คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : {part 10} Forget
10
Forget
หายใจไม่ออก อึดอัดขึ้นมาทันทีที่เห็นตัวหนังสือสีทองนั่น ทงเฮลูบมันอย่างแผ่วเบา น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมา เขาไม่รู้ ไม่รู้เลยว่าทำไมต้องร้องไห้ แต่เพียงแค่เห็น...เขาก็เจ็บปวด เจ็บปวดเหมือนกับสูญเสียอะไรบางอย่างไป เสียงหัวเราะของใครบางคนดังอยู่ข้างหู นัยน์ตาที่สดใสตรึงอยู่ในมโนภาพ ทงเฮยกมือขึ้นกุมหัว หลับตาลงหวังจะลบความว่างเปล่าในหัวออกไป
...อยากจำได้ อยากรู้ว่าเธอคนนั้นคือใคร...
“..ทงเฮ”เสียงแผ่วเบาที่ดูเหมือนไม่แน่ใจดังขึ้นเหนือหัว ทงเฮปาดน้ำตาออกและเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่จะโผนตัวขึ้นเข้ากอดคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น อยากได้ที่พักพิง อยากได้ใครซักคนระบายจริง ๆ”เป็นอะไร...”
ร่างบางสั่นหัว แต่ก็ยังคงร้องไห้อยู่ คิบอมเอื้อมมือขึ้นลูบหลังเบา ๆ อย่างไม่แน่ใจ เขาแทบไม่ได้กอดกับใคร..จนมาเจอทงเฮเนี่ยแหล่ะ แม้แต่อดีตคนรักยังแทบไม่เคยกอดด้วยซ้ำ คำถามที่เขาเพิ่งตั้งไปเมื่อครู่ก็วนเข้ากลับมาในใจอีกครั้ง...
...จะผิดไหมถ้าหากจะเริ่มความรู้สึกดี ๆ ใหม่เร็วขนาดนี้...
ผมขอโทษครับ
คำขอโทษในใจได้แต่หวังว่ามันจะถูกส่งขึ้นไปหาเธอคนนั้น คิบอมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ความอบอุ่นจากร่างในอ้อมกอดทำให้รู้สึกดี...ริมฝีปากจรดลงที่ขมับของทงเฮอย่างไม่ตั้งใจ ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไป...
...หลายสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลง
ความรู้สึกของคิบอม...และความทรงจำของทงเฮ
คยูฮยอนวางกระดาษในมือลงบนโต๊ะ กลับมาที่บ้านของซองมินแต่ไม่เจอเจ้าตัว เจอแต่แม่ของคนตัวเล็กมาเปิดประตูให้แล้วบอกว่าซองมินนอนอยู่ข้างบน คยูฮยอนมองไปที่บันได ชั่งน้ำหนักทั้งสองข้างในใจว่าจะเดินขึ้นไป...หรือว่าอยู่ข้างล่างเงียบ ๆ ดี
ไม่อยากขึ้นไปกวนใจให้อีกฝ่ายโวยวายอีก แต่ก็คิดถึง
แต่เวลาก็ไม่ได้ปล่อยให้คยูฮยอนได้มีโอกาสตัดสินใจ เสียงฝีเท้าดังขึ้นเหนือหัวก่อนที่ร่างของซองมินจะยืนอยู่ตรงหัวมุม ร่างเล็กอ้าปากหาวก่อนที่จะชะงักกึกเมื่อเห็นใครบางคนอยู่ข้างล่าง คยูฮยอนยิ้มให้บาง ๆ และกลบเกลื่อนสีหน้าเศร้า ๆ ของตัวเองให้มิด กลับมาเป็นไอ้เด็กกวนตีนคนเดิม
“กลับมาทำไมเนี่ย !!!”
“ผมไม่ย้ายถาวรหรอกน่า..ในเมื่อผมตกเป็นของพี่แล้ว”คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้ร่างบางหน้าแดง เพราะเขินหรือเพราะโกรธไม่รู้แต่เจ้าตัวรีบตีเอาเสียว่าโกรธ ร่างบางเดินกระแทกลงมาหยุดหน้าร่างสูง รอยยิ้มที่คุ้นเคยทำให้หัวใจไหวไปวูบหนึ่ง”พี่ต้องรับผิดชอบผมด้วยนะครับ”
“รับผิดชอบด้วยการขับไล่ไสส่งน่ะสิ เห็นหน้านายแล้วอาหารไม่ย่อย อุตส่าห์ตื่นเช้าอย่างมีความสุขแท้ ๆ”ซองมินร่ายยาว ถึงแม้เนื้อความจะโกหกไปมากกว่าครึ่ง ตื่นเช้าก็หนึ่ง เพราะตอนนี้มันเที่ยงแล้ว และไอ้ที่มีความสุขน่ะจริง...เพพราะจำได้ว่าคยูฮยอนจะกลับมาวันนี้ คยูฮยอนมองนาฬิกาแล้วหัวเราะน้อย ๆ
“ตะวันตรงหัวพี่แล้วเนี่ย ไปอาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวแม่ว่า”
“ใครแม่นาย!”
“คุณแม่ภรรยาก็ต้องทำความรู้จักไว้ก่อนสิครับ”
ซองมินหน้าแดง ริมฝีปากกระตุกน้อย ๆ ดูเหมือนจะโกรธแต่จริง ๆ เจ้าตัวกลั้นยิ้มไว้ เมื่อวานเขาอารมณ์เสียไปทั้งวันเพราะไม่เห็นคนเดิม ๆ มาตามกวนใจ แต่วันนี้กลับอารมณ์ดีขึ้นได้...
เพราะเคยชินมากกว่า ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก
ร่างบางกระทืบเท้าจากไปอย่างหงุดหงิด คนตัวสูงกว่าก็มองตามไป สีหน้าจากที่เคยยิ้มกวน ๆ กลายเป็นนิ่งลงอย่างรวดเร็ว ซองมินไม่เคยสังเกตหรอกว่าสิ่งที่พูดแต่ละครั้ง...ก็ทำให้เขาคิดมากได้เหมือนกัน
คำว่าเกลียด ไม่อยากเห็นหน้าทั้งหลายนั่น
น้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับเขาที่ฟังคำพวกนี้มามากกว่าห้าหกปีแล้วจะไม่รู้สึกอะไร บางทีก็น้อยใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อซองมินก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย
“ทำหน้าเหมือนอยากตาย”เสียงจากอีกฝั่งประชดกลับมา คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นไปแล้วก็พบว่ามีอะไรบางอย่างลอยละลิ่วมากระแทกหน้าพอดี ร่างสูงหยิบสิ่งที่ตกลงพื้นขึ้นมาและมองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ”นั่นเจอมาเมื่อวาน มันแจกฟรีเลยเอามาให้ ไม่ชอบกิน”
ของแจกฟรีที่ว่าคือขนมหน้าตาประหลาด ๆ ที่เขาเองก็ไม่เคยเห็น คยูฮยอนเลิกคิ้วแล้วพลิกกลับไปกลับมาอย่างอยากรู้ว่ามันคืออะไร
“อย่าคิดนะว่าห่วง แค่ทำบุญ!!”
เสียงสำทับยังลอยมาอีก คยูฮยอนยิ้มบาง อดดีใจนิด ๆ ไม่ได้ ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปช้า ๆ จนถึงขั้นที่ต่ำกว่าซองมินอยู่นิดหน่อย คำถามที่อยากถามก็ถูกส่งออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้จนได้
“พี่เกลียดผมขนาดนั้นเลยเหรอ...”
“หือ?”
เหมือนเวลาจะหยุดนิ่ง ซองมินเองก็ไม่อาจตอบคำถามนั้นได้ นัยน์ตาสวยสบตรงเข้ากับคนที่วันนี้ดูแปลกไปในหลายอย่าง ร่างสูงมีสีหน้าที่เว้าวอนขอคำตอบ แต่เขาก็ไม่อาจตอบได้
เกลียดเหรอ...
ไม่ได้เกลียดมากมายถึงขนาดนั้น ไม่เคยรำคาญเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่พูดออกไปมันก็แค่หน้ากากบังหน้า..ไม่อยากให้คยูฮยอนได้ใจแกล้งเขาต่อไปเรื่อย ๆ ตลอดหลายปีที่รู้จักกันมาเขาก็เป็นเพียงฝ่ายเดียวที่พูดว่าเกลียด คยูฮยอนได้แต่ยิ้มรับตลอดเวลาจนเขาเคยชิน...
เคยชินที่จะมีคำว่าเกลียดจากฝ่ายเขา
เคยชินที่จะมีคน ๆ นี้อยู่ข้างกายเสมอ
และไม่รู้ทำไม...ถึงจะขัดแย้งกับความรู้สึกแค่ไหน เขาก็ยังพูดมันออกไป
“อื้อ...มากเลยล่ะ”
นัยน์ตาสีเข้มวูบไหว ซองมินอดใจหายไม่ได้ ไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้มาก่อน รู้สึกแปลก ๆ ...อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่ แต่เขาก็พูดไม่ออก คยูฮยอนยิ้มบางและก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ระยะห่างที่เกิดขึ้นจากคำถามงี่เง่าหนึ่งคำถามเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ...จนซองมินรู้สึกได้ว่าทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป
“งั้นพี่ก็สบายใจได้เลย”
หมายความว่ายังไง...
ซองมินตั้งคำถามในใจ แตก็ไม่ได้รับคำตอบ คยูฮยอนหันหลังให้และเดินหายไป ทิ้งให้คนสับสนกับชีวิตยืนคิดอยู่ตรงนั้นว่าทุกอย่างมันคืออะไร...
และทำไมถึงรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้
“เงียบไปเลยล่ะสิ”
ซองมินหันขวับไปมองต้นเสียง เห็นแต่แม่ตัวเองยืดกอดอกมองอยู่ สีหน้ารู้ทันนั่นทำให้ซองมินรู้สึกแปลก ๆ แม่ของซองมินเดินเข้ามาใกล้และแตะมือลงที่ไหล่ลูกชายเบา ๆ
“แม่รู้นะว่าเราไม่ได้เกลียดน้องเค้ามากขนาดนั้น”
เงียบ
ซองมินไม่กล้าตอบอะไร ยิ่งกับแม่ตัวเองยิ่งทำให้สับสน ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ตัวเองมีมันคืออะไรกันแน่ คุณนายอียิ้มอ่อน ลูกชายจอมปากแข็งที่ปากประกาศปาว ๆ มาตั้งแต่เด็กว่าเกลียดโจคยูฮยอนเข้าไส้ แต่อันที่จริง..ถ้าเกลียดขนาดนั้นคงเลิกคบกันไปตั้งแต่สามปีแรกแล้วมั้ง
“ก่อนตอบน่ะคิดดี ๆ นะลูก ตอนเด็ก ๆ คยูฮยอนก็อยู่กับลูกมาตลอด แทบจะเหมือนน้องชายอีกคนด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าเขาทนลูกไม่ไหวขึ้นมาแล้วหายหัวไปล่ะ ลูกจะมีโอกาสได้โวยวายกับใครอีก”
..นั่นสิ
“ง้อเขาหน่อยก็ได้นะ”คุณแม่เสนอทางเลือกที่ดูดีที่สุดให้ลูกชาย ซองมินมองหน้าแม่ตัวเอง ริมฝีปากเม้มอย่างไม่แน่ใจ ก่อนที่จะพยักหน้าช้า ๆ เป็นเชิงจะลองคิดดู ก่อนที่จะหลบฉากไปอีกทาง ปล่อยให้ผู้มีประสบการณ์ยืนส่ายหัวอยู่คนเดียว
วัยรุ่นสมัยนี้เข้าใจยากจังน้า...
บรรยากาศอาหารเย็นตอนนี้ดูเงียบผิดปกติ เมื่อลูกชายคนเล็กที่เคยพูดมากกลับนั่งเป่าสากเป่าครกอยู่เงียบ ๆ จนพ่อกับแม่ชำเลืองดูบ่อย ๆ อย่างสงสัยว่าเกิดอะไรกับฮยอกแจ ส่วนเจ้าตัวต้นเหตุที่ทำให้น้องชายต้องเป่าสากก็นั่งเงียบอยู่อีกมุมหนึ่ง ฮันกยองเหลือบตามองเงียบ ๆ แล้วก็นั่งจิ้มอาหารต่อไป
“ฮยอกแจเป็นอะไรเหรอลูก...”จีอาถามขึ้นก่อน ฮยอกแจเงยหน้าจากจานขึ้นมาแต่ดันมองขามไปสบตากับพี่ชายตัวดีเลยต้องก้มหน้าลงอีกครั้ง ปากก็ตอบเสียงอุบอิบ
“ปวดหัวนิดหน่อยฮะ...”
“แม่ทิ้งไปวันเดียวพาน้องปวดหัวเลย..ฮันกยอง ดูแลน้องยังไงเนี่ย?”
“อ้าว”ฮันกยองทำอะไรไม่ได้นอกจากจะอ้าวอย่างเดียว ฮยอกแจไม่ได้เป็นอะไรหรอก ที่เจ้าตัวเงียบแบบนี้เพราะดันละเมอนอนกอดเขาทั้งคืนแล้วตื่นมาพบว่าตัวเองดิ้น ๆ จนเสื้อหลุด ต่อมเขินเลยแตกซ่านแผ่ข้ามวันยันเย็นแบบนี้ต่างหาก พ่อของฮันกยองมองยิ้ม ๆ แล้วถามลูกชายคนโตอีกรอบ
“งั้นคืนนี้เช็ดตัวให้น้องได้มั้ย อาจจะเป็นไข้ก็ได้”
“ได้ครับ/ไม่ต้องฮะ!!”สองเสียงตอบแทบจะพร้อมกัน ฮยอกแจหน้าแดงจัด เมื่อก่อนไม่ได้เขินขนาดนี้..แต่ทำไม พอผ่านวันเวลามาเรื่อย ๆ เขากลับเป็นแบบนี้ได้มากขึ้นนะ ฮันกยองเลิกคิ้วพลางมองตรงมาที่คนเป็นไข้”ผม..เอ่อ..นอนพักนิดหน่อยก็หายแล้วฮะ”
“ดีไป”ฮันกยองบอกลอย ๆ พลางยิ้มแบบแอบแฝงนัยไปให้ฮยอกแจ ร่างบางค้อนใส่แล้วรวบช้อน ฮยอกแจทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก ร่างบางหันไปบอกแม่ตัวเองเป็นเสียงทำนองสงสัย
“วันนี้มีคนโทรมาที่บ้านด้วยล่ะฮะ เค้าขอสายแม่แต่แม่ยังไม่กลับ”
“ใครเหรอลูก?”พ่อของฮันกยองเป็นฝ่ายถามแทนว่าใคร ฮันกยองมองตรงไปที่สีหน้าแม่เลี้ยงและพบว่ามันซีดเผือดอย่างไรชอบกล ฮยอกแจทำท่านึกอีกครั้ง
“เป็นผู้ชายฮะ...อะไรมิน ๆ ซักอย่างเนี่ยแหล่ะ”
“มินซุงรึเปล่า?”จีอารีบถามขึ้นมา เรียกให้อีจอนอิลผู้เป็นสามีต้องทำสีหน้าแปลก ๆ กับกิริยาที่แปลกไป ฮยอกแจพยักหน้าหงึก ๆ
“อ่ะฮะ...แม่โทรกลับหาเค้าไปสิ ดูเค้ารีบ ๆ”
“อื้อ”รอยยิ้มวาดขึ้นบนริมฝีปากของคุณแม่ที่ดูยังสาวอยู่ รอยยิ้มนั่นกระชากวัยให้ดูอ่อนลงไปเยอะ”เพื่อนเก่าแม่สมัยประถมน่ะ ยังติดต่อกันอยู่แต่อยู่ ๆ ก็หายไปประมาณปีก่อน”เธอรีบเสริมเมื่อเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของฮันกยองกับจอนอิล
จอนอิลพยักหน้ารับช้า ๆ ...แต่ฮันกยองเองก็อดสะกิดใจไม่ได้ ร่างสูงปัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวแล้วเดินไปเก็บจาน วางเสร็จก็เดินมาหาน้องชายที่ยืนอยู่หน้าตู้เย็นเพื่อหาขนมกินต่อ ร่างสูงจับบ่าฮยอกแจไว้มั่นแล้วก้มลงกระซิบที่ริมหู
“คืนนี้นอนด้วยกันอีกได้มั้ย”
ฮยอกแจนิ่งไป ตัวแข็งทื่อ เลือดลมในตัวเริ่มเดินสะดวกเหมือนกินยาบำรุง ไม่กล้าพยักหน้าตามใจตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าส่ายหน้าเช่นกัน ฮันกยองยิ้มบางและเพิ่มแรงจากการเกยไหล่เป็นกอดกระชับร่างเล็กไว้ในวงแขน ฮยอกแจก็ยิ่งหายใจไม่ออกมากกว่าเดิม
“นอนกับฮยอกแจอุ่นดี”ข้ออ้างที่เขาหยิบมาใช้ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากมาย วันนี้แค่นึกครึ้มขึ้นมาอีกรอบเท่านั้นเอง ตั้งหลายปีแล้วที่ไม่ได้นอนด้วยกันพอมานอนด้วยกันอีกทีก็ดันรู้สึกดีไปซะอย่างนั้น”นะ”
“ปฏิเสธได้ที่ไหนล่ะ...”คนตัวเล็กบ่นอุบอิบ ฮันกยองยิ้มกว้างอย่างถูกใจและก็ยอมปล่อยฮยอกแจออก ร่างเล็กรีบเดินหนีออกไป กลัวว่าพี่ชายจะเห็นใบหน้าที่แดงจัดของตัวเอง ฮันกยองมองตามไป แต่พอกลับมาจมอยู่กับตัวเองอีกครั้งก็ได้แต่ทำหน้านิ่ง
ได้ยินเสียงเปิดประตูร่างผอมบางที่ซุกตัวอยู่กับหมอนข้างก็รีบนอนนิ่งทำเป็นหลับ ไม่กล้าขยับตัว ฮยอกแจหลับตาปี๋ ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้แต่ก็ไม่กล้าลืมตาขึ้นมอง ฮันกยองมองร่างเล็ก ๆ ที่ขดตัวเป็นลูกไก่ด้วยใบหน้าเอ็นดู นิ้วเรียวปัดผมยาว ๆ สีส้มอมแดงออกจากตา ก่อนที่จะล้มตัวนอนตามลงไปข้าง ๆ เตียงของฮยอกแจเองก็เป็นเตียงสำหรับนอนคนเดียวตั้งแต่แรก พื้นที่ถึงได้ไม่เอื้ออำนวย
“แคบ”ลูกไก่พันผ้าห่มลืมตาขึ้นมาบ่น สองคนนอนนี่ก็จะเต็มเตียงอยู่แล้ว จะว่าไปก็อิจฉาพี่ฮันกยอง ฮยอกแจยามไม่ใส่ที่เสริมส้นนะต่างจากพี่ชายตั้งสิบกว่าเซ็นต์ ฮันกยองไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่หาทางออกโดยการเอื้อมมือไปดึงลูกไก่เข้ามาแนบอก กลิ่นหอม ๆ ของแป้งเด็กโชยเข้าจมูก ร่างสูงจรดจมูกเข้ากับกลุ่มผมนุ่มสลวยอย่างไม่ตั้งใจ ฮยอกแจก็ไม่ได้อิดออด เพียงแต่กอดฮันกยองซะเต็มแขน
“พออาบน้ำอาบท่าแล้วหอมจะตาย”คุณพี่ชายตัวดีบอก ฮยอกแจทุบหลังฮันกยองเบา ๆ เรียกเสียงโวยวายได้นิดหน่อย”มาทำเป็นขี้เกียจอาบตลอด วันหลังถ้าเราไม่ยอมอาบน้ำพี่จะเข้าไปอาบให้”
“ไม่ต้องเลย ฮยอกแจไม่ใช่เด็กแล้วนะ”เสียงสั่งจากคนไม่ชอบอาบน้ำ ฮันกยองหัวเราะเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี จิตใต้สำนึกสั่งการให้กระชับอ้อมกอดแล้วก้มลงสูดกลิ่นหอมจากตัวนุ่มนิ่มของร่างบางในอ้อมกอดอีกครั้ง”หอมไรมากมาย นอนไปไป๊”
“ก็ฮยอกแจตัวหอมนี่นา”ร่างสูงตอบ พยายามข่มตาให้ตัวเองนอนตามคำสั่งฮยอกแจ แต่ไม่รู้ทำไม...ในสมองกลับวุ่นวายไปหมด บอกไม่ถูกว่าต้องการอะไร...มีทั้งด้านดีและด้านร้ายตีกันไปมา อยากสัมผัสน้องชายของตัวเองให้มากกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้”แล้วหายปวดหัวรึยัง แล้วทำไมทั้งวันไม่พูดกับพี่?”
ถามคำถามเพื่อหวังว่าจะเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองไปได้ ร่างในอ้อมกอดดิ้นยุกยิกแล้วตอบเสียงเบา
“ก็เมื่อเช้าผมละเมอไปทับพี่...”
“เขิน? เลิกเขินได้แล้ว คืนนี้ก็นอนกอดกันแล้ว”
“พี่ชาย!!”ฮยอกแจร้องเสียงดัง ซุกหน้าลงกับแผ่นอกของฮันกยองอย่างเขิน ๆ กลิ่นหอม ๆ แบบผู้ชายทำให้ร่างบางหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม ร่างบางรีบตัดบทโดยการบอกราตรีสวัสดิ์แล้วรีบข่มตาลงนอน ทิ้งให้ฮันกยองนอนลืมตาอยู่กับความเงียบ รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก
“ถ้าฉันจากไปนายจะทำยังไงเหรอ...”
“ไม่ตามไปหรอก ตามไปให้ปวดหัว”
“ถามเอาจริงเอาจังนะทงเฮ บอกหน่อยสิ ๆ”
“ยุนอา เธอถามอะไรไม่เป็นมงคลเล๊ย”
ภาพของใครบางคนที่เดินมาบอกคำพูดไม่กี่คำให้เขารับรู้ สีหน้าของคน ๆ นั้นดูลำบากใจยิ่งนัก ทงเฮเห็นเพียงแค่คน ๆ นั้นขยับปาก และแล้วความเจ็บปวดก็พุ่งพรวดเข้ามา ระดมเข้าใส่จนปวดร้าวไปทั่วร่าง ทงเฮรู้สึกเหมือนกับจะหายใจไม่ออก
นัยน์ตาสดใสที่คุ้นเคยแปรเปลี่ยนเป็นหลุมสีดำกว้างใหญ่ แรงดึงดูดจากมันทำให้ทงเฮเซถลาพัดผ่านลงไป...เขากำลังร่วงหล่นผ่านความว่างเปล่าที่ไร้ที่สิ้นสุด ความเจ็บปวดและหวาดกลัวประดังเข้ามาในสมอง เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ ภาพของใครบางคนที่ตอนนี้กลายเป็นภาพที่ตั้งอยู่หน้างานศพ เสียงกระจกแตก กับ..เลือด
“ยุนอา..รู้มั้ยว่าฉันชอบตาของเธอมาก ๆ”
“ตาของฉันมันสวยอยู่แล้ว ฉันรู้น่าทงเฮ”
“ถึงเธอจะไปไหนฉันก็คงตามไปควักลูกตาเธอมาเก็บไว้นั่นแหล่ะ ไม่ให้เธอไปไหนหรอก”
สายฝนที่โปรยปรายกับเสียงกรีดร้อง..เสียงที่เขารู้ว่าเป็นของตัวเอง ทุกอย่างแตกร้าวเหมือนเป็นของไร้ค่า สิ่งที่เขารู้สึกคือตัวของเขากำลังร่วงหล่นลงไป...รอจุดหมายที่จะนำไปสู่ความตาย
ร่างบางลืมตาโพลง หยาดเหงื่อซึมตามไรผม ภาพของห้องคิบอมที่แสดงให้เห็นบอกว่าเขายังนอนอยู่ที่เดิมไม่ได้ร่วงไปไหน ความรู้สึกเหมือนถูกอะไรทุบเข้าที่ศีรษะยังตามมาไม่หยุดหย่อน ทงเฮขมวดคิ้วกับสิ่งที่เขาเพิ่งฝันไปเมื่อครู่
ยุนอา...ใครกันแน่
เศษเสี้ยวของความทรงจำที่หายไปหรือเปล่า หรือจะเป็นช่องว่างหนึ่งปีที่เขาลืมเลือนมันไป...
แล้วเพราะอะไร ?
เสียงขยับตัวยุกยิกจากข้าง ๆ ทำให้ทงเฮต้องหันไปมองอย่างแปลกใจ คิบอมลืมตาขึ้นมองคนละเมอด้วยใบหน้าหงุดหงิดที่ถูกรบกวน ทงเฮรีบยิ้มกลับไปเป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไร...แต่นัยน์ตาสีเข้มกลับไปหยุดนิ่งอยู่ที่ใบหน้าอีกฝ่าย
..ทำไม..
ทำไมแววตาที่เขาเห็นดูคุ้นเคยเหลือเกิน
ขอบตาร้อนผ่าว ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาโดยอัตโนมัติ หยาดน้ำตาร่วงไหลผ่านผิวหน้าไปช้า ๆ เรียกให้สายตาของคนมองหยุดนิ่ง ร่างสูงรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับจะไม่สบายใจตามไปด้วย อยากยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ทงเฮ ร่างบางขยับเข้ามาใกล้ พินิจมองใบหน้าหล่อเหลาของคิบอมผ่านแสงสลัวที่มาจากนอกหน้าต่าง มือเล็กเอื้อมขึ้นลูบแก้มป่อง ๆ นั่น ไล่ไปถึงสันจมูก จนหยุดลงที่ดวงตา
“
ยุนอา”
เสียงพึมพำสั่นครือของทงเฮทำให้ร่างสูงหยุดชะงัก คิบอมขมวดคิ้วมองคนที่ดูเหมือนจะหลุดไปสู่อีกมิติหนึ่ง ชื่อนั่นเป็นใครเขาไม่รู้ แถมยังหงุดหงิดด้วยซ้ำที่ได้ยิน ร่างสูงสะบัดหน้าหนีมือของทงเฮอย่างรำคาญ หันหลังให้ทำท่าจะนอน แต่สิ่งที่ตามมาทำให้เขาตกใจอีกครั้ง
“อย่าไปไหนนะ...”ทงเฮเอ่ยเสียงสั่น มือก็คว้าหมับเข้าที่เสื้อของร่างสูง จากแค่จับกลายเป็นกอด ทงเฮหลับตาลงและเบียดตัวเข้ากับร่างสูงอย่างพอใจ ความอบอุ่นที่ได้รับลบบรรยากาศหนาวเย็นที่รุมเร้าทั้งในหัวและรอบตัวให้หายไปช้า ๆ คิบอมหลับตาลง ไม่มีปัญญาไปแกะเด็กนอนฝันร้ายออกไปได้ ร่างสูงหันกลับมาหาทงเฮอีกครั้งแล้วดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด
“เด็กชัด ๆ ...มีแต่เด็กเท่านั้นแหล่ะที่นอนฝันร้าย”
ทงเฮไม่ได้ตอบอะไร และคิบอมก็ไม่คิดจะเอาคำตอบเช่นกัน ใบหน้าของคิบอมมีรอยยิ้มระบายไว้โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้ตัว เขาไม่ได้รู้หรอกว่าทงเฮมีอดีตอย่างไร แต่ตอนนี้...เขากำลังรู้สึกดีเหลือเกิน
จนขอบฟ้าเริ่มทอแสงสีแดงอ่อน ๆ แล้วคิบอมถึงได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราเสียงโทรศัพท์ของทงเฮดังปลุกเสียจนน่ารำคาญ แต่เด็กนอนละเมอกลับนอนนิ่ง ไม่ยอมตื่น พอเขาจะขยับไปหยิบมให้ดันกอดซะขยับตัวไปไหนไม่ได้ บอมเลยยื่นแขนยาว ๆ ไปคว้ามาไว้ในมือแล้วกดรับแทนเสียอย่างนั้น นิสัยแบบนี้ฮีชอลเห็นคนตกใจร้องไปแปดบ้าน
แต่ก็อย่างว่า นี่คือคิบอม เจ้าตัวกดรับแล้วเงียบเสียอย่างนั้น
(“พี่ทงเฮ”)
คิบอมขมวดคิ้วทันที เสียงนี่ถ้าเอาความคุ้นก็ของคนที่พี่ฮีชอลพาไปเมาเมื่อวาน แล้วโทรมาหาทงเฮอะไรเอาป่านนี้
“ทงเฮหลับอยู่”
อีกฝ่ายทำเสียงประหลาดใจนิด ๆ ที่เขามารับแทน ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ชื่อของกันและกันทั้ง ๆ ที่นึกเสียงนึกหน้าออก ทงเฮลืมตาขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคิบอมพูดอยู่ข้างหู เจ้าตัวงอแงนิดหน่อยแล้วคว้าโทรศัพท์มาพูดแทนเสียเลย
“ซีวอนนนนน”
(“ผมโทรมาปลุกใช่มั้ย?”)
“อื้อออ..คิบอมมม...ลุก มันหนัก”ทงเฮยังงอแงเป็นเด็กเล็ก ๆ เหมือนเดิม ต่างไปกับซีวอนที่เริ่มคิดประหลาด รู้สึกไม่ได้เมื่อเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันอย่างไรก็ไม่รู้ คิบอมไม่ยอมลุกตามคำขอเพียงแต่รวบตัวคนขี้เซามานอนกอดเหมือนเดิม หลับตาพริ้มเตรียมนอนต่อเรียบร้อย ถ้าใครได้มาเห็นคิมคิบอมเวลานี้คงตกใจ”ปวดหัวมั้ย..เมาค้างนี่”
ทงเฮดำเนินบทสนทนาไปได้อีกนิดหน่อยและกดวางสาย อยากนอนต่อแต่เกรงจะไปโรงเรียนไม่ทัน พอหันไปมองหน้าคนที่ทำให้ตัวเองลุกไปไหนไม่ได้ก็ต้องขัดใจ เมื่อคิบอมนอนหลับไปอีกรอบแล้ว
“ถ้าไม่ตื่นก็เอามือออกสิ”เสียงเล็กบ่นหงุงหงิง พยายามแกะมือของคิบอมที่รัดเสียเป็นปลาหมึกกลายพันธุ์ อันที่จริงคิบอมก็ไม่ได้หลับไปจริง ๆ เพียงแต่แกล้งนอนหลับตาดูปฏิกิริยาคนตัวเล็กเท่านั้น ทงเฮถอนหายใจอย่างอ่อนใจ มองไปทั่วใบหน้าคิบอมอีกครั้ง แต่สายตาเจ้ากรรมกลับไปหยุดที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย ร่างบางอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อนึกถึงสัมผัสหวาน ๆ ที่เคยได้รับ“ตื่นได้แล้ว...”
เอามือไปดึงปากคิบอมเล่น อีกมือก็ดึงแก้มย้วย ๆ ให้ยืดออก คิบอมก็คงทนไม่ได้เลยลืมตาขึ้นมามองหน้าทงเฮเสียอย่างนั้น ทงเฮยืดแก้มอีกทีแล้วดิ้น ๆ เป็นเชิงบอกว่าอยากลุกแล้ว คิบอมยอมปล่อยมือให้ตามใจคนอยากตื่นไปเรียน ร่างบางลุกขึ้นแล้วเดินหยิบผ้าเช็ดตัวหายเข้าห้องน้ำไป คิบอมมองตามไปและหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเอง หลับต่อเหมือนเดิม
นานแล้ว...ที่เขารักทงเฮ รักมาตลอด ตั้งแต่เจอหน้ากันจนถึงปัจจุบัน ชเวซีวอนยังรักอีทงเฮเสมอ
ระยะเวลายาวนานทั้งหมดเจ็ดปีที่อยู่ด้วยกัน เขาเป็นส่วนร่วมในเหตุการณ์ทุกอย่างของทงเฮ ทั้งเหตุการณ์ที่มีความสุข โศกเศร้า เสียใจ ได้ร่วมหัวเราะไปกับพี่ชายหน้าหวานคนนั้น ได้เป็นฝ่ายปลอบโยนในยามที่ทงเฮมีน้ำตา...และได้เป็นฝ่ายต้องเสียน้ำตาเมื่อทงเฮมีคนรัก
จนถึงตอนนี้ ใครคนนั้นทงเฮรักมากจากไปแล้ว เคยคิดขึ้นมา เป็นแค่ความคิดลม ๆ แล้ง ๆ ว่าเขาจะมีความหวัง แต่ก่อนที่จะได้มีความหวังจริง ๆ ทงเฮก็โดนจับย้ายไปอยู่อีกโรงเรียน คนละฟากของเมือง อยู่โซลเหมือนกัน..แต่เขากลับได้เจอพี่ชายแสนดีคนนี้น้อยลง ๆ ...รอยยิ้มที่สดใสของทงเฮกลับมาอีกครั้ง แต่เขาไม่ใช่ส่วนหนึ่งที่ทำให้มันเกิดขึ้นอีกต่อไป
เท่าที่เขามอง...เขากำลังจะเสียทงเฮอีกครั้ง
ไม่สิ ไม่ได้เสีย แต่นางฟ้าองค์นั้นไม่เคยมองมายังเขาเลยต่างหาก
“ทำหน้าเหมือนพ่อตาย”เสียงกระเซ้าจากเพื่อนทำให้ซีวอนต้องหลุดออกจากภวังค์อย่างช่วยไม่ได้ ร่างสูงเงื้อเท้าทำท่าจะถีบคนปากหมา แต่คุณชายปาร์คยูชอนก็พลิ้วหลบเสียสวยจนเหมือนพระเอกหนังบู๊”ดูแล้วซึมเศร้าแทนว่ะ โดนสาวหักอกรึไงมึง หรือคิดถึงพี่ทงเฮคนสวย”
“ปากหมา”ซีวอนบริภาษให้สั้น ๆ ตามประสาคนสุภาพ ยูชอนหัวเราะก๊ากแล้วเขยิบเก้าอี้เข้ามาใกล้ นัยน์ตาของคุณชายสมองไก่เป็นประกายระยิบระยับอย่างบอกได้เลยว่าจะชวนไปทำอะไรดี ๆ ตามประสาเจ้าตัวอีกแน่นอน
“ถ้ามึงโศก ก็ต้องหาอะไรดับโศก”นโยบายดับทุกข์ของปาร์คยูชอนถูกร่ายขึ้นมานำเสนอให้ซีวอน”ไปแดกเหล้ากัน”
“ปาร์คยูชอน!!!!”
พอจบการอภิปรายเสนอนโยบายดับทุกข์ด้วยสิ่งมึนเมาของคุณชายปาร์คจบลงไม่ถึงวินาที เสียงแหลมปรี๊ดของเพื่อนร่วมห้องของชเวซีวอน แต่ดันเป็นหวานใจของปาร์คยูชอนดังขึ้นกระแทกหูทันที ซีวอนยิ้มนิด ๆ เป็นเชิงสมน้ำหน้าคนกำลังจะโดนเมียปราบ คิมจุนซูยืนทำตาเขียวอยู่ข้างหลัง ตระหง่านดังผีเสื้อสมุทร
“ก่อนจะชวนคนดี ๆ เค้าไปไหนใช้สมองห้อย ๆ ของนายคิดซะมั่งสิ!!!”จุนซูก็เริ่มเปิดบทเทศน์เช่นกัน ยูชอนทำหน้าเบ้”รู้ว่าไอ้ที่ห้อยน่ะมันปากนาย แต่สมองนายมันก็อันเท่าปากนั่นแหล่ะ!!!”
“โห...เจ็บ”ยูชอนทำหน้าเจ็บได้สมจริง ซีวอนรู้ว่าคนด้าน ๆ อย่างยูชอนก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก แบบนี้จุนซูยิ่งควันออกเป็นรถจักรไอน้ำ”ก็เห็นซีวอนมันเศร้าอ่ะที่รัก”
“มีหน้าผากไว้ทำไม ทำไมไม่เอาใส่สมอง มีไว้ตีแบดเหรอ!!”ลามไปถึงหน้าผากเถิก ๆ อย่างช่วยไม่ได้ ซีวอนถอนหายใจกับบทตีกันด้วยความรักของยูซูสะท้านโลก”เพิ่งจะสิบหกจะกินเหล้า สารเลววว”
“นาน ๆ ทีไงที่รักครับ...ก็ดูหน้ามันดิ่ ยังกับพ่อเสีย”
“เดี๋ยวได้เป็นเพื่อนเสียแทน”ซีวอนตอบกลับไป มันลามถึงพ่ออีกแล้ว ยูชอนทำหน้าหงอยเป็นหมาอดข้าว จุนซูทำหน้าบูดแล้วกระทืบเท้าปัง ๆ กลับไปนั่งที่ ยูชอนถอนหายใจเฮือกแล้วเข้ามากระซิบกับซีวอนอีกที
“เอาเหอะมึง ที่นี่เลย เด็ด”ยูชอนกระซิบบอกชื่อร้านที่ชเวซีวอนต้องหยุดคิด ร้านนั่น....ร้านที่ฮีชอลทำงานอยู่ ?”เอามั้ยมึง กูมีเส้น เจ้าของนั่น พี่เขยแฟนกูเอง”
“คิมจุนซูน้องคิมแจจุงล่ะสิ”คำทายที่ทำให้ยูชอนทำหน้าสนใจ มันรู้ได้ไง”แฟนมึงจะยอมเหรอ”
“เค้ารักกู เค้ายอมให้กูเสมอ”ยูชอนยืดอกทำหน้าภูมิใจ”สรุปมึงจะไปไม่ไป”
ซีวอนพยักหน้ารับช้า ๆ ..ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากไปอีก จากที่คุย ๆ กับฮีชอลคืนนั้นก็รู้ว่าคน ๆ นั้นไปทำงานทุก ๆ วันพุธกับวันศุกร์ ยูชอนตบตักดังป้าบเป็นเชิงถูกใจ
“มึงไปเมาให้ตายไปเลย ลืม ๆ เรื่องที่มึงหนักใจให้หมด มึงจะคว้าใครมากกซักสองสามคนก็ได้ กูเคยไป ขาว ๆ อวบ ๆ ทั้งนั้น”คนเคยไปบรรยายสรรพคุณ ซีวอนส่งเสียงประมาณว่า’งั้นเหรอ?’
“ไม่ใช่เคยลอง?”
“บ้าเหรอ กูจะนอกใจสุดที่รักกูได้ไง วันศุกร์อย่าเพิ่งหนีไปไหนนะมึง”
ซีวอนพยักหน้ารับพลางมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง เขาตอบตกลงเพราะหวังอะไรกันนะ ?
=========================================
Merry Christmas , and Happy New year *
อยากได้ของขวัญปีใหม่เป็นคำวิจารณ์อ่ะ ซักคนนะ *w*
ช้าไปหน่อยเพราะมิดเทอมสุดที่รัก
รู้สึกว่าตอนก่อนเม้นน้อย ..ขออนุญาตน้อยใจ
เรื่องนี้มี NC เน้อ แต่จะส่งเมล์ให้อ่านแทน ใครเม้นบ่อย ๆ ไม่ต้องมาขออะไรหรอก แต่จะส่งให้เลย *w*
การแต่งบทหยาบคายช่างสบายใจจริง ๆ -.,-
คล่องมือม๊ากกก โดยเฉพาะตอนด่ากันด้วยศัพท์บรรพบุรุษ
ชอบชายไก่เรื่องนี้จัง ดูไร้สติดี ไม่น่าเป็นเพื่อนกับวอนเลย - -
และแล้วอดีตหมวยก็ถูกเปิดเผยยย(รึเปล่า ~~)
ช๊อบชอบ เรื่องราวที่อุปสรรคเยอะ ๆ (หัวเราะอย่างสะใจ)
{ เรื่องผู้ชายทั้งสิบสามของพวกเรา }
ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในหมู่เอลฟ์กันแล้วกับเรื่องข่าวการฟ้องของเฮียฮันขาของเรา คิดว่าส่วนใหญ่คงจะรู้กันหมดแล้วกับเรื่องนี้ แต่ที่เขียนออกมานี่ ... ก็แค่อยากจะย้ำอะไรบางอย่างที่พวกเราจำเป็นต้องมีในระยะเวลาที่ท้อแท้แบบนี้
คำว่าเชื่อใจ ... สะกดอีกสิบสามล้านครั้งก็ทดแทนไม่ได้
ใครกันนะพูดว่าซูเปอร์จูเนียร์จะวงแตก ?
รอเถอะ รอให้พี่ ๆ ออกมาบอกเองว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป มีสื่อจับตามองแบบนี้คิดเหรอว่าพวกเค้าจะออกมาประกาศกันว่าตอนนี้ทำอะไร มีเอสเอ็มคอยจับตามองอยู่แบบนี้น่ะ ?
รู้ว่าการรอคอยมันทรมาน แต่ตอนนี้ การรอคอยคือสิ่งเดียวที่พวกเราทำได้
ข่าววงในทั้งหลาย ขอได้มั้ย พวกคุณติดกล้องตามตัวเค้าเหรอ เรื่องบางเรื่องถึงคุณจะพูดว่ารู้ดีกว่าไม่รู้ ...แต่อย่าสร้างกระแส
ระหว่างคนที่เรารักกับใครบางคนที่เราไม่รู้จัก เชื่ออันไหน ?
รอ ..และเชื่อใจ ทำได้แค่นั้นจริง ๆ
ตอนนี้ไรท์เตอร์อยู่ในโหมดโทษตัวเองอยู่จ้ะ ชอบหวั่นไหวไปมากมายเพราะคำพูดที่ว่าเหลืออีกปีเดียวเอสเจจะจบลง ได้แต่เสียดายว่าทำไมนะ ทำไมไม่รักก่อนหน้านี้ซักสองสามปี รู้สึกแย่ที่สองปีที่รักมาทำอะไรไม่ได้มากมายเลย
คำว่าอีกกี่ปีจะเหลือน่ะ ช่างมันเถอะนะ
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ไปตามครั้งไหนทำตัวดี ๆ ใช้เวลาร่วมกันกับทุกคนให้ดีที่สุด มีคอนอีกครั้งก็ร้องอังกอร์ออกมาดัง ๆ ให้ช่วงเวลาพวกนี้ที่เราเคยใช้ร่วมกันเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจที่จะทำ ... ในฐานะเอลฟ์
เพราะทุกอย่างมีเริ่มก็ต้องมีจบ แต่อย่าไปตีโพยตีพายก่อนถึงวันนั้น ... ทำตอนนี้ให้ดีก็พอแล้ว
♥ Super Junior
♥ E.L.F.
ป.ล. เค้าเล่น Facebook แหล่ะ ใครเล่นบ้าง แวะไปทักทายกันได้นะ*w*
| ||||
| ||||
Name : me me me~ [ IP : 124.121.243.34 ] |
| ||||
| ||||
Name : lee.dongmoz [ IP : 118.172.102.202 ] |
| ||||
| ||||
Name : wonderful [ IP : 124.121.13.76 ] |
| ||||
| ||||
Name : ~sand~< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : FayFai [ IP : 125.26.157.78 ] |
| ||||
| ||||
Name : เอมิลี่ [ IP : 58.11.73.57 ] |
| ||||
| ||||
Name : นักอ่านในเงามืด [ IP : 113.53.131.196 ] |
| ||||
| ||||
Name : @_minto_@< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : me me me me [ IP : 124.120.90.217 ] |
| ||||
| ||||
Name : Clier [ IP : 124.121.128.38 ] |
| ||||
| ||||
Name : TungkhaoW< My.iD > [ IP : 124.122.239.106 ] |
| ||||
| ||||
Name : เป็ดตายาว< My.iD > |
ความคิดเห็น