มองไปที่สองคนนั้นด้วยความหมั่นไส้

     

    ก็ดี วงเราจะได้หมดคนโสดฮีชอลรำพึงเบา ๆ และทั้งสามคนก็สังเกตการณ์ต่อไปอย่างไม่ลดละ = =

     

     

     

    พี่เห็นเราทุกวันที่ร้านกาแฟข้างหน้าเลยนะ ชอบกินเหรอ?”

     

    ก็...ฮะ ชอบคยูฮยอนตอบแบบคิดหนัก เขากลียดกาแฟหวาน แต่ที่ผ่านมาต้องกินไปด้วยจนเอียน ให้ตายเถอะ

     

    พี่ชอบกินกาแฟใส่นมหวานแหล่ะ บางวันก็ใส่น้ำผึ้ง นมข้น พี่ชอบของหวานน่ะซองมินบอกอีกครั้ง คยูฮยอนได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แต่ละอย่าง โคตรหวานทั้งนั้น - -;;

     

    ถึงว่า..และเขาก็อดไมได้ที่จะบ่นเสียงเบา ๆ ถึงว่าอวบได้อีก ซองมินเองท่าทางจะไม่ได้ยิน ร่างเล็กยังพูดไปเรื่อย ๆ ด้วยท่าทางมีความสุข ทิ้งให้เขาที่เคยพูดมากจนทั้งห้องยกนิ้วให้นั่งฟัง แถมเงียบเป็นเป่าสาก

     

    เก่งจริง ๆ - -

     

     

    เอ้อ...พี่ซองมิน

     

    ประมาณสิบนาทีต่อมาคยูฮยอนถึงได้รวบรวมความพยายามที่จะพูดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ร่างบางหยุดพูดเรื่องรัฐาสภาแล้วหันมามองหน้าคยูฮยอนด้วยนัยน์ตาใสแป๋วนั่น

     

    อะไรเหรอ?”

     

    ..เอ่อ...

     

    รู้สึกยุ่งยากใจ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนทำแบบนี้ไม่เคยเป็น

     

    ขอเบอร์พี่ซองมินหน่อยสิ

     

    และคำที่เขาอยากพูดก็หลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งตัว ซองมินเลิกคิ้วนิด ๆ อย่างประหลาดใจ ใบหน้าหวานยิ้มบางเหมือนเอะใจอะไรบางอย่าง คยูฮยอนหลบตาไปทางอื่น เขารู้สึกว่าหน้าเขากำลังร้อนผ่าวอย่างไม่ได้ตั้งใจ

     

    เอาไว้เรียกซ้อมครับ เผื่อ ๆ..

     

    ข้อแก้ตัวที่โผล่ออกมาเงียบหายไป คยูฮยอนก้มหน้าลงหนักกว่าเดิม...น่าแปลกที่เขากำลังเขิน น่าแปลกจริง ๆ

     

    งั้นขอเบอร์นายด้วยแล้วกัน

     

    คำตอบนั่นทำให้คยูฮยอนอดยิ้มไม่ได้

     

    น่ารัก...

     

    น่ารักมาก ๆ

     

     

     

    เค้ากำลังตกหลุมรักคน ๆ นี้สินะ

     

     

    อีกวันแล้วที่มันทำตัวแบบนี้

     

    ปาร์คจองซูมองไปทางหลังห้องที่มีใครบางคนนั่งอยู่ ร่างสูงนั่งอยู่บนโต๊ะ มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วยิ้มอยู่คนเดียว ทั้ง ๆ ที่เขากำลังบอกข้อความเรื่องงานโรงเรียนอยู่ แต่คยูฮยอนก็ไม่สนแม้แต่นิดเดียว

     

    มันเป็นบ้าอะไรวะ แม่งยิ้มคนเดียว หัวเราะคนเดียว พักนี้ก็รีบร้อนซ้อมดนตรีจนน่าจับมาตบ ๆ ๆ

     

    รู้ว่ามันไม่มีทางขยันเพราะงานโรงเรียนหรอก มันต้องมีอะไรซักอย่าง

     

    อย่าให้ฉันรู้นะคยูฮยอน - -+

     

    ทำตามที่ตกลงกันไว้นะ แล้วก็..แบ่งงานกันมาดี ๆเขาจบคำสั่งลงแล้วปล่อยให้พวกหัวหลักของห้องปรึกษาทำงานโครงงานกันไป ร่างบางเดินลัดเลาะเข้าไปหาคนที่นั่งยิ้มอยู่คนเดียวเงียบ ๆ

     

    แกเป็นบ้าอะไรวะคยูฮยอน

     

    ความลับ

     

    ไอ้เวร = =”

     

    กวนตีนมั้ยล่ะ ถามทีไรตอบเป็นคำเดียว ความลับ แล้วสีหน้าน่าหมั่นไส้ ทำเหมือนคนมีความรักนั่นอีก!! น่างสงสัยว่าใครเป็นคนที่มันชอบ ร้อยวันพันปีมั้ยไม่เคยสนสาวที่ไหน ขนาดดาวโรงเรียนสตรีข้าง ๆ มาฉีกยิ้มหวานตาโจคยูยังไม่คิดสนใจ แล้วมันไปชอบใครเข้าฟะ = =

     

    ความลับ..คึคึ~”

     

    คยูฮยอนยังคงเพ้อต่อไป แต่เสียงประตูหน้าห้องเปิดและคนเรียกก็ต้องทำให้อีทึกหันไปตบศีรษะร่างสูงเรียกสติดังป้าบ

     

    คยูฮยอนนน มีคนมาหานายยย ~~”

     

    แป๊บนะ เดี๋ยวไปคยูฮยอนคลำหัวที่ถูกอีทึกฟาดอย่างเจ็บปวด ก่อนที่จะทำตาค้างเมื่อเห็นใบหน้าที่ตัวเองคิดถึงมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมา เบอร์มีก็ไม่กล้าโทรไปทั้ง ๆ ที่เขียนสคริปต์ไว้ตั้งหลายแผ่น (มันบ้าจริงเว้ย  = =) ซองมินโผล่หัวเข้ามาฉีกยิ้มระรื่นให้คยูฮยอน

     

    สวัสดีคยูฮยอน ^^”

     

    พี่ซองมิน...

     

    อ่า...ประชุมเรื่องงานโรงเรียนอยู่ล่ะสิซองมินหันไปถามทั้งห้องด้วยรอยยิ้มสดใส บางคนพยักหน้าตอบแต่ไม่มีใครพูดอะไรเพราะตกใจกับปฏิกิริยาของคยูฮยอนมีปัญหาอะไรถามรุ่นพี่แก่ ๆ ก็ได้นะ ~”

     

    รอยยิ้มของซองมินดูสดใสจนคนอื่นต้องยิ้มตาม

     

     

    สีหน้าคยูฮยอนดูตกใจ แก้มขึ้นเป็นสีระเรื่อนิด ๆ ท้งห้องเริ่มหันมามองบรรยากาศแปลก ๆ ที่ร่างสูงปากร้ายประจำห้องเงอะงะเป็นเด็กสามขวบ ทั้งภาพของรุ่นพี่หน้าหวานคนนั้นอีก

     

    พี่ทำขนมมา เอามาฝากว่าแล้วมือบางก็ยื่นถุงให้ ร่างสูงพึมพำขอบคุณเบา ๆ และได้แต่มองใบหน้าของซองมินอยู่แบบนั้น

     

    ...พี่ไปและ มีเรียนต่อมาไวไปไว ซองมินเดินออกไป ทิ้งแต่รอยยิ้มหวานให้คยูฮยอนติดตาส่งท้าย ร่างสูงยืนถือถุงขนมอยู่แบบนั้น สีหน้าก็ดูเหม่อลอยเหมือคนมีความรัก ทั้งห้องเงียบกริบมองดูคยูฮยอนที่ควรจะถามซองมินว่ากินได้หรือเปล่า ไม่ตายใช่มั้ยตามประสาปากเสีย ๆ ของมัน เมื่อคยูฮยอนเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ รอยยิ้มดีใจจึงได้ผุดเต็มสองแก้ม

     

    ทันใดนั้น ทั้งห้องก็ระเบิดเสียงแซวทันที บางคนก็ร้องแหม ๆ บางคนก็ทำท่าล้อเลียนจนน่าหมั่นไส้ แต่คยูฮยอนก็ไม่ได้สนใจอะไรเพียงแต่นั่งยิ้มอยู่แบบนั้น มือใหญ่แกะถุงออกและพบว่ามันคือคุกกี้กาแฟหลายชิ้น อีทึกที่ยื่นมือเข้ามาจะดูบ้างก็ถูกตีเพียะจนต้องถอย

     

    “..หวง

     

    ไอ้เชี่ย ทำเป็นหวงอีทึกบ่นอุบ ใจหนึ่งก็ขำใจหนึ่งก็หมั่นไส้ เป็นเพื่อนกับมันมาสามปีเพิ่งเคยเห็นคนที่ทำให้คยูฮยอนเป็นได้มากขนาดนี้ เขาไม่รู้ว่าคน ๆ นั้นเป็นใครแต่ท่าทางก็ดูมนุษย์สัมพันธ์ดีใช่เล่นชอบพี่เค้าล่ะสิ เงียบนะเนี่ย

     

    “…ก็....อื้อ...ชอบเสียงของร่างสูงแผ่วลงพลางยิ้มกับตัวเองด้วยสีหน้ามีความสุข อีทึกเบ้ปากและผลักหัวของร่างสูงไปหนึ่งที่ แปลกเสียยิ่งกว่าแปลกที่คยูฮยอนไม่หันมามองหน้าหรือโต้ตอบเหมือนเคย อันที่จริงคยูฮยอนก็ไม่ได้ร้ายกาจไปตามปากเสียหมด เวลาที่มีใครว่าอะไรแรง ๆ หรือตบตีอะไรคยูฮยอนไม่เคยทำอะไรรุนแรงกลับซักครั้ง แต่เสียที่วาจานี่แหล่ะที่ร้าย

     

    แล้วคราวนี้มันไม่หันมาด่าเหมือนเคย

     

    อีทึกมองคยูฮยอนที่ทำตาเคลิ้มด้วยสีหน้าทั้งขำทั้งประหลาดใจ ร่างบางตัดสินจะจะเดินออกมาโทรหาคนรักของตัวเองเพื่อปรึกษาซะงั้น

     

    กลัวจริง ๆ นะ มาดคยูฮยอนแบบนี้ - -

     

     

     

    คังอินกำลังนั่งดูเนื้อเพลงในมือที่คยูฮยอนยื่นความประสงค์เข้ามาโดยตรงว่าอยากร้อง ตามปกติวงของเขาจะร้องสามเพลง สองเพลงนั้นก็ปกติดีอยู่หรอก แต่อีเพลงสุดท้ายนี่ฉีกแนวอย่างสิ้นเชิง ปกติจะร้องเพลงมัน ๆ กันเสียมากกว่า ปีนี้มาแปลกอะไรที่คยูฮยอนอยากจะให้วองมินเล่นเปียโนให้ไปด้วย แล้วก็ซองมินร้องเพลงไปด้วยคู่กันอีกต่างหาก เจ้าตัวเองก็บอกให้เขาเก็บเป็นความลับซะงั้น

     

     

    เสียงแบบนั้นร้องได้อยู่แล้วน่าพี่ เสียงใส ๆ น่ารัก ๆ จับมาฝึกหน่อยก็ดี ถ้าเป็นพี่นะ เลิกล้มไปเหอะ ร้องเพลงกล่อมหมีหมาที่บ้างง่ายกว่าความคิดเห็นของไอ้เด็กกวนตีนที่ไม่ทิ้งลายการกัดเขา คังอินทำหน้าหนักใจและถามกลับไป

     

    ซองมินจะยอมเหรอ

     

    ปล่อยให้ผมถามเถอะน่า...พี่ยองอุนฮะ เก็บเป็นความลับนะ อย่าให้พี่ซองมินรู้นะว่าผมเอาเพลงนี้ท่าทางของคยูฮยอนตีความได้อย่างเดียว

     

    มันกำลังตกหลุมรักขั้นหนัก

     

    เพลงที่คยูฮยอนเอามาให้มีชื่อว่า’Happy Together’ เพลงนี้คยูฮญนอบอกว่าเคยแต่งแล้วเก็บไว้เมื่อนานมาแล้ว ไม่รู้มันนึกครึ้มใจอะไรเอามาเล่นคราวนี้ โน้ตก็พอไปไหวอยู่...

     

    ซองมินคังอินตัดสินใจเรียกคนที่นั่งซ้อมอยู่อีกฟากฝั่งเดินเข้ามาหา ซองมินหยุดไล่เสียงโน้ตและมองหน้าคังอินเป็นเชิงถามว่ามีอะไรมานี่ดิ้

     

    อะไรเหรอร่างบางเดินเข้ามาพลางชะโงกหน้ามาดูกระดาษในมือคังอิน ซองมินเป็นคนเก่ง มาซ้อมได้อาทิตย์กว่า ๆ ก็จำเนื้อได้ดี แต่ไม่รู้จะร้องเพลงเป็นยังไงเท่านั้นแหล่ะ ยิ่งอ่านเนื้องยิ่งหมั่นไส้คนแต่ง

     

    ก็งานโรงเรียนน่ะ คือ..จะถามว่านายร้องเพลงเป็นมั้ยคังอินตัดสินใจถาม ซองมินเลิกคิ้วและทำหน้าไม่แน่ใจ

     

    ก็พอไหวมั้ง คงไม่เพราะหรอกร่างบางหัวเราะน้อย ๆ คังอินมองข้ามไหล่ร่างบางไปหาคยูฮยอนที่แอบมาฟังด้วยสีหน้าลุ้น ๆ คังอินส่งกระดาษในมือให้ซองมิน

     

    ลองร้องหน่อยสิ คือเมโลดี้เพลงนี้เหมาะกับเสียงนายมากเลยนะเอาข้ออ้างมั่ว ๆ ขึ้นมาใช้ ซองมินหยิบขึ้นมาอ่านแล้วก็เดินไปที่คีย์บอร์ด วางโน้ตลงแล้วเริ่มไล่เสียงช้า ๆ

     

    เพราะดีเหมือนกันแฮะ

     

    คังอินคิดในขณะที่นั่งฟังทำนองที่ซองมินลองเล่นดูก่อน เสียงประตูเปิดผัวะดังขึ้นอีกทาง ฮีชอลเดินเข้ามาพร้อมกับสีหน้าตื่นเต้น

     

    เพลงใหม่เหรอยองอุน ?”

     

    อื้อ นายไม่ได้เล่นหรอก อันนี้เพลงของคยูฮยอน มันกันให้มันกะซองมินร้อง

     

    ฮีชอลเบ้ปาก ทำท่าจะด่าไอ้เด็กกวนตีนซักครั้ง แต่พอหันไปทางคยูฮยอนเพื่อมองหน้าก่อนด่าก็ต้องแอบยิ้มไม่ได้ แหม ก็สีหน้าเล่นดูอ่อนหวานอ่อนโยนซะขนาดนั้น นั่งมองซองมินเล่นเปียโนจนอีกฝ่ายจะท้องแล้ว

     

    ซองมินหยุด แล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง คยูฮยอนเดินไปข้างหลังซองมิน วางมือลงบนไหล่ร่างบางช้า ๆ ซองมินไม่ได้ได้ตกใจอะไรมากมาย พอถึงจังหวะที่ต้องรอ้ง ร่างสูงก็ใช้เสียงทุ้ม ๆ มีเสน่ห์ของตนร้องเพลงออกมาโดยที่เสียงนั้นแทบจะอยู่ข้าง ๆ หูซองมิน

     

    ในวันนี้ ผมยังจำท่าทางของคุณที่รอผมได้ ในบางครั้งที่ต้องการพลัง ผมจะคิดถึงคุณเสมอ

     

     จบท่อนนั้นไปแล้ว ซองมินก็ร้องต่อแทบจะทันที

     

    ขอบคุณครับ ถ้าเวลาที่ดีใจจะยิ้มดัวยกัน และ หัวใจสมบูรณ์ที่รักกันเสมอ

     

    เสียงใสร้องปะปนไปกับเสียงทุ้มของคยูฮยอน ซองมินไม่ได้ร้องดี แต่ถึงขั้นดีมาก ยิ่งภาพที่พวกเขาเห็นมันหวานชื่นซะขนาดนั้น ท่าทางสองคนนี้คงจะไม่รอดกันเองซะแล้ว ฮีชอลเองก็หันหน้ามามองคังอินด้วยสีหน้ามีความหมาย

     

    แน่นอน...

     

    คังอินเองก็ต่อประโยคให้เลย

     

    ได้กันเอง ชัวร์

     

     

    วันเวลาก่อนงานโรงเรียนผ่านไปเร็วเหลือเชื่อ รวมได้แล้วตั้งสามอาทิตย์ตั้งแต่ซ้อมกันมา ตอนนี้พวกเขากำลังแต่งตัวอยู่ในห้องข้างหลังเวที ที่ต้องให้ดูดีเพราะว่างานนี้มีผู้ใหญ่หลายคนมา แต่เท่าที่ดูเสียงกรี๊ดและเสียงคุยจ้อกแจ้กจากนักเรียนโรงเรียนสตรีข้าง ๆ น่าจะเยอะกว่าเยอะ คยูฮยอน คังอิน ซีวอน ฮีชอลดูสบาย ๆ เพราะผ่านมาแล้วหลายงาน แต่คนที่เดินเป็นหนูติดจั่นก็ไม่พ้นอีซองมิน สมาชิกใหม่ที่ไม่เคยผ่านงานเล่นที่ไหนมาก่อน

     

    จะเดินไปถึงไหนน่ะ ไม่เดินก็รู้ว่าขาไม่ด้วนหรอกฮีชอลแอบกัดเล็กน้อย ซองมินแยกเขี้ยวแต่ก็ยอมนั่งแต่โดยดี คยูฮยอนเหลือบตามองอย่างเสียดายเล็กน้อยที่ซองมินไม่มานั่งข้าง ๆ

     

    เขากำลังหวังอะไรอยู่...ไม่ได้หวังมากมายเท่าไหร่หรอก

     

    แต่งานนี้เขาจะแสดงความรู้สึกออกไปมากที่สุด ยังไงซองมินก็ยังไม่รู้ว่าเพลงนี้เขาแต่งเอง เดี๋ยวพอฮีชอลประกาศก็คงตกใจเองนั่นแหล่ะ

     

    เฮ้อ มีความสุข

     

    ถอนหายใจไปพลางยิ้มไปพลาง รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ คยูฮยอนมองนาฬิกาก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกไปข้างนอกโดยที่ไม่ได้หันไปมองซองมินเพราะอยากไว้ฟอร์ม ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสื้อหนังตัวนอกสีดำเข้ม ให้ความรู้สึกเจ้าชายได้สุด ๆ เดินผ่านฝูงชนไปด้วยสีหน้าไม่อนาทรร้อนใจกับสายตาหลายคู่ที่มองมา เสียงซุบซิบอย่างตื่นเต้นดังเป็นระยะ ๆ ตามมาเรื่อย ๆ

     

    ร่างสูงไปหยุดที่ร้ายขายกาแฟที่ของเด็กม.ต้น รอยยิ้มบางผุดขึ้นที่ใบหน้าจนทำให้บรรยากาศรอบตัวดูอบอุ่นตามไปในพริบตา ร่างสูงนึกถึงคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างใน มือก็หยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเปิดรอไว้

     

    กาแฟใส่นมหวานครับ

     

    กาแฟแบบนี้แหล่ะที่ทำให้เขาได้เจอกับซองมิน

     

    ไม่รู้ว่าหลงรักไปได้อย่างไร แต่เขามั่นใจว่าเขารู้สึกว่าคนนี้แหล่ะที่ใช้ ไม่เคยมีใครทำให้เขายิ้มได้ทั้งวันแบบนี้ ไม่เคยมีใครทำห้เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้แบบนี้...

     

    ดีจังนะ

     

     

    อ้ะเขายื่นแก้วกาแฟให้ซองมิน ร่างบางเงยหน้ามาให้และรับไปกินอย่างไม่อิดออด จากที่เขาลองโทรไปคุยอะไรเล่น ๆ แล้วปล่อยให้ซองมินพูดอยู่คนเดียวทำให้รู้ว่าร่างบางคนนี้นิสัยเป็นอย่างไร จากนั้น ยิ่งรู้จักก็ยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ ซองมินสูง 175 ชอบกินของหวานมาก ๆ เกิดวันที่ 1 มกราคม ชอบกุหลาบสีขาว ชอบสีชมพู ชอบกินฟักทอง

     

    เชื่อมั้ย...ไม่ว่าจะไปที่ไหนด้วยกันอะไรที่เอากลับมาได้เขาเอามาหมด ไม่ว่าจะเป็นตั๋วรถเมล์ที่เขาจ่ายให้ หรือจะเป็นใบเสร็จตอนที่ไปร้านสะดวกซื้อด้วย เขาเอากลับมาเก็บหมด ไม่รู้จะเป้นบ้าอะไรมากมาย แต่เขาก็เป็นไปแล้ว

     

    กินมั้ยซองมินยื่นกลับมาให้คนที่นั่งข้าง ๆ คยูฮยอนงับมันเข้าปากด้วยความเต็มใจ ได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกตัก รู้มั้ย...ว่ามันเหมือนจูบทางอ้อม

     

    หวั่นไหวมากเกินไปแล้ว

     

     

     

    เหมือนจูบทางอ้อมเลยเนอะแต่คนที่พูดขึ้นมาก่อนคือซองมิน คยูฮยอนเบือนหน้าไปยิ้มกับทางอื่นด้วยสีหน้าแปลกประหลาด ทั้งเขินทั้งดีใจ

     

    หวั่นไหว

     

    จริง ๆ นะ

     

    รู้มั้ยจู่ ๆ เขาก็พูดเกริ่นขึ้นมา ร่างบางที่ดูดกาแฟอยู่หันหน้ามามองอย่างสนใจ”Happy togetherผมแต่งเองนะ

     

    ฮื้อ...จริงง่ะ?”ซองมินทำสีหน้าไม่เชื่อจนเขาต้องเอามือไปดีดจมูกโด่ง ๆ นั่นซักที ร่างบางย่นจมูกและดีดกลับคืนบ้าง

     

    อยากรู้มั้ยตอนแต่งคิดถึงอะไร

     

    ไม่รู้สิ นายดูรายการHappy togetherมั้งร่างบางตอบพลางเสไปมองทางอื่น คยูฮยอนเบือนนห้าไปมองพลางยิ้มบาง ๆ

     

    ตอนร้องก็รู้เอง

     

     

     

    เสียงเปียโนดังขึ้นแผ่วเบาและค่อย ๆ ลฃไบ่ขึ้นไป ใบหน้าของหนุ่มหน้าหวานที่นั่งอยู่กับเปียโนสีขาวดูน่าปกป้อง ส่วนอีกคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ดูเพอร์เฟ็กต์ราวเทพบุตร จากเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นเมื่อครู่เงียบลงเมื่อได้ฟังเพลงที่กำลังบรรเลง

     

    ร่างสูงอ้าปากเมื่อถึงโน้ตที่ถูกต้อง เสียงทุ้มถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงที่เขาแต่งเมื่อนึกถึงความรักที่เขาอยากจะปกป้องมันไว้แต่กลับไม่เคยมี บทเพลงนี้เขาถึงได้ไม่เอาออกมา แต่พอเจอกับคนข้าง ๆ นี้...

     

    ใช่ ซองมินคือคนแรกที่เขาคิดจะรักอย่างเต็มหัวใจ

     

    ในวันนี้ ผมยังจำท่าทางของคุณที่รอผมได้ ในบางครั้งที่ต้องการพลัง ผมจะคิดถึงคุณเสมอ

    ขอบคุณครับ ถ้าเวลาที่ดีใจจะยิ้มดัวยกัน และ หัวใจสมบูรณ์ที่รักกันเสมอ

    หัวใจของผมที่เคยแค่รับ ตอนนี้จะให้คุณคืนทั้งหมด

     

    ความรักของผมกับคุณจะใกล้กันเข้ามาอีก ตอนนี้ผมจะรักษาคุณไว้เช่นเดิมเสมอ

    บางครั้ง ถ้าลำบากและเจ็บปวดเพราะว่าเหนื่อยล้า ขอให้คุณแค่ยังเฝ้าคอยก็พอ

    มีความสุขด้วยกันตลอดไป

     

    มือของร่างสูงเอื้อมจากที่วางไว้เฉย ๆ ไปจับทีหน้าขาของซองมินไว้ ร่างบางยิ้มนิด ๆ และตั้งใจเล่นต่อ แต่ก็ไม่วายรู้สึกว่ามีใครกำลังจ้องมองตลอดเวลาอยู่ดี สายตาที่อ่อนโยนแบบนั้นทำให้เขาไม่กล้าหันไปเพราะเดี๋ยวจะเสียสมาธิ

     

    มันอบอุ่น อ่อนโยนจริง ๆ นะ

     

     

    ไม่ว่าใครพูดว่าอย่างไรก็ตาม ผมจะไม่เปลี่ยนใจจากคุณ

    ขอบคุณครับ ถ้าเวลาที่ต้องการพลัง จะร้องไห้ด้วยกัน และอยู่ด้วยกันเสมอ แล้วช่วยรักษามันไว้ด้วย

    หัวใจของผมที่เคยแค่รับ ตอนนี้จะให้คุณคืนทั้งหมด

    ความรักของผมกับคุณจะใกล้กันเข้ามาอีก ตอนนี้ผมจะรักษาคุณไว้เช่นเดิมเสมอ

    บางครั้ง ถ้าลำบากและเจ็บปวดเพราะว่าเหนื่อยล้า ขอให้คุณแค่เฝ้าคอยก็พอ

     

    มีความสุขด้วยกันตลอดไป

     

    มือของร่างสูงเลื่อนขึ้นไปเรื่อย ๆ นิ้วเรียวปัดแก้มเนียนแผ่วเบาเหมือนจะบอกความรู้สึก ซองมินเองก็ได้แต่ก้มหน้าเพราะไม่อยากจะเสียสมาธิ แต่เสียงฮือฮาจากด้านล่างเองก็ดังเข้าหูเขาเช่นกัน

     

    แต่ทำไมล่ะ...ใครจะสนใจ

     

    ในโลกนี้ แม้ว่าเวลาที่ซ่อนน้ำตาที่ไหลเอาไว้

    ตาที่แสบ เมื่อมีคุณอยู่ มีพลัง สามารถยิ้มได้เสมอ HAPPY TOGETHER

    คุณคือทั้งหมดของผม คุณคือที่หนึ่งของผม

    คุณคือของผม แม้จะใครพูดอะไรก็ตาม ที่รัก

     

    ความรักของผมกับคุณจะใกล้กันเข้ามาอีก เมื่อไรก็ตามจะยังอยู่เคียงข้างกัน

    บางครั้ง ถ้าลำบากและเจ็บปวดเพราะว่าเหนื่อยล้า ขอให้คุณแค่ยังเฝ้าคอยก็พอ

     

    อย่าบอกว่าไม่ได้ และ อย่าบอกว่าล้มเหลว (ความรัก ความสุข ตั้งแต่ตอนนี้) ถึงแม้ว่าใครไม่รู้ คุณสามารถทำได้แน่นอน (ความรัก ความสุข ตลอดไป)

     

    ตอนนี้ อย่าเปลี่ยนไป และ ลองยิ้มไปด้วยกัน (ความรัก ความสุข ผมกับคุณ)

    ความสุขทั้งหมดจะอยู่ที่นี่เสมอ (การมีความรัก ความสุขไปด้วยกัน)

     

    มีความสุขด้วยกันตลอดไป         

     

    เพลงจบลงที่เสียงหวาน ๆ ของซองมิน และตามด้วยเสียงปรบมือสนั่นหวั่นไหวกับเพลงทีพู่ดได้ว่าทำเอามดแทบบุกเวที คยูฮยอนกุมมือซองมินไว้และโค้งให้ผู้ชมพร้อม ๆ กัน ริมฝีปากเลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ ใบหูของร่างบางและถามคำถามที่เขาคิดว่าซองมินน่าจะรู้คำตอบแล้ว

     

    รู้รึยังครับ...ตอนแต่งผมนึกอะไร แล้วก็เพลงนี้ผมจะให้ใคร

     

    รู้ก็ได้นะซองมินตอบสั้น ๆ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ

     

     

    ถ้างั้น...ขอผมอยู่ข้าง ๆ พี่นะครับ?”

     

    ร่างบางหยุดเดิน เหมือนกับว่าเวลานั้นหยุดตามด้วย ใบหน้าของคยูฮยอนดูโดดเด่นท่ามกลางสีสันที่พร่าเลือน ริมฝีบางบางแย้มยิ้มและตอบออกมาเสียงแผ่วเบา หากแต่ชัดเจน

     

    ยองวอนฮี...Happy together”

     

     

    Happy Birthday ~~

    แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะอิม ขอโทษนะถ้ามันเผาไปหน่อย แต่พล็อตเรื่องนี้มันใกล้ตัวนะเลยปั่นเร็ว ><

    16 แล้วนะ แก่แล้ว so think about everything more carefully ><

    รักแก ๆ

     

     

    มาและ อิมีนคัมแบ็ค

    ฟิคเรื่องใหม่ลงหลังสอบฮะ วันที่ 21 มีฮันฮยอกตามมาอีกอันแหล่ะ รอกันหน่อยเน้อ...

    พล็อตเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนะ แค่อยากแต่ง บังเอิญมันตรงกับอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตด้วยก็เลยแต่งออกมาเร็วมากพอสมควร

     

    แล้วก็..White love storyจะreprintแหล่ะ เอาไปขาย ใครสนใจบ้าง >< ซื้อผ่านร้านแพงกว่าผ่านเค้านะเอ้อ ~~

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×