คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : [Part 12]
[Part 12]
“จุนซู...พระอาทิตย์ตกดินแล้ว”ยูชอนบอกร่างเล็กที่อยู่ในห้อง “แต่งตัวเสร็จรึยัง?”
แต่ก็ยังคงเงียบ...
“นี่จุนซู!!!”ยูชอนก็ชักจะหมดความอดทนเมื่อตัวเองก็รอมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว
“ฉันไม่มีชุดนี่!!”เสียงแหลมตอบกลับมา ยูชอนเลิกคิ้ว “ฉันจะใส่ชุดอะไรเล่า!...อยู่นี่ฉันก็ใส่ชุดเดิมๆที่มีอยู่ 5 ตัว
ที่พวกนายขุดมาให้จากที่ไหนก็ไม่รู้”
“ในห้องมีตู้เสื้อผ้า...”ยูชอนตอบเรียบ
ความเงียบเข้าครอบคลุมอีกครั้งก่อนเสียงแหลมจากคนในห้องจะดังขึ้นอีกครั้ง
“มีแต่ชุดกระโปรงอู้ฟ่าใครจะไปใส่กันเล่า!!!”
คำตอบที่เรียกรอยยิ้มจากยูชอนได้อย่างเหลือเชื่อ ยูชอนเปิดประตูเข้าไปในห้อง ร่างเล็กนั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวหน้า
ตาบอกบุญไม่รับแบบสุดๆและยิ่งทำหน้ายู่เข้าไปใหญ่เมื่อเห็นยูชอนเข้ามา
“ชุดพวกนั้นเป็นของเจ้าของห้องคนเก่าน่ะ...”ยูชอนเดินเข้ามาหาจุนซูก่อนจะยื่นชุดให้ “ไม่มีชุดทำไมไม่บอก
ตั้งแต่แรกกันล่ะ?”
จุนซุหยิบชุดจากร่างสูงมาก่อนจะเดินฉับๆเข้าห้องน้ำไป
ใบหน้าเรียบเฉยแต่ท่าทางมันไม่ใช่เลยนะจุนซู...
นายคงอยากออกไปเที่ยวเต็มแก่เลยสินะ...
ร่างเล็กเดินออกมาจากห้องน้ำ ชุดที่เคยเป็นของเขาเมื่อนำมาให้จุนซูใส่ทำไมมันถึงได้ดูเข้ากันอย่างนี้นะ
ผิวขาวที่ถูกตัดด้วยเสื้อสีแดงสดกับกางเกงยาวสีดำสนิทรัดรูป ใบหน้าหวานไร้อารมณ์ใดๆเหมือนทุกที นัยน์ตา
ขวางๆนั่นส่งให้เขาทุกทีที่สบตากัน
แต่ก็ยังดูน่าสนใจ
และก็ดูน่าสนใจขึ้นทุกครั้งที่เห็น...ทุกครั้งที่ได้สัมผัส
รู้ตัวว่าตัวเองกำลังติดใจกับร่างเล็กหัวดื้อคนนี้
หัวดื้อ...แต่ก็ชอบเพราะไม่มีใครกล้าดื้อกับเขา
อยากจะแกล้ง...แต่บางทีก็แกล้งแรงไปหน่อย
แต่ทำไงได้...มันก็แค่ของเล่น
“ไปเถอะ...”ยูชอนบอกจุนซู ร่างเล็กเดินออกมาจากห้องเดินตามยูชอนไปจนถึงหน้าประตู นัยน์ตาคู่กลมหยุด
มองอยู่หน้าประตูกลัวเหลือเกินว่าเปิดออกไปแล้วจะเหมือนในตอนนั้น
“เปิดสิ..”ยูชอนบอกอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อเห็นท่าทางของจุนซู ร่างเล็กหันมามองร่างสูงด้วยความไม่เชื่อใจ
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ...พระอาทิตย์ตกดินแล้ว”ชางมินบอกขึ้นจากทางด้านหลัง ยูชอนจิ๊ปากอย่างขัดใจส่วนจุนซูก็
หันไปมองชางมิน “ผมกับพี่ยูชอนก็อยู่นี่ไม่เป็นไรหรอก”
จุนซูพยักหน้าหงึกก่อนจะเอ่ยปากถามคำถามที่ทำให้ยูชอนต้องรีบกระชากร่างเล็กออกไปทันที
“แล้ว...ชางมินไม่ไปด้วยกันเหรอ?”
“โอ๊ย! มันเจ็บนะยูชอน!!”ร่างเล็กร้องลั่น “อะไรของนายน่ะ!”
“ชู่วว...เงียบๆหน่อย เดี๋ยวพวกหมาป่าจะแห่มากันหมด”ยูชอนหันไปบอกเสียงดุ จุนซูกวาดสายตามองรอบตัว
ต้นไม้...
เหอะ...ไม่ได้เห็นมันมานานเท่าไหร่แล้วนะ?
หมาป่าเหรอ?....ปีศาจสินะ
“อีกนานไหมกว่าจะเข้าถึงตัวเมือง”จุนซูตัดสินใจเอ่ยปากถามเพราะรอบตัวตอนนี้มันก็มีแต่ป่ากับป่า ไม่เห็นจะมี
วี่แววจะเป็นกรุงโซลที่เคยอยู่สักนิด
“อยากจะไปเร็วๆงั้นเหรอ?”ร่างสูงถามเสียงหยียวน “งั้นก็ขึ้นหลังสิ”คำเชิญชวนที่จุนซูไม่อยากทำตามสักนิด ร่าง
เล็กเมินหน้าหนีดังที่ยูชอนคาด ร่างสูงจึงช้อนตัวจุนซูขึ้นมา
“เฮ้ย!...ปล่อยฉันนะ!!!!”เสียงแปดหลอดที่ทำร้ายหูยูชอนร้องขึ้น จุนซูส่งเสียงหลายร้อยเดซิเบลและทุบตีสารพัด
แต่คนอึดอย่างยูชอนทนได้อยู่แล้ว ร่างสูงเริ่มออกวิ่งด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์
ภาพทุกอย่างจากสายตาจุนซูผ่านไปเร็วมากจนมองเห็นทุกอย่างดูเลือนราง ร่างเล็กหยีตามองรอบตัว สายลมแรง
ทีตีปะทะเข้ากับใบหน้ากลมแรงเสียจนเจ้าของเสียงที่เคยโวยวายเมื่อครู่ต้องเงียบเสียงลงแล้วซุกใบหน้าเข้ากับ
แผ่นอกกว้างอย่างลืมตัว มือบางกระชับเสื้อของร่างสูงแน่นขึ้นจนยูชอนต้องหลุบตาลงมองร่างเล็กในอ้อมแขน
พลันความรู้สึกประหลาดก็แล่นริ้วจนเจ้าตัวต้องเบนหน้าหนีก่อนจะหยุดชะงักทันทีเมื่อกลิ่นสาบลอยโชยแตะจมูก
สัตว์ป่า?
ไม่ใช่สิ...อะไรบางอย่างมันเตือนว่ามากกว่านั้น
ไม่พร้อม...เขายังไม่พร้อมจะเจออะไรในตอนนี้ ตอนที่เขากำลังลากตัวถ่วงอย่างจุนซูมาด้วยและขาดจอมเวทย์ชา
งมินไป
นัยน์ตาคมกริบกวาดมองรอบตัวอย่างระแวดระวัง จุนซูโงหัวขึ้นจากแผ่นอกกว้างแล้วมุ่นหัวคิ้ว
“น...นายเป็นอะไร?”คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบไม่ได้ทำให้จุนซูรู้สึกดีเลย บรรยากาศอึดอัดเสียจนอยากจะร้องไห้นี่มัน
อะไร
สวบ!
เสียงบางอย่างที่ทำให้จุนซูกับยูชอนหันไปมองในทันที บางอย่างในพุ่มไม้นั้นทำให้จุนซูขนลุกซู่จนต้องจับเสื้อ
ยูชอนไว้แน่น
“ฉันไม่มีเวลามาก”
“น่ากินดีนะ...”ไม่บอกก็รู้ว่าหมายถึงอะไร ยิ่งสายตาของแขกไม่ได้รับเชิญที่มองมายังร่างเล็กด้วยความกระหายยู
ชอนก็แทบสติแตก
“ของของฉัน!!!”น้ำเสียงเฉียบที่ดูเหี้ยมกว่าครั้งไหนๆทำให้อีกฝ่ายต้องจุ๊ปากเบาๆ
“แน่ะๆ....อย่าเอาไปกินคนเดียวสิยูชอน”น้ำเสียงหยียวนที่ยูชอนแสนเกลียดดังมาจากอีกฝ่าย ก่อนร่างสูงจะเดิน
มาหยุดตรงหน้าแล้วฉีกยิ้มส่ง
“หมอนี่กินไม่ได้...”ยูชอนพยามยามข่มเสียงให้เรียบ “มนุษย์ที่ตายแล้วแม้แต่เลือดก็ยังไม่มีจะกินได้ยังไง”
“อื้อหื้อ....”อีกฝ่ายลากเสียงยาวยื่นหน้าเข้าใกล้จุนซูแล้วทำจมูกฟุดฟิด “หอมอย่างนี้ไม่ใช่มนุษย์หรอกหรอ”
“ลืมไปแล้วเหรอคังอินว่าฉันสามารถชุบชีวิตคนได้...”
“อ่ะฮ้า~”คราวนี้คังอินดีดนิ้วเปาะแล้วยื่นหน้ามามองจุนซูอีกทีชัดๆ “แต่ก็น่ารักดีนี่นา”
“คังอิน...ถอย ฉันจะไป”
“อื้อ เชิญสิ....แต่ว่า”คังอินขยับยิ้มที่ดูน่ากลัวมากกว่าที่จะเป็นรอยยิ้มเชื้อเชิญ “ขอโทษนะ...เด็กๆเค้าหิวล่ะ”
สิ้นคำพูดฝูงหมีก็ปรากฏขึ้นจากทางด้านหลังของคังอิน สายตาของเจ้าสัตว์ร้ายดูหิวกระหายน่ากลัวเสียจนยูชอน
ต้องกัดฟันกรอด
“ปล่อยเด็กคนนั้นทิ้งไว้แล้วนายก็จะรอดนะ...ฉันเตือนด้วยความหวังดี”คังอินบอกด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ยูชอนกัด
ฟันกรอด สมองทุกอย่างมึนไปหมด
ถ้าเรื่องการต่อสู้...เขาได้เปรียบเรื่องความเร็วและถนัดพวกการใช้อาวุธแต่ที่สำคัญเขาเป็นมนุษย์แต่เป็นพวกเผ่า
พันธุ์ในตำนาน
แต่...ตรงหน้าคือปีศาจ
และเขาก็ไร้อาวุธ...ที่ดูเหมือนจะติดตัวมาก็เหมือนจะมีแค่กริช เข็มกับยาพิษหรือพวกอาวุธลับเท่านั้นส่วนภาระ
ที่ทำให้เขาคิดอะไรไม่ออกก็คือจุนซู
จุนซูกลัวแค่ไหนเขารู้แต่ที่เขาไม่รู้ก็คือว่าทำไมเขาถึงทิ้งจุนซูไว้ที่นี่ไม่ได้
และในวินาทีที่เขากำลังคิดหาทางออกหมีตัวหนึ่งก็กระโจนพรวดเข้ามา ยูชอนก้มตัวล้มทับจุนซูทันทีเพื่อบังไม่
ให้ร่างเล็กได้รับอันตราย
แต่โล่ก็คือเนื้อมนุษย์ไร้อานุภาพพอที่จะต่อกรกับเขี้ยวเล็บของสัตว์ร้าย เล็บของมันฝังลงบนเนื้อนุ่มก่อนจะ
กระชากออกมาพร้อมกับหยาดโลหิตสีแดงสดที่สาดกระเซ็นและกลิ่นคาวเลือดที่ลอยโชยแตะจมูกให้จุนซูต้อง
เบิกตากว้าง
นี่มันอะไรกัน?
ยูชอนกำลังปกป้องเขา?
เสื้อเชิ้ตสีดำของร่างสูงชื้นแฉะจนทำให้เจ้าตัวต้องเบ้หน้าไม่ชอบใจแล้วลุกขึ้นยืนพลางคว้ากริชเล่มเล็กขึ้นมา
เดาะในมือ
กริชมีอยู่ 3 เล่ม
ใช้ยังไงถึงจะเปิดทางได้ด้วยกริช 3 เล่ม?
นัยน์ตาคู่คมหรี่ลงประเมินสถานการณ์ที่มองไปก็ไม่เห็นอะไรอื่นนอกจากความมืดและสัตว์ร้าย ในเวลานี้เขาขอ
เพียงช่องโหว่ที่จะหนีเพราะเขามีเวลาไม่มาก
อีกไม่นานก็จะเริ่มงานสิ้นปี...
ความคิดงี่เง่าเพื่อคนอื่นที่ไม่เคยมีในหัวทำให้ยูชอนต้องสะบัดไล่ก่อนรอยยิ้มเหี้ยมจะกระตุกร้ายกาจจนคนมอง
ต้องขยาดแล้วร่างสูงก็หายวับไปราวธาตุอากาศ
จุนซูมองภาพตรงหน้านิ่งงัน ทุกอย่างดูเงียบงันอย่างร้ายกาจ อึดอัดจนหายใจไม่ออก
ถึงเขาจะไม่ชอบยูชอนแต่ในเวลานี้กลับเป็นคนเดียวที่ต้องการมากที่สุด
หมอนั่นหายไปไหน?
และก่อนที่จุนซูจะได้คิดต่อเจ้าอสูรร้ายก็กระโจนพรวดมาทางเขา จุนซูถอยหลังกรูด ร่างเล็กเริ่มร้องไห้อย่างต้าน
ทานความกลัวไม่อยู่และก่อนที่ตัวเองจะได้ไปนอนเล่นในปากของมัน อสูรร้ายก็ล้มตึงต่อหน้าต่อตา
มือเล็กถูกกระชากขึ้นจากเงาไหวๆที่จุนซูดูไม่ทันว่ามันคืออะไรก่อนร่างทั้งร่างจะถูกยกขึ้นตามด้วยอสูรร้ายที่ล้มลง
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนประมวลไม่ทันและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครดึงเขาออกมา
รู้แค่ตอนนี้เขากำลังขี่หลังใครสักคนที่เคลื่อนที่เร็วมากจนเขาต้องหลับตาแต่ความรู้สึกชื้นแฉะตรงหลังนี่ทำให้
จุนซูเริ่มนึกออกว่าเป็นใคร
“ยูชอน...”
ความเงียบคือคำตอบแต่จุนซุก็มั่นใจแล้วว่านี่คือยูชอน
ไม่รู้สิ...แค่คิดว่าใช่
“ฉันนึกว่านายทิ้งฉันไปแล้วซ่ะอีก”คนตัวเล็กบอกเสียงอู้อี้เมื่อซบหน้าเข้ากับแผ่นหลังกว้าง “ฉันกลัวมากเลย”
ไม่รู้ว่าจุนซูคิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกเหมือนยูชอนจะชะลอการวิ่งลง หรืออาจจะเป็นเพราะตอนนี้จุนซูรู้สึกว่า
มันช้า
ทุกอย่างมันช้าไปหมด รู้สึกอยากจะลงจากหลังยูชอนไปเสียเร็วๆบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกยังไงกันแน่กันความ
เปียกของเลือดที่ดูเหมือนจะมากขึ้นทุกที
เป็นห่วง...
คงไม่ใช่
“น...นายไม่เจ็บบ้างหรือไง?”ในที่สุดก็ตัดสินใจถามก็รู้อยู่หรอกว่ายูชอนมันเป็นพวกเหนือมนุษย์แต่เลือดออก
มากขนาดนี้ไม่เจ็บแถมยังพาเขาวิ่งได้ยังไง
“แล้วนายจะให้ฉันหยุดพักเหรอ...จะรอให้พวกกระหายเลือดพวกนั้นตามมากินนายหรือไง”คำตอบที่โต้ลมกับมา
ไม่ได้ระรื่นหูสักนิดแต่จุนซูก็จับความหมายเล็กๆของมันได้
ยูชอนคงเจ็บ...
“แล้วทำไมนายไม่ทิ้งฉันไว้...”คำถามที่คนถูกถามไม่อาจตอบได้กระจ่าง
“บอกแล้วไง...ว่านายเป็นของเล่นของฉันแล้วก็ต้องมีแต่ฉันเท่านั้นที่จะเล่นได้”คำตอบที่ดูเอาแต่ใจฟังดูเป็นเจ้า
เข้าเจ้าของจนจุนซูเม้มริมฝีปากแน่น ร่างเล็กไม่ชอบคำนี้เสียเลย
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ของเล่น...”
______________________________________________________________
มาอัพแทนพี่เมย์คับ -*-
คือพี่แกประมาณว่าคอมเจ๊ง เล่นไม่ได้ ไวรัสเข้า งานเข้า เลยส่งมาให้อัพให้ก่อน -O-
ฮี่ๆ อันนี้คงต้องบอกว่า..หนูรักทุกคนแทนคนที่นั่งคอมเจ๊งอยู่ที่บ้านสินะ ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้ขอเม้นในนี้ได้มั้ย เซียน่ารักดี แต่แอบเป็นหนังอินเดีย วิ่งหนีปีศาจ~~
แล้วจะเจอกับแจในงานมั้ยเนี่ย- -??
เอาล่ะ รักทุกคนนนน
มีนเอง =A=
ความคิดเห็น