คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : {part 17} Variable
17
Variable
คิบอมลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างเตียงแล้วหยิบเหยือกน้ำรินน้ำเปล่าใส่แก้วให้คนบนเตียง ทงเฮรับไปดื่มโดยที่นัยน์ตาใสยังไม่เลิกจับจ้องมาที่ใบหน้าของร่างสูง รู้สึกดีเหมือนกันที่สองสามวันมานี่มีคิบอมมาคอยดูแล แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจคือทำไม...ทำไมตอนที่เขาฟื้นขึ้นมาถึงได้รู้สึกแปลก ๆ กับคิบอมนัก
เหมือนกับตอนนั้นมีภาพอะไรหลาย ๆ อย่างในอดีตวาบเข้ามาจนไปทำให้เขารู้สึกถึงอะไรหลาย ๆ อย่าง แล้วคนในความทรงจำที่ยังตามหลอกหลอนอยู่ตลอดมานั่น..คือใครกัน
“อะไร?”คิบอมส่งเสียงถามคนที่ชี้โบ๊เบ๊อย่างสงสัยว่าทงเฮต้องการจะสื่ออะไรออกมา ร่างบางยิ้มน้อย ๆ แล้วส่ายหัวเป็นทำนองว่าไม่มีอะไรเพียงแต่เอื้อมมือไปจับมือของคิบอมไว้ ร่างสูงสีหน้ากระตุกเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ดึงมือออก เพยงแต่ทำหน้านิ่งอยู่แบบนั้น ร่างบางขมวดคิ้วอย่างขัดใจแล้วทำปากพะงาบ ๆ ร่างสูงเพียงแต่ขมวดคิ้วแล้วไม่ได้ตอบออกมาจนทงเฮต้องเอื้อมมืออีกข้างไปดึงมุมปากของคิบอมให้ยืดขึ้น
‘ยิ้มสิ’
คำนี้เองที่อีทงเฮอยากจะสื่อออกมา ร่างสูงสะบัดหน้าหนีแล้วอดอมยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้ รับรู้ถึงจังหวะของก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายที่เต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ร่างสูงมองออกไปยังท้องฟ้าสีฟ้าสดใสด้วยสายตารู้สึกผิด
เขาตัดสินใจแล้ว ...
การที่จะเก็บเธอไว้เป็นความทรงจำไม่ผิดใช่ไหม ...ซอฮยอก ถ้าหากจะรักใครอีกคน ...มันจะไม่ผิดใช่ไหม ?
ขอโทษ...และขอบคุณนะ
ภาพใบหน้าของหญิงสาวที่เคยทิ้งความรักและความผูกพันในหนึ่งช่วงเวลาเหมือนกับจะถูกผลักไปเก็บไว้ในความรงจำที่สวยงาม และตอนนี้ ปัจจุบันกลับมาใครอีกคนที่ชื่อทงเฮเข้ามาแทนที่ช้า ๆ ..โดยที่คิบอมเองก็เต็มใจ ทั้ง ๆ ที่มันอาจจะเกิดมาจากความรู้สึกผิดที่ตนไปทำให้คนรักเก่าของทงเฮตาย ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของทงเฮ..จะอ่อนไหวขนาดนั้น
ยิ่งอยากจะดูแลให้ดีที่สุด อยากจะทดแทนความผิด ..และคงมีผลมาจากตอนแรก ๆ ที่พบกันด้วยล่ะมั้ง ...
เพราะเขาอาจจะขาดแสงสว่างไม่ได้อีกแล้ว
แรงสะกิดจากคนบนเตียงทำให้ร่างสูงหันมามองอีกครั้ง ทงเฮอ้าปากพะงาบ ๆ แล้วดึงมือเขาเหมือนเด็กถูกขัดใจ คิบอมยิ้มน้อย ๆ แล้วก็ดันตัวทงเฮให้ลงไปนอนต่อก่อนที่จะลุกออกไป ตั้งใจจะลงไปซื้อน้ำมากิน แต่เสียงที่ดังอยู่ข้างหลังก็ทำให้เขาต้องตกใจ
“...ค..คิบอม...”
“ทงเฮ?”ร่างสูงหันไปมองอย่างไม่เชื่อหู ทงเฮก็มีสีหน้าไม่อยากเชื่อเหมือนกันที่ว่าตนเองจะสามารถเปล่งคำพูดออกมาได้ คิบอมรีบกดปุ่มเรียกแพทย์ให้มาตรวจอาการเพราะถ้าหากทงเฮสามารถพูดได้เมื่อไหร่ก็กลับบ้านได้ อีกมือหนึ่งก็คว้าโทรศัพท์เพื่อโทรบอกพ่อของทงเฮให้รู้ข่าวนี้ ร่างบางยิ้มกว้างให้กับคนที่ท่าทางลนลานเพื่อเขา ...ไม่ปฏิเสธว่าในใจตนเองก็รู้สึกดีกับมันอยู่เหมือนกัน
บางที...อาจจะเป็นรัก ?
เร็วไปไหมทงเฮ ..?
ร่างบางก้มหน้าแล้วยิ้มน้อย ๆ พยายามซ่อนความรู้สึกหวานละมุนที่สัมผัสได้ว่ากำลังเกิดขึ้นในใจ ตลอดช่วงเวลาสองสามเดือนที่อยู่ด้วยกันมา ..ไม่ใช่แค่มองหน้าแล้วรักกัน แต่การที่เขาจะรู้สึกอย่างนั้นกับคนที่เป็นเพศเดียวกันแล้วนิสัยยังเย็นชาขนาดนี้ ...บางที มันอาจจะเป็นพรหมลิขิต
คิดเองเออเองตามประสาคนช่างฝัน ทงเฮหลับตาพริ้มแล้วทบทวนความรู้สึกของตนเองภายในใจ ตอนนี้..ที่แทบจะบอกว่าชอบคิมคิบอมไปแล้วซะเจ็ดส่วนแปด
แต่ที่เหลือนั่น...ไม่รู้แฮะ
คิมฮีชอลคว้าโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงมารับหลังจากที่มันส่งเสียงได้ชั่วขณะ ที่จริงตอนนี้ก็เป็นช่วงเช้าที่เขาควรจะหลับหลังจากเสร็จอะไรเหนื่อย ๆ มา แต่เขาก็ตื่นเพราะต้องระวังคนข้าง ๆ จะหาเรื่องอะไรมาให้อีก ชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอทำให้ร่างบางต้องหันไปมองซีวอนที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ แล้วทำท่าจะลุกออกมา
“ฮัลโหล..อะไรคิบอม เฮ้ย..”คำสุดท้ายร้องออกมาเพราะโดนคนที่นึกว่าหลับไปแล้วเกี่ยวตัวให้ลงไปนอนอีกครั้ง ฮ๊ชอลหน้าแดงวาบแล้วยอมนิ่งแต่โดยดีเพราะก็รู้สึกระบมไปทั้งตัวเหมือนกัน”มีอะไร?”
(“ทงเฮกลับบ้านได้แล้วครับ”)
“อื้อ...ก็ดี”ฮีชอลไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะกลัวคนที่กำลังทำท่าจะเริ่มรอบที่สี่อีกรอบจะตามไปขัดขวาง มือที่ว่างไว้ตีมืออีกฝ่ายที่กำลังซุกซนขึ้นเรื่อย ๆ ซีวอนไม่ได้สนใจเพียงแต่ประทับจูบไปตามแผ่นหลังเนียนที่ตอนนี้มีแต่รอยแดงช้ำ ฮีชอลดื้นขยุกขยิกนิดหน่อย..แต่ก็ยังยอมเหมือนเดิม
(“พี่อยู่ไหนน่ะ”)
หลังจากที่คิบอมเงียบไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง ฮีชอลถอนหายใจแล้วเหลือบตามองตัวต้นเหตุ
“นอกบ้าน กับไอ้เจย์”
(“อีกแล้ว”)อีกฝ่ายทำเสียงเข้าใจแล้วตัดสายไป ฮีชอลวางมือถือไว้ที่เดิมแล้วหันกลับมาหาคนที่นัวเนียจนรู้สึกร้อนไปหมด ทั้ง ๆ ที่ในคอนโดส่วนตัวของไอ้คุณชเวซีวอนนี่ก็เย็นจัดนะ แต่ปลาหมึกที่คอยเกาะนี่..ก็ทำให้รู้สึกเหนอะ ๆ ได้ทุกที
“..เจย์นี่ใคร”เสียงทุ้มถาม ฮีชอลเหลือบตาแล้วไม่ยอมตอบจนอีกฝ่ายต้องถามย้ำ”เจย์คือใคร”
“เพื่อน”ฮีชอลตอบสั้น ๆ ท่าทางคุณชายชเวจะได้อะไรมาแล้วต้องเก็บรักษาไว้สินะ ขนาดเขาที่เป็นแค่ตุ๊กตาของเล่นยังต้องมีการมาตามหวงกันด้วย ...น่าแปลกจริง ๆ”เอามือออกไปได้แล้ว ร้อน”
นั่นแหล่ะ ก็เหมือนกัน ซีวอนก็ไม่เลิกทำหรอกถ้าหากยังไม่พอ ร่างสูงไล้จมูกโด่งไปลำคอขาวแล้วสุดท้ายก็ไปจบที่ริมฝีปากสีหวาน ฮีชอลส่งเสียงอืออออย่างไม่พอใจแล้วเชิดหน้าขึ้นรับจูบที่ร้อนแรงนั้น มือของอีกฝ่ายไล้ไปตามผิวกายอย่างหลงใหล
...เพราะว่าคน ๆ นี้น่าหลงใหลมากเกินไป
ชเวซีวอนอาจจะรักอีทงเฮ แต่กลับกันแล้ว ตอนนี้....สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้มัวเมาได้ยิ่งกว่า ความรู้สึกที่มีให้ทงเฮอาจจะเป็นความรักที่บริสุทธิ์ เพียงแต่รักอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่มีให้กับคิมฮีชอลกลับเป็นความรู้สึกที่มีอานุภาพรุนแรงยิ่งกว่า เขาไม่เคยหลงใหลใครมากเท่านี้มาก่อน ต่อให้คนที่นนด้วยเป็นหญิงสาวที่สวยเพียงใด ..แต่เมือ่มาเทียบกับคน ๆ นี้กลับต้องพ่ายแพ้ไป
ทั้งหวงแหน ทั้งลุ่มหลงจนไม่อาจจะแยกออก ภาพของนางฟ้าองค์นั้นกลับลบเลือนไปได้...
“..ซีวอน”เมื่ออีกฝ่ายได้รับจนพอใจแล้วฮีชอลค่อยเอ่ยปากถามถึงเรื่องที่คาใจ โดยที่พยายามใช้คำให้ระมัดระวังที่สุด”
ทงเฮรักยุนอามากเลยเหรอ”
“..อื้อ มาก”ซีวอนตอบเสียงแผ่ว รู้สึกวูบเหมือนถูกผลักลงสู่ก้นเหว เพียงเพราะถามถึงใครคนนั้น”ทำไม?”
“แปลกใจน่ะ...”ฮีชอลเองก็เช่นกัน เจ้าตัวกำลังจมลึกลงไปในสิ่งที่ตนเองไม่เคยรู้สึกมาก่อน”สงสัยว่าแค่คำว่ารักจะทำให้คนเป็นได้ถึงขนาดนั้นเชียวเหรอ”
ซีวอนเงียบไป ไม่รู้จะตอบว่าอะไร คำว่าขนาดนั้นของคิมฮ๊ชอลคงจะหมายถึงทำให้คนทำได้ทุกอย่างล่ะมั้ง ลางที..ถ้าเขานึกดี ๆ หลายครั้งที่ทำให้อีทงเฮได้ และก็มีอีกหลายครั้งที่ทำให้ไม่ได้ แต่ที่มากที่สุดก็คงจะเป็นคำว่ารักโดยไม่หวังอะไรนี่ล่ะ เคยคิดหลายครั้งว่าไม่ได้อะไรกลับมาจริง ๆ นอกจากความเจ็บปวด ...
ซึ่งก็จริง
แต่เจ้าตัวคนตั้งคำถามจะรู้ไหมนะว่าคำพูดนั้นแสดงให้เห็นว่าฮีชอลนั้นเหงาแค่ไหน
“พี่ไม่เคยรักใคร?”คราวนี้ซีวอนกลายเป็นฝ่ายตั้งคำถาม ร่างบางถอนหายใจแล้วดึงเอาผ้าห่มสีขาวมาคลุมตัวเพราะรู้สึกว่าอากาศจะหนาวมากไปหน่อย ซีวอนดึงอีกฟากไปห่มบ้าง จนสุดท้าย ...ต้นเรื่องที่ทำท่าจะต่ออีกรอบกลายเป็นมานอนคุยกันเสียแบบนั้น
“จะว่าอย่างงั้นก็ได้...ล่ะมั้ง”
“แม้แต่แฟนก็ไม่มีเหรอ”
“เห็นฉันเป็นอะไรเนี่ยซีวอน”คนถูกถามทำท่าจะอารมณ์เสีย”มีน่ะมี แต่มันก็ชืด ๆ ชา ๆ เขาขอคบมาก็คบไป ไม่ถึงเดือนก็เลิก”
“ผู้หญิงผู้ชาย?”เด็กขี้สงสัยยังถามต่อไม่เลิก ฮีชอลเบือนหน้ามาทางซีวอนแล้วมองนิ่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะดีดหน้าผากอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้
“ผู้หญิงสิโว้ย”
“..เอ้า ก็แค่ถาม...”ซีวอนบ่นอุบพลางลูบรอยแดง ๆ ที่ได้มาประดับ แต่มันก็แล้วกันไป มองไปที่ลำคอกับแผ่นอกอีกฝ่ายก็มีแต่รอยที่เขาประทับไว้ทั้งนั้น โดนแค่นี้ไม่เป็นไร“ไม่รักเลยเหรอ”
“ก็..เขามาคบให้เป็นแฟนก็ทำอะไรล่ะ ดูหนัง กินข้าว โทรศัพท์คุยกันเช้าเย็น ชีวิตของคนรักกันมีแค่นั้นเหรอ ถ้ามันมีแค่นั้นฉันก็หาเพื่อนซักคนมาทำแบบนั้นบ้างก็ได้”ฮีชอลสาธยายถึงมุมมองของตัวเองจนหมด มันก็จริง ถ้าหากการที่จะรักกันมีแค่นั้นเขาอยู่คนเดียวยังจะสนุกกว่า”เสาร์อาทิตย์ก็เจอกัน ทุกวันก็คุยโทรศัพท์ ส่งข้อความสามเวลาหลังอาหาร เบื่อจะตายชัก”
“ก็คนส่วนใหญ่เขาก็เป็นแบบนั้นนี่นา..”ซีวอนก็นอนนึกตามไปด้วย มันก็จริงอยู่แฮะ”ตอนที่ผมมีแฟนก็ทำแบบนั้นล่ะมั้ง”
“ไม่ได้ชอบทงเฮมันเหรอ”อีกฝ่ายประชดกลับมาก่อนที่จะเงียบไป ซีวอนหัวเราะน้อย ๆ น่าแปลกที่คำ ๆ นี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกวูบอย่างที่เคย
“ก็ลองมั่งไง เหมือนพี่นั่นแหล่ะ เขาขอมาก็คบไป..แล้วก็เลิก”
“นั่นสิ...ยังเคยคิดเลยนะ ถ้าฉันมีแฟนก็คงพาไปทำอะไรแปลก ๆ ที่มากกว่าดูหนัง เดินห้าง แล้วก็กินข้าวนั่นแหล่ะ แล้วก็ไม่ต้องคุยโทรศัพท์กันด้วยหรอก เปลืองตังค์จะตาย”ฮีชอลเริ่มวาดฝันไปไกล แทบไม่ได้ดูตัวเองตอนนี้เลยว่าทำอะไรอยู่”บางทีอาจจะเป็นส่งจดหมาย”
“จดหมาย?”อีกฝ่ายทำท่าประมาณว่าโบราณสิ้นดี ฮีชอลแยกเขี้ยวใส่
“ลายมือก็แสดงตัวตนออกมาได้เยอะนะ เก็บไว้ก็ดีออก...โรแมนติก”
“พี่นี่แปลกดีนะ”ซีวอนหันมาหาฮีชอลจนกลายเป็นคนทั้งสองหันหน้าเข้ามาชนกัน ร่างบางหัวใจเต้นระรัวแปลก ๆ เมื่อสบตาเข้ากับอีกฝ่าย ...ความรู้สึกที่ลดลงมาจนเป็นแค่ชอบกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแปลผลออกมาเป็นคำตายตัวได้”
ถ้าถามแบบนิยายเลยนะ คนเราจะอยู่ได้ไหมถ้าหากขาดความรัก”
“ไม่รู้สิ”ฮีชอลยักไหล่”รักไหนล่ะ ถ้าแบบแฟนอะไรนั่น...อาจจะมีคนทำได้นะ แต่ส่วนใหญ่จะอะไรก็ไม่รู้ล่ะ ขอรักไว้ก่อน จะแอบรักก็ยังดี”
“ก็จริงนะ แต่อย่างว่า..หลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนกันได้พอถึงเวลา”
“นายก็อยู่แบบนี้ไปนั่นแหล่ะ วันไหนหัวใจมันรับไม่ไหวก็จบเอง”คำแนะนำแปลก ๆ ทำให้ร่างสูงต้องเลิกคิ้วแล้วหัวเราะน้อย ๆ และโดยที่คิมฮีชอลไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงก็รั้งร่างบางเข้าไปกอดด้วยความรู้สึกชั่ววูบที่ผลุดพลุ่งขึ้นมา ฮีชอลหน้าแดงวาบแล้วซุกหน้าลงกับอีกคนโดยไร้การขัดขืน ...ได้แต่ปล่อยไปตามใจตัวเองชักพา
“ถ้าเป็นพี่...ก็ดีเหมือนกันนะ”
คำพูดลอย ๆ นั่นไม่อาจจะตีความหมายออก แต่ทั้งสองคนที่กำลังรับรู้มันกลับรู้สึกแปลก ๆ
บางที ...ถ้าเป็นคน ๆ นี้ก็คงจะดีเหมือนกัน
ฮันกยองทิ้งตัวลงแนบร่างผอมบางของอีกฝ่ายด้วยความเหนื่อยอ่อน ร่างกายยังคงเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรุนแรงที่ได้รับจากฮยอกแจ คนที่ตอนนี้นอนนิ่งอยู่ข้างใต้ ใบหน้าหวานละมุนมีแววนิ่งเฉยจนดูไร้ชีวิต ร่างสูงขยับกายออกมาจากฝ่ายตรงข้ามแล้วดึงร่างบางเข้ามาแนบอก สูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ดึงดดูดให้เขาหลงใหล
ความรู้สึกผิดกับความสะใจวิ่งเวียนตีกัน อาการโกรธชั่ววูบเลือนหายไปหลังจากที่ได้เชยชมเรือนร่างของน้องชายของตนเอง มือแกร่งลูบไปตามแก้มเนียนด้วยความหลงใหลในตัวอีกฝ่าย ฮยอกแจขยับตัวหนีนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้หนีไปไกลมาก
“สะใจหรือยัง”
จู่ ๆ เสียงติดจะแหบของฮยอกแจก็ดังขึ้นถาม ฮันกยองชะงักมือนิ่งลงแล้วถอนหายใจเบา ไม่อยากจะต่อความไปมากกว่านี้ ...เพราะรู้ว่าตนเองก็ผิด ผิดมากเสียด้วย
“ถ้าสะใจแล้วก็ช่วยหยุดด้วย...แล้วก็ ถ้าเป็นไปได้นะ...จ่ายเงินมาให้ผมด้วยก็ดี ถือว่าชดใช้ในสิ่งที่คุณทำ”ฮยอกแจสีหน้าเยือกเย็น มือบางคว้าผ้าห่มไปแนบแผ่นอกบอบบางที่เต็มไปด้วยรอยรักกระจายไปทั่ว ริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อเพราะถูกรุกรานอย่างหนักมากตลอดสองชั่วโมงที่ได้ใช้เวลาบนเตียงร่วมกัน สองชั่วโมงที่สายสัมพันธ์ของคำว่าพี่น้องขาดสะบั้นลงอย่างสิ้นเชิง
“คิดแบบนั้นก็ตามใจ”ฮันกยองเองก็เหนื่อยจะพูดแล้ว เหนื่อยจะต่อปากต่อคำให้เจ็บไปมากกว่านี้ รู้..รู้ว่าฮยอกแจเจ็บปวดมากแค่ไหนแต่ยังไงก็ทำให้ทุกอย่างกลับคืนมาไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นวันเวลาเก่า ๆ ที่พวกเขาสองคนเคยหัวเราะให้กัน หรือคำว่าพี่น้อง ...
สุดท้าย ...ฮันกยองกับฮยอกแจก็ต้องกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันไปจนได้
ฮยอกแจเบือนหน้ามาสบสายตากับฮันกยองราวกับอยากจะรับรู้ความในใจของอีกฝ่าย ทั้งสองจ้องตากันนิ่งนาน ราวกับจะมองทะลุให้เข้าไปถึงหัวใจของอีกฝ่าย ร่างเล็กเองก็แอบหวังว่าอยากจะให้ฮันกยองบอกออกมาว่าตนเองก็หลงรักน้องชายอยู่เหมือนกัน ..ถ้าผลออกมาว่าความรู้สึกตรงกัน เขาคงจะโยนความคิดทุกอย่างไปกับสายลม
ส่วนฮันกยองก็ไม่รู้ว่าตนต้องการอะไร แต่ความรู้สึกก็คืออยากให้น้องชายของตนกลับมาเป็นแบบเดิม ไม่อยากให้เรื่องราวพิพาทนี้ดำเนินต่อไป ..อยากให้ทุกอย่างกลับมาเป็นแบบเก่า แต่ก็ต้องการให้คนตรงหน้าในสถานะอื่นด้วยเช่นกัน ...
ไม่อาจจะปฏิเสธว่าหลงใหลในร่างกายนี้
ไม่อาจจะปฏิเสธว่ากำลังอยากได้ฮยอกแจมาครอบครองอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง
สุดท้าย ...คนที่ทนไม่ไหวก็เป็นอีฮยอกแจเสียเอง น้ำตาหลั่งไหลลงมาเป็นสายจากนัยน์ตา แผลช้ำในที่ก่อเกิดมาได้ไม่นานเจ็บจนน่ากลัว เจ็บจนแทบทนไม่ได้ คน ๆ หนึ่งที่เสียทั้งแม่ เสียงทั้งสถานะพี่ชาย เสียทั้งสถานภาพที่ไม่อาจจะแน่ใจว่าตนเองเป็นลูกแท้ ๆ ของคนที่เคยเป็นพ่อมานานสิบกว่าปี เสียความเชื่อใจที่มีให้กับแม่และพี่ชายของตัวเอง ...
ทำไม..ทำไมทุกอย่างมันกลับกันไปหมดแบบนี้
เคยคิดว่าในชีวิตไม่ต้องการอะไร ขอให้แค่ได้อยู่ใกล้พี่ชายก็พอแล้ว แต่ตอนนี้ ทุกอย่างมันพังครืนไปหมด ...แม้แต่คำว่าน้องชาย พี่ของเขาเองก็ยังปัดออกไปด้วยซ้ำ
“ร้องไห้ทำไม”เสียงของอีกฝ่ายยังเป็นเหมือนเดิม ยังเป็นเสียงเดิมที่เคยใช้ปลอบเขา ฮยอกแจพยายามกลั้นสะอื้นแล้วตัดสินใจลุกขึ้น ไม่อยากจะอยู่ให้นานไปกว่า เมื่อหยัดกายยืนได้ความเจ็บปวดก็วิ่งเข้าใส่จนรู้สึกแปลบไปทั้งร่าง ฮยอกแจทรุดตัวลงทันควัน คราบเลือดบวกกับน้ำรักเลอะไปทั่วขาขาว ฮันกยองถอนหายใจแล้วลุกขึ้นตามมาก่อนที่จะอุ้มฮยอกแจขึ้น ร่างบางหลับตา ไม่อยากจะมองหน้าอีกฝ่าย
“เกลียดพี่รึเปล่า”
“...เกลียด...เกลียดมากซะด้วย”ฮยอกแจตอบกลับไปเสียงแผ่ว น้ำตายังคงไหลไม่ยอมหยุด ร่างผอมบางเบียดกายเข้าหาคนที่ประคองตัวเองไว้อย่างตรงข้ามกับคำพูด ไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับทุกอย่าง ทั้งเกลียดทั้งรักพี่ชายของตัวเอง
“...ขอโทษนะ”ฮันกยองถอนหายใจหนัก ๆ แล้ววางร่างผอมบางในอ่างอาบน้ำ ที่เดียวกันที่เคยเล่นสาดน้ำกัน ที่เดียวกับในอดีตที่เคยมีมา แต่ทำไมบรรยากาศและความรู้สึกถึงได้แตกต่างกันแบบนี้ ฮยอกแจเองก็ยอมรับแต่โดยดี ลมหนาวที่พัดมาต้องร่างกายเปล่ายังไม่เยือกเย็นเท่าความรู้สึก สายน้ำอุ่นโปรยปรายลงมากระทบร่าง และตามด้วยสัมผัสอ่อนนุ่มที่ริมฝีปาก ฮันกยองเองก็เข้ามาในอ่างด้วย ร่างสูงโอบฮยอกแจเข้ามาในอ้อมแขนแล้วกดจูบหนัก ๆ ตามใจต้องการอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันผิดแต่ก็อยากทำ
ร่างบางเชิดหน้าขึ้นรับจูบด้วยหัวใจที่ปล่อยไปตามความรู้สึกอิสระ ความอบอุ่นแล่นผ่านเนื้อหนังที่แนบติดกันและกัน ...ทุกอย่างในโลกดูสูญสลายหายไป อีกขณะที่เขาปรารถนาให้อีกฝ่ายเป็นเพียงคนแปลกหน้า เพียงเพื่อคำว่ารักจะได้ดำเนินต่อไปโดยไร้คำว่าพี่น้องมากางกั้น เสียงลมหายใจของทั้งสองดังประสานกัน และตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่แผ่นหลังบางแนบลงไปกับอ่างอาบน้ำเย็นเยือก สายน้ำพร่างพรมลงมาบนร่างกายของคนทั้งสอง แทบจะกลบเสียงกระซิบได้จนมิด ...แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางประสาทการได้ยินของอีฮยอกแจไปจากอีกฝ่ายได้ ฮันกยองกระซิบเสียงแผ่วด้วยท่าทีไม่แน่ใจ แต่สำหรับคนที่กำลังฟังมันอยู่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้ฮยอกแจรู้สึกดีขึ้นมาได้ เหมือนแสงสว่างทอลงมาหาร่างเล็กนี้ ฉุดรั้งให้ยืนขึ้นมาได้
“
ให้พี่กลับมาเป็นพี่ชายของฮยอกแจอีกทีได้ไหม...”
“แล้วทำไมผมต้องให้?”ฮยอกแจยังถือทิฐิอยู่ดี ร่างบางขยับกายออกห่างถึงแม้จะรู้สึกเจ็บแสบอยู่ตลอดเวลาที่ช่วงล่าง
“พี่ไม่รู้”สีหน้าของฮันกยองดูกลัดกลุ้มในความรู้สึกจนบอกไม่ถูก”พี่ขอโทษที่รู้สึกแบบนี้ ..แต่ถ้าให้พูดตรง ๆ พี่อยากจะนอนกับฮยอกแจอีก”
คำพูดตรง ๆ นั่นบวกกับกิริยาอาการที่ทำท่าจะให้ได้ทำตามที่พูดจริง ๆ ทำให้ฮยอกแจเหมือนเสียศูนย์ไปอีกวูบ ใบหน้าหวานร้อนวาบด้วยความอาย แต่สายตากลุ้มและจริงจังที่มองตรงมาก็ทำให้เขาขยับหนีไปไหนไม่ได้
“พี่รู้ว่าทุกอย่างมันผิด ผิดตั้งแต่ที่พี่เริ่มคิดเกินเลยกับฮยอกแจ”คนพูดยังคงพูดต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนหยุดไม่ได้”พี่รู้ว่ามันควรจบแค่นั้น..แต่พี่ทำให้ฮยอกแจเสียใจมาหลายเรื่องแล้ว แล้วตอนนี้...”
ฮันกยองพูดต่อไปไม่ได้เพราะอีกฝ่ายเอื้อมมือมาปิดปากเอาไว้ ฮยอกแจมีสีหน้าหวั่นไหวอย่างแท้จริงแล้วตอนนี้ แก้มสองข้างฉีดสีระเรื่อด้วยความดีใจ เรียวขาขาวเบียดตัวเข้าหาอีกฝ่ายอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“พี่คิดยังไงกับผม”เสียงกระซิบของฮยอกแจดังถามขึ้นมาก่อน ฮันกยองเลิกคิ้วน้อย ๆ ด้วยความแปลกใจ
“....พี่ไม่รู้ พี่กลัวว่าฮยอกแจจะรังเกียจ”
“บอกผมสิ”ร่างบางยืดตัวขึ้นอย่างร้อนรน สมองสูญเสียการยั้งคิดไปชั่วขณะ ลืมว่าตอนแรกอยากจะเย็นชาอย่างไรใส่คนตรงหน้า แต่ตอนนี้...เพียงแค่ได้ยินคำพูดของฮันกยอง เขาจะลืมแทบทุกอย่าง..
ได้แต่หวังให้อีกฝ่ายคิดเหมือนตนเอง ได้แต่สวดภาวนาให้อีกฝ่ายคิดแบบนั้น ฮันกยองนิ่งไป รับรู้ว่าใบหน้าอีกฝ่ายดูร้อนรนต้องการคำตอบมากแค่ไหน...อดคิดไปไม่ได้ว่าฮยอกแจเองก็มีใจให้เขา ...เหมือนกัน
“พี่ไม่รู้ แต่พี่อยากเป็นพี่ชายของฮยอกแจเหมือนเดิม แต่ก็อยากให้ฮยอกแจ...เป็นของพี่”ร่างสูงดูไม่แน่ใจนักที่จะพูดออกมา แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว ...ทั้งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกับความปรารถนาตีกันจนยุ่งเหยิงไปหมด
”พี่รักผมมั้ยล่ะ”คำถามตรงไปตรงมาจากอีฮยอกแจทำให้ร่างสูงอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะส่ายหัวช้า ๆ
“พี่ไม่รู้”
“จริงน่ะ ?”คำถามจากฝ่ายที่พลิกขึ้นมาเป็นต่อแทน ฮยอกแจขยับตัวเข้าใกล้ มืออีกข้างก็เลื่อนไปปิดตัวฝักบัว สายน้ำที่พร่างพรมหยดลง เรือนผมสีเข้มเปียกลู่แนบกับใบหน้าหวาน ริมฝีปากอิ่มระเรื่อทำให้ร่างสูงใจสั่น ฮยอกแจเบิกตากว้างจ้องมาดั่งต้องมนต์สะกด มือบางกดไหล่อีกฝ่ายให้จนมุมแล้วแนบร่างลงประสานกับร่างสูง”ตอบผมมานะ ...พี่ฮันกยองคิดยังไงกับฮยอกแจ”
“ฮยอกแจ...”ร่างสูงอยากจะเอ่ยห้ามแต่ติดที่พูดออกมาไม่ได้ ผิวกายอุ่นที่แนบเข้ามา ใบหน้าหวานที่ดูยั่วยวนทำให้สติเตลิดไปไกล ร่างบางลากนิ้วผ่านแผ่นอกอีกฝ่ายอย่างเชื่องช้าเหมือนจงใจจะให้อีกฝ่ายทนไม่ไหว
“ตอบมาซะนะ...”ฮยอกแจยิ้มหวาน ตอนนี้รู้สึกสนุกกับการที่ได้แกล้งสั่นไหวหัวใจพี่ชายคนดีเล่น ร่างบางขยับจากแค่เอนพาดธรรมดาไปเป็นการนั่งตักฮันกยอง บั้นท้ายขาวจงใจเบียดลงกับอีกฝ่าย ร่างสูงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก”ไม่งั้น ...พี่ชายคงจะได้รู้ว่าพี่จะทนได้แค่ไหน”
“บางที...ฝนอาจจะตก”เสียงทักทายคำแรกของคิมฮีชอลที่มอบให้คิบอมคือการทำนายอากาศล่วงหน้าให้ คิบอมหันมามองนิ่ง ๆ แล้วกลับไปนั่งมองทงเฮกลืนข้าวต้มต่อ ไม่ใช่การป้อนที่น่ารักเหมือนในหนัง แต่เป็นการที่คิบอมนั่งกดดันให้ทงเฮกินข้าวเสร็จเร็ว ๆ ต่างหาก เพราะดูสีหน้าน่าจะเป็นแบบนั้น ทงเฮยิ้มแหยให้ฮีชอลและกลืนข้าวต้มลงไปอีกคำ”หายใบ้ยัง”
“ก็ดีขึ้นแล้วฮะ”เสียงแหบ ๆ เพราะไม่ได้พูดมาเป็นอาทิตย์ตอบกลับ แค่ไม่ได้พูดมันซักสามชั่วโมงติดต่อกันเสียงยังแย่ นี่เป็นอาทิตย์เสียงไม่เป็นเป็ดให้มันรู้ไป”พี่ฮีชอลไปไหนมาเหรอ’
“ก็...ไปค้างที่อื่นตามปกตินั่นแหล่ะ”ฮีชอลยักไหล่พลางจะเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำซักหน่อย แต่เผลอทำผ้าพันคอตกจนต้องรีบเก็บ ทงเฮหันไปกินข้าวต้มต่ออีกคำ แต่ฮีชอลเองก็จำเป็นต้องสู้สายตากับน้องชายที่มองมาด้วยนัยน์ตาประหลาดกับร่องรอยแดงช้ำเป็นจุด ๆ”กินข้าวให้อร่อยนะเว้ย”
“ครับผม”ทงเฮตอบเสียงเบา ๆ และเป่าข้าวต้มอีกฟู่แก้เก้อ รู้สึกหวั่นกับสายตาของคิบอมยังไงก็ไม่รู้ เจ้าตัวดูเป็นห่วงเขามากขึ้น แต่สิ่งที่แสดงออกมาไม่ได้ชวนให้ชื่นใจเลยแม้แต่น้อย ใครกันวะเป็นห่วงแล้วไม่ป้อนข้าว ดันมานั่งจ้องคนกินข้าวแบบนี้...
คงจะหายป่วยหรอก !
“เออ..ไปทำงานก่อนนะไอ้คิบอม”พี่ชายผู้รักอิสระเสรีบินร่อนออกมาจากห้องอีกครั้ง คิบอมเงยหน้าขึ้นมองแล้วเลิกคิ้ว”อย่าทำหน้าแบบนั้น รู้ว่าโดดบ่อย ก็จะไปอยู่นี่ไง”
“ระวังอุ้งตีนหมี”คำเตือนสั้นแต่แฝงความหมายกินใจ ร่างบางทำหน้าเบี้ยวกับอุ้งตีนหมีที่ว่า โดนแจจุงบงการมาชัด ๆ
“เออน่า !! ไปนะเว้ย”
“เก็บผ้าพันคอให้ดี”อีกคำเตือนที่ทำให้ฮีชอลแยกเขี้ยวส่งท้ายแล้วรีบเดินออกไปให้พ้นน้องชายที่เริ่มทำตัวประหลาด คิบอมถอนหายใจแล้วหยิบชามที่ทงเฮกินหมดแล้วไปเก็บให้โดยไร้เสียง ร่างบางทำหน้ายิ้ม ๆ กับท่าทางเอาใจใส่เงียบเชียบของคิบอม รอจนคนรับใช้กิตติมศักดิ์เดินมานั่งข้าง ๆ อีกแล้วก็เอื้อมมือไปหา
“ขอโทษนะ”คำขอโทษที่มาแบบแปลก ๆ คิบอมขมวดคิ้วแล้วมองเลยออกไปนอกหน้าต่างที่มีแสงยามเย็นส่องลงมาเป็นประกาย เมื่อวานทงเฮออกจากโรงพยาบาลแล้วก็หยุดต่อมันทั้งอาทิตย์เพื่อที่จะได้ต่อเนื่องดี”คิบอม..หันหน้ามาหน่อย”
ไม่ทันขาดคำทงเฮก็ตะปบเข้าให้ที่แก้มป่อง ๆ ของคิบอม ร่างบางยิ้มระรื่นแล้วสะบัดมือไปมา คิบอมทำหน้านิ่งเข้าไปใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรสำหรับร่างบาง ทงเฮยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วมองเข้าไปนันยน์ตาของอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง
“ตานายเป็นอะไรนะ?”
“เคยเปลี่ยน”คิบอมตอบสั้น ๆ ไม่อยากให้คำตอบอะไรมาก กลัวทงเฮจะจำได้ ร่างบางเลื่อนตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นจนคิบอมสามารถรั้งเอวให้ล้มลงมาบนตักได้สบาย แต่ติดที่เจ้าตัวไม่ยอมทำเอง
“มันมีปัญหารึเปล่า”ทงเฮพยายามสอบถามด้วยความเป็นห่วง คิบอมยิ้มออกมานิดหน่อยแล้วเลื่อนมือของทงเฮออก
“ไม่นี่”
“จริงนะ”
คิบอมพยักหน้า แต่ไม่จริงหรอก เขาทั้งปวดตา บางทีก็ตาพร่าไปซักพัก ...บางทีตาที่เปลี่ยนมาอาจจะรับไม่ได้เพราะบางทีเขาก็ชอบลืมกินยา ร่างสูงหันหน้าไปทางอื่นแล้วตอบเสียงเบาให้ร่างบางฟัง ทงเฮเอื้อมมือมาจับมือของคิบอมไว้แล้วเอนตัวลงมาพิงไหล่ร่างสูง
“อย่ากังวลไปเลย”
“...ถ้าได้แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ”
จริงสินะ ...ถ้าเรื่องราวมันราบรื่นแบบนั้นก็ดี
Happy Birthday ,,, Happy Birthday
Jung Yunho My Leader
Be our leader forever
Always keep the faith *
ไปงานมีตของแคสมาด้วยล่ะวันนี้ คอแหบแห้งเพราะกรี๊ดและร้องเพลงมากไป - -
กลับมาแล้ว พร้อมกับเนื้อเรื่องที่เริ่มดีขึ้น .. นิด ๆ
นิดจริง ๆ นะ 555
ใบ้ตอนต่อไป คิเฮจะ ... กัน
(ฮ่า ไม่บอกหรอกว่า ... คืออะไร =w=)
สอบวันพุธ อาจจะมาได้ช้าหน่อยเพราะมันคือ Final !!
ตอนนี้รู้ว่าทุกคนอาจจะเฟลเพราะเรื่องอะไรหลาย ๆ เรื่องที่เข้ามา เรื่องสัญญาป๋า บลา ๆ
อยากให้เชื่อใจ และรอคอย
เรารอกันมานานแล้วเนอะ รอต่ออีกหน่อยก็ได้นี่ ก็เพราะเรารักพวกเขานี่นา
อย่างน้อยก็มีไรท์เตอร์คนหนึ่งหล่ะที่จะรอไปเรื่อย ๆ ..ไม่ไปไหน
หนีจาก Annelida มาสิงกะฟิค ต้องกลับไปหาหนอนมีปล้องแล้ววว
สังเกตชื่อตอน มันคือคณิตทั้งนั้น Determinant Variable - -
| ||||
| ||||
Name : KxH*_^xม่oมiiม่คิมคิ^2NE1< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : 'xes;;|ค.คิมจงอุนหล่อเทพ`< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : 'xes;;|ค.คิมจงอุนหล่อเทพ`< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : KxH*_^xม่oมiiม่คิมคิ^2NE1< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : YoK--KiHae [ IP : 202.149.25.225 ] |
| ||||
| ||||
Name : เอมิลี่ [ IP : 58.8.116.150 ] |
| ||||
| ||||
Name : ketekitty< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : @_minto_@< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : superman [ IP : 124.157.146.109 ] |
| ||||
| ||||
Name : Clier [ IP : 124.121.121.252 ] |
| ||||
| ||||
Name : ugomme [ IP : 114.128.109.15 ] |
| ||||
| ||||
Name : นักอ่านในเงามืด [ IP : 113.53.131.188 ] |
| ||||
| ||||
Name : ,,MINPOADZ [ IP : 58.9.120.211 ] |
| ||||
| ||||
Name : ~sand~< My.iD > |
ความคิดเห็น