คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : {part 18} Error
18
Error
หลังจากโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทแล้วอีทงเฮก็มานอนต่อในห้อง ข้าวเย็นก็กินแล้ว วันแรกที่ได้ออกจากโรงพยาบาลทำให้รู้สึกว่าที่แห่งนี้ดีสุด ๆ ถึงแม้จะไม่ดีเท่าบ้านแต่ก็สบายกว่าโรงพยาบาล ตั้งเกือบอาทิตย์ที่เขาต้องกินอาหารจืด ๆ แถมพูดไม่ได้อีกต่างหาก
ครั้งแรกที่เข้าใจความรู้สึกของคนพิการอย่างจริงจัง ถึงแม้ไม่ได้ตาบอดหรือหูหนวกไปด้วย แต่การที่อยากจะสื่อสารอะไรซักอย่างโดยไม่ใช้ในสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดนั้นยากจริง ๆ หลายครั้งที่เขาพยายามจนรู้สึกแสบและเจ็บคอ แต่เสียงก็ไม่มีออกมาให้ได้ยินเสียด้วยซ้ำ พอกลับมาพูดได้คราวนี้เลยพูดยกใหญ่จนคนฟังที่ไม่ชอบพูดอย่างคิบอมนั่งฟังกันไปเป็นชั่วโมง
ส่วนเรื่องความทรงจำก่อนที่จะเข้าโรงพยาบาล น่าแปลกที่มันกลับขาดหายไปโดยที่ไม่สามารถนึกรายละเอียดออก แต่บางทีความรู้สึกทรมานก็ย้อนกลับมาเล่นงานในช่วงเวลาที่เขานอนหลับ ภาพใบหน้าของผู้หญิงที่ชื่ออิมยุนอา รวมทั้งเสียงร้องไห้แปลก ๆ นั่นด้วย
ทงเฮสะบัดขาตีเตียงเล่นแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีมืดแล้ว พรุ่งนี้วันศุกร์ อยากจะไปโรงเรียนอยู่แต่ติดที่ว่าคิบอมไม่ยอมไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าถ้าคนเราทำอะไรต้องมีความต่อเนื่อง เลยหยุดมันทั้งอาทิตย์ ร่างบางถอนหายใจแล้วนอนมองเพดานสีขาวอย่างเหม่อลอย
เป็นไปได้ไหมนะที่ความรู้สึกนั้นจะเป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริง ๆ
แต่ก็ ... ไม่รู้สิ ไม่มีคนหน้าตายแต่การกระทำกลับอบอุ่นอยู่ด้วยแล้วรู้สึกเหงาแปลก ๆ มือเล็กยกขึ้นไปเบื้องหน้าอากาศอย่างใจลอยแล้วยกกลับมามอง ลมหนาวที่พัดวูบไปมาเน้นย้ำความอ่อนแอในจิตใจ ร่างบางหลับตาลง ทบทวนความคิดในหัวแล้วตัดสินใจลุกขึ้นยืน หอบผ้าหอบผ่อน เอาหมอนข้างและผ้าห่มติดมือไป ปิดไฟให้เรียบร้อย ...
จะไปไหน ?
จุดมุ่งหมายสุดท้ายอยู่ที่ห้องนอนของใครอีกคนที่อยู่ห่างกันอีกฟากหนึ่ง ร่างบางเคาะประตูพอเป็นพิธีและเปิดเข้าไปโดยไม่รอคำว่าอนุญาต คนตัวเล็กโยนหมอนกับผ้าห่มลงบนเตียงของคิบอมแล้วนั่งรอร่างสูงที่กำลังอาบน้ำ แสงไฟที่ลอดประตูออกไปบวกกับเสียงฝักบัวก็แสดงออกมาแบบนั้น อีทงเฮมองไปรอบ ๆ ห้องสีขาวฟ้าของคิบอมด้วยท่าทางสนใจ แต่ไม่กล้าขยับไปแตะอะไรแล้ว
เวลาผ่านไปอีกนิดหน่อย เสียงฝักบัวก็หยุดลง ทงเฮนั่งจ้องประตูห้องน้ำเหมือนกับจะทะลุทะลวงเข้าไปมองคนข้างใน หัวใจอดเต้นตึกตักไม่ได้ที่มานั่งรอเขาอยู่ถึงตรงนี้ ประตูห้องน้ำเปิด แสงไฟจากข้างในส่องออกมาเป็นลำยาว คิบอมซับผ้าเช็ดหัวเข้ากับหยาดน้ำบนใบหน้าแล้วหันมาตามปกติ ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อเห็นคนน่ารักนั่งตาแป๋วอยู่ที่เตียง
ถ้าฟังดี ๆ อาจจะมีเสียงหวีดหวิวของสายลมผ่านคนทั้งคู่ คิบอมไม่ได้โวยวาย ทงเฮก็ไม่ได้โวยวาย เพียงแต่นั่งจ้องหน้าจ้องตากันแบบนั้น คิบอมก็ทำหน้านิ่ง ทงเฮก็ทำหน้าตาอ้อนให้มากที่สุดเท่าที่จะใส่ไหว ถึงแม้แก้มใสจะขึ้นสีระเรื่อหน่อย ๆ เมื่อตระหนักได้ว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ในสภาพอะไร
“อยากนอนด้วย”
สุดท้ายคนที่พูดขึ้นก่อนก็เป็นทงเฮ ร่างบางยิ้มหวาน คิบอมเลิกคิ้วแล้วถอนหายใจ ปฏิเสธก็ไม่ได้ ตอบรับไปก็กลัวแสนจะกลัวว่าคนตัวเล็กจะนอนดิ้นอีก
“ปฏิเสธได้ด้วยเหรอ”
“คิบอมอ่ะ”ทงเฮทำปากยื่นปากยาว อดคิดไม่ได้ว่าทำไมตอนนี้รู้สึกเหมือนผู้หญิง แต่ชอบให้คิบอมทำหน้าแบบนี้ ...เพราะพอสังเกตทีไร ถึงหน้าจะเย็นชา แต่ตางี้ดูยิ้ม ๆ ไงไม่รู้ ...ดูแล้วน่ารักดี”นอนบนเตียงนะ นอนด้วยกัน”
“คราวก่อนยังหนีอยู่เลยนี่”
ทงเฮซุกหน้าลงกับหมอนเมื่อนึกถึงคราวก่อน อดหวั่นไม่ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นอีกรอบ แค่คิดใจก็เต้นระรัวเสียจนกลัวว่ามันจะทะลุออกมาจากอก คิบอมมองภาพนั้นแล้วอมยิ้มน้อย ๆ แล้วตัดสินใจเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่กองไว้มาใส่โดยที่ทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุ ทงเฮมองเลยหมอนขึ้นมาแล้วก้มหน้างุด ๆ ลงไปอีกรอบ
พูดจริง ๆ นะ มองคิบอมแล้วอิจฉาทุกที
นาฬิกาเลื่อนมาถึงเวลาเที่ยงคืนพอดี ทงเฮที่เหลือบไปมองอีกรอบถึงกับงงเพราะว่าใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยมาเยอะจนลืมดูเวลา แต่ยังไงก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะยังไงก็ไม่ได้ไปเรียนอยู่แล้ว นอนดึกก็ดีเหมือนกัน
“ตะกี้มองอะไร?”จู่ ๆ คิบอมก็ส่งเสียงถามขึ้นมา ร่างบางที่นั่งงุบงิบ ๆ อะไรถึงก็สะดุ้ง หน้าแดงวาบเมื่อนึกถึงอะไรที่ว่านั่น ร่างบางส่ายหัวหงึก ๆ ปฏิเสธ คิบอมอมยิ้ม”แปรงฟันรึยัง”
“แปรงแล้ว”ทงเฮชักเคืองเหมือนกันที่ทำเหมือนเขาเป็นเด็ก ไม่ได้งอแงขนาดนั้นเสียหน่อย”แล้วจะทำไม”
“เปล่า จะบอกให้นอน ง่วง”
“เหรอ”
“อื้ม”
เงียบกันไปอีก ทงเฮซุกหน้าลงงุด ๆ แล้วลุกขึ้นยืน คิบอมยังคงนิ่งอยู่ คนตัวใหญ่กว่าก็เดินไปปิดไฟจนห้องตกอยู่ในความมืด ร่างบางยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่เพราะรู้สึกว่าความมืดน่าเขินกว่ายามสว่าง เสียงสปริงเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดเพราะคิบอมนั่งลงบนเตียง คนน่ารักที่มาขอที่นอนก็ยังไม่กล้าลงไปนอนด้วย ...
ตอนแรก ๆ ก็กล้าดีหรอก ไอ้ตอนที่คิดน่ะ ..
แต่ตอนนี้ ....
เขิน ....
“ไม่นอนเหรอ”คิบอมถามด้วยเสียงปกติธรรมดา แต่แอบอมยิ้มไว้ในหน้า ...รู้สึกดีเหมือนกันที่ถูกอ้อนแบบนี้ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร แต่ในใจก็ดีใจไปกว่าครึ่งแล้ว อีทงเฮตอนนี้น่ารัก ...น่ารักเสียจนเขาอดใจแทบไม่ได้
“นอนสิ ..คิบอม เขยิบไปหน่อย”ทงเฮบอกเสียงเบา ๆ แล้วรีบมุดลงเตียง เข้าไปอีกด้านที่ติดกับกำแพง แล้วดึงผ้าห่มของคิบอมมาห่มตัวเองไว้จนทั้งสองคนนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน อันที่จริงก็ไม่ใช่แบบนั้นเพราะอีทงเฮเอาไปพันตัวจนกลายเป็นหนอนชาเขียว ทิ้งให้คิบอมนอนตากแอร์อยู่คนเดียวไปซะแล้ว
“เอามานี่ หนาว”พ่อหนุ่มพูดน้อยดึงชายผ้าห่มกลับไป ทงเฮก็ดึงกลับมาด้วยอารมณ์อยากจะน่ารัก จากตอนแรกที่กำลังเขิน ๆ เลยต้องมาดึงผ้าห่มกันไปมาแทน
“ไม่ให้อ่ะ หนาวไปสิ”
คิบอมไม่ตอบ เพียงแต่ดึงเหมือนเดิม ทงเฮเลยกลิ้ง ๆ ทับจนเอาไปไหนไม่ได้
“นอนไปเลย นอนไปแบบนั้นแหล่ะคิบอม”เสียงใสร้องบอกแล้วขืนตัวสุดกำลังเพื่อไม่ใช่คนแรงเยอะกว่าดึงไปได้ ไป ๆ มา ๆ คิบอมก็ปล่อยมือเสียจนทงเฮเสียหลัก กลิ้งเลยเถิดไปชนกำแพงนู่น เสียงดังจนห้องข้าง ๆ น่าจะได้ยินไปด้วย
“หน้าผากนายคงแข็งน่าดู”
“คิบอม...แกล้งนี่หว่า”ทงเฮลูบหน้าผากกับจมูกป้อย ๆ แล้วโยนผ้าห่มทับหน้าอีกฝ่ายด้วยความเซ็ง ไอ้เราอุตส่าห์น่ารัก คิบอมดันทำให้ออกมาเป็นโศกนาฏกรรมไปเสียได้”เอาไปเลย”
“เอาไปเหอะ”
“กวนประสาท”ทงเฮเลยโยนผ้าห่มทับหน้าแล้วทุบแขนอีกฝ่ายหนัก ๆ ให้สะใจเล่น คิบอมขมวดคิ้วแต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายทุบ ไม่ได้ระคายอะไรมาก เหมือนโดนมดกัด”ไม่เจ็บเหรอ...นี่”
ร่างบางเลยเปลี่ยนเป็นนอนตะแคงมาหาคิบอมแล้วเล่นปูไต่เสียแบบนั้น นิ้วเรียวไต่เล่นไปตามแขน เล็บขาวขูดเนื้อเบา ๆ ให้พอกระตุก คิบอมเริ่มกลั้นขำไม่ไหว ... พอทงเฮจี้ลงไปตรงซอกคอก็ร้องขึ้นมาเสียงดัง
“อย่านะ!”
“บ้าจี้เหรอ”ตาใส ๆ เป็นประกายแวววับ”คิบอมบ้าจี้เหรอ~”
ลากเสียงยาวอย่างกวนประสาท คิบอมไม่ตอบเพียงแต่เมินหน้าไปทางอื่น ทงเฮเห็นแบบนั้นก็กระหน่ำเต็มที่ ลุกขึ้นยืนด้วยเข่าแล้วสองมือก็จี้เอวจี้คอคิบอมอย่างมันมือ คิบอมที่สู้ไม่ไหวก็ต้องปัดป้องบ้างตามประสาคนบ้าจี้ ทงเฮยังคงสนุกอยู่ถึงได้หัวเราะสะใจไปด้วยอย่างหมดความน่ารัก
“หน้านายตลกชิบเป๋งเลยอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
“ทงเฮ...หยุด...โอ๊ย ..ฮ่า ๆ ๆ”
สุดท้ายทงเฮก็จอมแกล้งอีกคนหนึ่งเนี่ยแหล่ะ ...
พอแกล้งได้ก็เอาใหญ่เลยนะ ...
ร่างสูงกระพริบตาไล่น้ำตาที่เกิดจากการหัวเราะออกไปแล้วเบี่ยงไปข้าง ๆ คว้าข้อมือคนขี้แกล้งไว้มั่นแล้วจัดการตรึงไว้ ทงเฮมองหน้าแล้วดิ้นอีกหน่อย ..คิบอมฉวยโอกาสที่นิ่งรั้งตัวอีกฝ่ายให้ล้มลงมาทับจนใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
ร่างบางหน้าร้อนวาบด้วยความเขินอายแล้วนิ่งเงียบ ไม่กล้าจะขยับไปไหน ตัวอุ่น ๆ ที่กำลังแนบอยู่...เสียงหัวใจที่ดังผ่านจนรับรู้ว่าอีกฝ่ายใจเต้นแรงแค่ไหนกำลังลบคำกล่าวหาออกไปจากจิตใจ ข้อกังขาที่ว่าคิบอมยังคงรักซอฮยอน ถึงแม้จะรู้สึกผิด ...แต่ก็กำลังดีใจ
อย่างน้อยก็ตอนนี้ที่ดีใจ ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้รู้สึกผิดมากนัก
“ทำอะไรน่ะ ?”
ทงเฮกระซิบถามเบา ๆ คิบอมเองก็ไม่ได้ตอบ ร่างสูงนิ่งไปพักหนึ่งแล้วก็ปล่อยมือช้า ๆ อย่างลังเล
“ก็ไม่ได้ทำ...”
“เหรอ...”ร่างบางเงียบไปแล้วยันตัวจะลุกขึ้นอีกทาง แต่เมื่อยันศอกขึ้นได้ข้างหนึ่ง คิบอมก็ดันเผลอตัวจะลุกตาม แขนขวาของร่างสูงปัดไปโดนศอกของทงเฮที่กำลังยันจนเสียหลักแล้วล้มลงมาอีกครั้ง คราวนี้มันไม่ใช่แค่ได้ใกล้ ...กลับกลายเป็นว่าอีทงเฮกำลังหน้าแนบสนิทกับคิมคิบอมน่ะสิ!
ลมหายใจของอีกฝ่ายขาดห้วงไป คิบอมหยุดนิ่ง ทงเฮเองก็หน้าร้อนจี๋อย่างควบคุมไม่ได้ ร่างบางยันมือขึ้นอีกครั้งหรือสองครั้งเหมือนกับจะพยายามถอยห่าง แต่ทำไมกล้ามเนื้อถึงได้ไม่ตอบสนองเอาเสียเลย เขาขยับไปไหนไม่ได้ ..ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่มีอะไรพันธนาการไว้แท้ ๆ
แล้วหัวใจที่กำลังเต้นแรงไม่แพ้คิบอมนี่หล่ะ ...
อีกฝ่ายเองก็เช่นกัน คิบอมแทบจะไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าตนเองหน้าหวอแค่ไหน แก้มป่อง ๆ เริ่มแดงระเรื่อไม่สมกับมาดที่เคยเป็น กลิ่นหวาน ๆ เหมือนแป้งเด็กลอยมาแตะจมูกบอกให้รู้ว่าทงเฮชอบใช้แป้งเด็กมากกว่าน้ำหอมผู้ชาย ร่างสูงหลับตาราวกับหวังให้ภาพทั้งหมดเป็นความฝันแล้วทดลองขยับตัว หวังว่าอีกฝ่ายจะลุกออกไปเสียที
“ลุกได้แล้ว หนัก”เสียงขรึม ๆ ที่ขัดกับใบหน้าแดงแปร๊ดบอกแบบนั้น ทงเฮที่หน้าแดงไปถึงใบหูก็พยักหน้าแล้วเริ่มขยับตัวหนี แต่ไป ๆ มา ๆ มันยิ่งแย่กว่าเดิมอีก ริมฝีปากนิ่ม ๆ ของร่างบางเฉียดปากคิบอมไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ทงเฮอ้าปากเหวออย่างตื่นตระหนกแล้วรีบหุบปากลง คิบอมหลับตาอีกครั้ง พยายามข่มกลั้นตัวเองไม่ให้ทำอะไรไปมากมายกว่านี้”ทงเฮ ลุก”
“งั้นไม่ลุก”พอคิบอมทำเสียงดุ ๆ แบบนั้นแล้วคนน่ารักก็ทำตัวดื้อขึ้นมาเสียเลย ร่างบางแกล้งทิ้งน้ำหนักลงมากกว่าเดิมแต่เอาหัวไปซบอีกด้านแทน คิบอมกัดริมฝีปาก ช่วยไม่ได้ ... ในเมื่อรู้สึกขึ้นมาเสียแล้วจะให้ทำยังไง ใครมันจะคิดว่าตัวดันมามีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกัน ถึงแม้จะน่ารักแค่ไหนก็เถอะ“หนักล่ะสิ”
“อ้วน”คิบอมพูดออกมาอีกคำเท่านั้นแหล่ะทงเฮก็ทำตาโต คำว่าอ้วนในสายตาของผู้ชายมันให้ความรู้สึกถึงพวกพุงยาน ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ร่างบางเลยกลิ้งไปกลิ้งมาบนตัวคิบอมเล่นเสียแบบนั้น“เฮ้ย มันหนัก”
“ก็ฉันอ้วนนี่หว่า”ทงเฮตอบเสียงงอน ๆ คิบอมอมยิ้มก่อนที่จะยึดตัวอีกฝ่ายไว้มั่น แล้วดึงลงไปนอนข้าง ๆ ตามเดิม ร่างบางในชุดนอนสีเหลืองทำตาปริบ ๆ ร่างสูงจ้องมองใบหน้าสวยด้วยสีหน้าเหม่อลอย และก่อนที่จะได้คิดอะไรทัน ใบหน้าคมก็เลื่อนเข้าไปใกล้ มืออุ่น กุมข้อมือของอีกฝ่ายไว้แน่นเหมือนจะปัดป้อง ทงเฮเองก็ไม่ได้ทันคิดอะไรจนกระทั่งอีกฝ่ายลงมือทำจริง ๆ นั่นแหล่ะ
...
ริมฝีปากร้อนผ่าวแนบลงกับอีกฝ่าย ก่อนที่จะนิ่งค้างไว้แบบนั้น คิบอมย้ำสัมผัสให้แนบสนิทมากขึ้นเรื่อง ๆ ก่อนที่มือทั้งสองข้างจะเชยคางอีกฝ่ายขึ้นให้ตรงองศา ทงเฮคล้ายดูเต็มใจ แต่นัยน์ตากับเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง ร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง
สัมผัสที่กดย้ำลงมาหนักขึ้นเรื่อย ๆ ลิ้นร้อนที่สอดเข้ามาในปากรุกรานเสียจนร่างบางตัวอ่อน จะขยับหนีก็ไม่ได้ จะต่อต้านก็ไม่ได้ ได้แต่โอนอ่อนตามน้ำไป ร่างบางส่งเสียงอือออในลำคอเบา ๆ แล้วหลับตาลงอย่างยินยอม คิบอมละริมฝีปากออกมาอีกวูบแล้วมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย ... ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วดึงตัวร่างบางตามขึ้นมา ตอนนี้สติของทั้งคู่แทบจะไปไม่กลับ นัยน์ตาของทงเฮหวานเยิ้ม ใบหน้าหวานแดงระเรื่อจนร่างสูงอดใจไม่ไหวต้องตามย้ำอีกครั้ง ทงเฮตัวโอนเอนไปด้านหลังโดยไม่ลืมที่จะตวัดแขนมาคล้องคอคนรุกไว้แน่น คิบอมตรึงตัวอีกฝ่ายขึ้นให้นั่งบนตัก ลิ้นร้อนคลอเคลียราวกับไม่อยากจะแยกจากไปไหน
“ค..คิบอม..พอแล้ว...อื้ม..”
ร่างบางได้จังหวะก็รีบถอนริมฝีปากออกเพราะหายใจไม่ทัน ริมฝีปากบวมเจ่อ มุมปากติดน้ำใสเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเพิ่งผ่านอะไรมา แต่พอพักหายใจได้นิดหน่อยก็ถูกดึงเข้าไปเหมือนเดิม ใจที่คล้อยตามไปมากกว่าครึ่ง คิบอมเหมือนคนที่เพิ่งถูกกระตุ้นจนทนไม่ไหว ยิ่งเป็นอีทงเฮ...ยิ่งยากที่จะห้ามใจ
ทำแบบนี้ทำไม .. ทำไมถึงมาจูบเขา
คำนี้นี้ลอยอยู่ในหัวพร้อมกับคำตอบสำเร็จรูปที่ทำให้เขินม้วนต้วน ทงเฮทุบไหล่คิบอมให้ออกไปด้วยความเขินอาย แต่ร่างสูงก็ไม่ยอมทำความต้องการ คิบอมถอนปากออกมาแล้วจูบย้ำแรง ๆ อีกรอบ จากนั้นไล้ริมฝีปากมาถึงลำคอขาว เม้มเนื้อนิ่มจนเกิดร่องรอย ร่างบางรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว หัวใจเต้นกระตุก เลือดสูบฉีดไปทั้งร่าง มือใหญ่ล้วงเข้าไปด้านหลังเสื้อเพื่อสัมผัสผิวขาวเนียนของทงเฮ
“...ทำอะไร..คิบอม..อื้อ...ทำอะไรน่ะ...”ทงเฮหอบหายใจหนักเมื่ออีกฝ่ายไล้มือลงไปตามแนวกระดูกสันหลังจนต้องแอ่นตัวหนี ร่างสูงไม่ตอบ เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นแหวกเสื้อนอนออกโดยการปลดกระดุมลวก ๆ อย่างคนใจร้อน ตอนนี้ ...คำว่ายั้งใจของคิบอมไม่เหลืออีกแล้ว
เพราะอีทงเฮน่าหลงใหลมากเกินไปถึงได้เป็นแบบนี้
ดำกฤษณาโถมซัดราวพายุพัด ระลอกแล้วระลอกเล่า ในใจก็ตะโกนห้ามว่ามันผิด แต่กลิ่นกายหอมหวานกับสัมผัสที่ไดรับทำให้ลืมเลือนไปจนหมดสิ้น ลืมไปด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้าเป็นใคร หรือเป็นอะไรกับเขา...
อีทงเฮก็เช่นกัน ถึงแม้จะดิ้นอยู่นิด ๆ แต่ก็ตอบสนองเสียจนมากเกินพอ ท่าทางที่ดูยั่วยวนแต่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจนั้นทำให้ร่างสูงแทบคลั่ง ร่างบางถูกแรงกดจมลงไปบนที่นอน คนตัวสูงก็ตามลงไป ..เพ่งมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ส่งสายตาหวาน ๆ มาที่เขา ...
นั่นสิ เขากับทงเฮเป็นอะไรกัน ...
แค่เพื่อน ?
เท่านั้นแหล่ะ คิบอมเหมือนถูกปลุกสติให้ตื่น ร่างสูงชะงักนิ่งไป ทงเฮเองก็เช่นกัน ทั้งสองคนเหมือนถูกน้ำเย็นจัดราดเข้าใส่ จากบรรยากาศที่ระอุไปด้วยความปรารถนาวินาทีก่อนตอนนี้กลับเย็นลงอย่างไม่น่าเชื่อ ทงเฮรีบคว้าผ้าห่มมาปิดตัวที่เสื้อผ้าเริ่มหลุดลุ่ย คิบอมหันไปอีกที ทงเฮรีบนอนหันหลังให้โดยที่ไม่กล้าพูดจากันแม้แต่คำเดียว
นอนฟังเสียงหายใจได้ซักพัก ทงเฮก็ยกมือขึ้นแตะลำคอกับปาก แล้วมุดหน้าลงใต้ผ้าห่มด้วยความเขินจัด แก้มร้อนเป็นไฟ หัวใจก็เต้นแรงถึงแม้ว่ามันจะผ่านไปแล้วก็ตาม เสียงขยับตัวยุกยิกของอีกฝ่ายบอกว่าคิบอมก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ทงเฮรวบรวมความกล้าแล้วหันหน้ามาทางคิบอม แผ่นหลังที่หลงเหลือจากเสื้อกล้ามสีดำน่าซุกกว่าของเขาเยอะ
“คิบอม...”
เงียบ ....
ร่างสูงฟังเสียงแผ่ว ๆ ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด อยากจะหันกลับไปคว้าคนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมกอดแต่ก็ต้องห้ามตัวเองไว้ ทงเฮเงียบไปอีกแล้วพูดขึ้นมา คำที่ทำให้ร่างสูงต้องยิ้มออกมาอีกครั้ง
“ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนะ....”
คำตอบกับคำถาม ไม่แน่ใจว่าอะไรจะแย่กว่ากัน การตั้งคำถาม หรือการตอบคำถาม สิ่งที่ฮญอกแจพยายามจะคาดคั้นเอาจากพี่ชายปากแข็งก็มีแต่คำถามที่ว่ารักหรือไม่ ฮันกยองเองก็ยังคงสับสน ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร แรงปรารถนาและตัณหาที่เข้าครอบงำจิตใจของทั้งสองเร่งเร้าให้ทุกอย่างไปไกลเกินเอื้อม
หวาน...หวานไปทั้งตัวและทั้งหัวใจ ทั้งมีความสุข แต่ก็รู้สึกผิด แต่มันไม่ใช่ว่าจะหยุดได้ง่าย ๆ ความปรารถนาเร่งเร้าให้เพลิงรักร้อนแรงเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน สายสัมพันธ์ที่มีชื่อว่าพี่น้องถูกขาดหายไป เสียงครางหวานดังลั่นห้องน้ำ ฮยอกแจเองก็ไม่ได้ขัดขืนอีกแล้ว เพราะใจที่ต้องการมาตั้งแต่ต้น ส่วนฮันกยองก็เช่นกัน ... ความรู้สึกที่เคยคิดว่าไม่ใช่กลับมาเปิดเผยเอาวันนี้
นั่นสิ .. ถ้าไม่ใช่ว่ารักแล้วเขาจะไปหึงหวง จะไปห่วงหาทำไม
แต่ทุกอย่าง ... มันก็ผิด
สุดท้ายทุกอย่างก็จบลง ฮยอกแจจะซบลงบนอกแกร่ง สถานที่ย้ายจากห้องน้ำมาเป็นที่เตียงตามเดิมเพราะร่างเล็กทำท่าจะยืนไม่ไหวแล้ว หอบหายใจน้อย ๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน รู้สึกเหนอะหนะไปทั้งขา ฮันกยองเองก็ยังไม่ได้คำตอบอะไรเพียงแต่ก้มหน้ามาจุมพิตหน้าผากน้องชายเบา ๆ
“เจ็บมากมั้ย”
“มาถามอะไรตอนนี้ล่ะ ...ตั้งกี่รอบแล้ว?”ฮยอกแจตอบกลับด้วยสีหน้างอน ๆ เพิ่งรู้สึกว่าการไม่ยึดติดบางทีก็สบายใจเหมือนกัน ... ถ้าเขาไม่แค้นก็คงจะมีความสุขกว่านี้”สาม หรือสี่”
“ห้าต่างหากเล่า”ฮันกยองแก้ไขให้ ร่างสูงโอบร่างบางไว้แล้วทำท่าจะปล่อยตัวคนที่บ่นอึดอัดออก แต่ฮยอกแจก็ส่ายหัวห้าม”ทำไมล่ะ ไม่อึดอัดเหรอ”
“อุ่นดี”ร่างบางตอบเองเขินเอง อายเหมือนกันที่กล้าซะขนาดนี้ ..แต่ที่ผ่านมาก็กล้าไม่พอหรือไงนะ”พี่ชาย ...พี่ชายรู้สึกยังไงกับฮยอกแจ”
คำถามเดิมย้อนกลับมาเล่นงานอีกครั้ง ฮันกยองเงียบไปโดยที่ตอบอะไรไม่ได้ ในหัวมีทั้งสองฝ่ายตีกันไปมา มีทั้งความถูกต้องและความรู้สึกที่แท้จริง
ความถูกต้อง...ที่ว่าเขาทั้งสองคนเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกัน
ความรู้สึก...ที่เขาอยากจะยอมรับเสียทีว่าเขาเองก็รักฮยอกแจในฐานะคนรัก
เขาควรจะเลือกฝั่งไหนดี ...
“พี่ฮันกยอง อย่ายึดติดได้ไหม”ฮยอกแจส่งเสียงอ้อน ๆ ขึ้นมา แอบรู้สึกผิดต่อมาเหมือนกันที่มาอ้อนวอนขอความรักจากคนที่ทำให้แม่ตาย ... แต่ถ้าเอาตามความจริง ทุกคนต่างก็มีส่วนผิดและมีเหตุผล แค่รับมุมมอง ..ฮันกยองก็ไม่ได้ต้องการให้ตายจริงเสียหน่อย แล้วแม่เขาก็ผิด”สมมตินะ ...ว่าแม่ฮยอกแจไม่ได้ตาย สมมติว่าเราไม่ใช่พี่น้องกัน พี่ฮันกยองจะตอบว่าอะไร”
“...รัก”คำพูดที่ออกมาทำให้หัวใจคนฟังโลดขึ้น แต่ก็กลับตกลงมาเมื่อได้ยินประโยคต่อไป”แต่มันไม่ถูก..”
“ทำไมต้องแคร์คนอื่นล่ะ!”ร่างบางขึ้นเสียงสูงด้วยความไม่พอใจ”หรือพี่ฮันกยองจะปฏิเสธ...ว่าที่ผ่านมาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเลย”
“ไม่ใช่แบบนั้น”ตราบจนบัดนี้ ฮันกยองก็ยังไม่เข้าใจว่าน้องชายตัวเองไปเอาความกล้ามาจากไหน เห็นเมื่อก่อนยังขี้เขินขี้อ้อนอยู่เลย แต่ตอนนี้ ...ทั้งยั่ว ทั้งกล้า เอาซะไม่เหลือเค้าเดิม”ไม่ได้ปฏิเสธ”
“รักผมใช่ไหม”คำถามนั่น...กล้าเสียจนเขาอยากจะเอามือกุมขมับ ฮยอกแจเลื่อนหน้าเข้ามาจนชิด นัยน์ตาหวานมีประกายคาดคั้นจะเอาความจริงให้ได้
“รักสิ..รักอยู่แล้ว”ร่างสูงรีบตอบยืนยัน ก่อนที่จะชะงักกึกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรลงไป ใบหน้าคมแดงระเรื่อ ...ไอ้ที่พูดไปเมื่อครู่ นั่นมันคำบอกรักนี่หว่า”เอ่อ...”
“แล้วจะปฏิเสธทำไมให้เหนื่อย”ร่างบางทำหน้าเบื่อ ๆ แล้วกดมือลงกับไหล่ของฮันกยอง ดันตัวเองขึ้นให้เป็นอิสระ ฮยอกแจล้มตัวลงนอนแล้วหยิบผ้าห่มมาปิดตัวไว้ด้วยความหนาว อดทำหน้าเบ้กับกลิ่นคราบเลือดจาง ๆ ไม่ได้”ให้ยั่วทำไม”
“ฮยอกแจ..เอ่อ ..กล้าขึ้นนะ”ฮันกยองถามด้วยความไม่แน่ใจ ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นแล้วยักคิ้วให้ด้วยความกวนประสาท หน้ากากสามหน้ากากที่เคยใช้ ดูเหมือนไอ้ตัวที่อยู่กับคยูฮยอนจะเป็นจริงที่สุด กวนประสาท และทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ นี่แหล่ะอีฮยอกแจ
“ไม่กล้าก็ไม่ได้สิ...สรุป พี่ชายรักฮยอกแจใช่มั้ย?”เหลือเชื่อที่ฮยอกแจสามารถทำหน้าน่ารักเหมือนเดิมได้รวดเร็ว ฮันกยองพยักหน้าอย่างจำยอม แต่ก็อดยิ้มไม่ได้กับเรื่องราวที่ดูเหมือนกำลังจะจบของพวกเขา ร่างสูงล้มตัวลงนอนแล้วคว้าคนตัวเล็กมากอดไว้ในอ้อมแขน
“รักก็รัก โดนขู่มาขนาดนี้แล้วจะไม่รักได้ยังไง”
“แปลกใจมั้ยที่ผมไม่โกรธพี่ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรก...ขนาดนั้น”ร่างเล็กยังตั้งคำถามต่อเรื่อยเปื่อย ฮันกยองถอนหายใจแล้วเอามือลูบผมนุ่มสีน้ำตาลเข้มของร่างเล็กไปมาด้วยความเอ็นดู
“พี่เข้าใจว่าฮยอกแจต้องโกรธ แม่ของฮยอกแจทั้งที ...แล้วก็ พี่อยากจะบอกว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจนะ”รอยยิ้มรันทดจุดขึ้นที่มุมปาก ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็นฆาตกรฆ่าคนทั้งนั้นแหล่ะ ไม่ว่าจะตรงหรืออ้อมก็ตามที”คนเราต่างเหตุผล ต่างที่มา ...แล้ว ถ้าพี่บอกว่าพี่รักฮยอกแจ ฮยอกแจจะให้อภัยพี่มั้ย”
“พี่ชาย..กลับไปเรียนเกาหลีใหม่นะ ทั้งไวยากรณ์ ทั้งพูด ทั้งอ่าน ทั้งฟังเลย”ฮยอกแจถอนหายใจแล้วโขกหัวกระแทกคางของคนจีนแรง ๆ เพื่อความสะใจของตัวเอง นัยน์ตาสวยฉายแววเหนื่อยหน่ายกับคนจีนเข้าใจยาก”ถ้าไม่ให้อภัยจะให้กดมันห้ารอบแบบนี้เหรอ!!”
“ก็เพื่อความแน่ใจ”ร่างสูงลูบคางแล้วยิ้มออกมา ในที่สุด พวกเขาสองคนก็ตัดสินใจกับแล้วว่าต่อไปนี้ก็ยังคงเป็นพี่น้อง..เป็นพี่น้องที่เป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน ทุกอย่างยังคงเหมือนเก่า มีแต่ชื่อสถานะเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
สถานะที่พวกเขาจะเก็บไว้เรียกกันสองคน
คำว่า ‘คนรัก’
ฮยอกแจชะโงกหน้าไปจูบอีกฝ่ายเบา ๆ แล้วซุกตัวเข้ากับแผ่นอกแข็งแกร่งราวกับเป็นลูกแมวตัวน้อย ๆ ที่กำลังอ้อนเจ้าของ ทั้งสองไม่ได้สังเกตเลยว่ามีเสียงฝีเท้าดังอยู่ข้างนอกห้อง ด้วยความเหนื่อยอ่อนทำให้ทั้งฮันกยองและฮยอกแจใกล้จะหลับเต็มที แต่ติดอยู่ที่ว่าประตูเปิดผางขึ้นเสียก่อน ร่างสูงลืมตาขึ้นมามองอย่างรวดเร็ว ..ก่อนที่ใบหน้าคมจะเผือดสีลง ฮยอกแจลืมตาขึ้นมาอย่างมึน ๆ แล้วหันไปมองที่ประตู
อีจอนอิลมองภาพลูกชายทั้งสองคนกำลังกอดกันอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าช็อกค้าง ด้วยแอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวทำให้รู้สึกว่าโลกกำลังหมุนติ้ว จริง ๆ มันไม่น่าจะแปลกใจเพราะว่าสองคนนี้ก็ชอบแสดงความรักกันมากพอสมควร แต่มันจะดีกว่านี้ ..ถ้าหากทั้งสองคนมีเสื้อผ้าติดตัวซักชิ้น แล้วร่างของลูกชายคนเล็กก็เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ บ่งบอกได้อย่างดีว่าทำอะไรมา
“พ่อ...”
17.02.10
โวยวาย ตัวแดง โดนแบน แก้แล้ว - -
กรี๊ดดดดดด
ตอนแรกเปิดเข้ามาก็ปกติ ปิดไปแล้วไปแกะเพลง oh! ต่อ เปิดอีกทีว่าจะอัพ โดนเลยนั่นไง - -
=== ===================
Happy Valentine ..
บอกรักคคบ.กะปยช.แทนนะ T_____T
แต่งฟิคแล้วเหมือนรู้จักความรัก แต่ไม่เคยมีอ้ะ อยากมี (ตีโพยตีพาย)
งานเข้าเลยดิ่สองคนเนี้ย สนุกแน่ 55
บอกแล้วมันไม่จบง่าย ๆ หรอก ฮะฮ่า
คิเฮตอนนี้ก็ .. แหม ผิดคาดอ่ะดิ่ ตัวเองกลัวคิเฮจะเป็นไรร้าย ๆ ไปใช่มั้ยล่ะ 55 !!
ไฟนอลกำลังมาและกำลังไป จะไปตัดผม คึ
ปิดเทอมแต่ก็ต้องมาเรียน ฮือวว์
แล้วก็จะลดน้ำหนัก กินกาแฟดำวันละแก้ว ทรมานมาก - -
ที่คั่นของ So I มีสองอัน สุ่มกันเองว่าใครจะได้หมวยหรือตี๋
เลขสวยจัง คึ
ฟิคใหม่ ... white love 2 ขออนุญาตดองไว้ก่อน ตอนนี้กำลังบ้าแมวเข้าขั้น
ลงอีกนาน ช่วงมีนาเมษานู่น ฟิคนี้เน้นรั่ว!!
| ||||
| ||||
Name : อิ อิ< My.iD > [ IP : 113.53.198.223 ] |
| ||||
| ||||
Name : KxH*_^xม่oมiiม่คิมคิ^2NE1< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : YoK--KiHae [ IP : 202.149.25.225 ] |
| ||||
| ||||
Name : superman [ IP : 124.157.144.177 ] |
| ||||
| ||||
Name : KH129 [ IP : 124.122.90.171 ] |
| ||||
| ||||
Name : ketekitty< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : 'xes;;|ค.คิมจงอุนหล่อเทพ`< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : 'xes;;|ค.คิมจงอุนหล่อเทพ`< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : นักอ่านในเงามืด [ IP : 125.27.223.41 ] |
| ||||
| ||||
Name : SungEun~< My.iD > [ IP : 112.142.97.129 ] |
| ||||
| ||||
Name : PUKUCHAN [ IP : 124.122.140.129 ] |
| ||||
| ||||
Name : ugomme [ IP : 112.142.116.63 ] |
| ||||
| ||||
Name : หินสีในตำนาน [ IP : 124.122.220.23 ] |
| ||||
| ||||
Name : Clier [ IP : 124.121.126.236 ] |
| ||||
| ||||
Name : @_minto_@< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : ~sand~< My.iD > |
ความคิดเห็น