คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : :: 11 ตามหา (100%)
{ 11 }
ตามหา
ไม่น่าเชื่อว่าตัวต้นเหตุจะมาหาง่าย ๆ ฮีชอลเม้มปาก คิดไว้แล้วว่าคน ๆ นี้แปลก ซึ่งก็คงคิดไม่ผิดจริง ๆ คยูฮยอนยังคงมองหน้าฮีชอลอยู่แบบนั้น แล้วพอเจ้าตัวยิ้ม ความรู้สึกเหมือนโดนแช่แข็งก็หายไป
“ตกใจล่ะสิ”
“อื้อ”ร่างบางตอบรับเบา ๆ ร่างกายเกร็งขึ้นมาอีกเพราะกลัวว่าจะโดนสาปให้เป็นอย่างอื่นที่แปลกกว่านี้ แจจุงที่โดนชางมินจับไว้อยู่อีกฟากรีบถามหน้าตาตื่น
“คุณเองเหรอ?”
“ใช่แล้ว”คยูฮยอนตอบรับง่าย ๆ”สงสัยมั้ยว่าทำไม”
“ใช่ ทำไม! ผมจะถามคุณเรื่องนี้แหล่ะ”คราวนี้ไม่ใช่แจจุงที่ออกโรง กลับกลายเป็นฮีชอลที่ท่าทางจะเอาความตกใจออกไปได้หมดแล้ว”คุณสาปผมทำไม?”
“เรื่องมันยาว ไม่สิ เรื่องมันสั้น”คนสาปพูดจาไปเรื่อยเปื่อย ชางมินถึงกับทนไม่ไหวขว้างหมอนใส่หน้าคยูฮยอน ร่างสูงยกมือขึ้น หมอนที่ถูกปามาก็หยุดกลางอากาศ แจจุงกับฮีชอลมองตามตาค้าง”จำวันที่คุณตกงานได้ไหม?”
“อื้อ ได้”แจจุงชิงตอบแล้วยกเท้าถีบชางมินที่ใช้อะไรซักอย่างมัดมือเขาไว้”เฮ้ยชางมิน ปล่อยสิวะ”
“ไม่ปล่อย~”ไอ้เด็กกวนตีนแลบลิ้นปลิ้นตา แจจุงจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสีย”หิวรึยังแจจุง~”
“หิวสิเว้ย!!”แจจุงแว้ดกลับไป ชางมินหันมองไปอีกทิศหนึ่งแล้วเรียกเสียงดัง
“ซองมินอา~~”
“ครับผม”เสียงเรียบเย็นนั่นตอบกลับมา คนหิวยิ้มระรื่นด้วยความดีใจ วินาทีต่อมาอาหารเย็นก็วางอยู่บนพื้นด้วยฝีมือของซองมินที่ดูเหมือนจะเป็นพ่อบ้านให้สองคนนี้
“เล่าต่อสิคยูฮยอน”ฮีชอลกระตุกแขนอีกฝ่ายอย่างร้อนรน เผื่อ ๆ จะได้คืนร่างคนกับเขาบ้าง”เล่าต่อ ๆ”
“ก็ ...วันนั้นพวกคุณตกงาน แล้วก็เมาใช่มั้ยล่ะ?”คยูฮยอนยังเล่าไปเรื่อย ๆ นัยน์ตาเปล่งประกายด้วยความรู้สึกสนุกมากขึ้นทุกทีที่เห็นสองพี่น้องนี่ทำหน้าตาเหมือนจะงับหัวเขา ชางมินจัดการคีบตะเกียบขึ้นมาแล้วส่งเนื้อย่างเข้าปาก นั่งกินไปด้วยฟังไปด้วย สุขใจที่สุด”คุณจำอะไรได้มั้ย?”
“ถ้าได้จะมานั่งอยู่ตรงนี้รอนายเล่ามั้ยล่ะ!”แจจุงก็พอ ๆ กับฮีชอล ร่างบางรีบต่อว่าด้วยความหงุดหงิด คยูฮยอนยกมือขึ้น ถาดใส่ถ้วยชาก็ลอยมาอยู่ในมือ ร่างสูงลงมือรินชาแล้วจิบอย่างดูดี โดยมีสายตาอีกสองคู่เฝ้ามองอย่างอดทน ชางมินยักคิ้วให้เป็นเชิงบอกว่า แน่มาก”อย่าจิบชา!”
“ใจร้อนไม่ดีนะครับ”คยูฮยอนปรามเสียงนิ่ม ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวกับสายตาถมึงทึงสองคู่ของสองแมวที่นั่งรอต้นเหตุอยู่ ร่างสูงจิบชาไปอีกนิด”ก็...จำก่อนออกจากร้านได้ไหม?”
“นั่งรอให้นายเล่านี่คงจำได้หรอก”ฮีชอลโต้กลับมาอีกนิด วาจาเชือดเฉือนก็ไม่ได้กระทบอะไรคยูฮยอนไม่ได้หรอก
“เล่าแล้วมันเสียอรรถรสแฮะ”ร่างสูงดีดนิ้วแล้วยืดคอมองไปรอบ ๆ”ชางมิน อยากดูด้วยมั้ย?”
“ก็ดี”ไอ้เด็กกวนตีนที่มีอาหารเต็มปากส่งเสียงอู้อี้ตอบกลับมา คนยึกยักยิ้มพรายแล้วพึมพำอะไรบางอย่างด้วยเสียงเบา ๆ ฉับพลัน หมอกควันประหลาดก็ลอยล้อมพวกเขาทั้งสี่คน แจจุงกับฮีชอลหันมองรอบตัวอย่างตกใจที่ตัวเองหลุดเข้ามาในอะไรแปลกประหลาด หมอกขาวรอบตัวจางลงอย่างรวดเร็ว แล้วสิ่งที่พวกเขาเห็นเหมือนสถานที่หนึ่งที่ดูบิด ๆ เบี้ยว ๆ เหมือนความจำที่ลางเลือน แจจุงรีบเดินไปหาฮีชอลที่นั่งอยู่อีกฟากแล้วจับแขนพี่ชายไว้แน่น
“นี่มัน..ร้านที่เรามาใช่มั้ย?”ร่างบางพึมพำถาม ถนนสายนี้ไม่มีคน ดึกแล้วด้วย มีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากทางซ้าย ร่างผอมบางของคนสองคนกำลังเดินมาด้วยกัน ท่าทางโซซัดโซเซเหมือนคนเมา ฮีชอลก้มหน้าลงอย่างรู้สึกอับอาย
“เมาน่าเกลียดมาก”ชางมินออกความเห็น แจจุงหันไปเอาเท้าถีบอีกฝ่ายเสยคนกินเก่งแทบจะขย้อนไอศกรีมในปากออก”ผมพูดผิดตรงไหน?!”
“ไม่ผิดเว้ย!”แจจุงตอบกลับเสียงสูงแล้วหันมาจ้องเหตุการณ์ตรงหน้าต่อ ฮีชอลกับแจจุงที่แหกปากร้องเพลงเสียงหลงเดินมาจนถึงบริเวณที่แมวสีขาวกำลังเดินอยู่ นั่นคือคยูฮยอนนั่นเอง สังเหตุจากนัยน์ตาสองสีของแมวขาวเผือดตัวนั้น
”อะไรขาว ๆ วะแจจุง...”ฮีชอลในมโนภาพของคยูฮยอนเพ่งมองอะไรบางอย่าง คยูฮยอนเหลือบตาขึ้นมามองอย่างไม่ใส่ใจ และทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ถ้าหากแจจุงไม่เดินเซไปมา แล้วเท้างาม ๆ ที่ใส่รองเท้าหนังอย่างดีก็เสยเข้าเต็ม ๆ ที่ลำตัวของคยูฮยอน นักเวทหนุ่มถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บ แจจุงเองก็ยังไม่ได้รู้ตัว ร่างบางผมสีบลอนด์เดินห่างออกไป แจจุงกับฮีชอลในความเป็นจริงหันหัวไปดูคยูฮยอนที่นอนหมดสภาพอยู่ตรงนั้น
ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มเปลี่ยนแปลง นัยน์ตาทั้งสีฟ้าและเขียวของแมวที่ถูกแจจุงเตะเรืองแสงขึ้น สายพลังสีขาวตรงเข้าปะทะกับร่างของสองพี่น้องที่ยังคงไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่วินาทีต่อมา ทั้งสองคนก็อันตรธานไปจากบริเวณนั้น ทิ้งไว้เพียงแมวสีขาวกับส้มที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนพื้น
“กระจ่างรึยังครับ?”ภาพความทรงจำของคยูฮยอนเลือนหายไปอย่างว่องไว และทั้งสี่คนก็กลับมาอยู่ที่เดิม ในห้องนั่งเล่นห้องเดิม สองคนสวยก็ได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี”ตอนนั้นผมโมโหไปหน่อยเลยสาปพวกคุณเข้าน่ะ”
“เอ่อ ...เอาเป็นว่าฉันขอโทษแล้วกัน”ฮีชอลรีบขอโทษดักหน้าไว้ก่อน ถ้าไปแว้ดไปวีนใส่มีสิทธิ์กลายเป็นแมวตลอดชีวิต”คยูฮยอน ..แล้วพวกฉันจะได้คืนร่างมั้ย?”
คำถามนั้นคนถามดูสีหน้าอ้อนวอนสุดชีวิต แจจุงก็รีบส่งนัยน์ตาเป็นประกายปิ๊ง ๆ ให้พร้อมกับสีหน้าอ้อนสุดชีวิต คยูฮยอนที่เหลือบตามามองถึงกับหลุดขำออกมา
“มีทางแก้ คุณได้กลับเป็นคนแน่ครับ”ร่างสูงรีบพูดเอาใจจนนัยน์ตาสวย ๆ ของแจจุงโตขึ้นด้วยความดีใจ ฮีชอลเองก็ยิ้มร่า
ถึงแม้ในใจจะรู้สึกแปลก ๆ ก็เถอะ ...
ถ้าเป็นคนก็ไม่ต้องไปอาศัยสองคนนั้นอยู่แล้วสินะ...
“งั้นก็แก้เลยสิ ๆ”คนน้องรีบเร่งเสียงสูง
“ใจร้อน”
“นายจะว่าอะไรฉันอีก ชางมิน!”แจจุงรีบหันไปแว้ดใส่เด็กกวนตีนที่เอาแต่ปากเสียไม่ดูเวล่ำเวลา ร่างสูงยักไหล่แล้วกลืนสับปะรดทั้งลูกลงคอด้วยความสามารถพิเศษหาใครเทียม ฮีชอลมองภาพนั้นอย่างอึ้ง ๆ
โห .. มันทำได้ไงวะ
“ผมทำไม่ได้”แต่คำปฏิเสธถัดมาของคยูฮยอนทำเอาสองพี่น้องชะงักค้าง มือแจจุงที่กำลังจะฟาดชางมินถึงกับหยุดกลางอากาศเลยทีเดียว คยูฮยอนมองสบตาฮีชอลแล้วยักไหล่เหมือนกับไม่ใส่ใจเท่าไหร่”มนตร์ที่ผมใช้เป็นแบบไม่มีทางแก้ ทำได้แค่อย่างเดียวคือรอ ผมคาดว่าอายุขัยของมันน่าจะสองเดือน”
“อะไรนะ?”คนบนโลกที่จะพูดคำว่าอะไรนะแบบนี้มีสองประเภท ประเภทหนึ่งคือไม่ได้ยิน อีกประเภทคือช็อกค้าง ฮีชอลกำลังเป็นประเภทหลังอยู่ อีกตั้งนาน เขาเพิ่งฝ่าวิกฤตแมวมาได้สองอาทิตย์ เหลืออีกหนึ่งเดือนสองอาทิตย์กว่าจะได้กลับเป็นคนเนี่ยนะ แอร๊ยยยย”นายล้อเล่นใช่มั้ย?”
“ไม่ได้ล้อเล่น”คนที่โดนกล่าวหาจิบชาในมือไปอีกหนึ่งอึก”ผมทำได้แค่ช่วยคลายมนตร์นิด ๆ หน่อย ๆ เอาไงล่ะ ผมแก้เวลาที่เป็นแมวให้สั้นลงได้นะ”
ฮีชอลถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจแล้วพยักหน้า เขาได้เป็นแมวน้อยลงดีกว่าไม่ได้อะไรเลยสินะ เสียงชางมินร้องโอ๊ยดังขึ้นอีกหน เสียงหลงเชียว ก็คงเพราะแจจุงระบายอารมณ์ทั้งหมดลงไปกับแผ่นหลังของไอ้เด็กกวนตีนคนนี้นี่เอง
“คยูฮยอน ขออีกคำถาม”ร่างบางพูดด้วยเสียงที่พยายามคุมให้เยือกเย็น”นายเป็นใคร”
“โจคยูฮยอน คนธรรมด๊า..ธรรมดา”อีกฝ่ายตอบรวดเร็วทันใจแต่ทำเอาฮีชอลแทบจะหัวทิ่ม ธรรมดาบ้านป้าแกสิสาปเอาซะกลายเป็นแมว
“อย่ากวนประสาทสิ...ฉันอยากรู้จริง ๆ”
“เอางี้ ให้ทาย ผมอายุเท่าไหร่”คยูฮยอนยังยึกยัก ถามอะไรไปก็ได้คำถามเรื่องอื่นกลับมา ฮีชอลส่ายหน้า แต่ในใจก็ลองประมวลความคิดดูว่าคยูฮยอนหน้าตาแบบนี้ น่าจะอายุเท่าไหร่
“ยี่สิบสอง ถูกมั้ย?”
“ไม่ใช่ครับ”คนถามจิบชาอีกอึก ถ้วยแก้วเซรามิกสีขาวว่างเปล่าลง ร่างสูงเลยวางมันไว้เฉย ๆ ...บนอากาศ รอยยิ้มอารมณ์ดีแต่กลับเจ้าเล่ห์จนบอกไม่ถูกนั่นทำให้รู้สึกพิกล”สองร้อยยี่สิบสองต่างหาก”
“หา!!”ทั้งแจจุงและฮีชอลแหกปากออกมาพร้อมกัน คราวนี้ชางมินเป็นคนพูดออกมาก่อน ร่างสูงโยนส้มในใจใส่คยูฮยอนที่ยกมือขึ้นรับอย่างสบายใจ
“ไม่ต้องตอแหล คยูฮยอน”
“เปล่า เห็นหน้าสองคนนี้ตกใจแล้วมันตลกดี”แน่นอนว่าคงโดนไอ้เด็กเวรนี่ปั่นหัวอีกตามเคย ฮีชอลทำหน้าบูดแล้วนึกอยากจะเอาเท้ายันโครมให้อีกซักที มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ซองมินเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนปกติ มือขาวเอื้อมไปหาถ้วยชาที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมา แต่ก่อนที่จะได้เอาไปเก็บ อ้อมแขนของใครบางคนก็รัดเอวซองมินจนต้องนั่งลงบนตักของตัวต้นเหตุ คยูฮยอนกดจมูกลงกับแก้มนิ่มของซองมิน แต่ร่างบางไม่ได้มีสีหน้าเขินอายเลยแม้แต่น้อย
แจจุงอ้าปากค้าง ส่วนฮีชอลหน้าแดงวาบขึ้นมา ซองมินไม่ได้หลบ ไม่ได้ปัดป้อง เพียงแต่สีหน้ากลับเจือด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย
“คุณฮีชอลกับคุณแจจุงรอคุณตอบคำถามนานแล้วนะครับ”เสียงเล็กนั่นยังคงราบเรียบเหมือนเดิม คยูฮยอนกลับกอดให้แน่นขึ้นแล้วพูดเสียงอู้อี้
“ก็อยากกอดซองมินก่อน ..ไม่ได้หรือไง?”
“ผมมีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยเหรอ?”
“ไม่มีหรอก ..ไม่มีสิทธิ์”ร่างสูงพึมพำแล้วปล่อยตัวซองมินให้เป็นอิสระ ร่างเล็กลุกขึ้นแล้วถือถ้วยน้ำชากลับไปที่ห้องครัว คนปกติอย่างแจจุงจ้องตามตาถลน คยูฮยอนหัวเราะหึ ๆ “รู้มั้ยเด็กนั่นเป็นใคร และเป็นอะไร”
“ขนาดนายฉันยังไม่รู้เลย แล้วจะให้รู้เรื่องซองมินได้ยังไง”ฮีชอลแขวะกลับ ถามมานานและกะอีแค่คำถามที่ว่าคยูฮยอนเป็นใคร แต่มันอ้อมโลกได้กวนตีนสุดยอดดดด แม่เจ้าโว้ย เมื่อไหร่กูจะรู้เรื่อง แจจุงพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย
“ซองมินเป็นตุ๊กตาที่คยูฮยอนทำขึ้นมาเพื่อรับใช้“ชางมินตอบแทนเจ้าของซองมิน ร่างสูงพยักหน้าเป็นการยืนยัน”ถ้าไอ้เวรนี่อยากให้ตาย ซองมินก็จะตาย ถ้าอยากให้ทำอะไร เป็นอะไร ซองมินก็จะทำ”
“กีดกันสิทธิเสรีภาพ!!”คนจบคณะรัฐศาสตร์ที่จมหัวอยู่กับเรื่องกฏหมายมาบ้างอย่างแจจุงชี้หน้าคยูฮยอนทันที”ตามมาตราที่..เอ่อ ...137 วรรคที่ 129 ระบุไว้ว่าห้ามกักขังหน่วงเหนี่ยวเสรีภาพของบุคคลผู้อื่น!!”
กฏหมายนั่นแจจุงคงจำไม่ได้ทั้งเล่ม แค่มั่ววรรคขึ้นมาเล่น ๆ ชางมินถึงกับสำลักจาจางมยอนในปาก ส่วนคยูฮยอนก็คิ้วกระตุก
“ซองมินไม่ได้สมยอมนายเลยนะ!!”คนสวยเต้นเร่า ๆ เรียกร้องแทนซองมิน ฮีชอลก็ยกมือปิดหน้า เชี่ยเอ๊ย กูอายน้องตัวเองจริง ๆ
“ใครบอกว่าไม่ได้สมยอม”ชางมินพูดแทรกขึ้นมาอีกรอบหลงัจากที่กลืนบะหมี่ดำลงคอไปหมดแล้ว”แจจุงไม่เคยเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันจริงจังล่ะสิ ผมงี้นะ อิจฉาแบบไม่ไหวจะทน เมื่อไหร่จะมีคู่ซักทีก็ไม่รู้”
“ใครบอกให้แกเรียกฉันว่าแจจุงเฉย ๆ น่ะฮะ!!”แจจุงหันมาวีนใส่คนไร้คู่ ชางมินรีบกระเถิบห่างแล้วคว้าซาลาเปาไส้หมูแดงขึ้นมาอีกลูก พอเล่นงานชางมินไม่ได้ก็หันไปวีนใส่คยูฮยอนอีกดอก”บอกซะทีสิว่านายเป็นใคร”
“โอเค ผมยอมแพ้”คยูฮยอนยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกยอมแพ้ ฮีชอลพยักหน้าอย่างโล่งใจที่มันยอมบอกเสียทีว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ ต้องให้แจจุงออกโรง ถ้าเขาโมโหบ้างเถอะ ..ชิ ไม่เหลือ”ผมเป็นนักเวท พ่อมด อะไรก็ว่าไปนั่นแหล่ะ”
“อื้อ”ฮีชอลตอบรับ
“จบแล้ว”
ประวัติของคยูฮยอนมีเท่านี้
“แค่เนี้ย?”ฮีชอลขึ้นเสียงสูงอย่างไม่เชื่อ คยูฮยอนพยักหน้าหงึก ๆ
“อื้อ แค่นี้แหล่ะ”
“จบเหอะพี่ฮีชอล”แจจุงที่รู้สึกประสาทตึงเปรี๊ยะลุกขึ้นยืน”ไปหาซองมินดีกว่า คงคุยรู้เรื่องมากที่สุดแล้ว”
“พี่ก็ว่างั้น”ร่างบางยกมือกุมขมับแล้วลุกตามแจจุงไปด้วย คยูฮยอนคนประวัติสั้นหัวเราะน้อย ๆ แล้วตะโกนตามหลังไป
“ตอนใกล้ ๆ เที่ยงคืนมาหาผมนะ ทั้งคู่เลย ผมจะได้แก้ไขมนตร์นั่นให้”
“เออ!!”สองสวยตอบกระแทกเสียงมาพร้อมกันแล้วเดินหายไปทั้งคู่ คยูฮยอนผิวปาก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ ชางมินเห็นดังนั้นก็แซวขึ้นเบา ๆ
“แก้ให้ได้ยังจะตอแหลอีก ให้คนสวยรอไปอีกเป็นเดือนมันไม่ดีนะเว้ย”
“ถ้าเป็นได้แค่สองอาทิตย์มันสนุกตรงไหนวะ”คยูฮยอนถามยิ้ม ๆ”เรื่องสนุก ๆ มันต้องเก็บไว้นาน ๆ สิชางมิน”
“ทำไงดีวะ”
“มึงไปถามต้นกล้วยเถอะยุนโฮ”
“ทำไงดี”
“จากใจ กูไม่รู้”
“รู้ซักเรื่องได้มั้ยมึง ไอ้ซีวอน”
“กูรู้แค่ฮีชอลกับแจจุงมีนิสัยเหมือนกัน ..ขี้งอนทั้งคู่”
จบวรรคนั้น ชายหนุ่มทั้งคู่ก็ถอนหายใจ ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว ทั้งบ้านเงียบเหงา ไม่มีเสียงเอะอะโวยวายหรือเสียงใครบางคนอ้อนขอเล่นเกมเหมือนที่เคยมีมา มีแต่เสียงลมหนาวพัดหวีดหวิวประกอบฉากให้ดูน่ากลัวหนักกว่าเดิม
“มึง...งั้นคืนนี้กูก็ไม่มีหมอนข้างกอดอ่ะดิ่”ซีวอนพึมพำขึ้นมา”ทำไงดีวะ”
“กอดกูมั้ง ไอ้ปัญญานิ่ม”ยุนโฮสวนกลับไป ในสมองนักเขีนนิยายที่แสนสร้างสรรค์อดจินตนาการภาพเขากับซีวอนสวีทกันบนเตียง ...โว๊ย จะอ้วก
“มึงจะให้เหรอ...”
สายลมอีกหนึ่งวูบผ่านไปช้า ๆ ยุนโฮขนลุกเกรียว
วูบหนึ่งในคืนเหงา กับสองเราที่เป็นเมะทั้งคู่ ....
“ใครจะรุก ใครจะรับวะมึง”ยุนโฮถามออกไป ซีวอนก็หันมามองหน้ายุนโฮ ในอ้อมกอดของคุณชายชเวมีหมอนหนึ่งในที่ฮีชอลชอบขึ้นไปนอนเวลาเป็นแมว
“กูรุกสิวะ”
“เชี่ย กูกล้ามใหญ่กว่ามึงนะเว้ย”ยุนโฮทวงความเป็นธรรมให้กล้ามเนื้อตัวเองทันที”กูรุกมึงสิวะ กูต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขย่ม”
“พูดจาได้หมาไม่แดกมาก”ซีวอนโต้กลับ แต่พอจ้องหน้า จ้องกล้ามอีกฝ่ายเต็ม ๆ ก็ต้องลุกขึ้นแล้วตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำ
“ไปไหนวะไอ้เหี้ย”ยุนโฮร้องถาม
“ไปอ้วก”
คำตอบนั่นทำให้ยุนโฮนั่งคิดถึงบทสนทนาที่ผ่านมาไม่กี่สิบวินาที นึกภาพตามไปด้วยตามประสาคนจินตนาการล้ำลึก ยุนโฮ ..ซีวอน ยุนวอน วอนยุน คู่พิลึกที่คนคิดก็พิลึก
“ห้องน้ำ”หมีผู้ยืนยันอยากรุกลุกขึ้นยืนบ้าง”ห้องน้ำ...”
นั่นคือบทสรุปของค่ำคืนนี้ อาเมน
วันต่อมา ทั้งม้าทั้งหมีก็ได้ฤกษ์โดดงานทั้งคู่ แต่ไม่ใช่โดดงานนอนอืดอยู่บนเตียงตื่นสิบโมงแบบที่เคยทำมา ยุนโฮกับซีวอนตื่นตั้งแต่หกโมงเพื่อมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป
“ขับรถหาดีมั้ยมึง?”ยุนโฮยื่นข้อเสนอสุดประทับใจพร้อมของแถมอีกเป็นลัง”เห็นแมวไหนขาว ๆ จับกลับมาเหอะ”
“เชิญมึงทำไปเลย บ้านอยู่ใจกลางเมืองมึงจะขับรถฝ่าฝูงชนมองหาแมวรึไงวะ”ซีวอนยกขาขึ้นจะเตะยุนโฮ แต่เพื่อนสมองหมีก็พลิ้วหลบด้วยลีลาพลิ้วเสียจนนักเต้นระดับโลกยังอาย”กูว่าติดป้ายประกาศตามหาดีมั้ยวะ”
“ป้ายเหรอ”ยุนโฮไพล่นึกไปถึงป้ายที่แปะตามเสาไฟฟ้า มีเบอร์ติดต่ออะไรครบถ้วน”มึงมีรูปมั้ย?”
“มีอยู่แล้ว ถ่ายคู่กันทั้งสองตัวเลย”ซีวอนที่เป็นช่างภาพย่อมมีภาพแมวสองตัวนี้ในสต็อกอยู่แล้ว ยุนโฮพยักหน้าตกลงแล้วนั่งคิดให้ครบว่าต้องมีอะไรบ้างในใบประกาศตามจับแมวขี้งอนทั้งสองตัวนั้น
“ใส่เบอร์โทรมึงนะซีวอน”ยุนโฮรีบมัดมือชกใส่ทันทีทำเอาซีวอนอ้าปากค้าง แม่ง มันกะโยนให้กูหมดสินะ”แล้วก็เงินเดี๋ยวช่วยกันออกเวลาเค้าเจอ”
“เออ แล้วแต่มึงเหอะ”ซีวอนยอมแพ้”ทำอะไรทำไปแล้วแต่ใจมึงเหอะ”
“เออ”คนทำตามใจพยักหน้า ซีวอนเดินเข้าไปในห้องตัวเอง มองไปรอบห้องแล้วรู้สึกใจหายแปลก ๆ เมื่อคืนไม่มีใครให้กอด กอดยุนโฮก็จะอ้วก เลยต้องไปหาอะไรมากอดให้หายรู้สึกโหวงเหวง ..เพิ่งรู้สึกตัวว่าใจหายขนาดนี้เมื่อไม่มีคน ๆ นั้นอยู่ใกล้เหมือนเดิม
ตอนนี้จะไปอยู่ที่ไหนนะ ....
นิ้วเรียวหยิบแผ่นรูปสีขาวที่มีใบหน้าหวานของคนที่ยิ้มเสียกว้างอยู่บนนั้นขึ้นมาดู ซีวอนเพิ่งเอาไปล้างมา ยังไม่ทันได้ให้ฮีชอลดูเจ้าตัวก็หายออกไปจากบ้านเสียแล้ว รอยยิ้มสว่างสดใสสะกดให้ซีวอนมองจนดูซึมเซา ได้ยินเสียงยุนโฮเรียกลงมาจากข้างล่างถึงได้คว้ารูปฮีชอลกับแจจุงถ่ายคู่กันลงไปหนึ่งรูป ร่างสู.เดินลงมาก็พบว่ายุนโฮไปนั่งอยู่หน้าคอมแล้ว
“เอามามึง เดี๋ยวกูสแกนเข้าเอา”ยุนโฮรีบคว้าไปจากมือซีวอน ร่างสูงอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางจริงจังเสียยิ่งกว่าส่งงานของยุนโฮ ปากก็บอกเอาว่ารำคาญ ๆ แมวสีขาวตัวนั้น แต่พอแจจุงหายไป ..ก็ร้อนรนเสียจนเขาสังเหตออก
“ใจร้อนจังนะ”ซีวอนรีบแซวไว้ก่อนเพราะเดี๋ยวพลาดโอกาส ยุนโฮหันควับมาแล้วหันหน้ากลับไป ไม่ยอมพูดอะไรเพิ่ม แต่สังเกตได้ว่าหมีวัดกำลังหน้าแดง”ห่วงแจจุงล่ะสิ”
“มึงก็ห่วงเมียมึงล่ะสิ”
“เมีย...ถ้าไม่ห่วงจะให้ห่วงแมวที่ไหนวะ”ซีวอนตอบรับโดยอัตโนมัติทันที ยุนโฮวางมือนิ่งลงบนเมาส์แล้วหันมาหาเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง
“เชี่ยวอน กูขอถามอะไรมึงอย่างนึง”เสียงนั้นดูเครียดขึ้น คุณชายพลังม้าเลิกคิ้วอย่างสงสัยกับน้ำเสียงเครียดของยุนโฮ”มึงคิดยังไงกับฮีชอล”
“กู....”ซีวอนทำท่าจะตอบ แต่ก็ค้างไว้แค่สรรพนามแทนตัว คิดไม่ออกว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกอย่างไรกับแมวสีส้มขี้อายตัวนั้น บอกไม่ถูกจริง ๆ ไม่อาจจะพูดได้ว่ามันคือรัก ... พูดไม่ได้เลย
แล้วมันคืออะไร ? ชอบงั้นหรือ ? แต่เขาก็มั่นใจว่ามากกว่านั้น บางทีสิ่งที่ทำให้เขาชอบฮีชอลอาจจะเป็นเพราะรูปร่างภายนอก ปฏิเสธไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย แต่ใบหน้าและรูปร่างก็แทบไม่ต่างอะไรกับผู้หญิง จุดนี้อาจจะทำให้เขาเข้ากับฮีชอลในแบบอ่อนโยนได้ง่ายมากกว่าผู้ชายปกติ
ยิ่งได้รู้จักจริง ๆ ยิ่งชอบ ท่าทางเขินอายที่ดูไร้เดียงสานั่น ...ผู้หญิงคนอื่นก็เป็นแบบนี้ เขาไม่ได้จัดเจนขนาดจะแยกออกว่าอะไรแกล้งอะไรไม่แกล้ง แต่เขาพอใจในสิ่งที่ฮีชอลแสดงออก จนวรรคที่ว่ายิ่งใกล้ยิ่งหวั่นไหวกลับกลายเป็นจริง
“ว่าไงมึง”ยุนโฮเร่งจะเอาคำตอบ ซีวอนส่ายหน้าช้า ๆ
“กูไม่รู้....”คนไม่รู้พูดเสียงเบา คนถามก็ถอนหายใจเฮือก”กูไม่รู้จริง ๆ ว่ะยุนโฮ”
“เออ ๆ ไม่รู้ก็ไม่รู้”ยุนโฮเปิดฝาเครื่องสแกนแล้ววางรูปลงไปบนนั้น”มึงอย่าทำให้ฮีชอลเสียใจนะเว้ย ถ้ามึงไม่ชอบก็ไม่ต้องไปให้ความหวังอะไรเค้ามากนัก ถ้าคิดมากไปจะยิ่งไปกันใหญ่”
เงียบไปอีกพักหนึ่ง
“มึงไปเอามาจากนิยายเรื่องไหนของมึงอีกวะยุนโฮ”ซีวอนพูดขึ้นมา เหมือนจะเป็นเล่นตลกแต่ก็แค่บังหน้าไว้เฉย ๆ นัยน์ตาคมฉายแววสับสน”คมเชียวมึง”
“กูก็แค่เตือนไว้เฉย ๆ”ยุนโฮเมินกลับไปเพราะเพิ่งรู้สึกตัวว่าพูดอะไรน้ำเน่าออกมา ร่างสูงจัดการนัดจัดหน้า คีย์ข้อมูลให้ครบ”กี่แผ่น”
“ปรินท์ ๆ ไปเหอะ มีตังค์จ่ายว่ะ”ซีวอนยักไหล่ แหงล่ะ ช่างภาพโคตรอิสระอย่างเขามีงานที เงินไหล แล้วเขาก็เที่ยวไม่บ่อยถึงได้เก็บ หมดก็เดินไปขอพ่อเอาแล้วกัน”ซักห้าร้อยแผ่น”
“เวอร์สาด”ยุนโฮขอประณามอีกรอบในความรวยของคุณชายชเว”ห้าสิบก็พอแล้วมั้ง”
ตามนั้น ทั้งสองคนรอเครื่องปรินท์พิมพ์ออกมาจนครบ แล้วเดินออกไปโดยแยกกันไปสองทาง ยืนแปะตามเสาไฟฟ้าบ้าง ผนังบ้าง โดยที่กระจายตัวกันไป โดยที่ระหว่างทางก็มองหาแมวสองตัวนั้นไปด้วย พอแปะเสร็จแล้วก็ได้ฤกษ์เข้าบริษัทบ้างเพราะไม่งั้นอาจจะเสี่ยงกับการโดนเพื่อนปาร์คอับเปหิออกไปจากบริษัทเลยก็ได้
ย้อนกลับไปตอนใกล้เที่ยงคืนของวันที่ยุนโฮกับซีวอนตื่นมานั่งแปะป้ายตามหาแมวที่หายไป แจจุงกับฮีชอลเองก็ไปตามนัด และก็ไปยืนเป็นหุ่นปั้นให้คยูฮยอนจับหมุนไปหมุนมาแป๊บนึง แล้วก็โดนปล่อยออกมาโดยที่บอกว่ามนตร์สำเร็จแล้ว แค่นั่นแหล่ะ !?!
แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาโอเค จากที่เมื่อก่อนกลายเป็นคนได้สิบสองชั่วโมงต่อวันกลายเป็นสิบหกชั่วโมง ถึงว่าดีขึ้นมา เขาเลยกลับร่างแมวช่วง ๆ แปดโมง แล้วคืนร่างเดิมช่วงสี่โมง ซึ่งดูดีมาก อย่างน้อยคยูฮยอนก็ทำให้พวกเขามีความสุขขึ้นเยอะ
แล้วตอนนี้ที่พักพิงของทั้งแจจุงและฮีชอลก็ไม่ใช่บ้านม้าหมีอีกแล้ว กลายเป็นพวกเขามานอนกับซองมินแทน เบียดบังเวลาจี๋จ๋า(?)นักเวทหนุ่มกับตุ๊กตารับใช้เสียแบบนั้น คยูฮยอนบ่นนิดหน่อยแต่ก็สู้แรงแจจุงกับฮีชอลที่บ่นจนแสบหูไม่ได้ แถมชางมินยังเออออไปกับสองแมวนี้ด้วยเพราอยากเห็นเขาทุกข์ทรมานเท่านั้นเอง
อีกวันหนึ่งที่ซองมินต้องออกมาซื้ออาหารไปตุนไว้ที่บ้านตามลำพัง เพราะแจจุงนั่งเล่นเกมกับชางมินอยู่ที่บ้าน ส่วนฮีชอลกับคยูฮยอนก็เล่นเกมอยู่อีกที่หนึ่ง แม่บ้านจำเป็นแบบเขาเลยต้องหอบหิ้วของออกมาคนเดียว ร่างบางเดินฝ่าฝูงชนที่ไหลทะลักตอนเย็นอย่างยากลำบาก ในหัวก็คิดไปถึงตู้เย็นที่บ้าน
ผักกาดจะหมด แล้วหมูก็จะหมดแล้ว
สมกับเป็นแม่บ้านจริง ๆ ซองมินเดินมาอยู่หน้าซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วเริ่มเดินหยิบของที่ต้องการใส่ตะกร้า พอได้ของที่ต้องการกลับมาก็จัดการจ่ายตังค์ที่คยูฮยอนเอามาให้ หรือที่เจ้าตัวเสกขึ้นมาโดยเหตุผลที่ว่า มันก็เป็นกระดาษเหมือนกัน ซองมินถือถุงหนัก ๆ นั่นออกไปแล้วเดินไปที่ลานจอดรถ พอแน่ใจว่าไม่มีคนร่างบางก็พึมพำถ้อยคำประหลาด ๆ ออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา ถุงใส่กับข้าวทั้งหลายก็หายไปเรียบร้อย ไม่ต้องถือกลับบ้านให้หนัก ซองมินเดินออกมาจากลานจอดรถแล้วรีบเร่งเดินหาป้ายรถเมล์
ถ้าไม่รีบกลับบ้านเดี๋ยวของที่ซื้อมาใหม่จะโดนชางมินเก็บไปหมด
ในระหว่างที่เดินไปเรื่อย ๆ แผ่นสีขาวที่มีอะไรส้ม ๆ อยู่ตรงกลางก็ดึงดูดความสนใจของเขาไปเสียก่อน ซองมินหยุดลงที่ผนังที่มีกระดาษแปะไว้ บนนั้นมีรูปแมวที่เขาคุ้นตาดี ทั้งตัวสีส้มและขาว กระดาษนั้นลงรายละเอียดเกี่ยวกับแมวที่หายไป ซองมินดึงมันออกมาแล้วมองดวยสีหน้านิ่ง ๆ
อ่า ..เจ้าของคงห่วงมากสินะ ?
แต่เวลาแบบนี้ ....
ซองมินเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กที่เอาติดตัวไว้ก่อนที่จะกดเบอร์หาชางมินทันที มืออีกข้างก็พับกระดาษนั่นใส่กระเป๋าแล้วออกเดินไปด้วย
“คุณชางมินเหรอครับ ..เดินออกมาจากหน้าจอก่อนนะครับ ผมมีเรื่องสนุก ๆ มาฝาก”
++++++++++++++++++
มาแล้ว โอ้เย มาช้าเพราะติดธุระนิดหน่อย ชิชิ
เจอเรื่องน่าหงุดหงิดใจของมาเลแฟนมา เซ็งห่านทันที
เลยใช้ความรู้อิ้งค์ตัวเองอันมีน้อยนิดไปกระซิบในบล็อคเค้าว่า .. ไม่เห็นด้วยนะจ๊ะ ฉันonly13จ้ะ อันที่จริงวีนยาว
ประกาศจุดยืนชัดเจนว่ามีนไม่แบนสองคนนั้นนะ ชอบนะ แต่ชอบเค้าในฐานะเอสเจเอ็ม
สงสารก็สงสาร แต่สงสารตัวเองมากกว่าว่ะขอโทษ - -
Only 13 ชิชะโชะเชะ ฉันขอให้โปรเจคมาเลแฟนล่ม
13elieve NOT m15take
คยูกวนตีนนิ กวนตีนใช่เล่น 55
พี่ทิพนิ แม่นเชียว ตัวเองทายถูกอะ ชิชิ
เหตุผลไม่มีไรเลยนอกจากสองสวยนี่ดันไปเตะเจ้าคุณคนเล็กเข้า แค่นั้นเอง 55
อาทิตย์นี้ไปงานที่เซนหลุยส์และ ระวังหลอนใบหน้าเค้านิ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อ่านตอนต่อไปด้วย สำคัญมากกกกกกกกกก TOT
ความคิดเห็น