คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [Part 1]
[Part 1]
โลกใบนี้ยังมีสิ่งลี้ลับอีกมากมาย
บางอย่าง...ก็มองไม่เห็น และบางอย่างก็มองเห็น
และมีสิ่งมีชีวิตบางสิ่ง...อยู่ได้ด้วยการเสพร่างกายของมนุษย์
ดังนั้น...เพื่อให้เกิดความสมดุลต่อโลกอาชีพนักล่าจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อกำจัดปีศาจร้ายเหล่านั้นนั่นเอง
“จุนซู...กลับบ้านเหอะนะวันนี้ฉันรู้สึกไม่ดีเลย”ร่างบางบอกเว้าวอนคนน่ารักอีกคนที่กำลังเดินกึ่งลากนำหน้าอยู่
“ไม่มีไรหรอกพี่แจจุง”คนเป็นน้องบอกพลางยิ้มกว้างเหมือนตุ๊กตาตัวน้อย “ผมจะพาพี่ไปร้านตุ๊กตานะ ที่นั่นมีตุ๊กตาโลมาตัวบิ๊กเบิ้มน่ารักมากเลยล่ะฮะ!”
“มีช้างด้วยรึเปล่าล่ะ?”คนเป็นพี่ทำตาโตถามด้วยความสนใจในสัตว์ตัวใหญ่สี่เท้านั่น
“แน่นอนอยู่แล้วฮะ”จุนซูบอกยิ้มๆคนเป็นพี่มุ่ยหน้าลงอย่างคิดหนักแต่ก็ยิ้มออกเมื่อคนน้องเอ่ยประโยคต่อมา “เงินเดือนผมเพิ่งออก ผมซื้อให้พี่ก็ได้”
“นายมันน่ารักเสมอแหล่ะจุนซู”แจจุงตบไหล่น้องชายอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินนำหน้าออกไปเหมือนรู้ดีว่าร้านตุ๊กตาที่ว่านั่นอยู่ที่ไหน
พี่ชายเขาก็แบบนี้เสมอแหล่ะ...
ผมรู้...ว่าพี่แจจุงน่ะอยากได้ตุ๊กตาช้างตัวนั้น ผมเห็นพี่เขาไปยืนส่องดูเกือบทุกวันวันนี้เงินเดือนออกก็เลยจะซื้อให้หน่อยและที่สำคัญนะพี่แจจุงน่ะเงินสะสมน่ะเพียบเพียงแต่งกจนไม่หยิบขึ้นมาใช้ต่างหาก
“เอ้า...เดินเหมือนรู้ทางอย่างนั้นล่ะฮะ”
“หึ!...เพราะฉันเก่งไงล่ะ”แจจุงหมุนตัวกลับเท้าสะเอวบอกเชิดๆ คนอื่นอาจจะทำหน้าเกลียดแต่ถ้าเป็นเขาทำละก็น่าดูเสมอล่ะ
สวยซ่ะผู้หญิงยังอายแบบนี้พี่ใครหนอ...
รอยยิ้มบางระบายบนดวงหน้าจังหวะเดียวกับที่จุนซูเงยหน้าขึ้นมองตึกด้านบน คอนกรีตขนาดใหญ่กำลังร่วงลงมาจากด้านบนตรงจุดๆที่พี่ชายคนสวยยืนอยู่
ความเร็วที่ไม่มีค่าประมาณทำให้จุนซูที่รักพี่ชายยิ่งกว่าใครๆวิ่งออกไปโดยไม่ทันคิด คนตัวเล็กพลักร่างของพี่ชายออกไปแต่ยังไม่ทันที่จะเอาตัวเองให้รอดคอนกรีตก็ตกทับร่างเล็กทันที
เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นย้อมสีเทาหม่นของคอนกรีตให้กลายเป็นสีแดงโดยมีเจ้าของเลือดนอนอยู่เบื้องล่าง ร่างเล็กหายใจถี่กระชั้นนัยน์ตาคู่กลมปรือลงเหมือนอยากจะพักเต็มแก่
แต่ถึงอย่างนั้น...ใบหน้าหวานก็มองมายังพี่ชายพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนจะบอกว่าไม่ต้องห่วง
ในชั่ววินาทีที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนสมองมึนงง แจจุงที่ถูกน้องชายเพียงคนเดียวช่วยชีวิตได้แต่มึนงงทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เจ้าตัวจะรับไหว
ใบหน้าขาวซีดเซียว ร่างของน้องชายที่ถูกคอนกรีตทับยิ้มอ่อนโยนพึมพำเสียงสั่นที่เจ้าตัวถามเป็นครั้งสุดท้าย
“พ...พี่ไม่เป็นอะไรนะฮะ”
สิ้นคำพูดรอยยิ้มที่ประดับก็คลายลง ใบหน้าหวานกระทบกับพื้นและไร้การหายใจ
“จุนซู!!!”แจจุงกรีดร้องลั่น น้ำตามากมายพร่างพรูบนดวงหน้าสวย “นาย...ตื่นสิจุนซูจะพาฉันไปซื้อตุ๊กตาไม่ใช่เหรอ ฮือ...”
พลันลมหายใจก็เริ่มสะดุด คนเริ่มมามุงดูกันมากมาย แจจุงรู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนได้รับความกดดันจากบางสิ่งบางอย่าง
นัยน์ตาคู่กลมโตผงะเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคมกริบสีแดงเหมือนอสูรกาย พลันร่างกายก็เหมือนถูกสูบพลังออกไปไม่มีแรงแม้แต่จะขยับ
ควับ!
“ลุกขึ้น!”เสียงกรรโชกจากบุรุษแปลกหน้าดังขึ้นพร้อมฉุดแจจุงให้ลุกขึ้น ร่างบางเซไปตามแรงฉุดเพราะไร้กำลังจะต่อต้าน “ตามผมมา”
แจจุงหันไปมองผู้กระทำอุกอาจด้วยนัยน์ตากร้าว
“นายเป็นใคร!”บอกเสียงเกรี้ยวอย่างคนถูกขัดใจ “ทำไมฉันต้องตามนายไป”
“ตามใจ...คุณจะอยู่รอให้เจ้าตัวประหลาดที่คุณเห็นมันเคี้ยวคุณเล่นก็ดีเหมือนกัน”วาจาแสบร้อนถูกย้อนกลับมาถ้าเป็นเวลาอื่นแจจุงอาจจะนัดต่อยกันสักยกแต่ในเวลานี้
เจ้าอสูรร้ายนั่นมันไม่ใช่แค่ภาพลวงตา...
“แล้วน้องชายฉันล่ะ?”
“ผมให้คนมารับศพและทำพิธีทางศาสนาให้เรียบร้อยแล้ว”คำพูดเรียบเหมือนกำลังพูดเรื่องปกติแต่สำหรับแจจุง
“จุนซูยังไม่ตาย!”
“ตามผมมา!...”คราวนี้ร่างสูงกระชากร่างบางจนเซ “คุณอยากเจ้านั่นมันฆ่าเหมือนน้องคุณรึไง!!!”
สรุปว่า...มันไม่ใช่อุบัติเหตุ?
แต่เป็นเพราะเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น?
“น...นายเป็นใคร?”
“ผมเป็นนักล่า...มีอะไรจะถามอีกไหม?”คนพูดบอกเสียงดุ แจจุงก้มหน้างุดเดินตามแรงลากของคนตรงหน้าไป ทั้งๆที่อยากจะร้องไห้กับการจากไปของจุนซู อยากจะกอดจุนซู
แต่ทว่า...เรื่องอะไรหลายอย่างกลับถาโถมเข้ามาจนรับไม่ทัน คนแปลกหน้ากับสัตว์ประหลาดมันคืออะไร?
“น่าจะปลอดภัยแล้วนะ”ในที่สุดร่างสูงก็หยุดเดิน แจจุงหยุดตามเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย “อยากทำอะไรก็ทำ”
“นายจะให้ฉันทำอะไร?”
“น้องคุณเพิ่งตาย...คุณอยากทำอะไรล่ะ?”
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”แจจุงบอกเสียงดุ
“เก็บไว้ในอกแบบนั้นมันจะยิ่งแย่กว่าเดิมรู้ไหม”
ความเงียบค่อยๆโรยตัวเข้าอย่างแช่มช้า แจจุงเม้มริมฝีปากแน่นจนซีดขาว รอยยิ้มของจุนซูที่แสนจะน่ารักและไร้เดียงสา เสียงโทนสูงที่ชอบมาตะแง้วๆกับเขาจะไม่มีอีกแล้วใช่ไหม
น้องชายที่เคยอยู่ด้วยกันมาตลอด...
แต่ไม่ตลอดไป...
ชั่วเวลานานเหมือนผ่านมาครู่เดียว จุนซูจากไปแล้ว...ทุกอย่างไม่เหลือแล้ว
“จ...จุนซูกำลังจะไปซื้อตุ๊กตา...ฮึก!”ร่างบางบอกเสียงสั่นในขณะที่กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล “จุนซูจะซื้อตุ๊กตาให้ฉันด้วย...แต่จุนซูโกหก...ฮือ จุนซูไม่ซื้อให้ ฮือ...”ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหล ร่างบางยกแขนเสื้อปาดน้ำตาที่ไหลออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
จุนซูที่เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ เป็นน้องชายและเป็นทั้งเพื่อน
วันนี้ไม่มีอีกแล้ว...
น้ำตาเริ่มไหลออกมาเหมือนเขื่อนที่พังทลาย แจจุงสะอื้นหนักกับความจริงที่หลั่งเทก่อนจะสะดุ้งน้อยๆเมื่อสัมผัสอ่อนโยนเหมือนจะปลอบประโลมจับลงที่หัวไหล่
แจจุงเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงอีกครั้งด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“นายชื่ออะไร?”
“จำเป็น?”คำยอกย้อนที่ทำให้คนสวยที่หน้ามุ่ยแล้วพยักหน้าหงึก “จอง ยุน โฮ...”
“ฉันชื่อคิม แจ จุง”ร่างบางบอกเสียงแผ่ว “ฉันมีเรื่องอยากถามนาย...ฮึก!”
“เอาเป็นว่าหยุดสะอื้นแล้วค่อยพูดดีไหม ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง”คำพูดย้อนที่ทำให้คนสวยที่กำลังร้องไห้ต้องถลึงตามองอย่างเอาเรื่อง
ไม่เคยเจอใครพูดจาไม่ระรื่นหูเท่าหมอนี่มาก่อนเลยจริงๆ
“อย่าทำหน้าแบบนั้น...เรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนานเลยล่ะ”ยุนโฮบอกเสียงเรียบในขณะที่ริมฝีปากยกยิ้มที่แลดูกวนส้นที่สุดเท่าที่แจจุงเห็นมา
“หมายความว่ายังไง!?”
_________________________
ณ เนินเขาสูงที่มีแมกไม้ปกคลุม ไอหมอกกระจายอยู่ทั่วซึ่งไม่น่ามีบ้านคนหรือมนุษย์อาศัยอยู่แต่สถานที่แห่งนี้กลับมีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านแข่งกับต้นไม้
คฤหาสน์ที่มียอดหอคอยสูงสีดำสนิททั้งหลังสไตล์ตะวันตกหรูหราแต่ในขณะเดียวกันมันก็เก่าแก่โบราณจนดูเหมือนปราสาทผีสิงในนิยาย
และคฤหาสน์หลังนี้แม้มีอายุหลายร้อยปีแต่ก็มีคนอยู่อาศัยหลายร้อยปีแล้วเช่นกัน
“ต้องการกาแฟสักถ้วยไหมพี่ชาย”น้ำเสียงกระเซ้าหยอกล้อดังขึ้นข้างหูอีกคนที่นั่งตาจะปิดไม่ปิดแหล่ “หรือจะนอนสักตื่นก่อนดีล่ะฮะ?”
“หุบปากไปชางมิน”คนใกล้หลับบอกเสียงเขียว “ฉันมันงานเยอะนายก็รู้”
“วันๆผมเห็นพี่ยูชอนแค่กินกับนอน เที่ยว หลีหญิง เหล่เคะ ไม่เห็นจะมีอะไร”เจอเด็กย้อนเข้าให้ทำเอาร่างสูงทำหน้าถมึงทึง
“แกเกิดหลังชั้นเกือบร้อยปีอย่าทำกำแหง”ยูชอนบอกเสียงดุก่อนต่อ “วันนี้มันน่าเบื่อนี่หว่า”
“เปิดโทรทัศน์ดูสิฮะ...”ไม่ว่าเปล่าคนแนะนำยังเปิดให้ดูอีกด้วยและพอดีกับจังหวะที่การ์ตูนสีสวยกำลังเล่น “เหมาะกับพี่เลย...”
“ฉันไม่ใช่เด็กอนุบาลชางมิน”
ปาร์ค ยู ชอนเป็นมนุษย์แต่เป็นมนุษย์ตระกูลในตำนานผู้มีพลังพิเศษที่เป็นที่ต้องการของสรรพสิ่งและอายุขัยของยูชอนนั้นจะมากกว่ามนุษย์ธรรมดาหลายร้อยปี
ชิม ชาง มิน เป็นผู้วิเศษที่ไม่ใช่ทั้งมนุษย์และปีศาจมีอำนาจในการใช้เวทมนต์หรือสิ่งเหนือธรรมชาติและเป็นคนสนิทของยูชอน
“งั้นพี่ก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกสิ...”
“น่าเบื่อ...เจอแต่ความวุ่นวาย”คนไม่ชอบความวุ่นวายบอกปัด
“ผมว่าพี่นั่นแหล่ะที่วุ่นวายที่สุด”และสิ่งที่ชางมินได้รับก็คือนัยน์ตาดุๆของยูชอนที่ส่งมา
“ฉันจะดูโทรทัศน์...”บอกเรียบก่อนจะดึงตัวเด็กโย่งให้นั่งลงข้างๆด้วย “นายก็ต้องดูเป็นเพื่อนฉันด้วย”เหมือนคำเอาแต่ใจแต่ชางมินก็ชินแล้ว
อยู่ด้วยกันมาเกือบสองร้อยปีไม่ชอบยังไงก็ต้องชินล่ะนะ
“ไม่ไปหาเหล่าคู่นอนทั้งหลายแหล่ล่ะฮะ”ชางมินเริ่มเสนอเพราะตัวเองก็ไม่ได้อยากดูโทรทัศน์สักเท่าไหร่ เพราะตำราเวทมนต์ที่อ่านค้างไว้ยังอ่านไม่จบ
“ไม่มีอารมณ์”และยูชอนก็ตอบได้น่าเตะเหมือนเดิม
“พี่ฮีชอลที่พี่บอกว่าเร่าร้อนล่ะฮะ?”
“ขี้เกียจ...อีกอย่างมันอยู่กับซีวอน ฉันไปก็โดนฮีชอลด่าแถมยังโดนไอ้วอนฆ่าด้วยนะเว้ย”ยูชอนพูดไปก็ทำหน้าสยองขวัญ
“ดงแฮล่ะ...ไหนพี่ว่ารายนั้นน่ะหลอกง่าย”
“ก็เดี๋ยวนี้มันไม่หลอกง่ายแล้วไง...แถมมันยังตัดความสัมพันธ์กับฉันแล้วด้วย”ว่าพลางทำหน้าเซ็งกะตายยามนึกนึกคนน่ารักที่ไปหลงไอ้ตี๋แก้มป่องที่เป็นนักล่านั่น
อยู่กับผมดีกว่าตั้งเยอะเคยบอกเหมือนกันว่าอย่าไปยุ่งกับพวกนักล่า
เข้ากันได้ที่ไหน...ดงแฮที่เป็นแวมไพร์กับนักล่านั่น สักวันจะโดนมันกำจัดทิ้ง แต่ก็ต้องยอมเพราะดงแฮยืนยันท่าเดียวว่าผมมันไม่เข้าใจอะไรเพราะไม่รู้จักความรัก
ให้ตายเถอะ...อยากรู้จักมันที่ไหนล่ะไอ้ความรักนั่น
ข้อผูกมัดอะไรนั่น ไม่ชอบสักนิด
“สวัสดีค่ะ พบกับการรายงานข่าวเที่ยงกันนะคะ วันนี้ได้เกิดเหตุสลดใจขึ้นใจกลางเมืองเมื่อคอนกรีตก่อสร้างขนาดใหญ่ได้หล่นทับผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตค่ะ”
“หืมม์”ยูชอนเลิกคิ้วกับข่าวในโทรทัศน์ก่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะผุดพรายเมื่อเห็นใบหน้าของผู้เสียชีวิตในจอโทรทัศน์ตรงหน้า
“ผู้ตายชื่อ คิม จุน ซู”นักข่าวสาวยังคงรายงานข่าวตามหน้าที่ของเธอต่อไป ในขณะที่ผู้ชมที่ชื่อยูชอนกำลังยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ
“หายน่าเบื่อขึ้นตั้งเยอะ...”ยูชอนว่าอย่างอารมณ์ดี รอยยิ้มที่อ่านไม่ออกระบายบนดวงหน้า “หน้าตาใช้เลยว่าไหมชางมิน...”
“เด็กที่ตายสินะ...สเป็คพี่แต่ไม่ใช่สเป็คผม”ชางมินตอบก่อนรอยยิ้มรู้ทันจะแย้มกว้าง “ผมรู้นะว่าพี่คิดจะทำอะไร”
“หึ!...รู้มาก”
“ขอรับเป็นคำชม”และแล้วห้องก็ก้องกังวานด้วยเสียงหัวเราะชวนชนลุกของเจ้าของห้องทั้งสอง คนหนึ่งหัวเราะเพราะเจอของที่ถูกใจส่วนอีกคนหัวเราะเพราะกำลังได้เจอเรื่องสนุก
--------------
[...M@Y Talk...]
ดีจ้า
กลับมาแล้ว
เม้นด้วย
วันนี้คุยนิดเดียว
โดนเพื่อนด่าแล้ววว
หนีมาอัพฟิค = = งานมิทำ
ความคิดเห็น