คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Part 3]
[Part 3]
“ลงไปกินข้าว”ร่างสูงบอกเสียงเรียบในขณะที่สายตาจดจ้องไปที่ร่างบางที่ยังคงนั่งท่าเดิมกับเมื่อคืน “ยังทำใจไม่ได้อีกรึไง”
“.......”
“อย่าตอบฉันไร้เสียงอย่างนั้น ฉันไม่ชอบ”ยูชอนว่าเสียงดุ จุนซูเมินหน้าหนี “เอาเถอะ...ฉันเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันทำใจยาก”
“ถ้ารู้...นายก็ไม่ควรทำตั้งแต่แรก”คำสวนที่ถูกส่งออกมาทันทีที่ยูชอนพูดจบ ร่างเล็กส่งสายตามาอย่างเอาเรื่องแม้ดวงตานั้นจะแดงก่ำเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาก็ตาม
“ลงไปกินข้าว”ยูชอนบอกเสียงดุที่คนอื่นอาจหนาวไปถึงขั้วหัวใจแต่ไม่ใช่สำหรับจุนซูที่ไม่เหลือแม้แต่หัวใจ
“ทำไมต้องกิน...”
“จะไปดีๆหรือจะให้บังคับ”ยูชอนเริ่มชักจะหมดความอดทนและในเมื่อจุนซูยังคงนิ่ง ร่างสูงก้าวฉับๆเข้าไปหาก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นมาอุ้มแล้วเดินออกไปอย่างถือวิสาสะไม่สนใจว่าร่างเล็กจะทั้งทึ้งทั้งจิกตนขนาดไหน
“ปล่อยฉันนะ!...”จุนซูเริ่มรัวทุบยูชอนแต่เจ้าตัวก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด ร่างสูงเดินลงบันไดปราสาทลงไปถึงชั้นสองแล้วเดินเข้าห้องอาหารโดยมีจุนซูทุบรัวมาตลอดทาง
“อ้าว...ทำไม?”ชางมินออกอาการเงอะงะอย่างเห็นได้ชัด “รักกันเร็วดีนะฮะ”
“ใครบอกนาย!”จุนซูหันไปเหวส่วนยูชอนก็ปล่อยร่างเล็กลงแล้วตบหูตัวเองเบาๆเมื่ออาการหูอื้อมาเยือน อยากรู้จริงๆคนตัวเล็กนั่นกินอะไรเป็นอาหารเสียงถึงได้แหลมขนาดนั้น
“อ้อ...เอ่อ งั้นกินข้าวก่อนเถอะ”ชางมินตัดบทก่อนที่สงครามจะได้ก่อขึ้น ยูชอนนั่งลงตรงหัวโต๊ะชางมินนั่งลงข้างขวาส่วนจุนซูก็นั่งลงข้างซ้าย
ชางมินเริ่มลงมือสวาปามอาหารเช้าโดยมียูชอนค่อยๆละเลียดอาหารทีละนิด จุนซูมองอาหารตรงหน้าบวกกับท้องที่เริ่มร้อง
ไม่ยักรู้ว่าตายแล้วก็หิว...
ร่างบางเอื้อมเข้าไปตักน้ำซุปขึ้นมากินพลันใบหน้าขาวซีดนั่นก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแปลกๆก่อนร่างเล็กจะเริ่มขย้อนของเก่าออกมา
“แหวะ!...นี่มันยิ่งกว่าน้ำล้างส้วม!”จุนซูโวยวายลั่นส่วนยูชอนก็หันมาทำตาโต
“นายเคยกินน้ำล้างส้วมด้วย?”
“ฉันประชด!...และนั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคืออาหารมันไม่อร่อย!”
“ฉันก็กินแบบนี้...พอกินได้แต่ไม่ถึงกับอร่อย”ชางมินโผล่หน้าขึ้นมาจากจานข้าวแล้วบอก จุนซูได้ยินก็ถึงกับเบ้หน้า
“ขอให้เป็นแค่ของกิน...นายก็กินหมดนั่นแหล่ะชางมิน”ยูชอนบอกปัดก่อนจะออกปากสั่ง “เอาล่ะ...พ่อผู้วิเศษวันนี้แขกของเรากินอาหารห่วยแตกนี่ไม่ได้ช่วยไปเปลี่ยนเมนูให้ใหม่นะ”
“จะให้ทิ้งเหรอ?”ชางมินถามงงๆเมื่อเห็นยูชอนพยักหน้าเจ้าตัวก็เริ่มออกอาการเสียดาย “ถ้าไม่กินกันผมกินคนเดียวก็ได้...”
“เออ...ไอ้ตะกละ”คำชมที่เรียกใบหน้างอจากชางมินได้แทบจะทันที ร่างสูงพึมพำอะไรสองสามคำก่อนอาหารเมนูหรูจะประจักษ์แก่สายตา
“เชิญฮะ...ร้อยปีมีครั้งเดียวเลยนะ”ว่าพร้อมฉีกรอยยิ้มกว้างที่ยูชอนอยากจะตบกะโหลกมันสักทีสองที
“ใช่สิ!...ฉันอยู่มาร้อยปีก็กินมันตามมีตามเกิดนั่นแหล่ะ!”ยูชอนบอกเสียงติดจะหงุดหงิดพลางหยิบน่องไก่มาวางไว้บนจานเตรียมเข้าปากแถมเจ้าตัวยังใจดีหยิบให้จุนซูที่นั่งนิ่งด้วย “กินซ่ะ”
ร่างเล็กก้มมองอาหารในจานก่อนจะเริ่มลงมือกินจนเวาลาผ่านไป 10 นาทีจุนซูก็ลุกขึ้น
“อิ่มแล้ว...”
“แล้วจะไปไหน...”ยูชอนผู้ที่เพิ่งได้ลิ้มรสชาติอาหารที่ดีที่สุดในรอบร้อยปีถาม
“เดินเล่น...”ร่างเล็กตอบเรียบก่อนต่อ “แต่...ที่นี่ทำไมถึงได้มืดนัก?”
“ก็บางคนไม่ชอบแสงสว่าง”ยูชอนพูดลอยๆเหมือนจะไม่เจาะจงว่าเป็นใคร
“แต่ฉันเกลียดความมืด”บอกเสียงแผ่วก่อนจะเดินออกไปปล่อยอีกสองคนที่กำลังกินและอีกคนที่กำลังสวาปามไว้ในห้อง ชางมินเงยหน้าขึ้นเช็ดปากก่อนจะบอกลอยๆ
“เขาไม่ยิ้มเลยตั้งแต่มาที่นี่”
“แล้วทำไม?”
“ก็แสดงว่าจุนซูไม่มีความสุข”คำตอบเรียบจากชางมินทำให้เรียวปากของร่างสูงยกขึ้นด้วยความเคยชิน
“ไม่จำเป็น...ฉันมีความสุขมันก็พอแล้ว”พูดอย่างคนเอาแต่ใจก่อนจะหัวเราะเบาๆอย่างรู้ทัน “เป็นห่วงจุนซูเหรอไง?”
“มันก็ไม่เชิง...”
“มันไม่ใช่เลยต่างหากล่ะ นายแค่คิดว่ามันไม่สนุกอย่างที่คิด”คราวนี้รอยยิ้มบางจากผู้วิเศษคลี่ยิ้มน้อยๆแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้
“นั่นน่ะสินะ”
“ฉันบอกนายกี่หนแล้ว...ถ้าอยากสนุกให้ไปวิ่งเล่นไล่จับกับเด็กข้างนอก”คำปรามาสที่เรียกเสียงเหวลั่นมาจากชางมินในทันที
“ผมไม่ใช่เด็กนะ!...ผมโตกว่าพวกนั้นตั้งหลายร้อยปี!”
“โตแต่ตัวกับอายุที่มันเพิ่มขึ้นทุกวันแต่ไม่พัฒนานิสัยน่ะสิ”ชางมินเริ่มแค่นเสียงหัวเราะแล้วสวนกลับด้วยคำพูดที่ทำให้ยูชอนถึงกับเหวอ
“ผมฉลาดกว่าพี่นะ...สมองผมน่ะพัฒนากว่าพี่นะ”
“เออ...ข้อนั้นฉันไม่เถียง!!”
มืด...
ทำไมถึงได้มืดอย่างนี้นะ ทำอย่างกับที่นี่จะมีแวมไพร์อยู่อย่างนั้นแหล่ะ
ร่างเล็กเดินร่อนไปมาอย่างเดียวที่คิดคืออยากออกไปข้างนอก อยากไปเจอแจจุง จากวันนั้นพี่ชายของเขาจะเป็นยังไงบ้าง
สบายดีรึเปล่า?
ร่างเล็กค่อยๆเดินไปหน้าประตูแต่อะไรบางอย่างกลับสั่งว่าไม่ให้พลักออก
ทำไม?
แสงสว่างภายนอกคือสิ่งที่ต้องการไม่ใช่เหรอ?
จุนซูค่อยๆพลักประตูออก แสงอาทิตย์ลอดผ่านประตูเข้ามากระทบผิวขาวเพียงน้อยนิดแต่มันก็ให้ความร้อนที่รุนแรงไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยสัมผัส
พลันประตูเปิดออกเกือบเต็มบานแสงสว่างที่ลอดเข้ามาก็ทำให้จุนซูต้องกระโดดหนีแล้วล้มลงกับพื้นอย่างแรง
ร้อน!
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”จุนซูบิดร่างกายด้วยความเจ็บปวดบนพื้นกระเบื้องเย็นเยียบ แสงอาทิตย์ที่เคยคิดว่าอบอุ่นก็ร้อนยิ่งกว่าไฟบรรลัยกัลป์จนเหมือนจะเผาร่างกายนี้ให้หายไป
เจ็บแสบเหมือนแสงนั่นจะเผาผิวให้ไหม้
ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการถูกย่างให้สุกทั้งเป็น
น้ำตาของความเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผลเริ่มไหลออกมาช้าๆในขณะที่ร่างเล็กก็ดิ้นเร่าอย่างบ้าคลั่งอยู่บนพื้น
“อะไร!...เกิดอะไรขึ้น?”ยูชอนวิ่งเข้ามาถามก่อนจะอุ้มตัวของจุนซูขึ้นมาบนตัก
“ผมว่า...เขาคงเปิดประตู”ชางมินออกความเห็น “คงร้อนมากสินะ”
“งี่เง่าเอ๊ย!”ร่างสูงสบถอุบพลางช้อนตัวร่างเล็กขึ้นมา “ชางมิน!...ฉันไม่ต้องการให้ผิวสวยๆนี่เป็นแผลรักษาให้ทีสิ”
คนถูกสั่งทำเพียงแค่เลิกคิ้วหัวเราะเบาๆก่อนจะเริ่มร่ายเวทย์
ชางมินวางมือไว้เหนือร่างจุนซูก่อนแสงสีเงินยวงไหลจากมือชางมินไปหุ้มตัวจุนซูไม่ต่างอะไรสายน้ำเย็นๆ จุนซูค่อยๆสงบลงนัยน์ตาคู่กลมมองชางมินด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก
คนถูกมองยิ้มกวนส่งหัวเราะเบาๆ
“อย่าจ้องผมอย่างนั้นสิ...ผมก็เขินเป็นนะ”
จุนซูหลุบสายตาลงต่ำก่อนนัยน์ตาคู่นั้นจะฉายแวววาวโรจน์เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนพื้นแต่ถูกไอ้คนที่เกลียดขี้หน้ามันอุ้มอยู่
“ป...ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”บอกด้วยน้ำเสียงที่พยายามเพียรจะข่มให้เรียบ ยูชอนมองคนตัวเล็กอย่างระอา
“จะหวงตัวไปทำไมนักหนา...ตายไปแล้วแท้ๆ”
เหมือนดั่งเข็มนับพันที่แทงทะลุอกบอกย้ำเตือนถึงสถานะของตัวเอง ใบหน้าขาวซีดนิ่งเหมือนตุ๊กตาที่ไร้ชีวิตขยับยิ้มที่ไม่เหมือนรอยยิ้มสักนิดออกมา
มันทั้งเศร้าและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
“ปล่อยฉันลง”
“ฉันอุตส่าห์มาดูนายแถมยังรักษาแผลให้นะ”ยูชอนร้องท้วงแต่ก็ต้องยอมปล่อยตัวจุนซูลงพื้นตามเดิม คนตัวเล็กจ้องคนตัวโตกว่าด้วยแววตาที่ฉายความโกรธไว้ภายใน
“ไม่ได้ขอให้มาดูนี่”
“ปากดี!”ยูชอนกระชากแขนจุนซูเข้ามาจนเซ นัยน์ตาคมกริบเยี่ยงปีศาจร้ายจ้องลึกลงไปอย่างเอาเรื่อง
“เอาซี่!...จะทำอะไรฉันก็เชิญเลย!!”คนตัวเล็กเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ยูชอนสลัดแขนเล็กนั้นทิ้งลงอย่างแรงไร้ความปราณีก่อนร่างสูงจะหมุนตัวเดินจากไป
จุนซูทรุดตัวลงกับพื้นทันทีที่ยูชอนเดินออกไป ร่างเล็กชันเข้าขึ้นมากอดแล้วเริ่มสะอื้นไห้อย่างน่าสงสารจนคนที่มองอยู่อีกคนชักทำตัวไม่ถูกก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจก้าวเร็วๆตามยูชอนออกไปแต่ไม่วายตะโกนดังๆให้ทั้งสองฝ่ายได้ยิน
“โตๆกันแล้วน้าทำตัวเป็นเด็กไปได้~!”
_________________________
“ห้ามออกไปไหนนะ”คำสั่งพันรอบที่ร่างสูงสั่งแจจุงทุกครั้งที่เจ้าตัวจะนึกออก “อยู่ที่นี่แล้วคุณจะปลอดภัย”
“เออ...ฉันรู้แล้วล่ะน่าสั่งอยู่ได้~”ร่างบางตัดบทอย่างรำคาญก่อนจะเริ่มทำหน้าขรึมตีหน้าหมีอย่างที่ร่างสูงทำ “ห้ามออกไปไหนนะ อยู่ที่นี่แล้วคุณจะปลอดภัย”
คำล้อเลียนจากร่างบางที่ยอกย้อนได้อย่างน่ารักทำเอายุนโฮทำหน้ามุ่ย
“ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้นสักหน่อย”
“โหย...นายน่ะพูดคำนี้มาจะพันรอบแล้วนะยุนโฮ”แจจุงย้อนเสียงใสแต่เมื่อเห็นหน้ามุ่ยๆของหมีไม่ยอมรับความจริงเจ้าตัวก็ถอนหายใจยาวแต่อย่าให้บอกนะว่ายาวขนาดไหนเพราะมันยาวมากกกก
“เอาเป็นว่านายอยู่ที่นี่แล้วกัน...”
“เพราะนายจะปลอดภัย”แจจุงชิ่งตัดหน้าร่างสูงอย่างรู้ทัน “ให้ตายเถอะ...ฉันอยากรู้ชะมัดว่ามันจะปลอดภัยยังไงถ้าเกิดยังมีนายอยู่ด้วย”
“ฉันลงอาคมไว้หมดแล้ว...ไม่มีอสูรตนไหนเข้ามาได้”ยุนโฮตอบเรียบ
“หิวแล้วล่ะสิ”แจจุงเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉยแถมเจ้าตัวยังลุกขึ้นมาลูบท้องยุนโฮอย่างถือวิสาสะจนเจ้าตัวทำหน้าเหวอ “ท้องร้องใหญ่เชียวนะ”
“หึ!...ก็ไม่เท่ากับหน้าคุณที่แดงแป๊ดตอนนี้หรอก”ยุนโฮย้อนเล่นเอาใบหน้าขาวที่ขึ้นสีเรือชมพูในตอนแรกที่คงเกิดมาจากความร้อนอะไรสักอย่างเริ่มแดงขึ้นมาจริงๆ คนสวยหันมาจ้องกลับอย่างเอาเรื่อง
“หน้าฉันไม่ได้แดงสักหน่อย!”
“ผมหิวแล้ว....ว”เปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉยแล้วเริ่มออดอ้อนเสียงหมีๆจนร่างบางต้องส่งค้อนวงโตให้ลูกหนึ่งก่อนจะก้าวเร็วๆเข้าห้องครัวไป
“เกิดมาไม่เคยกินของดีเลยล่ะสิท่า...เดี๋ยวฉันจะทำให้นายได้กินของอร่อยที่สุดในชีวิตเอง!”เสียงหวานตะโกนออกมาจากห้องครัวทำให้คนฟังต้องถึงกับลอบยิ้มบางแล้วตอบย้อนเสียงนุ่มยั่วโมโหเจ้าของใบหน้าสวยเล่น
“แล้ว...ผมจะรอนะครับ~”
----------------------------
[...M@Y Talk...]
ไรเตอร์ทุกคนชอบคนอ่านแล้วเม้นค่ะ
บางคนอาจจะงงว่าทำไมลงซ้ำ คือแบบว่า...เค้ากดลบตอนทิ้งไปอ่า กดผิด!! มือมันไปโดน มีเหตุนิดหน่อย
TTOTT
ยูซูตอนแรกๆดูรั่วแฮะ ทำไมกัน?
ความคิดเห็น