คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : :: 10 หนีออกจากบ้าน (100%)
{ 10 }
หนีออกจากบ้าน
สายตาแมวที่จับจ้องไปยังโต๊ะอาหารทำให้เจ้าของรู้สึกแปลก ๆ และพฤติกรรมก็เช่นกัน สองคนนี้แปลกไป ดูอารมณ์เสียง่ายขึ้น วันนี้เท่าที่กาอินมาหาก็ก่อเรื่องไปตัวละประมาณสามรอบแล้ว ฮีชอลข่วนมือยุนอาบ้าง แกล้งทำของฝากตกกระจายบ้าง พอซีวอนดุก็วิ่งหนีไปดื้อ ๆ แบบนั้น แจจุงเองก็เช่นกัน
“แมวดื้อนะคะ คราวก่อนยังน่ารักอยู่เลย”กาอินเปรยขึ้นมาเมื่อเห็นยุนโฮกำลังตีแมวตัวสีขาว โทษฐานวิ่งซนเสียจนข้าวของตกหมดจนต้องเสียเวลาเก็บยุนอาเขม้นมองแล้วลูบแผลบนมือเบา ๆ
“ซนนะคะ”น่ารำคาญ เธอต่อในใจ
“ก็แบบนี้ล่ะครับ น้องยุนอายังเจ็บแผลอยู่มั้ย?”ซีวอนหัวเราะแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด อาการของฮีชอลที่วันนี้เปลี่ยนไปทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ เพราะยุนอากับทิฟฟานี่เป็นแขก ไม่ควรจะก่อเรื่อง ถึงแม้จะหมั่นไส้พวกเขาแค่ไหนก็ไม่ควรทำให้งานเสีย”แล้วนี่ต้องไปไหนอีกรึเปล่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ”สุภาพบุรุษ ดีแล้วที่เธออ้อนวอนขอมาแทนพ่อ โอกาสดีชะมัด”ก็ไม่มีธุระอะไรหรอกค่ะ ... เออ นี่”ยุนอาเรียบเรียงเหตุการณ์ในหัวแล้วถามหันไปถามทิฟฟานี่”นี่ คุณพ่อฝากอะไรมาเหรอ”
“เปล่าหรอก เห็นพ่อบอกว่าให้พาพี่ยุนโฮไปกินข้าวด้วย”ทิฟฟานี่บอก แต่ท่าทางเธอไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่”ก็แล้วแต่”
“ไม่ต้องหรอกครับ พี่เกรงใจ”ยุนโฮรีบตัดบท เกรงใจจริง ๆ นะ เพิ่งรู้จักจะมาเลี้ยงเสียแล้ว ยุนอาส่ายหัวอย่างพยายามบอกว่าไม่เป็นไร แจจุงมองตามแล้วหันไปข่วนผนังแกรก ๆ
“แต่ถ้าแบบนั้นพี่ไปไม่ได้นะ”คราวนี้กาอินพูดขึ้นมา นัยน์ตาเรียวมองไปที่นาฬิกาอย่างกระวนกระวาย”เพราะนี่ก็ใกล้เวลาทำงานแล้ว ยุนอากับทิฟฟานี่จะกลับเลยมั้ย?”
“กลับไปเลย...”แจจุงหลุดปากออกมา แต่ก็รีบเงียบ
“หยุดทำไม ไม่มีใครเข้าใจเราหรอกแจจุง”ฮีชอลกระซิบเสียงนิ่มแล้วร้องออกไปบ้าง”กลับไปเล๊ย”
“นั่นสิ กลับไปซะ~”แจจุงเองก็เห็นด้วยเลยรวมตัวกันแหกปากร้องเหมียว ๆ ใหญ่ กาอินที่ลุกขึ้นยืนก็เดินมาลูบหัวแจจุงกับฮีชอลคนละทีก่อนที่จะเดินออกไป
“เรายังไม่กลับหรอกค่ะ เดี๋ยวยุนอากับทิฟฟานี่คงจะไปกินข้าวกันต่อ พี่ยุนโฮกับพี่ซีวอนจะไปด้วยมั้ยคะ?”ยุนอารีบโพล่งออกมาเพื่อป้องกันโอกาสทำคะแนนหลุดลอย ซีวอนหันไปมองยุนโฮ แล้วก็หันไปมองแมวทั้งสองตัวเหมือนอยากจะปรึกษา แต่แจจุงกับฮีชอลกลับสะบัดหน้าใส่
“ก็...แล้วแต่ล่ะครับ แต่ถ้าพี่ไปพี่ขอเลี้ยงดีกว่า”ซีวอนรีบทำตัวเป็นสุภาพบุรุษที่ดีในทันที แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไร เสียงขาดเป็นทางยาวก็ดังขึ้น ทั้งสี่คนหันไปมองแล้วก็เจอกับแมวตัวสีส้มที่กำลังข่วนโซฟาอยู่อีกมุมจนขาด นุ่นสีขาวไหลทะลักลงมา ซีวอนยกมือตบหน้าผากตัวเอง”เป็นอะไรอีกเนี่ย”
“ไม่ต้องมาสนใจ!!”แมวขี้งอนร้องเสียงแหลม รู้ว่าซีวอนไม่เข้าใจหรอก แต่ก็ยังพูดอยู่ดี
“นิสัยไม่ดีเลยนะวันนี้”ซีวอนบ่น เหมือนจงใจให้แมวสองตัวนี้ได้ยินด้วย นัยน์ตาคมที่จ้องมองลงมาหมายความว่าแบบนั้นจริง ๆ ฮีชอลมองไปกลับไป น้อยใจ...น้อยใจมากจริง ๆ ที่ซีวอนเป็นแบบนี้ ร่างสูงอดรู้สึกผิดนิด ๆ ไม่ได้ แต่ก็ดีใจที่ฮีชอลเหมือนจะหึงเขาจริง ๆ
แต่ถ้าให้เอายุนอามาเป็นเครื่องมือเขาก็ทำไม่ได้ และถ้าให้กลับคำที่ว่าจะเลี้ยงข้าวสุภาพสตรีมันก็ไม่ได้ เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง ให้ง้อแมวต่อหน้ายุนอาก็คงน่าเกลียด ซีวอนยังคงคิดอยู่แบบนั้นจนเสียงโอดโอยของเพื่อนรักดังขึ้น สองสาวกับหนึ่งหนุ่มหันไปมองยุนโฮที่มีรอยแผลยาวที่แขนใหญ่ ๆ นั่น
“ไอ้ฟูข่วน”ยุนโฮทำปากขมุบขมิบแล้วสะบัดหน้าใส่แมวเหมือนคนงอน”ช่างแมวมันเถอะ ทิฟฟานี่ครับ ออกไปได้แล้วล่ะ วันนี้พี่เลี้ยงเอง”
ท่าทางนั้นเหมือนตั้งใจจะประชดแมวบางตัวที่ร้องเหมียวเสียงสูง แจจุงสะบัดหางใส่พร้อมกับความรู้สึกโมโหที่ปะทุในใจสูงราวกับเป็นพายุขนาดยักษ์ ทิฟฟานี่หันมามองแมวงอนแล้วเดินตามยุนโฮไป ซีวอนเองก็สับสน ไม่รู้จะทำอย่างไร กลัวก็กลัวฮีชอลจะกู่ไม่กลับ แต่แรงกระตุกที่แขนก็ตัดสินใจให้แล้ว หญิงสาวร่างบางส่งยิ้มหวานมาให้ ทำเอาซีวอนต้องยิ้มตอบกลับไปอย่างแกน ๆ
“ไปได้แล้วค่ะพี่ซีวอน”ยุนอาเอ่ยเรียก ฮีชอลเห็นแบบนั้นก็เข้าโหมดเดียวกับแจจุงไปโดยปริยาย แมวทั้งสองตัวกระโดดหายไปจากสายตา ซึ่งคนอยากลองใจแมวก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินตามสาวน้อยยุนอาออกไปอย่างไม่มีทางเลือก
ก็ได้แค่หวังว่ากลับมาบ้านเขาคงไม่พังด้วยพายุอารมณ์แจจุงกับฮีชอลก็แล้วกัน
“ไอ้พวกบ้า!”อุ้งตีนเล็ก ๆ ตบเพียงลงบนหมอนที่ใช้อิงอยู่ แจจุงด่าลั่นไปถึงไอ้บ้าทีไหนไม่รู้ที่ป่านนี้คงไปนั่งกินข้าวสบายใจเฉิบกับสาวสวย ก่อนไปคิดถึงสวัสดิภาพการกินของแมวซักนิดก็ไม่มีหรอก”ไอ้ห้อย ไอ้ลงพุง ไอ้หมีป่า ไอ้หมีบ้า ไอ้หน้าม่อ ไอ้โรคจิต!!”
“ไอ้ม้า ไอ้หน้าม่อ ไอ้เห็นแก่สาว ไอ้หื่น ไอ้เจ้าเล่ห์!!!”ฮีชอลร่วมผสมโรง คำด่าที่ได้แทบจะเอาไปเปิดต้นฉบับให้ยุนโฮได้เลยทีเดียว”ไอ้ครกเอ๊ย!”
แจจุงหันไปมองหน้าพี่ชายอย่างงง ๆ ครกมาเกี่ยวอะไรกับซีวอนวะ -*-
“แจจุง”เสียงแมวเหมียว ๆ นั่นดูเยือกเย็น เป็นเสียงที่ฮีชอลใช้กดขี่คนตอนเป็นคน ถึงแม้มันจะออกมาเป็นเหมียว ๆ ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน แววตาอยากเอาชนะส่งผ่านออกมาจากคนชอบประชดและไม่ยอมคนง่าย ๆ อย่างฮีชอล”เราจะแคร์สองคนนั้นทำไม?”
“นั่นสิ?”แจจุงเองก็สงสัย แล้วทำไมตูต้องหงุดหงิดแบบนี้หว่า
“ถ้าพวกนั้นไม่สนใจก็ช่างมัน ให้มันรู้ไปว่าเราจะอยู่ได้ถ้าไม่มีม้ากับหมี!!!”คำพูดดูประกาศศักดาชอบกล แมวสีส้มเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ นัยน์ตาดูอยากประชดม้าที่ว่านั่นเต็มที่”แจจุง เราต้องไปด้วยกัน”
“ไปไหน?”น้องชายก็ยังตามไม่ทัน
“หนีออกจากบ้าน!!”
หนีออกจากบ้าน เป็นคำที่พบบ่อยในโดราเอมอน ซึ่งโนบิตะทำทีไรก็ไม่เคยสำเร็จ
ตอนนี้พวกเขากำลังออกมาชมนกชมไม้ข้างนอกด้วยตัวเอง พูดง่าย ๆ ก็หนีออกจากบ้านด้วยความน้อยใจสองคนนั่น ก็แค่ปีนกำแพงออกมาสองตัว แจจุงกับฮีชอลเดินใกล้ ๆ กันไว้ เผื่อ ๆ จะหลงทาง ผู้คนมากมายที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กกับผู้หญิงเข้ามาลูบหัวลูบหางบ้าง มีเสียงเห่าจากสุนัขบ้าง แต่เพราะมันใส่ปลอกคออยู่ถึงไม่เป็นไร ต้องขอบคุณปลอกคอบนตัวพวกเขาที่ช่วยไว้ไม่ใช่เทศกิจจับไปขังแบบเรื่องทรามวัยกับไอ้ตูบ
“พี่ฮีชอล เราจะไปไหน?”แจจุงที่เงียบมานานเอ่ยปากถาม หวังไว้ในใจว่าพี่ชายจะมีหนทางให้ไปไหนต่อไหนบ้าง ฮีชอลมองไปข้างหน้าแล้วตอบออกมาเบา ๆ
“ไม่รู้”
“อ้าว ชิบหายวายวอด”แจจุงอ้าปากค้าง ซวยแล้ว”นี่มันสี่โมงแล้วนะ ถ้าหกโมงเราคืนร่างเราจะโป๊นะพี่ฮีชอล!”
“เออว่ะ”ดูเหมือนแมวสีส้มก็เพิ่งตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ได้ ชิบหาย ถ้าพวกเขากลับร่างกลางถนน ผู้คนได้เป็นตากุ้งยิงแน่ ๆ แล้วตำรวจก็จะลากพวกเขาไปโทษฐานอนาจารอีกต่างหาก”หาบ้านเก่าเรา แล้วรีบมุดเข้าบ้าน”
“แล้วที่นี่มันที่ไหน”แจจุงมองไปรอบ ๆ ผู้คนมากมายขวักไขว่ ถ้าเดาจากเซ้นส์(ห่วย ๆ)ของเขา ที่นี่น่าจะเป็นมยองดง”เราหลงอยู่กลางมยองดงเลยนะฮะพี่”
“นั่นดิ่ ทำไงดีวะ”ฮีชอลเอาอุ้งตีนเกยหน้าผากด้วยความกลุ้มใจ แมวทั้งสองตัวนั่งพักข้างถนนก่อนเพราะเดินจนเหนื่อย แต่ไม่ทันจะได้พัก ก็มีเสียงอะไรบางอย่างที่ดูเป็นลางร้าย“เสียงไรวะแจจุง”
“เสียงหมาเห่า”แจจุงรีบตอบ ลางร้ายที่ว่า ..เสียงนั้นใกล้หูเข้ามามาก แมวทั้งสองตัวหันไปก็พบกับหมาไร้ปลอกคอ ตัวสีดำ ตัวใหญ่มาก น่าจะพันธุ์อะไรซักอย่างที่ขม้ำพวกเขาได้ในคำเดียว”พี่ฮีชอล”
“นับสองวิ่งนะเว้ย”แมวสีส้มกระซิบ”หนึ่ง...”
“แฮ่ ... โฮ่ง!!”หมาเวรในความคิดเขาสองคนเห่าอีกรอบ น้ำลายข้น ๆ ไหลจากปากลงแตะพื้น เขี้ยวขาวที่ท่าทางคมชิบหายส่องประกายล้อแสงแดดยามเย็น ถ้าแม่งวันนี้ชิ่งไม่ทันก็ตาย เขาอาจจะได้เป็นอาหารเที่ยงให้หมาบ้าตัวนั้น โอ้เย
“สอง วิ่งเว้ย!!!”
สองพี่น้องแมวโกยหนีทันที โดยที่พยายามตีคู่พร้อมกัน ดีที่สุนัขตัวนั้นตัวใหญ่พอสมควรถึงได้แหวกผู้คนเข้ามามากไม่ได้ ฮีชอลมองหาต้นไม้รอบ ๆ จนกระทั่งถึงบริเวณสวนสาธารณะ ต้นไม้ต้นใหญ่ตระหง่านอยู่ข้างหน้า ฮีชอลตะโกนเสียงดังบอกแจจุง
“แจจุง ต้นไม้ ปีนเว้ย!!”
ทักษะการเป็นแมว สองพี่น้องคงได้ฝึกเต็มที่วันนี้วันแรก สกิลสูงสุดเต็มร้อย ทั้งเทคนิคและการดำรงชีวิต ร่างเล็กทั้งสองเผ่นแผล็วขึ้นไปบนต้นไม้ทันเวลาพอดี เสียงเห่าของสุนัขบรรลัยตัวนั้นดังอยู่ข้างล่าง แจจุงยกมือขึ้นปาดเหงื่ออย่างโล่งใจ
“เกือบบรรลัยแล้ว”
“แม่งหมาบ้าอะไรวะ อยู่ดี ๆ วิ่งไล่”ฮีชอลเองก็เซ็งในอารมณ์เช่นกัน แมวตัวน้อยชะโงกหน้าลงมองถนนหนทางแล้วรู้สึกใจแป้วหนักกว่าเก่าเสียอีก ที่นี่กลายเป็นที่ไหนก็ไม่รู้ เพราะพวกเขาวิ่งกันลืมตายเลยทีเดียว คราวนี้อย่าว่ากลับบ้านตัวเองเลย จะกลับไปบ้านซีวอนกับยุนโฮก็ยาก”ทำไงดีวะแจจุง”
“จากใจ ไม่รู้”ถ้านอนผึ่งได้แจจุงทำไปแล้ว อยากจะกลับไปตากแอร์นอนดูทีวีอยู่ทีเดิมเหลือเกิน แต่มีบางสิ่งที่เรียกว่าทิฐิค้ำคอไว้ไม่ให้กลับไปหาบ้านของสองคนนั้น”หาที่สิงเถอะพี่ ไม่งั้นแย่”
“อื้อ”ฮีชอลพยักหน้า ทำท่าจะกระโดดลงไปบนพื้นดิน แต่พอมองความสูงของต้นไม้กับพื้นดิน ...สองเมตรได้ ชิบหายครั้งที่ยี่สิบแปดของวันจนได้”เฮ้ย แจจุง”
“อะไร?”
“บอกพี่ทีเราจะกระโดดลงไปยังไง?”
“เออว่ะ”แจจุงมองตามแล้วกลืนน้ำลาย รู้นะว่าแมวกลับตัวเป็น แต่เขาเป็นแค่คนในร่างแมว จะไปกลับตัว เรียนรู้เทคนิดในการดำรงชีวิตของแมวว่องไวขนาดนั้นได้อย่างไร ต้นไม้เวรนี่ก็สูงไม่ใช่เล่น ทีนี้โลกก็จะได้เห็นแมวที่ตกต้นไม้ตายเป็นตัวแรกก็ได้ ไม่แน่ อาจจะออกข่าว แต่หลังจากนั้นเขาคงคอหักตายไปเรียบร้อย”ทำไงดีอ่ะ?”
“จากใจ พี่ก็ไม่รู้”ฮีชอลตอบกลับมาด้วยคำเดียวกัน แมวขนฟูต่างสีสองตัวยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บนต้นไม้สูง ท่าทางความช่วยเหลืออาจจะไม่มีวันมาถึง ..
ยกเว้นพวกเขาจะคิดผิด
ก่อนที่แจจุงกับฮีชอลจะทำโศกนาฏกรรมแมวตกต้นไม้ได้ ร่างของใครบางคนที่คุ้นตาก็มายืนเงยหน้าดูพวกเขาคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ แมวทั้งสองตัวชะงัก ไม่รู้จะพูดว่าอะไรเมื่อเห็นนัยน์ตาเรียบเย็นมายืนดูอยู่แบบนั้น ใบหน้าหวาน ริมฝีปากที่เชิดขึ้นน้อย ๆ สีชมพูเรื่อ รูปร่างค่อนไปทางอวบนั่นทำให้ฮีชอลร้องขึ้นมาเสียงแผ่ว
“คุณซองมิน?”
“ใช่ฮะ ผมซองมิน”เหมือนจะฟังรู้เรื่อง ไม่ใช่ตีความไปเองแบบซีวอนเสียด้วย แจจุงกับฮีชอลมองหน้ากันด้วยความสับสน เคยเจอซองมินมาแล้วในตอนที่ไปเที่ยวคราวนั้น แทบไม่ได้คุยกัน คุยแต่กับบรรดาหมาแมวของเจ้าตัว”อยากลงมามั้ยฮะ?”
“อื้อ”ฮีชอลพยักหน้าแล้วตั้งท่าจะกระโดดลงไป ซองมินเอียงคอมองแล้วยิ้มอ่อน
“กระโดดลงมาฮะ เดี๋ยวผมรอรับ”ร่างเล็กกางแขนรอ ฮีชอลกระโดดลงไปพอดีจึงไม่เจ็บอะไร ซองมินปล่อยแมวขนฟูสีส้มลงกับพื้น แล้วหันมาจัดการอีกตัวหนึ่งต่อ พอลงมาหมดแล้วร่างเล็กก็ลงนั่งยอง ๆ เพื่อสนทนากับแมวให้รู้เรื่องขึ้น นัยน์ตาใสสีดำมองหน้าแมวหลงถิ่นทั้งสองอย่างสงสัย
“พวกคุณหนีออกจากบ้านเหรอฮะ?”
“ไม่มีที่อยู่น่ะ ก็ไม่เชิงแบบนั้น เราหลงทางด้วยแหล่ะ”แจจุงรีบแย้ง ถ้าเกิดว่าซองมินเอาไปฟ้องยุนโฮก็แย่ล่ะสิ พวกเขาโดนเอากลับแน่ ๆ ร่างบางผงกหัวเหมือนกับเข้าใจ
“ถ้าแบบนั้นไปนอนบ้านผมก่อนมั้ยฮะ?”
“เอ่อ...”ฮีชอลก็ไม่รู้จะพูดยังไง เคยเจอกันครั้งเดียวก็โดนให้ความช่วยเหลือเสียใหญ่หลวง เขาก็เกรงใจเป็นเหมือนกันนะ ซองมินท่าทางจะเข้าใจ ร่างบางรวบตัวแมวขนฟูทั้งสองเข้ามากอดแล้วลุกขึ้นยืน
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ มีอยู่ที่บ้านแล้วได้มาอีกตัวสองตัวไม่เป็นไรหรอก”คำพูดนั่นคนอาจจะมองแปลก ๆ เพราะเจ้าตัวเดินอยู่คนเดียว มีแมวสองตัวเป็นเพื่อน”เดี๋ยวเผื่อพวกคุณกลายร่างจะแย่เอา”
ข้อนี้แหล่ะที่ทำให้สองแมวศิโรราบโดยไร้ข้อโต้แย้ง ตอนนี้เริ่มเย็นมากแล้ว ห้าโมงแล้ว อีกหนึ่งชั่วโมงพวกเขาจะกลับร่างคน แล้วถ้าไม่มีที่ซุกหัวนอนคืนนี้ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนอีก ซองมินเดินฝ่าฝูงชนไปพักหนึ่งแล้วมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังเล็ก นิ้วเรียวเอื้อมไปแตะสัญลักษณ์แปลก ๆ ที่ตวัดคดเคี้ยวเหมือนอักขระอะไรซักอย่าง ประตูหน้าบ้านก็เปิดออกช้า ๆ ซองมินอุ้มแมวทั้งสองตัวที่ดูตื่นเต้นเข้าไป คราวนี้ถึงประตูหน้าบ้านที่ไม่มีแม้แต่ลูกบิดด้วยซ้ำ
เวร มีด้วยเว้ยเฮ้ยแบบนี้
แมวสองตัวก็ได้แต่คิดในใจ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาของซองมินเพราะเจ้าตัวดูไม่เดือดร้อนอะไรเลย ร่างบางปล่อยตัวแมวทั้งสองลงแล้วรวบขึ้นมาอุ้มด้วยมือเดียว มือข้างขวาแนบกับบานประตูสีขาวที่ไร้ลวดลายนั่น สิ่งที่เกิดขึ้นมาหลังจากนั้นคือร่างของคนแตะประตูสีขาวนั้นเลือนหายเข้าไปข้างใน ฮีชอลกับแจจุงอ้าปากค้าง
และรับรู้ได้ว่าซองมินคนนี้ กับพวกหมาแมวที่เหลือคงจะไม่ธรรมดา
“กลับมาซะที~~ ผมหิวจะแย่แล้ว”เสียงแรกที่ได้ยินหลังจากเข้าไปข้างในคือเสียงของหมาพันธ์มอลทีสชื่อชางมิน แต่คราวนี้กลับเป็นร่างคนเต็มตัววิ่งมาหา แต่เมื่อสบตาเข้ากับแมวสีขาวหน้าคุ้น ๆ ก็ร้องขึ้นมาอีก”แจจุง!?!”
“เออสิวะ!”แจจุงขู่ฟ่อตอบกลับไป ฮีชอลมองไปรอบ ๆ ที่นี่ไม่เหมือนกับที่เขาเห็นข้างนอก เหมือนพวกบ้านไฮโซ เพดานสูงปรี๊ด ข้าวของดูมีราคา ดูภายนอกก็แค่บ้านเล็ก ๆ หนึ่งหลัง แต่นี่ ... ห้องรับแขกจะได้เท่าห้องนอนสามห้องบ้านเขาอยู่แล้ว !
“ไปเก็บมาจากไหนน่ะ”เสียงนุ่มคุ้น ๆ ฮีชอลหันไปมองแล้วก็เจอกับคยูฮยอนที่เพิ่งกดหยุดเกมในจอไว้ ซองมินยักไหล่แล้วปล่อยแมวลงบนพื้นร่างสูงในชุดสีดำสนิทยิ้มน้อย ๆ แล้วดีดนิ้วหนึ่งที ร่างแมวของฮีชอลก็ถูกดึงดูดเข้ามาใกล้ ร่างบางหรี่ตาอย่างไม่ชอบใจ ก่อนที่จะได้โวยวายอะไร ... ร่างของเขาก็กลายเป็นคนพร้อมกับเสื้อผ้าครบชุด ฮีชอลสะบัดหน้าไปมองนาฬิกา ความตกใจแล่นวาบเข้าสู่ร่างกายจนให้ความรู้สึกเหมือนโดนฟ้าช็อต
ตัวเลขที่นาฬิกานั่นบอกเวลา 17:13 อีกนานจนกว่าเขาจะกลับเป็นคน แล้วปกติ ถ้าเขากลับร่างเดิมจะไม่มีเสื้อผ้าติดตัวยกเว้นปลอกคอ
“สงสัยล่ะสิ?”คยูฮยอนยิ้มพรายแล้วคว้าพีเอสพีขึ้นมา
“เฮ้ยยยย!!?!?!?!”เสียงของแจจุงที่ดังมาจากอีกฟากก็บอกเช่นกันว่าน้องชายของเขาก็ตกใจไม่แพ้กัน ร่างบางกลืนน้ำลาย รู้สึกเหมือนกับหัวหมุนอย่างไรชอบกลอยู่ เขาคิดไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เสียงหวานกระซิบแผ่วออกมาจากลำคอเป็นคำถามที่ติดค้างอยู่ในใจ
“นายเป็นใคร?”
“เป็นใคร”คยูฮยอนขยับเข้ามาใกล้จนร่างกายติดกัน ฮีชอลขยับจะหนีบ้าง แต่หลังก็ติดพนักโซฟาจนขยับไปไหนไม่ได้ นัยน์ตาสวยจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกประหวั่นในใจ”ก็เป็นคนที่สาปคุณให้เป็นแมวยังไงล่ะ”
กว่าจะกินข้าว เดินช้อปปิ้งตามใจสองคนสวยนั่นเสร็จก็ตกเวลาโคตรเย็นไปเสียแล้ว ซีวอนเองก็ต้องเดินตามยุนอาเพื่อถือถุงให้โดยที่ในใจก็อดรำคาญไม่ได้ ทิฟฟานี่ยังดีที่ไม่ซื้ออะไรมาก ถุงที่ยุนโฮถือเลยมีอยู่สามสี่ใบ ตรงข้ามกับซีวอนที่ถือไปแล้วประมาณข้างละร้อยเก้าสิบใบไปแล้ว
“แป๊บนึงนะคะ”หลายแป๊บแล้วกับยุนอา ร่างบางดึงมือทิฟฟานี่เข้าไปในร้านรองเท้าแล้วก็เริ่มเลือกดูอีกครั้ง เป็นโอกาสให้ซีวอนวางถุงที่หนักเสียเกินกับพื้นโลกเสียบ้าง ยุนโฮวางถุงในมือลงบ้าง แต่ก็ไม่ได้หนักใจอะไรมากมาย แต่พอหันเห็นสีหน้าเหนื่อย ๆ ของซีวอนก็อดขำออกมาไม่ได้ อุ้งตีนหมีตบปุ ๆ ลงไปบนไหล่
“ก็งี้ล่ะมึง ทำเพื่อสาวก็เหนื่อยกันหน่อย”
“เออเด่ะ มึงมาแบกมั่งมั้ยล่ะ มึงมีอยู่สี่ใบ ใส่อะไร ใส่อาหาร”จริง ทิฟฟานี่ซื้อแต่ขนม ส่วนยุนอาน่ะมีแต่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ครบสูตร”กูแม่งแบกตู้เสื้อผ้าทั้งใบ”
“สมน้ำหน้า”ยุนโฮชมเข้าให้ นัยน์ตาคมเลื่อนดูนาฬิกาข้อมืออีกรอบเหมือนคนห่วงอะไรมากมาย”มึง ดึกแล้วว่ะ”
“มึงห่วงแจจุง?”ซีวอนรีบดัก พอเห็นเพื่อนอ้าปากจะปฏิเสธก็รีบดักต่อไป”ถ้ามึงพูดว่าห่วงฮีชอลมีเตะ”
“เหี้ยเอ๊ย”ยุนโฮพูดไม่ได้เลยได้แต่สบถออกมาอย่างหยาบคาย”จะสองทุ่มแล้วนะเว้ย”
“เออน่ะ เดี๋ยวกลับไปสองคนนั้นก็โวยวายนิดหน่อย”ซีวอนมองโลกในแง่ดี แต่นักเขียนนิยายแบบยุนโฮ พลิกสถานการณ์มาก็เยอะ นั่งคิดอะไรหักมุมมาก็เยอะ ก็ได้แต่เครียด
“มันจะไม่แค่นั้นล่ะสิมึงเอ๊ย”
“น่ารักมั้ยคะพี่ซีวอน?”ยุนอาที่โผล่มาจากข้างหลังชูรองเท้าส้นสูงปรี๊ดสีแดงให้ซีวอนดู ร่างสูงยิ้มรับแล้วพยักหน้าส่ง ๆ ไม่รู้หรอกคำว่าน่ารักสำหรับรองเท้าแบบนี้มันใช้เกณฑ์อะไรวัด”หรือคู่นี้ดี?”อีกคู่เป็นรองเท้าส้นเตี้ยสีฟ้า ซีวอนก็ยังคงมองไม่เห็นอยู่ดีว่าสองอันนี้มันแตกต่างกันตรงไหนนอกจากสีแดงกับสีฟ้า
“ก็..สีฟ้าดีกว่าครับ”เขายังไม่อยากยุนอาตกส้นสูงคอหัก
“แต่สีแดงน่ารักนะคะ”อ้าว แม่คุณ จะถามทำไมเนี่ย แต่ซีวอนยังถนัดเก็บความรู้สึกอยู่ เลยได้แต่พยักหน้ายิ้ม ๆ ไป ยุนโฮหันไปอีกด้านเหมือนกับมองรอบ ๆ ร้าน แต่จริง ๆ ไอ้เพื่อนทรพีมันกำลังขำเขาอยู่ต่างหาก
ถุงอีกถุงถูกเติมเข้ามาในมือของเขา ซีวอนรวบรวมพลังแบกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็เป็นอีกทีที่เขาอดมองนาฬิกาไม่ได้ว่านี่มันกี่โมงแล้ว ไม่ใช่ว่ากลับไปสองคนสวยนั่นจะอาละวาดเสียบ้านเละ หรือไม่ก็วางยาถ่ายเขาเหมือนที่เคยทำกับยุนโฮนะ
...ใบหน้าสวย ๆ ของแมวขี้งอนที่รออยู่ที่บ้านผุดขึ้นมาในใจ ร่างสูงอดยิ้มออกมาไม่ได้ ท่าทางงอน ๆ นั่นเจ้าตัวไม่รู้หรือไงนะว่ามันเด่นชัดขนาดไหน กลับไปอาจจะต้องเปลืองแรงง้อซักหน่อยก็ได้ ยุนโฮ ซีวอน ยุนอา ทิฟฟานี่ค่อย ๆ ทยอยเดินออกไปเรื่อย ๆ สองสาวชวนเดินได้อีกซักพักซีวอนก็เป็นคนตัดบทขึ้นเอง
“พี่ว่านี่มันก็ดึกแล้วนะครับ ยุนอากับทิฟฟานี่กลับบ้านดีมั้ย เดี๋ยวคุณพ่อเป็นห่วง”
“ก็ดีค่ะ ทิฟอยากกลับไปกินไอ้ที่ซื้อมา”ร่างบางที่ค่อนไปทางอวบรีบสนอง เธออยากกลับไปกินขนมจะแย่อยู่แล้ว แต่ยุนอากลับมีสีหน้าเหมือนกับไม่อยากจะกลับบ้าน ร่างบางอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แต่นี่มันก็สามทุ่มแล้ว ถ้าเธอยังชวนอยู่ต่อมันอาจจะน่าเกลียดไปหน่อย ซีวอนถอนหายใจอย่างโล่งอก
“งั้นเดี๋ยวพี่เดินไปส่งก็แล้วกัน”ร่างสูงรีบตัดบทเพราะแขนล้าเต็มที หญิงสาวเดินนำไปที่รถที่พวกเธอเอามา และเปิดกระโปรงรถให้ซีวอนจัดการยัดของเข้าไปจนหมด ยุนโฮแค่ยื่นให้ทิฟฟานี่ก็เพียงพอเพราะเจ้าตัวเล่นโยนใส่เบาะหลังแล้วคุ้ยขนมขึ้นมาหนึ่งถุงในทันที
“งั้นกลับแล้วนะคะ”ทิฟฟานี่โค้งหัวให้ยุนโฮ และหันมาโค้งลาซีวอนด้วยเช่นกัน ยุนอาเองก็ลายุนโฮก่อนแล้วค่อยหันมาหาซีวอน
“หวังว่าโอกาสหน้าจะได้ออกมาด้วยกันอีกนะคะพี่ซีวอน”คำพูดส่อความหมายนั่นเป็นใครใครก็รู้ และซีวอนก็ไม่ใช่ยุนโฮ เจ้าตัวก็ยังรู้เรื่องดีอยู่
“พี่ก็หวังแบบนั้นครับ”ก็แค่หวังนะยุนอา อย่าเพิ่งคิดมาก ร่างสูงยังคงยิ้ม จนกระทั่งสองสาวขับรถออกไปแล้วถึงได้ถอนหายใจ ยุนโฮตบหลังอย่างเห็นใจ
“รอดแล้วมึง”
“เออ”ซีวอนโล่งใจขึ้นเยอะ
“ยุนอาน่ารักออก”ยุนโฮพยายามให้กำลังใจซีวอน”ก็เหมาะดี มึงจะได้มีแฟนบ้าง”
“ไม่รู้ว่ะ น่ารักก็น่ารัก แต่มันไม่ใช่ว่ะ”แน่นอนว่าซีวอนหล่อเลือกได้ ร่างสูงส่ายหัวแล้วเดินมาที่รถตัวเองที่ใช้ขับมา ยุนโฮเดินเข้าที่นั่งคนขับ ซีวอนเองก็เข้าที่นั่งข้าง ๆ ก่อนที่จะได้นั่ง ทั้งสองคนก็หยุดนิ่ง
และนึกถึงสิ่งเดียวกัน ...
แมวสองตัวที่ชอบนั่งอยู่หลังรถ
“มึงว่าสองคนนั้นระเบิดบ้านยังวะ?”ยุนโฮถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ซีวอนยักไหล่
“ไม่แน่ว่ะ ถ้าเมื่อก่อนกูอาจจะพูดว่าแจจุงทำคนเดียว แต่ตอนนี้ฮีชอลคงจะร่วมมือด้วย พักนี้แสบไม่ใช่เล่นแล้ว”
ทั้งสองคนก็ขับรถกลับบ้านได้เสียทีหลังปล่อยแมวไว้ที่บ้านตามลำพังสองสามชั่วโมง อดคิดไม่ได้ว่าจะโดนอะไรบ้างตอนที่กลับไป แต่สิ่งที่เขาคาดว่าจะเห็นคงไม่ใช่สิ่งนี้แน่ ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว ไฟในบ้านควรจะเปิด น่าจะมีเสียงทีวีเอะอะดูละครน้ำเน่าที่แจจุงชอบดู แต่บ้านเงียบสนิท ไฟก็ไม่เปิด ไม่มีสัญญาณใด ๆ ว่ามีใครอยู่ในบ้าน ยุนโฮจัดการจอดรถแล้วเดินออกมาดูด้วยหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะแปลก ๆ
พวกเขาสองคนกำลังกลัว
“มึง กุญแจ”ร่างสูงของหมีที่ถูกใครบางคนประนามไว้ว่าเหมือนหมีป่าพูดดังเพียงกระซิบแล้วรับกุญแจบ้านมาไขเข้าไป บ้านมีสภาพเรียบร้อยแต่ ไม่เหมือนที่ที่ถูกระเบิดตกใส่อย่างที่คิดไว้ว่าจะเกิด แต่ไม่มีร่างของแมวสองตัวหรือคนสองคนที่ตั้งใจว่าจะต้องเห็น ซีวอนที่เดินตามเข้ามาก็เงียบ ทั้งสองคนกำลังรู้สึกเครียดในสิ่งเดียวกัน
“มึง”เจ้าของแมวสีส้มเดินไปหยิบอะไรบางอย่างที่วางทิ้งไว้บนเก้าอี้ให้ดู เสื้อผ้าของฮีชอลกับแจจุงที่เจ้าตัวจะเตรียมไว้เสมอถูกพับไว้ที่เดิม ไม่มีร่องรอยการใช้งาน เหมือนทั้งสองคนนั้นไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำ”แล้วสองคนนั้น....”
“แจจุง!!!”ยุนโฮไปแล้ว สติแตกก่อนซีวอนเสียอีก ร่างสูงรีบเดินวนรอบบ้านพลางตะโกนชื่ออีกฝ่ายไปด้วย ในใจร้อนรนที่ไม่เห็นใบหน้าสวย ๆ ที่มักจะถมึงทึงเสมอเมื่อเห็นหน้าเขา ซีวอนก็ลองเดินหาดูบ้าง แต่ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่เจอ
“มึง ...ไม่เจอว่ะ”สุดท้ายสองหนุ่มก็มานั่งกองกันอยู่ที่โซฟา ซีวอนพูดขึ้นเบา ๆ แล้วยกมือขึ้นกุมขมับ ยุนโฮเองก็เงียบไปเหมือนกัน
“กูว่า ... สองคนนั้นงอนจนหนีไปแล้วแหง”ยุนโฮพูดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เขาคิดไว้ แต่ก็พยายามเอามันออกไปเพราะกลัวจะเกิดขึ้นจริง ม้ากับหมีนั่งเงียบอยู่ที่เดิม
แล้วจะไปตามหากันที่ไหนวะ ?
+++++++++++++++++++++++
สารภาพว่าไรท์เตอร์ถนัดแนวหลอนมากกว่า ฮ่า ~
วันอาทิตย์นี้จะไปยืนทำหน้าหลอนที่งานฟิค คิ =w= เช่น ถ้าใครขอให้เซ็นจะเอาปากกาแทงทีนึง (เพื่อ?)
กลับมาแล้ว หลังจากที่มีใครหลายคนบ่นอยากกินหมีกระทะบ้าง ม้ากระทะบ้าง
เราจะมอบให้ โอ้เย
และแล้วแมวก็ออกจากบ้านไป ..เจอใคร เจอคนสาปตัวเอง ฮิฮิ้ว
เรื่องป๋า ตอนนี้ก็ได้แต่คำว่าเชื่อ
ไม่รู้จะพูดยังไง รู้แต่ว่าเราจะจับมือเดินไปด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งกันนะ เอลฟ์
เลขสิบสามสวยงามเสมอ
ยอมรับว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ก็ไม่อยากจะคาดหวัง ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็จะยอมรับให้ได้ ... เฮ้อ
+++++++++++++++
หลายคนสงสัยว่าทำไมชางมิน คยูถึงไม่เป็นคนซะ (อันที่จริงต้องบวกคิบอมเข้าไปด้วย)
คือแบบ...เหตุผลของคนประหลาด ๆ แบบนั้นคือเค้าพอใจไง รำคาญสาว ๆ ที่มาเกาะแกะก็เป็นแมวแม่งมันซะเลย มีพลังก็หัดใช้ ไรแบบนั้น 55
เมนูใหม่ของวันนี้
หมีกระทะกับม้าจิ้มจุ่ม เชิญตามสบายเลย กร๊ากกกกก
แล้วจะรู้ ..ว่าตอนหน้า หมีกับม้าหึงเป็นยังไง คิคิคิคิ
อยากไปรับสาว ๆ นักคณิตที่สนามบิน แต่อด วิคตอเรีย เมื่อไหร่เราจะได้เจอกัน TT
ฟิคที่สั่ง ๆ ไปมาถึงบ้านละ พร้อมแบกไปขาย คิ
ความคิดเห็น