ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Suju] • So I • ,, Kihae {yaoi}

    ลำดับตอนที่ #25 : {part 19} Awake

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 53


    19

    Awake

     

               

     

    ชีวิตนี้ ... ไม่เคยสงบสุขสำหรับอีซองมิน

     

    มีทั้งข่าวดีข่าวร้าย อยากได้ข่าวไหนล่ะ ?

     

    ข่าวแรก ข่าวดี อีทงเฮกลับมาเรียนแล้ว คิบอมก็มาเรียนด้วยแล้ว น่าดีใจที่ได้คนพูดมากกลับมานั่งอยู่ข้าง ๆ อีก

     

    ข่าวต่อมา น่าช็อค น่าตกใจ น่าตกใจมากถึงมากที่สุด

     

    ฮันกยองจะไปจีน ?

     

    พูดจริงเหรอ!?!”ซองมินอ้าปากค้างเมื่อพบว่าฮันกยองกลับมาที่โรงเรียนวันนี้ ไม่ได้เพื่อมาเรียน แต่เพื่อมาทำเรื่องขอดร็อปไปอยู่จีน ร่างสูงทำหน้าเศร้า ๆ แล้วพยักหน้า ตอนนี้หลบมานั่งรอเอกสารได้ตอนช่วงพักกลางวัน ถึงได้มาแจ้งเรื่องกับซองมินแล้ว ..เฮ้ย ! นาย ..แล้วฮยอกแจจะอยู่กับใครเนี่ย

     

    จะบอกว่า ...งั้นก็ฝากคยูฮยอนดูแลฮยอกแจด้วยนะรอยยิ้มเซียวของฮันกยองบวกกับคำพูดทำให้ซองมินกระตุกไปอีกอึดใจ

     

    ...ไม่น่ะ คยูฮยอนจะไปอเมริกาอีกปีหนึ่ง ไปอาทิตย์หน้านั่นแหล่ะ นี่ก็ข่าวร้ายเหมือนกัน ...เอ่อ ข่าวดีต่างหาก

     

    อ้าว ...ฮันกยองหน้าหมองลงกว่าเดิม ไม่ทันได้พูดอะไรอีกร่างเล็กของน้องชายคนจีนก็วิ่งมาราวกับพายุพัด พอตรงเข้าหาก็กอดคอพี่ชายเสียแน่นจนซองมินต้องมองซ้ายมองขวาว่ามีใครเห็นฉากนี้รึเปล่า มันเล่นเอาซะน่าตกใจแบบนี้นี่นา ดีนะที่ตรงม้าหินนี่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้จนไม่ค่อยเห็นใคร

     

    พี่ชาย….”พอพูดจบก็เต็มที่เลย ร่างบางโน้มหน้ามาจูบปากฮันกยองเบา ๆ แล้วถูไถหัวไปกับไหล่ของร่างสูง ซองมินอ้าปากค้าง ฮันกยองหัวเราะน้อย ๆพี่ซองมินมองอะไรฮะ ... ผมแค่อยากจะแสดงความคิด ได้อยู่ด้วยกันอีกไม่กี่วันแล้ว

     

    ตกใจน่ะ...เอ่อ..ซองมินไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี แล้วดู ... อีฮยอกแจดึงผ้าพันคอสีส้มออกวางไว้กับโต๊ะจนเห็นร่องรอยซะทั่วคอ จุดแดงช้ำประปรายทที่ทำเอาคนมองหน้าแดง ฮันกยอง เล่นอะไรกับน้องเนี่ย !!!

     

    ผมเหลือเวลาอีกสามวัน แล้วพี่ล่ะ ..ห้าวันหรือเปล่า?”ร่างบางหันมามองคนปากแข็งจนซองมินต้องสะดุ้ง ..นั่นสิ คยูฮยอนไปวันที่สิบนี่นา”…ขนาดผมยังต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า แล้วพี่ล่ะ ..อยากรอให้มันสายไปหรือไง

     

    พูดอะไรน่ะฮยอกแจและฮันกยองก็ยังคงไม่เข้าใจ บอกแล้วให้เรียนเกาหลีใหม่ซะ

     

    บอกคนปากแข็งน่ะฮะ...พี่ฮันกยองอ่ะ ..ทำไมพ่อเราต้องทำแบบนั้นด้วย...แล้วฮยอกแจจะไปหาแม่กับใครเนี่ย แล้วใครจะคอยปลอบฮยอกแจเวลาคิดถึงแม่

     

    ซองมินไม่เคยเห็นเพื่อนคยูฮยอนเวอร์ชั่นนี้จริง ๆ เท่าที่เห็นปกติคือหน้านิ่งและไม่พูดอะไรมากมาย แต่ตอนนี้กลับอ้อนเสียจนพี่ชายอมยิ้ม จำเป็นต้องตามใจเพราะเห็นนี้นี่เอง แล้วเวลาอยู่กับคยูฮยอนจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า ..

     

    ไม่สิ ... เขาจะต้องทำแบบนี้หรือเปล่า ..

     

    ระวังจะสายไปนะฮะคำเตือนจากฮยอกแจส่งมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างบางจะกระตุกแขนเสื้อพี่ชายเบา ๆพี่ชาย ...เดี๋ยวฮยอกแจจะโดดเรียน ไปกินไอติมกันนะ

     

    ท่าทางจะเหลือสุดท้ายจริง ๆ เพราะคนดีอย่างฮันกยองยินยอมพาน้องชายโดดเรียนเรียบร้อย ซองมินได้แต่มองคนที่ดูยังไงก็คู่รักมากกว่าพี่น้องด้วยสายตาเซ็ง ๆ แล้วนึกวนไปถึงเรื่องตัวเอง

     

    ผมรักพี่นะ

     

    ....แปลกใจ และดีใจ ...

     

    แล้วเขาควรจะไปส่งคยูฮยอนไหม ควรจะทำอะไรให้ก่อนไปมั้ย .. แล้วเขาจะทำอะไร ให้ได้ยังไง ..แล้วมันจะแปลกใจมั้ย

     

    ซองมินก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ ไหล่บางถูกสะกิดจากใครบางคน ซองมินไม่ได้เงยหน้าก็พูดเสียงแผ่ว ๆ ขึ้นตอบ

     

    ไม่ต้องแกล้ง นั่งไปสิคยูฮยอน

     

    อ้าว รู้ได้ไงคนถูกรู้ยิ้มแฉ่งแล้วนั่งลงข้าง ๆ มือใหญ่กุมมือคนตัวเล็กอย่างถือวิสาสะ ซองมินไม่ได้ห้าม ..เพราะคงรู้ด้วยแหล่ะว่าขัดขืนไปก็ไม่ช่วยอะไรไม่คิดจะทำแบบคู่นั้นบ้างเหรอ

     

    ใครซองมินยังก้มหน้า และทำท่าจะนอนมันจริง ๆ หลังกินข้าวนี่ก็ง่วงไม่หยอกแฮะ

     

    พี่ฮันกยองกับฮยอกแจ ป่านนี้ซันนี่มันตีปีกพั่บ ๆ ไปแล้วมั้ง เมื่อเช้าพอเห็นใต้ร่มผ้าฮยอกแจก็กรี๊ดซะลั่นห้อง

     

    ทำอะไรเล่าซองมินไม่รู้จริง ๆ เพราะตอนนี้สับสนเหลือเกิน อีกห้าวัน.. จะตามใจมันดีมั้ย หรือจะปากแข็งแบบเดิม แต่มากกว่าครึ่งก็หัวใจก็บอกให้เปิดใจซักครั้ง .. เปิดใจให้คนที่ชื่อว่าคยูฮยอนเข้ามาทำตามใจอยากเสียที

     

    ก็...คบกัน หรือทำแบบที่พี่ฮันกยองทำล่ะครับ?”

     

    ไอ้ฮันกยองไปทำอะไรฮยอกแจน่ะ?”ซองมินเงยหน้าขึ้นมาพลางทำตาเบลอ ๆ ดูแล้วน่ารักน่าหยิกจนคยูฮยอนต้องยื่นหน้าเข้าไปขโมยหอมแก้มอีกที ซองมินไม่ได้ปัด ไม่ได้ผลักไส เพียงแต่แก้มนิ่ม ๆ นั่นขึ้นสีขึ้นมาเล็กน้อย

     

    ฮยอกแจบอกว่า...คยูฮยอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้อความที่ทำให้ซองมินทำตาโตพี่ฮันกยองปล้ำมัน เลยโดนพ่อไล่ไปจีน

     

    หา!!!”

     

    ไม่หาอะไรหรอกครับ เรื่องจริง แต่ฮยอกแจมันสมยอมนะ ..ไม่งั้นจะดี๊ด๊าเป็นไก่ได้น้ำขนาดนั้นเลยเหรอ

     

    ไว .. ไวมากซองมินนั่งพึงพำกับตัวเองด้วยสีหน้าช็อกค้างแล้วพ่อฮันกยองก็เข้ามาเห็น..งั้นสิ?”

     

    อื้อ แบบนั้นแหล่ะคยูฮยอนตอบรับแล้วเอาหัวมาพิงซองมินด้วยท่าทางอ้อน ๆแล้วผมล่ะ พี่ไม่คิดจะรับผิดชอบบ้างเหรอ...

     

    จะให้รับผิดชอบอะไรล่ะ?”

     

    คราวนี้ไม่ใช่การด่าอย่างเคย ซองมินกลับถามออกมาเสียจนคยูฮยอนไปต่อไม่ถูก ร่างสูงเลยตัดสินใจหอมแก้มนุ่มนิ่มสนองความอยากตัวเองไปอีกหนึ่งแล้วค่อยอ้อนพี่ชายต่อ

     

    ก็...ผมชอบพี่อ่ะ พี่จะทำยังไงกับความจริงข้อนี้ล่ะ?”

     

    จะให้ทำอะไร ..เอ่อ...เพิกเฉย?”ซองมินตอบหน้านิ่งด้วยความความพยายามที่จะไม่แสดงความรู้สึก คยูฮยอนอมยิ้มน้อย ๆ

     

    แล้ว ..พี่จะหน้าแดงทำไมล่ะ?”

     

    ใครหน้าแดง ? ไหน ตอนนี้มันหน้าร้อนไม่ใช่เหรอแถข้าง ๆ คู ๆ แต่มันก็ทำให้คยูฮยอนรู้ว่าซองมินก็เริ่มเปิดใจให้เขาแล้วเช่นกันแล้ว ... หนึ่งปีที่ไปที่นั่นน่ะ เอ่อ...ติดต่อกันบ้างนะ

     

    วรรคสุดท้ายเสียงแผ่วลง ซองมินหน้าแดงจัดด้วยความเขินที่ตัวเองพูดอะไรแบบนั้นออกไป สายตาระยิบระยับล้อเลียนจากคนจะไปทำให้รู้สึกเหมือนอยู่กลางสปอตไลท์ เพราะแบบนี้ไงเล่าถึงได้ปากแข็งน่ะ

     

    ทางไหนดีครับ จดหมายดีมั้ย?”คยูฮยอนเสนอตัวเลือกที่ไฮเทคที่สุด ...จดหมาย

     

    ผูกกับขานกพิราบมาด้วยนะ ไอ้เด็กบ้าซองมินแทบจะหมดอารมณ์เขิน แต่ก่อนที่จะได้พูอะไรมากกว่านั้น ออดเข้าเรียนคาบบ่ายก็ดังขึ้นเสียก่อน ร่างสูงถอนหายใจด้วยความเซ็งพลางมองซองมินเก็บกระเป๋าเตรียมจะขึ้นชั้นเรียนแล้วพูดเสียงเบา ๆ

     

    ผมจะไม่มาเรียนแล้วนะ ต้องไปเตรียมตัว

     

    อื้อ ก็ดี

     

    จะได้เจอกันที่บ้านอย่างเดียวนะ

     

    อื้อ ก็ดีซองมินยังสนองคำเดิม

     

    เสียใจมั้ยที่ผมไปน่ะ

     

    คราวนี้ซองมินตอบไม่ได้ ได้แต่มองหน้าไอ้เด็กแสบอยู่นานแล้วสะบัดค้อนวงใหญ่ใส่ ก่อนจะจ้ำเดินหายไปอีก คยูฮยอนได้แต่มองตามไปด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ

     

    ก็ยังดีที่ยังยอมให้ทำอะไรได้บ้าง ...ก่อนที่เขาจะไป

     

     

    ร่างสูงกำลังจับจ้องรถยนต์สีขาวเบื้องหน้าด้วยท่าทางไม่ไว้ใจ คำสั่งจากคิมฮีชอลยังดังอยู่ในหูว่าให้ไปซื้อของมาให้หน่อย บางทีอาจจะไปแท็กซี่ถ้าเกิดไอ้ของสิ่งนั้นมันไม่ใช่จักรยานคันใหม่ที่ต้องขนรถแบบหกเจ็ดที่นั่งไปแทน เจ้าตัวดันขี้เกียจไม่ยอมไปเอง เดือดร้อนให้คนที่ขับรถเป็นอย่างเขา

     

    ไม่กลัวจะซ้ำรอยรึไงวะ ถึงฝนจะไม่ได้ตกก็เถอะ

     

    แล้วสายตาเขาอีก พักนี้...ขนาดพยายามกินยาบ่อยแล้วนะ แต่ก็ยังแปลก ๆ จนแพทย์บอกว่ามีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อยทีเดียว

     

    แล้ว ... ตอนนี้ทงเฮก็ไปเรียน ไม่มีใครมาแบกไปเป็นเพื่อน เหลือเขาที่วันนี้ขี้เกียจไปเท่านั้นเอง

     

    จะว่าไป นี่ก็ห้าโมงแล้วนะ น่าจะกลับบ้านมาได้แล้ว

     

     

    เฮ้อ ...

     

    ร่างสูงถอนหายใจก่อนที่จะเข้าไปนั่งที่คนขับ พยายามรื้อฟื้นว่าการขับรถทำยังไงหลังจากที่ไม่ได้แตะมาสองสามเดือน จะว่าไปก็เร็วพอสมควร ... ที่ทุกอย่างเกิดเรื่อง คืนที่ซอฮยอนตายก็ผ่านมานานแล้ว น่าแปลกเหลือเกินที่เขาได้พบกับแสงสว่างใหม่อีกครั้งในเวลาที่รวดเร็ว

     

    ...แต่ก็นะ มันก็เหมือนมีอุปสรรค

     

     

    เขาได้แต่หวังอย่างเลว ๆ ว่าอีทงเฮจะลืมอิมยุนอาตลอดไป

     

     

     

    ร่างบางเดินเข้ามาในบริเวณบ้านก่อนที่จะปิดประตูรั้ว แต่มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นมาว่าให้เปิดใหม่ ทงเฮเลิกคิ้วนิด ๆ แล้วเพ่งเข้าไปตรงที่นั่งคนขับว่าเป็นใคร น่าแปลกที่เห็นคิบอมอยู่ตรงนั้น ร่างบางยกมือโบกให้แล้วเปิดประตูรั้วให้กว้าง รถยนต์สีขาวเคลื่อนตัวออกไป ทงเฮก็เดินตามไปดูอย่างไม่ได้ตั้งใจ

     

    นัยน์ตาสวยเหลือบมองตรงถนนก็พบกับสิ่งมีชีวิตขนปุยสีขาวกำลังเดินทอดน่องอยู่กลางถนน ปากจะตะโกนห้ามคิบอมว่าอย่าเหยียบแมวก็ทำท่าจะไม่ทัน แต่โชคดีที่คิบอมคงจะเห็นมันเสียก่อน รถยนต์เบรกดังลั่น แต่กลับเบนไปอีกทางเหมือนคิบอมเป็นอะไร

     

    แต่คนที่จะเป็นอะไรไม่ใช่คิบอมคนเดียว

     

    ร่างสูงยกมือขึ้นปิดตาที่กาพกลางเป็นภาพบิดเบี้ยวสีคล้ำ มือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาพี่ชายให้มาพาเขาไปส่งโรงพยาบาลเดี่ยวนี้เพราะรู้สึกปวดตาจนทนไม่ไหว ลืมตาแทบไม่ขึ้น แต่ภาพที่มองผ่านเปลือกตาออกไปเป็นแสงสีขาววับ ๆ กลับเป็นใบหน้าของร่างของทงเฮที่ล้มอยู่กับพื้น

     

    ทงเฮ เป็นอะไร..โอ๊ย..!!”คิบอมเปิดประตู ยังดีที่ยังอยู่ในบริเวณบ้าน ไม่งั้นคงได้แตกตื่นกันไปกว่านี้ ร่างสูงยกมือขึ้นปิดหน้า พยายามกล้ำกลืนอาการเจ็บปวดที่วาบขึ้นมาไม่รู้จักหยุดหย่อน ร่างบางที่นอนสิ้นสติอยู่ตรงนั้นทำให้หัวใจกระตุบวาบด้วยความหวาดกลัว

     

    ไม่ใช่คนนี้อีกคนที่จะต้องเป็นอะไรไปเพราะเขาหรอกนะ ...

     

    ร่างสูงพยายามเดินตรงเข้าไปหาทงเฮ ถึงแม้จะแทบมองอะไรไม่เห็นแต่ก็พยายาม หัวใจเต้นถี่เร็วด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าคนตัวเล็กคนนี้จะเป็นอะไรไป กลัวเสียยิ่งกว่าตอนที่ซอฮยอนกำลังเป็นอะไรไปเสียอีก ...

     

    ทำไมนะ ... ทำไมคน ๆ นี้ถึงได้สำคัญมากขนาดนี้

     

    ทงเฮ ...ทงเฮ...มือใหญ่ควานคว้าไปที่มือของคนตัวเล็ก สัมผัสหนาวเย็นทำให้ใจหล่นวูบ ตอนนี้คิบอมมองอะไรแทบไม่เห็นแล้ว รู้แต่มีเจ็บร้าวไปหมด ... แล้วทำไมทุกอย่างต้องมาแสดงอาการเอาตอนนี้

     

    หรือทงเฮจะความจำฟื้นคืน ?

     

     

    ผมอยากจะสวดภาวนา ...

     

    ผมอยากจะให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน ....

     

    พระเจ้าครับ ...อย่านำเขาไปจากผมเลย

     

     

     

    หลังจากนั้นคิมฮีชอลที่โผล่มาก็รับพาพวกเขาส่งโรงพยาบาลอีกรอบ แปลกดีที่พวกเขาใช้ชีวิตวนเวียนกับสถานที่สีขาวและสะอาดปลอดภัยแห่งนี้อยู่ตลอด อีกครั้งที่ความมืดมิดเข้าครอบคลุมการมองเห็น ที่สัมผัสได้มีเพียงทางกายและทางหู โลกเบื้องหน้ามืดไปหมด ความหวาดกลัวอย่างเดิมเริ่มกลับคืนเข้าครอบงำจิตใจ เหมือนกับตอนนั้นที่สูญเสียซอฮยอนไป ถึงแม้ความสูญเสียอาจจะไม่เทียบเท่า แต่ว่าน้ำหนักความรู้สึกโหวงเหวงกลับแทบจะเท่าเทียมกัน

     

    ร่างสูงยกมือขึ้นแตะผ้าพันแผลสีขาวที่พันอยู่รอบศีรษะ ลากนิ้วไปตามความสากของผ้าอย่างเบามือ กระวนกระวายใจเหลือเกิน ผ่านไปแล้วสองสามวันโดยที่ยังไม่รู้อาการของใครอีกคนที่เขาเป็นห่วงนักหนา เรื่องตาของตัวเองเขาแทบไม่สนใจด้วยซ้ำ รู้แค่ว่ามีปัญหานิดหน่อยแต่ไม่มากถึงขั้นจะเปลี่ยนอีกรอบ ปิดมาแล้วสองสามวัน เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้น

     

    แค่นี้ถือว่าไม่มากมายเลย ..เมื่อเทียบกับใครอีกคนที่ต้องทรมานจากทั้งเรื่องคนรักและความทรงจำ

     

     

    ...ดูยาวนานเหลือเกิน ไม่อยากเชื่อว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เขากับอีทงเฮเพิ่งจะได้จูบกัน ...เพิ่งจะได้รับรู้ว่าตัวเองคิดอย่างไร  แต่กลัวว่าหลายสิ่งหลายอย่างจะต้องมาดับสูญเพราะเหตุการณ์เพียงนิดเดียว รู้ว่าเรื่องใหญ่ ๆ หลาย ๆ เรื่องก็เกิดมาจากอะไรนิดเดียว ...แต่เขาไม่อยากให้ทุกอย่างที่กำลังราบรื่นสูญสลายไป

     

    ดูเห็นแก่ตัว แต่ใครบ้างไม่เห็นแก่ตัว ?

     

     

     

    เสียงฝีเท้าดังขึ้นไกล ๆ ตามติดด้วยเสียงเปิดประตู คิบอมไม่สามารถรู้ไดว่าใครเข้ามา เจ้าของเสียงนั้นเงียบกริบ ร่างสูงก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรนอกจากมองไปในความมืดเวิ้งว้างเบื้องหน้าอย่างว่างเปล่า ฝีเท้าเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง คิบอมก็ยังคงนิ่งอยู่แบบนั้น

     

     

     

    ทงเฮวางของในมือลงช้า ๆ ร่างบางในชุดปกติธรรมดาเหมือนคนพร้อมจะออกจากโรงพยาบาลทำหน้านิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็น พิจารณาใบหน้าของคิบอมที่ถูกปิดไปเกือบครึ่งด้วยผ้าพันแผล รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก รอยยิ้มที่ดูแล้วไม่อาจจะเข้าใจในเจตนาที่แท้จริง

     

    ไม่อยากมองหน้าคน ๆ นี้ กลัว ...ตัดสินใจไม่ถูกว่าหัวใจควรจะรู้สึกยังไง ในความรู้สึกผิดที่เคยรู้สึก จนถึงวันนี้ก็กระจ่างแล้วว่าเพราะอะไรถึงได้คิดแบบนั้น ก้นบึ้งของความทรงจำเป็นที่ที่เก็บทุกอย่างที่มนุษย์ได้จดจำและมองเห็น และตอนนี้ สิ่งที่เขาเคยไม่รับรู้มันก็กลับคืนมาแล้ว

     

    จนถึงตอนนี้ทงเฮรู้แล้ว ...ว่าทุกอย่างที่เคยสงสัยคืออะไร

     

     

    ในยามที่มันอยากจะกลับมามันก็กลับมา ภาพทุกอย่าง ใบหน้าของอดีตคนรักที่ขาวซีดไม่มีสีเลือด คำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ที่บอกว่ายุนอาจากเขาไปแล้วด้วยฝีมือของผู้ชายคนหนึ่ง เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ความรักที่เขามีให้เธอ และความแค้นที่เขารู้สึกได้ว่ากำลังก่อตัว ... แต่สุดท้ายหัวใจก็สั่งปิดตายมันทั้งหมด สั่งให้เขาลืมมันไปซะ

     

    ....จำได้แล้วว่าใคร...

     

    .....ใครที่เป็นคนพรากยุนอาไปจากทงเฮ

     

    น้ำตาไหลรินลงมาอย่างเชื่องช้า ร่างบางเลื่อนมือจับคมมีดสีเงินที่หยิบติดมาจากข้างเตียง ความรู้สึกแค้นกลายเป็นเปลวเพลิงที่เผาผลาญความรู้สึกจนทุกข์ทรมาน อยากให้เจ้าตัวต้นเหตุได้รับรู้เสียบ้างว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับมันเป็นอย่างไร ถึงแม้จะรู้ว่าคิบอมเองก็สูญเสีย ...ตั่นต่างกันไม่ใช่หรือไง

     

    คิบอมยังมีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้

     

    ไม่ใช่ยุนอา ที่เสียไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นดวงตาหรือชีวิต หรือเขา ..ที่ต้องทนกับชีวิตที่ไม่มีใครคนนั้นเคียงข้างอีกต่อไป ...

     

    แต่ทำไมนะ เขาควรจะโกรธสิ แต่ทำไมน้ำตาต้องไหลแบบนี้ด้วย

     

    เสียงสะอื้นที่ดังขึ้น ถึงแม้จะเพียงนิดเดียวแต่ร่างสูงก็จดจำเสียงนั้นได้ หัวใจเหมือนหล่นวูบลงไปโดยที่ไม่มีทางไขว่คว้ากลับมา ปลายนิ้วมือเย็นยะเยียบบ่งบอกความหวาดกลัว ร่างสูงควานมือไปข้าง ๆ อย่างมืดบอด ก่อนที่จะเจอกับผิวกายนุ่มนิ่มคุ้นมือของใครบางคน ร่างสูงปล่อยมือออกช้า ๆ ทั้งสองคนนิ่งอยู่ซักพัก ก่อนที่คิบอมจะถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาเหมือนกับไม่มีแรงจะพูด

     

    จำได้แล้วใช่ไหม?”

     

    มือที่กำอยู่รอบด้ามมีดรัดแน่นขึ้นชั่ววูบ ทงเฮพยักหน้าช้า ๆ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าคิบอมไม่อาจจะมองเห็น ถึงได้ส่งเสียงในลำคอตอบรับ ไม่อยากพูดอะไรออกมา กลัว..กลัวว่าถ้าหากปล่อยให้ตัวเองได้พูดอะไรอาจจะทำให้เขาหวั่นไหวไปมากกว่านี้

     

    มือของร่างสูงยื่นตรงมา ความตั้งใจคราแรกคืออยากจะจับมือของทงเฮแล้วขอโทษสำหรับทุกอย่าง แต่ที่สัมผัสได้คือคมมีดที่สั่นน้อย ๆ ด้วยแรงคนถือ เพียงแค่นั้นคิบอมก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด เข้าใจว่าทงเฮรู้สึกอย่างไร ความหนาวเย็นค่อย ๆ คืบคลานมาเกาะกุมหัวใจช้า ๆ ...

     

    เหมือนในตัวของเขากำลังร่ำร้องของความเป็นธรรมที่เขาไม่มีสิทธิ์ ...

     

    ที่ผ่านมา ...ทงเฮคงแค่รักนัยน์ตาของเขา หลงรักผู้หญิงคนนั้นที่ส่งต่อของที่ระลึกมาให้เขา คำว่ารักของคน ๆ นี้ไม่ได้มีไว้เพื่อคิมคิบอมเลยแม้ซักนิด จนถึงตอนนี้ ..ตอนที่เขากำลังรักแทบหมดใจ อีทงเฮก็ยังยืนยันว่าจะรักอิมยุนอาสินะ

     

    ร่างสูงหัวเราะขื่น ๆ ผ้าปิดตาเปียกชื้นนิด ๆ จากของเหลวที่ไหลเอ่อออกมาอย่างที่เจ้าของไม่คาดคิด เพียงแค่นี้ เขากับทงเฮก็เหมือนอยู่ไกลคนละโลก ทั้ง ๆ ที่ความจริงยืนอยู่ห่างกันนิดเดียว หัวใจถูกบีบร้าวด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ ทงเฮเองก็เงียบไปอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ยิ่งเห็นร่างสูงร้องไห้ก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว มือที่ถือมีดไว้สั่นระริกราวควบคุมไม่อยู่

     

    ทงเฮ ... ผมขอโทษสรรพนามที่ไม่เหมือนทุกทีถูกเรียกราวกับทั้งสองฝ่ายห่างเหินกันไปแล้ว คิบอมพูดช้า ๆ ราวกับต้องใช้เวลานานในการกลั่นกรองให้พูดออกมาได้ผมขอโทษ ..สำหรับทุกอย่าง ผมจะชดใช้ให้ก็ได้นะ ... ทงเฮอยากทำอะไรก็ได้เลย

     

    รอยยิ้มที่ถูกส่งมาให้นั้นทำให้ร่างบางไม่สามารถห้ามน้ำตาได้อีกต่อไป มือข้างที่ว่างยกขึ้นปิดปาก ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมต้องร้องไห้ ทำไมต้องเสียใจด้วย ...ทั้ง ๆ ที่จุดประสงค์ในตอนแรกคือคำว่าแก้แค้นแท้ ๆ แต่สุดท้ายกลับลังเลเสียจนไม่น่าให้อภัย

     

    คิบอมเองก็รับรู้เสียงนั้นได้ อยากจะเอื้อมมือไปกอดปลอบอย่างที่เคยทำ อยากจะเช็ดน้ำตาให้ แต่ตอนนี้กลับทำไม่ได้อีกแล้ว ระยะห่างระหว่างความรู้สึกตอนนี้คงไกลแสนไกลเสียจนไม่อาจจะนำมาต่อกันได้อีก คิบอมเอื้อมมือไปโดนคมมีดของร่างบาง และด้วยความคิดที่เกือบ ๆ จะเหมือนบ้าคลั่ง ร่างสูงกดฝ่ามือลงเข้ากับคมมีด ทั้ง ๆ ที่จริงไม่ใช่เรื่องง่ายในการใช้มีดกรีดเนื้อให้ไหลโดยตัวคนทำ แต่ความเจ็บปวดทั้งหมดกลับสูญหายไป ทิ้งไว้แต่ความเย็นยะเยือกภายในที่บาดลึกยิ่งกว่า ของเหลวสีแดงไหลรินออกมา ทงเฮมองภาพนั้นแล้วดึงมีดออกไป ก่อนที่จะโยนทิ้งไปข้างหลัง

     

    ....ยุนอา ...ฉันพยายามแล้ว

     

    แต่ทำไม ..ทำไมกลับทำอะไรไม่ได้เลย ทำให้เขาเจ็บปวดไม่ได้เลย

     

    กลับกลายเป็นคนโง่คนนี้ ... ที่ต้องเจ็บปวดแทน

     

    ผมขอโทษ...คิบอมยังคงพูดซ้ำคำเดิม ร่างบางยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองเหม่อไปที่ใบหน้าของร่างสูง ไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าความรู้สึกของคิบอมเป็นอย่างไร ...เลือดยังคงหลั่งไหลจากฝ่ามือ ความคิดในใจต่างวิ่งชนกันแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่แท้จริงออกมาว่าอยากจะทำอะไรกันแน่ ร่างบางยื่นมือออกไปสัมผัสฝ่ามือของอีกฝ่าย คิบอมไม่ได้สะดุ้ง ไม่ได้หดตัวหนี เพียงแต่รับมือของทงเฮแต่โดยดี

     

    หัวใจดวงน้อยยังคงไหวหวั่น อยากได้คำตอบที่แท้จริงว่าเขาอยากจะทำอะไร อยากจะแก้แค้น อยากจะปล่อยวาง แต่ความรู้สึกผิดก็รุมเร้าเสียจนไม่สามารถตัดสินใจ เขาจำได้ว่าเคยสัญญาไว้ว่าจะทำให้คนที่พรากยุนอาไปต้องเจ็บปวด แต่เมื่อได้มาพบจริง ๆ เข้า .. คน ๆ นั้นกลับเป็นใครอีกคนที่เขารักไปเสียแล้ว ...

     

    รักไปแล้ว ไม่อาจจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี ...

     

    ยุนอา ...ฉันขอโทษ

     

     

    ทงเฮสะบัดมือคิบอม ก่อนที่จะผลุนผลันออกไปโดยที่น้ำตาอาบใบหน้า สวนทางเข้ากับคนสองคนที่กำลังมาเยี่ยมพอดี ฮีชอลกับซีวอนที่เดินมาด้วยกันตกใจไม่น้อยที่เห็นคนคุ้นตาวิ่งออกไปโดยที่ห้ามไม่ทัน ได้แต่เดินเข้ามาถามคนที่อยู่ข้างใน

     

    คิบอม ...ไปทำอะไรทงเฮ เฮ้ย !!”ร่างบางที่เดินเข้ามาใหม่ตั้งใจจะถาม แต่เมื่อเห็นมือของน้องชายมีแต่เลือดก็ตกใจ รีบกุลีกุจอหาผ้ามาเช็ดให้ คิบอมไม่ได้ตอบ สีหน้าเรียบเฉย ไม่ยินดียินร้ายอะไรทงเฮวิ่งออกไปแล้วนะเว้ย!!”

     

    จะตามไปไหม?”เสียงของซีวอนดังขึ้นอีกฟาก คิบอมหันไปทางทิศที่เสียงดังมา

     

    ไม่ขวางแล้วเหรอ?”

     

    คนไม่มีสิทธิ์ก็ไม่มีสิทธิ์อยู่วันยังค่ำร่างสูงยักไหล่ ปวดใจเหมือนกันที่ต้องยอมรับความจริง ฮีชอลหันหน้ามามองแล้วเบะปากใส่ ร่างบางโยนทิชชู่เปื้อนเลือดลงถังขยะไปแล้วมองหน้าซีวอน รอให้พูดต่ออีกอย่าง ... มีคนปลอบใจแล้ว

     

    คิบอมยิ้มซึม ๆ ถ้าเป็นเวลาปกติอาจจะแซวพี่ชายซักคำสองคำ แต่ตอนนี้ ...ไม่มีแรงจริง ๆ

     

    อื้ม ..นี่ หมอเขาบอกว่าเดี๋ยวน่าจะเอาผ้าปิดตาออกได้แล้วนะ เย็นนี้ล่ะมั้งที่เขาจะมาเอาออกให้ จากนี้ก็ระวังด้วยล่ะฮีชอลสั่งการเสียเหมือนคุณแม่ คิบอมยังคงนิ่งเฉย ไม่รู้จะดีใจไปทำไมเมื่อลืมตาขึ้นมา...ไม่ได้เจอทงเฮคนเดิมอีกต่อไป

     

    แล้ว ..ทงเฮเป็นยังไงบ้างคำถามที่อยากรู้ถามออกมาจนได้ ถึงแม้จะเจอกันเมื่อครู่แต่ก็แทบไม่ได้คุยกัน ฮีชอลยิ้มค้างแล้วถอนหายใจเบา ๆ

     

    ความทรงจำกลับคืนมาครบแล้ว วันนี้คงได้ออกจากโรงพยาบาล อันที่จริง ...ฉันก็มารับเขาเนี่ย

     

    อื้อ...

     

    เงียบสงัดกันไป คิบอมก้มหน้าลงแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก ซีวอนกับฮีชอลเองก็ได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างไม่รู้จะพูดอะไร จนกระทั่งแพทย์เข้ามาและแจ้งว่าจะเอาผ้าปิดตาของคิบอมออก ฮีชอลเลยได้แต่บอกว่าเดี๋ยวจะไปรับทงเฮแล้วจะกลับมา คิบอมก็ให้แพทย์เอาผ้าปิดตาออกให้โดยที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งเขาได้พบกับแสงสว่างอีกรอบ

     

    ทำไม ..ทำไมโลกที่เป็นสีขาวถึงได้ดูมืดมนแบบนี้

     

    เพราะไม่มีทงเฮใช่ไหมถึงได้รู้สึกแบบนี้ ...

     

     

    ....ซอฮยอน ขอโทษนะ

     

    ถ้าเธอเจอยุนอาบนนั้น ฝากขอโทษเขาให้ผมด้วยได้ไหม

     

    ขอโทษที่ทำให้คนรักของเธอต้องเป็นแบบนี้ ขอโทษจริง ๆ

     

     

    คิบอมนั่งซึมซับภาพเบื้องหน้าที่เห็นจนคุ้นชิน ผนังสีขาวของโรงพยาบาล นั่งอยู่แบบนั้นได้อีกสิบกว่านาทีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งอย่างร้อนรนข้างนอก สังหรณ์ใจน้อย ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างนอก คิบอมกะพริบตาแล้วหันไปมองประตูด้วยสีหน้าเยือกเย็น ฮีชอลเปิดประตูเข้ามาดังโครม ร่างบางหายใจหอบน้อย ๆ แล้วละล่ำละลักพูดกับคิบอม

     

    ทงเฮ...ทงเฮหายไป...

     

    อะไรนะ?”เขาอาจจะหูฝาด ที่ร่างบางวิ่งไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เขาคิดว่าอาจจะไปนั่งจับเจ่าอยู่ที่ห้อง ใจหายไปอยู่ที่ตาตุ่ม กลัว .. กลัวว่าใครคนนั้นจะไปทำอะไรร้าย ๆไปไหน?”

     

    ไม่รู้ ...คิบอม ที่บ้านก็ไม่มี ฉันไม่รู้แล้วฮีชอลพึมพำบอก ซีวอนเองก็วิ่งตามมา ท่าทางเหนื่อยหอบพอ ๆ กันฉันกลัวพ่อทงเฮจะรู้ ซีวอน ..ทำยังไงดี

     

    พี่คิบอม คิดว่าทงเฮจะไปที่ไหน

     

    ร่างสูงของอีกคนหันมาสบตากับคิบอม คิบอมนิ่งไปแล้วทบทวนความทรงจำในหัวว่าที่ไหนที่ทงเฮคงอยากจะไปตอนนี้ ภาพสถานที่ที่เรียงรายไปด้วยสุสานหินอ่อน ท้องฟ้าสีฟ้ากลว้าง ที่ที่เขาเคยพาทงเฮไปหาอดีตคนรักของเขาผุดขึ้นมาในหัว ร่างสูงพยักหน้ารับช้า ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียง

     

    แกจะไปไหนเนี่ยคิบอม!!”ฮีชอลที่เกาะประตูไว้ร้องถามขึ้นหมอยังไม่ให้ออกนะเว้ย!!”

     

    พาผมไปที่สุสานเสียงเรียบเย็นทำให้ร่างบางสะดุดกึก ก่อนที่จะหันไปหาซีวอนอย่างขอความช่วยเหลือ ร่างสูงส่ายหัวแล้วดึงร่างบางมาแนบอก ก่อนที่จะเดินนำคิบอมออกไปที่รถ

     

     

    I’m back !!

    กลับมาแล้ว ขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้อัพให้ ฮือ TT

    ตอนนี้ คิเฮอึมครึม อย่าเอามีดมาปาไรท์เตอร์น๊า 55

    Happy Birthday Prince Shim ย้อนหลัง รักปริ๊นนะ รักมาก คิดถึงด้วย TT

     

    ขออนุญาตไม่ตอบเม้นอีกตอนนะ ฮือ พักนี้ขี้เกียจ บวกกับปิดเทอมแล้วแต่ต้องไปเรียนทุกวันเพื่อเรียนม.5 !! TOT

    ปิดเทอมซ้อมโคฟ โอ้พระเจ้า TAT

     

    ขอพื้นที่โฟ่ วันนี้ไปลานไอซ์สเก็ตที่เอสพละนาดรัตนามาแหล่ะ ล้มลุกคลุกคลาน เล่นได้แย่สุด ๆ เพราะไม่เอาอ่าวด้านนี้ เลยให้เพื่อนช่วยจับมือให้ แล้วเพื่อนคนนี้มีผู้ชายมาขอเบอร์สองคน ที่ตลกคือมันให้เมลไปแล้วผู้ชายคนนั้นก็บอกว่า

    ตอนแรกไม่กล้ามาจีบ เพราะนึกว่าไรท์เตอร์กะเพื่อนคนนั้นเป็นแฟนกัน ฮิ้ววว =[]=

    นี่ ..ผมทรงใหม่ทำให้ฉันเป็นผู้ชายไปเลยเรอะ !!!

    แต่ก็ดี คึ =w=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×