คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #56 : ll 40 ll 'Till the end of time'
40
‘Till the end of time’
“มีความสุขดีนะเรา”
“แหงสิฮะ”
ทงเฮเงยหน้าขึ้นมายิ้มแก้มปริให้คนถาม ชินดงส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ เยซองเองก็ยิ้มตามคนตัวเล็กนี่ไปด้วย เขาสังเกตมาค่อนข้างนานพอสมควรว่าทงเฮสดใสขึ้นเยอะ แล้วเมื่อครู่ร่างบางจะร้องเพลงเสียงหลง ๆ ออกมาโดยที่ไม่ได้คิดว่าตัวเองอยู่ที่ไหนถึงได้ถามออกไป
“ทำยังกะพี่ไม่มีความสุขงั้นแหล่ะ”ร่างบางจัดการหันมาเหน็บเข้าให้ พวกเขาไม่กี่คนอยู่ในห้องแต่งตัวของรายการที่มาออกกันไม่กี่คน เยซองหัวเราะน้อย ๆ และหันไปมองรยออุคที่มาด้วยกัน ร่างเล็กส่งยิ้มเขิน ๆ มาให้และหันหน้าไปทางอื่น ทงเฮก็ไม่ได้สังเกตเห็นอาการนั้นเพราะเจ้าตัวหันไปทักทายคนอื่นเสียก่อนแล้ว
“ยุนอา ~~ สวัสดี ~~”
ร่างบางของหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาจากที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่เหนืออะไรซักอย่าง ทงเฮส่งยิ้มให้เสียกว้างในขณะที่หยีตามองกลุ่มสาว ๆ ที่ออกันอยู่ที่อีกมุมหนึ่ง ข้างหลังก็มีสไตลิสต์วิ่งกันให้วุ่นเพราะใกล้ถึงเวลา
“พี่ทงเฮ หน้าบานมาเชียวนะ”
“แหม ไม่ทักแต่ดันมาบ่น”คนหน้าบานยังยิ้มไม่หยุด รู้หรอกว่าวันนี้อารมณ์ดีจัด..แต่ก็ไม่ใช่เพราะอะไร ก็แค่เมื่อคืนได้อยู่กับคิบอมทั้งคืน ก็แค่นั้นเอง
“ช่างมันเถอะยุนอา”เสียงซองมินดังขึ้นด้านหลัง กวางเหม่งหัวเราะน้อย ๆ และหันกลับไปหาคนที่กำลังจ้องPSPเครื่องเล็กที่ฉายการ์ตูนกบสีเขียวอย่างตั้งใจ”อาทิตย์นี้ก็งี้แหล่ะ วันก่อนวิ่งรอบบ้านใหญ่เลย ทำเหมือนถูกรางวัล”
ทงเฮแยกเขี้ยวใส่ซองมิน ผู้ซึ่งพักนี้ดูแปลก ๆ ไป มีรัศมีแปลก ๆ ที่มันอาจจะเป็นความเยือกเย็นบางอย่าง ร่างบางเดินไปที่เก้าอี้หน้ากระจกพลางแตะมือที่แก้มเบา ๆ และเบ้หน้าเมื่อมีคราบสีขาว ๆ ออกมาจากแป้ง สไตลิสต์สาวรีบวิ่งเข้ามาซับหน้าให้ตามปกติ พอหน้าวิ๊งสมใจแล้วทงเฮก็หยิบมือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง
“ข้อความเข้า?”
ร่างบางพึมพำ นิ้วเรียวกดอ่านด้วยใจที่ตื่นเต้นแปลก ๆ แต่พอเปิดกลับมากลับต้องผิดหวัง
ก็แค่ข้อความส่งทวงตังค์
ชิชะ
ร่างบางนั่งนิ่ง ๆ แต่ใจลอยไปถึงใครอีกคนที่อยู่ที่หออีกแห่ง ริมฝีปากบางวาดยิ้มเรื่อย ๆ ไว้บนหน้า นับตั้งแต่วันนั้น ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่เขาบอกว่ารักกับคิบอม แต่ก็ไม่ได้ตกลงเป็นคนรักอะไรกัน คิบอมบอกว่ามันดูไม่แน่นอนเกินไปที่จะใช้คำว่าคนรัก พวกเขาแค่รู้ไว้...ว่าแต่ะคนคือคนพิเศษของอีกคน
สถานะพิเศษที่มีไว้ให้คนพิเศษเท่านั้น
..คิดถึงจังเลย
“คิดถึงจังเลยยย ~”
ทงเฮพูดกับตัวเองและยิ้มแก้มจะแตกตามคิบอมไปอีกคน ใบหน้าหวานก้มลงเพื่อปิดบังรอยยิ้มสดใสนั่น หัวใจก็เต้นเป็นจังหวะแปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้ รู้แค่ว่าอยากจะพูดออกมาดัง ๆ อยากจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเขาสมหวังแล้วนะ
...แต่ก็ทำได้แค่เก็บมันไว้ในใจ
แต่แค่นั้นก็ดีแล้ว
เพราะทุกคนไม่ได้ชอบผู้ชายแบบเขา
ความจริงข้อนี้ทำให้รอยยิ้มสวยหมองไปนิด ๆ แต่ทงเฮก็ปัดความคิดนั้นทิ้งออกไปจากใจ แต่เสียงโทรศัพท์ที่ส่งเสียงขึ้นมาซะดังทำให้ทงเฮสะดุ้ง หันซ้ายหันขวาแบบงง ๆ ซองมินเองก็ชี้มือมาที่มือของทงเฮเพราะร่างบางทำท่าเหมือนหาโทรศัพท์ ทงเฮรีบหยิบขึ้นมาและกดเปิดดู
มันตื้อจริงเว้ย ส่งมาอยู่นั่นแหล่ะ
เดี๋ยวก็ไปจ่ายน่า !
‘คิดถึงนะครับ’
คำ ๆ เดียวที่มองเผิน ๆ ก็คิดว่าธรรมดา คนพิมพ์กดจึ้กสองจึ้กส่งก็ได้ แต่คนที่รู้จักนิสัยคิบอมอย่างทงเฮรู้ว่านาน ๆ ครั้งจะทำอะไรน่ารัก ๆ แบบนี้ ร่างบางรีบกด Reply Message และพิมพ์ตอบอย่างรวดเร็ว
‘คิดถึงเหมือนกัน’
ทงเฮกดส่ง มองรูปจดหมายที่ขึ้นแวบ ๆ ตรงหน้าจอด้วยใบหน้าอมยิ้ม เฝ้ารอเวลาให้ถึงเวลาเลิกงานที่วันนี้เลิกประมาณสามทุ่มกว่า ๆ เพื่อที่จะได้แวบไปหาคิมคิบอม วันนี้สัญญาไว้ว่าจะพาหนีไปนอนหอของคิบอมซะหน่อย...ดีนะที่ไม่มีงานอะไรต่ออีก
เสียงข้อความเข้าดังขึ้นอีก คราวนี้ทงเฮรีบกดเปิดอย่างรวดเร็ว ตัวอักษรไม่กี่ตัวที่ขึ้นมาเรียกรอยยิ้มอีกครั้ง ก่อนที่เสียงเรียกจากเพื่อนร่วมวงจะดังให้ทงเฮลุกขึ้นไปหน้าเวที ร่างบางกดออกและยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ใบหน้าหวานยังคงอมยิ้มอยู่อย่างมีความสุข
‘รักนะ’
คำที่คิบอมส่งมามันอาจจะสั้น แต่เขาก็ยิ้มได้
เพราะคนพิเศษคนนี้คนเดียว
หลังจากที่จัดการร่ำลารุ่นพี่รุ่นน้องในวงการทั้งหลายเสร็จ ทงเฮรีบทำเนียนออกมาก่อนเพื่อส่งข้อความหาคิบอม อีกซักสิบนาทีคิบอมคงจะถึงที่นี่ และเขาก็ต้องเตรียมย่องหนีพวกพี่ ๆ ให้ดี ไม่งั้นคงจะผิดสังเกตกันไปอีก
“...ทงเฮ กลับบ้านกันเลยมั้ย?”
ซองมินชวน ทงเฮส่ายหน้าเบา ๆ ร่างบางก้มดูนาฬิกาอีกครั้งแล้วออกไปหาอะไรทำแก้เบื่อกันต่อ ที่จริงสมาชิกแต่ละคนก็พูดว่าจะกลับไปงั้นแหล่ะ..จริง ๆ ก็เล่นอยู่ต่อกันเกือบหมด พอเวลาผ่านไปได้ตามที่ทงเฮต้องการ ร่างบางก็รีบบอกลาและวิ่งออกมาทันที
ท้องฟ้าสีดำที่พร่างพราวไปด้วยดาวระยิบระยับสวยที่สุดในสายตาของทงเฮ ร่างบางมองหมู่ดาวที่เกลื่อนเต็มท้องฟ้าพร้อมกับอมยิ้ม แอบรู้สึกว่าเหมือนตัวเองใกล้จะเป็นบ้าเพราะเล่นยิ้มติดต่อกันยาวนานขนาดนี้ ร่างบางลดสายตาลงจากท้องฟ้ามามองรถคนสีขาวที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ
รถคันนั้นหยุดลงตรงหน้าทงเฮ พร้อมกับคนขับที่กระโดดลงมาเปิดประตูให้ ใบหน้าหล่อเหลาที่มองกี่คั้รงก็ใจเต้นส่งยิ้มกว้างให้พร้อมกับพูดเสียงทุ้ม
“เชิญเลยครับเจ้าหญิง”
“...รู้มั้ยว่าพักนี้ทุกคนดูมีความสุข วงเราแปลกดีนะ พอจะโศกก็โศกได้โฮกสุด ๆ”ร่างเล็กเปิดประเด็นสนทนาก่อน รถสีขาวเคลื่อนตัวออกจากตรงนั้นโดยฝีมือของคิบอม ร่างสูงพยักหน้านิดหน่อยและมองไปข้างหลังเพื่อความชัวร์ว่าไม่มีเมมเบอร์คนไหนแอบตามมา
“ให้ตายเถอะ...คิบอม เปิดวิทยุที”ร่างบางเอนหัวลงซบพนักพิง ปากก็ออกคำสั่งไปด้วย คิบอมละมือข้างขวามากดเปิดวิทยุ กดคลื่นที่รู้ว่าทงเฮชอบให้อย่างรู้ใจ ความเงียบอบอวลไปทั่วรถ แต่ไม่มีใครคิดจะพูดอะไร มือของคิบอมหนึ่งข้างไม่จับเกียร์หรือพวงมาลัยไว้ ร่างสูงกลับกุมมือของร่างเล็กไว้แน่น ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศ...ทั้งสองรู้สึกอบอุ่น สัมผัสที่เกาะเกี่ยวกันไว้ให้ความรู้สึกนี้ได้เสมอ
“คิบอม...ทำไมวันนั้นถึงเดินหนีฉันล่ะ?”
ทงเฮเท้าความถึงเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อน เหตุการณ์ที่เป็นจุดจบและจุดเริ่มต้นของพวกเขาสองคน คิบอมยิ้มน้อย ๆ มือที่กุมทงเฮไว้ถึงขยับไปเปลี่ยนเกียร์ให้รถหยุดตามไฟแดง ก่อนที่จะตอบออกมาด้วยเสียงนุ่ม ๆ
“ก็...ผมกลัวจะอดใจไม่ไหวตรงนั้นน่ะสิครับ มันโจ่งแจ้งไปหน่อย”
คำตอบนั่นเรียกรอยยิ้มจากทงเฮได้ดี ก่อนที่ร่างบางจะนึกอะไรขึ้นมาได้ มือถูกยกขึ้นไปแตะไหล่คนขับกิตติมศักดิ์ทันที
“คิบอม..เลี้ยวกลับ ๆ ๆ คืนนี้พี่ฮีชอลกลับบ้าน พี่คังอินกลับบ้าน ซีวอนก็กลับ วันนี้นอนรวม~”
“จริงเหรอ ?”คิบอมทำสีหน้าไม่อยากเชื่อ เป็นเรื่องยากที่ทุกคนจะกลับมานอนรวมกันในที่เดียวได้แบบนี้ ภาพที่ที่วาดไว้คือทุกคนคงจะแย่งอาหาร ที่นอน ห้องน้ำกันให้วุ่น เรื่องปกติสำหรับคนสิบสามคนและผู้จัดการที่จะต้องแย่งชิงสิ่งต่าง ๆ เสมอ
“จริงสิ ไม่รู้เหมือนกัน...แต่วันนี้ฉันจะให้พี่อีทึกไปนอนที่อื่น ฉันจะนอนกับนาย ~”
เสียงใสพูดร่าเริง คิบอมยิ้มน้อย ๆ รถสีขาวเลี้ยวกลับไปยังทิศทางของอพาร์ตเม้นท์ที่พวกทงเฮพักอยู่
“แย่งพี่อีทึกไม่ดีหรอกนะ..ผมนอนกับทงเฮบนเตียงเดียวกันก็ได้”คิบอมเตือน ไม่ดีหรอกที่จะแย่งที่หลับที่นอนของคนสูงอายุ ร่างบางหน้ามุ่ยนิด ๆ แต่ก็พยักหน้า คิบอมเลื่อนรถจอดเข้าที่ ดับเครื่อง...ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปหาทงเฮ
“เดี๋ยวก็ลงจากรถแล้ว...ขอรางวัลจากเจ้าหญิงหน่อยสิครับ”
รอยยิ้มนั่นทำให้ทงเฮต้องก้มหน้างุด ๆ ด้วยความเขินอาย ร่างบางแอบยิ้มออกมานิดหน่อยกับความขี้อ้อนของเจ้าชายเย็นชาที่ปกติไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมามากนัก ร่างบางเอียงหัวนิดหน่อยก่อนที่จะจรดจมูกลงไปกับแก้มป่อง ๆของร่างสูง ไม่กล้าจะจูบเพราะกลัวจะยั้งไว้แค่นี้ไม่อยู่ คิบอมหัวเราะน้อย ๆ และหอมแก้มกลับคืนบ้าง
“นายนี่มันเลี่ยนสิ้นดีเลยคิบอม”
ทงเฮบ่นกระปอดกระแปดหลังจากออกมายืนกลางลมที่พัดเฉื่อยฉิวในยามค่ำ ใบหน้าหวานแดงก่ำและร้อนผ่าว รู้สึกได้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ในยามที่อยู่ท่ามกลางอากาศเย็น คิบอมเดินนำหน้าทงเฮไปก่อนเพื่อนที่จะขึ้นไปยังชั้นสิบสอง ร่างบางเดินตามไปโดยที่อดบ่นกับตัวเองอีกรอบไม่ได้
“อย่าบอกนะว่าไม่ชอบ”
เสียงถามลอย ๆ ดังขึ้นมาอีกครั้งจากคนที่อยู่ข้างหน้า ทงเฮส่ายหัวก่อนที่จะนึกได้ว่าคิบอมคงมองไม่เห็น นิ้วเรียวกดลิฟท์ก่อนที่จะรอให้มันลงมา มือของทงเฮก็ยื่นไปจับมือคิบอมอีกครั้ง
“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนี่นา”
“อ้าว...ทงเฮ ทำไมกลับมากับคิบอมล่ะ?”เสียงของฮยอกแจดังขึ้นขัดจังหวะคนที่กำลังเกี่ยวก้อยกระหนุงกระหนิงต้องผละจากกันทันที คิบอมทำสีหน้าปกติต่อในขณะที่ทงเฮก็วิ่งเข้าไปกอดฮยอกแจเช่นกัน
“เปล่า...แค่เดินขึ้นมาพร้อมกันเฉย ๆ”
ทงเฮปฏิเสธพลางเหลือบตามามองคิบอมว่าจะน้อยใจอะไรรึเปล่า ร่างสูงรีบส่งยิ้มมาให้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบริเวณโซฟา คิมฮีชอลกำลังนอนอ้าซ่าอยู่บนนั้น..พอคุณแม่เห็นคุณลูกชายเดินเข้ามาเท่านั้นแหล่ะก็รีบเอ่ยปากให้มาหาทันที
“คิบอม...มานี่ด่วนเลย”
เสียงนั้นร้อนรนนิด ๆ แกมบังคับ ร่างสูงเลิกคิ้วก่อนที่จะเดินอ้อมโลกไปหาคิมฮีชอล ร่างบางเด้งตัวขึ้นจากจากการถูกซีวอนทับตัวไว้ทันทีพลางตบเบาะข้าง ๆ ตัวเป็นการเรียกคิบอมให้มานั่ง
คิบอมเองก็ยอมนั่งเพราะไม่อยากเถียงอะไรมาก แต่สายตาของซีวอนที่สนิทกันพอสมควรถูกส่งมาให้จนเขารู้สึกหนาวยะเยือก คิบอมหันคอไปมองหน้าคนสั่งเล็กน้อย..แต่ก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
“รอยอะไรเนี่ยพี่?”
เขาหมายถึงรอยแดงช้ำ ๆ ที่ขึ้นเกลื่อนเต็มลำคอฮีชอล ร่างบางสะดุ้งโหยงก่อนที่จะเอามือปิดทันที
“ยุงกัด !”
“...ยุงที่นี่มันชุมน่ะคิบอม”
ซีวอนเองก็พูดขึ้นมาลอย ๆ ฮีชอลถลึงตาใส่ก่อนที่จะเบียดตัวเองให้จมลงไปกับโซฟา คิบอมถอยหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายและไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
“แล้วคืนนี้นายจะนอนที่ไหนน่ะ สิบสามคนเต็มสองชั้นแล้วมั้ง”
ฮีชอลทะลุขึ้นมากลางความเงียบ คิบอมเองก็เงียบเพราะไม่อยากตอบ ตอบไปเดี๋ยวมีคนสงสัยขึ้นมาอีก แต่คนที่ตอบแทนให้ก็เป็นซีวอนเอง
“ผมนอนกับพี่นะ”
“อ้าว เรื่องเด่ะ”ฮีชอลทำท่าหาเรื่องขึ้นมาทันที ร่างบางทำหน้าเหมือนกลัวอะไรบางอย่างไปด้วย คิบอมหัวเราะน้ำเสียงหาเรื่องของฮีชอลก่อนที่จะไม่พูดอะไรเหมือนเดิม ฮีชอลยื่นมือมากระตุกชายเสื้อของคิบอมด้วยท่าทางวิงวอนขอร้อง”นอนกะฉันเหอะคิบอม นะ ๆ”
“ไม่ได้หรอกฮะ”
คราวนี้กลายเป็นทงเฮที่โผล่เข้ามากลางวงและเอ่ยเสียงดังฟังชัด คิบอมรีบกลั้นยิ้มทันทีเพราะถ้าเขาเผลอทำหน้ายินดีออกมา คนที่ถูกฮีชอลตะปบก็เขานั่นแหล่ะ
“ทงเฮก็บอกแบบนั้น เห็นมั้ย..พี่นอนกะผมเหอะ”ซีวอนยิ้มกริ่ม ใช้มือผลักคิบอมหัวคะมำลงไปจากโซฟา คนถูกผลักหน้าเหวอไปทันที
“ไหนว่ายังตัดใจไม่ได้ ทำไมนายเป็นคนแบบนี้เนี่ยซีวอน..ตัดใจไม่ได้บ้านนายสิ..กดฉันเอา ๆ ...แย่”ฮีชอลกระซิบใส่หูซีวอนด้วยท่าทางโกรธ ๆ ก็มันจริงนี่หว่า วันก่อนโน้นยังบอกว่าตัดใจไม่ได้ ตัดใจไม่ได้ ช้ำใจอะไรบ้าบอคอแตก มาหลัง ๆ เล่นทำซะเขาแทบออกไปไหนไม่ไหว คนอะไร..แรงเยอะชิบเป๋ง
“ก็พี่น่ารักนี่นา”ซีวอนไม่ได้สำนึกผิดอะไร แต่ลอยหน้าลอยตาตอบแบบนั้นนั่นแหล่ะ ริมฝีปากของร่างสูงประทับเข้าที่ต้นคอขาว เรียกให้ร่างบางหันมาทำตาขวางใส่ ฮีชอลรีบเหลือบตาไปมองทงเฮโดยเร็วเพราะกลัวว่าจะเห็นฉากบ้า ๆ บอ ๆ นั่น
อ้าว หายไปไหน
พอหันกลับมามองที่พื้น ตรงที่คิบอมเคยนั่งอยู่ คิบอมก็หายไปแล้ว
มาไวไปไวจริ๊ง - -
“ครับ...คร้าบ กินแล้ว ซูยองล่ะ ?”
“แอ๊ ~~ แหยะ...”
คนที่เดินเข้ามาในครัวทำหน้าแปลก ๆ เมื่อได้ยินเสียงที่เกิดขึ้น คยูฮยอนนั่งอยู่บนโต๊ะ คุยโทรศัพท์กับคนที่ทั้งวงก็รู้ว่าใคร แฟนสาวกิตติมศักดิ์ของคยูฮยอนเองนั่นแหล่ะ ส่วนเสียงอึกทึกที่ดังประกอบเป็นซาวด์โรแมนติกนั่นก็เสียงของซองมินที่ล้างจานอยู่อย่างเมามัน
“มีไรให้กินบ้างอ่า ~~”
คนชั้นสิบสองถามคนชั้นสิบเอ็ดที่ขึ้นมารับจ๊อบเพิ่มโดยเร็ว ซองมินตวัดสายตามามองทงเฮและส่ายหน้ารวดเดียวจบ ทงเฮทำหน้าเบ้และสะบัดหน่ใส่แบบงอน ๆ
“คิบอม...”
“..ซองมินแกล้ง”
เสียงหลังก็ของคนแกล้งนั่นแหล่ะ ซองมินถือจานขึ้นมาและทำท่าล้อเลียนทงเฮ ปลาน้อยทำหน้าบูดบึ้งหนักกว่าเดิม พร้อมจะตีครีบเมื่อไหร่ก็ได้
“คิบอม...เป็นไงมั่ง พักนี้หายหน้าหายตา”ฟักทองไม่สนใจปลาสะบัดครีบ แต่รีบล้างมือและเข้ามาทักคิบอมด้วยสายตาหวานเยิ้มแกล้งทงเฮ คิบอมหัวเราะและยิ้มน้อย ๆ ใหเป็นคำตอบ
“ยิ้มอย่างเดียวจะรู้มั้ยคิบอมว่านายพูดบ้าอะไร”
“คิบอมอ่า ~~ come back to me ~~”
ทงเฮดึงคิบอมกลับมาทันทีหลังจากซองมินพูดจบ นัยน์ตาใสฉายแววงอนใส่คนตัวสูงกว่าและสะบัดหน้าใส่ซองมิน ศึกชิงพระเอกที่พระเอกได้แต่ยิ้มก็เลยจบลงแค่นั้น ทงเฮเข้าไปตะกุย ๆ ของกินในตู้เย็นต่อ ส่วนซองมินก็กลับไปล้างจาน
“
พักนี้ดีขึ้นแล้วใช่ไหม?”
คิบอมถามเสียงเรียบ ซองมินชะงักมือไปหน่อยนึง รอยยิ้มบางผุดขึ้นที่เรียวปาก ร่างสูงเบือนหน้ากลับไปมองคยูฮยอนและยกมือขึ้นจับไหล่ซองมิน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโอบไหล่แทนร่างสูงชำเลืองตากลับไปมองคยูฮยอนอีกครั้งและหันกลับมาพยักหน้าให้ซองมินเบา ๆ
“เก่งนะเนี่ย...รู้ไปหมด”ไอ้คำชมนั่นไม่รู้จะเรียกว่าคำชมได้รึเปล่า คิบอมยิ้มรับ แต่ในใจก็อดสงสารซองมินไม่ได้ที่เรื่องราวมันไม่ได้พลิกผันมาเข้าข้าง
ก็ชีวิตไม่ใช่นิยาย จะให้มันตามใจเราไปเสียหมดก็ไม่ได้นักหรอก
“แล้วนายล่ะ...ท่าทางจะมีความสุขดีสินะ”
ซองมินล้างจานใบสุดท้ายและพักไว้กับตะแกรง หันหน้ามาถามคิบอมด้วยแววตารู้ทัน ร่างสูงเสมองไปทางอื่น ไม่รู้ว่าเวลาที่มีคนถามด้วยน้ำเสียงรู้ทันเขาต้องรู้สึกร้อน ๆ ที่ใบหน้าทุกครั้ง
“ก็ดีล่ะครับ” คำตอบนิ่ม ๆ ง่าย ๆ ทำให้ซองมินต้องถอนหายใจด้วยความเซ็งที่ไม่สามารถจี้จุดคิบอมต่อไปได้อีก ร่างบางยืดตัวขึ้นมากระซิบข้างหูคิบอมเพื่อแจ้งข้อเท็จจริงบางอย่างให้ ..ถึงแม้จะรู้สึกว่ามีสายตาแผดเผาของใครบางคนจ้องอยู่ก็ไม่ใส่ใจ
เสียงของคยูฮยอนเงียบไปนานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ รู้แต่ว่าเขากำลังแกล้งคน ๆ นั้นอีกครั้ง
“ไอ้ที่บอกว่ามีความสุขมันก็ไม่จริงนะคิบอม..แต่การได้ทำอะไรหลบ ๆ ซ่อน ๆ มันก็สนุกกว่ากันเยอะเลย” เสียงกระซิบของซองมินเรียกรอยยิ้มของร่างสูงออกมาได้นิดนึง นัยน์ตาคมเหลือบไปเห็นร่องรอยที่ลอดผ่านเสื้อยืดมาให้เขาเห็นพอดี สมองไอคิวสูง ๆ ของคิมคิบอมก็ไม่ยากเลยที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด ซองมินผละออกไปพอดีกับที่ใครบางคนเดินมาหยุดอยู่ข้างหลัง
“อ้าว..คยูฮยอน?” ร่างบางหันไปส่งยิ้มให้คนที่เดินเข้ามาใหม่อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น สีหน้าของคยูฮยอนเรียบนิ่ง แอบแฝงแววไม่พอใจนิดหน่อย คิบอมมองซองมินอย่างรู้ทันก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้คยูฮยอนนิดหน่อย คนที่หน้าบึ้งก็ไม่ยิ้มตอบกลับมา ร่างสูงมองไปที่มือของคิบอมที่วางไว้บนไหล่ของร่างบาง...คิบอมเห็นแบบนั้นก็เลยยิ้มนิด ๆ และชักมือออกเหมือนจะบอกว่ายอมแพ้
“อ้าว..คิบอม บ๊ายบาย” ซองมินส่งยิ้มหวานมาให้และโบกมือตามมาด้วย คิบอมพยักหน้าอีกครั้งและเดินไปหาทงเฮที่ยังคงวุ่นวายกับตู้เย็นไม่หยุด พอเหลียวหลังกลับไปอีกครั้งก็พบว่าสองคนนั้นพากันออกไปจากห้องแล้ว
บอกผมที...นี่ผมกับทงเฮกำลังทัวร์รอบบ้านใช่มั้ยเนี่ย - - “
“ได้แล้ว !”ร่างบางร้องอย่างดีใจและดึงขนมสองสามถุงออกมาจากในตู้เย็น พอดีกับที่ใครอีกคนเดินเข้ามาในห้องครัว
“ไม่ได้ต่างหาก !!”
”ง่ะ...พี่ชินดง”
ทงเฮครางเสียงยอมแพ้ เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าเกิดอีหรอบนี้ก็ไม่ต้องกิน ร่างบางส่งถุงให้คนที่ยืนอยู่อีกฟาก ชินดงมองหน้าทงเฮด้วยสายตาเชือดเฉือน แต่พอพบกับนัยน์ตาปิ๊ง ๆ แบ๊ว ๆ ก็อดใจอ่อนไม่ได้
“
อ่ะ ถุงนึงแล้วกัน”
ในที่สุดก็ทนไม่ไหว ส่งให้ถุงนึง ทงเฮยิ้มกว้างและถลาเข้าไปกอดร่างอวบ ๆ เสียเต็มรัก ชินดงร้องลั่นและสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดปลาหมึกของทงเฮอย่างรวดเร็ว
“พี่อ่ะ...ไม่รักผม”
ทงเฮบีบน้ำตา เรียกเสียงหัวเราะจากชินดงและคิบอมด้วยความขำที่ใบหน้าหวาน ๆ นั่นแสดงซะฮา ชินดงก้าวเท้าทำท่าจะออกไปจากห้อง และไม่วายหันกลับมาบ่นใส่ทงเฮอีกคำ
“ฉันจะไม่ให้นายชิงตำแหน่งคนที่มีความสุขที่สุดไปหรอกอีทงเฮ !”
คำพูดนั่นเหมือนรู้อะไร...และก็ไม่รู้อะไรเช่นกัน
“พี่ดงฮีหมายความว่าไงอ่ะคิบอม”
ทงเฮหันไปมองหน้าคิบอม คิบอมส่ายหัว ท่ามกลางความเงียบก็มีเสียงแกะซองของทงเฮประกอบไปด้วย”แต่ก็จริงนะ ชินดงฮีคือคนที่มีความสุขที่สุดแล้วล่ะ”
“แหงสิ...ผมเองก็ต้องทุกข์ต่อไปสินะ” คิบอมอดเหน็บไม่ได้ แต่ใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้มกว้าง ทงเฮดีดนิ้วเข้ากับหน้าผากของคิบอมทีนึงอย่างหมั่นไส้
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ทั้งสองชั้นก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างน่าประหลาดใจ อันที่จริงมันก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ...แต่เสียงอึกทึกก็ไม่หายไป ยิ่งมีอีทึกกับฮยอกแจที่กลับมาแล้วยิ่งเสียงดังกันเข้าไปใหญ่
“คังอินนน..อย่ามากวนนะ”
อีทึกที่นั่งเล่มคอมพิวเตอร์อยู่ที่โต๊ะโวยวายหลังจากที่คังอินไปทำอะไรกุ๊กกิ๊กกุ๊กกุ๋ยอยู่แถว ๆ นั้น ร่างบางหดคอหนีสัมผัสจั๊กจี้และหอบโน๊ตบุ๊คไปที่อื่นเสียเลย คิบอมมองไปรอบ ๆ อย่างเหนื่อยใจ นั่งอยู่เฉย ๆ เพราะไม่อยากจะเอาตัวไปปวดหัวกับการกระทำแสนวุ่นวายที่ประกอบไปด้วยการแย่งชิงสิ่งต่าง ๆ
ร่างสูงมองเข้าไปในอากาศว่างเปล่าตรงหน้า ในใจลอยละล่องไปถึงเมื่อประมาณเดือนก่อน วันที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น อันที่จริงเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันเริ่มต้นตรงไหน...แต่เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้ฝันไป เรื่องราวของเขานี่ก็อุปสรรคเยอะเหมือนกัน น่าแปลกใจที่ในแต่ละวันของเขาได้ผ่านความรู้สึกมาเยอะพอสมควร ทั้งหวาน เศร้า เจ็บปวด คละเคล้ากันไปหมด ทุกคนก็เป็นแบบนี้ คงไม่มีใครจะมีความสุขได้ตลอดไป
“ฮยอกแจ มา พี่ช่วยถือ”
”จะดีเหรอ ?”
ร่างของฮยอกแจที่หอบของพะรุงพะรังผ่านหน้าคิบอมไป ตามด้วยฮันกยองที่เดินประชิดอย่างไม่อยากให้คน ๆ นี้ห่างหายไปไหน ทงเฮที่เพิ่งเดินเข้ามาเขม้นมองตามอย่างสงสัยในกิริยาอาการของคนทั้งสองก่อนท่ะจหันมาแก้ข้อสงสัยกับคิบอมซะเลย
“พี่ฮันกยองกับฮยอกแจเป็นอะไรน่ะคิบอม...ทำไมมันเลี่ยน ๆ”
คิบอมยิ้มน้อย ๆ ถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง ดูเหมือนว่าชีวิตของทุกคนจะลงตัวและมีความสุขดี สิบสามคนยังคงเป็นแบบเดิม ถึงแม้ความสัมพันธ์ของบางคน บางคู่อาจจะแปรเปลี่ยนไปอยู่ใต้คำอื่น แต่พวกเขาก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ความผูกพันที่เกิดขึ้นอาจจะถูกบิดเบือนไปบ้าง..แต่พวกเขาก็รักกัน
“คิดอะไรอยู่น่ะคิบอม”
ทงเฮทียื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ เนื่องจากไม่ได้รับคำตอบที่อยากรู้เสียที ร่างบางนั่งลงข้าง ๆ ศรีษะที่เปียกน้ำจากการสระพักลงกับไหล่ของคิบอม หลังของทั้งสองคนพักพิงอยู่กับผนังห้อง มองจากภายนอกก็เหมือนพี่น้องธรรมดา..แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะพบกับกระแสความรู้สึกดี ๆ ที่ทั้งคู่มีให้แก่กันไหลวนเวียนไปทั่ว อย่างน้อยก็นับได้จากรอยยิ้มของคิบอมนั่นแหล่ะ
“คิดว่าพี่เปลี่ยนมารักผมได้ยังไง เมื่อดูจากภาวะของพี่เมื่อเดือนก่อน เหมือนสตรีมีครรภ์...หัวฟัดหัวเหวี่ยง แกล้งผมเป็นว่าเล่น”
”บ้า!” ทงเฮหน้าร้อนขึ้นมาฉับพลันเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ภาพการกระทำที่บอกได้ว่าส่วนใหญ่เขางี่เง่าเองทำให้เขารู้สึกละอายจนท้องไส้บิดมวน ทั้งภาพที่เขาพยายามจะแกล้งคิบอม ร้องไห้ หรืออะไรต่าง ๆ
“ทงเฮ..ทะเลตะวันออกจอมแปรปรวน สุดท้ายก็จมอยู่กับสโนวไวท์แล้วสินะ” คิบอมพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงเชิงหยอกล้อ นิ้วเรียวเอื้อมมือดึงจมูกของทงเฮเล่น ๆ ร่างบางทำปากยื่น แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แขนทั้งสองข้างของทงเฮยื่นไปกอดแขนคิบอมไว้ หลับตาลงสัมผัสความอบอุ่นที่อยากจะเก็บไว้กับตัวตลอดเวลา
“ขอบคุณที่รักกันนะคิบอม”
”วันนี้เลี่ยนเชียวนะ” ทงเฮหัวเราะเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่หลับตา คิบอมเองก็เช่นกัน จมูกโด่งก้มลงมาสัมผัสขมับคนขี้อ้อน ทุกอย่างดูเลื่อนลอย สดใส..จนไม่อยากจะปล่อยมือไปจากคนที่ทำให้เขายิ้มได้ตลอดเวลา ทั้งสองคนก็ยังอิงแอบอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่กลัวสายตาใคร หรือไม่ก็จนกว่าจะมีใครมาเรียกออกไปนั่นแหล่ะ
ในที่สุด...ทุกอย่างก็พูดได้ว่ามันจบลง จุดจบและจุดเริ่มต้นของคนทุกคนย่อมมีหลาย ๆ สีแตกต่างกันไป บ้างอาจจะสมหวัง บ้างอาจจะเริ่มด้วยความรู้สึกปวดร้าวดั่งก่อนเก่า แต่ทุกคนที่ผ่านมันมาก็เห็นพ้องต้องกันว่าถ้าหากรักแล้วไม่ต้องรอคอย รักแล้วไม่ทุกข์ทรมาน สิ่งที่เกิดขึ้นคงจะไม่ใช่ความรัก
เรื่องราวของพวกเขาที่เกิดขึ้นไม่ได้ยิ่งใหญ่มากมาย ไม่ได้เป็นตำนานที่จะต้องจารึกไว้ แต่เท่าที่เขารู้....มันจะเป็นสิ่งที่เขาจะจดจำไว้ ซักครั้งหนึ่งว่าเขาเคยได้รับที่สิ่งดีที่สุดของความรัก
“คิมคิบอมรัก..รักอีทงเฮที่สุด”
”‚งั้นอีทงเฮก็รักคิมคิบอมที่สุดเหมือนกัน...”
สิ่งที่ดีที่สุดของความรัก..
คือการได้รักและได้รับรักตอบแทน
จบแล้ว TOT
อยากจะทอล์คท้ายเรื่อง แต่ทำไม่ได้อีกต่อไป ~
เองจากมีไวรัสมาอุ้มฆ่าข้อมูลในThumbdriveไปจนหมดสิ้น(สติ)
...กรี๊ด
ตอบคอมเม้นก็หาย..แบบ ไม่ไหวและ ตามมีตามเกิด
ช่างเป็นจุดจบที่...มาก = =
ชั้นจะซื้อใหม่ !! TT
· ตอนพิเศษกี้มิน รอกันหน่อยน๊า...ลงซักเกือบ ๆ สัปดาห์หน้าแหล่ะ หึหึหึหึหึหึ
อ่า...รักทุกคนจริง ๆ นะ ขอบคุณที่ทำให้ไรท์เตอร์บ้า ๆ บอ ๆมีกำลังใจแบบนี้..
รักทุกคน >3
โหมดโหดร้าย...มาแล้ว
ใครยังไม่โอน โอนมาเดี๋ยวนี้ !!>w<
เค้ากินแกลบแล้ววว
ความคิดเห็น